
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

ซูเดอร์แดม
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ท่าเรืออัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคทองของศตวรรษที่ 17 อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอเสน่ห์ที่หลากหลายพร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ชื่อดังและศิลปะอันล้ำค่า เมืองแห่งคลองนี้มีระบบคลองที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบให้กับนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็มีชีวิตชีวาด้วยร้านค้าสมัยใหม่และแสงสีที่ส่องประกายเต็มถนน นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ สวนลับที่เงียบสงบ หรือบ้านเรือนลอยน้ำที่สร้างสรรค์อย่างประณีต อัมสเตอร์ดัมมีสะพานกว่า 1,500 แห่ง และมีโบราณสถานถึง 7,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงผลงานสำคัญจาก Rembrandt และ Van Gogh เมืองนี้ยังมีวัฒนธรรมที่เข้มข้น พร้อมกิจกรรมทางดนตรี และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทำให้การเดินเล่นในเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าหลงใหล ตั้งแต่ซอกซอยเล็กๆ ไปจนถึงการสัมผัสบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ความมหัศจรรย์ของอัมสเตอร์ดัมคือการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันที่แสนลงตัว ซึ่งรอให้คุณมาสัมผัสในเมืองแห่งคลองนี้

เมื่อเรือสำราญของคุณจอดเทียบท่า ณ เมืองสตอร์โนเวย์ เกาะลูอิส คุณจะได้พบกับมิติใหม่ของการเดินทางซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของสก็อตแลนด์ เกาะลูอิสและแฮริส เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะฮีบรีดีนอก ทำให้เมืองสตอร์โนเวย์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ในเมืองนี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการชิมอาหารท้องถิ่นที่ร้านอาหารคุณภาพสูง รวมทั้งเยี่ยมชมศูนย์ศิลปะ An Lanntair ที่มีนิทรรศการทั้งศิลปะร่วมสมัยและดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีวิหารเซนต์คลีเมนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีโครงสร้างสวยงามที่สุดในเขตนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจประวัติศาสตร์ ที่นี่มีแหล่งโบราณคดีที่น่าทึ่ง เช่น กลุ่มหินคาลานิสที่สร้างขึ้นในยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมถึงหอคอย Dun Carloway ที่มีอายุประมาณ 2,000 ปี สัมผัสกับความงามและวัฒนธรรมของสตอร์โนเวย์ในขณะที่สำรวจธรรมชาติสุดอลังการและประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสีสันของเกาะนี้ อย่าลืมแวะเยี่ยมชมร้านทวีตฮาร์ริสที่เผยแพร่สินค้าทอมือสุดพิเศษและของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของคุณในเกาะลูอิสแห่งนี้

เบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่บนริมฝั่งทะเลไอริช โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Béal Feirste ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการผลิตผ้าไหมและการสร้างเรือ ที่นี่เคยเป็นบ้านของชัยชนะในการสร้างไททานิค เรือสำราญที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดในศตวรรษที่ 18 เบลฟาสต์กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง เมืองนี้ต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางด้านศาสนา จนกระทั่งสงครามที่เรียกว่า “Troubles” สิ้นสุดลงในปี 1994 หลังจากนั้น เมืองได้เริ่มการฟื้นฟู ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนในโรงแรมใหม่ ๆ และการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังเมือง ปัจจุบัน เบลฟาสต์มีพื้นที่ใจกลางเมืองที่เดินง่าย ประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น หอศิลป์พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และโรงละคร การสำรวจเมืองนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าหลงใหลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักการเดินทางไปยังดินแดนที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าดังกล่าว

ดับลิน เมืองหลวงของไอร์แลนด์ กำลังกลับมาผงาดอีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุค "Celtic Tiger" ที่ยิ่งใหญ่ สู่ความฟื้นตัวที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในยุโรปตะวันตก ดับลินในวันนี้คือการผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และทันสมัย เพราะไม่ว่าคุณจะมาเยือนเพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมหรือเสน่ห์ใหม่ๆ จะพบว่าที่นี่เต็มไปด้วยความบันเทิงที่ไม่รู้จบ วอล์กผ่านย่าน Temple Bar ย่านที่เคยอับโชคแต่ปัจจุบันเต็มไปด้วยคาเฟ่และโรงแรมสุดเก๋ พร้อมบรรยากาศของปาร์ตี้ที่ไม่เคยหลับใหล นอกจากนี้ เขต Italian Quarter ที่แอบซ่อนความหรูหราด้วยร้านอาหารกลางแจ้งและการเรียนทำนองทังโก้ สะท้อนให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรมเซลติก ที่ไม่ว่าจะเป็นการแสดง Riverdance หรือผลงานเพลงของ Hozier ก็สามารถดึงดูดความสนใจได้อย่างดี นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแล้ว ดับลินยังมีร้านค้า โรงแรม และแกลเลอรีศิลปะมากมาย ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางกรุงปารีส เมืองที่ค้นพบใหม่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่าเย้ายวนใจ รอให้คุณสัมผัสและสร้างความทรงจำไม่รู้ลืมที่นี่ในเมืองที่เป็นนวัตกรรมและความมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง

ท่าเรือกรีน็อคในสกอตแลนด์ เป็นประตูสู่เมืองกลาสโกว์ เมืองที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและวัฒนธรรมที่หลากหลาย หลังจากประสบกับการลดลงในอดีต กลาสโกว์ได้ฟื้นฟูตัวเองอย่างน่าทึ่ง ด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เช่น อาคารที่ออกแบบโดย Charles Rennie Mackintosh และพิพิธภัณฑ์ Riverside ที่ออกแบบโดย Zaha Hadid ที่สะท้อนถึงกิจกรรมการค้าและการต่อเรือในอดีต เมืองกลาสโกว์ มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 1,500 ปี มีตำนานเกี่ยวกับใจกลางของเมืองที่เกิดจากความไม่ซื่อสัตย์ของพระราชินี ซึ่งประดับด้วยสัญลักษณ์ที่ยังคงอยู่ในตราเมือง ด้วยการเติบโตของอุตสาหกรรมและการค้าในศตวรรษที่ 18 และ 19 กลาสโกว์กลายเป็นศูนย์กลางการต่อเรือและการค้าฝ้ายที่สำคัญ ปัจจุบัน เมืองนี้มีชีวิตชีวาด้วยกิจกรรมทางวัฒนธรรมและร้านค้าทันสมัย เรียกได้ว่าเป็นแหล่งจุดเปลี่ยนสำคัญให้กับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ หลังจากการเยี่ยมชมที่นี่ คุณยังสามารถใช้เวลาเพียง 40 นาทีเพื่อไปยังทะเลสาบโลห์โลมอนด์ สถานที่ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ของสกอตแลนด์ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้คุณค้นพบโลกใหม่ที่รอคอยอยู่
เกรนแคสเทิล (Greencastle) คือท่าเรือที่งดงามตั้งอยู่ริมชายฝั่งของไอร์แลนด์เหนือ เป็นจุดพักผ่อนอันสมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความสงบและความสวยงามทางธรรมชาติที่โดดเด่นที่นี่ เกรนแคสเทิลตั้งอยู่ใกล้กับอ่าวลอนส์เดล (Lough Foyle) สถานที่นี้ไม่เพียงแค่เป็นท่าเรือที่เปิดรับเรือสำราญที่มีระดับ แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันหลากหลายของไอร์แลนด์ การสำรวจเกรนแคสเทิล คุณจะได้พบกับปราสาทเก่าแก่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่สื่อถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน รวมถึงการเดินทางชมวิวทิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาและทะเล สิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือการลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่จากท้องถิ่น ที่มีทั้งรสชาติอร่อยและคุณภาพดี นอกจากนี้ เกรนแคสเทิลยังอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น คาร์ริกฟิน (Carrick-a-Rede) และถ้ำดันลูซ (Dunluce Castle) ซึ่งทั้งสองสถานที่นี้เติมเต็มประสบการณ์การเดินทางที่ไม่รู้ลืมให้กับคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัยหรือผู้รักศิลปวัฒนธรรม ที่เกรนแคสเทิลมีทุกอย่างที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจและความทรงจำตลอดไป เชิญสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในดินแดนแห่งเวทมนตร์นี้กันเถอะ!
Killybegs เมืองชายฝั่งที่เงียบสงบในแคว้น Donegal ของไอร์แลนด์ เป็นเมืองตกปลาอันดับหนึ่งของประเทศ ที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศสดชื่นและอากาศทะเลที่เย็นสบาย ซึ่งดึงดูดให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับเสน่ห์ของการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เรือประมงที่เรียงรายอยู่ริมท่าเรือพร้อมล่องไปในรุ่งเช้า เป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจในช่วงต้นวัน Killybegs ยังเป็นประตูสู่ทัศนียภาพชายฝั่งที่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นการชมประภาคารขาวสะอาดที่คอยเตือนภัยแก่เรือในทะเล หรือการเดินเล่นไปตามชายฝั่งอันตื่นตาตื่นใจ ขึ้นไปชมความงามของ Slieve League ที่ตั้งตระหง่าน ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตก ตรงนี้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความตื่นเต้นเมื่อได้มองเหล่าผาสูงชันที่ดิ่งลงสู่ทะเล ใน Killybegs คุณจะได้พบกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่บรรยากาศการตกปลาจริง ไปจนถึงการสำรวจธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ หากคุณกำลังมองหาจุดหมายที่น่าพิสูจน์ และสัมผัสการเดินทางที่ไม่ธรรมดา Killybegs คือคำตอบสำหรับคุณในการผจญภัยครั้งหน้าในไอร์แลนด์


เกาะไอร์แลนด์เป็นที่รู้จักในชื่อเสียงของมรดกวัฒนธรรมที่หลากหลาย และเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้คือ แกลเวย์ (Galway) ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกในจังหวัดคอนน็อคต์ เมืองนี้มีที่ตั้งที่งดงามบนแม่น้ำคอริบ ระหว่างทะเลสาบคอริบและอ่าวแกลเวย์ โดยล้อมรอบด้วยเขตแกลเวย์ เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่ล้ำยุค มีร้านค้าเฉพาะที่เจ้าของท้องถิ่นมักจะนำเสนอสินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น เช่น งานฝีมือที่ถูกสร้างสรรค์ด้วยมือ ศูนย์กลางของเมืองคือ อีร์สแควร์ (Eyre Square) สถานที่นัดพบที่นิยม ในขณะที่ร้านค้าและผับแบบดั้งเดิมที่มักจะมีเพลงพื้นบ้านไอริชสดให้ได้ฟังอย่างเต็มอิ่ม นอกจากนี้ ถนนในย่านลาติน (Latin Quarter) ยังเรียงรายไปด้วยคาเฟ่พักผ่อน บูติก และแกลเลอรีศิลปะที่บอกเล่าความเป็นมาของเมืองที่โอบล้อมไปด้วยกำแพงเมืองยุคกลาง ด้วยชื่อเล่นว่า "เมืองแห่งเผ่า" แกลเวย์ได้สืบทอดมรดกของครอบครัวพ่อค้าที่มีอิทธิพลในประวัติศาสตร์เมือง ซึ่งสะท้อนถึงความภูมิใจและมรดกทางวัฒนธรรมที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน การเยี่ยมชมแกลเวย์จึงเป็นการสำรวจสุนทรียภาพทางวัฒนธรรมและความงามธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดในเส้นทางการเดินทางของคุณ

เมื่อเรือสำราญของคุณแล่นเข้าสู่ท่าเรือคอร์ก (Cork) ในไอร์แลนด์ คุณจะได้สัมผัสกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลซึ่งสืบทอดมายาวนานตั้งแต่ปี 1185 คอร์กมีชื่อมาจากคำว่า “corcaigh” ซึ่งหมายถึง “สถานที่ที่มีน้ำท่วม” อดีตเคยเป็น settlement ในศตวรรษที่ 6 ที่กระจายอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ถึง 13 เกาะในแม่น้ำลี (River Lee) ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในศตวรรษที่ 17 และ 18 เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนที่สวยงาม ซึ่งมีหน้าต่างโค้งกว้างให้คุณได้ชมความงาม อีกทั้งยังมีศูนย์กลางการค้ามากมายที่ตั้งอยู่บนเกาะทำให้มีสะพานและท่าเรือที่หลากหลาย สร้างเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร คอร์กเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเป็นไอริช ทั้งกีฬาเฮอร์ลิง, ฟุตบอลเกลิค, ผับที่มีดนตรีสด และการแข่งขันสรีรศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยคุณอาจได้เห็นฮิปปี้ ชาวเกย์ และเกษตรกรนั่งดื่มที่ผับเดียวกัน สัมผัสเมืองที่ให้บรรยากาศเป็นกันเองและต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความอบอุ่น เปลี่ยนเส้นทางการเดินทางของคุณให้น่าจดจำในท่ามกลางความงดงามของคอร์ก วันที่คุณมาที่นี่ คุณจะไม่เพียงแค่เยี่ยมชมเมือง แต่ยังรู้สึกถึงชีวิตและวัฒนธรรมที่เปี่ยมไปด้วยสีสันที่น่าหลงใหลอีกด้วย

ท่าเรืออัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคทองของศตวรรษที่ 17 อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอเสน่ห์ที่หลากหลายพร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ชื่อดังและศิลปะอันล้ำค่า เมืองแห่งคลองนี้มีระบบคลองที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบให้กับนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็มีชีวิตชีวาด้วยร้านค้าสมัยใหม่และแสงสีที่ส่องประกายเต็มถนน นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ สวนลับที่เงียบสงบ หรือบ้านเรือนลอยน้ำที่สร้างสรรค์อย่างประณีต อัมสเตอร์ดัมมีสะพานกว่า 1,500 แห่ง และมีโบราณสถานถึง 7,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงผลงานสำคัญจาก Rembrandt และ Van Gogh เมืองนี้ยังมีวัฒนธรรมที่เข้มข้น พร้อมกิจกรรมทางดนตรี และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทำให้การเดินเล่นในเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าหลงใหล ตั้งแต่ซอกซอยเล็กๆ ไปจนถึงการสัมผัสบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ความมหัศจรรย์ของอัมสเตอร์ดัมคือการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันที่แสนลงตัว ซึ่งรอให้คุณมาสัมผัสในเมืองแห่งคลองนี้

ยินดีต้อนรับสู่เมืองเคิร์ควอลล์ ซึ่งเป็นเมืองหลักของหมู่เกาะออร์คนีย์ที่สกอตแลนด์ สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวประวัติศาสตร์ในทุกซอกมุม ด้วยถนนเล็ก ๆ ที่คดเคี้ยวและบรรยากาศที่คึกคัก ความประทับใจแรกเมื่อเข้าเมืองคือโบสถ์คันทาร์เบอรี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์มากมายที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของออร์คนีย์ การเดินเล่นในย่านเก่าแก่ของเคิร์ควอลล์จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามแห่งทัศนียภาพที่ทอดยาวไปยังท่าเรือและท้องทะเลที่สดใส เรือสำราญที่แวะมาที่นี่จะมอบโอกาสให้คุณได้สำรวจร้านค้าและคาเฟ่ท้องถิ่น พร้อมด้วยสิ่งของที่ระลึกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ นอกจากเคิร์ควอลล์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ชายหาดที่สวยงามและแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียง ผู้เดินทางสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำ ในขณะที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์และการต้อนรับที่อบอุ่นจากชาวออร์คนีย์ สัมผัสความมหัศจรรย์นี้ในครั้งต่อไปเมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่เคิร์ควอลล์และคอยต้อนรับความฝันแห่งการเดินทาง!

ดิวปิวโกรู (Djúpivogur) เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในไอซ์แลนด์ เป็นจุดหมายท่องเที่ยวที่น่าอัศจรรย์สำหรับผู้ที่ปรารถนาหาความสงบในบรรยากาศธรรมชาติอันงดงาม รายล้อมไปด้วยภูเขาไฟที่ส่องแสงระยิบระยับและฟยอร์ดที่มีเสน่ห์ ดิวปิวโกรูได้รับการต้อนรับด้วยสถานะ 'Cittaslow' ซึ่งหมายถึง เมืองแห่งความช้าลง หรือเมืองที่ให้คุณค่าแก่ความสงบและคุณภาพชีวิต ในขณะที่เดินชมท่าเรือที่สวยงาม คุณจะได้พบกับชีวิตสัตว์ป่าที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงนกทะเลหลากหลายชนิดที่อยู่ในอาณาเขต นอกจากนี้ ดิวปิวโกรูยังเป็นที่รู้จักในเรื่องวรรณกรรมพื้นบ้านและอาหารอร่อยที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่น โดยเชฟผู้เชี่ยวชาญจะนำเสนอเมนูที่ทำให้คุณได้สัมผัสรสชาติแบบไอซ์แลนด์แท้ ๆ หากคุณรักการสำรวจธรรมชาติ อย่าลืมเดินเล่นไปตามเส้นทางเดินที่นำไปสู่ฟยอร์ดที่น่าทึ่ง สัมผัสความมหัศจรรย์ของน้ำตกและภูเขา ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับความงดงามในทุกรูปแบบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับแรงบันดาลใจในการเดินทางครั้งใหม่ที่ดิวปิวโกรู ประเทศไอซ์แลนด์ ที่รอคุณอยู่!

อาคูเรย์รีเป็นเมืองหลวงของภาคเหนือของไอซ์แลนด์ และเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เป็นเมืองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งตั้งอยู่ริมฟยอร์ดอันงดงามยาว 60 กิโลเมตร ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้าน ทำให้ได้รับการปกป้องจากลมทะเลอันรุนแรง สถาปัตยกรรมไม้สไตล์ศตวรรษที่ 19 ยังบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่นี่ ขณะที่โบสถ์ลูเธอแรนที่มีหอคอยคู่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเขียวข้างริมฟยอร์ด ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางสำคัญของเมือง นอกจากความงามของเมืองแล้ว อาคูเรย์รียังมีภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง ด้านใต้ของเมืองมีภูเขาไรโอลิตที่มีรูปพีระมิดชื่อว่า ซูลูร์ และเสน่ห์ของภูมิภาคนี้ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะอีกด้านคือเคอริง ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตเอจาฟยอร์ด คุณจะได้พบกับการเดินป่าและการสำรวจธรรมชาติอันรุ่งโรจน์ในพื้นที่นี้ มาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของอาคูเรย์รีดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์และความงดงามของธรรมชาติ ที่นี่จะทำให้การเดินทางของคุณกลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน และกระตุ้นให้คุณค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ในทุกย่างก้าว

ในประเทศไอซ์แลนด์ ท่าเรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไอซาฟยอร์ดูร์ (Isafjördur) ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหล ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่น่าประทับใจตั้งอยู่ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของภูเขาหินสูงโปร่งทั้งสองข้าง แต่ยังตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่ยื่นออกไปในน้ำฟยอร์ดสีดำลึกอีกด้วย การเดินทางมาที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความสดใสและทันสมัยของเมืองเล็กๆ ที่มีชีวิตชีวา พรั่งพร้อมไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารที่เต็มไปด้วยรสชาติอร่อย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น ไอซาฟยอร์ดูร์ไม่เพียงแต่มีความสวยงามแบบธรรมชาติ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการผจญภัยกลางธรรมชาติที่งดงามของไอซ์แลนด์ ซึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมคือการเล่นสกี เดินป่า และกีฬาทางน้ำ ล้วนแต่เป็นกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความดิบของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด อย่าลืมสัมผัสกลิ่นอายแห่งการผจญภัยที่รอให้คุณค้นพบ ณ ท่าเรือแห่งนี้ ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจและความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนในการเดินทางของคุณในไอซ์แลนด์!

เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) คือหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ให้บรรยากาศสงบเงียบ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ และภูเขาสูงตระหง่านที่งดงาม การเดินทางมาที่นี่จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความมหัศจรรย์ ราวกับหลุดเข้าไปในภาพวาดที่มีชีวิต จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกรนดาร์ฟยอร์ดูร์คือ "ภูเขาสการ์ฟตาเฟล" (Kirkjufell) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะเฉพาะและได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ การขึ้นไปชมวิวจากยอดเขา คือประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ อีกทั้งยังมีน้ำตก Kirchjufellsfoss ที่สวยงามท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม นอกจากธรรมชาติแล้ว เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ยังเป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ โดยคุณสามารถสัมผัสชีวิตของชาวไอซ์แลนด์ดั้งเดิม ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและบ้านเรือนที่ถูกปรับปรุงให้สวยงาม ทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศนี้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่แสนพิเศษ ณ เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงเป็นจุดจอดของเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่อันดับต้น ๆ ของประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม

เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!

ฮีมาอี ของไอซ์แลนด์ คือจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางด้วยเรือสำราญ สัมผัสกับบรรยากาศของเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของการระเบิดภูเขาไฟที่น่าพิศวงเมื่อกว่า 40 ปีก่อน ซึ่งทำให้เกาะนี้ถูกแปรเปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อ แต่ด้วยความกล้าหาญของผู้คนบนเกาะที่ได้ใช้น้ำทะเลหยุดยั้งลาวาจากภูเขาไฟเอลด์เฟล ทำให้ท่าเรือยังคงเปิดอยู่และอุตสาหกรรมการประมงที่มีความสำคัญยังคงยืนยาวต่อไป เดินเที่ยวตามถนนที่สวยงามในฮีมาอี ที่รายล้อมไปด้วยบ้านไม้สีขาว เรายังสามารถชมปราสาทหินภูเขาไฟที่ตระการตาที่เสมือนลอยอยู่เหนือน้ำ ส Revealing Nature of Iceland—through its landscapes, wildlife, and the warmth of its people—คุณจะได้สัมผัสความงามที่ไม่มีที่ไหนเหมือน สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติโดยใกล้ชิด ต้องไม่พลาดไปสำรวจชายฝั่งที่เต็มไปด้วยชีวิตทะเล รวมถึงนกพันธุ์หายากที่อพยพมาที่นี่ นอกจากการเดินชมหรือท่องเที่ยวแบบมีไกด์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเหตุนี้ ฮีมาอี จึงเป็นจุดหมายที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ถึง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางหาทางออกใหม่ๆ ในชีวิต.

ระหว่างการเดินทางไปยังหมู่เกาะแฟโร คุณจะได้พบกับท่าเรือที่น่าหลงใหลในเมืองรุนาวิค ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะเอวยอยด์ ท่าเรือนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่พักท่าเรือของเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่ธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมพื้นบ้านที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก รุนาวิคโดดเด่นด้วยท landscapes ที่เต็มไปด้วยภูเขาสูงชันและชายฝั่งที่ขรุขระ ซึ่งเมื่อมองไปยังทะเลจะเห็นเกาะน้ำแข็งและนกนานาชนิดที่อาศัยอยู่ในเขตห้ามล่า ท่าเรือแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารไม้ที่มีสีสันสดใส ซึ่งสะท้อนเอกลักษณ์ของชาวแฟโรได้เป็นอย่างดี ในระหว่างที่คุณสำรวจบริเวณรอบท่าเรือ สามารถเข้าไปยังพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์รุนาวิคเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่น หรือจะเลือกเพลิดเพลินกับการเดินป่าในเส้นทางที่สวยงามอย่างเส้นทางเดินป่าสูงชันที่นำไปสู่จุดชมวิวที่มีทัศนียภาพที่งดงามของภูมิภาค หากคุณมองหาประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ในประเทศอันน่าหลงใหลแห่งนี้ รุนาวิคจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ด้วยบรรยากาศอันเงียบสงบและการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวแฟโร ทุกช่วงเวลาในที่นี้คือความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน เมื่อคุณเข้าไปสัมผัสกับโลกใหม่แห่งนี้ คุณจะพบว่าทุกก้าวที่เดินคือการค้นพบที่น่าหลงใหล.

เลอร์วิค เมืองเล็กที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่บนหมู่เกาะเชตแลนด์ (Shetland Islands) ของสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าเข้าสู่ท่าเรือที่มีชีวิตชีวานี้ เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นโดยชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 และยังคงรักษาความงามของอาคารหินที่เรียกว่า "ล๊อดเบอรีส์" ซึ่งเป็นสถานที่ขนส่งสินค้าที่สำคัญในอดีต นี่คือเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนและสะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ เมื่อเดินเรือเข้าท่าเลอร์วิค คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือที่ปัจจุบันยังมีความคึกคัก ด้วยถนนที่ปูด้วยแผ่นหินและวิวชายฝั่งที่งดงาม ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจความงามของเชตแลนด์ สำหรับนักเดินทางที่มาเยือน ยังมีโอกาสได้พบปะกับวัฒนธรรมชาวเซลติก ที่สำคัญ และการชมธรรมชาติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่ป่าเขียวขจีหรือสัตว์ป่าในท้องถิ่น ด้วยความเพลิดเพลินและน่าหลงใหลที่เลอร์วิคมอบให้ คุณจะได้สัมผัสกับการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร คอยต้อนรับความตื่นเต้นในทุกขั้นตอนของการสำรวจสมบัติที่ซ่อนอยู่ในภูมิภาคนี้

ท่าเรืออัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคทองของศตวรรษที่ 17 อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอเสน่ห์ที่หลากหลายพร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ชื่อดังและศิลปะอันล้ำค่า เมืองแห่งคลองนี้มีระบบคลองที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบให้กับนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็มีชีวิตชีวาด้วยร้านค้าสมัยใหม่และแสงสีที่ส่องประกายเต็มถนน นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ สวนลับที่เงียบสงบ หรือบ้านเรือนลอยน้ำที่สร้างสรรค์อย่างประณีต อัมสเตอร์ดัมมีสะพานกว่า 1,500 แห่ง และมีโบราณสถานถึง 7,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงผลงานสำคัญจาก Rembrandt และ Van Gogh เมืองนี้ยังมีวัฒนธรรมที่เข้มข้น พร้อมกิจกรรมทางดนตรี และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทำให้การเดินเล่นในเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าหลงใหล ตั้งแต่ซอกซอยเล็กๆ ไปจนถึงการสัมผัสบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ความมหัศจรรย์ของอัมสเตอร์ดัมคือการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันที่แสนลงตัว ซึ่งรอให้คุณมาสัมผัสในเมืองแห่งคลองนี้









巔峰套房เป็นห้องสวีทที่มีขนาดกว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 1,150 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่มาพร้อมกับอ่างน้ำวน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวขนาดเล็กที่มีไมโครเวฟและตู้เย็น ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซซ์ — เตียงที่ได้รับการออกแบบพิเศษของเรา "Mariner's Dream™" พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก และห้องน้ำที่ประกอบด้วยอ่างน้ำวนขนาดใหญ่และฝักบัว รวมถึงอ่างสำหรับอาบน้ำอีกด้วย ยังมีโซฟาเบดที่สามารถรองรับผู้พักได้สองคน และห้องน้ำสำหรับแขกอีกหนึ่งห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยระบบสเตอริโอส่วนตัว การเข้าถึง Neptune Lounge อันมีเอกสิทธิ์ บริการผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีต่างๆ เรายินดีต้อนรับท่านเข้าสู่ประสบการณ์ที่หรูหราและผ่อนคลายในแต่ละการเดินเรือ.




สวีทรูปแบบ "ห้องสวีทเนปจูน" นั้นนำเสนอพื้นที่กว้างขวางซึ่งเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติและวิวที่สวยงามจากหน้าต่างสูงจากพื้นถึงเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ภายในสวีทประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่และเตียงคู่ที่สามารถแปลงเป็นเตียงคิงไซส์แบบ Mariner's Dream™ ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก พร้อมกับโซฟาเบดที่พร้อมรองรับผู้เข้าพักสองคน ห้องน้ำที่ทำให้คุณรู้สึกหรูหรานั้นมีอ่างอาบน้ำแบบวนและฝักบัวคู่ พร้อมทั้งห้องอาบน้ำเพิ่มเติมให้คุณได้ใช้บริการอีกด้วย ความสะดวกสบายที่หลากหลายรวมถึงการเข้าใช้ Neptune Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์ บริการพิเศษจากผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีมากมาย ทำให้การพักผ่อนใน "ห้องสวีทเนปจูน" เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม ขนาดห้องราว 500–712 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง




ห้องชุดขนาดใหญ่และสะดวกสบายนี้มีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง พร้อมด้วยหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานเปิดให้เห็นระเบียงส่วนตัว ห้องนอนมีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นเตียง Mariner's Dream™ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีโซฟาเบดสำหรับคนหนึ่งคน ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างซาวน่าขนาดเต็มพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว รวมถึงห้องอาบน้ำเสริมอีกหนึ่งห้อง ขนาดโดยรวมของห้องอยู่ที่ประมาณ 372–384 ตารางฟุต รวมระเบียง ซึ่งทำให้สบายและเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง



ห้องพักประเภท陽台 โอบล้อมด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างพื้นจรดเพดานที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว ห้องพักนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่น และเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของเรา Mariner's Dream™ มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และมีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวที่ให้การนวดที่มีคุณภาพ ห้องพักมีขนาดประมาณ 212–359 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง การจัดวางห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง.


ห้องพักประเภท "海景艙" ขนาดกว้างขวางนี้มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับด้วยเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่มีความนุ่มสบายจาก Euro-Top และหัวฝักบัวนวดที่มีคุณภาพสูง ในห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและทิวทัศน์ทะเลที่สวยงาม ห้องพักมีขนาดประมาณ 174-180 ตารางฟุตและการจัดเรียงห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ ทำให้ท่านได้สัมผัสกับความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวในขณะล่องเรืออย่างแท้จริง


ห้องพักประเภทบางส่วนวิวทะเลนี้มีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 174–180 ตารางฟุต ซึ่งมีเตียงคู่ด้านล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมกับที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่นุ่มสบายพร้อมฟูก Euro-Top ห้องพักยังมาพร้อมกับฝักบัวนวดคุณภาพสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลอันงดงามที่อยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าคุณจะเลือกพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ห้องพักนี้จะตอบสนองทุกความต้องการของคุณอย่างเหนือชั้น



ห้องสเตเตอร์รูมขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า "ทัศนียภาพที่ถูกปิดกั้น" นี้มอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหรา โดยมีเตียงขนาดคู่นอนสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มีกระดูกสันหลังที่รองรับอย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยหมอนที่นุ่มสบายและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย นอกจากนี้ ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 174–180 ตารางฟุต ทั้งนี้ วิวนอกห้องจะถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ ทำให้ท่านสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายภายในห้องได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก


ห้องพักประเภท "ขนาดใหญ่ภายใน" นี้มีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถแปลงเป็นเตียงควีนไซส์ซึ่งเป็นที่นอน Signature Mariner's Dream™ อันหรูหรา มีฟูก Euro-Top ที่นุ่มสบาย รวมถึงฝักบัวนวดระดับพรีเมี่ยมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 151–233 ตารางฟุต การจัดเรียงของห้องพักอาจแตกต่างจากที่แสดงในภาพ ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์การล่องเรือที่หลากหลายได้ที่นี่!


ห้องพักประเภท "ภายใน" นี้มีการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด โดยมีเตียงคู่ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ Mariner's Dream™ ที่มีที่นอนยุโรปคุณภาพสูง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น หัวฝักบัวนวดพิเศษ ห้องพักมีขนาดประมาณ 151-233 ตารางฟุต ทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่ทันสมัยและหรูหราในขณะสำรวจมหาสมุทรและจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ ห้องพักนี้ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้เข้าพักในระดับสูง ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นขณะล่องเรือบนทะเล.