
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oosterdam
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!

วัลเลตตา เมืองหลวงสุดหรูของประเทศมอลตา นับเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักการเดินทาง สถาปัตยกรรมที่ประณีตของพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่ล้อมรอบด้วยป้อมปราการสีครีมอันงดงาม จะทำให้คุณรู้สึกย้อนเวลาไปยังอดีตเมื่อก้าวเข้าสู่อาณาเขตแห่งนี้ การสำรวจเมืองวัลเลตตานั้นไม่จำเป็นต้องใช้รถ ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเดินสำรวจถนนสายหลักอย่าง Triq Repubblika ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคัก พร้อมด้วย Triq Mercante ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดท้องถิ่น ที่เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบในบรรยากาศที่เป็นกันเอง จุดเริ่มต้นการเดินทางในวัลเลตตาคือ City Gate ซึ่งเป็นประตูเข้าสู่เมือง ใช้เวลาพักผ่อนที่ออฟฟิศข้อมูลนักท่องเที่ยวบน Triq Mercante เพื่อรับแผนที่และข้อมูลสำคัญก่อนการเดินทาง ต่อด้วยการเลือกสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และสถานที่จัดแสดงศิลปะกลางแจ้ง วัลเลตตาไม่เพียงแต่ยังมีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่รอคอยให้คุณเดินทางมาสัมผัสและสร้างความทรงจำใหม่ในทุกย่างก้าว

ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอันงดงามแห่งนี้ มีเมืองหนึ่งที่โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์แห่งความสำคัญอย่าง “คานิอา” (Chania) ที่ตั้งอยู่ในเกาะครีต (Crete) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของเกาะและเป็นหลวงของจังหวัดที่มีชื่อเดียวกัน เมืองคานิอา แบ่งออกเป็นสองส่วน ได้แก่ “เมืองเก่า” ที่มีการก่อสร้างตามสถาปัตยกรรมแบบเวนิสที่สวยงาม และ “เมืองใหม่” ที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของเมืองเก่า เมืองเก่าของคานิอามีการผสมผสานระหว่างอาคารอันมีคุณค่าจากยุคเวนิสและอิทธิพลจากตุรกี ที่ให้ความรู้สึกย้อนยุคและสวยงามที่สุด โดยมีท่าเรือเวนิสที่สร้างขึ้นเมื่อหลายศตวรรษก่อน สัมผัสมนต์ขลังของสถาปัตยกรรมที่หยิบยกประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไว้ในอาคารเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถสำรวจเพลิดเพลินได้ในเวลาเพียงวันเดียว ด้วยความสะดวกและขนาดที่กะทัดรัดของเมือง ทำให้คานิอาเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดของนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจความงดงามแห่งครีตในทุกแง่มุม แวะมาแล้วจะเป็นประสบการณ์ที่เลิกไม่ลงสำหรับการเดินทางแดนดินแห่งประวัติศาสตร์นี้!

ซานโตรีนี (Santorini) เป็นเกาะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเจียน รูปร่างของเกาะเป็นเสี้ยวพระจันทร์ซึ่งถูกตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่เกาะไซคลาดิค ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจจากหมู่บ้านอียา (Ia) และสำรวจซากโบราณคดีอันน่าสนใจ ทั้งยังมีบ้านเรือนสีขาวสะอาดที่กลมกลืนกับท้องฟ้าอันสดใส ชื่อเดิมของซานโตรีนีคือ `คัลลิสติ` (Kállisti) ซึ่งแปลว่า "สวยที่สุด" แต่ต่อมาถูกปรับเป็น `ธีร่า` (Thira) ตามชื่อของผู้ตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เราเรียกในปัจจุบันคือ ซานโตรีนี ซึ่งได้ชื่อมาจากนักบุญไอรีน (St. Irene) แห่งเทสซาโลนิกิ การเดินทางโดยเรือมาถึงเกาะซานโตรีนีนั้นน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคุณล่องเรือผ่านเกาะซิกิโนส (Sikinos) และไอโอส (Ios) โดยมีกลุ่มเกาะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่สองด้าน การแล่นเรือเข้าสู่แคลเดอรีนั้นทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของหน้าผาที่สูง 1,100 ฟุต และเมื่อเรือถึงท่าเรืออาธินิออส (Athinios) คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันพิเศษที่สร้างความประทับใจ โดยภายในอ่าวนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมเก่าแก่และความงามที่ซ่อนอยู่จากพลังแห่งภูเขาไฟ ซานโตรีนี ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ยังมีเกาะเพื่อนบ้านที่น่าสนใจอีกมากมาย จึงไม่แปลกใจที่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

ท่าเรือคูซาดาซี (Kusadasi) เป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความสวยงามของประเทศตุรกี เมืองตากอากาศแสนคึกคักนี้มีทั้งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร และชีวิตชายหาดที่น่าตื่นตา แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือเมืองโบราณเอเฟซุส (Ephesus) ที่ถูกขุดค้นมาเพียง 20% ของทั้งหมด ทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นมหานครโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดในยุโรป เอเฟซุส ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 10 ก่อนคริสตกาล เป็นมรดกโลกของยูเนสโกและมีความงดงามที่น่าตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าสถาปัตยกรรมอย่างวิหารอาร์เทมิสซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกจะเหลือเพียงเศษซาก แต่ห้องสมุดเซลซัสยังคงยืนหยัดอย่างน่าประทับใจ ส่งเสริมให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้สัมผัสประสบการณ์ที่มีค่า นอกจากนี้ ยังมีบ้านของพระแม่มารีอยู่ใกล้เคียงบนเขานกไนท์เกล ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่าเป็นสถานที่ที่พระแม่มารีได้ใช้ชีวิตในช่วงท้ายของชีวิต เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนนี้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เยี่ยมชมทุกคน สำหรับผู้ที่ไม่สนใจประวัติศาสตร์ คูซาดาซีก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยชายหาดที่สวยงามอย่างชายหาดเลดี้ส (Ladies’ Beach) และร้านอาหารที่เสิร์ฟเคบับตุรกีอร่อย ๆ อีกมากมาย การเดินทางไปยังชายหาดที่ใสสะอาดของกูเซลคัมลิ (Guzelcamli) และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ปามุคคาเล (Pamukkale) ก็จะทำให้ความฝันในการสำรวจโลกของคุณเป็นจริงได้อย่างง่ายดาย

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

เมื่อคุณก้าวเท้าสู่เมืองโครฟู (Corfu) คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่มีมาช้านานที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของหลายวัฒนธรรม เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวานี้ตั้งอยู่บริเวณกลางชายฝั่งตะวันออกของเกาะโครฟู เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและมีใจกลางเมืองที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2007 ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาทางเรือเฟอร์รี่จากแผ่นดินใหญ่หรืออิตาลี หรือบินตรงมายังสนามบิน ณ โครฟู เมืองนี้คือจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยความงาม ทางเดินเล็ก ๆ ในเขตคนเดินยกระดับให้คุณเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมือง โดยคุณสามารถผ่อนคลายด้วยการจิบกาแฟหรือไอศกรีมที่ Liston Arcade ที่มีร่มเงา ควรใช้เวลาสำรวจพระราชวังมอน เรโปส (Mon Repos) โดยขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ให้บริการในช่วงฤดูร้อน และเมื่อถึงเวลาค่ำคืน เมืองนี้จะมีบรรยากาศที่แตกต่างด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารชั้นเลิศของเกาะ การเดินทางในเมืองโครฟูเป็นไปอย่างสะดวกสบาย คุณสามารถเดินเท้าสำรวจได้ทั่วถึง เมืองมีความเล็กพอที่คุณจึงไม่ต้องพึ่งพารถบัสที่ไม่สามารถเข้าถึงในเขตประวัติศาสตร์ หากคุณเดินทางมาทางเฟอร์รี่หรือเครื่องบิน แนะนำให้ใช้แท็กซี่ซึ่งจะพาคุณไปยังโรงแรมได้ในราคาเพียง 10 ยูโร ห้ามพลาด!

ที่เมืองสตรอมโบลี (Stromboli) ประเทศอิตาลี ท่าเรือที่โดดเด่นแห่งนี้เป็นประตูสู่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สำหรับนักท่องเที่ยวผู้แสวงหาความตื่นเต้น ทิวทัศน์สวยงาม และการผจญภัยในธรรมชาติ สตรอมโบลีโดดเด่นด้วยภูเขาไฟที่ยังคงมีชีวิตและพร้อมให้คุณค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เมื่อขึ้นเรือที่ท่าเรือสตรอมโบลี คุณจะถูกต้อนรับด้วยวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟที่พวยพุ่งควันจากจุดสูงสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในอารมณ์ที่ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ล้อเลื่อนเสมือนจริงกำลังรอคอยคุณอยู่ ด้วยความสวยงามของชายหาดที่มีทรายสีดำและน้ำทะเลฟ้าใสคุณจะมีโอกาสผ่อนคลายและสนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำ สำหรับผู้ที่รักการเดินป่า สตรอมโบลีมีเส้นทางเดินป่าที่น่าตื่นเต้นเพื่อนำคุณไปสู่ยอดเขา นอกจากนี้ คุณยังสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อบอุ่น และลิ้มลองอาหารอิตาเลียนที่มีชื่อเสียง ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การเดินทางของคุณให้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น มาร่วมเปิดประตูสู่ความมหัศจรรย์ของสตรอมโบลี สถานที่ที่แนบชิดกับธรรมชาติและประวัติศาสตร์ พร้อมสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในชีวิตของคุณ!

เมืองเมสซินา ตั้งอยู่ในซิซิลี ประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาประสบการณ์อันน่าทึ่ง เมืองนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะและประวัติศาสตร์อันล้ำค่าอีกด้วย ที่นี่มี Museo Regionale di Messina ซึ่งจัดแสดงผลงานสองชิ้นอันมีชื่อเสียงของศิลปินระดับโลกอย่าง Caravaggio ซึ่งจะทำให้ทุกคนประทับใจในความสวยงามและความลึกซึ้งของศิลปะสมัยบาโรก นอกจากนี้ เมสซินายังมีเสน่ห์ที่น่าสนใจจากสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะโบสถ์คาทอลิกที่งดงามซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งของเมือง อีกทั้งยังมีวิวทะเลที่งดงาม ชายหาดที่สวยงามและขั้นบันไดจากภูเขานำเสนอทัศนียภาพที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ที่มีใจรักในการสำรวจ เมสซินาเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ของซิซิลี พร้อมทั้งสัมผัสถึงอาหารพื้นเมืองอันเลิศรสที่จะทำให้คุณลืมไม่ลง เพลิดเพลินไปกับเสน่ห์และความอัศจรรย์ของเมสซินาในทุก ๆ การเดินทางที่คุณมาที่นี่!


เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

ลิเวอร์โน่ (Livorno) เป็นท่าเรือที่นับเป็นเพชรเม็ดงามของอิตาลี และได้เปลี่ยนผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีต เมืองนี้เริ่มต้นจากการที่เคยถูกแบ่งเป็นของปิซาและเจนัว ก่อนที่จะถูกซื้อโดยฟลอเรนซ์ในปี 1421 เพื่อเปิดเส้นทางสู่ทะเล คอสิโมที่ 1 ได้เริ่มก่อสร้างท่าเรือในปี 1571 ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางทางทะเลสำคัญ ตลอดศตวรรษที่ 18 ลิเวอร์โน่เจริญรุ่งเรืองเป็นท่าเรือที่สำคัญ โดยเป็นที่ตั้งของกลุ่มคนหลากหลายเชื้อชาติ เช่น ชาวโรมันคาทอลิกจากอังกฤษ และชาวยิวและมอริชจากสเปน นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์ Quattro Mori ที่สร้างเพื่อระลึกถึงเฟร์ดินานโดที่ 1 แม้ว่าหลายส่วนของสถาปัตยกรรมในเมืองจะมีอายุหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ลิเวอร์โน่เต็มไปด้วยสีสันของตลาดและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะ Mercato Nuovo ที่มีสินค้าท้องถิ่นให้เลือกซื้อมากมาย ตั้งแต่อาหารสดจนถึงผลิตภัณฑ์อเมริกัน ที่พบได้จากฐานทัพอเมริกัน Camp Darby ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง หากคุณมีเวลา ลิเวอร์โน่เป็นสถานที่ที่ควรแวะรับประทานอาหารกลางวันหรือมื้อเย็นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความหลากหลายแห่งนี้ จะทำให้คุณรู้สึกประทับใจในเอกลักษณ์ของเมืองที่สวยงามและมีชีวิตชีวาเป็นอย่างยิ่ง

ท่าเรือปอร์โตฟิโน่ (Portofino) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของอิตาลี เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและความหรูหรา ที่มีชื่อเสียงในการเป็นสถานที่พักผ่อนของคนชั้นสูงและเซเลบริตี้ มันเคยเป็นอาณานิคมโรมันที่ได้รับการปกครองจากหลายชาติ ทั้งฝรั่งเศส อังกฤษ สเปน และออสเตรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นยุคของโจรสลัดที่มีชื่อเสียง ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่มีช่วงเวลาที่คึกคักมากนัก แม้ว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาจำนวนมากในช่วงกลางวัน แต่บรรยากาศในตอนเย็นจะกลับกลายเป็นบรรยากาศที่มีเสน่ห์ ด้วยการมองเห็นเรือยอชท์หรูหราที่ทอดอยู่บนผืนน้ำสีฟ้าของทะเลลิกูเรียน สิ่งที่นักท่องเที่ยวทำได้ที่ปอร์โตฟิโน่มักจะเป็นการเดินเล่นรอบท่าเรือ ชมนครที่มีปราสาท และสัมผัสกับสวนสวยที่อยู่เหนือน้ำ หากคุณไม่ต้องการใช้จ่ายมากเกินไป การพักที่เมืองคามอจี (Camogli) หรือซานต้า มาร์เกอรีต้า ลิกูเร่ (Santa Margherita Ligure) อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อาหารที่นี่ไม่ว่าจะเป็นร้านหรือคาเฟ่ก็มีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่มีเสน่ห์และน่าจดจำที่ปอร์โตฟิโน่ แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งนี้คือแหล่งรวมของความงามตามธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอให้คุณไปค้นพบ!

ท่าเรือมาร์เซย์ (Marseille) เมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงวัฒนธรรมแห่งยุโรปในปี 2013 ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างมหาศาล ด้วยการลงทุนกว่า 660 ล้านยูโร เพื่อสร้างศูนย์ศิลป์ใหม่ ๆ มากมาย ท่าเรือได้รับการปรับปรุงอย่างงดงาม ถนนหนทางและย่านต่าง ๆ กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชีวิตชีวา คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ มาร์เซย์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของฝรั่งเศส ซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา มีประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ตั้งแต่คราวที่ชาวฟินีเชียนและกรีกมายังท่าเรือในปี 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช จนกระทั่งสงครามและการเปลี่ยนแปลงมากมายได้สร้างรูปแบบใหม่ให้กับเมือง วันนี้ มาเยือนที่ท่าเรือเก่า (Vieux Port) คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลาย ทั้งร้านค้า หอศิลป์และร้านอาหารที่ลงทุนสร้างใหม่อย่างทันสมัย มาร์เซย์จึงไม่ใช่แค่ท่าเรือ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวของวัฒนธรรมที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่น หรือการแสดงศิลปะที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นเต้นและมีเสน่ห์ ต้องไม่พลาดที่จะเยือนมาร์เซย์ซึ่งเต็มไปด้วย charm และ history ที่คุณจะไม่มีวันลืม.

ท่าเรือจิบรัลตาร์ ตั้งอยู่ที่จุดสิ้นสุดของคาบสมุทรไอบีเรีย เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยมี "หินจิบรัลตาร์" ที่สูงถึง 1,400 ฟุต ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของเมืองนี้ จิบรัลตาร์เป็นสถานที่ที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่บริเวณที่มหาสมุทรแอตแลนติกพบกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และห่างจากชายฝั่งของแอฟริกาเพียง 12 ไมล์ ในจิบรัลตาร์ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชอปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ซึ่งมีร้านค้าแบรนด์ดังในสไตล์อังกฤษที่คุ้นเคย ร่วมสัมผัสบรรยากาศที่เป็นกันเองและสบายเหมือนบ้านที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกมาเยือน สำหรับการสำรวจทัศนียภาพ ท่าเรือขนาดเล็กและถนนที่คดเคี้ยวทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยรถมินิบัสที่รองรับผู้โดยสารในจำนวนจำกัด โดยจะมีคนขับ/ไกด์คอยบริการนักท่องเที่ยว หากคุณต้องการความสะดวกในการเคลื่อนไหว สามารถจัดทัวร์ “Rock Tour” โดยแท็กซี่ที่มีพื้นที่เพิ่มเติมได้ จิบรัลตาร์ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่บ้านเกิดของนักเดินทาง แต่เป็นสถานที่เติมเต็มความฝันที่รอให้คุณมาเยือนและสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร!

บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!
