
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oosterdam
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ท่าเรือที่น่าหลงใหลอย่างท่าเรือเมืองเตรียสเต (Trieste) ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี เป็นซีกหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ตัดกับความเป็นมาของอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยคุณภาพความเป็นเมืองท่าที่สำคัญและศูนย์กลางการเงินเมื่อหลายทศวรรษก่อน เตรียสเตยังเป็นแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงในวงการวรรณกรรม โดยนักเขียนชื่อดังอย่างอิตาโล สเวโว (Italo Svevo) และเจมส์ จอยซ์ (James Joyce) ต่างได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศอันหลากหลายทางวัฒนธรรมของเมือง คุณจะได้สัมผัสความงามในการผสมผสานของสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิกและอาร์ตนูโว ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงรุ่งเรืองของเมือง เตรียสเตยังมอบบรรยากาศที่เงียบสงบแต่แฝงไปด้วยความเศร้าสร้อยและงดงาม ในขณะที่คุณเดินชมถนนที่เรียงรายไปด้วยอาคารประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ สามารถสำรวจชายหาดที่มีวิวทะเลสวยงามและสัมผัสกับวัฒนธรรมและอาหารอิตาเลียนอันเลื่องชื่อได้อีกด้วย เตรียสเต คือจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสทั้งประวัติศาสตร์และความสวยงามในอิตาลีที่ไม่เหมือนใคร

สปลิต (Split) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่ยากจะเลือนลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกล่าวถึงพระราชวังของจักรพรรดิไดโอกลีเชียน ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 3 เป็นผลงานอันงดงามที่ทุกคนไม่ควรพลาด ภายในกำแพงของพระราชวังนี้ มีความยิ่งใหญ่ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี เมื่อผู้เข้าชมเดินผ่านประตูสู่ประวัติศาสตร์ จะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของอดีตที่ยาวนาน เดิมที เมืองนี้เป็นที่หลบภัยของผู้คนจากการรุกรานในสมัยที่ซาลอนนา (Salona) ถูกโจมตี ชาวเมืองสร้างบ้านเรือนใหม่ภายในวัง จนกลายเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะในยุคที่เวนิสเข้าครอบครอง สปลิตกลายเป็นหนึ่งในท่าเรือการค้าหลักของทะเลอดริยาติก วันนี้ สปลิต ถือเป็นเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เดินทางได้สัมผัสความงดงามของสถาปัตยกรรมเรอเนสซองส์และแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ที่มีความหมาย ทั้งยังมีทิวทัศน์ที่งดงามจากทะเลที่อยู่ใกล้เคียง สปลิตจึงไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่จะตราตรึงในความทรงจำอย่างไม่มีวันลืม

ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

เมื่อคุณก้าวเท้าสู่เมืองโครฟู (Corfu) คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่มีมาช้านานที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของหลายวัฒนธรรม เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวานี้ตั้งอยู่บริเวณกลางชายฝั่งตะวันออกของเกาะโครฟู เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและมีใจกลางเมืองที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2007 ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาทางเรือเฟอร์รี่จากแผ่นดินใหญ่หรืออิตาลี หรือบินตรงมายังสนามบิน ณ โครฟู เมืองนี้คือจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยความงาม ทางเดินเล็ก ๆ ในเขตคนเดินยกระดับให้คุณเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมือง โดยคุณสามารถผ่อนคลายด้วยการจิบกาแฟหรือไอศกรีมที่ Liston Arcade ที่มีร่มเงา ควรใช้เวลาสำรวจพระราชวังมอน เรโปส (Mon Repos) โดยขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ให้บริการในช่วงฤดูร้อน และเมื่อถึงเวลาค่ำคืน เมืองนี้จะมีบรรยากาศที่แตกต่างด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารชั้นเลิศของเกาะ การเดินทางในเมืองโครฟูเป็นไปอย่างสะดวกสบาย คุณสามารถเดินเท้าสำรวจได้ทั่วถึง เมืองมีความเล็กพอที่คุณจึงไม่ต้องพึ่งพารถบัสที่ไม่สามารถเข้าถึงในเขตประวัติศาสตร์ หากคุณเดินทางมาทางเฟอร์รี่หรือเครื่องบิน แนะนำให้ใช้แท็กซี่ซึ่งจะพาคุณไปยังโรงแรมได้ในราคาเพียง 10 ยูโร ห้ามพลาด!

ที่เมืองสตรอมโบลี (Stromboli) ประเทศอิตาลี ท่าเรือที่โดดเด่นแห่งนี้เป็นประตูสู่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สำหรับนักท่องเที่ยวผู้แสวงหาความตื่นเต้น ทิวทัศน์สวยงาม และการผจญภัยในธรรมชาติ สตรอมโบลีโดดเด่นด้วยภูเขาไฟที่ยังคงมีชีวิตและพร้อมให้คุณค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เมื่อขึ้นเรือที่ท่าเรือสตรอมโบลี คุณจะถูกต้อนรับด้วยวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟที่พวยพุ่งควันจากจุดสูงสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในอารมณ์ที่ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ล้อเลื่อนเสมือนจริงกำลังรอคอยคุณอยู่ ด้วยความสวยงามของชายหาดที่มีทรายสีดำและน้ำทะเลฟ้าใสคุณจะมีโอกาสผ่อนคลายและสนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำ สำหรับผู้ที่รักการเดินป่า สตรอมโบลีมีเส้นทางเดินป่าที่น่าตื่นเต้นเพื่อนำคุณไปสู่ยอดเขา นอกจากนี้ คุณยังสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อบอุ่น และลิ้มลองอาหารอิตาเลียนที่มีชื่อเสียง ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การเดินทางของคุณให้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น มาร่วมเปิดประตูสู่ความมหัศจรรย์ของสตรอมโบลี สถานที่ที่แนบชิดกับธรรมชาติและประวัติศาสตร์ พร้อมสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในชีวิตของคุณ!

ท่าเรือทาออร์มินา (Taormina) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของซิซิลี ประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของยุคกลาง อีกทั้งยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ความงดงามของทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นทะเลและภูเขาเอทนา (Mt. Etna) ที่มีปีกหิมะปกคลุม ทำให้ทาออร์มินากลายเป็นภาพมุมกว้างที่น่าทึ่ง ซึ่งดีที่สุดในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่ชาวกรีกจากนาคซอส (Naxos) ตั้งรกรากเมื่อศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ยิ่งไปกว่านั้น วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างของโกเธ่และดี. เอช. ลอเรนซ์ ก็ได้เขียนถึงความงามของที่นี่ ทำให้เมืองนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน นอกจากถนนที่มีร้านค้าแบรนด์เนมเรียงรายแล้ว ทาออร์มินายังมีเส้นทางเดินเขาที่สวยงามที่เลาะเลียบไปตามเนินเขารอบๆ ซึ่งนำคุณไปสู่วิวที่หาที่เปรียบไม่ได้ โดยเฉพาะการไต่ขึ้นไปยังคาสเตลโมล่า (Castelmola) เพื่อสัมผัสความเป็นอมตะของทัศนียภาพที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งนี้ เชิญสัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจในทาออร์มินาและค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่รอให้คุณมาเยือน!

ปาแลร์โม เมืองหลวงของซิซิลี เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของอารยธรรมตั้งแต่อดีต โอบล้อมด้วยอ่าวรูปพระจันทร์และภูเขามอนเต้เพลเลกรีโกล่าสุดา เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางปัญญาของยุโรปใต้ และยังคงดึงดูดผู้มาเยือนจากทุกมุมโลก ด้วยเอกลักษณ์ที่ผสมผสานจากหลากหลายวัฒนธรรม ทำให้ปาแลร์โมมีบุคลิกเฉพาะตัวที่โดดเด่น ทั้งอาราบิก คริสเตียน ไบแซนไทน์ และโรมาโน ควรค่าแก่การชมคือสถาปัตยกรรมสไตล์อาหรับ-นอร์แมน ซึ่งเกิดจากการรวมกันของหลายวัฒนธรรม ทำให้เกิดผลงานศิลปะที่งดงาม โดยเฉพาะในเขตประวัติศาสตร์ ที่คุณจะได้พบกับตลาดกลางแจ้งที่มีชีวิตชีวา สแควร์และร้านค้าข้างถนนที่เต็มไปด้วยสีสัน นอกจากนี้ ปาแลร์โมยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของ "ปาสเซสซาตา" ซึ่งเป็นการเดินเล่นที่สะท้อนถึงความมีชีวิตชีวาของเมืองได้อย่างดี เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าเรือปาแลร์โม อย่าลืมสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมนี้ เพื่อสัมผัสความงดงามที่ซ่อนอยู่ในทุกมุมมอง และสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนตลอดไป

เนเปิลส์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคแคมปาเนียของอิตาลี และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ ภูมิประเทศที่งดงามซึ่งมีอ่าวที่ถูกยกย่องว่าอยู่ในทำเลที่สะกดทุกสายตา ตลอดจนภูเขาเอเวอซูสที่มีรูปทรงกรวยสมบูรณ์แบบ เป็นสิ่งดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวได้อย่างน่ามหัศจรรย์ นอกจากทิวทัศน์ที่งดงามแล้ว เนเปิลส์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระราชวังหลวง, โรงอุปรากรซานคาร์โล, พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ และ ปราสาทนูโวซึ่งมีอายุกว่า 700 ปี สถานที่เหล่านี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงอดีตอันรุ่งเรือง การเดินสำรวจเมืองเนเปิลส์จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวาย การเริ่มต้นเดินทางจากที่นี่ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่าง โปมเปอี และเกาะคาปรีซึ่งอยู่ใกล้ ใช้เวลาเพียง 45 นาทีโดยเรือเฟอร์รี่ เนเปิลส์ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นประตูสู่โลกโบราณที่น่าตื่นตาตื่นใจ ช่วยสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริงในระหว่างการเดินทางที่จดจำไม่รู้ลืมในอิตาลี

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

ท่าเรือซาเลร์โน (Salerno) ตั้งอยู่บนอ่าวซาเลร์โนในประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลไม่เพียงแต่ด้วยทิวทัศน์ทะเลที่งดงาม แต่ยังอัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง ซาเลร์โนมีชื่อเสียงเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งแรกของโลก ส่งผลให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางด้านความรู้และการศึกษาในสมัยโบราณ นักท่องเที่ยวที่แวะมาที่นี่จะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดอ่อนๆ พร้อมกับการเดินเล่นตามชายหาดที่มีทรายละเอียดทำให้รู้สึกผ่อนคลายใจกลางทัศนียภาพที่สวยงาม ชิมอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ ที่หลากหลาย ทั้งพาสต้า วุ้นเส้น และอาหารทะเลสดใหม่ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจากฝีมือเชฟในท้องถิ่น ทำให้ทุกมื้อเป็นประสบการณ์พิเศษ นอกจากนี้ ซาเลร์โนยังเป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ อาทิเช่น ชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi Coast) ที่โด่งดังในเรื่องความสวยงามของธรรมชาติและหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ รวมทั้งเมืองอามาลฟีและโพสิตาโนที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรม, ท่าเรือซาเลร์โนคือไม่เพียงแค่จุดแวะที่ครบครัน แต่ยังเป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนใฝ่ฝันถึงการเดินทางในอิตาลีที่น่าตื่นเต้นนี้อย่างแท้จริง

ปาแลร์โม เมืองหลวงของซิซิลี เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของอารยธรรมตั้งแต่อดีต โอบล้อมด้วยอ่าวรูปพระจันทร์และภูเขามอนเต้เพลเลกรีโกล่าสุดา เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางปัญญาของยุโรปใต้ และยังคงดึงดูดผู้มาเยือนจากทุกมุมโลก ด้วยเอกลักษณ์ที่ผสมผสานจากหลากหลายวัฒนธรรม ทำให้ปาแลร์โมมีบุคลิกเฉพาะตัวที่โดดเด่น ทั้งอาราบิก คริสเตียน ไบแซนไทน์ และโรมาโน ควรค่าแก่การชมคือสถาปัตยกรรมสไตล์อาหรับ-นอร์แมน ซึ่งเกิดจากการรวมกันของหลายวัฒนธรรม ทำให้เกิดผลงานศิลปะที่งดงาม โดยเฉพาะในเขตประวัติศาสตร์ ที่คุณจะได้พบกับตลาดกลางแจ้งที่มีชีวิตชีวา สแควร์และร้านค้าข้างถนนที่เต็มไปด้วยสีสัน นอกจากนี้ ปาแลร์โมยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของ "ปาสเซสซาตา" ซึ่งเป็นการเดินเล่นที่สะท้อนถึงความมีชีวิตชีวาของเมืองได้อย่างดี เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าเรือปาแลร์โม อย่าลืมสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมนี้ เพื่อสัมผัสความงดงามที่ซ่อนอยู่ในทุกมุมมอง และสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนตลอดไป

ยินดีต้อนรับสู่ “คากลิอารี” (Cagliari) เมืองหลวงที่มีเสน่ห์ของซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี ที่ไม่เพียงแต่เพียบพร้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย แต่ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ยาวนาน คากลิอารีมีประชากรประมาณ 160,000 คน มาพร้อมกับถนนที่ลาดชันและอาคารที่งดงามตั้งแต่สมัยกลางไปจนถึงยุคใหม่ เริ่มต้นการสำรวจเมืองที่ Museo Archeologico ซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุที่น่าทึ่ง และไม่ควรพลาดการเดินผ่าน Bastione di Saint Remy ที่มีทิวทัศน์สวยงาม โดยเฉพาะในเวลายามพระอาทิตย์ตกดิน นอกจากนี้ Mercato di San Benedetto ซึ่งเป็นตลาดปลาที่ดีที่สุดในอิตาลี จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความสดใหม่ของอาหารทะเลที่คากลิอารีมีชื่อเสียง ถนนโค้งและแหล่งช้อปปิ้งที่มีชีวิตชีวาในย่านการค้ายังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชิลล์และลิ้มลองของอร่อยจากคาเฟ่และร้านอาหารท้องถิ่น สัมผัสความงดงามของคากลิอารีและความอบอุ่นของวัฒนธรรมซาร์ดิเนียที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำไปตลอดกาล

ปัลม่า เดอ มายอร์กา เมืองหลวงที่มีเสน่ห์ของเกาะมายอร์กาในสเปน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมื่อเดินทางมาที่ท่าเรือ ปัลม่า คุณจะได้พบกับคาเฟ่และร้านค้าแนวทันสมัยที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง การเยี่ยมชมโบสถ์ La Seu ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรมโกธิคที่ล้ำค่าจริงๆ ไม่ไกลจากนั้น สวนสาธารณะ Parc de la Mar มอบบรรยากาศผ่อนคลาย ท่ามกลางวิวทะเลอันสวยงาม คุณสามารถเดินเล่นไปตามแนวกำแพงเมืองเก่า Ses Voltes ที่ไปตามรอบของโบสถ์พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ฉายแสงสะท้อนบนหน้าผาอันงดงาม สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ให้แวะชม Museu d'Es Baluard ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ผสมผสานระหว่างศิลปะและวิวทะเลอันน่าหลงใหล เมืองปัลม่าไม่เพียงแค่เป็นที่จอดเรือสำราญ แต่อย่างไรยังเป็นเวทีที่ให้คุณได้ค้นพบความงามและประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางที่ไม่มีวันลืมเลือน สัมผัสชีวิตในสไตล์ที่สุดขีด ณ ปัลม่า เดอ มายอร์กา และให้ความฝันของคุณเป็นจริงในดินแดนแห่งนี้!

อาลิกันเต้ เมืองหลวงของจังหวัดวัลเลนเซีย เป็นประตูสู่การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามายังรีสอร์ทในคอสตาบลังก้าทุกปี ด้วยภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่อบอุ่นและชายหาดทรายทองที่ยาวเหยียด อาลิกันเต้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนในวันหยุดพักผ่อนอย่างแท้จริง แต่เมืองนี้ยังมีเสน่ห์มากกว่านั้นอีกหลายประการ ริมทะเลที่งดงามของอาลิกันเต้ตัดกับวิวของปราสาทซานตาบาร์บาราที่ตั้งตระหง่านเหนือเมือง ซึ่งสื่อถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและซับซ้อน ชวนให้คุณสำรวจเส้นทางเดินชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของชนชาติและวัฒนธรรมที่ริเริ่มมาจากหลากหลายยุคสมัย เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ชีวิตในอาลิกันเต้ยังคงคึกคักไม่หยุดนิ่ง ด้วยบรรยากาศของไนท์ไลฟ์ที่เต็มไปด้วยสีสันและร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารเมดิเตอร์เรเนียนรสเลิศครบครัน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความสวยงามของธรรมชาติ หรือผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาลิกันเต้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ประเทศสเปนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหล่านี้!

ท่าเรือจิบรัลตาร์ ตั้งอยู่ที่จุดสิ้นสุดของคาบสมุทรไอบีเรีย เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยมี "หินจิบรัลตาร์" ที่สูงถึง 1,400 ฟุต ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของเมืองนี้ จิบรัลตาร์เป็นสถานที่ที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่บริเวณที่มหาสมุทรแอตแลนติกพบกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และห่างจากชายฝั่งของแอฟริกาเพียง 12 ไมล์ ในจิบรัลตาร์ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชอปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ซึ่งมีร้านค้าแบรนด์ดังในสไตล์อังกฤษที่คุ้นเคย ร่วมสัมผัสบรรยากาศที่เป็นกันเองและสบายเหมือนบ้านที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกมาเยือน สำหรับการสำรวจทัศนียภาพ ท่าเรือขนาดเล็กและถนนที่คดเคี้ยวทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยรถมินิบัสที่รองรับผู้โดยสารในจำนวนจำกัด โดยจะมีคนขับ/ไกด์คอยบริการนักท่องเที่ยว หากคุณต้องการความสะดวกในการเคลื่อนไหว สามารถจัดทัวร์ “Rock Tour” โดยแท็กซี่ที่มีพื้นที่เพิ่มเติมได้ จิบรัลตาร์ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่บ้านเกิดของนักเดินทาง แต่เป็นสถานที่เติมเต็มความฝันที่รอให้คุณมาเยือนและสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร!

เมือง Cádiz ตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่สวยงามในแคว้นอันดาลูเซีย คือ หนึ่งในท่าเรือที่มีความสำคัญและมีเสน่ห์ที่สุดในสเปน ด้วยประวัติศาสตร์กว่า 3,000 ปี ทำให้ Cádiz เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ด้วยบ้านสีขาวสวยงามและระเบียงที่ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสี สัมผัสบรรยากาศสบายๆ ผ่านการเดินเล่นที่ Plaza de España ซึ่งมีอนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงรัฐธรรมนูญสเปนฉบับแรกที่ถูกลงนามในปี 1812 สองข้างทางเดินริมทะเลที่สวยงามเชื่อมโยงกันดึงดูดผู้มาเยือนให้เพลิดเพลินไปกับวิวทะเลแอตแลนติกอันกว้างใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีสวนสาธารณะ Parque Genoves ที่ตั้งอยู่ใกล้หาดซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนที่โดดเด่น มีโรงละครกลางแจ้งและสวนแนวปาล์ม ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันสบายๆ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ไม่ควรพลาดคือมหาวิหารสไตล์นีโอคลาสสิกที่มีโดมทองอร่าม สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียง แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่รอให้คุณสัมผัสในทุกๆ หัวใจของการเดินทางในสเปน

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา
