
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

ซูเดอร์แดม
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ท่าเรืออัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคทองของศตวรรษที่ 17 อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอเสน่ห์ที่หลากหลายพร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ชื่อดังและศิลปะอันล้ำค่า เมืองแห่งคลองนี้มีระบบคลองที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบให้กับนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็มีชีวิตชีวาด้วยร้านค้าสมัยใหม่และแสงสีที่ส่องประกายเต็มถนน นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ สวนลับที่เงียบสงบ หรือบ้านเรือนลอยน้ำที่สร้างสรรค์อย่างประณีต อัมสเตอร์ดัมมีสะพานกว่า 1,500 แห่ง และมีโบราณสถานถึง 7,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงผลงานสำคัญจาก Rembrandt และ Van Gogh เมืองนี้ยังมีวัฒนธรรมที่เข้มข้น พร้อมกิจกรรมทางดนตรี และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทำให้การเดินเล่นในเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าหลงใหล ตั้งแต่ซอกซอยเล็กๆ ไปจนถึงการสัมผัสบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ความมหัศจรรย์ของอัมสเตอร์ดัมคือการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันที่แสนลงตัว ซึ่งรอให้คุณมาสัมผัสในเมืองแห่งคลองนี้

เลอร์วิค เมืองเล็กที่มีเสน่ห์ ตั้งอยู่บนหมู่เกาะเชตแลนด์ (Shetland Islands) ของสกอตแลนด์ เป็นจุดหมายอันดับต้น ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าเข้าสู่ท่าเรือที่มีชีวิตชีวานี้ เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นโดยชาวดัตช์ในศตวรรษที่ 17 และยังคงรักษาความงามของอาคารหินที่เรียกว่า "ล๊อดเบอรีส์" ซึ่งเป็นสถานที่ขนส่งสินค้าที่สำคัญในอดีต นี่คือเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนและสะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ เมื่อเดินเรือเข้าท่าเลอร์วิค คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือที่ปัจจุบันยังมีความคึกคัก ด้วยถนนที่ปูด้วยแผ่นหินและวิวชายฝั่งที่งดงาม ทำให้ที่นี่เป็นเสมือนประตูสู่การสำรวจความงามของเชตแลนด์ สำหรับนักเดินทางที่มาเยือน ยังมีโอกาสได้พบปะกับวัฒนธรรมชาวเซลติก ที่สำคัญ และการชมธรรมชาติที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่ป่าเขียวขจีหรือสัตว์ป่าในท้องถิ่น ด้วยความเพลิดเพลินและน่าหลงใหลที่เลอร์วิคมอบให้ คุณจะได้สัมผัสกับการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร คอยต้อนรับความตื่นเต้นในทุกขั้นตอนของการสำรวจสมบัติที่ซ่อนอยู่ในภูมิภาคนี้

เซย์ดิสฟยอร์ดูร์ (Seyðisfjörður) ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของไอซ์แลนด์ เป็นหมู่บ้านที่ถูกเนรมิตขึ้นในศตวรรษที่ 19 ด้วยความงดงามที่น่าทึ่งไม่เพียงแต่จากธรรมชาติรอบข้าง แต่ยังมีความเป็นเอกลักษณ์จากอาคารไม้โบราณที่อนุรักษ์ไว้ได้อย่างดี ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ไข่มุกในหอย" โดยกวี มัทธีอัส โยฮันเนสเซน หมู่บ้านนี้เกิดขึ้นจากการค้าขายของพ่อค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวเดนมาร์กในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 แต่การเติบโตที่สำคัญเกิดขึ้นเมื่อมีการก่อตั้งอุตสาหกรรมการประมงปลาเฮอริ่งโดยชาวนอร์เวย์ในระหว่างปี 1870-1900 จนกลายเป็นเมืองที่เฟื่องฟูในเวลาไม่นาน ขณะนี้เซย์ดิสฟยอร์ดูร์มีประชากรประมาณ 800 คน เศรษฐกิจของหมู่บ้านพึ่งพาการประมงเป็นหลัก พร้อมกับการพัฒนาอุตสาหกรรมเบาและการท่องเที่ยวซึ่งกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีเรือเฟอร์รี่ นอร์เรอนา (Norrøna) ที่เชื่อมต่อระหว่างยุโรปและไอซ์แลนด์ ซึ่งเข้าจอดที่ท่าเรือทุกวันพฤหัสบดี ทำให้ที่นี่ยังคงเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม เซย์ดิสฟยอร์ดูร์จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับประสบการณ์และความงามของไอซ์แลนด์อย่างแท้จริง

อาคูเรย์รีเป็นเมืองหลวงของภาคเหนือของไอซ์แลนด์ และเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เป็นเมืองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งตั้งอยู่ริมฟยอร์ดอันงดงามยาว 60 กิโลเมตร ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้าน ทำให้ได้รับการปกป้องจากลมทะเลอันรุนแรง สถาปัตยกรรมไม้สไตล์ศตวรรษที่ 19 ยังบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่นี่ ขณะที่โบสถ์ลูเธอแรนที่มีหอคอยคู่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเขียวข้างริมฟยอร์ด ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางสำคัญของเมือง นอกจากความงามของเมืองแล้ว อาคูเรย์รียังมีภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง ด้านใต้ของเมืองมีภูเขาไรโอลิตที่มีรูปพีระมิดชื่อว่า ซูลูร์ และเสน่ห์ของภูมิภาคนี้ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะอีกด้านคือเคอริง ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตเอจาฟยอร์ด คุณจะได้พบกับการเดินป่าและการสำรวจธรรมชาติอันรุ่งโรจน์ในพื้นที่นี้ มาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของอาคูเรย์รีดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์และความงดงามของธรรมชาติ ที่นี่จะทำให้การเดินทางของคุณกลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน และกระตุ้นให้คุณค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ในทุกย่างก้าว

ท่าเรือฮุซาวิก (Húsavík) ตั้งอยู่ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงามใต้มุมมองของภูเขาฮุซาวิกูร์ฟยัลล์ (Húsavíkurfjall) และริมชายฝั่งอ่าวสกัลฟันดี (Skjálfandi) ที่ประเทศไอซ์แลนด์ เป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแค่ท่าเรือสำหรับการประมงเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่ควรพลาดเกี่ยวกับการชมวาฬที่โด่งดังไปทั่วโลก ฮุซาวิกเป็นจุดศูนย์กลางกิจกรรมการดูวาฬที่สำคัญ โดยมีการจัดทัวร์ตั้งแต่ปี 1995 ด้วยประสบการณ์ที่เหนือชั้น ทำให้นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกเดินทางมายังท่าเรือนี้เพื่อสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของสัตว์น้ำขนาดใหญ่ในธรรมชาติที่สวยงาม นอกจากกิจกรรมทางน้ำแล้ว แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้เคียงยังรวมถึงทะเลสาบบอทน์สวัตน์ (Botnsvatn) ที่ให้โอกาสในการเดินป่าและชมธรรมชาติอันเขียวขจี นอกจากนี้ ฮุซาวิกยังมีพิพิธภัณฑ์วาฬที่น่าสนใจ ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือ ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของวาฬในทะเลแห่งนี้ และประวัติศาสตร์ของเมืองอันเก่าแก่ที่เชื่อกันว่าเป็นชุมชนแรกในไอซ์แลนด์ รับประกันว่าทุกช่วงเวลาที่คุณใช้ในฮุซาวิกจะเต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าหลงใหล โอกาสในการค้นพบธรรมชาติและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ await นักท่องเที่ยวที่มองหาความพิเศษในทุกการเดินทางของพวกเขา.

ในประเทศไอซ์แลนด์ ท่าเรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ไอซาฟยอร์ดูร์ (Isafjördur) ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหล ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่น่าประทับใจตั้งอยู่ท่ามกลางวิวทิวทัศน์ของภูเขาหินสูงโปร่งทั้งสองข้าง แต่ยังตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่ยื่นออกไปในน้ำฟยอร์ดสีดำลึกอีกด้วย การเดินทางมาที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงความสดใสและทันสมัยของเมืองเล็กๆ ที่มีชีวิตชีวา พรั่งพร้อมไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารที่เต็มไปด้วยรสชาติอร่อย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่น ไอซาฟยอร์ดูร์ไม่เพียงแต่มีความสวยงามแบบธรรมชาติ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการผจญภัยกลางธรรมชาติที่งดงามของไอซ์แลนด์ ซึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมคือการเล่นสกี เดินป่า และกีฬาทางน้ำ ล้วนแต่เป็นกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความดิบของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด อย่าลืมสัมผัสกลิ่นอายแห่งการผจญภัยที่รอให้คุณค้นพบ ณ ท่าเรือแห่งนี้ ซึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจและความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือนในการเดินทางของคุณในไอซ์แลนด์!

เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ (Grundarfjörður) คือหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามที่สุดในไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ให้บรรยากาศสงบเงียบ รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์ และภูเขาสูงตระหง่านที่งดงาม การเดินทางมาที่นี่จะพาคุณเข้าสู่โลกแห่งความมหัศจรรย์ ราวกับหลุดเข้าไปในภาพวาดที่มีชีวิต จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกรนดาร์ฟยอร์ดูร์คือ "ภูเขาสการ์ฟตาเฟล" (Kirkjufell) ซึ่งเป็นภูเขาที่มีลักษณะเฉพาะและได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ การขึ้นไปชมวิวจากยอดเขา คือประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ อีกทั้งยังมีน้ำตก Kirchjufellsfoss ที่สวยงามท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงาม นอกจากธรรมชาติแล้ว เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ยังเป็นที่รู้จักในด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ โดยคุณสามารถสัมผัสชีวิตของชาวไอซ์แลนด์ดั้งเดิม ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและบ้านเรือนที่ถูกปรับปรุงให้สวยงาม ทำให้คุณรู้สึกใกล้ชิดกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศนี้ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่แสนพิเศษ ณ เกรนดาร์ฟยอร์ดูร์ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงเป็นจุดจอดของเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่อันดับต้น ๆ ของประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม

เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความงดงามตามธรรมชาติและวัฒนธรรมโบราณ ท่าเรือ Qaqortoq หรือที่รู้จักในชื่อ Julianehaab บนเกาะกรีนแลนด์คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ในภาคใต้ของเกาะกรีนแลนด์ Qaqortoq เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัย prehistoric จนถึงปัจจุบัน เมื่อคุณก้าวเข้าสู่เมืองนี้ คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่ตระการตาของทะเลฟยอร์ด และภูเขาที่ล้อมรอบเมืิอง น้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มและทะเลสาบ Tasersuag รวมถึงภูมิประเทศที่สวยงามให้คุณได้สัมผัส ประวัติศาสตร์ของ Qaqortoq เริ่มขึ้นตั้งแต่ 4,300 ปีที่แล้ว เมืองนี้เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนอร์สและชาวอินูอิตในศตวรรษที่ 10 และ 12 และได้รับการก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 1774 ปัจจุบัน Qaqortoq กลายเป็นท่าเรือสำคัญที่มีศูนย์กลางในการประมงและกิจกรรมหลายอย่าง เช่น การผลิตอาหารทะเล การผลิตหนังสัตว์ และการซ่อมแซมเรือ ที่นี่ไม่เพียงแต่นำเสนอคนรักการท่องเที่ยวในเรื่องราวและวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่ยังมอบโอกาสในการสำรวจความงดงามตามธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์ในแบบที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกเลย

นานอร์ตาลิค (Nanortalik) เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในใจกลางธรรมชาติอันงดงามของกรีนแลนด์ ย่านนี้มีภูเขาสูงตระหง่านล้อมรอบ และถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางใต้ของเกาะ ตัวเมืองมีประชากรน้อยกว่า 1,500 คน และชื่อ "นานอร์ตาลิค" แปลว่า "สถานที่ของหมีขั้วโลก" ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงหมีขั้วโลกที่曾เคยเห็นลอยอยู่บนแผ่นน้ำแข็งในฤดูร้อน หนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจของนานอร์ตาลิคคือพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวอินูอิต โดยเฉพาะการจัดแสดงแคมป์ล่าสัตว์ในฤดูร้อน ที่ทำให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับชีวิตความเป็นอยู่และประเพณีอันงดงามของบรรพบุรุษชาวอินูอิต อีกทั้งยังมีช่างฝีมือท้องถิ่นที่แต่งกายชุดดั้งเดิมมาแบ่งปันเรื่องราวและวัฒนธรรมได้อย่างมีชีวิตชีวา หากคุณมองหาประสบการณ์การเดินทางที่พิเศษและเป็นเอกลักษณ์ นานอร์ตาลิคคือจุดหมายที่ชวนให้คุณหลงใหล พื้นที่นี้ไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเรื่องราวของชาวอินูอิต แต่ยังมีธรรมชาติที่งดงามและการต้อนรับอันอบอุ่นจากชาวเมืองรอคุณอยู่ ถ้าคุณมีโอกาสไปเยือน อย่าลืมสัมผัสความมหัศจรรย์ของที่นี่ให้ได้!
ท่าเรือเซนต์แอนโธนี ตั้งอยู่ในภูมิภาคนิวฟันด์แลนด์และแล็บราดอร์ของแคนาดา เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และอารยธรรมทางทะเลที่น่าสนใจ ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในอ่าวเซนต์แอนโธนี ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามของคลื่นทะเลและทิวเขาเขียวชอุ่ม เนื่องจากธรรมชาติบริสุทธิ์และเงียบสงบ จึงเป็นที่เรียกร้องสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย เมื่อเยือนท่าเรือนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจประวัติศาสตร์การทำประมงของพื้นที่ รวมถึงพิพิธภัณฑ์และสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการค้นพบแคนาดาของจอห์น คาบอต และเรื่องราวการเดินทางที่น่าตื่นเต้น นอกจากนี้ยังมีการเดินทางไปชมปลาวาฬที่อ่าวหรือการเดินเขาไปชมทิวทัศน์ที่งดงาม เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด การเดินทางมายังเซนต์แอนโธนีจะทำให้ท่านได้สัมผัสวิถีชีวิตอันสงบและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหลของชาวแคนาดา พร้อมทั้งบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ สร้างความทรงจำในวันหยุดที่น่าประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน ร่วมเดินทางกับเราสำหรับประสบการณ์สุดหรูในลักษณะเฉพาะของแคนาดา!

เซนต์จอห์นส์ (St. John's) ตั้งอยู่ในจังหวัดนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ของแคนาดา เป็นท่าเรือที่หลอมรวมประวัติศาสตร์และความทันสมัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เมืองนี้มีประชากรในเขตเมืองประมาณ 200,000 คน และมีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์จากอาคารสถาปัตยกรรมวิคตอเรียและบ้านแถวสีสันสดใสที่ตั้งอยู่เคียงคู่กับอาคารสำนักงานทันสมัย ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอังกฤษและไอริชผ่านเสียงเพลงพื้นบ้านและดนตรีร็อคที่บรรเลงในท้องถนน สถานที่ท่องเที่ยวหลักอย่างชายหาดกลุ่มเบย์ (Balong Bay) และอ่าวเซนต์จอห์น (St. John's Harbour) เปิดโอกาสให้คุณสำรวจประวัติศาสตร์ของการค้ามหาสมุทรซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการส่งออกปลาเกลือในยุคก่อน เซนต์จอห์นส์ยังเป็นแหล่งรวมของศิลปะและความบันเทิงอย่างไม่ขาดสาย นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมแกลเลอรีและร้านค้าหัตถกรรมท้องถิ่นได้อย่างจุใจ นอกจากนี้ ความสงบเงียบและการใช้ชีวิตแบบช้าๆ ของเมืองนี้ ยิ่งทำให้เหล่านักเดินทางปรารถนาที่จะเข้ามาสัมผัสบรรยากาศที่แสนอบอุ่นและเป็นกันเองของเมืองนี้อย่างไม่รู้เบื่อ

ฮาลิแฟกซ์ (Halifax) เมืองหลวงแห่งโนวาสโกเชีย (Nova Scotia) คือจุดหมายปลายทางที่เพียงคุณก้าวเท้าเข้ามา จะรู้สึกได้ถึงความมีชีวิตชีวาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์อันงดงามและความเป็นสมัยใหม่ เกือบตลอดทั้งปี คุณจะแวดล้อมไปด้วยเทศกาลที่จัดขึ้นอย่างมีสไตล์ บาร์และร้านอาหารที่มีชื่อเสียง รวมถึงแหล่งช้อปปิ้งที่หลากหลาย ฮาลิแฟกซ์ตั้งอยู่ระหว่างทิวทัศน์ทะเลอันสวยงามและท่าเรือธรรมชาติที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ท่าเรือที่เต็มไปด้วยเรือขนส่งจำนวนมาก รวมถึงเรือสำราญ เรือข้ามฟาก และเรือท่องเที่ยว นับเป็นสถานที่ที่ควรเยือนไปสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างแท้จริง นอกจากนี้ จุดเด่นทางสถาปัตยกรรมสะท้อนให้เห็นถึงการรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอันยาวนาน เมืองแห่งนี้เป็นฐานที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจจังหวัดแอตแลนติกที่สวยงาม และหากคุณไม่สะดวกเดินทางไปที่อื่นๆ ฮาลิแฟกซ์ก็นำเสนอประสบการณ์ที่ครบถ้วน ซึ่งทำให้คุณสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของภูมิภาคนี้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจโบราณสถาน หรือใช้เวลาเดินเล่นที่ยาวที่สุดในโลกริมท่าเรือ นักท่องเที่ยวจะพลิกฟื้นความฝันในการเดินทางได้ที่นี่อย่างแน่นอน

พอร์ตแลนด์ รัฐเมน เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในรัฐเมน และตั้งอยู่บนคาบสมุทร Casco Bay ซึ่งถูกก่อตั้งในปี 1632 เมืองนี้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจากการก่อสร้างเรือและการส่งออกไม้สนที่มีคุณภาพสูง ฟากฝั่งทะเลที่ทอดยาวมีท่าไม้ยาวเหยียดทำให้พอร์ตแลนด์เปลี่ยนเป็นเมืองที่มีบรรยากาศทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย การมาถึงของทางรถไฟช่วยให้การขนส่งสินค้าและวัตถุดิบจากแคนาดาและทุ่งกว้างของสหรัฐฯ สะดวกมากยิ่งขึ้น ท่านักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเก่าที่มีเสน่ห์ใน Old Port ซึ่งมีร้านอาหารและร้านค้าต่าง ๆ ที่เสิร์ฟอาหารอร่อยหลากหลายประเภท ทั้งอาหารทะเลสดใหม่ ร้านกาแฟ และร้านอาหารแบบชั้นสูง โดยเฉพาะที่ Portland Museum of Art ที่มีคอลเล็กชันศิลปะที่ยอดเยี่ยม เมื่อเรือพิพัฒนามาจอดที่ Terminal ของพอร์ตแลนด์ ผู้โดยสารสามารถเดินไปยัง Old Port District ได้ง่าย ๆ ใช้เวลาเพียงสองช่วงตึก นอกจากนี้ยังมีรถแท็กซี่คอยบริการ นักช้อปสามารถเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกจากร้านค้าหลายแห่งในพื้นที่ หรือจะออกไปเยือน Freeport เพื่อพบกับร้านค้าแบรนด์เนมที่ลดราคา ไม่ควรพลาดที่จะสำรวจ Portland Head Light และ Fort Williams Park ที่สวยงาม รวมถึง Kennebunkport หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์ เป็นสถานที่พักผ่อนในฤดูร้อนของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ บุช ทำให้พอร์ตแลนด์เต็มไปด้วยความอิ่มเอมและแรงบันดาลใจในการเดินทางอย่างแท้จริง

ท่าเรือบอสตัน, แมสซาชูเซตส์ เป็นประตูสู่ประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายอย่างแท้จริง โอบล้อมไปด้วยตึกสูงระฟ้าและโรงแรมเก่าแก่ ท่ามกลางถนนหินกรวดโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของอดีต บอสตันจึงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการผสมผสานระหว่างความเป็นสมัยใหม่และความคลาสสิค นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของตลาดสมัยใหม่ รวมถึงศิลปะและวัฒนธรรมในแหล่งการค้าต่างๆ เช่น ตลาด Faneuil Hall ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารชื่อดัง นอกจากนี้ บอสตันยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น พิพิธภัณฑ์บริจาคที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และการเดินตามเส้นทาง Freedom Trail ที่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสประวัติศาสตร์อเมริกันตั้งแต่เริ่มแรก การล่องเรือในอ่าวบอสตันยังเป็นข้อเสนอที่ไม่ควรพลาด เพื่อดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่งดงาม พร้อมชมแลนด์มาร์คที่สำคัญอย่าง USS Constitution และโรงละครที่มีชื่อเสียง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ทำให้คุณตื่นตาตื่นใจ พบกับประสบการณ์สุดพิเศษและสร้างความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนในบอสตัน เมืองที่มีแต่อดีตและความทันสมัยผสมผสานอย่างลงตัว คอยต้อนรับนักเดินทางทั่วทุกมุมโลก









巔峰套房เป็นห้องสวีทที่มีขนาดกว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 1,150 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่มาพร้อมกับอ่างน้ำวน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวขนาดเล็กที่มีไมโครเวฟและตู้เย็น ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซซ์ — เตียงที่ได้รับการออกแบบพิเศษของเรา "Mariner's Dream™" พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก และห้องน้ำที่ประกอบด้วยอ่างน้ำวนขนาดใหญ่และฝักบัว รวมถึงอ่างสำหรับอาบน้ำอีกด้วย ยังมีโซฟาเบดที่สามารถรองรับผู้พักได้สองคน และห้องน้ำสำหรับแขกอีกหนึ่งห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยระบบสเตอริโอส่วนตัว การเข้าถึง Neptune Lounge อันมีเอกสิทธิ์ บริการผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีต่างๆ เรายินดีต้อนรับท่านเข้าสู่ประสบการณ์ที่หรูหราและผ่อนคลายในแต่ละการเดินเรือ.




สวีทรูปแบบ "ห้องสวีทเนปจูน" นั้นนำเสนอพื้นที่กว้างขวางซึ่งเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติและวิวที่สวยงามจากหน้าต่างสูงจากพื้นถึงเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ภายในสวีทประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่และเตียงคู่ที่สามารถแปลงเป็นเตียงคิงไซส์แบบ Mariner's Dream™ ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก พร้อมกับโซฟาเบดที่พร้อมรองรับผู้เข้าพักสองคน ห้องน้ำที่ทำให้คุณรู้สึกหรูหรานั้นมีอ่างอาบน้ำแบบวนและฝักบัวคู่ พร้อมทั้งห้องอาบน้ำเพิ่มเติมให้คุณได้ใช้บริการอีกด้วย ความสะดวกสบายที่หลากหลายรวมถึงการเข้าใช้ Neptune Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์ บริการพิเศษจากผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีมากมาย ทำให้การพักผ่อนใน "ห้องสวีทเนปจูน" เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม ขนาดห้องราว 500–712 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง




ห้องชุดขนาดใหญ่และสะดวกสบายนี้มีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง พร้อมด้วยหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานเปิดให้เห็นระเบียงส่วนตัว ห้องนอนมีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นเตียง Mariner's Dream™ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีโซฟาเบดสำหรับคนหนึ่งคน ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างซาวน่าขนาดเต็มพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว รวมถึงห้องอาบน้ำเสริมอีกหนึ่งห้อง ขนาดโดยรวมของห้องอยู่ที่ประมาณ 372–384 ตารางฟุต รวมระเบียง ซึ่งทำให้สบายและเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง



ห้องพักประเภท陽台 โอบล้อมด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างพื้นจรดเพดานที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว ห้องพักนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่น และเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของเรา Mariner's Dream™ มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และมีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวที่ให้การนวดที่มีคุณภาพ ห้องพักมีขนาดประมาณ 212–359 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง การจัดวางห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง.


ห้องพักประเภท "海景艙" ขนาดกว้างขวางนี้มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับด้วยเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่มีความนุ่มสบายจาก Euro-Top และหัวฝักบัวนวดที่มีคุณภาพสูง ในห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและทิวทัศน์ทะเลที่สวยงาม ห้องพักมีขนาดประมาณ 174-180 ตารางฟุตและการจัดเรียงห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ ทำให้ท่านได้สัมผัสกับความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวในขณะล่องเรืออย่างแท้จริง


ห้องพักประเภทบางส่วนวิวทะเลนี้มีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 174–180 ตารางฟุต ซึ่งมีเตียงคู่ด้านล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมกับที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่นุ่มสบายพร้อมฟูก Euro-Top ห้องพักยังมาพร้อมกับฝักบัวนวดคุณภาพสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลอันงดงามที่อยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าคุณจะเลือกพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ห้องพักนี้จะตอบสนองทุกความต้องการของคุณอย่างเหนือชั้น



ห้องสเตเตอร์รูมขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า "ทัศนียภาพที่ถูกปิดกั้น" นี้มอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหรา โดยมีเตียงขนาดคู่นอนสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มีกระดูกสันหลังที่รองรับอย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยหมอนที่นุ่มสบายและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย นอกจากนี้ ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 174–180 ตารางฟุต ทั้งนี้ วิวนอกห้องจะถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ ทำให้ท่านสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายภายในห้องได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก


ห้องพักประเภท "ขนาดใหญ่ภายใน" นี้มีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถแปลงเป็นเตียงควีนไซส์ซึ่งเป็นที่นอน Signature Mariner's Dream™ อันหรูหรา มีฟูก Euro-Top ที่นุ่มสบาย รวมถึงฝักบัวนวดระดับพรีเมี่ยมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 151–233 ตารางฟุต การจัดเรียงของห้องพักอาจแตกต่างจากที่แสดงในภาพ ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์การล่องเรือที่หลากหลายได้ที่นี่!


ห้องพักประเภท "ภายใน" นี้มีการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด โดยมีเตียงคู่ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ Mariner's Dream™ ที่มีที่นอนยุโรปคุณภาพสูง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น หัวฝักบัวนวดพิเศษ ห้องพักมีขนาดประมาณ 151-233 ตารางฟุต ทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่ทันสมัยและหรูหราในขณะสำรวจมหาสมุทรและจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ ห้องพักนี้ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้เข้าพักในระดับสูง ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นขณะล่องเรือบนทะเล.