
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Avalon Illumination
อะวาลอน วอโヌเวย์ส



เมืองบราติสลาว่าเป็นเมืองหลวงแห่งสโลวาเกีย ตั้งอยู่ริมน้ำดานูบ ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างออสเตรียและฮังการี เมืองนี้มีภูเขาลิตเติล คาร์พาเทียนและไร่องุ่นล้อมรอบ พร้อมด้วยปราสาทบราติสลาว่าที่ถูกปรับปรุงใหม่ ซึ่งตั้งตระง่านมองเห็นตัวเมืองและพื้นที่โดยรอบปรากฏให้เห็นภาพวิวที่งดงาม รวมถึงเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ บราติสลาว่าเป็นมรดกของความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น หอนาฬิกาเก่า, สะพานยูเอฟโอ, มหาวิหารเซนต์มาร์ติน, ประตูมิχαอิล และโบสถ์สีน้ำเงินเซนต์เอลิซาเบธ เมืองนี้ยังมีสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปกลาง มีชื่อเสียงสำหรับนักเดินและนักปั่นจักรยาน ไม่เพียงแค่ทิวทัศน์อันงดงาม บราติสลาว่ายังขึ้นชื่อเรื่องเบียร์ที่ผลิตในท้องถิ่น มีโรงเบียร์ขนาดเล็กและห้องใต้ดินเบียร์จำนวนมาก รวมถึงอาหารท้องถิ่นที่ผสมผสานอิทธิพลจากวัฒนธรรมยุโรปหลายแห่ง โดยมีอาหารจานเด็ดอย่างเป็ดย่างกับลอคเซ่ ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ร่วมสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบันในบราติสลาว่า ไขว่คว้าความฝันในการเดินทางที่จะทำให้คุณหลงรักในทุกความละเอียดของเมืองนี้.

เวียนนา เมืองหลวงที่สวยงามและใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่เต็มไปด้วยมรดทางดนตรีและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ซึ่งถือเป็นเมืองที่พูดภาษาเยอรมันมากที่สุดในโลกนอกเบอร์ลิน โดยในปี 2001 เวียนนาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก การเดินทางมายังเวียนนา คือการได้สัมผัสสถาปัตยกรรมที่งดงาม ซึ่งมีปราสาทและวังมากมาย รวมถึงมหาวิหารเซนต์สตีเฟนอันมีชื่อเสียง และพระราชวังเชินบรุนน์ นอกจากจะมีงานแสดงดนตรีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่วิธีการเล่นร็อคถึงโอเปร่าที่เวียนนา สเตท โอเปร่า ผู้ที่รักศิลปะไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะประวัติศาสตร์ (KHM) ซึ่งจัดแสดงงานศิลปะทั้งสมัยใหม่และดั้งเดิม ณ สถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวเมืองจากทาวเวอร์ดานูบและชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนในร้านกาแฟและภัตตาคารที่เสิร์ฟอาหารทั้งแบบดั้งเดิมและสากล พร้อมกับไวน์ท้องถิ่นอันยอดเยี่ยมที่จะทำให้การเดินทางในเวียนนาเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจไม่รู้ลืม

ดือร์นสไตน์ (Dürnstein) เมืองเล็กที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรีย ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่มรดกโลกและภูมิภาคไวน์วาคาอู (Wachau) ที่มีชื่อเสียง ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติที่งดงาม ทำให้ดือร์นสไตน์กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวคอไวน์ไม่ควรพลาด บรรดานักชิมสามารถสนุกไปกับการชิมไวน์และเข้าพักในไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงหลากหลายแห่ง นอกจากนี้ การเดินสำรวจเมืองยังเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน เพราะมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามอยู่ทั่วถึง ช่วยให้ท่านได้สัมผัสวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจของหุบเขาดานูบ เด็ก ๆ ก็สามารถสนุกไปกับการเล่นในพื้นที่กลางแจ้ง ซึ่งมีสนามเด็กเล่นและเส้นทางธีมให้สำรวจ ขณะเดียวกัน สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่มีน้ำอุ่นเฉลี่ย 23 องศาเซลเซียส อย่าง Kuenringerbad ก็เป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สำหรับผู้ที่ต้องการมุมมองที่น่าประทับใจ สามารถเลือกขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิวเมืองจากมุมสูง หรือจะเดินขึ้นเขาสำรวจซากปราสาทดือร์นสไตน์ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าค้นหา เมืองนี้คือป้อมปราการในอดีตที่มีความงามจากธรรมชาติรอบตัว รอให้คุณมาเยี่ยมชมและสัมผัสเสน่ห์ของออสเตรียอย่างแท้จริง

เมืองพาสเซา ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนีติดกับชายแดนออสเตรีย เป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย ได้แก่ ดานูบ อินน์ และอิลซ์ มาบรรจบกัน ซึ่งมักเรียกกันว่า "เมืองสามแม่น้ำ" แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในพาสเซาคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และพิพิธภัณฑ์แก้ว ที่นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ในบรรยากาศที่แตกต่าง ย่านเมืองเก่าของพาสเซา เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม เช่น ปราสาทเฟสเต้ โอเบอร์เฮาส์ และมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ที่มีความสวยงามตระการตา สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกสำหรับการเดินสำรวจริมแม่น้ำและซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ พาสเซายังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา โดยมีการแสดงละครและคาบาเรต์ที่เชิญชวนให้ทุกคนได้สัมผัสความสนุกสนานที่โรงละครเก่าของเจ้าชายบิชอป รวมถึงเมนูอาหารท้องถิ่นในร้านอาหารบาวาเรียและออสเตรียที่อบอุ่นเต็มไปด้วยรสชาติที่สืบทอดจากวัฒนธรรมดั้งเดิม อย่าพลาดที่จะมาเยือนเมืองอันสวยงามแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดหมายที่สัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ของศิลปะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่ผสมผสานอย่างลงตัว!

เรเกนสบูร์ก เป็นเมืองเก่าแก่อยู่ในบาวาเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนี ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำดานูบ ที่ซึ่งไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเรเกนและนาอ์บ เมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจากสะพานหินสมัยศตวรรษที่ 12 ที่มี 16 โค้ง ซึ่งข้ามแม่น้ำดานูบเข้าสู่เมืองเก่า ถือเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ในเยอรมนี สถาปัตยกรรมที่เด่นของเรเกนสบูร์กคือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สไตล์โกธิก ซึ่งมีคู่ยอดแหลมสูงชะลูดที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความงดงาม สถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น ประตูโรมันโบราณจากศตวรรษที่ 2 และพระราชวังทูนและทักซิสสมัยศตวรรษที่ 18 จะทำให้คุณดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบทอดมาช้านาน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอุทยานและสวนสาธารณะที่ล้อมรอบ รวมถึงเส้นทางเดินและจักรยานริมน้ำที่มอบความสงบและความสุขให้แก่การเดินทางในเมืองโบราณแห่งนี้ ขอบอกเลยว่าเรเกนสบูร์ก คือจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของเยอรมนีอย่างแท้จริง

ท่าเรือโรธ (Roth) ในประเทศเยอรมนี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมยุโรป ท่าเรือแห่งนี้ตั้งอยู่ในภูมิภาคบาวาเรีย เป็นประตูเชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย จากโรธ คุณสามารถเดินทางสู่เมืองประวัติศาสตร์อย่างนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) ที่มีตลาดคริสต์มาสที่มีชื่อเสียงและปราสาทที่สวยงาม หรือจะไปเยือนเมืองอัลทซต์ (Altdorf) ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่และบรรยากาศที่อบอุ่น การเดินทางที่โรธยังเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับเส้นทางจักรยานที่สวยงามเลียบแม่น้ำและทุ่งนาที่เขียวขจี นอกจากนี้การล่องเรือบนแม่น้ำอัลมาน (Altmühl) จะทำให้คุณได้ชมความงามของธรรมชาติและภูมิทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ส่วนการเดินทางในเมืองก็ง่ายดายโดยใช้บริการรถเช่าหรือจักรยานที่มีให้เช่า สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของโรธและประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในเยอรมนี เพียงแค่ยอดแผนการเดินทางที่หรูหรานี้ จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันที่เป็นจริง ดังนั้น อย่ารอช้า มาร่วมสร้างความทรงจำที่แสนประทับใจกับเราได้ที่โรธ!

บัมแบร์ก (Bamberg) คือเมืองอันงดงามในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่ประกอบด้วยเจ็ดเขา และที่จุดบรรจบของแม่น้ำเรกนิทซ์และไมน์ เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยอาคารที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ที่นี่มักดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมสัญลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างศาลากลาง (Altes Rathaus) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเรกนิทซ์ โดยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามให้ได้ชม อีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจคือบัมแบร์กคาประตู (Bamberg Cathedral) ที่มี 4 หอคอยและการแกะสลักหินอันละเอียดอ่อน เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ หากคุณต้องการสัมผัสวิถีชีวิตของเมือง สามารถแวะไปที่เขตตลาดสวน โดยมีบ้านประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นที่ปลูกและส่งออกผลผลิต เช่น หัวหอม และลูกไลเซอรีซ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง บัมแบร์กยังมีร้านค้าเก๋ๆ เจ้าของท้องถิ่นตั้งอยู่ในบรรยากาศเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ และเมื่อสิ้นสุดวัน อย่าลืมแวะไปสัมผัสเบียร์เยอรมันรสเลิศที่ผับเบียร์ของเมือง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีโรงเบียร์ดั้งเดิมถึง 9 แห่ง ค้นพบมนต์เสน่ห์ของบัมแบร์กและให้ความใฝ่ฝันในการเดินทางมาสัมผัสเมืองอันมีชื่อเสียงนี้!

วือซบวร์ก เมืองอันงดงามในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ สลับซับซ้อนด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่หรูหราและไวน์ฟรังโกเนียนที่เป็นเอกลักษณ์ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวังเรสซิเดนซ์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดดเด่นด้วยบันไดอันวิจิตร ภาพเขียนประดับขนาดใหญ่ และห้องโถงอันโอ่อ่า เมื่อเดินทางมายังวือซบวร์ก ต้องไม่พลาดปราสาทเฟสตุง มาริอ์เบิร์ก ซึ่งตั้งตระหง่านโดดเด่น ให้มุมมองที่งดงามของเมืองและแม่น้ำ นอกจากนี้สะพานเก่าแก่ Alt Mainbrücke ยังเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย สำหรับคนรักไวน์ วือซบวร์กมีโรงกลั่นไวน์มากมายพร้อมทั้งนำเสนอการทัวร์และชิมไวน์ เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำไวน์ในบรรยากาศสบายๆ ที่ยังคงรักษาภูมิทัศน์ดั้งเดิมของอาหารบาวาเรียน เช่น ซุปไวน์ กีรัปฟ์เตอร์ (ชีสทา) และเซาเออร์บราตัน (เนื้อวัวตุ๋นในไวน์) ที่ทานคู่กับไวน์ท้องถิ่น วือซบวร์กเป็นจุดหมายปลายทางที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการเดินทางและสัมผัสวัฒนธรรมอันงดงามของเยอรมนีอย่างแท้จริง

มิลเทนแบร์ก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในบาวาเรีย ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ เมืองนี้เติบโตจากรากฐานในยุคกลางผ่านการปลูกองุ่น การค้าไวน์ การประมง และการเดินเรือ จนกลายเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างสวยงามในปัจจุบัน เมื่อคุณมาที่มิลเทนแบร์ก อย่าพลาดที่จะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เมืองมิลเทนแบร์ก ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารไม้ครึ่งหลังที่เรียกว่า “อัลเต อัมต์สเคลเลอรี” ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านการจัดแสดงวัตถุที่สะท้อนวัฒนธรรมไปจนถึงยุคโรมัน นอกจากนี้ การเยี่ยมชมปราสาทมิลเทนแบร์กซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมโบราณ แต่ยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เบิร์กมิลเทนแบร์ก ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะคลาสสิคและร่วมสมัยในบรรยากาศที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ยอดหอคอยของปราสาทซึ่งสูงถึง 27 เมตร เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการผ่อนคลายและดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์แสนงดงามของหุบเขาไมน์ที่อยู่เบื้องล่าง ช่วงเวลาอันสงบสุขที่นี่จะทำให้คุณรู้สึกหลงใหลในเสน่ห์ของมิลเทนแบร์กอย่างแท้จริง

เมื่อคุณตั้งใจที่จะสำรวจความสวยงามของประเทศเยอรมนี ท่าเรือ Rüdesheim ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าหลงใหล การเดินทางสู่เมืองนี้เป็นการเปิดประตูสู่เสน่ห์ของแคว้นไรน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของหุบเขาไรน์ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นประดับประดาไปด้วยปราสาทโบราณและหมู่บ้านที่น่ารัก Rüdesheim ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและถนนที่มีชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น การชิมไวน์รสเลิศจากไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง คุณสามารถเยือน Drosselgasse ถนนแคบๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร มีเสียงเพลงโฟล์คที่เชิญชวนให้คุณดื่มด่ำไปกับความสุข นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น การนั่งรถสายลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์ไปยังยอดเขานอกจากนี้การสำรวจปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือภูเขา จะทำให้คุณได้ซึมซับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและมนต์เสน่ห์ของท่าเรือ Rüdesheim มันคือสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมนำคุณเข้าสู่การเดินทางที่น่าประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในเส้นทางการสำรวจยุโรปของคุณ.

โคโลญ (Cologne) เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานในเยอรมัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศนี้ มีอายุกว่า 2,000 ปี และถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค เมืองโคโลญเป็นที่รู้จักกันดีจากสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดคือมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ที่ตั้งตระหง่านคู่ระหว่างตึกเก่าในย่านเก่า (Old Town) เมื่อมาเยือนย่านเก่า นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสประสบการณ์เยี่ยมชมศาลากลางเก่า (Old Town Hall) และโบสถ์โรมันเซนต์มาร์ติน (Great St Martin) นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โมเสคดีโอโนซัส (Roman Dionysus mosaic) และบ้านโอเวอร์สโทลเซน (Overstolzenhaus) ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การค้นหาด้วย อีกหนึ่งจุดหมายที่โดดเด่นในโคโลญคือสะพานโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) ที่ซึ่งคู่รักทั้งจากในเมืองและนักท่องเที่ยวต่างนิยมมาทำพิธีผูกสัมพันธ์โดยการติดล็อกที่ราวสะพาน แล้วทิ้งกุญแจลงสู่แม่น้ำไรน์ เพื่อหวังความรักที่ยืนยาวอย่างมั่นคง การแสดงคาบาเร่ต์และวัฒนธรรม LGBTQ+ ที่เปิดเผยของเมืองนี้ ยังเพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับประสบการณ์การเยี่ยมชมโคโลญอีกด้วย มาประสบการณ์ความงดงามแห่งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความรักในโคโลญแล้วคุณจะหลงใหลไม่รู้ลืม!





ขอแนะนำ “ห้องสวีทราชา” ที่มอบประสบการณ์การพักผ่อนสุดหรูในขณะล่องเรือ ห้องนี้มีขนาดกว้างขวางและตกแต่งในสไตล์ทันสมัย พร้อมด้วยหน้าต่างแบบพาโนรามาขนาดใหญ่ที่เปิดออกสู่อ่างระเบียงให้คุณได้สัมผัสวิวทะเลอย่างใกล้ชิด ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง ที่มีที่นอนหรูหราพร้อมผ้าลินินอียิปต์ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีบริการเตรียมเตียงในตอนกลางคืน รวมถึงหมอนนุ่มและแข็งที่มีให้เลือกตามความต้องการ ในห้องยังมีพื้นที่นั่งเล่นสำหรับ 6 ท่าน พร้อมโซฟาที่สะดวกสบาย โต๊ะกาแฟ และโต๊ะทำงาน ที่ได้รับการออกแบบอย่างลงตัว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ได้แก่ ทีวีจอแบนที่มีช่องรายการภาษาอังกฤษและภาพยนตร์มากกว่า 50 เรื่อง, ฟรี Wi-Fi, พอร์ต USB, มินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มครบครัน และน้ำกรองฟรี เพื่อให้การพักผ่อนของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น ห้องน้ำมีเคาน์เตอร์หินอ่อนและอ่างอาบน้ำที่มีประตูกระจก รวมถึงกระจกแต่งหน้าที่มีไฟ และอุปกรณ์ดูแลผิวจาก L'Occitane แต่ละมุมของ “ห้องสวีทราชา” ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้คุณสัมผัสความสะดวกสบายและหรูหราในทุกช่วงเวลาของการเดินทาง


ห้องพักในหมวด "全景套房" มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราและเต็มรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร ห้องพักนี้มีขนาดกว้างขวางพร้อมการออกแบบที่ทันสมัยและมีความหรูหรา โดยมีหน้าต่างพานอรามาที่สามารถเปิดออกได้ ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับวิวที่สวยงามของทะเลหรือภูมิทัศน์รอบข้าง ภายในห้องพักตกแต่งด้วยเตียงที่สะดวกสบายขนาดควีนไซส์หรือเตียงเดี่ยวสองเตียง พร้อมด้วยที่นอนที่มีคุณภาพและผ้าปูที่นอนทำจากฝ้ายอียิปต์ชนิดพิเศษ เพื่อให้การนอนหลับของคุณเป็นไปอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นที่สามารถรองรับได้ถึง 6 คน พร้อมโซฟานุ่มสบายและโต๊ะกาแฟสำหรับการพักผ่อนในยามว่าง ในห้องน้ำคุณจะพบกับเคาน์เตอร์หินอ่อนที่มีกระจกขนาดใหญ่และฝักบัวที่มีประตูเป็นกระจก พร้อมผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก L'Occitane เพื่อให้คุณสัมผัสถึงความหรูหราตลอดการใช้งาน ห้องยังมีอุปกรณ์บริการครบครัน เช่น มีเครื่องเป่าผม โทรศัพท์ตั้งโต๊ะและตู้เซฟในห้องเพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัย สำหรับการเชื่อมต่อ ห้องพักยังมี Wi-Fi ฟรี, ทีวีจอแบนที่มีช่องสัญญาณพูดภาษาอังกฤษมากมาย, และพอร์ต USB สำหรับความสะดวกในการชาร์จอุปกรณ์ของคุณ สถานที่นี้จึงเป็นที่พักที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการพบกับความผ่อนคลายและความหรูหราในขณะล่องเรือ

ขอต้อนรับสู่ห้องพักระดับสูง "อาวาลอน ลักชัวรี่ คาเบน" บนเรือสำราญของเรา ที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราและสะดวกสบาย ห้องพักนี้มีขนาดกว้างขวางพร้อมการตกแต่งที่ทันสมัย ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและมีสไตล์ ด้วยเตียงคอมฟอร์ท คอลเลกชันที่มาพร้อมหน้าที่นอนระดับพรีเมียม ชนิดที่คุณจะได้หลับสบายในช่วงค่ำคืน พร้อมการบริการจัดเตียงทุกคืน ในห้องพักนี้ยังมีผ้าปูที่นอนจากฝ้ายอียิปต์ที่ผสานกับ duvet สไตล์ยุโรป และหมอนนุ่มๆ หลากหลายประเภทเพื่อให้คุณเลือก นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มหลากหลาย ห้องน้ำมีการจัดเตรียมชุดอาบน้ำ L'Occitane และมีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมเพื่อความสะดวกสบายที่สุด พร้อมด้วยโทรทัศน์จอแบนที่รองรับการชมช่องทางภาษาอังกฤษและภาพยนตร์ฟรีมากกว่า 50 เรื่อง อุปกรณ์ภายในห้องพักยังมีการให้บริการ Wi-Fi ฟรี และการออกแบบอย่างมีเสน่ห์ พร้อมตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่มาพร้อมชั้นวางของเพื่อความสะดวกในการจัดเก็บสัมภาระของคุณ การดูแลเชิงพาณิชย์ด้วยบริการโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้โดยตรง รวมถึงการติดตั้งพอร์ต USB ที่จะช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น ห้องพัก "อาวาลอน ลักชัวรี่ คาเบน" คือพิกัดที่เต็มไปด้วยความหรูหรา ตอบโจทย์ทุกการพักผ่อนในทริปที่น่าจดจำนี้.