
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

ซูเดอร์แดม
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ท่าเรือบอสตัน, แมสซาชูเซตส์ เป็นประตูสู่ประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายอย่างแท้จริง โอบล้อมไปด้วยตึกสูงระฟ้าและโรงแรมเก่าแก่ ท่ามกลางถนนหินกรวดโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอดีต บอสตันจึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างความเป็นสมัยใหม่และความคลาสสิค นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของตลาดสมัยใหม่ รวมถึงศิลปะและวัฒนธรรมในแหล่งการค้าต่างๆ เช่น ตลาด Faneuil Hall ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารชื่อดัง นอกจากนี้ บอสตันยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น พิพิธภัณฑ์บริจาคที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และการเดินตามเส้นทาง Freedom Trail ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสประวัติศาสตร์อเมริกันตั้งแต่เริ่มแรก การล่องเรือในอ่าวบอสตันยังเป็นข้อเสนอที่ไม่ควรพลาด เพื่อดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่งดงาม พร้อมชมแลนด์มาร์คที่สำคัญอย่าง USS Constitution และโรงละครที่มีชื่อเสียง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ทำให้คุณตื่นตาตื่นใจ พบกับประสบการณ์สุดพิเศษและสร้างความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนในบอสตัน เมืองที่มีแต่อดีตและความทันสมัยผสมผสานอย่างลงตัว คอยต้อนรับนักเดินทางทั่วทุกมุมโลก

พอร์ตแลนด์ รัฐเมน เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐเมน และตั้งอยู่บนคาบสมุทร Casco Bay ซึ่งถูกก่อตั้งในปี 1632 เมืองนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจากการก่อสร้างเรือและการส่งออกไม้สนที่มีคุณภาพสูง ฟากฝั่งทะเลที่ทอดยาวมีท่าไม้ยาวเหยียดทำให้พอร์ตแลนด์เปลี่ยนเป็นเมืองที่มีบรรยากาศทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย การมาถึงของทางรถไฟช่วยให้การขนส่งสินค้าและวัตถุดิบจากแคนาดาและทุ่งกว้างของสหรัฐฯ สะดวกมากยิ่งขึ้น ท่านักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเก่าที่มีเสน่ห์ใน Old Port ซึ่งมีร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ ที่เสิร์ฟอาหารอร่อยหลากหลายประเภท ทั้งอาหารทะเลสดใหม่ ร้านกาแฟ และร้านอาหารแบบชั้นสูง โดยเฉพาะที่ Portland Museum of Art ที่มีคอลเล็กชันศิลปะที่ยอดเยี่ยม เมื่อเรือพิพัฒนามาจอดที่ Terminal ของพอร์ตแลนด์ ผู้โดยสารสามารถเดินไปยัง Old Port District ได้ง่าย ๆ ใช้เวลาเพียงสองช่วงตึก นอกจากนี้ยังมีรถแท็กซี่คอยบริการ นักช้อปสามารถเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกจากร้านค้าหลายแห่งในพื้นที่ หรือจะออกไปเยือน Freeport เพื่อพบกับร้านค้าแบรนด์เนมที่ลดราคา ไม่ควรพลาดที่จะสำรวจ Portland Head Light และ Fort Williams Park ที่สวยงาม รวมถึง Kennebunkport หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ เป็นสถานที่พักผ่อนในฤดูร้อนของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช ทำให้พอร์ตแลนด์เต็มไปด้วยความอิ่มเอมและแรงบันดาลใจในการเดินทางอย่างแท้จริง

เมื่อคุณมาถึงซิดนีย์ นอฟสโกเชีย ซึ่งเป็นประตูสู่เกาะเคปเบรตัน ทั้งจากเที่ยวบิน เรือเฟอร์รี่ หรือเรือสำราญ คุณจะพบกับเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ นี่คือเมืองเดียวของเกาะที่ทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศในแบบเมืองใหญ่ แม้ว่าซิดนีย์จะไม่เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมเหล็กที่รุ่งเรืองเหมือนในอดีต แต่เมืองนี้มีเสน่ห์ด้วยท่าเรือที่ได้รับการปรับปรุงและอาคารสไตล์ลอยัลลิสต์อันมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้เคียงได้อย่างสะดวกสบาย อาทิ พิพิธภัณฑ์คนงานเหมืองในเมืองเกลซเบย์ ซึ่งมีชื่อเสียงจากน้ำแข็งที่เคยปกคลุมท่าเรือในฤดูหนาว และป้อมปราการที่ลุยส์บูร์ก ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีต รวมถึงทะเลสาบบราซดอร์ที่สวยงาม โดยไม่ว่าจะเป็นการเดินชมธรรมชาติหรือสำรวจประวัติศาสตร์ ซิดนีย์คือเส้นทางที่เต็มไปด้วยการผจญภัยสำหรับผู้รักการเดินทาง คุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของวิถีชีวิตของชาวแคนาดาในบรรยากาศที่น่าหลงใหลและสงบสุขในทุกมุมมอง

คอร์เนอร์บรูค (Corner Brook) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในนิวฟันด์แลนด์และแลบราโดร์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะที่มีความงดงาม โดยมีภูเขาล้อมรอบสามด้านของเมือง มอบทัศนียภาพที่ดื่มด่ำของท่าเรือและอ่าวของเกาะ มนต์เสน่ห์ของที่นี่ไม่เพียงแต่มีในธรรมชาติ แต่ยังมีโรงงานกระดาษขนาดใหญ่และสถาบันการศึกษาของ Memorial University ซึ่งเป็นจุดหมายที่นักศึกษาและนักลงทุนต่างให้ความสนใจ คอร์เนอร์บรูคมีฤดูกาลที่ชัดเจนกว่าที่อื่นในนิวฟันด์แลนด์ โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่เมืองจะเต็มไปด้วยสวนสวยที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้บานสะพรั่ง นอกจากนี้ คอร์เนอร์บรูคยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจแม่น้ำฮัมเบอร์ (Humber River) แม่น้ำปลาแซลมอนที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัด พร้อมกับเส้นทางเดินป่าที่ได้รับการดูแลอย่างดี นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติในทุกฤดูกาล หากคุณมุ่งหน้ามาที่คอร์เนอร์บรูค คุณจะได้สัมผัสการผ่อนคลายพร้อมค้นพบประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น และการผจญภัยที่ไม่มีวันลืม ลักษณะเฉพาะของที่นี่จะสร้างแรงบันดาลใจและสร้างภาพฝันในการเดินทางที่คุณไม่อยากจะพลาด.

ที่ Red Bay ใน Newfoundland and Labrador คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่น่าหลงใหล ปลายทางนี้จัดเป็นมรดกโลกที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก เนื่องจากมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเกี่ยวกับการล่าสิงโตทะเลในช่วงศตวรรษที่ 16 สถานที่นี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญสำหรับนักล่าสิงโตทะเลจากยุโรป เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าเรือ Red Bay คุณจะมีโอกาสเดินชมทิวทัศน์ที่งดงามของชายฝั่ง เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของชุมชนท้องถิ่น คุณสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Red Bay ซึ่งจะพาคุณย้อนเวลาไปยังอดีต พร้อมด้วยการนำเสนอวัตถุโบราณและสารคดีที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ ยังมีวิวทิวทัศน์อันตระการตาของทะเล เมื่อคุณสำรวจถ้ำและแนวหน้าผาที่มีสีสัน ซึ่งเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่สะท้อนถึงความงามอันน่าหลงใหลของดินแดนแคนาดา สัมผัสและดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครที่ Red Bay สถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของอดีตและธรรมชาติ ที่รอให้คุณมาเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่น่าจดจำนี้.

ปาไมอุต (Paamiut) หรือที่รู้จักในชื่อเฟรดริคซาอับ (Fredrikshaab) คือท่าเรือที่น่าหลงใหลในกรีนแลนด์ ร้านค้าขนาดเล็กและบ้านเรือนไม้น่ารักที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขาและน้ำทะเลสีฟ้าเข้มสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อนที่อากาศอบอวลไปด้วยแสงแดดอันร้อนแรง ท่าเรือปาไมอุตเป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจความงามของธรรมชาติที่งดงามของกรีนแลนด์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสการเดินป่าในพื้นที่เอลฟ์บอร์ก (Elfiefjord) ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงามหรือเลือกทำกิจกรรมทางน้ำ เช่น การพายเรือคายัค หรือล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งที่ยืนอยู่สูงตระหง่าน ศิลปะและวัฒนธรรมของกรีนแลนด์ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ความเป็นอยู่ของชาวกรีนแลนด์โดยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ที่นำเสนอเรื่องราวและวิถีชีวิตของผู้คน รวมทั้งผลิตภัณฑ์งานฝีมือที่สวยงาม การเยี่ยมชมท่าเรือปาไมอุตยังเป็นโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นที่มาพร้อมกับการเดินทางสำรวจธรรมชาติในสถานที่อันห่างไกลที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความลึกลับ เตรียมตัวให้พร้อมในการเดินทางสู่สถานที่ที่ทำให้หัวใจของคุณเต้นแรงและสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจไปตลอดชีวิต

นานอร์ตาลิค (Nanortalik) เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในใจกลางธรรมชาติอันงดงามของกรีนแลนด์ ย่านนี้มีภูเขาสูงตระหง่านล้อมรอบ และถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางใต้ของเกาะ ตัวเมืองมีประชากรน้อยกว่า 1,500 คน และชื่อ "นานอร์ตาลิค" แปลว่า "สถานที่ของหมีขั้วโลก" ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงหมีขั้วโลกที่曾เคยเห็นลอยอยู่บนแผ่นน้ำแข็งในฤดูร้อน หนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจของนานอร์ตาลิคคือพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวอินูอิต โดยเฉพาะการจัดแสดงแคมป์ล่าสัตว์ในฤดูร้อน ที่ทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่และประเพณีอันงดงามของบรรพบุรุษชาวอินูอิต อีกทั้งยังมีช่างฝีมือท้องถิ่นที่แต่งกายชุดดั้งเดิมมาแบ่งปันเรื่องราวและวัฒนธรรมได้อย่างมีชีวิตชีวา หากคุณมองหาประสบการณ์การเดินทางที่พิเศษและเป็นเอกลักษณ์ นานอร์ตาลิคคือจุดหมายที่ชวนให้คุณหลงใหล พื้นที่นี้ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวของชาวอินูอิต แต่ยังมีธรรมชาติที่งดงามและการต้อนรับอันอบอุ่นจากชาวเมืองรอคุณอยู่ ถ้าคุณมีโอกาสไปเยือน อย่าลืมสัมผัสความมหัศจรรย์ของที่นี่ให้ได้!


อีดฟยอร์ด เป็นท่าเรือที่อยู่ท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติที่ประเทศนอร์เวย์ ห่างจากฟยอร์ดที่มีชื่อเสียงในแถบนี้ไม่ไกล ที่นี่เป็นสรวงสรรค์สำหรับผู้รักการผจญภัยและความสงบ ที่พร้อมให้บริการนักเดินทางที่มาเยือนด้วยเรือสำราญ การเดินทางมาถึงอีดฟยอร์ด คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาสูงตระหง่านที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ และน้ำทะเลใสสะอาดที่ส่องประกายระยิบระยับในแสงแดด เส้นทางการเดินเท้าจำนวนมากตั้งอยู่ในบริเวณรอบท่าเรือ ชวนให้คุณสะดุดตากับความสวยงามของต้นไม้และดอกไม้ที่เบ่งบานตลอดทั้งปี นอกจากนั้น อีดฟยอร์ดยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจอุทยานแห่งชาติฮาร์ดังเกอร์วีด้า ที่นี่เป็นพื้นที่กว้างขวางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดกับธรรมชาติ สัมผัสชีวิตสัตว์ป่าหายาก และชื่นชมกับน้ำตกอันตระการตาอย่างวอทนาฟอสเซน ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในนอร์เวย์ เมื่อคุณกลับมาที่ท่าเรืออีดฟยอร์ด ความสงบและสวยงามของสถานที่นี้จะยังคงอยู่ในใจคุณตลอดไป เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับการสร้างแรงบันดาลใจ ในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ


ท่าเรือดั๊กกลาส ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะไอล์ออฟแมน อันงดงามในทะเลไอริช เป็นจุดแวะพักที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของอังกฤษ เกาะนี้มีขนาดเพียง 30 ไมล์ x 13 ไมล์ แต่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ มีภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและหน้าผาสูงชัน ผสมผสานกับบรรยากาศที่เงียบสงบและธรรมชาติที่สมบูรณ์ เกาะไอล์ออฟแมนมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ยุคหินใหม่ จนกลายเป็นที่พักอาศัยของนักบวชไอริชในศตวรรษที่ 5 และมีอิทธิพลจากชาวนอร์สในศตวรรษที่ 9 ซึ่งขายเกาะนี้ให้กับสกอตแลนด์ในปี 1266 แต่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เป็นต้นมา สหราชอาณาจักรได้ครอบครองเกาะนี้ไว้ นอกจากนี้ เกาะยังมีความเฉพาะตัวในเรื่องของภาษาแมนซ์ ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองที่ยังคงมีผู้พูดอยู่เพียงน้อยนิด การเยี่ยมชมดั๊กกลาสจะเปิดโอกาสให้คุณได้ชมปราสาทที่งดงาม เส้นทางรถไฟเข็มแคบ และสำหรับผู้รักความท้าทาย สามารถเดินป่าสูงถึง 2,036 ฟุตที่ยอดเขาสนาฟเฟล พร้อมวิวทะเลที่งดงามตระการตา เกาะไอล์ออฟแมนจึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสทั้งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการเดินทางครั้งถัดไป.

เบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่บนริมฝั่งทะเลไอริช โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Béal Feirste ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการผลิตผ้าไหมและการสร้างเรือ ที่นี่เคยเป็นบ้านของชัยชนะในการสร้างไททานิค เรือสำราญที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดในศตวรรษที่ 18 เบลฟาสต์กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง เมืองนี้ต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางด้านศาสนา จนกระทั่งสงครามที่เรียกว่า “Troubles” สิ้นสุดลงในปี 1994 หลังจากนั้น เมืองได้เริ่มการฟื้นฟู ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนในโรงแรมใหม่ ๆ และการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังเมือง ปัจจุบัน เบลฟาสต์มีพื้นที่ใจกลางเมืองที่เดินง่าย ประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น หอศิลป์พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และโรงละคร การสำรวจเมืองนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าหลงใหลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักการเดินทางไปยังดินแดนที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าดังกล่าว

เซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (Seyðisfjörður) ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของไอซ์แลนด์ เป็นหมู่บ้านที่ถูกเนรมิตขึ้นในศตวรรษที่ 19 ด้วยความงดงามที่น่าทึ่งไม่เพียงแต่จากธรรมชาติรอบข้าง แต่ยังมีความเป็นเอกลักษณ์จากอาคารไม้โบราณที่อนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ไข่มุกในหอย" โดยกวี มัทธีอัส โยฮันเนสเซน หมู่บ้านนี้เกิดขึ้นจากการค้าขายของพ่อค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวเดนมาร์กในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 แต่การเติบโตที่สำคัญเกิดขึ้นเมื่อมีการก่อตั้งอุตสาหกรรมการประมงปลาเฮอริ่งโดยชาวนอร์เวย์ในระหว่างปี 1870-1900 จนกลายเป็นเมืองที่เฟื่องฟูในเวลาไม่นาน ขณะนี้เซย์ดิสฟยอร์ดูร์มีประชากรประมาณ 800 คน เศรษฐกิจของหมู่บ้านพึ่งพาการประมงเป็นหลัก พร้อมกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเบาและการท่องเที่ยวซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเรือเฟอร์รี่ นอร์เรอนา (Norrøna) ที่เชื่อมต่อระหว่างยุโรปและไอซ์แลนด์ ซึ่งเข้าจอดที่ท่าเรือทุกวันพฤหัสบดี ทำให้ที่นี่ยังคงเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เซย์ดิสฟยอร์ดูร์จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับประสบการณ์และความงามของไอซ์แลนด์อย่างแท้จริง

ท่าเรือฮุซาวิก (Húsavík) ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงามใต้มุมมองของภูเขาฮุซาวิกูร์ฟยัลล์ (Húsavíkurfjall) และริมชายฝั่งอ่าวสกัลฟันดี (Skjálfandi) ที่ประเทศไอซ์แลนด์ เป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแค่ท่าเรือสำหรับการประมงเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่ควรพลาดเกี่ยวกับการชมวาฬที่โด่งดังไปทั่วโลก ฮุซาวิกเป็นจุดศูนย์กลางกิจกรรมการดูวาฬที่สำคัญ โดยมีการจัดทัวร์ตั้งแต่ปี 1995 ด้วยประสบการณ์ที่เหนือชั้น ทำให้นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกเดินทางมายังท่าเรือนี้เพื่อสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของสัตว์น้ำขนาดใหญ่ในธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากกิจกรรมทางน้ำแล้ว แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้เคียงยังรวมถึงทะเลสาบบอทน์สวัตน์ (Botnsvatn) ที่ให้โอกาสในการเดินป่าและชมธรรมชาติอันเขียวขจี นอกจากนี้ ฮุซาวิกยังมีพิพิธภัณฑ์วาฬที่น่าสนใจ ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือ ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของวาฬในทะเลแห่งนี้ และประวัติศาสตร์ของเมืองอันเก่าแก่ที่เชื่อกันว่าเป็นชุมชนแรกในไอซ์แลนด์ รับประกันว่าทุกช่วงเวลาที่คุณใช้ในฮุซาวิกจะเต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าหลงใหล โอกาสในการค้นพบธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ await นักท่องเที่ยวที่มองหาความพิเศษในทุกการเดินทางของพวกเขา.


เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) คือหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ให้บรรยากาศสงบเงียบ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ และภูเขาสูงตระหง่านที่งดงาม การเดินทางมาที่นี่จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความมหัศจรรย์ ราวกับหลุดเข้าไปในภาพวาดที่มีชีวิต จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกรนดาร์ฟยอร์ดูร์คือ "ภูเขาสการ์ฟตาเฟล" (Kirkjufell) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะเฉพาะและได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ การขึ้นไปชมวิวจากยอดเขา คือประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ อีกทั้งยังมีน้ำตก Kirchjufellsfoss ที่สวยงามท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม นอกจากธรรมชาติแล้ว เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ยังเป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ โดยคุณสามารถสัมผัสชีวิตของชาวไอซ์แลนด์ดั้งเดิม ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและบ้านเรือนที่ถูกปรับปรุงให้สวยงาม ทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศนี้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่แสนพิเศษ ณ เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงเป็นจุดจอดของเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่อันดับต้น ๆ ของประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความงดงามตามธรรมชาติและวัฒนธรรมโบราณ ท่าเรือ Qaqortoq หรือที่รู้จักในชื่อ Julianehaab บนเกาะกรีนแลนด์คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ในภาคใต้ของเกาะกรีนแลนด์ Qaqortoq เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัย prehistoric จนถึงปัจจุบัน เมื่อคุณก้าวเข้าสู่เมืองนี้ คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่ตระการตาของทะเลฟยอร์ด และภูเขาที่ล้อมรอบเมืิอง น้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มและทะเลสาบ Tasersuag รวมถึงภูมิประเทศที่สวยงามให้คุณได้สัมผัส ประวัติศาสตร์ของ Qaqortoq เริ่มขึ้นตั้งแต่ 4,300 ปีที่แล้ว เมืองนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนอร์สและชาวอินูอิตในศตวรรษที่ 10 และ 12 และได้รับการก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1774 ปัจจุบัน Qaqortoq กลายเป็นท่าเรือสำคัญที่มีศูนย์กลางในการประมงและกิจกรรมหลายอย่าง เช่น การผลิตอาหารทะเล การผลิตหนังสัตว์ และการซ่อมแซมเรือ ที่นี่ไม่เพียงแต่นำเสนอคนรักการท่องเที่ยวในเรื่องราวและวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ยังมอบโอกาสในการสำรวจความงดงามตามธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์ในแบบที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกเลย
ท่าเรือเซนต์แอนโธนี ตั้งอยู่ในภูมิภาคนิวฟันด์แลนด์และแล็บราดอร์ของแคนาดา เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และอารยธรรมทางทะเลที่น่าสนใจ ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในอ่าวเซนต์แอนโธนี ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามของคลื่นทะเลและทิวเขาเขียวชอุ่ม เนื่องจากธรรมชาติบริสุทธิ์และเงียบสงบ จึงเป็นที่เรียกร้องสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย เมื่อเยือนท่าเรือนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจประวัติศาสตร์การทำประมงของพื้นที่ รวมถึงพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบแคนาดาของจอห์น คาบอต และเรื่องราวการเดินทางที่น่าตื่นเต้น นอกจากนี้ยังมีการเดินทางไปชมปลาวาฬที่อ่าวหรือการเดินเขาไปชมทิวทัศน์ที่งดงาม เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด การเดินทางมายังเซนต์แอนโธนีจะทำให้ท่านได้สัมผัสวิถีชีวิตอันสงบและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลของชาวแคนาดา พร้อมทั้งบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ สร้างความทรงจำในวันหยุดที่น่าประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน ร่วมเดินทางกับเราสำหรับประสบการณ์สุดหรูในลักษณะเฉพาะของแคนาดา!

เซนต์จอห์นส์ (St. John's) ตั้งอยู่ในจังหวัดนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ของแคนาดา เป็นท่าเรือที่หลอมรวมประวัติศาสตร์และความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เมืองนี้มีประชากรในเขตเมืองประมาณ 200,000 คน และมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากอาคารสถาปัตยกรรมวิคตอเรียและบ้านแถวสีสันสดใสที่ตั้งอยู่เคียงคู่กับอาคารสำนักงานทันสมัย ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอังกฤษและไอริชผ่านเสียงเพลงพื้นบ้านและดนตรีร็อคที่บรรเลงในท้องถนน สถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่างชายหาดกลุ่มเบย์ (Balong Bay) และอ่าวเซนต์จอห์น (St. John's Harbour) เปิดโอกาสให้คุณสำรวจประวัติศาสตร์ของการค้ามหาสมุทรซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการส่งออกปลาเกลือในยุคก่อน เซนต์จอห์นส์ยังเป็นแหล่งรวมของศิลปะและความบันเทิงอย่างไม่ขาดสาย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมแกลเลอรีและร้านค้าหัตถกรรมท้องถิ่นได้อย่างจุใจ นอกจากนี้ ความสงบเงียบและการใช้ชีวิตแบบช้าๆ ของเมืองนี้ ยิ่งทำให้เหล่านักเดินทางปรารถนาที่จะเข้ามาสัมผัสบรรยากาศที่แสนอบอุ่นและเป็นกันเองของเมืองนี้อย่างไม่รู้เบื่อ

ฮาลิแฟกซ์ (Halifax) เมืองหลวงแห่งโนวาสโกเชีย (Nova Scotia) คือจุดหมายปลายทางที่เพียงคุณก้าวเท้าเข้ามา จะรู้สึกได้ถึงความมีชีวิตชีวาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันงดงามและความเป็นสมัยใหม่ เกือบตลอดทั้งปี คุณจะแวดล้อมไปด้วยเทศกาลที่จัดขึ้นอย่างมีสไตล์ บาร์และร้านอาหารที่มีชื่อเสียง รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลาย ฮาลิแฟกซ์ตั้งอยู่ระหว่างทิวทัศน์ทะเลอันสวยงามและท่าเรือธรรมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ท่าเรือที่เต็มไปด้วยเรือขนส่งจำนวนมาก รวมถึงเรือสำราญ เรือข้ามฟาก และเรือท่องเที่ยว นับเป็นสถานที่ที่ควรเยือนไปสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นอกจากนี้ จุดเด่นทางสถาปัตยกรรมสะท้อนให้เห็นถึงการรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันยาวนาน เมืองแห่งนี้เป็นฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจจังหวัดแอตแลนติกที่สวยงาม และหากคุณไม่สะดวกเดินทางไปที่อื่นๆ ฮาลิแฟกซ์ก็นำเสนอประสบการณ์ที่ครบถ้วน ซึ่งทำให้คุณสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจโบราณสถาน หรือใช้เวลาเดินเล่นที่ยาวที่สุดในโลกริมท่าเรือ นักท่องเที่ยวจะพลิกฟื้นความฝันในการเดินทางได้ที่นี่อย่างแน่นอน

ท่าเรือบอสตัน, แมสซาชูเซตส์ เป็นประตูสู่ประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายอย่างแท้จริง โอบล้อมไปด้วยตึกสูงระฟ้าและโรงแรมเก่าแก่ ท่ามกลางถนนหินกรวดโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอดีต บอสตันจึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างความเป็นสมัยใหม่และความคลาสสิค นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของตลาดสมัยใหม่ รวมถึงศิลปะและวัฒนธรรมในแหล่งการค้าต่างๆ เช่น ตลาด Faneuil Hall ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารชื่อดัง นอกจากนี้ บอสตันยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น พิพิธภัณฑ์บริจาคที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และการเดินตามเส้นทาง Freedom Trail ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสประวัติศาสตร์อเมริกันตั้งแต่เริ่มแรก การล่องเรือในอ่าวบอสตันยังเป็นข้อเสนอที่ไม่ควรพลาด เพื่อดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่งดงาม พร้อมชมแลนด์มาร์คที่สำคัญอย่าง USS Constitution และโรงละครที่มีชื่อเสียง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ทำให้คุณตื่นตาตื่นใจ พบกับประสบการณ์สุดพิเศษและสร้างความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนในบอสตัน เมืองที่มีแต่อดีตและความทันสมัยผสมผสานอย่างลงตัว คอยต้อนรับนักเดินทางทั่วทุกมุมโลก









巔峰套房เป็นห้องสวีทที่มีขนาดกว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 1,150 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่มาพร้อมกับอ่างน้ำวน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวขนาดเล็กที่มีไมโครเวฟและตู้เย็น ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซซ์ — เตียงที่ได้รับการออกแบบพิเศษของเรา "Mariner's Dream™" พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก และห้องน้ำที่ประกอบด้วยอ่างน้ำวนขนาดใหญ่และฝักบัว รวมถึงอ่างสำหรับอาบน้ำอีกด้วย ยังมีโซฟาเบดที่สามารถรองรับผู้พักได้สองคน และห้องน้ำสำหรับแขกอีกหนึ่งห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยระบบสเตอริโอส่วนตัว การเข้าถึง Neptune Lounge อันมีเอกสิทธิ์ บริการผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีต่างๆ เรายินดีต้อนรับท่านเข้าสู่ประสบการณ์ที่หรูหราและผ่อนคลายในแต่ละการเดินเรือ.




สวีทรูปแบบ "ห้องสวีทเนปจูน" นั้นนำเสนอพื้นที่กว้างขวางซึ่งเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติและวิวที่สวยงามจากหน้าต่างสูงจากพื้นถึงเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ภายในสวีทประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่และเตียงคู่ที่สามารถแปลงเป็นเตียงคิงไซส์แบบ Mariner's Dream™ ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก พร้อมกับโซฟาเบดที่พร้อมรองรับผู้เข้าพักสองคน ห้องน้ำที่ทำให้คุณรู้สึกหรูหรานั้นมีอ่างอาบน้ำแบบวนและฝักบัวคู่ พร้อมทั้งห้องอาบน้ำเพิ่มเติมให้คุณได้ใช้บริการอีกด้วย ความสะดวกสบายที่หลากหลายรวมถึงการเข้าใช้ Neptune Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์ บริการพิเศษจากผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีมากมาย ทำให้การพักผ่อนใน "ห้องสวีทเนปจูน" เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม ขนาดห้องราว 500–712 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง




ห้องชุดขนาดใหญ่และสะดวกสบายนี้มีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง พร้อมด้วยหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานเปิดให้เห็นระเบียงส่วนตัว ห้องนอนมีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นเตียง Mariner's Dream™ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีโซฟาเบดสำหรับคนหนึ่งคน ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างซาวน่าขนาดเต็มพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว รวมถึงห้องอาบน้ำเสริมอีกหนึ่งห้อง ขนาดโดยรวมของห้องอยู่ที่ประมาณ 372–384 ตารางฟุต รวมระเบียง ซึ่งทำให้สบายและเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง



ห้องพักประเภท陽台 โอบล้อมด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างพื้นจรดเพดานที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว ห้องพักนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่น และเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของเรา Mariner's Dream™ มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และมีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวที่ให้การนวดที่มีคุณภาพ ห้องพักมีขนาดประมาณ 212–359 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง การจัดวางห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง.


ห้องพักประเภท "海景艙" ขนาดกว้างขวางนี้มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับด้วยเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่มีความนุ่มสบายจาก Euro-Top และหัวฝักบัวนวดที่มีคุณภาพสูง ในห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและทิวทัศน์ทะเลที่สวยงาม ห้องพักมีขนาดประมาณ 174-180 ตารางฟุตและการจัดเรียงห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ ทำให้ท่านได้สัมผัสกับความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวในขณะล่องเรืออย่างแท้จริง


ห้องพักประเภทบางส่วนวิวทะเลนี้มีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 174–180 ตารางฟุต ซึ่งมีเตียงคู่ด้านล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมกับที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่นุ่มสบายพร้อมฟูก Euro-Top ห้องพักยังมาพร้อมกับฝักบัวนวดคุณภาพสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลอันงดงามที่อยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าคุณจะเลือกพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ห้องพักนี้จะตอบสนองทุกความต้องการของคุณอย่างเหนือชั้น



ห้องสเตเตอร์รูมขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า "ทัศนียภาพที่ถูกปิดกั้น" นี้มอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหรา โดยมีเตียงขนาดคู่นอนสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มีกระดูกสันหลังที่รองรับอย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยหมอนที่นุ่มสบายและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย นอกจากนี้ ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 174–180 ตารางฟุต ทั้งนี้ วิวนอกห้องจะถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ ทำให้ท่านสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายภายในห้องได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก


ห้องพักประเภท "ขนาดใหญ่ภายใน" นี้มีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถแปลงเป็นเตียงควีนไซส์ซึ่งเป็นที่นอน Signature Mariner's Dream™ อันหรูหรา มีฟูก Euro-Top ที่นุ่มสบาย รวมถึงฝักบัวนวดระดับพรีเมี่ยมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 151–233 ตารางฟุต การจัดเรียงของห้องพักอาจแตกต่างจากที่แสดงในภาพ ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์การล่องเรือที่หลากหลายได้ที่นี่!


ห้องพักประเภท "ภายใน" นี้มีการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด โดยมีเตียงคู่ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ Mariner's Dream™ ที่มีที่นอนยุโรปคุณภาพสูง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น หัวฝักบัวนวดพิเศษ ห้องพักมีขนาดประมาณ 151-233 ตารางฟุต ทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่ทันสมัยและหรูหราในขณะสำรวจมหาสมุทรและจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ ห้องพักนี้ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้เข้าพักในระดับสูง ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นขณะล่องเรือบนทะเล.