
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

AmaSintra
AmaWaterways


ท่าเรือที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่าง "โอปอร์ตู" (Oporto) คือเมืองที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส รองจากลิสบอน เมืองนี้มักถูกเรียกสั้นๆ ว่า "ปอร์โต" ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงองุ่นส่งตรงสำหรับผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือโอปอร์ตูตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดรู และมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่อดีต เมื่อชาวโรมันสร้างป้อมปราการที่นี่ เพื่อควบคุมเส้นทางการค้า ด้วยการที่เมืองนี้คือจุดแวะสำคัญสำหรับเหล่าผู้จาริกแสวงบุญในอดีต ทำให้โอปอร์ตูร่ำรวยจากการค้าและการค้นพบทางทะเลในศตวรรษที่ 15 และ 16 การค้าขายไวน์พอร์ตกับอังกฤษในภายหลังยังทำให้เมืองนี้เกิดการเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสะพานที่สวยงามข้ามแม่น้ำโดรู เสน่ห์ของย่านริมน้ำที่มีชีวิตชีวา และโรงไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการค้นหาความงามของโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกมุมเมือง

ที่ตั้งที่งดงามของท่าเรือ Entre-os-Rios ในประเทศโปรตุเกสถือเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาประสบการณ์เดินทางที่น่าประทับใจ ท่าเรือแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณที่สองแม่น้ำที่สำคัญ เช่น Douro และ Tâmega ไหลมาบรรจบกัน เป็นสถานที่ที่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ เมื่อคุณมาถึง Entre-os-Rios คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบโปรตุเกสที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และการต้อนรับของคนท้องถิ่น นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น บริเวณการผลิตไวน์ดั้งเดิมในหุบเขา Douro ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องไวน์แดงที่เต็มไปด้วยรสชาติและคุณภาพ อีกทั้งยังมีโอกาสได้รับประทานอาหารท้องถิ่นที่ปรุงอย่างพิถีพิถันในร้านอาหารที่มีชื่อเสียง การเดินทางไปยัง Entre-os-Rios นอกจากจะให้คุณได้พักผ่อนในบรรยากาศที่งดงาม ยังเป็นการสร้างความทรงจำที่มีค่าและช่วยเติมเต็มแรงบันดาลใจในการค้นหาความงดงามของโลกใบนี้ อย่ารอช้า! เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเข้าถึงประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่ใดในโปรตุเกส.

ท่าเรือเรกูอาร์ (Regua) ในประเทศโปรตุเกสเป็นจุดหมายปลายทางที่มอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความงดงามและความอัศจรรย์ของธรรมชาติ ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโดโร (Douro) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก บรรยากาศที่เงียบสงบและวิวทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจของพื้นที่ที่มีไร่องุ่นและภูเขา ทำให้เรกูอาร์เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเกิดแรงบันดาลใจ นอกจากความงามของธรรมชาติแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลาย เช่น การชิมไวน์ท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้ พร้อมได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ซึ่งมีมาตั้งแต่อดีต อีกทั้งยังมีโอกาสเดินชมหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่สวยงามและมีเสน่ห์ หากคุณมีความสนใจในศิลปะ สามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานที่จัดแสดงศิลปะและของประดับตกแต่งที่สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของภูมิภาคนี้ได้ พูดได้ว่าเรกูอาร์ไม่ใช่เพียงแค่ท่าเรือที่จอดเรือสำราญ แต่มันเป็นประตูสู่การค้นพบความงดงามและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลในโปรตุเกส เชิญชวนคุณมาสัมผัสการเดินทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่นี่ได้เลย!

พินญา (Pinhão) คือท่าเรืออันโดดเด่นในประเทศโปรตุเกสที่ตั้งอยู่ในแคว้นโดรู (Douro Valley) ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ โดยเฉพาะไวน์โพร์ต (Port Wine) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากทั่วทุกมุมโลก พินญาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามที่ล้อมรอบด้วยเนินเขาที่ยกตัวสูงชัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนองุ่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เมื่อคุณมาถึงพินญา คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยบรรยากาศสบายๆ ของหมู่บ้านที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความก้าวหน้าในด้านการผลิตไวน์ คุณสามารถล่องเรือไปตามแม่น้ำโดรูเพื่อชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และสัมผัสกับประสบการณ์การชิมไวน์ที่มีคุณภาพในไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ พินญายังเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญในการเดินทางไปยังเมืองทางประวัติศาสตร์อื่นๆ เช่น ริอู (Rio) ที่เต็มไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิค โดยเฉพาะที่ปราสาท เมืองเล็กๆ นี้มีเสน่ห์ที่ทำให้คุณต้องหลงรักและอยากกลับมาเยือนอีกครั้ง เราเชิญชวนให้คุณมาเติมเต็มความฝันในการสำรวจอันหลากหลายของโปรตุเกสที่พินญา ที่ซึ่งธรรมชาติ, วัฒนธรรม, และประวัติศาสตร์หลอมรวมกันอย่างลงตัว

เบก้า เดเทอร์รอน (Vega de Terron) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์และความงดงาม ตั้งอยู่ในประเทศโปรตุเกส ที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงามเสมือนภาพวาดที่มีชีวิต ท่าเรือนี้เป็นจุดหมายที่สร้างความประทับใจให้กับนักเดินทางที่มาพักผ่อนบนเรือสำราญ ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและการต้อนรับที่เป็นมิตร ในขณะที่คุณแวะมาที่นี่ อย่าพลาดที่จะสำรวจหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมโปรตุเกสที่แท้จริง อาหารท้องถิ่นที่สดใหม่และอร่อยไม่ควรพลาดที่จะลิ้มรส โดยเฉพาะปลาเค็มและไวน์ยอดนิยมที่จะมอบประสบการณ์รสชาติที่ยากจะลืม นอกจากนี้ เบก้า เดเทอร์รอน ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเดินทางไปยังเมืองเก่าอย่างโคอิมบรา (Coimbra) หรือไลเซบัว (Lisbon) ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปกรรมที่ล้ำค่า สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ต่างมีเสน่ห์ที่ดึงดูดให้คุณหลงรัก ให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยประสบการณ์อันแสนพิเศษที่เบก้า เดเทอร์รอน ที่ซึ่งความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมโปรตุเกสผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้นี่คือจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางที่ต้องการค้นหาความสงบและแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการเดินทาง

บาร์คา ดัลวา (Barca d'Alva) เป็นท่าเรือเล็กๆ แต่มีเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ในใจกลางของภูมิภาคดูโร (Douro) ประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำดูโรและไร่องุ่นที่ทอดยาวอยู่สองข้างทาง เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบ พร้อมกับโอกาสในการสำรวจหมู่บ้านที่มีเสน่ห์และอบอุ่น เมื่อออกเดินทางจากบาร์คา ดัลวา คุณจะไม่มีทางพลาดที่จะเยี่ยมชมไร่องุ่นและโรงกลั่นไวน์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งผลิตไวน์พอร์ตที่มีคุณภาพเยี่ยม พร้อมซาบซึ้งกับการชิมไวน์ที่มีเอกลักษณ์ ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ในช่วงที่คุณเดินชมวิวที่เต็มไปด้วยความงดงามนี้ คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมโปรตุเกสที่ลึกซึ้งพร้อมกับการต้อนรับอันอบอุ่นจากประชาชนท้องถิ่น นอกจากนี้ คุณยังสามารถสำรวจที่เที่ยวน่าสนใจอื่นๆ เช่น ปราสาทโบราณที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา หรือการล่องเรือในแม่น้ำดูโร เพื่อลดโลกร้อนและเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์อันตระการตา ทั้งหมดนี้คือประสบการณ์สุดหรูที่คุณจะไม่มีวันลืมแน่นอน

พินญา (Pinhão) คือท่าเรืออันโดดเด่นในประเทศโปรตุเกสที่ตั้งอยู่ในแคว้นโดรู (Douro Valley) ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ โดยเฉพาะไวน์โพร์ต (Port Wine) ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากทั่วทุกมุมโลก พินญาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามที่ล้อมรอบด้วยเนินเขาที่ยกตัวสูงชัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนองุ่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป เมื่อคุณมาถึงพินญา คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยบรรยากาศสบายๆ ของหมู่บ้านที่เรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความก้าวหน้าในด้านการผลิตไวน์ คุณสามารถล่องเรือไปตามแม่น้ำโดรูเพื่อชื่นชมวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และสัมผัสกับประสบการณ์การชิมไวน์ที่มีคุณภาพในไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ พินญายังเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญในการเดินทางไปยังเมืองทางประวัติศาสตร์อื่นๆ เช่น ริอู (Rio) ที่เต็มไปด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิค โดยเฉพาะที่ปราสาท เมืองเล็กๆ นี้มีเสน่ห์ที่ทำให้คุณต้องหลงรักและอยากกลับมาเยือนอีกครั้ง เราเชิญชวนให้คุณมาเติมเต็มความฝันในการสำรวจอันหลากหลายของโปรตุเกสที่พินญา ที่ซึ่งธรรมชาติ, วัฒนธรรม, และประวัติศาสตร์หลอมรวมกันอย่างลงตัว

ท่าเรือเรกูอาร์ (Regua) ในประเทศโปรตุเกสเป็นจุดหมายปลายทางที่มอบประสบการณ์การเดินทางสุดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความงดงามและความอัศจรรย์ของธรรมชาติ ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโดโร (Douro) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก บรรยากาศที่เงียบสงบและวิวทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจของพื้นที่ที่มีไร่องุ่นและภูเขา ทำให้เรกูอาร์เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเกิดแรงบันดาลใจ นอกจากความงามของธรรมชาติแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลาย เช่น การชิมไวน์ท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้ พร้อมได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ซึ่งมีมาตั้งแต่อดีต อีกทั้งยังมีโอกาสเดินชมหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่สวยงามและมีเสน่ห์ หากคุณมีความสนใจในศิลปะ สามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานที่จัดแสดงศิลปะและของประดับตกแต่งที่สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตของภูมิภาคนี้ได้ พูดได้ว่าเรกูอาร์ไม่ใช่เพียงแค่ท่าเรือที่จอดเรือสำราญ แต่มันเป็นประตูสู่การค้นพบความงดงามและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลในโปรตุเกส เชิญชวนคุณมาสัมผัสการเดินทางที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่นี่ได้เลย!

ท่าเรือที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่าง "โอปอร์ตู" (Oporto) คือเมืองที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส รองจากลิสบอน เมืองนี้มักถูกเรียกสั้นๆ ว่า "ปอร์โต" ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงองุ่นส่งตรงสำหรับผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือโอปอร์ตูตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดรู และมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่อดีต เมื่อชาวโรมันสร้างป้อมปราการที่นี่ เพื่อควบคุมเส้นทางการค้า ด้วยการที่เมืองนี้คือจุดแวะสำคัญสำหรับเหล่าผู้จาริกแสวงบุญในอดีต ทำให้โอปอร์ตูร่ำรวยจากการค้าและการค้นพบทางทะเลในศตวรรษที่ 15 และ 16 การค้าขายไวน์พอร์ตกับอังกฤษในภายหลังยังทำให้เมืองนี้เกิดการเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสะพานที่สวยงามข้ามแม่น้ำโดรู เสน่ห์ของย่านริมน้ำที่มีชีวิตชีวา และโรงไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการค้นหาความงามของโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกมุมเมือง

ท่าเรือที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่าง "โอปอร์ตู" (Oporto) คือเมืองที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส รองจากลิสบอน เมืองนี้มักถูกเรียกสั้นๆ ว่า "ปอร์โต" ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงองุ่นส่งตรงสำหรับผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือโอปอร์ตูตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดรู และมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่อดีต เมื่อชาวโรมันสร้างป้อมปราการที่นี่ เพื่อควบคุมเส้นทางการค้า ด้วยการที่เมืองนี้คือจุดแวะสำคัญสำหรับเหล่าผู้จาริกแสวงบุญในอดีต ทำให้โอปอร์ตูร่ำรวยจากการค้าและการค้นพบทางทะเลในศตวรรษที่ 15 และ 16 การค้าขายไวน์พอร์ตกับอังกฤษในภายหลังยังทำให้เมืองนี้เกิดการเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสะพานที่สวยงามข้ามแม่น้ำโดรู เสน่ห์ของย่านริมน้ำที่มีชีวิตชีวา และโรงไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการค้นหาความงามของโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกมุมเมือง








ในสวีตที่หรูหรากว้างขวาง ท่านจะได้สัมผัสความสะดวกสบายที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ห้องส่วนใหญ่มีระเบียงภายนอกซึ่งเปิดโอกาสให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของแม่น้ำ ทำให้การพักผ่อนของท่านเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและความสดชื่น นอกเหนือจากความกว้างขวางแล้ว สวีตนี้ยังถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่พิเศษและหรูหราสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดในชีวิต.




ห้องนอกระเบียง - A เป็นห้องพักสุดหรูที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมให้ความผ่อนคลายและฟื้นฟูพลังชีวิตกับคุณ ห้องพักส่วนใหญ่มีระเบียงภายนอกที่ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของแม่น้ำและบรรยากาศโดยรอบอย่างเต็มที่ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางจะได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิดในขณะพักผ่อนในห้องพักที่มีความสะดวกสบายอย่างแท้จริง



เราขอเชิญคุณมาสัมผัสการพักผ่อนอย่างเต็มที่ในห้องสเตเตอร์รูมที่กว้างขวางและหรูหรา ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ห้องส่วนใหญ่มีระเบียงด้านนอกที่มอบทัศนียภาพอันงดงามของทิวทัศน์ริมแม่น้ำ สัมผัสความสดชื่นที่รอคุณอยู่ในห้องพักที่สร้างขึ้นเพื่อความสะดวกสบายและการพักผ่อนอย่างแท้จริงในระเบียงด้านนอก - B




French Balcony - C เป็นห้องที่กว้างขวางและหรูหรา มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้ท่านได้ผ่อนคลายและฟื้นฟูร่างกาย ห้องส่วนใหญ่มีระเบียงด้านนอกที่เปิดให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของแม่น้ำ การออกแบบที่ใส่ใจในรายละเอียดทำให้ทุกช่วงเวลาที่ท่านใช้ในห้องนี้เต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความสุข







ห้องพัก "หน้าต่างพาโนรามา - D" เป็นพื้นที่ขนาดกว้างขวางที่เต็มไปด้วยความหรูหราและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับความผ่อนคลายและการฟื้นฟูร่างกายอย่างแท้จริง ห้องส่วนใหญ่มีระเบียงภายนอกที่เปิดให้ชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของแม่น้ำ ซึ่งจะทำให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำและเพลิดเพลินกับธรรมชาติรอบตัวในทุกช่วงเวลา

สัมผัสความผ่อนคลายและเติมพลังในห้องพักที่กว้างขวางและหรูหรา พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ห้องพักส่วนใหญ่มีระเบียงภายนอกที่พร้อมเผยให้เห็นทิวทัศน์อันงดงามตามเส้นทางแม่น้ำ ห้องพักชื่อว่า หน้าต่างพานอรามา จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างแท้จริงในบรรยากาศที่นุ่มนวลและเป็นส่วนตัว。