
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

ซูเดอร์แดม
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!

เมื่อค้นพบความงดงามของ Half Moon Cay สถานที่ที่งดงามราวกับภาพวาดในบาฮามาส คุณจะได้พบกับเกาะที่รูปทรงพระจันทร์เสี้ยวซึ่งตั้งอยู่ที่มุมตะวันออกเฉียงใต้ของแนวปะการัง Lighthouse Reef Atoll ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1996 ภายใต้การคุ้มครองของธนาคารแห่งชาติ สิ่งที่ทำให้ Half Moon Cay เป็นที่พิเศษคือความบริสุทธิ์ของชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสุดตระการตา ที่นี่เหมาะสำหรับผู้รักการดำน้ำตื้นอย่างแท้จริง คุณสามารถลงไปสัมผัสชีวิตใต้ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเดินทางไกลจากชายหาด นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอันมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในป่าชายเลน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอันหลากหลาย Half Moon Cay ไม่ได้มีดีแค่การดำน้ำและชายหาดอันสวยงาม ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนในบรรยากาศแห่งความสงบและความเป็นส่วนตัว สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำด้วยการเยือน Half Moon Cay และปลดปล่อยอารมณ์ความฝันในสวรรค์บนดินนี้ ที่จะยังคงอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป

ซานฮวน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเปอร์โตริโก ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ติดทะเลอาตแลนติกซึ่งค้นพบโดยนักสำรวจ ฮวน ปอนเซ เด ลีออน เมื่อปี ค.ศ. 1508 เมืองนี้ส่องประกายทั้งในด้านสถาปัตยกรรมอันงดงามจากยุคอาณานิคมและความทันสมัย มีพื้นที่ที่น่าหลงใหลอย่าง Old San Juan ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยโดดเด่นด้วยถนนหินทรายและอาคารที่มีสีสัน อนุสรณ์สถานเช่น Castillo San Felipe del Morro ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น ซานฮวนไม่ได้มีดีแค่ส่วนที่เป็นประวัติศาสตร์ ยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาสำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนท้องถิ่น สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยชายหาดสวยงาม, คลับเสียงดังกระหึ่ม, ร้านอาหารระดับโลก, และพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ที่นำเสนอวัฒนธรรมและศิลปะหลากหลาย ประสบการณ์นี้ทำให้การเยือนซานฮวนไม่เป็นเพียงแค่การได้เที่ยวชมเมือง แต่คือการได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอันหลากหลายและเต็มไปด้วยสีสัน เมื่อคุณย่างก้าวเข้ามาในเมืองนี้ จะมีเสน่ห์ที่ทำให้คุณหลงใหลและรู้สึกอยากกลับมาอีกครั้ง ด้วยวัฒนธรรมที่เข้มข้นและความงดงามที่รอคอยให้คุณค้นพบ ร่วมสร้างความทรงจำในซานฮวน เพื่อตอบโจทย์ความฝันในการเดินทางที่ทุกคนใฝ่หา.

ท่าเรือชาร์ลอตต์ อมาลี บนเกาะเซนต์โธมัสในหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา ถือเป็นหนึ่งในท่าเรือที่งดงามที่สุดในโลก มักถูกจัดอันดับเป็นจุดหมายปลายทางที่หรูหราและเงียบสงบ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาถึงโดยเรือสำราญ พวกเขาจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ตามเชิงเขาและชายฝั่งทะเลที่ร่มรื่น เซนต์โธมัสมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการค้าเสรีตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นที่รู้จักในฐานะท่าเรือการค้าที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางการค้าของแทบทุกชาติ ในปัจจุบัน ท่าเรือชาร์ลอตต์ อมาลี ยังคงมีชีวิตชีวาโดยมีเรือสำราญทยอยจอดเข้ามาที่ท่าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรือยอชท์หรูและเรือประมงที่รอคอยนักท่องเที่ยว นอกจากท่าเรือที่งดงามแล้ว เกาะเซนต์โธมัสยังมีสถานที่ที่น่าสนใจให้สำรวจมากมาย เช่น หาดแมเกนส์ เบย์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในโลก และการขับรถรอบเกาะก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด โดยมีป้ายสีสันสวยงามที่ช่วยนำทางและชวนให้คุณได้ค้นพบเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของเกาะนี้ มาเถอะ! ลองสัมผัสกับประสบการณ์อันไม่อาจลืมเลือนในเซนต์โธมัส ที่มีเสน่ห์ของธรรมชาติและความวุ่นวายของการค้าในประวัติศาสตร์ที่จะทำให้หัวใจของคุณเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น!

ตั้งอยู่ในใจกลางหมู่เกาะบริทิชเวอร์จิน ท่าเรือ Tortola เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด สัมผัสความมีชีวิตชีวาของเมืองหลวงที่มองออกไปยัง Road Harbour ซึ่งจะทำให้คุณได้เดินเล่นท่ามกลางเสน่ห์ของอาคารสไตล์เวสต์อินเดียนที่มีสีสันสดใส ทั้งสีพาสเทลและหลังคาเหล็กกล้า คุณจะพบกับช้อปปิ้งใน Main Street และสัมผัสบรรยากาศริมทะเลในบรรยากาศที่น่าเพลิดเพลิน โดยสามารถใช้เวลาเดินเล่นสบาย ๆ เพียงประมาณหนึ่งชั่วโมง ผู้เดินทางสามารถแวะที่สำนักงานการท่องเที่ยว BVI เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมท่องเที่ยว ท่องเที่ยวริมทะเล หรือตารางเดินเรือที่มีรูปแบบหลากหลาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถได้นั่งพักผ่อนใน Sir Olva Georges Square บน Waterfront Drive เพื่อชื่นชมชีวิตของผู้คนที่เดินผ่านไปมาจากท่าเรือเฟอร์รี่และสำนักงานศุลกากร หากคุณได้มีโอกาสมาเยือน Tortola จะได้สัมผัสทั้งวัฒนธรรมอันหลากหลาย และความงามของธรรมชาติที่ซ่อนอยู่รอบ ๆ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุก ๆ การเดินทางเป็นประสบการณ์ที่ไ unforgettable. หนีความวุ่นวายไปสัมผัสความสงบกับชีวิตในวิถีเกาะ และให้ท่าเรือ Tortola เป็นบ้านหลังที่สองของคุณในครั้งนี้!

ซินต์มาร์เทน (Sint Maarten) เป็นเกาะสวยงามในทะเลแคริบเบียนและเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเนเธอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านชายหาดที่งดงาม บรรยากาศสดใส และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือซินต์มาร์เทนถือเป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีความสำคัญสำหรับเรือสำราญที่มุ่งหน้าเข้าสู่ภูมิภาคนี้ เมื่อเรือสำราญเข้ามาท่าเรือ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ออกแบบมาอย่างหรูหราและสะดวกสบาย โดยสามารถเดินทางไปยังชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดอย่าง Maho Beach หรือล่องเรือชมวิวรอบเกาะ นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการสำรวจตลาดท้องถิ่น ที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่ของที่ระลึกไปจนถึงสินค้าหัตถกรรม ซินต์มาร์เทนไม่เพียงเป็นที่พักผ่อนชั้นยอด ยังมีกิจกรรมหลากหลายให้ประลอง เช่น การดำน้ำตื้นในน้ำทะเลใส หรือการสำรวจสุดยอดแหล่งท่องเที่ยวเช่น Fort Louis ที่ล้อมรอบไปด้วยวิวทะเลที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่นและร้านอาหารเลิศรสที่รอให้คุณเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร การเยือนซินต์มาร์เทนจึงไม่เพียงแค่การมาถึงจุดหมายที่สวยงาม แต่ เป็นการเปิดประตูสู่ความน่าหลงใหลในวัฒนธรรม, ธรรมชาติ และประเพณีที่ชวนให้ฝัน ดังนั้น หากกำลังมองหาประสบการณ์เดินทางสุดพิเศษ ซินต์มาร์เทนคือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด!

ท่าเรือแอนติกาในประเทศแอนติกาและบาร์บูดาเป็นจุดหมายปลายทางที่เปล่งประกายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน ท่าเรือแห่งนี้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นมิตร พร้อมด้วยทิวทัศน์อันตระการตาของทะเลสีฟ้าใสและชายหาดที่งดงามกว่า 365 แห่ง ทุกวันในปีคุณสามารถพบชายหาดใหม่ที่ต้องการสำรวจ เมื่อเรือสำราญของคุณแล่นเข้ามาในท่าเรือแอนติกา จะมีโอกาสให้คุณสำรวจเมืองหลวงของเกาะนี้ที่ชื่อว่าเซนต์จอร์จส์ ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้วยอาคารเก่าแก่ที่รักษาไว้เป็นอย่างดี และตลาดท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา ที่ผู้มาเยือนสามารถซื้อของที่ระลึกและลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่อร่อย หากคุณรักการผจญภัย การดำน้ำตื้นตามแนวปะการังที่อ่าวเจอลีซหรือการพายเรือคายัคในน้ำใส ก็เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ ทริปที่น่าสนใจยังรวมถึงการไปเยี่ยมชมฟาร์มเหล้ารัมเพื่อประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตเหล้าท้องถิ่น แอนติกายังมีความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่โดดเด่น และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอุ่นใจ รอคอยให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสและสร้างความทรงจำอันล้ำค่าในภาพแห่งความยิ่งใหญ่ของแคริบเบียน

เมื่อเรานึกถึงเกาะที่มีเสน่ห์แบบเขตร้อนที่รอการค้นพบ เกาะเซนต์ลูเซีย (Saint Lucia) คือสวรรค์ที่หยิบยื่นให้เราได้สัมผัสที่นี่ การเดินทางมาถึงท่าเรือคาสทรีส (Castries) จะนำพาคุณสู่โลกแห่งธรรมชาติอันงดงามในพื้นที่อันเล็กเพียง 27 ไมล์ยาวและ 14 ไมล์กว้าง แต่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สดใส ประกอบไปด้วยป่าฝนเขียวขจีและสวนกล้วยอันอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของเกาะนี้ต้องยกให้กับยอดเขาเลส์ปีตอง (Les Pitons) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีความสูงถึง 2,000 ฟุต ที่ส่งเสริมความยิ่งใหญ่และความงามของทิวทัศน์ บนเกาะยังมีนกหายากเช่นนกแก้วเซนต์ลูเซีย และพืชพันธุ์ที่แปลกใหม่มากมายที่รอให้คุณได้สำรวจ สัมผัสความอบอุ่นและยินดีต้อนรับจากชาวเกาะในหมู่บ้านเล็กๆ และการเดินตลาดกลางแจ้งที่มีสีสัน อย่างไรก็ตามควรระวังถึงเส้นทางที่ขรุขระซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านหลังหรือคอ เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำอันน่าประทับใจ พาทุกคนสัมผัสประสบการณ์น่าตื่นเต้นในแดนสวรรค์นี้ที่คุณจะไม่อยากพลาด!

โรโซ เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และอบอุ่นที่สุดแห่งหนึ่งในแคริบเบียน แม้ขนาดจะเล็กลง แต่กลับมีประชากรหนาแน่นที่สุดในแถบตะวันออกของแคริบเบียน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบฉบับแคริบเบียนและตลาดที่คึกคัก โรโซจึงพานักท่องเที่ยวย้อนเวลากลับไปสัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตอย่างแท้จริง การเดินสำรวจเมืองในระยะเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงนั้น อาจจะเป็นประสบการณ์ที่รวดเร็ว แต่การเดินเล่นอย่างช้า ๆ จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรายละเอียดที่น่าสนใจยิ่งขึ้น เมืองนี้มีการฟื้นฟูอาคารที่สำคัญโดยองค์กร SHAPE ซึ่งได้ดูแลอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมหลายแห่ง เช่น Casa Lilac ที่มีระเบียงไม้แบบเก่าแก่ และอาคาร J.W. Edwards ที่มีผลงานหินและไม้ที่งดงาม ในใจกลางเขตประวัติศาสตร์คือ Old Market Plaza ซึ่งมีถนนหลายสายในอดีตที่ถูกออกแบบให้โค้งงอรอบพื้นที่นี้ นอกจากนี้ โรงแรม Fort Young ที่สร้างขึ้นเป็นป้อมปราการในศตวรรษที่ 18 รวมถึงห้องสมุดและวิหารแองกลิกันที่อยู่ใกล้เคียง ยังถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มาเยือน ลานหน้าเบย์ที่พัฒนาใหม่บน Dame M.E. Charles Boulevard ก็เป็นที่ที่ไม่ควรพลาดในการสัมผัสลมทะเลแคริบเบียนอย่างแท้จริง โรโซรอให้คุณค้นพบความงดงามในทุกมุมมอง!

ท่าเรือบริจด์ทาวน์ในบาร์เบโดส เป็นที่ที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลาย ตั้งอยู่ข้างอ่าวธรรมชาติแห่งเดียวของเกาะ ท่านจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และยุคล่าอาณานิคม จนสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นพร้อมด้วยชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม ระหว่างการสำรวจเมืองนี้ ท่านจะได้พบกับอาคารรัฐสภาที่จัดสร้างในสไตล์อังกฤษ และประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในโบสถ์แองกลิกัน รวมถึงกองทัพบาร์เบโดสซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่ผ่อนคลายและชีวิตชายหาดที่คึกคักได้อย่างเต็มที่ การเดินทางจากเรือไปยังยานพาหนะเพื่อเริ่มต้นการท่องเที่ยวอาจมีระยะทางที่แตกต่างกันไป แต่อย่าห่วง เพราะทุกช่วงเวลาในบริจด์ทาวน์แทบจะตื่นเต้นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่รอคอยให้ท่านได้สัมผัส ซึ่งจะทำให้ทริปของท่านเป็นที่น่าจดจำไม่มีวันลืม กลับใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่บริจด์ทาวน์ สถานที่แสนประทับใจในบาร์เบโดส

เกรเนดา สวรรค์แห่งทะเลแคริบเบียน ที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศ เช่น ลูกจันทน์เทศ อบเชย และโกโก้ เกาะขนาดเล็กแห่งนี้ไม่เพียงแต่สวยงามด้วยชายหาดทรายขาวและอ่าวที่เงียบสงบ แต่ยังมีเสน่ห์ในแง่ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น สเตนจอร์จส์ เมืองหลวงที่มีภาพลักษณ์งดงามที่สุดในแคริบเบียน สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของเมืองย้อนยุค แม้ในยุคที่เปลี่ยนไป ถนนหนทางแคบทอดยาวขึ้นเขา มีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อ สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เรือสำราญส่วนใหญ่จะมาจอดที่ท่าเรือสเตนจอร์จส์ ฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นอ่าวรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนสีพาสเทลและคลื่นน้ำใสสะอาด ท่าเรือนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น อนุสาวรีย์คริสต์ผู้ลึกซึ้ง ณ สถานที่พักผ่อนกลางอ่าว และอุโมงค์เซนดอลล์ ที่สร้างขึ้นในปี 1895 ที่เชื่อมต่อระหว่างทั้งสองฝั่งของเมือง เกรเนดาเป็นที่รู้จักในนาม 'เกาะแห่งเครื่องเทศ' นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความอบอุ่นจากชาวเกรเนดาที่พร้อมต้อนรับ พร้อมด้วยร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ เช่น ปลาทอดและเครื่องเทศสด ๆ ที่จะทำให้เดินทางของคุณน่าจดจำตลอดไป

เกาะตรีนิดาดและโตเบโก เป็นสวรรค์ที่น่าหลงใหลในอ่าวแห่งแคริบเบียน โดยเฉพาะท่าเรือสการ์โบโรห์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจความงดงามที่รออยู่ ด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของธรรมชาติและการผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย สการ์โบโรห์มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เมื่อมาถึงสการ์โบโรห์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบและควบคู่ไปกับกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำตื้นในน้ำทะเลสีฟ้าหรือการพายเรือคายัคในอ่าวที่สวยงาม ภายในเขตเมืองสามารถเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึง Fort King George ที่สร้างขึ้นในยุคอาณานิคม ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา ให้มุมมองที่งดงามของสการ์โบโรห์ หากคุณกำลังมองหาการพักผ่อน การนอนชิลล์บนชายหาดที่ขาวสะอาด หรือลงไปในกับทะเลที่สดใส ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่คุณไม่ควรพลาด ในขณะที่ตรีนิดาดสะท้อนถึงชีวิตที่มีสีสัน โตเบโกเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการหยุดพักจากความเร่งรีบ อย่ารอช้า ให้สการ์โบโรห์เป็นจุดหมายในการเดินทางครั้งถัดไปของคุณ!

ในท่ามกลางทะเลแคริบเบียนที่สวยงาม ท่าเรือ Bonairé เป็นจุดหยุดพักอันน่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่มาทริปเรือสำราญ ท่าเรือนี้ตั้งอยู่บนเกาะ Bonaire ที่มีชื่อเสียงด้านแนวปะการังและน้ำทะเลที่ใสสะอาด เป็นสถานที่ที่คุณสามารถค้นพบประสบการณ์ที่สดชื่นและน่าตื่นตาตื่นใจ เมื่อเรือสำราญของคุณเทียบท่า คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันมีเสน่ห์ของเมืองหลวง Kralendijk ที่ดึงดูดด้วยอาคารสีสันสดใสและวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมฟังเสียงคลื่นกระทบชายฝั่ง คุณสามารถเลือกทำกิจกรรมหลากหลาย ตั้งแต่การดำน้ำและการค้นหาปะการังที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในแนวปะการังที่ดีที่สุดในโลก จนถึงการเดินชมธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ Washington Slagbaai ที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าที่น่ารัก นอกจากการผจญภัยในน้ำแล้ว ยังสามารถสำรวจประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่น่าสนใจที่พิพิธภัณฑ์ Bonaire หรือซื้อของฝากที่ตลาดท้องถิ่นซึ่งมีผลิตภัณฑ์ทำมือเป็นเอกลักษณ์ เมื่อเสร็จสิ้นการสำรวจ คุณจะรู้สึกถึงเสน่ห์ที่ไม่อาจต้านทานของ Bonaire ที่จะทิ้งรอยประทับในหัวใจตลอดไป แน่นอนว่านี่คือจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางทุกคนไม่ควรพลาด!

อารูบา เพิร์ลแห่งแคริบเบียน ตั้งอยู่ในทะเล แคริบเบียน ที่งดงาม ขึ้นชื่อเรื่องชายหาดที่ขาวสะอาดและน้ำใสสีฟ้าคราม ท่าเรืออารูบา เป็นจุดแวะพักที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพร้อมเรือสำราญ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสดชื่นของเกาะ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวอารูบา เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือจะได้พบกับตลาดนัดที่มีสินค้าแฮนด์เมดและของที่ระลึกจากท้องถิ่น แล้วไม่ควรพลาดการไปเยือนชายหาดเอเกอรา (Eagle Beach) ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก นอกจากนี้, เกาะนี้ยังมีจุดดำน้ำตื้นที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่น้ำใสให้คุณได้สัมผัสกับโลกใต้ทะเลที่หลากหลายของปลาและปะการัง นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว อารูบายังมีเสน่ห์ในด้านอาหารท้องถิ่น ที่รอให้คุณลิ้มลอง ตั้งแต่อาหารทะเลสด ไปจนถึงความอร่อยของปูม้า จิบเครื่องดื่มที่ทำจากมะพร้าวริมชายหาดสัมผัสลมทะเล ที่จะทำให้หัวใจของคุณรู้สึกเบาสบาย อารูบาจึงไม่ใช่เพียงแค่จุดสุดท้ายในการเดินทาง แต่คือประสบการณ์ที่จะตราตรึงใจคุณให้อยากกลับมาอีกครั้งในอนาคต

ท่าเรือคูราเซา (Curaçao) เป็นหนึ่งในจุดแวะสำคัญที่เรือสำราญหลากหลายลำเลือกหยุดพัก ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพราะท่าจอดสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือระดับ แต่ยังมีเสน่ห์ของวัฒนธรรมและความงดงามตามธรรมชาติที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลงใหล คูราเซาเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่มีชีวิตชีวา น้ำทะเลใสสีฟ้าและทรายขาวละเอียด ทั้งนี้ จุดที่ไม่ควรพลาดคือ "วินด์เอด พอยต์" (Willemstad) เมืองหลวงที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก มีบ้านเรือนสีสันสดใสที่รักการถ่ายภาพ พร้อมมีแหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารอร่อยๆ รอให้บริการ สำหรับผู้ที่หลงใหลในกิจกรรมทางน้ำ สามารถไปสำรวจแนวปะการังที่ "ดัทช์ ริดจ์" (Dutch Reef) หรือสัมผัสประสบการณ์ดำน้ำตื้นที่ชายหาด "ลากูน่า" (Laguna Beach) นอกจากนี้ยังมีการแสดงวัฒนธรรมดนตรีและการเต้นที่แสดงถึงชีวิตประจำวันของประชากรที่นี่ ด้วยบรรยากาศที่เอื้อต่อการพักผ่อนและความหลากหลายของกิจกรรม คูราเซาจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินทางหรูหราไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่เกินกว่าคำว่าหมายความ!

ฟาลมุธ (Falmouth) เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางเหนือของจาไมกา ระหว่างมอนเตโกเบย์และโอโชริออส คุณจะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันลึกล้ำของเกาะแห่งนี้ผ่านการเดินชมเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โอกาสในการลิ้มรสอาหารจาไมกันที่เป็นเอกลักษณ์ และไม่ควรพลาดการผจญภัยในทริปท่องเที่ยวล่องแม่น้ำที่น่าตื่นเต้น ฟาลมุธยังเป็นบ้านเกิดของบ็อบ มาร์เลย์ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงที่สุดของจาไมกา ทริปที่พาคุณไปสำรวจหมู่บ้านของเขาจะเปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับแรงบันดาลใจที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากนี้ อย่าลืมแวะชมสถานที่สำคัญรอบฟาลมุธ เช่น ตลาดท้องถิ่นและชายหาดที่สวยงาม ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำ ฟาลมุธไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือสำหรับการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังคือต้นกำเนิดของความสุขและวัฒนธรรมที่รอให้คุณมาสัมผัสและค้นพบอีกมากมาย การเดินทางครั้งนี้จะเติมเต็มประสบการณ์ในชีวิตของคุณอย่างแน่นอน

ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!









巔峰套房เป็นห้องสวีทที่มีขนาดกว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 1,150 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่มาพร้อมกับอ่างน้ำวน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวขนาดเล็กที่มีไมโครเวฟและตู้เย็น ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซซ์ — เตียงที่ได้รับการออกแบบพิเศษของเรา "Mariner's Dream™" พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก และห้องน้ำที่ประกอบด้วยอ่างน้ำวนขนาดใหญ่และฝักบัว รวมถึงอ่างสำหรับอาบน้ำอีกด้วย ยังมีโซฟาเบดที่สามารถรองรับผู้พักได้สองคน และห้องน้ำสำหรับแขกอีกหนึ่งห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยระบบสเตอริโอส่วนตัว การเข้าถึง Neptune Lounge อันมีเอกสิทธิ์ บริการผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีต่างๆ เรายินดีต้อนรับท่านเข้าสู่ประสบการณ์ที่หรูหราและผ่อนคลายในแต่ละการเดินเรือ.




สวีทรูปแบบ "ห้องสวีทเนปจูน" นั้นนำเสนอพื้นที่กว้างขวางซึ่งเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติและวิวที่สวยงามจากหน้าต่างสูงจากพื้นถึงเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ภายในสวีทประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่และเตียงคู่ที่สามารถแปลงเป็นเตียงคิงไซส์แบบ Mariner's Dream™ ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก พร้อมกับโซฟาเบดที่พร้อมรองรับผู้เข้าพักสองคน ห้องน้ำที่ทำให้คุณรู้สึกหรูหรานั้นมีอ่างอาบน้ำแบบวนและฝักบัวคู่ พร้อมทั้งห้องอาบน้ำเพิ่มเติมให้คุณได้ใช้บริการอีกด้วย ความสะดวกสบายที่หลากหลายรวมถึงการเข้าใช้ Neptune Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์ บริการพิเศษจากผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีมากมาย ทำให้การพักผ่อนใน "ห้องสวีทเนปจูน" เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม ขนาดห้องราว 500–712 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง




ห้องชุดขนาดใหญ่และสะดวกสบายนี้มีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง พร้อมด้วยหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานเปิดให้เห็นระเบียงส่วนตัว ห้องนอนมีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นเตียง Mariner's Dream™ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีโซฟาเบดสำหรับคนหนึ่งคน ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างซาวน่าขนาดเต็มพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว รวมถึงห้องอาบน้ำเสริมอีกหนึ่งห้อง ขนาดโดยรวมของห้องอยู่ที่ประมาณ 372–384 ตารางฟุต รวมระเบียง ซึ่งทำให้สบายและเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง



ห้องพักประเภท陽台 โอบล้อมด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างพื้นจรดเพดานที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว ห้องพักนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่น และเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของเรา Mariner's Dream™ มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และมีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวที่ให้การนวดที่มีคุณภาพ ห้องพักมีขนาดประมาณ 212–359 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง การจัดวางห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง.


ห้องพักประเภท "海景艙" ขนาดกว้างขวางนี้มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับด้วยเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่มีความนุ่มสบายจาก Euro-Top และหัวฝักบัวนวดที่มีคุณภาพสูง ในห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและทิวทัศน์ทะเลที่สวยงาม ห้องพักมีขนาดประมาณ 174-180 ตารางฟุตและการจัดเรียงห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ ทำให้ท่านได้สัมผัสกับความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวในขณะล่องเรืออย่างแท้จริง


ห้องพักประเภทบางส่วนวิวทะเลนี้มีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 174–180 ตารางฟุต ซึ่งมีเตียงคู่ด้านล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมกับที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่นุ่มสบายพร้อมฟูก Euro-Top ห้องพักยังมาพร้อมกับฝักบัวนวดคุณภาพสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลอันงดงามที่อยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าคุณจะเลือกพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ห้องพักนี้จะตอบสนองทุกความต้องการของคุณอย่างเหนือชั้น



ห้องสเตเตอร์รูมขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า "ทัศนียภาพที่ถูกปิดกั้น" นี้มอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหรา โดยมีเตียงขนาดคู่นอนสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มีกระดูกสันหลังที่รองรับอย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยหมอนที่นุ่มสบายและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย นอกจากนี้ ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 174–180 ตารางฟุต ทั้งนี้ วิวนอกห้องจะถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ ทำให้ท่านสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายภายในห้องได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก


ห้องพักประเภท "ขนาดใหญ่ภายใน" นี้มีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถแปลงเป็นเตียงควีนไซส์ซึ่งเป็นที่นอน Signature Mariner's Dream™ อันหรูหรา มีฟูก Euro-Top ที่นุ่มสบาย รวมถึงฝักบัวนวดระดับพรีเมี่ยมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 151–233 ตารางฟุต การจัดเรียงของห้องพักอาจแตกต่างจากที่แสดงในภาพ ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์การล่องเรือที่หลากหลายได้ที่นี่!


ห้องพักประเภท "ภายใน" นี้มีการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด โดยมีเตียงคู่ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ Mariner's Dream™ ที่มีที่นอนยุโรปคุณภาพสูง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น หัวฝักบัวนวดพิเศษ ห้องพักมีขนาดประมาณ 151-233 ตารางฟุต ทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่ทันสมัยและหรูหราในขณะสำรวจมหาสมุทรและจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ ห้องพักนี้ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้เข้าพักในระดับสูง ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นขณะล่องเรือบนทะเล.