
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oosterdam
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

เมื่อคุณก้าวเท้าสู่เมืองโครฟู (Corfu) คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่มีมาช้านานที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของหลายวัฒนธรรม เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวานี้ตั้งอยู่บริเวณกลางชายฝั่งตะวันออกของเกาะโครฟู เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและมีใจกลางเมืองที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2007 ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาทางเรือเฟอร์รี่จากแผ่นดินใหญ่หรืออิตาลี หรือบินตรงมายังสนามบิน ณ โครฟู เมืองนี้คือจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยความงาม ทางเดินเล็ก ๆ ในเขตคนเดินยกระดับให้คุณเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมือง โดยคุณสามารถผ่อนคลายด้วยการจิบกาแฟหรือไอศกรีมที่ Liston Arcade ที่มีร่มเงา ควรใช้เวลาสำรวจพระราชวังมอน เรโปส (Mon Repos) โดยขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ให้บริการในช่วงฤดูร้อน และเมื่อถึงเวลาค่ำคืน เมืองนี้จะมีบรรยากาศที่แตกต่างด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารชั้นเลิศของเกาะ การเดินทางในเมืองโครฟูเป็นไปอย่างสะดวกสบาย คุณสามารถเดินเท้าสำรวจได้ทั่วถึง เมืองมีความเล็กพอที่คุณจึงไม่ต้องพึ่งพารถบัสที่ไม่สามารถเข้าถึงในเขตประวัติศาสตร์ หากคุณเดินทางมาทางเฟอร์รี่หรือเครื่องบิน แนะนำให้ใช้แท็กซี่ซึ่งจะพาคุณไปยังโรงแรมได้ในราคาเพียง 10 ยูโร ห้ามพลาด!

ที่เมืองสตรอมโบลี (Stromboli) ประเทศอิตาลี ท่าเรือที่โดดเด่นแห่งนี้เป็นประตูสู่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในท้องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน สำหรับนักท่องเที่ยวผู้แสวงหาความตื่นเต้น ทิวทัศน์สวยงาม และการผจญภัยในธรรมชาติ สตรอมโบลีโดดเด่นด้วยภูเขาไฟที่ยังคงมีชีวิตและพร้อมให้คุณค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เมื่อขึ้นเรือที่ท่าเรือสตรอมโบลี คุณจะถูกต้อนรับด้วยวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟที่พวยพุ่งควันจากจุดสูงสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในอารมณ์ที่ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ล้อเลื่อนเสมือนจริงกำลังรอคอยคุณอยู่ ด้วยความสวยงามของชายหาดที่มีทรายสีดำและน้ำทะเลฟ้าใสคุณจะมีโอกาสผ่อนคลายและสนุกสนานกับกิจกรรมทางน้ำ สำหรับผู้ที่รักการเดินป่า สตรอมโบลีมีเส้นทางเดินป่าที่น่าตื่นเต้นเพื่อนำคุณไปสู่ยอดเขา นอกจากนี้ คุณยังสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่อบอุ่น และลิ้มลองอาหารอิตาเลียนที่มีชื่อเสียง ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การเดินทางของคุณให้เต็มอิ่มยิ่งขึ้น มาร่วมเปิดประตูสู่ความมหัศจรรย์ของสตรอมโบลี สถานที่ที่แนบชิดกับธรรมชาติและประวัติศาสตร์ พร้อมสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในชีวิตของคุณ!

เมืองเมสซินา ตั้งอยู่ในซิซิลี ประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาประสบการณ์อันน่าทึ่ง เมืองนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะและประวัติศาสตร์อันล้ำค่าอีกด้วย ที่นี่มี Museo Regionale di Messina ซึ่งจัดแสดงผลงานสองชิ้นอันมีชื่อเสียงของศิลปินระดับโลกอย่าง Caravaggio ซึ่งจะทำให้ทุกคนประทับใจในความสวยงามและความลึกซึ้งของศิลปะสมัยบาโรก นอกจากนี้ เมสซินายังมีเสน่ห์ที่น่าสนใจจากสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะโบสถ์คาทอลิกที่งดงามซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งของเมือง อีกทั้งยังมีวิวทะเลที่งดงาม ชายหาดที่สวยงามและขั้นบันไดจากภูเขานำเสนอทัศนียภาพที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ที่มีใจรักในการสำรวจ เมสซินาเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ของซิซิลี พร้อมทั้งสัมผัสถึงอาหารพื้นเมืองอันเลิศรสที่จะทำให้คุณลืมไม่ลง เพลิดเพลินไปกับเสน่ห์และความอัศจรรย์ของเมสซินาในทุก ๆ การเดินทางที่คุณมาที่นี่!


เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

ท่าเรือปอร์โตฟิโน่ (Portofino) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของอิตาลี เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและความหรูหรา ที่มีชื่อเสียงในการเป็นสถานที่พักผ่อนของคนชั้นสูงและเซเลบริตี้ มันเคยเป็นอาณานิคมโรมันที่ได้รับการปกครองจากหลายชาติ ทั้งฝรั่งเศส อังกฤษ สเปน และออสเตรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นยุคของโจรสลัดที่มีชื่อเสียง ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่มีช่วงเวลาที่คึกคักมากนัก แม้ว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาจำนวนมากในช่วงกลางวัน แต่บรรยากาศในตอนเย็นจะกลับกลายเป็นบรรยากาศที่มีเสน่ห์ ด้วยการมองเห็นเรือยอชท์หรูหราที่ทอดอยู่บนผืนน้ำสีฟ้าของทะเลลิกูเรียน สิ่งที่นักท่องเที่ยวทำได้ที่ปอร์โตฟิโน่มักจะเป็นการเดินเล่นรอบท่าเรือ ชมนครที่มีปราสาท และสัมผัสกับสวนสวยที่อยู่เหนือน้ำ หากคุณไม่ต้องการใช้จ่ายมากเกินไป การพักที่เมืองคามอจี (Camogli) หรือซานต้า มาร์เกอรีต้า ลิกูเร่ (Santa Margherita Ligure) อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อาหารที่นี่ไม่ว่าจะเป็นร้านหรือคาเฟ่ก็มีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่มีเสน่ห์และน่าจดจำที่ปอร์โตฟิโน่ แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งนี้คือแหล่งรวมของความงามตามธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอให้คุณไปค้นพบ!
เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือของอาจักซิโอ (Ajaccio) บนเกาะคอร์ซิกา คุณจะได้สัมผัสกับการหลอมรวมระหว่างประวัติศาสตร์และความงดงามตามธรรมชาติที่อิ่มเอมใจ ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการค้าขายและวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของคอร์ซิกา โดยตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ห่างจากมาร์แซย์ประมาณ 644 กิโลเมตร เมืองที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1492 นี้มีความเกี่ยวพันกับนโปเลียน โบนาปาร์ต ซึ่งเป็นบุตรชายของเมืองที่มีชื่อเสียง บ้านเกิดของเขา ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Maison Bonaparte ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสูบฉีดแรงบันดาลใจให้ผู้มาเยือน ในย่านเมืองเก่า คุณจะพบกับซากความเป็นอาณานิคมเจนัวอันเก่าแก่ ที่ยังคงยืนหยัดอยู่รอบๆ ป้อมปราการและหอคอยที่โดดเด่น เมืองอาจักซิโอได้ชื่อว่าเป็นเมืองชายทะเลยอดนิยมที่มีทิวทัศน์ที่ร่มรื่นและชายหาดที่งดงาม พร้อมด้วยร้านเช่าเรือ แล่นไปยังท่าเรือ Tino Rossi ที่เป็นที่จอดเรือประมงและเรือใบสำราญที่ส่งความสุขแก่ผู้มาเยือนด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ที่บริการอาหารท้องถิ่นที่สดใหม่ สำรวจความหรูหราและเสน่ห์ที่อาจักซิโอ ที่ซึ่งคุณสามารถสัมผัสทั้งความเป็นกระแสสังคมและความงามของธรรมชาติได้ในที่เดียว!

ท่าเรือมาร์เซย์ (Marseille) เมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงวัฒนธรรมแห่งยุโรปในปี 2013 ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างมหาศาล ด้วยการลงทุนกว่า 660 ล้านยูโร เพื่อสร้างศูนย์ศิลป์ใหม่ ๆ มากมาย ท่าเรือได้รับการปรับปรุงอย่างงดงาม ถนนหนทางและย่านต่าง ๆ กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชีวิตชีวา คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ มาร์เซย์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของฝรั่งเศส ซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา มีประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ตั้งแต่คราวที่ชาวฟินีเชียนและกรีกมายังท่าเรือในปี 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช จนกระทั่งสงครามและการเปลี่ยนแปลงมากมายได้สร้างรูปแบบใหม่ให้กับเมือง วันนี้ มาเยือนที่ท่าเรือเก่า (Vieux Port) คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลาย ทั้งร้านค้า หอศิลป์และร้านอาหารที่ลงทุนสร้างใหม่อย่างทันสมัย มาร์เซย์จึงไม่ใช่แค่ท่าเรือ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวของวัฒนธรรมที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่น หรือการแสดงศิลปะที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นเต้นและมีเสน่ห์ ต้องไม่พลาดที่จะเยือนมาร์เซย์ซึ่งเต็มไปด้วย charm และ history ที่คุณจะไม่มีวันลืม.

ท่าเรือจิบรัลตาร์ ตั้งอยู่ที่จุดสิ้นสุดของคาบสมุทรไอบีเรีย เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยมี "หินจิบรัลตาร์" ที่สูงถึง 1,400 ฟุต ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของเมืองนี้ จิบรัลตาร์เป็นสถานที่ที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่บริเวณที่มหาสมุทรแอตแลนติกพบกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และห่างจากชายฝั่งของแอฟริกาเพียง 12 ไมล์ ในจิบรัลตาร์ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชอปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ซึ่งมีร้านค้าแบรนด์ดังในสไตล์อังกฤษที่คุ้นเคย ร่วมสัมผัสบรรยากาศที่เป็นกันเองและสบายเหมือนบ้านที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกมาเยือน สำหรับการสำรวจทัศนียภาพ ท่าเรือขนาดเล็กและถนนที่คดเคี้ยวทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยรถมินิบัสที่รองรับผู้โดยสารในจำนวนจำกัด โดยจะมีคนขับ/ไกด์คอยบริการนักท่องเที่ยว หากคุณต้องการความสะดวกในการเคลื่อนไหว สามารถจัดทัวร์ “Rock Tour” โดยแท็กซี่ที่มีพื้นที่เพิ่มเติมได้ จิบรัลตาร์ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่บ้านเกิดของนักเดินทาง แต่เป็นสถานที่เติมเต็มความฝันที่รอให้คุณมาเยือนและสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร!

บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!








สัมผัสประสบการณ์การเข้าพักใน "巔峰套房" ขนาดกว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง ที่นี่มอบความหรูหราผสมผสานกับความสะดวกสบายอย่างลงตัว ภายในห้องประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร หัวใจสำคัญของห้องคือห้องครัวขนาดเล็กที่มีไมโครเวฟและตู้เย็น รวมถึงหน้าต่างขนาดใหญ่จากพื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัวพร้อมอ่างน้ำร้อน ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซส์ ซึ่งมีชื่อว่า Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก ในห้องน้ำมีอ่างน้ำร้อนขนาดใหญ่และฝักบัว ซึ่งยังมีพื้นที่สำหรับฝักบัวแยกเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีโซฟาที่สามารถปรับเป็นเตียงสำหรับผู้เข้าพักได้อีกสองคน พร้อมกับห้องน้ำสำหรับแขก สิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยระบบเสียงส่วนตัว การเข้าถึง Neptune Lounge แบบเฉพาะตัว การให้บริการจากทาง concierge และบริการฟรีที่หลากหลาย ทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นที่ประมาณ 1,150 ตารางฟุต รวมระเบียง ที่จะทำให้การพักผ่อนใน "巔峰套房" ของคุณน่าจดจำและเต็มไปด้วยความสุข.





ห้องชุด "ห้องพักเกอเธอ" แตกต่างด้วยหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานมองออกไปยังระเบียงส่วนตัว ทำให้ห้องพักกว้างขวางนี้เต็มไปด้วยแสงสว่าง ห้องมีกพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ และเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้เป็นเตียงขนาดคิงไซส์ เตียงนอนรุ่นพิเศษ "Mariner's Dream™" พร้อมที่นอนหนานุ่มแบบ Euro-Top และยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดที่สามารถรองรับผู้เข้าพักได้ถึงสองคน ห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าคู่ อ่างน้ำวนขนาดใหญ่ และห้องอาบน้ำแยก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย รวมถึงการเข้าถึง Neptune Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์ ส่วนบุคคล และบริการฟรีมากมาย ห้องชุดมีขนาดประมาณ 500-712 ตารางฟุต รวมระเบียงไว้ด้วย




ห้องสวีทสุดหรูขนาดกว้างขวาง เหมาะสำหรับพักผ่อนอย่างเต็มที่ ด้วยพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่และหน้าต่างจากพื้นจรดเพดานที่เปิดมุมมองออกไปยังระเบียงส่วนตัว สวีทนี้ยังมีเตียงนอนขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถจัดเรียงเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์แบบ Mariner's Dream™ ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ฟูฟ่องให้ความสะดวกสบาย และยังมีโซฟาเบดสำหรับการนอนหนึ่งคนอีกด้วย ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่ขนาดเต็มพร้อมห้องอาบน้ำแยก และอ่างล้างหน้าคู่ สวีทนี้มีพื้นที่ประมาณ 372-384 ตารางฟุต รวมถึงระเบียง การจัดเรียงของห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง




ห้องพักประเภท "阳台" เป็นห้องที่เต็มไปด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดาน โดยมีวิวที่สวยงามเหนือระเบียงส่วนตัว ห้องนี้มีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง รวมถึงเตียงสองเตียงที่สามารถจัดเรียงให้เป็นเตียงควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียงที่โด่งดังของเราอย่าง Mariner’s Dream™ ที่มีที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียมให้บริการ ห้องนี้มีขนาดประมาณ 212-359 ตารางฟุต รวมระเบียงด้วย โดยรูปแบบห้องพักอาจแตกต่างไปจากภาพที่แสดง.


ห้องพักที่กว้างขวางนี้คือ "海景客艙" ซึ่งมีเตียงคู่ด้านล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์—เตียงที่เราเรียกว่า Signature Mariner's Dream™ มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย มีหัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลายรวมถึงวิวมหาสมุทร ห้องพักมีขนาดประมาณ 174-180 ตารางฟุต ซึ่งอาจมีรูปแบบแตกต่างกันจากภาพที่แสดง ทั้งนี้จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและเพลิดเพลินในทุกช่วงเวลาที่อยู่บนเรือ。




ห้องพักประเภท "ส่วนการวิวทะเล" นี้มีมุมมองที่สามารถมองเห็นทะเลบางส่วน พร้อมด้วยเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงขนาดควีนไซส์—เตียงที่มีชื่อเสียงของเรา Mariner's Dream™ มาพร้อมกับที่นอนสุดนุ่มในแบบ Euro-Top และหัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ครบครัน ห้องพักมีขนาดประมาณ 174-180 ตารางฟุต ซึ่งจะช่วยให้คุณสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนบนเรือสำราญได้อย่างเต็มที่.



ห้องพักใหญ่เหล่านี้มีเตียงขนาดคู่รองลงมา 2 เตียงซึ่งปรับเป็นเตียงควีนไซส์ได้—เตียง Signature Mariner's Dream™ ของเรามีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย, หัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อีกทั้งวิวจากห้องพักนั้นจะไม่มีการมองเห็นใดๆ ห้องพักมีพื้นที่ประมาณ 174-180 ตารางฟุต ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ในบรรยากาศที่หรูหราและมีความเป็นส่วนตัวในห้องพักประเภท "วิวทะเลที่ถูกบดบังอย่างสมบูรณ์" นี้


ห้องพักประเภท "大內艙" ที่กว้างขวางนี้มีเตียงสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ได้—พร้อมด้วยที่นอน Euro-Top อันหรูหราและหัวฝักบัวนวดพรีเมียม อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การพักผ่อนที่ดีที่สุด ขนาดห้องพักอยู่ระหว่าง 151–233 ตารางฟุต และการจัดเรียงห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง โดยรวมแล้ว "大內艙" เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเดินทางที่มองหาความสะดวกสบายและความหรูหราในระหว่างการล่องเรือ


ห้องพักประเภทภายในนำเสนอเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ได้ ด้วยเตียงคุณภาพสูง Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับฟูกนุ่มพิเศษและหัวฝักบัวนวดคุณภาพชั้นนำ ห้องพักที่สะดวกสบายนี้มีพื้นที่ประมาณ 151–233 ตารางฟุต และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเพื่อยกระดับประสบการณ์เข้าพักของท่าน โปรดทราบว่า การจัดวางภายในห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ เพื่อให้ท่านสัมผัสความสะดวกสบายในแบบที่ไม่เหมือนใคร