
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Nieuw Statendam
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์

ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!

เมื่อพูดถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนอาจนึกถึงภาพของคลองสวยงามและมิลล์ลที่เคลื่อนตัวไปตามลม แต่ถ้าคุณเยี่ยมชมที่ท่าเรือรอตเตอร์ดัม คุณจะได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของความงดงามและเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากเดิม รอตเตอร์ดัมคือเมืองที่รวมเอาความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่เป็นหนึ่งในท่าเรือที่วุ่นวายที่สุดในโลก เมื่อคุณเดินทางมายังรอตเตอร์ดัม นอกจากการสำรวจท่าเรืออันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สัมผัส เริ่มจากสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัย ที่สามารถพบเห็นได้ตามตึกสูงต่างๆ เช่น 'Euromast' ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ชมวิวเมืองจากมุมสูง นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ Boijmans Van Beuningen ที่นำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง นอกจากเรื่องวัฒนธรรมแล้ว รอตเตอร์ดัมยังเป็นสวรรค์สำหรับนักชิม ด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เสิร์ฟเมนูต้นตำรับจากเนเธอร์แลนด์และนานาชาติ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชิมที่หลากหลาย พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เยี่ยมชมรอตเตอร์ดัม เพื่อค้นพบความงามในรูปแบบใหม่ๆ เสพสุขไปกับการเดินทางที่น่าจดจำในเมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจนี้

เมืองอาเลซุนด์ (Ålesund) ตั้งอยู่ในเขตมอร์เรอ และ รอมส์ดาล (Møre og Romsdal) เป็นท่าเรือที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรม เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นราชธานีทางการค้าริมชายฝั่ง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในความงดงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ยูเจนด์สติล (Jugendstil) หรืออาร์ตนูโว ซึ่งบางคนยกให้เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของนอร์เวย์ เมืองอาเลซุนด์ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1904 ซึ่งทำให้มีบ้านเรือนถูกทำลายไปถึง 800 หลัง และประชาชนต้องไร้ที่อยู่อาศัยถึง 10,000 คน การสร้างใหม่ในครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจจากสถาปนิกหนุ่มต่างชาติที่นำสไตล์เยอรมันและรากเหง้าของชาวไวกิ้งมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้ถนนแคบๆ ในเมืองเต็มไปด้วยอาคารที่มียอดแหลมต่างๆ พร้อมการตกแต่งรูปหัวมังกรและลวดลายที่งดงาม นอกจากนี้อาเลซุนด์ยังเป็นหนึ่งในเมืองอาร์ตนูโวที่เหลืออยู่ไม่กี่เมืองในโลก และในปี 1998 เมืองนี้ได้รับรางวัล Houens National Memorial Prize เพื่อเป็นการยกย่องความพยายามในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์แห่งนี้ หากคุณได้มีโอกาสเยี่ยมชมเมืองอาเลซุนด์แล้ว จะรู้สึกถึงความงดงาม และเสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน


ทรอนด์ไฮม์ (Trondheim) หนึ่งในเมืองเก่าแก่ของสแกนดิเนเวียที่เคยเป็นเมืองหลวงแรกของนอร์เวย์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 997 จนถึง 1380 เมืองที่ก่อตั้งโดยราชานอร์เวย์ โอลาฟ ทรียกวาเซน (Olav Tryggvason) นี้เดิมมีชื่อว่า นิดารอส (Nidaros) ซึ่งยังคงเป็นชื่อของมหาวิหารที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำนิดเอลวา (Nidelva) และปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของนอร์เวย์และอันดับสามในประเทศ ด้วยประชากรประมาณ 150,000 คน ในใจกลางเมืองแห่งนี้ ถนนถูกจัดเรียงอย่างกว้างขวางไปด้วยบ้านไม้ที่ทาสีสันสดใสและคลังสินค้าที่ล้วนมีเสน่ห์ดึงดูด ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง พร้อมกันนี้ยังเป็นที่ตั้งของ NTNU (มหาวิทยาลัยนอร์เวย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ซึ่งทำให้ทรอนด์ไฮม์กลายเป็นเมืองหลวงทางด้านเทคโนโลยีของนอร์เวย์ สัมผัสประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาและสนุกสนานไปกับเสน่ห์ของเมืองศิลปะและนวัตกรรม พร้อมเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากแม่น้ำและชนบทที่ล้อมรอบ เป็นประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในการเดินทางมายังทรอนด์ไฮม์เมืองที่มีทั้งอดีตและอนาคตอันสดใส!

ในประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือ Honningsvåg เป็นประตูสู่การผจญภัยที่ไม่เหมือนใครบนแผ่นดินยุโรปเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเยือน Nordkapp หรือ North Cape ซึ่งเป็นจุดที่อยู่เหนือสุดของทวีปยุโรป การเดินทางจาก Honningsvåg ไปยัง Nordkapp ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร โดยมีทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของทุ่งหญ้าทุนดราและกวางเรนเดียร์ที่เดินกินหญ้าในทุ่งที่เป็นหิน ซึ่งจะมีการรวมฝูงกวางเป็นประจำทุกฤดูใบไม้ผลิ Honningsvåg ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Magerøya เป็นหมู่บ้านประมงที่ให้บรรยากาศอบอุ่น พร้อมมีจุดชมวิวที่ช่วยให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน การสำรวจ Nordkapp ไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสพื้นที่ที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังเป็นการชวนให้ผู้คนเคารพต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการเดินทางตามเส้นทางที่กำหนดและไม่สร้างความเสียหายให้กับธรรมชาติ สำหรับผู้ที่มาฤดูหนาว การเข้าถึง Nordkapp จะต้องใช้รถ Sno-Cat เพื่อย้ายผ่านภูมิประเทศที่ปกคลุมด้วยหิมะ สร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในภายหลัง การเดินทางสู่ Honningsvåg และ Nordkapp จึงเป็นประสบการณ์ที่พร้อมจะเติมเต็มความฝันให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจในความงามและความมหัศจรรย์ของอาร์กติก

ท่าเรือทรอมโซ (Tromsø) ตั้งอยู่บนเกาะทรอมโซ เป็นเมืองที่ใหญ่กว่ากรุงออสโลถึงห้าเท่า และยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่เหนือสุดของโลก ที่นี่อยู่ห่างจากวงกลมอาร์กติกเพียง 200 ไมล์ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "ประตูสู่อาร์กติก" ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 19 เมืองนี้เคยเป็นฐานที่ตั้งสำหรับนักสำรวจในการนำทางล่าสัตว์ในเขตอาร์กติก เช่น หมาป่าทางเหนือ และหมีขั้วโลก ปัจจุบัน ทรอมโซยังสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์อันสำคัญนี้ได้ที่พิพิธภัณฑ์โพลาร์ (Polar Museum) ในระหว่างการเยี่ยมชม เราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวซามี (Sami) ที่พิพิธภัณฑ์ทรอมโซ (Tromsø Museum) ที่นี่ยังมีความงามของสถาปัตยกรรมทั้งเก่าและใหม่ โดยเฉพาะโบสถ์อาร์กติก (Arctic Cathedral) ที่เป็นเอกลักษณ์ มองออกไปเห็นภูเขาสโตร์สเตน (Mount Storsteinen) ที่มีรถกระเช้าขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองได้อย่างงดงาม การเดินทางมายังท่าเรือทรอมโซจึงไม่เพียงเป็นการพบปะกับธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังเป็นการสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งอีกด้วย มาร่วมเริ่มต้นการผจญภัยที่นี่กันเถอะ!

เลคเนส (Leknes) เมืองท่าที่งดงามแห่งหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ของนอร์เวย์ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ความงดงามที่นี่มีมากมาย ตั้งแต่เขาหินสูงชัน ลำธารที่ไหลริน และฟยอร์ดที่เงียบสงบ ไปจนถึงชายหาดทรายขาวสวยสะอาด น้อยนักที่จะมีเมืองใดในนอร์เวย์ที่สามารถเปรียบเทียบกับเลคเนสได้ในการนำเสนอภาพธรรมชาติที่สวยงาม การเยี่ยมชมในช่วงกลางคืนก็จะได้สัมผัสกับแสงอาทิตย์ที่ไม่เคยตกดินตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคมถึง 17 กรกฎาคม ซึ่งสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่มีกิจกรรมหลากหลายให้เลือก เช่น การล่องเรือรอบหมู่เกาะ การตกปลาในทะเลลึก หรือแม้แต่การปั่นจักรยานสำรวจเมืองในแบบที่คุณต้องการ คุณสามารถเช่าจักรยานได้ง่ายดาย และจักรยานไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่อาจไม่คุ้นเคยกับการปั่น โดยเฉพาะหลังจากเพลิดเพลินกับอากาศสดชื่น อย่าลืมลิ้มลอง "สกิลลิงโบลเล่" ขนมอบกลิ่นซินนามอนที่อร่อยและฟู นี่คือความแปลกใหม่ที่ศูนย์กลางเมืองเลคเนสจะนำเสนอให้กับคุณ พร้อมเสพความสุขกับคาเฟ่สุดน่ารัก สัมผัสกับบรรยากาศนอร์เวย์และกล่าวขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่คุ้มค่า!

ท่าเรือ Skjolden ที่ตั้งอยู่ในนอร์เวย์ เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักเดินทางที่เสาะแสวงหาความงามของธรรมชาติที่ไม่มีที่ไหนเทียบได้ ในบรรยากาศของฟยอร์ดที่สวยงาม ท่ามกลางภูเขาที่สูงตระหง่านและหุบเขาน้ำแข็งแสนบริสุทธิ์ คุณจะได้พบกับเกาะ Skjoldungen ที่ยังไม่ถูกตั้งรกราก เป็นผืนดินที่ซ่อนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความงามของนอร์เวย์อย่างแท้จริง การเดินทางมายัง Skjolden ไม่เพียงให้คุณสัมผัสกับทัศนียภาพที่งดงาม แต่ยังมีโอกาสมองเห็นสัตว์ป่าที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นแมวน้ำเครา, วาฬออร์กาป่า หรือแม้กระทั่งนกท้องถิ่นอย่างนกคอแดงและนกกา โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ที่ความหลากหลายทางชีวภาพจะทำให้คุณต้องตะลึง นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นหรือลงเล่นกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย เสน่ห์แห่งธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของพื้นที่นี้รอคุณมาสำรวจกันอยู่ เชิญคุณมาสัมผัสความสุขอันแสนวิเศษที่ Skjolden และปล่อยให้ใจคุณกว้างไกลไปกับการเดินทางที่นั่น!

เลย์ร์วิค (Leirvik) เป็นหนึ่งในท่าเรือที่น่าหลงใหลที่สุดของนอร์เวย์ ที่ตั้งอยู่ในเขตออสโลฟยอร์ด ซึ่งเป็นประตูสู่ธรรมชาติที่งดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลายของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรือสำราญแวะจอดที่นี่ ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์อันตระการตาของภูเขาและน้ำทะเลสีฟ้าคราม เมืองเลย์ร์วิคมีความเงียบสงบแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ด้วยบ้านเรือนสีสันสดใสที่สร้างอยู่ริมทะเล สถานที่ที่ไม่ควรพลาดคือวิหารเซนต์ลอว์เรนซ์ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามและมีประวัติยาวนาน อีกทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่แสดงถึงวัฒนธรรมและประเพณีของพื้นที่ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถลองกิจกรรมกลางแจ้งที่น่าตื่นเต้น เช่น การเดินป่าหรือปั่นจักรยานในเส้นทางธรรมชาติที่มีให้เลือกหลากหลาย เสริมสร้างประสบการณ์ที่มั่นใจว่าจะทำให้ความทรงจำในนอร์เวย์ของคุณไม่รู้ลืม หากคุณต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายและดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เงียบสงบของทะเลเหนือ เลย์ร์วิคพร้อมจะทำให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ค้นพบการผจญภัยที่ไม่เหมือนใครในดินแดนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความงามของธรรมชาติสุดวิเศษทางตอนเหนือของยุโรปนี้!

เลอร์วิค เมืองเล็กที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่บนหมู่เกาะเชตแลนด์ (Shetland Islands) ของสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าเข้าสู่ท่าเรือที่มีชีวิตชีวานี้ เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นโดยชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 และยังคงรักษาความงามของอาคารหินที่เรียกว่า "ล๊อดเบอรีส์" ซึ่งเป็นสถานที่ขนส่งสินค้าที่สำคัญในอดีต นี่คือเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนและสะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ เมื่อเดินเรือเข้าท่าเลอร์วิค คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือที่ปัจจุบันยังมีความคึกคัก ด้วยถนนที่ปูด้วยแผ่นหินและวิวชายฝั่งที่งดงาม ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจความงามของเชตแลนด์ สำหรับนักเดินทางที่มาเยือน ยังมีโอกาสได้พบปะกับวัฒนธรรมชาวเซลติก ที่สำคัญ และการชมธรรมชาติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่ป่าเขียวขจีหรือสัตว์ป่าในท้องถิ่น ด้วยความเพลิดเพลินและน่าหลงใหลที่เลอร์วิคมอบให้ คุณจะได้สัมผัสกับการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร คอยต้อนรับความตื่นเต้นในทุกขั้นตอนของการสำรวจสมบัติที่ซ่อนอยู่ในภูมิภาคนี้
ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!

เมื่อพูดถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนอาจนึกถึงภาพของคลองสวยงามและมิลล์ลที่เคลื่อนตัวไปตามลม แต่ถ้าคุณเยี่ยมชมที่ท่าเรือรอตเตอร์ดัม คุณจะได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของความงดงามและเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากเดิม รอตเตอร์ดัมคือเมืองที่รวมเอาความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่เป็นหนึ่งในท่าเรือที่วุ่นวายที่สุดในโลก เมื่อคุณเดินทางมายังรอตเตอร์ดัม นอกจากการสำรวจท่าเรืออันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สัมผัส เริ่มจากสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัย ที่สามารถพบเห็นได้ตามตึกสูงต่างๆ เช่น 'Euromast' ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ชมวิวเมืองจากมุมสูง นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ Boijmans Van Beuningen ที่นำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง นอกจากเรื่องวัฒนธรรมแล้ว รอตเตอร์ดัมยังเป็นสวรรค์สำหรับนักชิม ด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เสิร์ฟเมนูต้นตำรับจากเนเธอร์แลนด์และนานาชาติ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชิมที่หลากหลาย พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เยี่ยมชมรอตเตอร์ดัม เพื่อค้นพบความงามในรูปแบบใหม่ๆ เสพสุขไปกับการเดินทางที่น่าจดจำในเมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจนี้

ท่าเรือควีนส์เฟอรี (Queensferry) ตั้งอยู่ในสกอตแลนด์ เป็นประตูสู่การผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจในเชื่อมต่อไปยังเมืองเอดินเบอระและแหล่งท่องเที่ยวอันน่าทึ่งในบริเวณรอบข้าง ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดจอดเรือสำราญ แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตที่งดงาม ท่าเรือควีนส์เฟอรีเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของสะพานฟอร์ธ (Forth Bridge) ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก สะพานนี้ไม่เพียงแต่มีความสวยงาม ยังเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในยุคแรกอีกด้วย นักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ยังสามารถสำรวจเมืองควีนส์เฟอรีซึ่งมีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลฟอร์ธ ที่นี่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น ปราสาทเอดินเบอระ หรือแม้กระทั่งฟาร์มอูฐที่มีชื่อเสียง ท่าเรือควีนส์เฟอรีจึงอุดมไปด้วยประสบการณ์ที่หลากหลาย ทั้งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอให้คุณมาสัมผัสและสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืม สถานที่แห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมสำหรับนักเดินทางทุกคน

ยินดีต้อนรับสู่เมืองเคิร์ควอลล์ ซึ่งเป็นเมืองหลักของหมู่เกาะออร์คนีย์ที่สกอตแลนด์ สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวประวัติศาสตร์ในทุกซอกมุม ด้วยถนนเล็ก ๆ ที่คดเคี้ยวและบรรยากาศที่คึกคัก ความประทับใจแรกเมื่อเข้าเมืองคือโบสถ์คันทาร์เบอรี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์มากมายที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของออร์คนีย์ การเดินเล่นในย่านเก่าแก่ของเคิร์ควอลล์จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามแห่งทัศนียภาพที่ทอดยาวไปยังท่าเรือและท้องทะเลที่สดใส เรือสำราญที่แวะมาที่นี่จะมอบโอกาสให้คุณได้สำรวจร้านค้าและคาเฟ่ท้องถิ่น พร้อมด้วยสิ่งของที่ระลึกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ นอกจากเคิร์ควอลล์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ชายหาดที่สวยงามและแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียง ผู้เดินทางสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำ ในขณะที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์และการต้อนรับที่อบอุ่นจากชาวออร์คนีย์ สัมผัสความมหัศจรรย์นี้ในครั้งต่อไปเมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่เคิร์ควอลล์และคอยต้อนรับความฝันแห่งการเดินทาง!

เลอร์วิค เมืองเล็กที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่บนหมู่เกาะเชตแลนด์ (Shetland Islands) ของสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าเข้าสู่ท่าเรือที่มีชีวิตชีวานี้ เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นโดยชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 และยังคงรักษาความงามของอาคารหินที่เรียกว่า "ล๊อดเบอรีส์" ซึ่งเป็นสถานที่ขนส่งสินค้าที่สำคัญในอดีต นี่คือเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนและสะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ เมื่อเดินเรือเข้าท่าเลอร์วิค คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือที่ปัจจุบันยังมีความคึกคัก ด้วยถนนที่ปูด้วยแผ่นหินและวิวชายฝั่งที่งดงาม ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจความงามของเชตแลนด์ สำหรับนักเดินทางที่มาเยือน ยังมีโอกาสได้พบปะกับวัฒนธรรมชาวเซลติก ที่สำคัญ และการชมธรรมชาติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่ป่าเขียวขจีหรือสัตว์ป่าในท้องถิ่น ด้วยความเพลิดเพลินและน่าหลงใหลที่เลอร์วิคมอบให้ คุณจะได้สัมผัสกับการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร คอยต้อนรับความตื่นเต้นในทุกขั้นตอนของการสำรวจสมบัติที่ซ่อนอยู่ในภูมิภาคนี้

ท่าเรือ Portree บนเกาะ Skye ในสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์อันโรแมนติกและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เกาะ Skye เป็นที่รู้จักในเรื่องของภูเขา Cuillin ที่มายืมความสวยงามแบบธรรมชาติ ตั้งอยู่ใกล้กับแผ่นดินใหญ่ ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการค้นหาความลึกลับและมนต์เสน่ห์ของภูเขาและทะเล การได้ชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ เป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยเฉพาะแสงสีทองที่สาดส่องจนค่อนคืน นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจเกาะได้อย่างง่ายดายด้วยถนนสายหลักที่ห้อมล้อมขึ้นทางเหนือและใต้ของเกาะ ประเด็นเด่นคือบ้านเก่าแก่ที่บางหลังยังมีผู้อาศัย ซึ่งมีผนังหินหนาและหลังคาหญ้าตามที่เห็นในภาพถ่ายที่หลากหลาย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง มีเส้นทางที่สวยงามของ Sleat Peninsula ที่เชื่อมโยงทิวทัศน์อันสะกดตา จนท่านต้องเพลิดเพลินไปกับการขับรถไปทั่วทั้งเกาะ Portree ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญ ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยในธรรมชาติที่แท้จริง ที่จะเติมเต็มจิตวิญญาณของนักเดินทางทุกคน ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสงบและความงามที่น่าอัศจรรย์ เกาะ Skye คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในชีวิตของคุณ
Killybegs เมืองชายฝั่งที่เงียบสงบในแคว้น Donegal ของไอร์แลนด์ เป็นเมืองตกปลาอันดับหนึ่งของประเทศ ที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศสดชื่นและอากาศทะเลที่เย็นสบาย ซึ่งดึงดูดให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับเสน่ห์ของการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เรือประมงที่เรียงรายอยู่ริมท่าเรือพร้อมล่องไปในรุ่งเช้า เป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจในช่วงต้นวัน Killybegs ยังเป็นประตูสู่ทัศนียภาพชายฝั่งที่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นการชมประภาคารขาวสะอาดที่คอยเตือนภัยแก่เรือในทะเล หรือการเดินเล่นไปตามชายฝั่งอันตื่นตาตื่นใจ ขึ้นไปชมความงามของ Slieve League ที่ตั้งตระหง่าน ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตก ตรงนี้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความตื่นเต้นเมื่อได้มองเหล่าผาสูงชันที่ดิ่งลงสู่ทะเล ใน Killybegs คุณจะได้พบกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่บรรยากาศการตกปลาจริง ไปจนถึงการสำรวจธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ หากคุณกำลังมองหาจุดหมายที่น่าพิสูจน์ และสัมผัสการเดินทางที่ไม่ธรรมดา Killybegs คือคำตอบสำหรับคุณในการผจญภัยครั้งหน้าในไอร์แลนด์
เกรนแคสเทิล (Greencastle) คือท่าเรือที่งดงามตั้งอยู่ริมชายฝั่งของไอร์แลนด์เหนือ เป็นจุดพักผ่อนอันสมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความสงบและความสวยงามทางธรรมชาติที่โดดเด่นที่นี่ เกรนแคสเทิลตั้งอยู่ใกล้กับอ่าวลอนส์เดล (Lough Foyle) สถานที่นี้ไม่เพียงแค่เป็นท่าเรือที่เปิดรับเรือสำราญที่มีระดับ แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันหลากหลายของไอร์แลนด์ การสำรวจเกรนแคสเทิล คุณจะได้พบกับปราสาทเก่าแก่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สื่อถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงการเดินทางชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาและทะเล สิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือการลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่จากท้องถิ่น ที่มีทั้งรสชาติอร่อยและคุณภาพดี นอกจากนี้ เกรนแคสเทิลยังอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น คาร์ริกฟิน (Carrick-a-Rede) และถ้ำดันลูซ (Dunluce Castle) ซึ่งทั้งสองสถานที่นี้เติมเต็มประสบการณ์การเดินทางที่ไม่รู้ลืมให้กับคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยหรือผู้รักศิลปวัฒนธรรม ที่เกรนแคสเทิลมีทุกอย่างที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและความทรงจำตลอดไป เชิญสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในดินแดนแห่งเวทมนตร์นี้กันเถอะ!


ฮอลีเฮด (Holyhead) เมืองท่าแห่งประวัติศาสตร์ในประเทศเวลส์ เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางที่ต้องการสำรวจประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่สวยงาม เมืองนี้เคยเป็นฐานป้องกันทางเหนือจากการจู่โจมของผู้บุกรุกชาวไอริช และในปัจจุบันมีชื่อเสียงในฐานะท่าเรือเฟอร์รี่ออกสู่ประเทศไอร์แลนด์ ด้วยบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาบริเวณท่าเรือ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความเคลื่อนไหวของการคมนาคมที่คึกคัก แม้ฮอลีเฮดจะมีประชากรเพียงเล็กน้อย แต่กลับเต็มไปด้วยซากโบราณสถานที่บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์อันยาวนานที่รอให้ค้นพบ คุณสามารถสำรวจสถานที่สำคัญต่าง ๆ ที่มีความเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของพื้นที่ได้อย่างน่าสนใจ นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ ยังมีเส้นทางเดินป่าที่เป็นมิตรกับนักเดินทาง ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม ลมทะเลและวิวชายฝั่งจะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคน เต็มไปด้วยความสุขที่ทุกคนจะประทับใจ ฮอลีเฮด จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักการผจญภัยและสำรวจความงามของประเทศเวลส์

เมื่อเรือสำราญของคุณแล่นเข้าสู่ท่าเรือคอร์ก (Cork) ในไอร์แลนด์ คุณจะได้สัมผัสกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลซึ่งสืบทอดมายาวนานตั้งแต่ปี 1185 คอร์กมีชื่อมาจากคำว่า “corcaigh” ซึ่งหมายถึง “สถานที่ที่มีน้ำท่วม” อดีตเคยเป็น settlement ในศตวรรษที่ 6 ที่กระจายอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ถึง 13 เกาะในแม่น้ำลี (River Lee) ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในศตวรรษที่ 17 และ 18 เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนที่สวยงาม ซึ่งมีหน้าต่างโค้งกว้างให้คุณได้ชมความงาม อีกทั้งยังมีศูนย์กลางการค้ามากมายที่ตั้งอยู่บนเกาะทำให้มีสะพานและท่าเรือที่หลากหลาย สร้างเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร คอร์กเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเป็นไอริช ทั้งกีฬาเฮอร์ลิง, ฟุตบอลเกลิค, ผับที่มีดนตรีสด และการแข่งขันสรีรศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยคุณอาจได้เห็นฮิปปี้ ชาวเกย์ และเกษตรกรนั่งดื่มที่ผับเดียวกัน สัมผัสเมืองที่ให้บรรยากาศเป็นกันเองและต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความอบอุ่น เปลี่ยนเส้นทางการเดินทางของคุณให้น่าจดจำในท่ามกลางความงดงามของคอร์ก วันที่คุณมาที่นี่ คุณจะไม่เพียงแค่เยี่ยมชมเมือง แต่ยังรู้สึกถึงชีวิตและวัฒนธรรมที่เปี่ยมไปด้วยสีสันที่น่าหลงใหลอีกด้วย
ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!




ห้องสวีทสุดหรูที่เรียกว่า "巔峰套房" นี้มีขนาดใหญ่และสว่างสดใส เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอย่างแท้จริง ภายในห้องมีพื้นที่ที่ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวขนาดเล็กพร้อมไมโครเวฟและตู้เย็น โดยเฉพาะหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัวที่มีอ่างน้ำวน ในห้องนอนมีเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์คือเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมที่นอน Euro-Top นุ่มสบาย ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างน้ำวนขนาดใหญ่และฝักบัว รวมถึงห้องอาบน้ำเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดที่รองรับได้ถึงสองคน และห้องน้ำสำหรับแขก ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยระบบเสียงส่วนตัว การใช้บริการ Neptune Lounge ที่มีเอกสิทธิ์ บริการสาวบริการส่วนตัว และบริการฟรีที่หลากหลาย ห้องสวีทนี้มีพื้นที่ประมาณ 1,290 ตารางฟุตรวมถึงระเบียง สัมผัสชีวิตที่หรูหราบนเรือสำราญของคุณด้วย "巔峰套房" ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเป็นที่น่าจดจำอย่างเป็นพิเศษ

ห้องสวีทที่มีชื่อว่า "ห้องสวีทเนปจูน" เป็นห้องกว้างขวางที่มีหน้าต่างตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว ได้รับแสงสว่างธรรมชาติอย่างเต็มที่ ภายในห้องมีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่และเตียง 2 เตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียงแบบ "Mariner's Dream™" ที่มีเนื้อที่หนานุ่ม ให้ความสะดวกสบายสูงสุด ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบวอเตอร์เจ็ต ขนาดเต็ม พร้อมที่นั่งอาบน้ำแยกต่างหาก และอ่างล้างหน้าแบบคู่ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น การเข้าถึง Neptune Lounge ส่วนตัว และการบริการจากผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมบริการอื่น ๆ ที่ให้ฟรี ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 465-502 ตารางฟุต รวมระเบียงด้วย

ห้องสวีทที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่างนี้มาพร้อมกับหน้าต่างจากพื้นจรดเพดาน พื้นที่ระเบียงส่วนตัว และโซนนั่งเล่นที่กว้างขวาง พร้อมห้องน้ำที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวอาบน้ำ พร้อมฝักบัวเพิ่มเติม ห้องสวีทนี้ประกอบด้วยเตียงเดี่ยวสองเตียงที่สามารถแปลงเป็นเตียงคิงไซส์ได้—เตียง Mariner's Dream™ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเราพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีโซฟาที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงสำหรับหนึ่งคน ห้องนี้มีขนาดประมาณ 465-502 ตารางฟุต รวมบริเวณระเบียง ทำให้เป็นที่พักที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนที่หรูหราในขณะล่องเรือ.

ห้องพักประเภท "ห้องสวีทลายเซ็น" มีขนาดกว้างขวางและสะดวกสบาย ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางพร้อมหน้าต่างแบบเต็มความสูงที่มองออกไปยังระเบียงส่วนตัว ห้องนี้มีเตียงสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ซึ่งเป็นเตียงที่ได้รับการออกแบบพิเศษ Mariner's Dream™ พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีเตียงมัรฟีสำหรับผู้เข้าพักอีกหนึ่งคน ห้องน้ำที่อยู่ภายในประกอบด้วยอ่างล้างหน้าสองหลุม อ่างจากุซซี่ขนาดเต็ม และมีห้องอาบน้ำเพิ่มเติมอีกหนึ่งห้อง รวมพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประมาณ 393-400 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงส่วนตัวอีกด้วย

ห้องชุดวิวตกแต่งด้วยไม้สัก มีระเบียงขนาดกว้างพร้อมหน้าต่างจากพื้นจดเพดาน และพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย ห้องชุดเหล่านี้เต็มไปด้วยแสงสว่างและมีเตียงขนาดคิงไซส์ที่สามารถแปลงเป็นเตียงคู่สองเตียง ซึ่งเป็นเตียงที่มีชื่อเสียงของเรา "Mariner's Dream™" ที่มีที่นอน Euro-Top นุ่มสบาย พร้อมด้วยฝักบัวที่มีหัวนวดคุณภาพระดับพรีเมียม และตู้เย็น ห้องชุดนี้มีขนาดประมาณ 260-356 ตารางฟุต รวมระเบียง การจัดเรียงของห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้

ห้องพักประเภท "ห้องสเตทหรูพร้อมระเบียงด้านหลังและวิวที่ถูกบัง" นี้เต็มไปด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว ภายในห้องมีพื้นที่นั่งเล่น และเตียงคู่สองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียง Mariner's Dream™ ที่มีฟูกหนาสบายระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวนวดพรีเมียม ห้องพักนี้มีขนาดประมาณ 228-405 ตารางฟุต รวมถึงระเบียง โดยวิวอาจจะมีการบังบางส่วน ห้องพักอาจมีการจัดวางที่แตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ ทำให้การพักผ่อนของคุณเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยความสะดวกสบายในทุกด้าน

ห้องพักประเภท "น้ำสปาแอนด์สวีท" เป็นห้องสวีทที่ให้แสงสว่างจากหน้าต่างแบบสูงถึงเพดาน พร้อมระเบียงส่วนตัวที่ทำให้ท่านสามารถเพลิดเพลินกับวิวทะเลได้อย่างเต็มที่ ห้องพักนี้มีเตียงขนาดเล็ก 2 เตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงขนาดควีนได้ ซึ่งประกอบด้วยที่นอนเดความฝันของเรา "Signature Mariner's Dream™" ที่มีฟูกนุ่มพิเศษและหัวฝักบัวนวดคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาอย่างใส่ใจเพื่อความสะดวกสบายของท่าน โดยขนาดของห้องพักประมาณ 228 ถึง 405 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงที่หรูหราอีกด้วย

ห้องพักสำหรับครอบครัวในสายการเดินเรือของเราออกแบบมาเพื่อรองรับผู้เข้าพักได้ถึงห้าท่าน พร้อมเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์และเตียงชั้นบนหนึ่งเตียง ทั้งหมดตกแต่งด้วยที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การพักผ่อนที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดที่สามารถเปิดออกเป็นที่นอนสำหรับสองท่านได้อย่างสะดวกสบาย ห้องน้ำมีสองห้อง หนึ่งห้องพร้อมอ่างอาบน้ำ, ฝักบัว, อ่างล้างหน้า และโถส้วมอีกหนึ่งห้องที่มาพร้อมฝักบัวและอ่างล้างหน้า ห้องพักมีขนาดประมาณ 222-231 ตารางฟุต ทำให้ท่านมีพื้นที่เพียงพอในการพักผ่อนและสนุกสนานไปกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำในชั่วขณะหนึ่ง สโมสรแดนเหล่านี้มีการออกแบบที่ทันสมัยและหลากหลาย พร้อมให้บริการในทุกความต้องการของครอบครัว ท่านจึงมั่นใจได้ว่าจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบายอย่างแท้จริงในห้องพักที่สวยงามนี้

ห้องพักแบบ海景水療客艙มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใครด้วยวิวทะเลที่งดงาม พร้อมอุปกรณ์สำหรับการดูแลสุขภาพ ได้แก่ เสื่อโยคะและสถานีเชื่อมต่อ iPod® รวมถึงสิทธิพิเศษในการใช้บริการสปาจาก Greenhouse Spa and Salon ที่ใกล้เคียง ห้องพักมีเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงคู่ขนาดควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียงที่มีชื่อเสียง Mariner's Dream™ ที่คำนึงถึงการนอนหลับอย่างปลอดภัย ด้วยที่นอนยูโร-ท็อปที่นุ่มสบาย อีกทั้งยังมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวสำหรับการฟื้นฟูร่างกาย ห้องพักมีพื้นที่ประมาณ 175-282 ตารางฟุต ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการจัดวางได้ตามภาพที่แสดง

ห้องพักประเภท "ห้องพักชมทะเล" มีพื้นที่กว้างขวางและสะดวกสบาย โดยมีเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียงในแบบ Signature Mariner's Dream™ พร้อมที่นอน Euro-Top ที่หรูหรา นอกจากนี้ยังมีหัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม ที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและวิวทะเลที่สวยงาม ขนาดห้องพักอยู่ที่ประมาณ 175-282 ตารางฟุต ทำให้พื้นที่นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนและสัมผัสความงามของมหาสมุทรอย่างใกล้ชิด

ห้องพักประเภท “ห้องพักเดี่ยววิวทะเล” เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางคนเดียว โดยมีเตียงขนาดควีนไซส์ Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอนนุ่มละมุน นอกจากนี้ ห้องยังมีฝักบัวที่ให้ประสบการณ์การนวดที่หรูหรา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเพื่อความสะดวกสบายขณะเข้าพัก ขนาดห้องพักประมาณ 127-172 ตารางฟุต โดยการจัดเรียงห้องอาจแตกต่างจากภาพที่เห็น ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างบรรยากาศที่ลงตัวสำหรับการพักผ่อนของคุณในขณะเดินทาง.

ห้องพักประเภทน้ำสปานี้นำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีเอกลักษณ์ เช่น เสื่อโยคะและสถานี docking สำหรับ iPod® พร้อมทั้งการเข้าถึงบริการสปาจาก Greenhouse Spa & Salon ห้องพักประกอบด้วยเตียงสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์หนึ่งเตียงซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 143-225 ตารางฟุต โดยการจัดเรียงภายในห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้

ห้องพักแบบภายใน (Interior Stateroom) ของเราเสนอบรรยากาศที่สะดวกสบายพร้อมด้วยเตียงขนาดควีนไซส์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้จากเตียงสองเตียง ซึ่งเป็นเตียงที่มีชื่อเสียง Mariner's Dream™ พร้อมด้วยฟูกนุ่มแบบยูโร-ท็อป นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทำให้การเข้าพักของท่านเต็มไปด้วยความสุข ห้องพักมีพื้นที่ประมาณ 143-225 ตารางฟุต โดยการจัดเรียงห้องพักอาจแตกต่างกันไปจากภาพที่แสดงไว้