
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

นิวอัมสเตอร์ดัม
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ท่าเรือแวนคูเวอร์ในบริติชโคลัมเบีย เป็นจุดหมายที่ลงตัวระหว่างความสง่างามในเมืองและการผจญภัยในธรรมชาติ กลางเมืองที่มีภูเขาและทะเลทำให้แวนคูเวอร์กลายเป็นสนามเด็กเล่นกลางแจ้งสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินเขา สกี การพายเรือ และการปั่นจักรยาน พร้อมกันนั้นศิลปะและอาหารที่หลากหลายยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ แวนคูเวอร์ได้รับการจัดอันดับอย่างต่อเนื่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ด้วยบรรยากาศที่สบายและเข้าถึงกิจกรรมกลางแจ้งได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายที่สวยงามหรือสวนสาธารณะที่ร่มรื่น มีนักท่องเที่ยวกว่า 8 ล้านคนเข้ามาสัมผัสความงดงามนี้ในทุกปี ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้หลากสีบานสะพรั่งในสวนสาธารณะ ในขณะที่ผู้คนสามารถใช้เวลาพักผ่อนที่ชายหาดในฤดูร้อน นอกจากนี้เมืองยังมีระบบขนส่งที่สะดวกสบาย ทำให้ผู้ที่พักในย่านราคาย่อมเยาสามารถเข้าถึงใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่ได้สัมผัสการล่องเรืออลาสก้า แวนคูเวอร์เป็นจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และถือเป็นประตูสู่การสำรวจโลกที่งดงามของแคนาดา คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนอีกครั้งอย่างไม่รู้ลืม

จูโน่ (Juneau) เมืองหลวงของรัฐอลาสกา เป็นเพชรเม็ดงามที่ตั้งอยู่บนฝั่งอเมริกาเหนือ ซึ่งนอกจากจะไม่สามารถเดินทางไปยังที่นั่นด้วยถนนได้แล้ว ยังมีภูมิทัศน์ที่งดงามรายล้อมไปด้วยภูเขาสูงและทะเลสาบที่เงียบสงบ เมืองนี้มีขนาดเล็กและมีบรรยากาศเหมือนชุมชนบนเกาะ พร้อมทั้งมีความเป็นเมืองที่ทันสมัย ทั้งพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ร้านอาหารชั้นเลิศ และผู้คนที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ ตลอดการเดินทาง นอกจากการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รัฐอลาสกา ซึ่งกำลังจะเปิดใหม่ในปี 2016 เป็นสถานที่สำคัญสำหรับเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องยังกระโดดเข้าสู่การสำรวจวรรณกรรมพื้นบ้านของชนเผ่าเฮเคน (Tlingit), ไฮดา (Haida) และซิมเซียน (Tsimshian) ที่ศูนย์วอลเตอร์ โซโบเลฟฟ์ (Walter Soboleff Center) สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย สามารถใช้บริการกระเช้าไฟฟ้าที่เขา มอนต์ โรเบิร์ตส์ (Mt. Roberts Tramway) เพื่อชมทิวทัศน์อันงดงามหรือเลือกที่จะพายเรือคายัคในอ่าวเงียบสงบ นอกจากนี้ยังมีธารน้ำแข็งเมนเดนฮอลล์ (Mendenhall Glacier) ที่โด่งดังซึ่งสามารถขับรถเข้าไปถึงได้ นี่คือการเดินทางที่คุณต้องประทับใจตลอดไปในจูโน่ อลาสกา สิ่งที่ซ่อนอยู่ในความสวยงามนี้ รอคอยให้คุณมาค้นพบ!

คอเดียค (Kodiak) ในรัฐอลาสก้าเป็นหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามและคึกคักที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการประมงเชิงพาณิชย์ แม้ว่าจะมีประชากรเพียงประมาณ 6,475 คน กระจายอยู่ในหลายเกาะ แต่ท่าเรือนี้ยังคงเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการจัดหาสินค้าให้กับชุมชนเล็กๆ บนเกาะอะเลอูเตียนและคาบสมุทรอลาสก้า เมื่อเยือนคอเดียค นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเพลิดเพลินกับการตกปลา, พายเรือคายัค หรือชมนกหมีในสถานที่ห่างไกล โดยมีบริการเครื่องบินลอยน้ำและเรือเช่าที่พร้อมสรรพ หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวนอกเมือง ควรลองขับรถยนต์ไปตามระบบถนนที่มีอยู่และสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ก่อนที่จะเพิ่มประสบการณ์อีกระดับด้วยการเดินทางไปยังรีสอร์ทห่างไกลหรือจุดเข้าถึงป่า หากคุณชื่นชอบธรรมชาติ คอเดียคยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นอย่าง Kodiak National Wildlife Refuge ซึ่งประกอบด้วยสี่เกาะในอ่าวอลาสก้า ได้แก่ คอเดียค, อาฟ็อคแนค, แบน และอูกานิค สถานที่นี้เป็นสวรรค์ของผู้รักการดูสัตว์และภาพถ่าย ถือเป็นการผสมผสานระหว่างผจญภัยและความสงบในธรรมชาติอย่างแท้จริง รอคอยให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครได้แล้ววันนี้!


ท่าเรือไอซี่สเตรตพอยต์ (Icy Strait Point) ตั้งอยู่ในเมืองฮูนา (Hoonah) เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้ที่มาเยือนอลาสก้า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาทางเรือสำราญ ตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2004 ท่าเรือนี้ได้ดึงดูดนักเดินทางมากมาย ด้วยความโดดเด่นที่เป็นศูนย์กลางของโรงงานแปรรูปปลาซึ่งได้รับการบูรณะใหม่ ปัจจุบันที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ ร้านงานศิลป์ ตลอดจนร้านอาหารที่จะทำให้คุณได้สัมผัสรสชาติของอาหารทะเลสดใหม่ขณะที่รับชมวิวริมทะเลที่งดงาม หนึ่งในกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นคือการนั่งรอกซิปไลน์ที่ยาวที่สุดในโลก ความยาวถึง 5,330 ฟุต พร้อมกับการหล่นลงจากความสูง 1,300 ฟุต ซึ่งจะมอบประสบการณ์ที่หลากหลายและมุมมองที่สวยงามของภูเขาและมหาสมุทรรอบๆ หากคุณต้องการสัมผัสความสงบ สามารถจองเดินทางด้วยกระเช้าลอยฟ้าไปยังเขา เพื่อเพลิดเพลินกับการเดินป่าแบบสบายๆ และชมทิวทัศน์ที่ตระการตา นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ เช่น การแสดงการเต้นของชาวอะแลสกาที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงการดูหมีและวาฬ สำหรับนักเดินทางที่สามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามของอลาสกา ไอซี่สเตรตพอยต์คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด!

อุทยานแห่งชาติ Glacier Bay ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอลาสกา ทิศตะวันตกของเมืองหลวง Juneau เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มหัศจรรย์ เต็มไปด้วยภูเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ทะเลสาบน้ำแข็ง และความหลากหลายของสัตว์ป่า ที่นี่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการล่องเรือชมปลาวาฬที่ยิ่งใหญ่ในน้ำทะเลใส หรือเดินป่าในเส้นทางที่เชื่อมโยงความงามของธรรมชาติ Glacier Bay ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งอนุรักษ์ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ แต่ยังเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้เข้าไปในโลกแห่งความมหัศจรรย์อีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมธารน้ำแข็งที่ใหญ่โตและสง่างาม อันเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ พร้อมทั้งได้ชมนกอินทรีขี้เหล็กและแมวน้ำในวิถีชีวิตตามธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจนี้ทำให้ Glacier Bay เป็นหนึ่งในประสบการณ์การเดินทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามของธรรมชาติ และต้องการสัมผัสชีวิตที่ใกล้ชิดกับสัตว์ป่าในภูมิประเทศที่อลังการ นับเป็นการเดินทางที่น่าประทับใจและเต็มไปด้วยความทรงจำที่จะอยู่กับคุณตลอดไป

เมืองแวรังเกล (Wrangell) ตั้งอยู่ที่ปลายสุดเหนือของเกาะแวรังเกลในรัฐอลาสก้า เป็นชุมชนที่มีบรรยากาศสงบเงียบ เรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ของการทำไม้และการประมง ที่สำคัญคือ เป็นที่ตั้งของแม่น้ำสติคีน (Stikine River) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือที่ยังไม่ถูกสร้างเขื่อน แม่น้ำแห่งนี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในวิถีชีวิตของชาวเมืองแวรังเกล รวมถึงการเดินทางล่องเรือโดยมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ซึ่งแนะนำประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของการใช้ชีวิตแบบอลาสกัน แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจฐานทรัพยากรจะลดน้อยลง แต่ชาวบ้านที่รักแวรังเกลกำลังพัฒนาการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเทศกาล Bearfest ที่เริ่มจัดขึ้นในปี 2010 เพื่อฉลองความใกล้ชิดกับ Anan Creek ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่ผู้มาเยือนจะได้เห็นหมีสีน้ำตาลและหมีดำอย่างใกล้ชิด ด้วยความที่แวรังเกลตั้งอยู่นอกเส้นทางเรือสำราญใหญ่ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย ไม่มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย แต่ที่นี่มีร้านของขวัญและแกลเลอรีศิลปะที่จำหน่ายงานฝีมือท้องถิ่น ช่วยให้ผู้เดินทางได้สัมผัสกับกลิ่นอายของวัฒนธรรมและความอบอุ่นจากชาวเมืองที่ยินดีต้อนรับทุกคนอย่างใจดี ควรเพิ่มแวรังเกลลงในแผนการเดินทางของคุณเมื่อสำรวจภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอลาสก้า เพื่อหลีกหนีจากฝูงชนและค้นพบเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองนี้ค่ะ

เคติชกัน (Ketchikan) เมืองเล็กแห่งอลาสก้า เป็นจุดหมายที่มีเอกลักษณ์และดึงดูดผู้เข้าชมด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องเสาโทเท็มที่สวยงาม สภาพอากาศที่มีหมอกควัน และถนนที่ชันคล้ายซานฟรานซิสโก ร่วมกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยชาวบ้านที่มีช่วงชีวิตใช้การประมงและการทำไม้ การท่องเที่ยวโดยเรือสำราญหนาแน่นในช่วงฤดูร้อน โดยเรือพาณิชย์และเครื่องบินน้ำมักจะออกจากท่าเรือเพื่อไปยัง Monument Misty Fiords อนาคตของเคติชกันได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย แม้ว่าความเจริญในอุตสาหกรรมการประมงจะลดลง แต่ชุมชนศิลปะที่แอคทีฟยังคงสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาเอกลักษณ์พื้นเมือง นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมร้านค้าต่าง ๆ บริเวณ Creek Street หรือเยี่ยมชมศูนย์มรดกโทเท็ม นอกจากนี้ ยังมีสวนประวัติศาสตร์ Totem Bight และ Saxman Totem Park ที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งเป็นสถานที่ที่ช่วยเล่าเรื่องราวของวัฒนธรรมท้องถิ่น ค่ำคืนที่พิเศษในเคติชกันถือเป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์อันน่าจดจำในดินแดนอลาสก้า ที่ซึ่งธรรมชาติและวัฒนธรรมจะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณตลอดไป
ท่าเรือที่ทรงเสน่ห์แห่งเมือง Prince Rupert ตั้งอยู่บนเกาะ Kaien ริมฝั่งแม่น้ำ Skeena ในบริติชโคลัมเบีย ห่างจากชายแดนอัลลาสกาประมาณ 66 กิโลเมตร เป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งเหนือของแคนาดา ที่นี้โดดเด่นด้วยธรรมชาติอันงดงามที่ล้อมรอบไปด้วยฟยอร์ดและป่าไม้ฝนเขตร้อน ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของชาว Tsimshian ที่มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปี Prince Rupert เคยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางการค้ามหาสมุทรแปซิฟิก เนื่องจากเป็นจุดสิ้นสุดของระบบรถไฟข้ามทวีปแห่งที่สองของแคนาดา แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทำให้แผนการนี้ต้องหยุดชะงักลง โดยในช่วงระยะเวลาหลังจากการก่อตั้งในปี 1910 เมืองนี้ได้เปลี่ยนมาเน้นด้านการประมงและป่าไม้แทน ในปัจจุบัน Prince Rupert เป็นท่าเรือที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือข้ามฟากไปยังบริติชโคลัมเบียและอัลลาสกา และเป็นจุดแวะที่สะดวกสำหรับเรือสำราญผู้มาเยือน ด้วยเสน่ห์ของชีวิตแบบชนบทและการต้อนรับอันอบอุ่น ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความสงบและเป็นกันเองในบรรยากาศที่ไม่เร่งรีบ ช่วยเติมเต็มแรงบันดาลใจในการเดินทางที่ไม่เหมือนใครในทุกฤดูกาล

ท่าเรือแวนคูเวอร์ในบริติชโคลัมเบีย เป็นจุดหมายที่ลงตัวระหว่างความสง่างามในเมืองและการผจญภัยในธรรมชาติ กลางเมืองที่มีภูเขาและทะเลทำให้แวนคูเวอร์กลายเป็นสนามเด็กเล่นกลางแจ้งสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินเขา สกี การพายเรือ และการปั่นจักรยาน พร้อมกันนั้นศิลปะและอาหารที่หลากหลายยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ แวนคูเวอร์ได้รับการจัดอันดับอย่างต่อเนื่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ด้วยบรรยากาศที่สบายและเข้าถึงกิจกรรมกลางแจ้งได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายที่สวยงามหรือสวนสาธารณะที่ร่มรื่น มีนักท่องเที่ยวกว่า 8 ล้านคนเข้ามาสัมผัสความงดงามนี้ในทุกปี ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้หลากสีบานสะพรั่งในสวนสาธารณะ ในขณะที่ผู้คนสามารถใช้เวลาพักผ่อนที่ชายหาดในฤดูร้อน นอกจากนี้เมืองยังมีระบบขนส่งที่สะดวกสบาย ทำให้ผู้ที่พักในย่านราคาย่อมเยาสามารถเข้าถึงใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่ได้สัมผัสการล่องเรืออลาสก้า แวนคูเวอร์เป็นจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และถือเป็นประตูสู่การสำรวจโลกที่งดงามของแคนาดา คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนอีกครั้งอย่างไม่รู้ลืม









ห้องสวีทขนาดกว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่างนี้คือ "巔峰套房" ที่มีความสง่างาม ซึ่งประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร และห้องครัวขนาดเล็กพร้อมไมโครเวฟและตู้เย็น ทุกห้องตั้งอยู่ริมหน้าต่างแบบพื้นจรดเพดาน มองออกไปเห็นระเบียงส่วนตัวที่มีอ่างจากุซซี่ ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซส์ที่เรียกว่า Signature Mariner's Dream™ พร้อมที่นอน Euro-Top นุ่มสบาย มีห้องแต่งตัวแยกออกมา และห้องน้ำมีอ่างจากุซซี่ขนาดใหญ่และฝักบัว รวมถึงห้องอาบน้ำเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน ที่นั่งโซฟาที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงนอนได้เหมาะสำหรับรองรับแขก 2 คน พร้อมด้วยห้องน้ำสำหรับแขกอีกห้องหนึ่ง ภายในห้องยังมาพร้อมกับระบบเพลงส่วนตัว การเข้าถึง Neptune Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์ บริการคอนเซียร์จส่วนตัว และบริการฟรีมากมาย โดยรวมพื้นที่ประมาณ 1357 ตารางฟุต รวมระเบียงด้วย





ห้องสวีท海王星套房ที่โดดเด่นนี้มีหน้าต่างบานจากพื้นจรดเพดานซึ่งเปิดวิวไปยังระเบียงส่วนตัว ทำให้ห้องนี้เต็มไปด้วยแสงสว่าง ห้องสวีทนี้มีขนาดกว้างขวางพร้อมพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ และเตียงขนาดควีนไซส์ที่สามารถแปลงเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ได้ ซึ่งเป็นที่นอนในแบบ Mariner's Dream™ ที่มีฟูกพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีมุมแต่งตัวแยกต่างหาก และโซฟาเบดที่สามารถรองรับผู้เข้าพักได้สองคน ห้องน้ำได้รับการออกแบบอย่างหรูหรา พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำและฝักบัวขนาดใหญ่ ถึงสองจุด โดยมีเคาน์เตอร์สองอ่างเพื่อความสะดวกสบายสำหรับผู้เข้าพัก สิ่งอำนวยความสะดวกเสริมรวมถึงการใช้บริการห้องพัก Neptune Lounge และบริการคอนเซียร์จส่วนตัว พร้อมบริการต่างๆ ที่เป็นของขวัญ ไม่รวมถึงการปรับแต่งห้องสวีทตามภาพที่แสดงไว้ ขนาดรวมของห้องพักประมาณ 506-590 ตารางฟุต รวมระเบียง.






ห้องพักประเภท "ห้องสวีทสปาเนปจูน" นี้มีขนาดกว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ ด้วยหน้าต่างจากพื้นจรดเพดานที่เปิดรับวิวสวยงาม พร้อมระเบียงส่วนตัว พื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ และห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าคู่ อ่างจากุซซี่ และฝักบัวเพิ่มเติม นอกจากนี้ ห้องยังประกอบด้วยเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์สไตล์ Mariner's Dream™ ของเรา ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีโซฟาเบดสำหรับอีกหนึ่งท่านด้วย ห้องสวีทนี้มีพื้นที่ประมาณ 506-590 ตารางฟุต รวมถึงระเบียง รอให้คุณได้สัมผัสและเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนอย่างแท้จริงในระหว่างการเดินทางของคุณ




ห้องสวีทขนาดใหญ่ที่สะดวกสบายนี้มาพร้อมกับพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวางที่มีหน้าต่างสูงถึงพื้นซึ่งเปิดมองออกไปยังระเบียงส่วนตัว ห้องนอนมีเตียงคู่สองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ตามแบบฉบับของเรา—เตียง Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมที่นอน Euro-Top อันนุ่มสบาย และเตียงเมอร์ฟีย์สำหรับอีกหนึ่งคน ห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าที่มีสองอ่าง อ่างอ่างจากุซซี่ขนาดเต็ม และฝักบัวแยกเพิ่มเติม ขนาดประมาณ 273-456 ตารางฟุต รวมถึงระเบียง ห้องสวีทนี้จึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนอย่างหรูหราในระหว่างการเดินทางของคุณ




ห้องสเตเตอร์รูม "陽台" นี้เต็มไปด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างกระจกที่สูงจากพื้นถึงเพดาน ซึ่งมองออกไปเห็นระเบียงส่วนตัว ห้องนี้มีพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย และเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถแปลงเป็นเตียงควีนไซส์หนึ่งเตียง ซึ่งเป็นเตียงที่มีชื่อเสียงของเรา "Mariner's Dream™" ที่มาพร้อมกับฟูก Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม ห้องมีขนาดประมาณ 213–379 ตารางฟุตรวมระเบียง โดยการจัดเรียงห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ ขอต้อนรับคุณสู่ความสะดวกสบายและความหรูหราที่ห้องสเตเตอร์รูมของเรา




ห้องพักประเภทน้ำสปา (Water Spa Stateroom) เป็นห้องพักที่มอบความสุขผ่อนคลายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสปา เช่น เสื่อโยคะและการเข้าถึงบริการสปาจาก Greenhouse Spa & Salon ห้องพักนี้มีแสงสว่างส่องเข้าจากหน้าต่างบานใหญ่ที่ยาวจากพื้นจรดเพดาน พร้อมทิวทัศน์สวยงามของระเบียงส่วนตัว อีกทั้งยังมีพื้นที่นั่งเล่น สองเตียงขนาดเล็กที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์—เตียงนอนนุ่มสบาย Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม ห้องพักมีขนาดประมาณ 213–379 ตารางฟุต รวมทั้งระเบียง โดยการจัดวางภายในห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง.



ห้องพักประเภท "วิวทะเล" เป็นห้องพักขนาดใหญ่ที่มอบความสะดวกสบายและวิวทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจ ห้องพักนี้มีเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงขนาดคิงส์ได้ โดยใช้ที่นอน Mariner's Dream™ ยอดนิยมที่มีความนุ่มสบายสุดพิเศษ พร้อมด้วยฝักบัวนวดระดับพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้การพักผ่อนของคุณเต็มไปด้วยความสุข ห้องพักนี้มีขนาดประมาณ 169-267 ตารางฟุต ซึ่งทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศและวิวที่งดงามอย่างแท้จริง



ห้องพักที่กว้างขวางนี้มีเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงคิงไซส์ พร้อมกับเตียงที่นุ่มสบายในแบบ Signature Mariner's Dream™ ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดคุณภาพสูงและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมวิวมหาสมุทรที่งดงาม ห้องน้ำมีขนาดประมาณ 169-267 ตารางฟุต การจัดเรียงของห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ หรือเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนในห้องน้ำที่คอยดูแลความสะดวกสบายของคุณในทุกๆ ช่วงเวลา

ห้องพักประเภท Water Spa Interior สะท้อนถึงความหรูหราที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการผ่อนคลายอย่างแท้จริง ห้องพักขนาดประมาณ 141-284 ตารางฟุต มาพร้อมเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมด้วยที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่นุ่มสบาย และฝักบัวนวดพรีเมียม เพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ยอดเยี่ยม ห้องพักนี้ยังมีอุปกรณ์เพื่อสุขภาพ เช่น เสื่อโยคะ และสถานีเชื่อมต่อ iPod® รวมทั้งการเข้าถึงบริการต่างๆ จาก Greenhouse Spa & Salon เพื่อเติมเต็มความสุขให้กับการเข้าพักของคุณ ความสะดวกสบายและการดูแลเอาใจใส่นี้ จะช่วยให้คุณได้ลิ้มลองประสบการณ์การเดินเรือที่ไม่เหมือนใครในห้องพัก Water Spa Interior ของเรา



ห้องพักประเภทภายในนี้มีขนาดกว้างขวางประมาณ 141-284 ตารางฟุต มาพร้อมกับเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงคิงไซส์ "Mariner's Dream™" ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยที่นอน Euro-Top ที่ให้ความนุ่มนวลและสะดวกสบาย ห้องพักยังมีฝักบัวนวดระดับพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่จะทำให้การเข้าพักของคุณเต็มไปด้วยความรื่นรมย์และผ่อนคลาย ความแตกต่างของการจัดวางภายในห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ แต่รับรองว่าทุกห้องเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและมีเสน่ห์ที่รอให้คุณสัมผัส.