
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

ซูเดอร์แดม
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!

นัสเซาท์ (Nassau) เป็นท่าเรือที่มีความงดงามในบาฮามาส ซึ่งมีบรรยากาศคึกคักจากเรือสำราญที่จำนวนมากแวะมาเยือน ท่าเรือที่สงบเรียบร้อยแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในสินค้าแบรนด์เนมระดับพรีเมียมต่าง ๆ ซึ่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์การช้อปปิ้งบนถนนเบย์ (Bay Street) ที่มีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้มาฮอกานีและลิกนัม วิตา นอกจากนี้ นัสเซาท์ยังมีอาหารและงานฝีมือแท้ ๆ ของบาฮามาสให้เลือกซื้อมากมาย ชนิดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ด้วยการปรับปรุงย่านใจกลางเมือง ทำให้โรงแรมบริติชโคลอเนียลฮิลตันเป็นที่รู้จักอีกครั้ง พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของภัตตาคารสุดหรูและคาเฟ่แนวใหม่ ซึ่งนำเสนอการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมกับความทันสมัย การสำรวจนัสเซาท์ยังไม่ครบถ้วนหากไม่ได้เยี่ยมชมอาคารประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่ยืนหยัดอยู่มายาวนาน เช่น อาคารสไตล์โคโลเนียลสีชมพูที่บ้านรัฐสภา และป้อมฟอร์ตชาร์ลอตต์ ซึ่งตราตรึงใจไปด้วยเรื่องราวของโจรสลัดในอดีต ท่านสามารถเลือกรับประสบการณ์ทัวร์ด้วยการนั่งรถม้าสะดวกสบาย เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของพื้นที่อย่างเต็มที่ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้นัสเซาท์เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งนี้!

เมื่อค้นพบความงดงามของ Half Moon Cay สถานที่ที่งดงามราวกับภาพวาดในบาฮามาส คุณจะได้พบกับเกาะที่รูปทรงพระจันทร์เสี้ยวซึ่งตั้งอยู่ที่มุมตะวันออกเฉียงใต้ของแนวปะการัง Lighthouse Reef Atoll ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1996 ภายใต้การคุ้มครองของธนาคารแห่งชาติ สิ่งที่ทำให้ Half Moon Cay เป็นที่พิเศษคือความบริสุทธิ์ของชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสุดตระการตา ที่นี่เหมาะสำหรับผู้รักการดำน้ำตื้นอย่างแท้จริง คุณสามารถลงไปสัมผัสชีวิตใต้ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเดินทางไกลจากชายหาด นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติอันมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในป่าชายเลน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอันหลากหลาย Half Moon Cay ไม่ได้มีดีแค่การดำน้ำและชายหาดอันสวยงาม ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนในบรรยากาศแห่งความสงบและความเป็นส่วนตัว สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำด้วยการเยือน Half Moon Cay และปลดปล่อยอารมณ์ความฝันในสวรรค์บนดินนี้ ที่จะยังคงอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป

โอชอเรียส (Ocho Rios) เป็นท่าเรือที่มีความงดงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สวยที่สุดในจาเมกา เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่าที่นี่ ผู้เดินทางจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ ตั้งอยู่ในใจกลางเกาะจาเมกา โอชอเรียสโดดเด่นด้วยชายหาดที่ขาวสะอาด น้ำทะเลใสสะท้อนกับแสงแดด และภูเขาที่ปกคลุมด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่ม นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม "โดนน์ส ริเวอร์ ฟอลส์" ที่มีชื่อเสียง ซึ่งนักเดินทางสามารถปีนป่ายขึ้นไปและเล่นน้ำท่ามกลางน้ำตกที่ไหลลดหลั่น นอกจากนั้นยังมี "บลู ฮอเล่อร์" ที่ให้โอกาสในการดำน้ำตื้นเพื่อสำรวจความหลากหลายของทะเล นอกจากนี้สถานที่ต่าง ๆ ยังมีวัฒนธรรมจาเมกาที่หลากหลาย รอให้ได้สัมผัส เช่น ตลาดเจ้าของท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยของฝากและอาหารพื้นเมืองที่อร่อย ไม่เพียงแค่ธรรมชาติ แต่โอชอเรียสยังมีบรรยากาศที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง คุณจะได้เพลิดเพลินกับการเดินเล่นริมชายหาดที่งดงาม สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย และสร้างความทรงจำอันมีค่าในทริปที่ท่านไม่ควรพลาด!

เซนโตโดมิงโก ประเทศโดมินิกัน เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันน่าสนใจ สัมผัสบรรยากาศเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดในโลกแห่งทวีปอเมริกา ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ตลาดค้าสินค้าต่าง ๆ ที่คึกคักและสถาปัตยกรรมที่งดงาม เช่น คริสตจักรโบสถ์เล็กรอคา เป็นต้น ซึ่งนำเสนอเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมโดมินิกันได้อย่างชัดเจน ที่ตั้งอยู่ริมน้ำ มีท่าเรือที่สามารถรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทางอันแสนสะดวกสบาย โดยเมื่อท่านแวะจอดที่ท่าเรือเซนโตโดมิงโก ท่านสามารถเดินทางไปยังงานกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากเดินเล่นชมเมืองแล้ว สำหรับผู้หลงใหลในความงามของธรรมชาติ ทั้งชายหาดที่สวยงามและน้ำทะเลใสในแถบพลาดซาโด มนต์เสน่ห์ของสถานที่ดังกล่าวจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำตื้น ขับรถ ATV หรือพักผ่อนท่ามกลางแสงแดด เซนโตโดมิงโกจึงไม่ใช่แค่จุดแวะเพื่อการเดินทาง แต่เป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวที่หรูหราและมีชีวิตชีวา ที่รอคอยให้คุณมาสัมผัสความมหัศจรรย์ของมันด้วยตัวเอง!

ซานฮวน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเปอร์โตริโก ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ติดทะเลอาตแลนติกซึ่งค้นพบโดยนักสำรวจ ฮวน ปอนเซ เด ลีออน เมื่อปี ค.ศ. 1508 เมืองนี้ส่องประกายทั้งในด้านสถาปัตยกรรมอันงดงามจากยุคอาณานิคมและความทันสมัย มีพื้นที่ที่น่าหลงใหลอย่าง Old San Juan ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยโดดเด่นด้วยถนนหินทรายและอาคารที่มีสีสัน อนุสรณ์สถานเช่น Castillo San Felipe del Morro ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น ซานฮวนไม่ได้มีดีแค่ส่วนที่เป็นประวัติศาสตร์ ยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาสำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนท้องถิ่น สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยชายหาดสวยงาม, คลับเสียงดังกระหึ่ม, ร้านอาหารระดับโลก, และพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ที่นำเสนอวัฒนธรรมและศิลปะหลากหลาย ประสบการณ์นี้ทำให้การเยือนซานฮวนไม่เป็นเพียงแค่การได้เที่ยวชมเมือง แต่คือการได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอันหลากหลายและเต็มไปด้วยสีสัน เมื่อคุณย่างก้าวเข้ามาในเมืองนี้ จะมีเสน่ห์ที่ทำให้คุณหลงใหลและรู้สึกอยากกลับมาอีกครั้ง ด้วยวัฒนธรรมที่เข้มข้นและความงดงามที่รอคอยให้คุณค้นพบ ร่วมสร้างความทรงจำในซานฮวน เพื่อตอบโจทย์ความฝันในการเดินทางที่ทุกคนใฝ่หา.

ท่าเรือชาร์ลอตต์ อมาลี บนเกาะเซนต์โธมัสในหมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา ถือเป็นหนึ่งในท่าเรือที่งดงามที่สุดในโลก มักถูกจัดอันดับเป็นจุดหมายปลายทางที่หรูหราและเงียบสงบ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาถึงโดยเรือสำราญ พวกเขาจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ตามเชิงเขาและชายฝั่งทะเลที่ร่มรื่น เซนต์โธมัสมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการค้าเสรีตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นที่รู้จักในฐานะท่าเรือการค้าที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางการค้าของแทบทุกชาติ ในปัจจุบัน ท่าเรือชาร์ลอตต์ อมาลี ยังคงมีชีวิตชีวาโดยมีเรือสำราญทยอยจอดเข้ามาที่ท่าอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรือยอชท์หรูและเรือประมงที่รอคอยนักท่องเที่ยว นอกจากท่าเรือที่งดงามแล้ว เกาะเซนต์โธมัสยังมีสถานที่ที่น่าสนใจให้สำรวจมากมาย เช่น หาดแมเกนส์ เบย์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในโลก และการขับรถรอบเกาะก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด โดยมีป้ายสีสันสวยงามที่ช่วยนำทางและชวนให้คุณได้ค้นพบเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของเกาะนี้ มาเถอะ! ลองสัมผัสกับประสบการณ์อันไม่อาจลืมเลือนในเซนต์โธมัส ที่มีเสน่ห์ของธรรมชาติและความวุ่นวายของการค้าในประวัติศาสตร์ที่จะทำให้หัวใจของคุณเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น!

ท่าเรือแอนติกาในประเทศแอนติกาและบาร์บูดาเป็นจุดหมายปลายทางที่เปล่งประกายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน ท่าเรือแห่งนี้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นมิตร พร้อมด้วยทิวทัศน์อันตระการตาของทะเลสีฟ้าใสและชายหาดที่งดงามกว่า 365 แห่ง ทุกวันในปีคุณสามารถพบชายหาดใหม่ที่ต้องการสำรวจ เมื่อเรือสำราญของคุณแล่นเข้ามาในท่าเรือแอนติกา จะมีโอกาสให้คุณสำรวจเมืองหลวงของเกาะนี้ที่ชื่อว่าเซนต์จอร์จส์ ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้วยอาคารเก่าแก่ที่รักษาไว้เป็นอย่างดี และตลาดท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา ที่ผู้มาเยือนสามารถซื้อของที่ระลึกและลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่อร่อย หากคุณรักการผจญภัย การดำน้ำตื้นตามแนวปะการังที่อ่าวเจอลีซหรือการพายเรือคายัคในน้ำใส ก็เป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ ทริปที่น่าสนใจยังรวมถึงการไปเยี่ยมชมฟาร์มเหล้ารัมเพื่อประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตเหล้าท้องถิ่น แอนติกายังมีความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่โดดเด่น และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอุ่นใจ รอคอยให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาสัมผัสและสร้างความทรงจำอันล้ำค่าในภาพแห่งความยิ่งใหญ่ของแคริบเบียน

เมื่อเรานึกถึงเกาะที่มีเสน่ห์แบบเขตร้อนที่รอการค้นพบ เกาะเซนต์ลูเซีย (Saint Lucia) คือสวรรค์ที่หยิบยื่นให้เราได้สัมผัสที่นี่ การเดินทางมาถึงท่าเรือคาสทรีส (Castries) จะนำพาคุณสู่โลกแห่งธรรมชาติอันงดงามในพื้นที่อันเล็กเพียง 27 ไมล์ยาวและ 14 ไมล์กว้าง แต่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สดใส ประกอบไปด้วยป่าฝนเขียวขจีและสวนกล้วยอันอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของเกาะนี้ต้องยกให้กับยอดเขาเลส์ปีตอง (Les Pitons) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีความสูงถึง 2,000 ฟุต ที่ส่งเสริมความยิ่งใหญ่และความงามของทิวทัศน์ บนเกาะยังมีนกหายากเช่นนกแก้วเซนต์ลูเซีย และพืชพันธุ์ที่แปลกใหม่มากมายที่รอให้คุณได้สำรวจ สัมผัสความอบอุ่นและยินดีต้อนรับจากชาวเกาะในหมู่บ้านเล็กๆ และการเดินตลาดกลางแจ้งที่มีสีสัน อย่างไรก็ตามควรระวังถึงเส้นทางที่ขรุขระซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านหลังหรือคอ เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำอันน่าประทับใจ พาทุกคนสัมผัสประสบการณ์น่าตื่นเต้นในแดนสวรรค์นี้ที่คุณจะไม่อยากพลาด!

ท่าเรือ Port of Spain ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะตรินิแดด เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการค้าของตรินิแดดและโตเบโก ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่หลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่อาคารวัดฮินดูจนถึงสไตล์โชว์กลมโค้งตระการตา ที่แสดงถึงการหลอมรวมของวัฒนธรรมจากหลากหลายเชื้อชาติ เช่น แอฟริกัน เอเชีย อินเดีย ยุโรป และนิวเวิลด์ ตรินิแดดยังเป็นที่รู้จักในฐานะ “บ้านของการเฉลิมฉลอง” ด้วยงานคาร์นิวาลและเสียงดนตรีจากวงสตีลแบนด์ที่โด่งดัง ส่วนผู้มาเยือนก็จะได้พบเจอกับนกที่สวยงามกว่า 400 ชนิด ณ Asa Wright Nature Reserve และพืชพันธุ์ไม้เมืองร้อนที่น่าสนใจ ในปี 1595 ชุมชน Conquerabia ของชนพื้นเมืองอเมริกันถูกก่อตั้งขึ้นที่พื้นที่นี้ ก่อนที่ชาวสเปนจะตั้งชื่อใหม่ว่า 'Puerto de España' และเมื่อบริเตนเข้าควบคุมเกาะในปี 1797 ชื่อเมืองถูกปรับเปลี่ยนเป็น Port of Spain ซึ่งยังคงเป็นศูนย์กลางสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ อย่าพลาดที่จะมาเยือนท่าเรือแห่งนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเสน่ห์ของวัฒนธรรมที่หลากหลาย และให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครในมุมมองที่ตื่นตาตื่นใจ.

ท่าเรือคูราเซา (Curaçao) เป็นหนึ่งในจุดแวะสำคัญที่เรือสำราญหลากหลายลำเลือกหยุดพัก ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงเพราะท่าจอดสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหนือระดับ แต่ยังมีเสน่ห์ของวัฒนธรรมและความงดงามตามธรรมชาติที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลงใหล คูราเซาเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน มีชื่อเสียงในด้านสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่มีชีวิตชีวา น้ำทะเลใสสีฟ้าและทรายขาวละเอียด ทั้งนี้ จุดที่ไม่ควรพลาดคือ "วินด์เอด พอยต์" (Willemstad) เมืองหลวงที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก มีบ้านเรือนสีสันสดใสที่รักการถ่ายภาพ พร้อมมีแหล่งช็อปปิ้งและร้านอาหารอร่อยๆ รอให้บริการ สำหรับผู้ที่หลงใหลในกิจกรรมทางน้ำ สามารถไปสำรวจแนวปะการังที่ "ดัทช์ ริดจ์" (Dutch Reef) หรือสัมผัสประสบการณ์ดำน้ำตื้นที่ชายหาด "ลากูน่า" (Laguna Beach) นอกจากนี้ยังมีการแสดงวัฒนธรรมดนตรีและการเต้นที่แสดงถึงชีวิตประจำวันของประชากรที่นี่ ด้วยบรรยากาศที่เอื้อต่อการพักผ่อนและความหลากหลายของกิจกรรม คูราเซาจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินทางหรูหราไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่เกินกว่าคำว่าหมายความ!

อารูบา เพิร์ลแห่งแคริบเบียน ตั้งอยู่ในทะเล แคริบเบียน ที่งดงาม ขึ้นชื่อเรื่องชายหาดที่ขาวสะอาดและน้ำใสสีฟ้าคราม ท่าเรืออารูบา เป็นจุดแวะพักที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาพร้อมเรือสำราญ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสดชื่นของเกาะ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวอารูบา เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือจะได้พบกับตลาดนัดที่มีสินค้าแฮนด์เมดและของที่ระลึกจากท้องถิ่น แล้วไม่ควรพลาดการไปเยือนชายหาดเอเกอรา (Eagle Beach) ที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในโลก นอกจากนี้, เกาะนี้ยังมีจุดดำน้ำตื้นที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่น้ำใสให้คุณได้สัมผัสกับโลกใต้ทะเลที่หลากหลายของปลาและปะการัง นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว อารูบายังมีเสน่ห์ในด้านอาหารท้องถิ่น ที่รอให้คุณลิ้มลอง ตั้งแต่อาหารทะเลสด ไปจนถึงความอร่อยของปูม้า จิบเครื่องดื่มที่ทำจากมะพร้าวริมชายหาดสัมผัสลมทะเล ที่จะทำให้หัวใจของคุณรู้สึกเบาสบาย อารูบาจึงไม่ใช่เพียงแค่จุดสุดท้ายในการเดินทาง แต่คือประสบการณ์ที่จะตราตรึงใจคุณให้อยากกลับมาอีกครั้งในอนาคต

ซานตา มาร์ตา (Santa Marta) คือท่าเรือที่โดดเด่นในโคลอมเบีย ที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางสู่ประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเสน่ห์ของทะเลแคริบเบียน ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามโดยรอบและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เริ่มต้นการผจญภัยของคุณด้วยการสำรวจชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น เพลเยีย แดลก่า (Playa de Rodadero) ซึ่งมีน้ำทะเลใสสะอาดและกิจกรรมทางน้ำมากมาย นอกจากนี้ ซานตา มาร์ตายังเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสมสำหรับการสำรวจอุทยานแห่งชาติ ทายนา (Tayrona National Park) ซึ่งเป็นแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยภูเขา ป่าฝน และชายหาดที่เงียบสงบ ไม่เพียงแค่ธรรมชาติ ซานตา มาร์ตายังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยมีเมืองเก่าที่สวยงามและโบสถ์ในยุคล่าอาณานิคม เช่น โบสถ์ซานตา มาร์ตา (Cathedral of Santa Marta) ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันยาวนานอีกด้วย เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและลงตัว ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการต้อนรับอย่างอบอุ่นของชาวโคลอมเบีย จะทำให้การเยือนซานตา มาร์ตานั้นเป็นเรื่องที่น่าจดจำตลอดไป ปล่อยให้วิญญาณของการผจญภัยพาคุณไปสู่ท่าเรือแห่งนี้ ที่ซึ่งทุกวินาทีเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์!

คาร์ตาเฆน่า เป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลของประเทศโคลอมเบีย เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและป้อมปราการที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเป็นมรดกโลก เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และชีวิตชีวาเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความงามของจัตุรัส โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้เดินทางไม่ควรพลาด เดิมที ก่อตั้งขึ้นในปี 1533 โดยนักล่าขุมทรัพย์ชาวสเปน เปโดร เด เฮรีเดีย คาร์ตาเฆน่าได้กลายเป็นท่าเรือเดียวในแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาใต้ ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำและเงินที่ถูกปล้นมา สร้างความสนใจแก่โจรสลัด เช่น เซอร์ ฟรานซิส เดรก ที่เคยเข้ามาเผาเมืองในปี 1586 กำแพงที่ล้อมรอบนอกจากจะปกป้องทรัพย์สมบัติแล้ว ยังเป็นเสมือนหลักชัยของมนุษยธรรม ต่อมาเมืองนี้กลายเป็นตลาดทาสอัฟริกันที่สำคัญในยุคอาณานิคม ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆน่ายังมีการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ย่านเมืองเก่ากลายเป็นสถานที่ที่น่าพักผ่อน สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมแบบโบฮีเมียน ย่านเกตเซมันีเป็นที่นิยมที่มีบรรยากาศจัดจ้าน สัมผัสความงดงามของชายหาดทรายสีเทาในเขตโบคากรานเด และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ได้เลย

ท่าเรือโคลอน (Colón) ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของคลองปานามา ฝั่งทะเลแอตแลนติก เป็นศูนย์กลางที่สำคัญไม่เพียงแต่ในฐานะท่าเรือที่ยุ่งเหยิง แต่ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ในอดีตชื่อเมืองนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาจาก Aspinwall ซึ่งตั้งชื่อตามวิศวกรรถไฟชาวอเมริกันสมัยศตวรรษที่ 19 แต่ในปัจจุบันโคลอนได้กลายเป็นที่รู้จักในนามของคริสโตเฟอร์โคลัมบัส เมืองนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 1850 และเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากการสร้างรถไฟข้ามปานามา การพัฒนาเพิ่มเติมได้รับแรงกระตุ้นจากความพยายามในการสร้างคลองโดยฝรั่งเศส แต่ด้วยเหตุการณ์ไฟไหม้รุนแรงในปี 1885 เมืองนี้ต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในสไตล์สถาปัตยกรรมที่ได้รับอิทธิพลจากฝรั่งเศส ในด้านการค้า โคลอนมีโซนปลอดภาษีที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก หรือที่เรียกกันว่า ซูนา ลิเบร ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าขนาดยักษ์และสินค้าหลากหลายประเภท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าขายส่งที่กลายเป็นแรงดึงดูดสำหรับนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันลึกล้ำที่โคลอน เปิดประตูสู่การผจญภัยใหม่ ๆ ที่รอคอยคุณอยู่บนเส้นทางการเดินทางครั้งต่อไป!

ท่าเรือ Puerto Limón ในประเทศคอสตาริกา เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ตั้งแต่สมัยคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ซึ่งเข้ามาในปี 1502 อันเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดโลกใหม่ ในขณะที่คอยค้นหาทรัพยากรมีค่า แต่สิ่งที่เขาได้พบ คือความร่ำรวยทางธรรมชาติที่มีอุดมสมบูรณ์บริเวณชายฝั่งนี้ Puerto Limón เป็นประตูสู่ความงดงามที่หลากหลายของคอสตาริกา ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่งดงาม ไฟป่า และระบบนิเวศที่เต็มไปด้วยชีวิตสัตว์ป่า แหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้ได้กลายเป็นสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยพื้นที่ขนาดไม่ใหญ่ แต่บริบทรอบด้านที่พิเศษและสวยงาม มีทั้งทางเลือกในการผจญภัย ทางธรรมชาติ และการพักผ่อน สำหรับผู้ที่แวะเยือน Puerto Limón จะได้สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เต็มเปี่ยมทั้งทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ไม่ว่าคุณจะเลือกเดินชมตลาดท้องถิ่นหรือสำรวจป่าไม้เขตร้อน ลาทาเรือใน Puerto Limón จะเปิดโอกาสให้คุณได้ทำความรู้จักกับธรรมชาติอันงดงามและสืบสานวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ในดินแดนแห่งความสงบนี้ ขอเชิญท่านมาร่วมสร้างความทรงจำอันยอดเยี่ยมที่ Puerto Limón และผจญภัยสู่โลกใหม่ด้วยกัน!

เบลิซซิตี้ เมืองชายฝั่งที่เปล่งประกายเสน่ห์ สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ที่ผสมรวมกับความทันสมัยอย่างลงตัว อาคารสไตล์อาณานิคมที่ตั้งอยู่ตามท้องถนนแสนคึกคัก เล่าเรื่องราวของรากเหง้าชาวมายันและความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์ ชาวเมืองเป็นมิตรและอบอุ่น ทำให้คุณรู้สึกเหมือนบ้าน ความงดงามของเบลิซซิตี้ยังอยู่ที่เทศกาลต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศ เบลิซซิตี้ยังเป็นประตูสู่ธรรมชาติอันงดงาม ตั้งแต่การล่องเรือบนแม่น้ำที่สงบ ไปจนถึงแนวปะการังเบลิซซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของชีวิตใต้ทะเล และหาดเก่าแก่เช่น Old Belize Beach ที่เชิญชวนให้คุณนั่งพักผ่อนในบรรยากาศสบายๆ รสชาติของเบลิซยังมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอาหารพื้นเมืองที่เต็มไปด้วยคุณภาพและความหลากหลาย ในเมืองที่มีเสน่ห์นี้ ทุกยิ้ม ทุกสถานที่ทางประวัติศาสตร์ และทุกการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรมล้วนเพิ่มเสน่ห์ให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือน เบลิซซิตี้จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ทำให้นักผจญภัยทุกคนต้องหลงรักอย่างแน่นอน

คอสุมเมล (Cozumel) คือเพชรเม็ดงามของทะเลแคริบเบียน ที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งของคาบสมุทรยูคาทาน เม็กซิโก โดยมีชื่อเสียงด้านน้ำทะเลใสสะอาดและแนวปะการังที่มีชีวิตชีวา เป็นสวรรค์สำหรับนักดำน้ำและนักดำน้ำตื้น เพราะที่นี่คือส่วนหนึ่งของแนวปะการังเมโซอเมริกัน ซึ่งอุดมไปด้วยสัตว์ทะเลหลากสีสัน นอกจากทะเลที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว คอสุมเมลยังมีประวัติศาสตร์มายันที่ล้ำค่าให้คุณได้สัมผัส โดยสามารถเยี่ยมชมซากปรักหักพังที่สำคัญอย่างซานเจอวาซิโอ (San Gervasio) นอกจากนี้ ยังมีความมีชีวิตชีวาของแหล่งช้อปปิ้งในตลาดซานมิเกล (San Miguel) ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความงามของธรรมชาติอย่างเต็มตา อีโคพาร์คอย่างปุนตาสูร์ (Punta Sur) เสนอโอกาสในการสำรวจทิวทัศน์ที่เขียวขจีและการพบปะกับสัตว์ป่า ตลอดทั้งการผจญภัยในดินแดนเขตร้อนที่น่าหลงใหล คอสุมเมลจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมสำหรับทุกคนที่ต้องการหลีกหนีจากชีวิตประจำวันสู่โลกแห่งความฝันที่จัดเต็มด้วยความงามและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร.

ท่าเรือโปรเกรโซในเม็กซิโก ตั้งอยู่บนชายฝั่งที่สวยงามของรัฐยูกาตาน เป็นประตูสู่ประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดพิศวงที่รอคุณอยู่ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทางที่ชื่นชอบการสำรวจวัฒนธรรม หรือผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ท่าเรือนี้พร้อมส่งมอบทุกประสบการณ์อันน่าประทับใจ เมื่อเรือสำราญของคุณเทียบท่า คุณจะถูกต้อนรับด้วยอากาศอันสดชื่นและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยสีสัน ของตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าหัตถกรรมและอาหารเมนูเด็ดรสเลิศโดยเฉพาะ "ทาโก้" และ "ซีฟู้ด" ที่มีชื่อเสียง นอกจากนี้ยังมีชายหาดที่ขาวสะอาดและน้ำทะเลใสๆ ที่ให้คุณได้ผ่อนคลาย และสัมผัสกับบรรยากาศของสรวงสวรรค์ทางธรรมชาติ ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมซากโบราณสถานของชาวมายา อย่างเช่น ชูนูช ชา หรือพิพิธภัณฑ์แห่งเมืองเมอรีดา ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่ยุคทองของอารยธรรมโบราณ นอกจากนี้ยังมีการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่น่าตื่นเต้น กับการสำรวจป่าเขตร้อนและการพายเรือในแม่น้ำที่ซึ่งคุณอาจได้เห็นสัตว์ป่าหายาก ให้โปรเกรโซเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนในเม็กซิโก และเมื่อกลับบ้าน คุณจะมีความทรงจำอันมีค่าที่จะอยู่กับคุณตลอดไป

ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!









巔峰套房เป็นห้องสวีทที่มีขนาดกว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง โดยมีพื้นที่ใช้สอยกว่า 1,150 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงส่วนตัวที่มาพร้อมกับอ่างน้ำวน ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวขนาดเล็กที่มีไมโครเวฟและตู้เย็น ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซซ์ — เตียงที่ได้รับการออกแบบพิเศษของเรา "Mariner's Dream™" พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก และห้องน้ำที่ประกอบด้วยอ่างน้ำวนขนาดใหญ่และฝักบัว รวมถึงอ่างสำหรับอาบน้ำอีกด้วย ยังมีโซฟาเบดที่สามารถรองรับผู้พักได้สองคน และห้องน้ำสำหรับแขกอีกหนึ่งห้อง สิ่งอำนวยความสะดวกประกอบด้วยระบบสเตอริโอส่วนตัว การเข้าถึง Neptune Lounge อันมีเอกสิทธิ์ บริการผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีต่างๆ เรายินดีต้อนรับท่านเข้าสู่ประสบการณ์ที่หรูหราและผ่อนคลายในแต่ละการเดินเรือ.




สวีทรูปแบบ "ห้องสวีทเนปจูน" นั้นนำเสนอพื้นที่กว้างขวางซึ่งเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติและวิวที่สวยงามจากหน้าต่างสูงจากพื้นถึงเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ภายในสวีทประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่และเตียงคู่ที่สามารถแปลงเป็นเตียงคิงไซส์แบบ Mariner's Dream™ ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก พร้อมกับโซฟาเบดที่พร้อมรองรับผู้เข้าพักสองคน ห้องน้ำที่ทำให้คุณรู้สึกหรูหรานั้นมีอ่างอาบน้ำแบบวนและฝักบัวคู่ พร้อมทั้งห้องอาบน้ำเพิ่มเติมให้คุณได้ใช้บริการอีกด้วย ความสะดวกสบายที่หลากหลายรวมถึงการเข้าใช้ Neptune Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์ บริการพิเศษจากผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีมากมาย ทำให้การพักผ่อนใน "ห้องสวีทเนปจูน" เป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม ขนาดห้องราว 500–712 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง




ห้องชุดขนาดใหญ่และสะดวกสบายนี้มีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง พร้อมด้วยหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดานเปิดให้เห็นระเบียงส่วนตัว ห้องนอนมีเตียงขนาดควีนไซส์หรือเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งเป็นเตียง Mariner's Dream™ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษพร้อมที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีโซฟาเบดสำหรับคนหนึ่งคน ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างซาวน่าขนาดเต็มพร้อมอ่างอาบน้ำและฝักบัว รวมถึงห้องอาบน้ำเสริมอีกหนึ่งห้อง ขนาดโดยรวมของห้องอยู่ที่ประมาณ 372–384 ตารางฟุต รวมระเบียง ซึ่งทำให้สบายและเหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง



ห้องพักประเภท陽台 โอบล้อมด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างพื้นจรดเพดานที่มองเห็นระเบียงส่วนตัว ห้องพักนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่นั่งเล่น และเตียงสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของเรา Mariner's Dream™ มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และมีอ่างอาบน้ำพร้อมหัวฝักบัวที่ให้การนวดที่มีคุณภาพ ห้องพักมีขนาดประมาณ 212–359 ตารางฟุต รวมพื้นที่ระเบียง การจัดวางห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง.


ห้องพักประเภท "海景艙" ขนาดกว้างขวางนี้มอบประสบการณ์ที่เหนือระดับด้วยเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่มีความนุ่มสบายจาก Euro-Top และหัวฝักบัวนวดที่มีคุณภาพสูง ในห้องพักยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและทิวทัศน์ทะเลที่สวยงาม ห้องพักมีขนาดประมาณ 174-180 ตารางฟุตและการจัดเรียงห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ ทำให้ท่านได้สัมผัสกับความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวในขณะล่องเรืออย่างแท้จริง


ห้องพักประเภทบางส่วนวิวทะเลนี้มีพื้นที่กว้างขวางประมาณ 174–180 ตารางฟุต ซึ่งมีเตียงคู่ด้านล่างที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ พร้อมกับที่นอน Signature Mariner's Dream™ ที่นุ่มสบายพร้อมฟูก Euro-Top ห้องพักยังมาพร้อมกับฝักบัวนวดคุณภาพสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลอันงดงามที่อยู่เบื้องหน้า ไม่ว่าคุณจะเลือกพักผ่อนหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ห้องพักนี้จะตอบสนองทุกความต้องการของคุณอย่างเหนือชั้น



ห้องสเตเตอร์รูมขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า "ทัศนียภาพที่ถูกปิดกั้น" นี้มอบประสบการณ์การเข้าพักที่หรูหรา โดยมีเตียงขนาดคู่นอนสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มีกระดูกสันหลังที่รองรับอย่างยอดเยี่ยม พร้อมด้วยหมอนที่นุ่มสบายและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย นอกจากนี้ ห้องนี้มีพื้นที่ประมาณ 174–180 ตารางฟุต ทั้งนี้ วิวนอกห้องจะถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์ ทำให้ท่านสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายภายในห้องได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ถูกรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอก


ห้องพักประเภท "ขนาดใหญ่ภายใน" นี้มีพื้นที่กว้างขวาง พร้อมเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถแปลงเป็นเตียงควีนไซส์ซึ่งเป็นที่นอน Signature Mariner's Dream™ อันหรูหรา มีฟูก Euro-Top ที่นุ่มสบาย รวมถึงฝักบัวนวดระดับพรีเมี่ยมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกมากมาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 151–233 ตารางฟุต การจัดเรียงของห้องพักอาจแตกต่างจากที่แสดงในภาพ ขอเชิญสัมผัสประสบการณ์การล่องเรือที่หลากหลายได้ที่นี่!


ห้องพักประเภท "ภายใน" นี้มีการออกแบบเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด โดยมีเตียงคู่ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ Mariner's Dream™ ที่มีที่นอนยุโรปคุณภาพสูง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย เช่น หัวฝักบัวนวดพิเศษ ห้องพักมีขนาดประมาณ 151-233 ตารางฟุต ทำให้คุณสามารถสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่ทันสมัยและหรูหราในขณะสำรวจมหาสมุทรและจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ ห้องพักนี้ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของผู้เข้าพักในระดับสูง ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้อยู่ในบ้านที่อบอุ่นขณะล่องเรือบนทะเล.