
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โวลเเดม
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ซานอันโตนิโอ (San Antonio) ตั้งอยู่บนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของประเทศชิลี เป็นจุดแวะที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเดินทางที่มาด้วยเรือสำราญ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติที่งดงามและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ซานอันโตนิโอมีท่าจอดเรือที่ทันสมัย ซึ่งสามารถรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ พร้อมบริการที่สะดวกสบายสำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อคุณมาถึงที่นี่ คุณจะถูกยั่วยวนด้วยทิวทัศน์ของหน้าผาและชายหาดที่สวยงาม มีโอกาสไปสำรวจพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ชิลี และสองเมืองที่น่าพิศวงในบริเวณใกล้เคียงคือ ปอร์ตาแมดริน (Porte Madryn) และวิน่าเดลมาร์ (Viña del Mar) ซึ่งเป็นสุดยอดปลายทางที่มีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีรสชาติอร่อย ในการเดินทางนี้ อย่าลืมชมความงดงามของอุทยานแห่งชาติซานติก้า (Cerro Castillo) และลองชิมไวน์ชิลีที่มีชื่อเสียงในระดับโลก เพียงก้าวออกจากเรือสำราญและคุณจะได้พบกับประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร ที่ซานอันโตนิโอ สถานที่ที่สะท้อนถึงความงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ที่รอคุณอยู่!

เกาะอีสเตอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ฮังกาโรอา" เป็นเพชรน้ำหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิกที่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งชิลีไปถึง 2,300 ไมล์ เป็นสถานที่ที่มีความโดดเดี่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและถูกประกาศเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี 1722 เกาะนี้มีขนาด 64 ตารางไมล์และมีชื่อเสียงจากสถานที่สำคัญอย่าง "โมอาอิ" รูปปั้นหินขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ ซึ่งถือเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้เกาะอีสเตอร์จะมีลักษณะวัฒนธรรมเป็นโพลินีเซีย แต่ภายหลังถูกผนวกโดยชิลีในปี 1888 ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมและโบราณคดี แต่ยังมีชายหาดอันงดงาม น้ำทะเลใส และแนวปะการังที่น่าหลงใหล ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เดินทางเข้าสู่วัฒนธรรมที่ต่างออกไป ถูกขนาบข้างด้วยภูเขาไฟสามลูกที่เคยระเบิดเมื่อราวสามล้านปีก่อน ได้แก่ โปยเค, ราโน คาอู และมอุงกา เทเรวากา สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและความตั้งใจที่จะค้นหาความลับของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ สามารถสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครได้ที่นี่ พร้อมให้คุณปล่อยกายปล่อยใจบนเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันล้ำค่า



มูเรอา (Mo’orea) เป็นหนึ่งในหมู่เกาะสังคมแห่งฟรานซ์ โปลินีเซีย ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ถือเป็นเกาะที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหล ด้วยภูเขาไฟสูงสง่าที่ตั้งตระหง่าน สะท้อนความงดงามในทัศนียภาพของน้ำมุ่งเลี้ยงอุ่นและทุ่งหญ้าเขียวขจี อันเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกระดับที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งบนบกและใต้น้ำ ที่มูเรอา คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ดำน้ำลึกในน้ำทะเลใสสะอาด ส่องดูชีวิตใต้ทะเลที่มีความหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินป่าขึ้นภูเขาเพื่อดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหมู่เกาะรอบ ๆ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ให้คุณเข้าใจวิถีชีวิตและประเพณีของคนท้องถิ่น การมาที่มูเรอาไม่ใช่เพียงแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำอันมีค่าในดินแดนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่อยู่รอบตัวคุณ จึงไม่แปลกใจที่เกาะนี้จะเป็นจุดหมายในการเดินทางสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันถึงความงดงามของโลกใบนี้

เมื่อเอ่ยถึงชื่อ "บอรา บอรา" ความงดงามของเกาะนี้ก็เรียกความอิจฉาจากหลายคนทันที สายน้ำทะเลใสสีฟ้านม สาหร่ายขาวสะท้อนแสงแดด และต้นมะพร้าวเอนไหวไปตามลม ทำให้ผู้ที่มาเยือนรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งความฝัน ขยายเวลาการพักผ่อนบนเกาะที่มีชื่อเสียงด้วยการเข้าพักในบังกะโลไม้กลางทะเลที่สร้างขึ้นเหนือระดับน้ำ พร้อมกับเพลิดเพลินไปกับการดำน้ำตื้นชมน้องปลาหลากสีสันที่ว่ายอยู่ในน้ำใสแจ๋ว ถ้าคุณเป็นคนที่รักความท้าทาย สามารถเดินป่าขึ้นไปบนยอดเขามองเทยอดเขาเพีย ซึ่งมอบวิวทิวทัศน์อันงดงามของเกาะและทะเลรอบข้าง เมื่อสำรวจและสัมผัสกับธรรมชาติแล้ว คุณจะพบกับความสุขอันบริสุทธิ์ที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน บอรา บอรา จึงไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการพักผ่อน แต่ยังเป็นสถานที่ที่สร้างความทรงจำและประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะผ่อนคลายหรือแสวงหาโมเมนต์ที่สุดแสนตื่นเต้น เกาะนี้ยินดีต้อนรับคุณด้วยอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยความรักและธรรมชาติอันงดงาม


นุกูอาลอฟา เมืองหลวงแห่งราชอาณาจักรตองก้า เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจในใจกลางมหาสมุทรแปซิฟิก หลังจากล่องเรือสำราญอันหรูหรากลางทะเล นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะตองก้า ซึ่งเต็มไปด้วยแนวปะการังที่สวยงามและชายหาดทรายขาวนวล ความเงียบสงบของทะเลสีฟ้าครามและแหล่งน้ำตื้นอันสดใสจะนำคุณไปสู่ประสบการณ์การว่ายน้ำกับวาฬอย่างใกล้ชิด ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในโลกที่คุณสามารถว่ายน้ำร่วมกับสัตว์ยักษ์ในน้ำทะเลเขตร้อน นอกจากนี้ บริเวณบ้านเมืองยังมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ รวมถึงประวัติศาสตร์การปกครองที่ชัดเจนและกิจกรรมการละเล่นพื้นเมือง จึงเป็นโอกาสที่ดีให้คุณได้สัมผัสและเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของประชาชนท้องถิ่น หากคุณต้องการความสงบสุข ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาด หรือการสำรวจธรรมชาติบริสุทธิ์ คุณจะพบกับประสบการณ์ที่น่าจดจำ รอคุณอยู่ที่นุกูอาลอฟา ล่องเรือสำราญที่นี่เพื่อสร้างความทรงจำอันแสนพิเศษในเส้นทางการเดินทางของคุณ!

ออคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเมืองที่ถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งใบใบเรือ” และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เมื่อมาถึง คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของท่าเรือไวเทมาตา ซึ่งหมายถึงน้ำที่ส่องประกาย และมีเกาะเล็ก ๆ ที่น่าสำรวจรอบๆ พร้อมกับเรือมากกว่า 70,000 ลำ ซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมการแล่นเรือที่รากฐานของชาวออคแลนด์ นอกจากนี้ ออคแลนด์ยังมีชายหาดจำนวนมากให้เลือกพักผ่อน ซึ่งหลายแห่งมีความสงบในช่วงวันธรรมดา แถมยังมีสนามกอล์ฟสาธารณะที่สามารถไปเล่นสนุกได้ภายในเวลาเพียง 30 นาทีจากตัวเมือง เมื่อมาเยือนแล้วคุณจะพบกับความมีชีวิตชีวาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะการผสมผสานระหว่างชาวเมารี ชาวแปซิฟิก และเอเชีย ที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้แก่เมือง ที่ใจกลางเมืองคือ Sky Tower หอคอยที่สูงถึง 1,082 ฟุต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดสำหรับผู้ที่เดินสำรวจเมือง มีร้านอาหารและบาร์มากมายตั้งอยู่บริเวณ Viaduct Basin ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อรองรับการท่องเที่ยว มาร่วมสัมผัสกับความวิเศษของออคแลนด์ เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความทันสมัย ที่จะทำให้คุณหลงรักในการเดินทางครั้งนี้!

ท่าเรือไวแทนกิ (Waitangi) ในอ่าวของเกาะ (Bay of Islands) ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามทางธรรมชาติ ซึ่งมักจะมีเรือสำราญแวะจอดเพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับเสน่ห์ของภูมิภาคนี้ ไวแทนกิเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะที่ตั้งของข้อตกลงไวแทนกิ (Treaty of Waitangi) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของนิวซีแลนด์ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเมารี เตรียมพร้อมที่จะให้สัมผัสกับประเพณีดั้งเดิมผ่านการแสดงดนตรีและการเต้นรำที่น่าประทับใจ นอกจากนี้ ท่าเรือแห่งนี้ยังเป็นประตูสู่การสำรวจเกาะน้อยใหญ่ในอ่าว รวมถึงการเดินทางไปยังชายหาดที่ทรายขาวและน้ำทะเลใส อีกทั้งยังมีกิจกรรมทางน้ำหลากหลาย เช่น การดำน้ำตื้น พายเรือคายัค และการตกปลา แวะเที่ยวที่ไวแทนกิ หมายถึงการได้สัมผัสความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ และการค้นพบเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในท้องถิ่น ฟีเจอร์ที่โดดเด่นนี้ทำให้การสำรวจอ่าวของเกาะเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ซึ่งจะกระตุ้นให้คุณอยากกลับมาสัมผัสความมหัศจรรย์นี้อีกครั้งในอนาคต


ท่าเรือทาวน์สวิลล์ ตั้งอยู่ในควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เป็นเมืองชายฝั่งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหนือกาลเวลา แม้ที่นี่จะไม่มีชายหาดและคลื่นซัดสาดแบบที่เห็นในอุดมคตินักท่องเที่ยว แต่ทาวน์สวิลล์กลับมอบประสบการณ์ที่แสนพิเศษให้กับผู้มาเยือน ด้วยสวนสาธารณะที่ร่มรื่น อาคารสไตล์โคโลเนียลที่มีชื่อเสียง และริมน้ำที่มีทางเดินเลียบกับชายทะเล ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนและจัดปิคนิคริมทะเล ย่านใจกลางเมืองที่มีชีวิตชีวาในช่วงหลังมีร้านอาหารและบาร์มากมายที่พร้อมบริการนักท่องเที่ยว รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจและอะควาเรียมระดับโลก ซึ่งถือเป็นจุดที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ ทางสำนักงาน Queensland Parks and Wildlife Service ตั้งอยู่บนเกาะแมกนีติก ที่เป็นเกาะสวยงามที่อยู่ใกล้เคียง ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเกาะสามารถพบได้ที่คิวออสจาก Townsville Enterprise ใน Flinders Square และพิพิธภัณฑ์ Queensland เทรอปิคัล หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศเป็นกันเองและอนุรักษ์ธรรมชาติ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ทาวน์สวิลล์เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในออสเตรเลีย อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ สวรรค์แห่งการผจญภัย และความงามทางธรรมชาติรอคุณอยู่

เมืองเคิร์นส์ (Cairns) รัฐควีนส์แลนด์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจธรรมชาติอันงดงามในด้านเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้าร่วมทำกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น เช่น ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกที่แนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น ล่องเรือ ตกปลา ปาร์เซลลิ่ง และการเดินป่าในป่าฝนที่เขียวขจี แม้จะมีสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น ความร้อนจัดและสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว เช่น จระเข้เค็มและงูพิษ แต่เคิร์นส์กลับมีมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดให้ผู้คนอยากมาเยือน ชาวบ้านที่นี่เป็นมิตรและจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน พร้อมทั้งทัศนียภาพอันงดงามที่รอให้คุณมาสัมผัส สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนริมชายหาด เคิร์นส์ยังมีความเงียบสงบจากท้องทะเลที่สวยงามและบริการที่เป็นเลิศ ทำให้คุณสามารถใช้เวลาสนุกสนานท่ามกลางความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ นี่คือประตูสู่การผจญภัยที่คุณไม่ควรพลาด!

ดาร์วิน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสีสันและบรรยากาศแปลกใหม่ของออสเตรเลีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลทิมอร์ เป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ถนนหนทางที่ถูกประดับไปด้วยดอกไม้และต้นไม้เขตร้อนให้บรรยากาศที่โรแมนติกและผ่อนคลาย ดาร์วินมีอากาศร้อนชื้นในฤดูร้อนและแห้งสบายในฤดูหนาว ทำให้เป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อน เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายตั้งแต่อดีต เช่น การทดลองก่อตั้งเมืองในปี 1824 ที่ต้องพบกับสภาพอากาศที่รุนแรง จนกระทั่งในปี 1911 เมืองได้รับชื่อ "ดาร์วิน" ตามชื่อของนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้เคยถูกโจมตีอยู่หลายครั้ง จนอาคารบ้านเรือนถูกทำลายโดยพายุไซโคลนทราซีในปี 1974 แต่ความเข้มแข็งของผู้คนทำให้เมืองนี้กลับมาฟื้นฟูและเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งในฐานะศูนย์กลางการบริหารและการค้าในภาคเหนือของออสเตรเลีย ปัจจุบัน ดาร์วินเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการสำรวจความงดงามของออสเตรเลียทางตอนเหนือ เช่น อุทยานแห่งชาติแคคาดูและภูมิภาคคิมเบอร์ลี ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในออสเตรเลีย

เมื่อเรือสำราญลอยลำเข้ามาในท่าเรือเกาะโคโมโด (Komodo Island) ความงดงามของธรรมชาติจะทำให้คุณตกอยู่ในบรรยากาศอันเงียบสงบและประทับใจ ในที่นี่ คุณจะได้สัมผัสกับชายหาดสีชมพู (Pink Beach) ที่ได้รับการขนานนามจากสีสันที่สวยงามซึ่งเกิดจากเศษปะการังสีแดงที่ผสมผสานกับทรายขาวละเอียด ทำให้ทัศนียภาพของชายหาดแห่งนี้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ชายหาดที่เต็มไปด้วยความสงบร่มรื่นมีต้นไม้ที่ให้ร่มเงา พร้อมกับน้ำทะเลที่ใสสะอาดเป็นเหมือนสวรรค์สำหรับผู้ที่รักการดำน้ำและสนอร์กเกิล คุณจะได้พบกับปลาการ์ตูนที่แหวกว่ายอยู่ท่ามกลางเต่าทะเลหรือตัวปลากระโทงแทงที่หลงใหลในปะการังสีสันสวยงาม ที่นี่ ปะการังได้รับการอนุรักษ์ตามกฎหมาย ทำให้คุณได้สัมผัสกับความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลในสภาพที่ดีที่สุด การสำรวจเกาะโคโมโดไม่เพียงแค่เพลิดเพลินกับพันธุ์ปลาทะเลและปะการัง ยังมีโอกาสที่จะได้เห็นสัตว์ป่าอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น มังกรโคโมโด ที่อาจจะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความทรงจำอันยาวนาน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเกาะโคโมโดจะเป็นจุดหมายที่ไม่น้อยหน้าในทุกๆ เส้นทางการเดินทางบนทะเลอย่างแน่นอน


เมื่อพูดถึงการเดินทางยามว่าง ขอนำเสนอท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างท่าเรือสิงคโปร์ หนึ่งในจุดแวะที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ ท่าเรือแห่งนี้เป็นประตูสู่ประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าหลงใหลในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเกาะที่มีรูปร่างคล้ายเพชรแบน โดยมีการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ที่ท่าเรือคุณจะได้พบกับอาคารสูงโดดเด่นในย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) ทั้งอาคารสำนักงานและโรงแรมสุดหรู รวมถึงโรงแรม Raffles สุดคลาสสิกที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา นอกจากนี้ยังมีสวนแนวตั้ง "Supertrees" ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเป็นสวนพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยเพิ่มความเขียวให้กับเมือง สำหรับผู้ที่ต้องการหนีจากความวุ่นวาย ท่านยังสามารถไปเยือนเกาะเซนโตซ่า ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสนุก ไม่ว่าจะเป็นชายหาดสวยงาม หรือกิจกรรมทางน้ำที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และหากคุณต้องการสัมผัสธรรมชาติ ภูมิประเทศอันหลากหลายของสิงคโปร์ก็รอคอยคุณอยู่ เช่น ป่าเขียวชอุ่มและพื้นที่เกษตรกรรม สัมผัสความหรูหราและความหลากหลายแห่งนี้ที่ท่าเรือสิงคโปร์ และปล่อยให้การเดินทางของคุณเริ่มต้นจากที่นี่!


ห้องพักในหมวด "巔峰套房" คือห้องที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง ห้องชุดที่เรียบหรูนี้มีห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัวขนาดเล็กที่มีไมโครเวฟและตู้เย็น รวมถึงหน้าต่างที่สูงจากพื้นถึงเพดาน ซึ่งสามารถมองออกไปยังระเบียงส่วนตัวได้ ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซส์ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย มีพื้นที่แต่งตัวแยกต่างหาก และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบจาคุซซี่ขนาดใหญ่ พร้อมกับฝักบัวและห้องอาบน้ำเพิ่มเติม ยังมีโซฟาเบดที่สามารถรองรับผู้เข้าพักได้สองคน รวมถึงห้องน้ำสำหรับแขกอีกด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องประกอบด้วยระบบเสียงส่วนตัว การเข้าถึง Neptune Lounge ที่พิเศษ บริการผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีที่หลากหลาย ห้อง "巔峰套房" มีขนาดประมาณ 1,296 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงด้วย

และนี่คือห้องพักประเภท "ห้องสวีทเนปจูน" ห้องที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างที่มีความสูงจากพื้นจนถึงเพดาน มุมมองที่สวยงามนี้มองออกไปยังระเบียงส่วนตัว ห้องมีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่พร้อมมินิบาร์และตู้เย็น โดยมีเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ “Mariner’s Dream™” พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดที่รองรับผู้เข้าพักได้สองคน ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบเจ็ตเต็มขนาดและฝักบัว ภายในห้องยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย รวมถึงการใช้บริการใน Neptune Lounge ซึ่งเป็นบริการส่วนตัวและการบริการฟรีอีกมากมาย ขนาดพื้นที่ประมาณ 558-566 ตารางฟุต รวมระเบียงด้วย

ขอต้อนรับสู่ "景致套房" ที่มอบประสบการณ์การพักผ่อนสุดหรูบนเรือสำราญ ห้องชุดที่มีระเบียงที่ปูด้วยไม้สัก พร้อมด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานและพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ ห้องพักนี้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 297-379 ตารางฟุต รวมทั้งพื้นที่ระเบียง ในห้องประกอบด้วยเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ ซึ่งคือเตียง "Mariner's Dream™" ที่มีที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำแบบน้ำวนและฝักบัว รวมถึงมินิบาร์และตู้เย็น เพื่อให้คุณสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายตลอดการเดินทางของคุณ

ห้องพักประเภท "露台" มีการออกแบบที่สะดวกสบายพร้อมประตูเลื่อนกระจกซึ่งมีกระจกสะท้อนเพื่อความเป็นส่วนตัว เปิดออกสู่ดาดฟ้าพromenade ห้องพักนี้ประกอบไปด้วยเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ พร้อมที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดคุณภาพสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ห้องพักมีขนาดประมาณ 196-240 ตารางฟุต โดยการจัดเตรียมห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้

ห้องพักประเภท "海景艙" ของเรานั้นกว้างขวางและสะดวกสบาย มีเตียงคู่สองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงคิงไซส์ขนาดหนึ่ง พร้อมด้วยเตียงฝัน Signature Mariner's Dream™ ที่นุ่มสบาย มาพร้อมกับที่นอนแบบ Euro-Top ชั้นพรีเมียมและหัวฝักบัวนวดเพื่อความผ่อนคลาย ห้องพักมีพื้นที่ประมาณ 140-319 ตารางฟุต และให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลที่งดงาม ในขณะที่คุณเพลิดเพลินกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลากหลายที่จัดเตรียมไว้ให้ สำหรับการพักผ่อนอย่างสบายๆ บนเรือที่มีความหรูหรา.

ห้องพักประเภท "艙窗" เป็นห้องที่กว้างขวาง มีพื้นที่ประมาณ 140-319 ตารางฟุต ซึ่งมาพร้อมกับเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์สุดหรู นั่นคือเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มีที่นอน Euro-Top นุ่มสบาย รวมถึงสายฝนที่นวดตัวคุณภาพสูง พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและหน้าต่างกระจกกลมที่เปิดให้ชมวิวทะเล ความสะดวกสบายและความหรูหราของห้องพักนี้ทำให้การพักผ่อนในเรือสำราญของคุณเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ห้องพักประเภทส่วนที่เห็นวิวทะเลนี้มอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร พร้อมเตียงคู่ที่สามารถปรับให้เป็นเตียงคิงไซส์ตามคอนเซ็ปต์ Mariner's Dream™ ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ในห้องพักขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุตนี้ คุณจะได้สัมผัสความสะดวกสบายและความหรูหราที่ลงตัว พร้อมวิวทะเลบางส่วนที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณพิเศษยิ่งขึ้น

ห้องพักขนาดใหญ่ประเภท "ห้องรับรองวิวทะเลที่มีอุปสรรค" มีเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย, หัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย ห้องพักนี้มีขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุต และทิวทัศน์จะถูกบดบังโดยสิ่งกีดขวาง ทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์พักผ่อนอันแสนสะดวกสบายในบรรยากาศที่หรูหรา.

ขอแนะนำห้องพักประเภท "ห้องพักภายใน" ซึ่งมีเตียงเดี่ยวสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ที่สะดวกสบาย ด้วยเตียงที่ได้รับการออกแบบเฉพาะอย่าง Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top นุ่มสบายและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ห้องพักเหล่านี้มีขนาดประมาณ 151-233 ตารางฟุต ซึ่งให้ความกว้างขวางและความสะดวกสบายในการพักผ่อน หลังจากวันอันแสนสนุกบนเรือ คุณจะได้สัมผัสกับการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมในห้องพักของเรา คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางของคุณอย่างเต็มที่