
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Avalon Imagery II
อะวาลอน วอโヌเวย์ส


โคโลญ (Cologne) เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานในเยอรมัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศนี้ มีอายุกว่า 2,000 ปี และถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค เมืองโคโลญเป็นที่รู้จักกันดีจากสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดคือมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ที่ตั้งตระหง่านคู่ระหว่างตึกเก่าในย่านเก่า (Old Town) เมื่อมาเยือนย่านเก่า นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสประสบการณ์เยี่ยมชมศาลากลางเก่า (Old Town Hall) และโบสถ์โรมันเซนต์มาร์ติน (Great St Martin) นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โมเสคดีโอโนซัส (Roman Dionysus mosaic) และบ้านโอเวอร์สโทลเซน (Overstolzenhaus) ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การค้นหาด้วย อีกหนึ่งจุดหมายที่โดดเด่นในโคโลญคือสะพานโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) ที่ซึ่งคู่รักทั้งจากในเมืองและนักท่องเที่ยวต่างนิยมมาทำพิธีผูกสัมพันธ์โดยการติดล็อกที่ราวสะพาน แล้วทิ้งกุญแจลงสู่แม่น้ำไรน์ เพื่อหวังความรักที่ยืนยาวอย่างมั่นคง การแสดงคาบาเร่ต์และวัฒนธรรม LGBTQ+ ที่เปิดเผยของเมืองนี้ ยังเพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับประสบการณ์การเยี่ยมชมโคโลญอีกด้วย มาประสบการณ์ความงดงามแห่งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความรักในโคโลญแล้วคุณจะหลงใหลไม่รู้ลืม!

โคเคม (Cochem) เป็นเมืองเล็กในประเทศเยอรมนีที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโมเซลล์ ห้อมล้อมไปด้วยภูเขาเขียวขจีและไร่องุ่นที่น่าหลงใหล เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ด้วยท่าเรือที่สะดวกสบายสำหรับเรือสำราญ โคเคมได้กลายเป็นจุดแวะพักที่น่าสนใจในเส้นทางเดินเรือสำราญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเมื่อใบไม้เปลี่ยนสี หนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือปราสาทโคเคม (Reichsburg Cochem) ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา มอบวิวที่งดงามของเมืองและแม่น้ำ ใกล้ ๆ กันยังมีถนนสายไวน์ที่เด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินกับการชิมไวน์ท้องถิ่นได้ ไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาวหรือไวน์โรเซ่ที่ผลิตจากองุ่นแบบพิเศษที่ปลูกในภูมิประเทศที่สวยงามแห่งนี้ นอกจากนี้ แหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารท้องถิ่นอีกมากมายจะทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงการต้อนรับอบอุ่นและมิตรภาพของชาวเยอรมัน เมืองโคเคมจึงไม่เพียงแค่เป็นท่าเรือสำหรับการหยุดพักที่สะดวก แต่อยู่ในใจของนักเดินทางที่ปรารถนาจะเติมเต็มความงดงามและเสน่ห์ในรูปแบบของการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร.

ในเมือง Trier ประเทศเยอรมนี ท่าเรือที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และความงดงามของสถาปัตยกรรมโรมัน นี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโมเซลล์ (Moselle) ซึ่งจะนำคุณไปสู่การผจญภัยที่หลากหลายและน่าจดจำ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจเมืองเก่าแก่ที่สุดในเยอรมนีเท่านั้น แต่ยังเป็นเส้นทางสู่ความงามของธรรมชาติรอบๆ รวมถึงไวน์ชั้นเยี่ยมที่มีชื่อเสียงของภูมิภาคนี้อีกด้วย เมื่อคุณเดินทางถึง Trier นอกจากจะได้สัมผัสกับท่าเรืออันแสนสงบแล้ว คุณยังสามารถสำรวจสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ประตูเมือง Porta Nigra ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง และเทศกาลไวน์ของแม่น้ำโมเซลล์ซึ่งนับว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด นักท่องเที่ยวจะได้ลิ้มรสไวน์ท้องถิ่น ขณะชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามริมฝั่งแม่น้ำที่ล้อมรอบไปด้วยไร่องุ่น การเยือนที่ท่าเรือ Trier เป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย ความลงตัวระหว่างความงดงามของสถาปัตยกรรมโรมันและธรรมชาติที่สวยงาม ทำให้ Trier เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความท้าทายและความสุขใจในเวลาเดียวกัน

พบกับเมืองเบอร์นคาสเทล-คูส ที่ประดับด้วยเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และความงดงามโดยรอบริมฝั่งแม่น้ำโมเซล เมืองนี้มักถูกเรียกว่า "เพชรเม็ดงามแห่งโมเซล" ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามของอาคารโบราณและภูมิทัศน์ที่เขียวขจีของสวน葡萄ที่ทอดตัวยาวไปตลอดสองฝั่งแม่น้ำ ท่าเรือที่เมืองเบอร์นคาสเทล-คูส เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่การสำรวจวัฒนธรรมและการชิมไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยเฉพาะไวน์ Riesling ที่โด่งดัง เมื่อมาเยือน สามารถเพลิดเพลินกับการล่องเรือบนแม่น้ำโมเซล เพื่อสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามและสงบเรียบ นอกจากโรงบ่มไวน์ที่มีชื่อเสียง คุณยังสามารถเยี่ยมชมปราสาทเบิร์นคาสเทล (Burg Landshut) ซึ่งตั้งอยู่สูงส่งบนเขา ชมวิวทิวทัศน์ของเมืองและแม่น้ำได้อย่างตระการตา หรือเดินเล่นตามถนนสายแฟร์นไคลด์ (Fachwerk) ที่มีสถาปัตยกรรมไม้ขวางที่น่าหลงใหล เบอร์นคาสเทล-คูส ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือ แต่ยังเป็นสถานที่ที่เปิดประตูสู่การเดินทางผ่านกลิ่นอายวัฒนธรรม โอบล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจให้แก่ผู้มาเยือนอย่างไม่รู้ลืม

โคเบลนซ์ (Koblenz) เมืองที่เก่าแก่และสวยงามตั้งอยู่ในภูมิภาคตะวันตกของประเทศเยอรมัน ศูนย์กลางสำคัญที่ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำไรน์และแม่น้ำโมเซลล์ ที่นี่เป็นที่มาของประวัติศาสตร์มากมายที่ยาวนานนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 8 ซึ่งนครโคเบลนซ์นั้นเรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสำรวจได้อย่างเต็มที่เพียงแค่เดินเท้า การขึ้นกระเช้าลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์จะทำให้คุณได้เห็นวิวที่งดงามได้อย่างชัดเจน หรือลองเยี่ยมชมป้อมปราการเอเฮนไบรท์เซน (Ehrenbreitstein) ที่มีอายุกว่า 1,000 ปี เพื่อสัมผัสกับประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ โคเบลนซ์ยังเป็นหนึ่งในพื้นที่มรดกโลกขององค์การยูเนสโกกับหุบเขาไรน์ตอนกลาง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสำรวจได้อย่างน่าตื่นเต้น สิ่งที่ไม่ควรพลาดในโคเบลนซ์ ได้แก่ ปราสาทสโทลเซนเฟลส์, พระราชวังอิเล็กทอรัล และเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ ด้วยถนนเล็ก ๆ ที่โรยด้วยความโรแมนติกและสแควร์สวยงาม เมื่อเดินผ่านคริสตจักรของพระแม่มารีย์ถึงมหาวิหารนักบุญคาสเตอร์ จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่น่าหลงใหล นอกจากนี้เรายังมีไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่างไรส์ลิ่งและสปัตบูร์กันเดอร์ ซึ่งมีประวัติศาสตร์มาตั้งแต่สมัยโรมันที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม

เมื่อคุณตั้งใจที่จะสำรวจความสวยงามของประเทศเยอรมนี ท่าเรือ Rüdesheim ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าหลงใหล การเดินทางสู่เมืองนี้เป็นการเปิดประตูสู่เสน่ห์ของแคว้นไรน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของหุบเขาไรน์ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นประดับประดาไปด้วยปราสาทโบราณและหมู่บ้านที่น่ารัก Rüdesheim ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและถนนที่มีชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น การชิมไวน์รสเลิศจากไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง คุณสามารถเยือน Drosselgasse ถนนแคบๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร มีเสียงเพลงโฟล์คที่เชิญชวนให้คุณดื่มด่ำไปกับความสุข นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น การนั่งรถสายลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์ไปยังยอดเขานอกจากนี้การสำรวจปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือภูเขา จะทำให้คุณได้ซึมซับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและมนต์เสน่ห์ของท่าเรือ Rüdesheim มันคือสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมนำคุณเข้าสู่การเดินทางที่น่าประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในเส้นทางการสำรวจยุโรปของคุณ.

ลุทวิกส์ฮาเฟ่น (Ludwigshafen) เมืองท่าเรือที่ตั้งอยู่ในเยอรมนี บนฝั่งแม่น้ำไรน์ เป็นประตูสู่การสำรวจอาหารอันอร่อย วัฒนธรรมที่หลากหลาย และความงดงามของธรรมชาติ เต็มไปด้วยบรรยากาศที่สงบและพลังทางเศรษฐกิจที่เคลื่อนไหว ตัวเมืองได้รับชื่อเสียงจากการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเคมีที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์สองฝากฝั่งของแม่น้ำไรน์ที่สวยงาม ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ที่นี่ไม่เพียงแต่มีภูมิทัศน์ที่งดงามยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิเช่น สวนพฤกษศาสตร์ที่เป็นโอเอซิสแห่งความสงบ หรือศูนย์ศิลปะที่สามารถสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินที่สวยงามตามแม่น้ำไรน์ที่เหมาะแก่การเที่ยวพักผ่อนและถ่ายภาพ แล้วอะไรจะดีไปกว่าการสำรวจเมืองนี้หลังจากที่เรือสำราญของคุณหยุดพักที่ท่าเรือในลุทวิกส์ฮาเฟ่น? เข้าสู่ประสบการณ์ที่ยากจะลืม ด้วยการเดินทางที่แปลกใหม่ พร้อมสัมผัสวัฒนธรรมเยอรมันที่คุณไม่ควรพลาด!

เมืองสเปเยอร์ (Speyer) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี ในบริเวณริมฝั่งแม่น้ำไรน์ เป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่ถูกก่อตั้งโดยชาวโรมัน และถือเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันล้ำค่า หนึ่งในสถานที่สำคัญที่น่าสนใจคือ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งปัลลาทิเนท (Historical Museum of the Palatinate) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเยอรมนี ภายในมีการจัดแสดงคอลเลกชันถาวรที่น่าทึ่ง เช่น สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยโรมัน และพิพิธภัณฑ์ไวน์ ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่หลงใหลในโลกของไวน์ นอกจากนี้ยังมีมหาวิหารจักรพรรดิ (Imperial Cathedral) ซึ่งเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกและเป็นโบสถ์โรมันจัดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มหาวิหารนี้สร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงพลังแบบศาสนาและการเมืองของพระผู้เป็นเจ้า สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง สเปเยอร์มีทางเดินให้เดินป่าและปั่นจักรยาน รวมถึงทัวร์เดินชมเมือง ที่จะพาคุณไปสัมผัสบรรยากาศอันสวยงามของเมืองนี้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเมื่อไหร่ คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับเทศกาลไวน์และกิจกรรมที่จัดขึ้นตลอดทั้งปีในเมืองแห่งนี้.

ท่าเรือที่เมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg) นับเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ควรสำรวจสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนฝรั่งเศส ท่าเรือที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอิลล์ (Ill) นี้ไม่เพียงแต่เป็นที่หยุดพักของเรือสำราญที่ล่องมีเสน่ห์ในยุโรป แต่ยังเป็นประตูสู่วัฒนธรรมที่หลากหลาย ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบกอธิคที่มีชื่อเสียงอย่างโดมมหาวิหารน็อทร์-ดาม (Notre-Dame Cathedral) ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองแห่งนี้ นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจเมืองเก่าสตราสบูร์กซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยสามารถเดินเล่นในตรอกซอยแคบ ๆ อันเต็มไปด้วยอาคารโบราณและร้านค้าเล็ก ๆ ที่ขายสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง ทั้งนี้ เมืองยังมีเสน่ห์ของสวนสาธารณะเบอซา (Parc de l'Orangerie) ที่สวยงาม เหมาะแก่การพักผ่อนพร้อมชมวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติ สำหรับผู้ที่รักการชิมอาหาร ไม่ควรพลาดการลองชิม "ชะเปล (Choucroute)" อาหารพื้นบ้านที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภูมิภาคนี้ การเยือนสตราสบูร์กจึงเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงกับความงดงามของวัฒนธรรมรอบตัว ในการเดินทางครั้งนี้ คุณจะได้สัมผัสไม่เพียงแต่ความสวยงาม ยังมีความงดงามของชีวิตที่เต็มไปด้วยความหลากหลายซุกซ่อนอยู่ในทุกมุมของเมืองนี้ มาร่วมสร้างความทรงจำในฝรั่งเศสกับเราเถอะ!

เบรอีซัช (Breisach) เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเยอรมนี ติดชายแดนฝรั่งเศส โดยตั้งอยู่ริมน้ำไรน์ในหุบเขาไรน์ สถานที่แห่งนี้มีอายุกว่า 4,000 ปี และเต็มไปด้วยเสน่ห์ดึงดูด เมืองเบรอีซัชเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจอดีตผ่านพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมือง ที่จัดแสดงนิทรรศการถาวรตั้งแต่อดีตสมัยหิน ไปจนถึงยุคเซลติกและโรมัน รวมถึงยุคกลางจนถึงปัจจุบัน หนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ซึ่งมีความงดงามและสมบูรณ์แบบ ทั้งจากแท่นบูชาของมาสเตอร์ HL จิตรกรรมฝาผนังโดยมาร์ติน ชองกาเกอร์ รวมถึง สถาปัตยกรรมแบบโกธิกสูงและโรมาเนสก์ นอกจากนี้ยังมี Radbrunnenturm ซึ่งมีบ่อที่ลึกถึง 41 เมตร ที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมทำให้ได้สัมผัสกับความเป็นมาอย่างลึกซึ้ง ไม่เพียงแค่โครงสร้างทางประวัติศาสตร์เท่านั้น เบรอีซัชยังมีบ้านน้ำเงินซึ่งเป็นศูนย์กลางชุมชนชาวยิวในอดีต ปัจจุบันเป็นที่แสดงความทรงจำเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมของเมือง ชวนให้ทุกคนได้เดินทางย้อนเวลาไปกับเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และความงามที่ยังคงอยู่ในเบรอีซัช จึงเป็นจุดหมายที่น่าหลงใหลสำหรับผู้ที่รักการเดินทางและประวัติศาสตร์.

บาเซิล เมืองที่ตั้งอยู่ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่โดดเด่นด้วยความสวยงามและเสน่ห์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ตั้งอยู่บริเวณมุมของแม่น้ำไรน์ ทำให้บาเซิลมีภูมิอากาศที่ต้องมนต์ สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การเดินเล่นและสำรวจความเป็นไปของเมือง เมืองบาเซิลเป็นศูนย์กลางด้านศิลปะและวัฒนธรรมของสวิตเซอร์แลนด์มาตั้งแต่ในช่วงเรอเนซองส์ ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ Kunstmuseum ซึ่งเป็นเจ้าของผลงานอันล้ำค่าของปีกัสโซ ซึ่งเขาได้มอบผลงานให้กับเมืองนี้เมื่อปี 1967 ด้วยความภาคภูมิใจและรู้สึกประทับใจในวัฒนธรรมที่นี่ นอกจากนี้ บาเซิลยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิเช่น โบราณสถานอ็อกสต้า รอริคา (Augusta Raurica) ที่เป็นหนึ่งในสวนโบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ และกิจกรรมมากมายในช่วงฤดูร้อนที่สร้างสรรค์ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการว่ายน้ำในแม่น้ำไรน์ รับประทานอาหารนอกบ้าน หรือสัมผัสกับเทศกาลและคอนเสิร์ตกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา บาเซิลยังมีร้านอาหารที่ได้รับรางวัล GaultMillau และมิชลินมากมาย พร้อมกับการแสดงทางศิลปะที่หลากหลาย ทำให้ผู้มาเยือนสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใครในเมืองนี้ เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเดินทางสู่เมืองที่ล้ำค่าทางศิลปะและวัฒนธรรมแห่งนี้เถอะ!



ห้องพักประเภท "ราชวังทางทะเล" คือการหลอมรวมของความหรูหราและความสะดวกสบายในทุกมิติ ห้องนี้ตกแต่งด้วยดีไซน์ทันสมัย สรรค์สร้างเพื่อให้คุณสัมผัสถึงความผ่อนคลายอย่างแท้จริง ขนาดห้องกว้างขวางมีพื้นที่นั่งเล่นสำหรับ 6 คน และมีหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดออกไปสูระเบียงกลางแจ้งพร้อมทิวทัศน์ทะเลที่สวยงาม ที่นอนจากคอลเลกชัน Comfort เลือกได้ในแบบเตียงคิงไซส์หรือเตียงคู่ พร้อมเตียงที่มีผ้าคลุมที่หรูหราและหมอนไม่นุ่มหรือแข็งอย่างที่คุณชื่นชอบ มาพร้อมกับชุดเครื่องนอนจากผ้าฝ้ายที่ได้รับการคัดสรรจากอียิปต์ และผ้าห่มนุ่มๆ เพื่อการนอนหลับที่ยอดเยี่ยม ห้องน้ำมีเคาน์เตอร์หินอ่อนพร้อมอ่างล้างหน้าแบบคู่และกระจกขนาดใหญ่ เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การดูแลตนเองอย่างหรูหรา ในห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น ทีวีจอแบน เชื่อมต่อช่องสัญญาณต่างประเทศกว่า 50 ช่อง และหนังฟรีชื่อดังหลายเรื่อง นอกจากนี้ยังมีบริการ Wi-Fi ฟรี, ตู้เซฟในห้อง, บริการน้ำดื่มฟรี, ไดร์เป่าผมคุณภาพสูง และชุดอุปกรณ์อาบน้ำจาก L'Occitane ท่านจะเพลิดเพลินกับการให้บริการจัดเตียงตอนกลางคืน และมีโต๊ะเขียนหนังสือสำหรับทำงานหรือเขียนโน้ต ควบคู่กับแฟนซีสำหรับพักผ่อนบนโซฟา ที่ทำให้ท่านรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านสุดหรูขณะล่องเรือ นี่คือประสบการณ์ที่คุณคู่ควรใน "ราชวังทางทะเล" ที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น



全景套房為您提供一個優雅而豪華的住宿體驗,精心設計的住宿空間包括舒適的床鋪,配有奢華的床墊和埃及超梳棉床單,讓您的每個夜晚都能如夢似幻。房間內擁有精緻的歐式羽絨被、柔軟與堅硬的枕頭選擇,並提供額外的毯子,無論您的偏好為何,這裡都能愉快滿足。每個房間均備有充足的儲物空間,包括寬敞的三門衣櫥,以及方便的行李儲存空間。享受一流的娛樂設施,配有衛星電視、逾50部免費電影選擇,並提供免費Wi-Fi。房間內的設施還包括高檔吹風機、L'Occitane浴產品、化妝鏡與USB插槽,讓您在旅途中同樣可以關注每個細節。此外,全景套房提供20平米的開放式陽台,配備六人座位區,讓您在獨特的海景前悠然自得。從個人氣候控制、寫字桌到精緻的浴服及拖鞋,這一切都旨在提升您的住宿體驗。讓全景套房成為您巡航之旅中的奢華避風港。


ในห้องพักประเภท “ห้องพักหรูหรา” ของเรานี้ มอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการตกแต่งที่ทันสมัยและมีสไตล์ ห้องมีพื้นที่กว้างขวางพร้อมเตียงขนาดใหญ่ หรือสองเตียงเดี่ยวให้เลือกตามความต้องการของคุณ คุณจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบายที่เหนือชั้นด้วยที่นอนที่ใช้วัสดุเกรดพรีเมียม พร้อมชุดเครื่องนอนจากฝ้ายอียิปต์ที่นุ่มสบาย ห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน อาทิเช่น ทีวีจอแบนพร้อมช่องดาวเทียม และตัวเลือกภาพยนตร์กว่า 50 เรื่อง รวมถึงบริการ Wi-Fi ฟรี เพื่อให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ นอกจากนี้ ยังมีมินิบาร์ที่จัดเตรียมไว้อย่างดี และน้ำดื่มกรองฟรีเพื่อความสะดวกสบายของคุณ ห้องน้ำถูกออกแบบให้หรูหรา พร้อมน้ำอุ่นและอุปกรณ์อาบน้ำจาก L'Occitane ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ คุณจะได้พบกับอ่างอาบน้ำที่มีประตูแก้ว และกระจกแต่งหน้าที่มีแสงสว่าง พร้อมด้วยชุดคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะที่เพิ่มความสะดวกสบาย ขณะที่คุณสามารถใช้โต๊ะทำงานและเก้าอี้สำหรับการทำงานหรือการเขียน ด้วยการควบคุมอุณหภูมิแบบส่วนตัวและพื้นที่จัดเก็บสัมภาระอย่างสะดวกสบาย ห้องพักนี้จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนและผ่อนคลายในขณะที่คุณล่องเรือบนทะเล สัมผัสความหรูหราใน “ห้องพักหรูหรา” และปรับเปลี่ยนมุมมองการเดินทางของคุณให้เป็นประสบการณ์อันยอดเยี่ยมในทุกช่วงเวลา