
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Avalon Passion
อะวาลอน วอโヌเวย์ส
ล่องเรือแม่น้ำในยุโรปที่น่าหลงใหลนี้จากโรมาเนียไปยังอัมสเตอร์ดัม เป็นการผจญภัยที่แท้จริง ล่องผ่านเมืองเล็กๆ วิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และอาคารประวัติศาสตร์ตามแม่น้ำดานูบ แม่น้ำไมน และแม่น้ำไรน์—พร้อมกับการเที่ยวชมด้วยไกด์และเวลาว่างให้คุณสำรวจเอง สำรวจเมืองหลวงเก่าแก่ของบัลแกเรียอย่างเวลิโก ทาร์โนโว พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาและโบสถ์แห่งการประสูติในอาร์บานัสซี่ และถ่ายภาพกลุ่ม formation หินที่หลากหลายที่เบลกราดชิค รวมถึงวิวทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของประตูเหล็ก ล่องเรือดานูบพาคุณไปยังเมืองหลวงของสามประเทศคือเบลเกรดในเซอร์เบีย บูดาเปสต์ในฮังการี และเวียนนาในออสเตรีย ที่ซึ่งไกด์ท้องถิ่นจะพาคุณชมจุดเด่นพร้อมเวลาให้สำรวจด้วยตนเอง ในใจกลางพื้นที่ผลิตไวน์วาคเหา ให้คุณเดินชมเมืองเล็กๆ ที่มีเสน่ห์อย่างเดิร์นสไตน์ และต่อมาจะเยี่ยมชมอ abbey เบเนดิกต์ที่มีชื่อเสียงในเมืองเมลค์ ในเยอรมนี ให้คุณเที่ยวชมสถานที่ผ่านไกด์ในปัสเซา เรเกนสบูร์ก นูเรมเบิร์ก แบมเบิร์ก และวูร์ซบูร์ก ล่องเรือผ่านคลองไมน-ดานูบและไปตามหุบเขาไรน์ที่มีความงดงามที่สุด ซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทโบราณที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง 400 ฟุตเหนือผืนน้ำ ล่องเรือแม่น้ำยุโรปที่แสนพิเศษนี้ จะสิ้นสุดที่เมืองหลวงสมัยใหม่ที่เป็นที่นิยมในฮอลแลนด์อย่างอัมสเตอร์ดัม รับชมเมืองจากมุมมองที่ไม่ซ้ำใครในระหว่างการล่องเรือคลองตามเกรคเทนที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ที่ย้อนกลับไปในยุค “ทองคำ” ของเมือง สัมผัสประสบการณ์แม่น้ำดานูบในแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน กับการค้นพบและประสบการณ์พิเศษที่เปิดเผยจากโรมาเนียไปสู่ทะเลเหนือ


ท่าเรือโอลเทนิทา (Oltenița) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบในประเทศโรมาเนีย อันเป็นเส้นทางการค้าและการเดินทางที่สำคัญของยุโรปตะวันออก โอลเทนิทาเป็นจุดเชื่อมต่อที่โดดเด่นที่นักเดินทางสามารถสัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมื่อคุณมาถึงโอลเทนิทา คุณจะได้พบกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์จากอาคารและสถานที่สำคัญต่างๆ สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ เยี่ยมชมโบสถ์ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 เป็นสิ่งที่ต้องทำ แถมยังสามารถเดินเล่นไปตามแนวแม่น้ำดานูบ ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของธรรมชาติ ในขณะที่ตระหนักถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่นี้ นอกจากนี้ ที่พักและอาหารท้องถิ่นของโอลเทนิทายังมีรสชาติที่หลากหลาย รับรองว่าจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่และน่าจดจำ ไม่เพียงแค่โอลเทนิทา คุณยังสามารถใช้เวลาสำรวจพื้นที่โดยรอบ เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในใกล้เคียง หรือเข้าชมเมืองท่าอื่นๆ ของดานูบ ที่เต็มไปด้วยความงดงามและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่รอให้คุณค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อมที่จะหลุดพ้นจากชีวิตประจำวัน และมาสัมผัสกับความอัศจรรย์ของโอลเทนิทาในการเดินทางครั้งหน้า!

ท่าเรือรูเซ่ (Ruse) คือประตูสู่การค้นพบความงดงามของบัลแกเรีย ที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นจุดจอดของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนานที่บัลแกเรียเสนอให้ เมื่อก้าวเข้าสู่เมืองรูเซ่ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะอาคารสไตล์บาโรกและนีโอคลาสสิกที่ยังคงรักษาความงดงามไว้ได้อย่างดี ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมสวนสาธารณะและอนุสาวรีย์ของพระเจ้าฟีเดอริคที่ตั้งตระหง่าน บริเวณนี้เหมาะสำหรับการถ่ายรูปและเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ นอกจากนั้น ยังมีเสน่ห์ของอาหารท้องถิ่นที่น่าสนใจ รวมถึงการชิมไวน์พื้นเมืองที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างไม่รู้ลืม สิ่งที่ทำให้รูเซ่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าทึ่ง คือการเดินทางที่สะดวกสบายไปยังเมืองหลวงโซเฟีย หรือเมืองประวัติศาสตร์เช่นพลอฟดิฟ ไม่ว่าคุณจะมองหาความสงบหรือการผจญภัย ท่าเรือรูเซ่จะนำคุณเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการเดินทางครั้งนี้

เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่จะนำเสนอท่าเรือที่ยอดเยี่ยมในเมืองวีดิน (Vidin) ประเทศบัลแกเรีย ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบและเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำ วีดินไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือที่ใช้สำหรับเรือสำราญเท่านั้น แต่มันยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในภูมิภาคนี้ ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานจนน่าเชื่อขวัญ อาคารเก่าแก่และปราสาทวีดิน (Vidin Fortress) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 จะช่วยเชื่อมต่อคุณกับเรื่องราวของยุคกลาง เมื่อคุณเดินผ่านประตูปราสาทเหล่านี้ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ วีดินยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โบสถ์เซนต์บอร์น (St. Boryana Church) ที่มีศิลปะสถาปัตยกรรมที่งดงาม และตลาดท้องถิ่นที่คุณสามารถลองชิมอาหารบัลแกเรียแท้ๆ ได้ เมื่อคุณมาเยือนวีดิน คุณไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับความงดงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของเมืองนี้ แต่ยังได้ท่องเที่ยวในเส้นทางอันแสนพิเศษที่นำคุณไปสู่ทุกความฝันในการเดินทางของคุณ โดยเฉพาะการนั่งเรือสำราญที่แหวกว่ายไปในแม่น้ำดานูบที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบตัวคุณ ขอต้อนรับสู่การเดินทางอันน่าหลงใหลในวีดิน ที่คุณจะไม่มีวันลืม!

อาณาจักรเซอร์เบียที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย เชิญคุณสัมผัสบรรยากาศที่ท่าเรือโกลูบัค (Golubac) ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบ ภูมิทัศน์ที่ตระการตาและปราสาทโบราณที่ยืนหยัดมาอย่างยาวนาน ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่หมายตาของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงามแห่งธรรมชาติและประวัติศาสตร์ จากท่าเรือโกลูบัค นักเดินทางสามารถสำรวจปราสาทโกลูบัค ที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง ซึ่งเคยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในอดีต คุณจะได้รับชมวิวทิวทัศน์ที่กว้างไกลของแม่น้ำดานูบและพื้นที่โดยรอบที่เต็มไปด้วยภูเขาเขียวขจี นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ ซึ่งคุณสามารถสัมผัสวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นได้อย่างใกล้ชิด ในช่วงฤดูร้อน ท่าเรือโกลูบัคยังเป็นจุดที่เหมาะกับการล่องเรือสำราญ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางพร้อมกับอาหารท้องถิ่นและไวน์ชั้นดีในบรรยากาศที่เงียบสงบและโรแมนติก และไม่ควรพลาดที่จะสำรวจอุทยานแห่งชาติฟรุคาร์ (Fruska Gora) ที่อยู่ไม่ไกล ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติอันงดงามและเส้นทางเดินป่าที่น่าตื่นเต้น มาให้ท่าเรือโกลูบัคเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเดินทางที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ ในประเทศที่ซ่อนเร้นความงามไว้มากมาย พร้อมให้คุณค้นพบและสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน.

เบลเกรด เมืองหลวงของเซอร์เบีย ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบระหว่างแม่น้ำดานูบและซาว่า เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญมากทางการค้าและการท่องเที่ยว การเยือนเบลเกรดเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน และความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของเมืองนี้ เมื่อแวะมาที่ท่าเรือในเบลเกรด ผู้โดยสารจะได้รับการต้อนรับด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงามของแม่น้ำและเมืองเก่า ซึ่งมีที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดอย่างปราสาทเบลเกรด (Belgrade Fortress) ที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำ เห็นเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญและจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมยังสามารถเดินเล่นในเขตที่มีชีวิตชีวาอย่างสตรีทสกาดาร์ลิยา (Skadarlija) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ที่เสิร์ฟอาหารเซอร์เบียแท้ ๆ เบลเกรดยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของงานเทศกาลดนตรีและศิลปะที่จัดขึ้นในช่วงฤดูร้อน ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก มาที่นี่เพื่อสัมผัสกับมนต์เสน่ห์และความบันเทิงที่ไม่มีที่สิ้นสุดในเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแห่งนี้ และเปิดประตูสู่การผจญภัยสุดหรูที่ยากจะลืมเลือน!

นิวซาด (Novi Sad) เป็นเมืองที่น่าหลงใหลและเป็นท่าเรือสำคัญในประเทศเซอร์เบีย เมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงามและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา นิวซาดจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวที่รักการเดินทางไม่ควรพลาด อาคารสไตล์บาร์อคที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามในย่านเมืองเก่า ชวนให้ทุกคนหลงใหลในความทันสมัยผสมผสานกับกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ เมืองนี้ยังเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่จัดเทศกาล EXIT ซึ่งเป็นหนึ่งในเทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากภายในประเทศและต่างประเทศ ยังเป็นเหตุผลที่สร้างชื่อเสียงให้กับเมืองนี้อย่างมาก นอกจากนี้ มีการไปเยือนที่ปราสาทปีเตอร์วาร์ดิน (Petrovaradin Fortress) ที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำดานูบ เป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมสามารถมองเห็นเมืองและแม่น้ำในมุมมองที่สูง ขณะเดินเล่นรอบๆ ปราสาท จะพบกับร้านอาหารและคาเฟ่ที่ให้บริการเมนูท้องถิ่นที่อร่อย การเดินทางมายังนิวซาด คือการสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ส่งให้ได้พบกับวัฒนธรรม ความงดงามทางธรรมชาติ และมิตรภาพที่อบอุ่นจากผู้คนในเมืองนี้ มาร่วมสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืมในทุกขั้นตอนของการเดินทางที่นิวซาดกันเถอะ!

อิโลค (Ilok) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าค้นหาและเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่นักเดินทางต่างปรารถนา เมืองนี้มีความโดดเด่นด้วยท่าเรือที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่คอยเล่าเรื่องราวผ่านสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ในใจกลางเมือง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับปราสาทอิโลค (Ilok Castle) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา ให้ทัศนียภาพที่งดงามของแม่น้ำดานูบและภูมิทัศน์รอบข้าง รวมทั้งสวนที่เขียวขจีที่ให้คุณเดินชมความงามตามธรรมชาติได้อย่างเพลิดเพลิน อิโลคยังมีชื่อเสียงในด้านการผลิตไวน์ โดยเฉพาะแหล่งปลูกองุ่นที่สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน คุณสามารถเข้าชิมไวน์ท้องถิ่นที่โรงบ่มไวน์พร้อมชมกระบวนการผลิตได้โดยตรง หากคุณกำลังมองหาบรรยากาศที่สบาย ๆ อิโลคเป็นสถานที่ที่ลงตัวสำหรับการเพลิดเพลินกับธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน ทำให้การเดินทางครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำในเส้นทางของคุณ รองรับคุณด้วยความยินดีในทุกการเดินทางที่อิโลค!
เมืองโมฮาช (Mohács) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำดานูบในประเทศฮังการี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่เรือสำราญแวะจอด ยังเป็นศูนย์กลางการเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ โมฮาชมีชื่อเสียงจากการเป็นสถานที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เรียกว่า "การสู้รบที่โมฮาช" ในปี ค.ศ. 1526 ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่ส่งผลให้จักรวรรดิโรมาเนียแตกสลาย นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์นี้และสัมผัสบรรยากาศของเมืองที่มีเสน่ห์ ถัดจากท่าเรือ คุณยังสามารถเดินทางไปยังด่านวัฒนธรรมการทำฟาร์มโบราณ ซึ่งเผยให้เห็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวฮังการีในอดีต ยิ่งไปกว่านั้น เมืองนี้ยังมีอาหารอร่อยๆ และไวน์เลิศรสให้ลิ้มลอง โดยเฉพาะพริกไทยและไวน์ท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อย่างก้าวในโมฮาช คุณจะได้สัมผัสกับทั้งประวัติศาสตร์และความงดงามของวัฒนธรรมฮังการีอย่างแท้จริง ที่นี่ซ่อนเร้นไปด้วยเสน่ห์ที่รอให้คุณค้นพบ พร้อมที่จะให้เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่น่าประทับใจในชีวิตของคุณ


เมืองบราติสลาว่าเป็นเมืองหลวงแห่งสโลวาเกีย ตั้งอยู่ริมน้ำดานูบ ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างออสเตรียและฮังการี เมืองนี้มีภูเขาลิตเติล คาร์พาเทียนและไร่องุ่นล้อมรอบ พร้อมด้วยปราสาทบราติสลาว่าที่ถูกปรับปรุงใหม่ ซึ่งตั้งตระง่านมองเห็นตัวเมืองและพื้นที่โดยรอบปรากฏให้เห็นภาพวิวที่งดงาม รวมถึงเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ บราติสลาว่าเป็นมรดกของความหลากหลายทางวัฒนธรรม โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น หอนาฬิกาเก่า, สะพานยูเอฟโอ, มหาวิหารเซนต์มาร์ติน, ประตูมิχαอิล และโบสถ์สีน้ำเงินเซนต์เอลิซาเบธ เมืองนี้ยังมีสวนสาธารณะที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปกลาง มีชื่อเสียงสำหรับนักเดินและนักปั่นจักรยาน ไม่เพียงแค่ทิวทัศน์อันงดงาม บราติสลาว่ายังขึ้นชื่อเรื่องเบียร์ที่ผลิตในท้องถิ่น มีโรงเบียร์ขนาดเล็กและห้องใต้ดินเบียร์จำนวนมาก รวมถึงอาหารท้องถิ่นที่ผสมผสานอิทธิพลจากวัฒนธรรมยุโรปหลายแห่ง โดยมีอาหารจานเด็ดอย่างเป็ดย่างกับลอคเซ่ ที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของเมือง ร่วมสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบันในบราติสลาว่า ไขว่คว้าความฝันในการเดินทางที่จะทำให้คุณหลงรักในทุกความละเอียดของเมืองนี้.

เวียนนา เมืองหลวงที่สวยงามและใหญ่ที่สุดของออสเตรีย ตั้งอยู่บนริมฝั่งแม่น้ำดานูบ ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ เป็นที่รู้จักในฐานะเมืองที่เต็มไปด้วยมรดทางดนตรีและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ซึ่งถือเป็นเมืองที่พูดภาษาเยอรมันมากที่สุดในโลกนอกเบอร์ลิน โดยในปี 2001 เวียนนาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก การเดินทางมายังเวียนนา คือการได้สัมผัสสถาปัตยกรรมที่งดงาม ซึ่งมีปราสาทและวังมากมาย รวมถึงมหาวิหารเซนต์สตีเฟนอันมีชื่อเสียง และพระราชวังเชินบรุนน์ นอกจากจะมีงานแสดงดนตรีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่วิธีการเล่นร็อคถึงโอเปร่าที่เวียนนา สเตท โอเปร่า ผู้ที่รักศิลปะไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะประวัติศาสตร์ (KHM) ซึ่งจัดแสดงงานศิลปะทั้งสมัยใหม่และดั้งเดิม ณ สถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง นอกจากนี้ ท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวเมืองจากทาวเวอร์ดานูบและชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนในร้านกาแฟและภัตตาคารที่เสิร์ฟอาหารทั้งแบบดั้งเดิมและสากล พร้อมกับไวน์ท้องถิ่นอันยอดเยี่ยมที่จะทำให้การเดินทางในเวียนนาเป็นประสบการณ์ที่ประทับใจไม่รู้ลืม

ดือร์นสไตน์ (Dürnstein) เมืองเล็กที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรีย ริมฝั่งแม่น้ำดานูบ เป็นส่วนหนึ่งของสถานที่มรดกโลกและภูมิภาคไวน์วาคาอู (Wachau) ที่มีชื่อเสียง ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติที่งดงาม ทำให้ดือร์นสไตน์กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวคอไวน์ไม่ควรพลาด บรรดานักชิมสามารถสนุกไปกับการชิมไวน์และเข้าพักในไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงหลากหลายแห่ง นอกจากนี้ การเดินสำรวจเมืองยังเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน เพราะมีเส้นทางเดินป่าที่สวยงามอยู่ทั่วถึง ช่วยให้ท่านได้สัมผัสวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจของหุบเขาดานูบ เด็ก ๆ ก็สามารถสนุกไปกับการเล่นในพื้นที่กลางแจ้ง ซึ่งมีสนามเด็กเล่นและเส้นทางธีมให้สำรวจ ขณะเดียวกัน สระว่ายน้ำกลางแจ้งที่มีน้ำอุ่นเฉลี่ย 23 องศาเซลเซียส อย่าง Kuenringerbad ก็เป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สำหรับผู้ที่ต้องการมุมมองที่น่าประทับใจ สามารถเลือกขึ้นเฮลิคอปเตอร์ชมวิวเมืองจากมุมสูง หรือจะเดินขึ้นเขาสำรวจซากปราสาทดือร์นสไตน์ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่น่าค้นหา เมืองนี้คือป้อมปราการในอดีตที่มีความงามจากธรรมชาติรอบตัว รอให้คุณมาเยี่ยมชมและสัมผัสเสน่ห์ของออสเตรียอย่างแท้จริง

เมืองพาสเซา ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนีติดกับชายแดนออสเตรีย เป็นจุดที่แม่น้ำสามสาย ได้แก่ ดานูบ อินน์ และอิลซ์ มาบรรจบกัน ซึ่งมักเรียกกันว่า "เมืองสามแม่น้ำ" แหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดในพาสเซาคือพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และพิพิธภัณฑ์แก้ว ที่นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ในบรรยากาศที่แตกต่าง ย่านเมืองเก่าของพาสเซา เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม เช่น ปราสาทเฟสเต้ โอเบอร์เฮาส์ และมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ที่มีความสวยงามตระการตา สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกสำหรับการเดินสำรวจริมแม่น้ำและซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ พาสเซายังเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา โดยมีการแสดงละครและคาบาเรต์ที่เชิญชวนให้ทุกคนได้สัมผัสความสนุกสนานที่โรงละครเก่าของเจ้าชายบิชอป รวมถึงเมนูอาหารท้องถิ่นในร้านอาหารบาวาเรียและออสเตรียที่อบอุ่นเต็มไปด้วยรสชาติที่สืบทอดจากวัฒนธรรมดั้งเดิม อย่าพลาดที่จะมาเยือนเมืองอันสวยงามแห่งนี้ ซึ่งเป็นจุดหมายที่สัมผัสได้ถึงความรื่นรมย์ของศิลปะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่ผสมผสานอย่างลงตัว!

เรเกนสบูร์ก เป็นเมืองเก่าแก่อยู่ในบาวาเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยอรมนี ตั้งอยู่ที่ปากแม่น้ำดานูบ ที่ซึ่งไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเรเกนและนาอ์บ เมืองนี้มีชื่อเสียงโด่งดังจากสะพานหินสมัยศตวรรษที่ 12 ที่มี 16 โค้ง ซึ่งข้ามแม่น้ำดานูบเข้าสู่เมืองเก่า ถือเป็นสะพานที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ในเยอรมนี สถาปัตยกรรมที่เด่นของเรเกนสบูร์กคือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สไตล์โกธิก ซึ่งมีคู่ยอดแหลมสูงชะลูดที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่มีความงดงาม สถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น ประตูโรมันโบราณจากศตวรรษที่ 2 และพระราชวังทูนและทักซิสสมัยศตวรรษที่ 18 จะทำให้คุณดื่มด่ำไปกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สืบทอดมาช้านาน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับอุทยานและสวนสาธารณะที่ล้อมรอบ รวมถึงเส้นทางเดินและจักรยานริมน้ำที่มอบความสงบและความสุขให้แก่การเดินทางในเมืองโบราณแห่งนี้ ขอบอกเลยว่าเรเกนสบูร์ก คือจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของเยอรมนีอย่างแท้จริง

ท่าเรือโรธ (Roth) ในประเทศเยอรมนี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมยุโรป ท่าเรือแห่งนี้ตั้งอยู่ในภูมิภาคบาวาเรีย เป็นประตูเชื่อมโยงสู่แหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย จากโรธ คุณสามารถเดินทางสู่เมืองประวัติศาสตร์อย่างนูเรมเบิร์ก (Nuremberg) ที่มีตลาดคริสต์มาสที่มีชื่อเสียงและปราสาทที่สวยงาม หรือจะไปเยือนเมืองอัลทซต์ (Altdorf) ซึ่งเต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่และบรรยากาศที่อบอุ่น การเดินทางที่โรธยังเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับเส้นทางจักรยานที่สวยงามเลียบแม่น้ำและทุ่งนาที่เขียวขจี นอกจากนี้การล่องเรือบนแม่น้ำอัลมาน (Altmühl) จะทำให้คุณได้ชมความงามของธรรมชาติและภูมิทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ส่วนการเดินทางในเมืองก็ง่ายดายโดยใช้บริการรถเช่าหรือจักรยานที่มีให้เช่า สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของโรธและประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในเยอรมนี เพียงแค่ยอดแผนการเดินทางที่หรูหรานี้ จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันที่เป็นจริง ดังนั้น อย่ารอช้า มาร่วมสร้างความทรงจำที่แสนประทับใจกับเราได้ที่โรธ!

บัมแบร์ก (Bamberg) คือเมืองอันงดงามในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่ประกอบด้วยเจ็ดเขา และที่จุดบรรจบของแม่น้ำเรกนิทซ์และไมน์ เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดยเฉพาะย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยอาคารที่มีอายุตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ที่นี่มักดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมสัญลักษณ์ที่โดดเด่นอย่างศาลากลาง (Altes Rathaus) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำเรกนิทซ์ โดยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามให้ได้ชม อีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจคือบัมแบร์กคาประตู (Bamberg Cathedral) ที่มี 4 หอคอยและการแกะสลักหินอันละเอียดอ่อน เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ หากคุณต้องการสัมผัสวิถีชีวิตของเมือง สามารถแวะไปที่เขตตลาดสวน โดยมีบ้านประวัติศาสตร์ที่เคยเป็นที่ปลูกและส่งออกผลผลิต เช่น หัวหอม และลูกไลเซอรีซ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้ง บัมแบร์กยังมีร้านค้าเก๋ๆ เจ้าของท้องถิ่นตั้งอยู่ในบรรยากาศเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ และเมื่อสิ้นสุดวัน อย่าลืมแวะไปสัมผัสเบียร์เยอรมันรสเลิศที่ผับเบียร์ของเมือง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีโรงเบียร์ดั้งเดิมถึง 9 แห่ง ค้นพบมนต์เสน่ห์ของบัมแบร์กและให้ความใฝ่ฝันในการเดินทางมาสัมผัสเมืองอันมีชื่อเสียงนี้!

วือซบวร์ก เมืองอันงดงามในแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ สลับซับซ้อนด้วยสถาปัตยกรรมบาโรกที่หรูหราและไวน์ฟรังโกเนียนที่เป็นเอกลักษณ์ เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชวังเรสซิเดนซ์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก โดดเด่นด้วยบันไดอันวิจิตร ภาพเขียนประดับขนาดใหญ่ และห้องโถงอันโอ่อ่า เมื่อเดินทางมายังวือซบวร์ก ต้องไม่พลาดปราสาทเฟสตุง มาริอ์เบิร์ก ซึ่งตั้งตระหง่านโดดเด่น ให้มุมมองที่งดงามของเมืองและแม่น้ำ นอกจากนี้สะพานเก่าแก่ Alt Mainbrücke ยังเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกด้วย สำหรับคนรักไวน์ วือซบวร์กมีโรงกลั่นไวน์มากมายพร้อมทั้งนำเสนอการทัวร์และชิมไวน์ เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำไวน์ในบรรยากาศสบายๆ ที่ยังคงรักษาภูมิทัศน์ดั้งเดิมของอาหารบาวาเรียน เช่น ซุปไวน์ กีรัปฟ์เตอร์ (ชีสทา) และเซาเออร์บราตัน (เนื้อวัวตุ๋นในไวน์) ที่ทานคู่กับไวน์ท้องถิ่น วือซบวร์กเป็นจุดหมายปลายทางที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยจิตวิญญาณแห่งการเดินทางและสัมผัสวัฒนธรรมอันงดงามของเยอรมนีอย่างแท้จริง

มิลเทนแบร์ก เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในบาวาเรีย ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไมน์ เมืองนี้เติบโตจากรากฐานในยุคกลางผ่านการปลูกองุ่น การค้าไวน์ การประมง และการเดินเรือ จนกลายเป็นเมืองที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ได้อย่างสวยงามในปัจจุบัน เมื่อคุณมาที่มิลเทนแบร์ก อย่าพลาดที่จะเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เมืองมิลเทนแบร์ก ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารไม้ครึ่งหลังที่เรียกว่า “อัลเต อัมต์สเคลเลอรี” ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของเมืองผ่านการจัดแสดงวัตถุที่สะท้อนวัฒนธรรมไปจนถึงยุคโรมัน นอกจากนี้ การเยี่ยมชมปราสาทมิลเทนแบร์กซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมโบราณ แต่ยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เบิร์กมิลเทนแบร์ก ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะคลาสสิคและร่วมสมัยในบรรยากาศที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ยอดหอคอยของปราสาทซึ่งสูงถึง 27 เมตร เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการผ่อนคลายและดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์แสนงดงามของหุบเขาไมน์ที่อยู่เบื้องล่าง ช่วงเวลาอันสงบสุขที่นี่จะทำให้คุณรู้สึกหลงใหลในเสน่ห์ของมิลเทนแบร์กอย่างแท้จริง

เมื่อคุณตั้งใจที่จะสำรวจความสวยงามของประเทศเยอรมนี ท่าเรือ Rüdesheim ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าหลงใหล การเดินทางสู่เมืองนี้เป็นการเปิดประตูสู่เสน่ห์ของแคว้นไรน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของหุบเขาไรน์ที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นประดับประดาไปด้วยปราสาทโบราณและหมู่บ้านที่น่ารัก Rüdesheim ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและถนนที่มีชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดคลาสสิกที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น การชิมไวน์รสเลิศจากไร่องุ่นที่มีชื่อเสียง คุณสามารถเยือน Drosselgasse ถนนแคบๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหาร มีเสียงเพลงโฟล์คที่เชิญชวนให้คุณดื่มด่ำไปกับความสุข นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด เช่น การนั่งรถสายลอยฟ้าข้ามแม่น้ำไรน์ไปยังยอดเขานอกจากนี้การสำรวจปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือภูเขา จะทำให้คุณได้ซึมซับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและมนต์เสน่ห์ของท่าเรือ Rüdesheim มันคือสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ พร้อมนำคุณเข้าสู่การเดินทางที่น่าประทับใจและความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในเส้นทางการสำรวจยุโรปของคุณ.

โคโลญ (Cologne) เป็นเมืองที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานในเยอรมัน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำไรน์ และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศนี้ มีอายุกว่า 2,000 ปี และถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค เมืองโคโลญเป็นที่รู้จักกันดีจากสัญลักษณ์ที่เด่นชัดที่สุดคือมหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) ที่ตั้งตระหง่านคู่ระหว่างตึกเก่าในย่านเก่า (Old Town) เมื่อมาเยือนย่านเก่า นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะสัมผัสประสบการณ์เยี่ยมชมศาลากลางเก่า (Old Town Hall) และโบสถ์โรมันเซนต์มาร์ติน (Great St Martin) นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น โมเสคดีโอโนซัส (Roman Dionysus mosaic) และบ้านโอเวอร์สโทลเซน (Overstolzenhaus) ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การค้นหาด้วย อีกหนึ่งจุดหมายที่โดดเด่นในโคโลญคือสะพานโฮเฮนโซลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) ที่ซึ่งคู่รักทั้งจากในเมืองและนักท่องเที่ยวต่างนิยมมาทำพิธีผูกสัมพันธ์โดยการติดล็อกที่ราวสะพาน แล้วทิ้งกุญแจลงสู่แม่น้ำไรน์ เพื่อหวังความรักที่ยืนยาวอย่างมั่นคง การแสดงคาบาเร่ต์และวัฒนธรรม LGBTQ+ ที่เปิดเผยของเมืองนี้ ยังเพิ่มสีสันและความหลากหลายให้กับประสบการณ์การเยี่ยมชมโคโลญอีกด้วย มาประสบการณ์ความงดงามแห่งวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความรักในโคโลญแล้วคุณจะหลงใหลไม่รู้ลืม!




ห้องพัก Royal Suite ของเราเป็นที่สุดของความหรูหราและความสะดวกสบาย ที่ออกแบบมาเพื่อการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ ภายในห้องพักคุณจะพบกับเตียงขนาดคิงไซส์หรือตู้คู่ที่มีที่นอนหรูหราพร้อมที่นอนรองที่เพิ่มความนุ่มสบาย พร้อมให้คุณเลือกการจัดเตียงตามความต้องการ เสริมด้วยผ้าห่มหนานุ่มและหมอนหลากหลายชนิดเพื่อการพักผ่อนที่ดีที่สุด ห้องน้ำขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยหินอ่อนที่หรูหรา มีอ่างล้างหน้าสองจุดและพื้นที่อาบน้ำแบบเต็มพร้อมประตูกระจก ส่วนตัวของห้องพักยังมีการออกแบบที่ทันสมัยมีหน้าต่างพานอรามาขนาดใหญ่ที่เปิดออกสู่ระเบียงกลางแจ้ง ช่วยให้คุณสัมผัสกับวิวทะเลอย่างใกล้ชิด การจัดวางพื้นที่ใช้สอยทั้งภายในและภายนอกมีความกว้างขวาง เหมาะสำหรับการนั่งเล่นกับกลุ่มเพื่อนที่มีที่นั่งสำหรับ 6 คน ภายในห้องยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ทีวีจอแบนที่มีช่องทางภาษาอังกฤษและภาพยนตร์ฟรีมากกว่า 50 รายการ, ตู้เย็นขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยของว่าง, เครื่องทำกาแฟ, และWi-Fi ฟรี พร้อมด้วยการควบคุมอุณหภูมิแบบเฉพาะตัว การบริการส่งคืนเตียงทุกคืนและผลิตภัณฑ์อาบน้ำแบรนด์ L'Occitane ให้ความรู้สึกพิเศษในทุกวันของการเข้าพัก Royal Suite เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่กำลังมองหาความหรูหราและความสะดวกสบายในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ขอต้อนรับสู่ประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราเหนือระดับกับเรา!



ห้องพักประเภท "全景套房" มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราและคลาสสิกด้วยการออกแบบที่ทันสมัย ห้องพักกว้างขวางพร้อมหน้าต่างพาโนรามาที่สามารถเปิดออกสู่ระเบียงกลางแจ้ง เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลอย่างเต็มที่ ภายในห้องพบกับเตียงขนาดควีนไซส์หรือสองเตียงเดี่ยวที่ตกแต่งด้วยชุดเครื่องนอนชั้นดีจากฝ้ายอียิปต์ และมีหมอนนุ่ม-แน่นเพื่อความสบายขณะพักผ่อน ห้องน้ำมีเคาน์เตอร์หินอ่อนและมีความสะดวกสบายด้วยยาแนวที่โปร่งสบาย พร้อมความหรูหราของผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก L'Occitane ห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ทีวีจอแบนที่มีช่องสัญญาณภาษาอังกฤษและภาพยนตร์มากกว่า 50 เรื่องให้เลือกชม รวมถึงบริการ Wi-Fi ฟรี เพื่อการเชื่อมต่อที่ราบรื่น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นสำหรับ 6 คน ที่มีกาแฟและโต๊ะกลาง รวมทั้งยังมีโต๊ะเขียนหนังสือและเก้าอี้เพื่อให้คุณสามารถทำงานหรือสร้างสรรค์ผลงานต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย และแน่นอนว่ามีบริการทำเตียงในตอนเย็น รวมถึงมินิบาร์และเครื่องดื่มน้ำกรองให้บริการฟรี เพื่อทำให้การเข้าพักของคุณสมบูรณ์แบบในทุกๆ ด้าน

ห้องพักประเภท “อวาลอน ลักชัวรี่ สวีท” เป็นที่หลบภัยที่ผสมผสานความหรูหรากับความสะดวกสบายอย่างลงตัว ห้องพักนี้ถูกออกแบบมาอย่างทะนุถนอม มีขนาดกว้างขวาง พร้อมการตกแต่งที่ทันสมัยและสง่างาม ด้วยเตียงโดยสาร Comfort Collection ที่มาพร้อมกับที่นอนสุดหรูที่มีเสริมด้วยฟูกอันนุ่มสบาย ปลอกผ้านุ่มจากฝ้ายที่ผ่านการคัดสรรอย่างดี และผ้าห่มแบบยุโรปที่จะทำให้คุณหลับฝันดีตลอดคืน ภายในห้องยังมีการบริการจัดเตียงคืนประจำที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย นอกจากนี้ ห้องพักยังมีอุปกรณ์ครบครัน อาทิ โทรทัศน์จอแบนที่สามารถรับสัญญาณดาวเทียม มีช่องภาษอังกฤษและภาพยนตร์ฟรีให้เลือกมากกว่า 50 เรื่อง นอกจากนี้ยังมีมุมทำงานพร้อมโต๊ะและเก้าอี้ที่เหมาะแก่การทำงานและพักผ่อน เมื่อเข้ามาในห้องน้ำ คุณจะพบกับการออกแบบที่หรูหรา พร้อมกระจกขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นโอกาสดีในการเตรียมความพร้อมก่อนออกไปสำรวจสิ่งใหม่ๆ ห้องพักยังมีการควบคุมสภาพอากาศได้ตามต้องการ และมีตู้เก็บของที่กว้างใหญ่เพื่อให้คุณจัดเก็บสัมภาระได้สะดวก รวมถึงมินิบาร์ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น น้ำดื่มกรองที่พร้อมให้บริการตลอดเวลา ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีการบริการ Wi-Fi ฟรี ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ตลอดเวลา “อวาลอน ลักชัวรี่ สวีท” เป็นสถานที่ที่คุณจะไม่มีวันลืม พร้อมที่จะมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่สบายและหรูหราในการเดินทางบนเรือสำราญ