
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Nieuw Statendam
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์

ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!

เมื่อพูดถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนอาจนึกถึงภาพของคลองสวยงามและมิลล์ลที่เคลื่อนตัวไปตามลม แต่ถ้าคุณเยี่ยมชมที่ท่าเรือรอตเตอร์ดัม คุณจะได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของความงดงามและเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากเดิม รอตเตอร์ดัมคือเมืองที่รวมเอาความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่เป็นหนึ่งในท่าเรือที่วุ่นวายที่สุดในโลก เมื่อคุณเดินทางมายังรอตเตอร์ดัม นอกจากการสำรวจท่าเรืออันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สัมผัส เริ่มจากสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัย ที่สามารถพบเห็นได้ตามตึกสูงต่างๆ เช่น 'Euromast' ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ชมวิวเมืองจากมุมสูง นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ Boijmans Van Beuningen ที่นำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง นอกจากเรื่องวัฒนธรรมแล้ว รอตเตอร์ดัมยังเป็นสวรรค์สำหรับนักชิม ด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เสิร์ฟเมนูต้นตำรับจากเนเธอร์แลนด์และนานาชาติ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชิมที่หลากหลาย พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เยี่ยมชมรอตเตอร์ดัม เพื่อค้นพบความงามในรูปแบบใหม่ๆ เสพสุขไปกับการเดินทางที่น่าจดจำในเมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจนี้

เมื่อพูดถึงการเดินทางไปยังท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจในยุโรป ท่าเรือฟุนชาลที่ตั้งอยู่ในมอริกาขอแนะนำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะมาเดราที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ เมืองฟุนชาลเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ซึ่งถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส João Gonçalves Zarco ในปี 1419 และตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำโคปเรซัลในนามของการค้า โดยเกาะนี้ได้รับชื่อว่า 'มาเดรา' ซึ่งแปลว่า 'ไม้' ในภาษาโปรตุเกส นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เนินเขาที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นไปจนถึงหมู่บ้านที่สวยงามและดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ความงามตามธรรมชาติของเกาะทำให้มันได้รับฉายาอันต่าง ๆ เช่น 'สวนลอยฟ้าบนมหาสมุทรแอตแลนติก' และ 'เกาะแห่งฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีที่สิ้นสุด' การเดินทางสำรวจเกาะนี้ถือเป็นการผจญภัยที่น่าจดจำ พร้อมกิจกรรมมากมายที่จัดเตรียมขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์และความงดงามของที่นี่ ฟุนชาลไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูที่คุณจะได้สัมผัสกับความงามและอารยธรรมที่หลากหลายของโปรตุเกสอย่างแท้จริง

ซานตาครูซ เด ลา ปาลมา หรือที่รู้จักกันในนาม "ลาอิสลาบอนิตา" เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ที่สุดในสเปน เกาะลา ปาลมามีธรรมชาติที่งดงามและเต็มไปด้วยป่าเขียวขจี รวมถึงป่าสนและไม้ลอเรลที่ตัดกับความยิ่งใหญ่ของอุโมงค์ภูเขาไฟตาบูเรียนเต ซึ่งเป็นจุดเด่นของเกาะนี้ ซานตาครูซ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะ เป็นสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมความสวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในเขตเมืองเก่าหรือการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ที่นี่มีสินค้าให้เลือกมากมาย ตั้งแต่เครื่องประดับเงินที่มีราคาย่อมเยา ไปจนถึงสินค้าหนังและสิ่งทอที่ได้รับการปักเย็บอย่างประณีต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมู่เกาะคานารี อย่าลืมไปเยี่ยมชมโบสถ์แม่พระซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เพื่อเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวให้หลากหลายยิ่งขึ้น หากคุณมองหาความสุขและความทรงจำที่น่าประทับใจ ซานตาครูซ เด ลา ปาลมาจะเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางของคุณ

ท่าเรือเตเนริฟในสเปน เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่ประสบการณ์อันหลากหลายของเกาะที่มีชื่อเสียงในหมู่ผู้รักการเดินทาง เตเนริฟนั้นเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะคานารี่ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา เมื่อเรือสำราญของคุณเทียบท่าที่นี่ คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามอันสุดล้ำ อาทิ ภูเขาเทย์เด้ (Teide) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในสเปน ความสวยงามของอุทยานแห่งชาติเทย์เด้ ที่มีทิวทัศน์ที่หลากหลายจะทำให้คุณหลงใหลอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เตเนริฟยังมีชายหาดที่สวยงาม เช่น ชายหาดลา ลามิรีม่า และซานตาครูซ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ และสนุกกับงานประเพณีท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ เมื่อเดินทางมาที่ท่าเรือเตเนริฟ คุณจะได้เปิดประตูสู่ประสบการณ์อันน่าจดจำ ที่จะทำให้หัวใจของคุณรู้สึกกระตือรือร้นกับความงดงามอันหลากหลายของสเปน อย่าพลาดโอกาสในการสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืมในจุดหมายอันแสนพิเศษแห่งนี้!
ลาส ปัลมาส เดอ กราน คานาเรีย เป็นท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเกาะกราน คานาเรีย ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเกาะที่สวยงามที่สุดในหมู่เกาะคานารี ตั้งอยู่ใจกลางของเกาะ มีกระแสน้ำอุ่นและภูมิอากาศเขตร้อนที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เมื่อคุณมาถึงลาส ปัลมาส คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบระหว่างความงดงามของธรรมชาติและความคึกคักของเมืองหลวง สำรวจย่านเก่าแก่ Vegueta และ Triana ที่มีอายุกว่าศตวรรษที่ 15 ที่นี่คุณจะได้พบกับอาคารประวัติศาสตร์ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ในขณะเดียวกัน ชายหาดที่งดงามและภูมิทัศน์ของภูเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ลองเยี่ยมชมและสัมผัสกับผลไม้และต้นปาล์มที่เติบโตในสภาพอากาศที่น่าทึ่งนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่เกาะแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้ผู้มาเยือนหลงใหลเสมอ เมื่อล่องเรือมาถึงลาส ปัลมาส เดอ กราน คานาเรีย คุณจะได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม โดยเชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมที่จัดเต็มให้กับคุณในการเดินทางครั้งนี้อย่างแท้จริง

ลันซาโรเต (Lanzarote) เป็นเกาะที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามแห่งหนึ่งในสเปน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ชีวมณฑลยูเนสโก (UNESCO Biosphere Reserve) เกาะนี้มีภูมิประเทศที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต จึงมีลักษณะพื้นผิวที่โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ตลอดชายหาดที่สวยงามและสภาพอากาศที่แทบไม่มีฝน ทำให้ลันซาโรเตกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ท่าเรือหลักและเมืองหลวงของเกาะคือ อาเรซีเฟ (Arrecife) นั้นมีบรรยากาศที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยสวนสวยและริมน้ำที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่รอบเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอ่งเกลือจานูเบียนที่มีสีขาวสว่างและภูเขาไฟไฟร์ที่มีทิวทัศน์ที่ดึงดูด ขับรถออกไปจากตัวเมืองก็จะพบกับถ้ำโลสเวอร์เดสที่มีบรรยากาศน่าขนลุก รวมถึงหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงสงบเงียบซึ่งถูกประดับแต่งด้วยความงามธรรมชาติ นอกจากนี้ เกาะลันซาโรเตยังเป็นที่รู้จักในด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งรวมถึงถั่วชิกพีสตูว์ (garbanzos compuestos) และมันฝรั่งกับผัก (papas arrugadas) ที่รสชาติสดใส ก่อนออกไปสำรวจ ให้ระวังโปรแกรมทัวร์ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลือนในเกาะแห่งนี้อย่างเต็มที่

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา
ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!

เมื่อพูดถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนอาจนึกถึงภาพของคลองสวยงามและมิลล์ลที่เคลื่อนตัวไปตามลม แต่ถ้าคุณเยี่ยมชมที่ท่าเรือรอตเตอร์ดัม คุณจะได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของความงดงามและเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากเดิม รอตเตอร์ดัมคือเมืองที่รวมเอาความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่เป็นหนึ่งในท่าเรือที่วุ่นวายที่สุดในโลก เมื่อคุณเดินทางมายังรอตเตอร์ดัม นอกจากการสำรวจท่าเรืออันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สัมผัส เริ่มจากสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัย ที่สามารถพบเห็นได้ตามตึกสูงต่างๆ เช่น 'Euromast' ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ชมวิวเมืองจากมุมสูง นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ Boijmans Van Beuningen ที่นำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง นอกจากเรื่องวัฒนธรรมแล้ว รอตเตอร์ดัมยังเป็นสวรรค์สำหรับนักชิม ด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เสิร์ฟเมนูต้นตำรับจากเนเธอร์แลนด์และนานาชาติ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชิมที่หลากหลาย พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เยี่ยมชมรอตเตอร์ดัม เพื่อค้นพบความงามในรูปแบบใหม่ๆ เสพสุขไปกับการเดินทางที่น่าจดจำในเมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจนี้

เมืองอาเลซุนด์ (Ålesund) ตั้งอยู่ในเขตมอร์เรอ และ รอมส์ดาล (Møre og Romsdal) เป็นท่าเรือที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรม เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นราชธานีทางการค้าริมชายฝั่ง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในความงดงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ยูเจนด์สติล (Jugendstil) หรืออาร์ตนูโว ซึ่งบางคนยกให้เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของนอร์เวย์ เมืองอาเลซุนด์ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1904 ซึ่งทำให้มีบ้านเรือนถูกทำลายไปถึง 800 หลัง และประชาชนต้องไร้ที่อยู่อาศัยถึง 10,000 คน การสร้างใหม่ในครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจจากสถาปนิกหนุ่มต่างชาติที่นำสไตล์เยอรมันและรากเหง้าของชาวไวกิ้งมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้ถนนแคบๆ ในเมืองเต็มไปด้วยอาคารที่มียอดแหลมต่างๆ พร้อมการตกแต่งรูปหัวมังกรและลวดลายที่งดงาม นอกจากนี้อาเลซุนด์ยังเป็นหนึ่งในเมืองอาร์ตนูโวที่เหลืออยู่ไม่กี่เมืองในโลก และในปี 1998 เมืองนี้ได้รับรางวัล Houens National Memorial Prize เพื่อเป็นการยกย่องความพยายามในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์แห่งนี้ หากคุณได้มีโอกาสเยี่ยมชมเมืองอาเลซุนด์แล้ว จะรู้สึกถึงความงดงาม และเสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน


ทรอนด์ไฮม์ (Trondheim) หนึ่งในเมืองเก่าแก่ของสแกนดิเนเวียที่เคยเป็นเมืองหลวงแรกของนอร์เวย์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 997 จนถึง 1380 เมืองที่ก่อตั้งโดยราชานอร์เวย์ โอลาฟ ทรียกวาเซน (Olav Tryggvason) นี้เดิมมีชื่อว่า นิดารอส (Nidaros) ซึ่งยังคงเป็นชื่อของมหาวิหารที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำนิดเอลวา (Nidelva) และปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของนอร์เวย์และอันดับสามในประเทศ ด้วยประชากรประมาณ 150,000 คน ในใจกลางเมืองแห่งนี้ ถนนถูกจัดเรียงอย่างกว้างขวางไปด้วยบ้านไม้ที่ทาสีสันสดใสและคลังสินค้าที่ล้วนมีเสน่ห์ดึงดูด ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง พร้อมกันนี้ยังเป็นที่ตั้งของ NTNU (มหาวิทยาลัยนอร์เวย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ซึ่งทำให้ทรอนด์ไฮม์กลายเป็นเมืองหลวงทางด้านเทคโนโลยีของนอร์เวย์ สัมผัสประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาและสนุกสนานไปกับเสน่ห์ของเมืองศิลปะและนวัตกรรม พร้อมเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากแม่น้ำและชนบทที่ล้อมรอบ เป็นประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในการเดินทางมายังทรอนด์ไฮม์เมืองที่มีทั้งอดีตและอนาคตอันสดใส!

เลคเนส (Leknes) เมืองท่าที่งดงามแห่งหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ของนอร์เวย์ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ความงดงามที่นี่มีมากมาย ตั้งแต่เขาหินสูงชัน ลำธารที่ไหลริน และฟยอร์ดที่เงียบสงบ ไปจนถึงชายหาดทรายขาวสวยสะอาด น้อยนักที่จะมีเมืองใดในนอร์เวย์ที่สามารถเปรียบเทียบกับเลคเนสได้ในการนำเสนอภาพธรรมชาติที่สวยงาม การเยี่ยมชมในช่วงกลางคืนก็จะได้สัมผัสกับแสงอาทิตย์ที่ไม่เคยตกดินตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคมถึง 17 กรกฎาคม ซึ่งสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่มีกิจกรรมหลากหลายให้เลือก เช่น การล่องเรือรอบหมู่เกาะ การตกปลาในทะเลลึก หรือแม้แต่การปั่นจักรยานสำรวจเมืองในแบบที่คุณต้องการ คุณสามารถเช่าจักรยานได้ง่ายดาย และจักรยานไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่อาจไม่คุ้นเคยกับการปั่น โดยเฉพาะหลังจากเพลิดเพลินกับอากาศสดชื่น อย่าลืมลิ้มลอง "สกิลลิงโบลเล่" ขนมอบกลิ่นซินนามอนที่อร่อยและฟู นี่คือความแปลกใหม่ที่ศูนย์กลางเมืองเลคเนสจะนำเสนอให้กับคุณ พร้อมเสพความสุขกับคาเฟ่สุดน่ารัก สัมผัสกับบรรยากาศนอร์เวย์และกล่าวขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่คุ้มค่า!

ท่าเรือทรอมโซ (Tromsø) ตั้งอยู่บนเกาะทรอมโซ เป็นเมืองที่ใหญ่กว่ากรุงออสโลถึงห้าเท่า และยังเป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่เหนือสุดของโลก ที่นี่อยู่ห่างจากวงกลมอาร์กติกเพียง 200 ไมล์ ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "ประตูสู่อาร์กติก" ย้อนกลับไปในศตวรรษที่ 19 เมืองนี้เคยเป็นฐานที่ตั้งสำหรับนักสำรวจในการนำทางล่าสัตว์ในเขตอาร์กติก เช่น หมาป่าทางเหนือ และหมีขั้วโลก ปัจจุบัน ทรอมโซยังสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์อันสำคัญนี้ได้ที่พิพิธภัณฑ์โพลาร์ (Polar Museum) ในระหว่างการเยี่ยมชม เราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประเพณีของชาวซามี (Sami) ที่พิพิธภัณฑ์ทรอมโซ (Tromsø Museum) ที่นี่ยังมีความงามของสถาปัตยกรรมทั้งเก่าและใหม่ โดยเฉพาะโบสถ์อาร์กติก (Arctic Cathedral) ที่เป็นเอกลักษณ์ มองออกไปเห็นภูเขาสโตร์สเตน (Mount Storsteinen) ที่มีรถกระเช้าขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองได้อย่างงดงาม การเดินทางมายังท่าเรือทรอมโซจึงไม่เพียงเป็นการพบปะกับธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังเป็นการสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งอีกด้วย มาร่วมเริ่มต้นการผจญภัยที่นี่กันเถอะ!


อันดาลส์เนส (Åndalsnes) หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในประเทศนอร์เวย์ เป็นประตูสู่ความงดงามของธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ในฟยอร์ดของโรมนด์ดาลฟยอร์ด หรือที่รู้จักกันในนาม "หมู่บ้านระหว่างภูเขาและฟยอร์ด" อันดาลส์เนสมีมุมมองที่สวยงามซึ่งตั้งอยู่บนจุดสูงที่ล้อมรอบด้วยภูเขาอัลป์และอยู่ที่ปากแม่น้ำรอมา สถานที่นี้ไม่เพียงแต่ให้ทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ยังเป็นที่ตั้งของ "ผนังท Troll" (Trollveggen) ที่สูงที่สุดในยุโรป ซึ่งสูงกว่า 6,000 ฟุต และมักถูกปกคลุมไปด้วยหมอก มีชื่อเสียงในหมู่นักปีนเขาที่มาที่นี่เพื่อท้าทายตัวเองกับความยากลำบากของหน้าผานี้ อันดาลส์เนสยังเป็นจุดสิ้นสุดของรถไฟโรมา (Rauma Railway) สายที่มีความยาวถึง 70 ไมล์ ที่วิ่งคู่ขนานไปกับแม่น้ำรอมา ปรากฏภาพธรรมชาติที่น่าหลงใหล ซึ่งเชื่อมต่อกับเส้นทางหลักจากออสโลสู่ทรอนด์ไฮม์ มาเปิดประสบการณ์ที่น่าทึ่งกับธรรมชาติอันสวยงามแบบนี้ที่อันดาลส์เนส ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความทรงจำที่ไม่มีวันลืม

เบอร์เกน เมืองริมชายฝั่งที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและฟยอร์ดสวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้รักการท่องเที่ยวต้องไม่พลาด ตั้งอยู่ในนอร์เวย์ เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่อดีต โดยเฉพาะท่าเรือ Bryggen ที่มีอาคารสีสันสวยงาม ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ ท่าเรือนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าในยุคกลางและยังคงมีเสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางด้วยกลิ่นอายของอดีต เมื่อเยือนเบอร์เกน คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยตรอกซอยหินกรวด และตลาดปลาอันมีชื่อเสียงที่แหล่งนี้ยังคงเป็นที่นิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ต้องการมุมมองใหม่ สามารถขึ้นไปยังยอดเขา Mt. Fløyen เพื่อชมทัศนียภาพที่งดงามของเมืองจากมุมสูง หรือจะเดินทางไปที่พิพิธภัณฑ์ป้อม Fesningsmuseum ที่อยู่ห่างไปเพียง 300 หลา จากท่าเรือหลัก ซึ่งเป็นแหล่งเก็บสะสมสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่สอง เบอร์เกนไม่ใช่เพียงแค่เมืองที่สวยงาม แต่ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันน่าประทับใจ รอให้นักท่องเที่ยวได้มาค้นพบเสน่ห์ในสไตล์ยุโรปเหนืออย่างแท้จริง!

เลอร์วิค เมืองเล็กที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่บนหมู่เกาะเชตแลนด์ (Shetland Islands) ของสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าเข้าสู่ท่าเรือที่มีชีวิตชีวานี้ เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นโดยชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 และยังคงรักษาความงามของอาคารหินที่เรียกว่า "ล๊อดเบอรีส์" ซึ่งเป็นสถานที่ขนส่งสินค้าที่สำคัญในอดีต นี่คือเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนและสะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ เมื่อเดินเรือเข้าท่าเลอร์วิค คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือที่ปัจจุบันยังมีความคึกคัก ด้วยถนนที่ปูด้วยแผ่นหินและวิวชายฝั่งที่งดงาม ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจความงามของเชตแลนด์ สำหรับนักเดินทางที่มาเยือน ยังมีโอกาสได้พบปะกับวัฒนธรรมชาวเซลติก ที่สำคัญ และการชมธรรมชาติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่ป่าเขียวขจีหรือสัตว์ป่าในท้องถิ่น ด้วยความเพลิดเพลินและน่าหลงใหลที่เลอร์วิคมอบให้ คุณจะได้สัมผัสกับการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร คอยต้อนรับความตื่นเต้นในทุกขั้นตอนของการสำรวจสมบัติที่ซ่อนอยู่ในภูมิภาคนี้

เมื่อพูดถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนอาจนึกถึงภาพของคลองสวยงามและมิลล์ลที่เคลื่อนตัวไปตามลม แต่ถ้าคุณเยี่ยมชมที่ท่าเรือรอตเตอร์ดัม คุณจะได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของความงดงามและเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากเดิม รอตเตอร์ดัมคือเมืองที่รวมเอาความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่เป็นหนึ่งในท่าเรือที่วุ่นวายที่สุดในโลก เมื่อคุณเดินทางมายังรอตเตอร์ดัม นอกจากการสำรวจท่าเรืออันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สัมผัส เริ่มจากสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัย ที่สามารถพบเห็นได้ตามตึกสูงต่างๆ เช่น 'Euromast' ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ชมวิวเมืองจากมุมสูง นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ Boijmans Van Beuningen ที่นำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง นอกจากเรื่องวัฒนธรรมแล้ว รอตเตอร์ดัมยังเป็นสวรรค์สำหรับนักชิม ด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เสิร์ฟเมนูต้นตำรับจากเนเธอร์แลนด์และนานาชาติ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชิมที่หลากหลาย พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เยี่ยมชมรอตเตอร์ดัม เพื่อค้นพบความงามในรูปแบบใหม่ๆ เสพสุขไปกับการเดินทางที่น่าจดจำในเมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจนี้




ห้องสวีทสุดหรูที่เรียกว่า "巔峰套房" นี้มีขนาดใหญ่และสว่างสดใส เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอย่างแท้จริง ภายในห้องมีพื้นที่ที่ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวขนาดเล็กพร้อมไมโครเวฟและตู้เย็น โดยเฉพาะหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัวที่มีอ่างน้ำวน ในห้องนอนมีเตียงใหญ่ขนาดคิงไซส์คือเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมที่นอน Euro-Top นุ่มสบาย ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างน้ำวนขนาดใหญ่และฝักบัว รวมถึงห้องอาบน้ำเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดที่รองรับได้ถึงสองคน และห้องน้ำสำหรับแขก ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยระบบเสียงส่วนตัว การใช้บริการ Neptune Lounge ที่มีเอกสิทธิ์ บริการสาวบริการส่วนตัว และบริการฟรีที่หลากหลาย ห้องสวีทนี้มีพื้นที่ประมาณ 1,290 ตารางฟุตรวมถึงระเบียง สัมผัสชีวิตที่หรูหราบนเรือสำราญของคุณด้วย "巔峰套房" ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเป็นที่น่าจดจำอย่างเป็นพิเศษ

ห้องสวีทที่มีชื่อว่า "ห้องสวีทเนปจูน" เป็นห้องกว้างขวางที่มีหน้าต่างตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว ได้รับแสงสว่างธรรมชาติอย่างเต็มที่ ภายในห้องมีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่และเตียง 2 เตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียงแบบ "Mariner's Dream™" ที่มีเนื้อที่หนานุ่ม ให้ความสะดวกสบายสูงสุด ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบวอเตอร์เจ็ต ขนาดเต็ม พร้อมที่นั่งอาบน้ำแยกต่างหาก และอ่างล้างหน้าแบบคู่ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น การเข้าถึง Neptune Lounge ส่วนตัว และการบริการจากผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมบริการอื่น ๆ ที่ให้ฟรี ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 465-502 ตารางฟุต รวมระเบียงด้วย

ห้องสวีทที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่างนี้มาพร้อมกับหน้าต่างจากพื้นจรดเพดาน พื้นที่ระเบียงส่วนตัว และโซนนั่งเล่นที่กว้างขวาง พร้อมห้องน้ำที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวอาบน้ำ พร้อมฝักบัวเพิ่มเติม ห้องสวีทนี้ประกอบด้วยเตียงเดี่ยวสองเตียงที่สามารถแปลงเป็นเตียงคิงไซส์ได้—เตียง Mariner's Dream™ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเราพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีโซฟาที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงสำหรับหนึ่งคน ห้องนี้มีขนาดประมาณ 465-502 ตารางฟุต รวมบริเวณระเบียง ทำให้เป็นที่พักที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนที่หรูหราในขณะล่องเรือ.

ห้องพักประเภท "ห้องสวีทลายเซ็น" มีขนาดกว้างขวางและสะดวกสบาย ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวางพร้อมหน้าต่างแบบเต็มความสูงที่มองออกไปยังระเบียงส่วนตัว ห้องนี้มีเตียงสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ซึ่งเป็นเตียงที่ได้รับการออกแบบพิเศษ Mariner's Dream™ พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีเตียงมัรฟีสำหรับผู้เข้าพักอีกหนึ่งคน ห้องน้ำที่อยู่ภายในประกอบด้วยอ่างล้างหน้าสองหลุม อ่างจากุซซี่ขนาดเต็ม และมีห้องอาบน้ำเพิ่มเติมอีกหนึ่งห้อง รวมพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประมาณ 393-400 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงส่วนตัวอีกด้วย

ห้องชุดวิวตกแต่งด้วยไม้สัก มีระเบียงขนาดกว้างพร้อมหน้าต่างจากพื้นจดเพดาน และพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย ห้องชุดเหล่านี้เต็มไปด้วยแสงสว่างและมีเตียงขนาดคิงไซส์ที่สามารถแปลงเป็นเตียงคู่สองเตียง ซึ่งเป็นเตียงที่มีชื่อเสียงของเรา "Mariner's Dream™" ที่มีที่นอน Euro-Top นุ่มสบาย พร้อมด้วยฝักบัวที่มีหัวนวดคุณภาพระดับพรีเมียม และตู้เย็น ห้องชุดนี้มีขนาดประมาณ 260-356 ตารางฟุต รวมระเบียง การจัดเรียงของห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้

ห้องพักประเภท "ห้องสเตทหรูพร้อมระเบียงด้านหลังและวิวที่ถูกบัง" นี้เต็มไปด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว ภายในห้องมีพื้นที่นั่งเล่น และเตียงคู่สองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียง Mariner's Dream™ ที่มีฟูกหนาสบายระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวนวดพรีเมียม ห้องพักนี้มีขนาดประมาณ 228-405 ตารางฟุต รวมถึงระเบียง โดยวิวอาจจะมีการบังบางส่วน ห้องพักอาจมีการจัดวางที่แตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ ทำให้การพักผ่อนของคุณเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยความสะดวกสบายในทุกด้าน

ห้องพักประเภท "น้ำสปาแอนด์สวีท" เป็นห้องสวีทที่ให้แสงสว่างจากหน้าต่างแบบสูงถึงเพดาน พร้อมระเบียงส่วนตัวที่ทำให้ท่านสามารถเพลิดเพลินกับวิวทะเลได้อย่างเต็มที่ ห้องพักนี้มีเตียงขนาดเล็ก 2 เตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงขนาดควีนได้ ซึ่งประกอบด้วยที่นอนเดความฝันของเรา "Signature Mariner's Dream™" ที่มีฟูกนุ่มพิเศษและหัวฝักบัวนวดคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ออกแบบมาอย่างใส่ใจเพื่อความสะดวกสบายของท่าน โดยขนาดของห้องพักประมาณ 228 ถึง 405 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงที่หรูหราอีกด้วย

ห้องพักสำหรับครอบครัวในสายการเดินเรือของเราออกแบบมาเพื่อรองรับผู้เข้าพักได้ถึงห้าท่าน พร้อมเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์และเตียงชั้นบนหนึ่งเตียง ทั้งหมดตกแต่งด้วยที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การพักผ่อนที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดที่สามารถเปิดออกเป็นที่นอนสำหรับสองท่านได้อย่างสะดวกสบาย ห้องน้ำมีสองห้อง หนึ่งห้องพร้อมอ่างอาบน้ำ, ฝักบัว, อ่างล้างหน้า และโถส้วมอีกหนึ่งห้องที่มาพร้อมฝักบัวและอ่างล้างหน้า ห้องพักมีขนาดประมาณ 222-231 ตารางฟุต ทำให้ท่านมีพื้นที่เพียงพอในการพักผ่อนและสนุกสนานไปกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำในชั่วขณะหนึ่ง สโมสรแดนเหล่านี้มีการออกแบบที่ทันสมัยและหลากหลาย พร้อมให้บริการในทุกความต้องการของครอบครัว ท่านจึงมั่นใจได้ว่าจะได้สัมผัสกับความสะดวกสบายอย่างแท้จริงในห้องพักที่สวยงามนี้

ห้องพักแบบ海景水療客艙มอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใครด้วยวิวทะเลที่งดงาม พร้อมอุปกรณ์สำหรับการดูแลสุขภาพ ได้แก่ เสื่อโยคะและสถานีเชื่อมต่อ iPod® รวมถึงสิทธิพิเศษในการใช้บริการสปาจาก Greenhouse Spa and Salon ที่ใกล้เคียง ห้องพักมีเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงคู่ขนาดควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียงที่มีชื่อเสียง Mariner's Dream™ ที่คำนึงถึงการนอนหลับอย่างปลอดภัย ด้วยที่นอนยูโร-ท็อปที่นุ่มสบาย อีกทั้งยังมีอ่างอาบน้ำและฝักบัวสำหรับการฟื้นฟูร่างกาย ห้องพักมีพื้นที่ประมาณ 175-282 ตารางฟุต ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนการจัดวางได้ตามภาพที่แสดง

ห้องพักประเภท "ห้องพักชมทะเล" มีพื้นที่กว้างขวางและสะดวกสบาย โดยมีเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียงในแบบ Signature Mariner's Dream™ พร้อมที่นอน Euro-Top ที่หรูหรา นอกจากนี้ยังมีหัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม ที่จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและวิวทะเลที่สวยงาม ขนาดห้องพักอยู่ที่ประมาณ 175-282 ตารางฟุต ทำให้พื้นที่นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนและสัมผัสความงามของมหาสมุทรอย่างใกล้ชิด

ห้องพักประเภท “ห้องพักเดี่ยววิวทะเล” เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางคนเดียว โดยมีเตียงขนาดควีนไซส์ Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอนนุ่มละมุน นอกจากนี้ ห้องยังมีฝักบัวที่ให้ประสบการณ์การนวดที่หรูหรา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัยเพื่อความสะดวกสบายขณะเข้าพัก ขนาดห้องพักประมาณ 127-172 ตารางฟุต โดยการจัดเรียงห้องอาจแตกต่างจากภาพที่เห็น ทั้งหมดนี้ช่วยสร้างบรรยากาศที่ลงตัวสำหรับการพักผ่อนของคุณในขณะเดินทาง.

ห้องพักประเภทน้ำสปานี้นำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีเอกลักษณ์ เช่น เสื่อโยคะและสถานี docking สำหรับ iPod® พร้อมทั้งการเข้าถึงบริการสปาจาก Greenhouse Spa & Salon ห้องพักประกอบด้วยเตียงสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์หนึ่งเตียงซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 143-225 ตารางฟุต โดยการจัดเรียงภายในห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้

ห้องพักแบบภายใน (Interior Stateroom) ของเราเสนอบรรยากาศที่สะดวกสบายพร้อมด้วยเตียงขนาดควีนไซส์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้จากเตียงสองเตียง ซึ่งเป็นเตียงที่มีชื่อเสียง Mariner's Dream™ พร้อมด้วยฟูกนุ่มแบบยูโร-ท็อป นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ทำให้การเข้าพักของท่านเต็มไปด้วยความสุข ห้องพักมีพื้นที่ประมาณ 143-225 ตารางฟุต โดยการจัดเรียงห้องพักอาจแตกต่างกันไปจากภาพที่แสดงไว้