
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โวลเเดม
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์



ฟูมีย์ (Phu My) คือท่าเรือที่สำคัญของเวียดนาม ตั้งอยู่ใกล้เมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City) และเป็นประตูสู่การสัมผัสวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งเวียดนามใต้ เมื่อเรือสำราญของคุณจอดเทียบท่า คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ตั้งแต่อาหารอร่อยเลิศรส ไปจนถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอบนอก ท่าเรือฟูมีย์ไม่เพียงแค่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสู่เมืองใหญ่ ยังใกล้ชิดกับสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่างเมืองโฮจิมินห์ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์สุดคลาสสิค เช่น สะพานญี่ปุ่น ตลาดเบนถัน หรือพิพิธภัณฑ์สงคราม ด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายที่นักเดินทางไม่ควรพลาด ผู้เยี่ยมชมยังสามารถสำรวจธรรมชาติที่งดงามของแม่น้ำเมคอง พร้อมสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นในหมู่บ้านเล็กๆ นอกจากนี้ อาหารเวียดนามที่อร่อยรสจัด ทำให้ฟูมีย์เป็นจุดหมายที่จะทำให้คุณได้ลิ้มลองเมนูพิเศษที่มีอยู่ในท้องถิ่นเพียงเท่านั้น ฟูมีย์ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร รอต้อนรับคุณให้จัดการเดินทางอันหรูหรานี้อย่างเต็มที่!

เมืองดานัง เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของเวียดนาม ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 1,283 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 1 ล้านคน ดานังมีความเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นเมืองที่มีการจัดระเบียบที่ดี โดยมีความงดงามของวิลล่าบนชายหาดและแม่น้ำฮั่นที่ไหลผ่านเมืองอีกฝั่ง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง ชายหาดไม่น่าเบื่อแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับความผ่อนคลาย ไม่ว่าจะมาเที่ยวคนเดียวหรือลงเล่นน้ำกับคนที่รัก นอกจากนี้ ดานังยังเป็นจุดเชื่อมต่อที่สะดวกสำหรับการเดินทางไปยังเมืองฮอยอันและเมืองฮุย สถานที่เด่นที่น่าเยี่ยมชมจากดานังคือฮุย ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของเวียดนามและเป็นแหล่งรวมอนุสรณ์สถานสำคัญต่างๆ รวมถึงสุสานและวัดวาอารามที่สวยงาม ส่วนเมืองฮอยอันเป็นเมืองโบราณที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมที่หายาก มีประวัติศาสตร์การค้าอันยาวนานในฐานะท่าเรือสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาท่องเที่ยวดานังและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ ซึ่งไม่เพียงแค่ความสวยงาม ยังมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจรอให้คุณค้นพบ!

การเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนามจะไม่สมบูรณ์หากไม่ได้แวะชมอ่าวฮาลอง (Halong Bay) หนึ่งในมรดกโลกที่มีชื่อเสียง ด้วยความงดงามของน้ำทะเลที่สงบและหินปูนกว่า 3,000 แห่งที่โดดเด่นจากลำธารหมอก นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็กๆ ที่มีชายหาดขาวสะอาดและถ้ำซ่อนอยู่ ซึ่งทำให้ภูมิทัศน์นี้ดูมีมนต์ขลังและประทับใจยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติ อ่าวฮาลองยังมีกิจกรรมหลากหลาย เช่น การเดินป่า, พายเรือคายัค หรือปีนเขาที่เกาะเก็ตบา (Cat Ba) ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในอ่าวที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและมีเส้นทางเดินป่าที่น่าทึ่ง โดยเฉพาะสำหรับนักผจญภัยที่ต้องการท้าทายตนเองกับการปีนเขาที่นี่ แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่มาสัมผัสความงามนี้ ขณะเดียวกันก็มีเรือท่องเที่ยวที่จัดระเบียบเพื่อพาคุณสำรวจความงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด แม้ว่าการเดินทางอาจซับซ้อนในบางครั้ง แต่การเลือกใช้บริการจากบริษัททัวร์ในเมืองฮาลองหรือฮานอยจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณ มาร่วมเปิดประสบการณ์และเสพบรรยากาศอันแสนโรแมนติกที่อ่าวฮาลอง ที่เพียงแค่ก้าวเท้าหรือพายเรือออกไป ก็จะได้พบกับความอลังการทางธรรมชาติที่คุณจะไม่มีวันลืมเลือน

เกาสง คือ เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของไต้หวัน และเป็นท่าเรือที่สำคัญที่สุดในประเทศ เป็นท่าเรือที่มีความจุคอนเทนเนอร์ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก โดยเมืองนี้เริ่มต้นศตวรรษที่ 21 ด้วยการเปลี่ยนแปลงไปสู่มหานครที่ทันสมัยและน่าหลงใหล โดยมีบริษัท China Steel Corporation และ China Shipbuilding เป็นตัวอย่างที่ดีของเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออกของไต้หวัน ไม่เพียงแต่ความทันสมัยเท่านั้น เกาสงยังมีภาพลักษณ์ที่งดงามของแม่น้ำความรัก โดยริมแม่น้ำมีคาเฟ่ที่ให้โอกาสนักท่องเที่ยวเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศและลมเย็นสบาย นอกจากนี้ยังมี Urban Spotlight คอร์ริดอรแห่งแสงซึ่งออกแบบโดยศิลปินท้องถิ่น สร้างความสดใสและศิลปะในโซน Central Park อย่างไรก็ตาม เกาสงยังมีเรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์ของไต้หวัน นั่นคือเหตุการณ์เกาสงในปี 1979 ซึ่งเป็นวันที่ไร้เสียงสำหรับการเรียกร้องสิทธิมนุษยชน โดยส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการเดินทางสู่ประชาธิปไตยของเกาะไต้หวัน หากคุณมีโอกาสเดินทางมาเยือนเกาสง คุณจะได้สัมผัสทั้งความสวยงามและประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกให้มาค้นพบความงามของเมืองนี้อย่างไม่รู้ลืม

ท่าเรือเกาสง (Keelung) เป็นประตูสู่ไต้หวันที่มีเสน่ห์และน่าค้นหา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงไทเป เมืองที่เปล่งประกายด้วยความสดใสและทันสมัย ซึ่งมีทั้งวัฒนธรรมและไอเดียสุดล้ำ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นฐานที่ดีในการเริ่มต้นการสำรวจความงามของไต้หวัน อย่าปล่อยให้ความเร้าใจของไทเปขับเคลื่อนคุณออกจากเกาสงเกินไป เพราะที่นี่มีตลาดกลางคืนที่มีชื่อเสียงซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตลาดนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องของอาหารทะเลสดใหม่ และคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การชิมอาหารชั้นเลิศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท้องถิ่น นอกจากนี้ เกาสงยังเป็นฐานที่ดีในการเดินทางไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค เช่น วัดหลงซาน (Longshan Temple) ที่มีความงดงามและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ทำให้ท่าเรือเกาสงเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสร้างความทรงจำและแรงบันดาลใจในการเดินทางที่ไม่รู้ลืมในไต้หวัน.

นาอาฮะ (Naha) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโอกินาว่า ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลในญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องวัฒนธรรมที่แตกต่างและชวนตื่นตาตื่นใจ รอคอยนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสความงดงามอย่างแท้จริง เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าเรือนาอาฮะ คุณจะมีโอกาสสำรวจเมืองที่มีเสน่ห์นี้ในทุกมุมมอง อันดับแรกที่ต้องเยี่ยมชมคือปราสาทชูริ (Shuri Castle) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สถาปัตยกรรมที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปยังยุครุ่งเรืองของอาณาจักรริวกิว หลังจากนั้น ให้เดินเข้าไปในตลาดถนนโบริ (Kokusai Dori) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารท้องถิ่น คุณสามารถลิ้มลองอาหารพื้นเมืองที่มีรสชาติอันประณีต เช่น ราเมนโอกินาวะ และมิซุรุบะ (Mizutaki) ที่เรียกความชื่นชมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก อย่าลืมไปเยี่ยมชมสวน Okinawa World ซึ่งมีการจัดแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นและการแสดงพื้นบ้านที่น่าตื่นตาตื่นใจ สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ อย่าพลาดที่จะไปย่าว่าหาดอาการะ (Agara Beach) ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องน้ำทะเลใสและทรายขาวละเอียด นาอาฮะไม่ใช่เพียงท่าเรือ แต่เป็นประตูสู่การค้นพบวัฒนธรรมและความงามของโอกินาว่า รอคอยคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลือน!

แอมามิ โอชิมะ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ล้ำค่าในญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอันงดงามและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่ท่าเรือแอมามิ โอชิมะ คุณจะได้พบกับหาดทรายสีขาวและน้ำทะเลใสที่ทอดยาวไร้ที่สิ้นสุด ซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนและทำกิจกรรมทางน้ำ เช่น การดำน้ำตื้นที่หมู่เกาะรอบๆ ไม่เพียงแค่ทะเลที่สวยงาม ในแอมามิ โอชิมะ ยังมีหลากหลายแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น อุทยานแห่งชาติอามามิ กำแพงธรรมชาติที่มีพืชและสัตว์ที่หายาก และพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมโบราณที่ให้คุณเข้าใจถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวยังไม่ควรพลาดลองชิมอาหารท้องถิ่น เช่น สถานที่ทำอาหารดั้งเดิมที่มีรสชาติไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะการทำอาหารจากวัตถุดิบสดใหม่ที่เก็บเกี่ยวจากท้องทะเล ให้แอมามิ โอชิมะ เป็นเรื่องราวที่สวยงามในการเดินทางของคุณ ซึมซับบรรยากาศและสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในสวรรค์กลางทะเลแห่งนี้ในญี่ปุ่น


เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือชิมิสุ ณ ประเทศญี่ปุ่น คุณจะได้พบกับภาพอันน่าทึ่งของภูเขาฟูจิที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือท้องฟ้า ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การถ่ายภาพอย่างยิ่ง เพราะความสมบูรณ์แบบของรูปทรงทำให้ภูเขานี้เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงเวลาที่เรือสำราญของคุณเทียบท่า คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบและมีเสน่ห์ แถวท่าเรือยังมีตลาดปลาให้คุณได้เพลิดเพลินและลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ ส่วนสวนสนุกที่น่ารักตั้งอยู่ไม่ไกลเพื่อเปิดโอกาสให้คุณได้สนุกสนาน อย่างไรก็ตาม จุดหมายหลักของผู้มาเยือนมักจะเป็นการไปยังจุดชมวิวที่ดีที่สุดของภูเขาฟูจิ และศาลเจ้าคุโนะซังโทโชกุ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สามารถเดินทางถึงได้โดยกระเช้าไฟฟ้า ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่สวยงาม พร้อมบรรยากาศที่สงบและทิวทัศน์อันน่าทึ่งของอ่าวสุรุงะและไร่ชาอันเขียวขจี ชิมิสุไม่ได้มีเพียงภูเขาฟูจิ แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการค้นพบเสน่ห์ของญี่ปุ่นในมิติที่หลากหลาย เชิญคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำแห่งนี้เถอะ!


ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์ในญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสองอ่าว ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่งดงามและบรรยากาศที่เงียบสงบของเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 19 ด้วยอาคารไม้ที่เรียงรายอยู่ริมถนนลาดชัน พื้นที่ริมท่าเรือเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่เดินได้สะดวก พร้อมทั้งรถรางที่ให้บริการบริเวณใจกลางเมือง เมื่อมาถึงฮาโกดาเตะ นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมยอดเขาฮาโกดาเตะที่สูง 1,100 ฟุต ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเห็นวิวรอบเมืองอย่างสวยงาม โดยเฉพาะในยามเย็นเมื่อเมืองถูกประดับประดาด้วยแสงไฟ ปลาทูน่านับเป็นดาวเด่นที่ไม่ควรพลาดในตลาดปลา ซึ่งเปิดให้บริการแต่เช้า นั่นคือจุดเริ่มต้นของมื้อเช้าที่สดใหม่และอร่อย เมืองนี้เคยเป็นหนึ่งในท่าเรือแรกที่รัฐบาลเมจิเปิดให้การค้าอย่างเป็นทางการในปี 1859 ที่นี่คุณจะพบกับร่องรอยทางวัฒนธรรมที่หลากหลายจากหลายชาติ ทั้งรัสเซีย อเมริกา จีน และยุโรป การเดินทางในเมืองนั้นง่ายและสามารถเข้าถึงข้อมูลภาษาอังกฤษได้อย่างสะดวก ฮาโกดาเตะคือจุดหมายที่เต็มไปด้วยแรงดลใจสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความประทับใจในประวัติศาสตร์และรุงเรือง เริ่มต้นแผนการเดินทางของคุณวันนี้!


คอเดียค (Kodiak) ในรัฐอลาสก้าเป็นหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามและคึกคักที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการประมงเชิงพาณิชย์ แม้ว่าจะมีประชากรเพียงประมาณ 6,475 คน กระจายอยู่ในหลายเกาะ แต่ท่าเรือนี้ยังคงเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการจัดหาสินค้าให้กับชุมชนเล็กๆ บนเกาะอะเลอูเตียนและคาบสมุทรอลาสก้า เมื่อเยือนคอเดียค นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเพลิดเพลินกับการตกปลา, พายเรือคายัค หรือชมนกหมีในสถานที่ห่างไกล โดยมีบริการเครื่องบินลอยน้ำและเรือเช่าที่พร้อมสรรพ หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวนอกเมือง ควรลองขับรถยนต์ไปตามระบบถนนที่มีอยู่และสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ก่อนที่จะเพิ่มประสบการณ์อีกระดับด้วยการเดินทางไปยังรีสอร์ทห่างไกลหรือจุดเข้าถึงป่า หากคุณชื่นชอบธรรมชาติ คอเดียคยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นอย่าง Kodiak National Wildlife Refuge ซึ่งประกอบด้วยสี่เกาะในอ่าวอลาสก้า ได้แก่ คอเดียค, อาฟ็อคแนค, แบน และอูกานิค สถานที่นี้เป็นสวรรค์ของผู้รักการดูสัตว์และภาพถ่าย ถือเป็นการผสมผสานระหว่างผจญภัยและความสงบในธรรมชาติอย่างแท้จริง รอคอยให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครได้แล้ววันนี้!

ซิตกา (Sitka) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุดในอลาสก้า ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมชนเผ่าอัลลาสก้า รัสเซีย และอเมริกัน อย่างลงตัว โดยมีสถานที่เด่นในการสำรวจคือ วิหารเซนต์ไมเคิล (St. Michael's Cathedral) และพิพิธภัณฑ์เชลดอน แจ็คสัน (Sheldon Jackson Museum) ที่จะพาคุณย้อนเวลาสู่วิถีชีวิตของชาวท้องถิ่น การเดินเล่นที่สวนสาธารณะประวัติศาสตร์ซิตกา (Sitka National Historical Park) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ซิตกามีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เริ่มต้นจากการตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าคิกซาดี (Kiksádi) ผู้มีบทบาทในภูมิภาคนี้มาก่อนการมาถึงของชาวรัสเซียในศตวรรษที่ 18 การพัฒนาของเมืองในช่วงเวลานั้นได้สร้างความเจริญรุ่งเรือง โดยในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ซิตกาได้กลายเป็นฐานการทหารสำคัญ ทำให้เมืองฟื้นตัวอีกครั้ง ปัจจุบัน ซิตกาเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ที่นี่มีอุตสาหกรรมการตกปลา รัฐบาล และการท่องเที่ยว ทำให้ซิตกายังคงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และน่าค้นหาในภูมิภาคอลาสก้าอย่างไม่เปลี่ยนแปลง

เคติชกัน (Ketchikan) เมืองเล็กแห่งอลาสก้า เป็นจุดหมายที่มีเอกลักษณ์และดึงดูดผู้เข้าชมด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องเสาโทเท็มที่สวยงาม สภาพอากาศที่มีหมอกควัน และถนนที่ชันคล้ายซานฟรานซิสโก ร่วมกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยชาวบ้านที่มีช่วงชีวิตใช้การประมงและการทำไม้ การท่องเที่ยวโดยเรือสำราญหนาแน่นในช่วงฤดูร้อน โดยเรือพาณิชย์และเครื่องบินน้ำมักจะออกจากท่าเรือเพื่อไปยัง Monument Misty Fiords อนาคตของเคติชกันได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย แม้ว่าความเจริญในอุตสาหกรรมการประมงจะลดลง แต่ชุมชนศิลปะที่แอคทีฟยังคงสร้างสรรค์ผลงานที่สวยงามสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาเอกลักษณ์พื้นเมือง นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมร้านค้าต่าง ๆ บริเวณ Creek Street หรือเยี่ยมชมศูนย์มรดกโทเท็ม นอกจากนี้ ยังมีสวนประวัติศาสตร์ Totem Bight และ Saxman Totem Park ที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งเป็นสถานที่ที่ช่วยเล่าเรื่องราวของวัฒนธรรมท้องถิ่น ค่ำคืนที่พิเศษในเคติชกันถือเป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์อันน่าจดจำในดินแดนอลาสก้า ที่ซึ่งธรรมชาติและวัฒนธรรมจะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณตลอดไป

ซีแอตเทิล เป็นเมืองท่าทางทะเลที่สวยงามในรัฐวอชิงตัน ตั้งอยู่บนแหลมระหว่างอ่าวปูเจตและทะเลสาบวอชิงตัน ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐนี้ เริ่มต้นจากการตั้งถิ่นฐานของครอบครัวนักบุกเบิก 5 ครอบครัวจากรัฐอิลลินอยส์ในปี 1851 เมืองนี้ตั้งชื่อตามหัวหน้าเผ่า Suquamish ที่เป็นมิตร และได้รับการรับรองเป็นเมืองในปี 1869 ซีแอตเทิลเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากการมาถึงของรถไฟ Great Northern ในปี 1893 โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาของการขุดทองอลาสกาในปี 1897 เมื่อคลองปานามาเปิดให้บริการในปี 1914 ซีแอตเทิลกลายเป็นท่าเรือที่สำคัญทางแปซิฟิก ทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าและการขนส่งที่สำคัญในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติ Mount Rainier ที่มีภูเขาสูงตระหง่านและธรรมชาติที่งดงาม เรือสำราญที่แวะจอดที่นี่จะได้สัมผัสบรรยากาศที่น่าหลงใหล พร้อมกับกิจกรรมสนุกๆ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการชิมอาหารทะเลชื่อดังกระหึ่ม หรือช้อปปิ้งสินค้าพิเศษที่ Pike Place Market ห้ามพลาดที่จะเข้ามาสัมผัสเสน่ห์ของซีแอตเทิล เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรืองแห่งนี้!

ซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นจุดหมายปลายทางในฝันที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวด้วยอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปี เฉลี่ยอยู่ที่มากกว่า 20 องศาเซลเซียส และแสงแดดที่ส่องสว่างเกือบตลอดวัน นอกจากนี้ ซานดิเอโกยังเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับครอบครัว โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น LEGOLAND ที่น่าตื่นเต้น, พิพิธภัณฑ์เด็กใหม่ และสวนสัตว์ซานดิเอโกที่มีชื่อเสียงระดับโลก คนรักชายหาดจะต้องตกหลุมรักกับชายหาดที่สวยงามและมีหลากหลายแห่งให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสำหรับผู้ที่ชอบอาบแดดหรือโต้คลื่น นักชิมอาหารก็ไม่ควรพลาดกับเบียร์อาร์ติซานและร้านอาหารหรูที่นำเสนอเมนูเลิศรส ตั้งแต่ความสนุกสนานของ La Jolla Playhouse ที่มีการแสดง Broadway จนถึงบรรยากาศยุโรปที่ Little Italy และความทันสมัยของ Gaslamp Quarter ซานดิเอโกจึงมีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวปรารถนา หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความตื่นเต้น ซานดิเอโกคือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว!

คุนเคยเคยได้ยินถึงความงดงามของชายหาดที่เปล่งประกายแสงแดดในเม็กซิโกหรือไม่? ถ้าเช่นนั้น ท่าเรือแมนซานิลโล (Manzanillo) จะทำให้คุณหลงใหลในประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในโลกแห่งทะเลแคริบเบียน ท่าเรือแห่งนี้ตั้งอยู่ในรัฐโคลิมา เต็มไปด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงามและบรรยากาศที่อบอุ่น ทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลของนักเดินทางทั่วโลก แมนซานิลโลไม่เพียงเป็นท่าเรือสำหรับเรือสำราญ แต่ยังมีกิจกรรมมากมายรอคุณอยู่ ทั้งการดำน้ำสำรวจแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ และการล่องเรือในอ่าวที่มีทัศนียภาพอันงดงาม สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำ ที่นี่ยังมีการเล่นเซิร์ฟ และพายเรือคายัคที่ได้รับความนิยมอย่างมาก นอกจากกิจกรรมทางน้ำแล้ว แมนซานิลโลยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ คุณสามารถเดินชมตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยอาหารเมนูพิเศษอย่างทาโก้และซีฟู้ดสดใหม่ หรือสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างโบสถ์ซานตาเซลีย่า ในขณะที่จมอยู่ในอ้อมกอดของธรรมชาติและวัฒนธรรมนี้ อย่าลืมปล่อยใจให้หลุดลอยไปกับความสงบและสวยงามที่แมนซานิลโลมอบให้นะคะ แน่นอนว่ามันจะเป็นประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม!

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือ Puerto Chiapas ประเทศเม็กซิโก คุณจะได้สัมผัสกับประสบการณ์อันน่าหลงใหลท่ามกลางทิวทัศน์อันงดงามของชายฝั่ง แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เขียวชอุ่มและวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ท่าเรือนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจที่น่าทึ่งในภูมิภาค Chiapas จากท่าเรือ Puerto Chiapas คุณสามารถเดินทางไปยังเมือง San Cristóbal de las Casas ที่มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม โดยเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมพื้นเมืองที่น่าสนใจ เป็นที่ตั้งของโบสถ์โบราณ ตลาดศิลปะ และร้านค้าขายงานฝีมือที่สร้างสรรค์จากชุมชนท้องถิ่น นอกจากนี้ หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติ การเดินทางไปยัง Parque Nacional Sumidero จะทำให้คุณประทับใจกับความงดงามของหุบเขาและน้ำตกที่คูณค่าภูมิทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร โดยสามารถนั่งเรือชมความงามของธรรมชาติและสัตว์ป่าที่หายากได้ที่นี่ Puerto Chiapas แห่งนี้ เรียกว่าคือสรวงสวรรค์ที่รอให้คุณมาสัมผัส ด้วยการบริการระดับหรูที่พร้อมต้อนรับนักเดินทางทุกคน สร้างแรงบันดาลใจให้อยากออกสำรวจและสร้างความทรงจำที่น่าจดจำในทุกก้าวเดินของคุณ

ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความสวยงาม ท่าเรือ Acajutla ในเอลซัลวาดอร์คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในภูมิภาคที่มีชายหาดที่สวยงาม รายล้อมไปด้วยภูเขาและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ Acajutla คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ผสมผสานวัฒนธรรมลาตินอเมริกากับควมงดงามทางธรรมชาติ ที่นี่คุณสามารถเยี่ยมชม Rescate de Fauna Silvestre เพื่อศึกษาชีวิตสัตว์ป่า และยังมีโอกาสได้สัมผัสกับตลาดท้องถิ่นที่มีสินค้าหัตถกรรมและอาหารอร่อย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเดินทางไปยังชายหาด El Tunco ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการโต้คลื่น ที่นี่ศิลปินและนักท่องเที่ยวมักมารวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตริมชายหาด นอกจากนี้ยังมีความเป็นอยู่เชิงนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์และทำให้สถานที่นี้เป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจธรรมชาติ วัฒนธรรม หรือการพักผ่อนบนชายหาด Acajutla คือประสบการณ์ที่หลังกายให้คุณได้พบกับความงดงามของเอลซัลวาดอร์อย่างแท้จริง เชิญชวนคุณให้สัมผัสการเดินทางที่ไม่เหมือนใครในจุดหมายอันยอดเยี่ยมนี้!


คาร์ตาเฆน่า เป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลของประเทศโคลอมเบีย เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและป้อมปราการที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเป็นมรดกโลก เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และชีวิตชีวาเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความงามของจัตุรัส โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้เดินทางไม่ควรพลาด เดิมที ก่อตั้งขึ้นในปี 1533 โดยนักล่าขุมทรัพย์ชาวสเปน เปโดร เด เฮรีเดีย คาร์ตาเฆน่าได้กลายเป็นท่าเรือเดียวในแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาใต้ ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำและเงินที่ถูกปล้นมา สร้างความสนใจแก่โจรสลัด เช่น เซอร์ ฟรานซิส เดรก ที่เคยเข้ามาเผาเมืองในปี 1586 กำแพงที่ล้อมรอบนอกจากจะปกป้องทรัพย์สมบัติแล้ว ยังเป็นเสมือนหลักชัยของมนุษยธรรม ต่อมาเมืองนี้กลายเป็นตลาดทาสอัฟริกันที่สำคัญในยุคอาณานิคม ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆน่ายังมีการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ย่านเมืองเก่ากลายเป็นสถานที่ที่น่าพักผ่อน สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมแบบโบฮีเมียน ย่านเกตเซมันีเป็นที่นิยมที่มีบรรยากาศจัดจ้าน สัมผัสความงดงามของชายหาดทรายสีเทาในเขตโบคากรานเด และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ได้เลย

ฟอร์ตลอเดอร์เดล เมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ในรัฐฟลอริด้า คือจุดหมายปลายทางที่แสนงดงามและมีชีวิตชีวา เหมาะแก่การสำรวจและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ริมชายหาดที่สวยงาม คุณจะได้พบกับลาดยาโอลาส (Las Olas Boulevard) ที่เป็นศูนย์กลางของชีวิตเมือง มีร้านค้า บูติก และคาเฟ่ที่ทันสมัย ตั้งเรียงรายตลอดเส้นทาง 2 ไมล์ อันเป็นความพิเศษที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากชีวิตกลางคืนและวัฒนธรรมที่จัดเต็ม ฟอร์ตลอเดอร์เดลยังมีหาดทรายที่สวยสดงดงาม โซนที่พักหรูหราพร้อมวิวทะเลที่น่าประทับใจ ถูกสร้างขึ้นเพื่อแทนที่โรงแรมเก่าแก่ที่เคยเป็นเสน่ห์ในอดีต เมืองนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางสำหรับทั้งการเดินเรือและกีฬาทางน้ำ โดยมีกลุ่มยอชต์ที่ตั้งเรียงตามแนวชายฝั่ง ฟอร์ตลอเดอร์เดล จึงไม่ใช่แค่จุดหมายของการท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสถานที่ที่กระตุ้นให้เกิดความตื่นเต้นแก่ผู้ที่รักในทะเลและชีวิตค่ำคืนที่มีสีสัน. หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่หลากหลายและมีความน่าหลงใหล ฟอร์ตลอเดอร์เดลจะทำให้การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะอยู่ในใจตลอดไป


ห้องพักในหมวด "巔峰套房" คือห้องที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง ห้องชุดที่เรียบหรูนี้มีห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัวขนาดเล็กที่มีไมโครเวฟและตู้เย็น รวมถึงหน้าต่างที่สูงจากพื้นถึงเพดาน ซึ่งสามารถมองออกไปยังระเบียงส่วนตัวได้ ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซส์ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย มีพื้นที่แต่งตัวแยกต่างหาก และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบจาคุซซี่ขนาดใหญ่ พร้อมกับฝักบัวและห้องอาบน้ำเพิ่มเติม ยังมีโซฟาเบดที่สามารถรองรับผู้เข้าพักได้สองคน รวมถึงห้องน้ำสำหรับแขกอีกด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องประกอบด้วยระบบเสียงส่วนตัว การเข้าถึง Neptune Lounge ที่พิเศษ บริการผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีที่หลากหลาย ห้อง "巔峰套房" มีขนาดประมาณ 1,296 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงด้วย

และนี่คือห้องพักประเภท "ห้องสวีทเนปจูน" ห้องที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างที่มีความสูงจากพื้นจนถึงเพดาน มุมมองที่สวยงามนี้มองออกไปยังระเบียงส่วนตัว ห้องมีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่พร้อมมินิบาร์และตู้เย็น โดยมีเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ “Mariner’s Dream™” พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดที่รองรับผู้เข้าพักได้สองคน ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบเจ็ตเต็มขนาดและฝักบัว ภายในห้องยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย รวมถึงการใช้บริการใน Neptune Lounge ซึ่งเป็นบริการส่วนตัวและการบริการฟรีอีกมากมาย ขนาดพื้นที่ประมาณ 558-566 ตารางฟุต รวมระเบียงด้วย

ขอต้อนรับสู่ "景致套房" ที่มอบประสบการณ์การพักผ่อนสุดหรูบนเรือสำราญ ห้องชุดที่มีระเบียงที่ปูด้วยไม้สัก พร้อมด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานและพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ ห้องพักนี้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 297-379 ตารางฟุต รวมทั้งพื้นที่ระเบียง ในห้องประกอบด้วยเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ ซึ่งคือเตียง "Mariner's Dream™" ที่มีที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำแบบน้ำวนและฝักบัว รวมถึงมินิบาร์และตู้เย็น เพื่อให้คุณสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายตลอดการเดินทางของคุณ

ห้องพักประเภท "露台" มีการออกแบบที่สะดวกสบายพร้อมประตูเลื่อนกระจกซึ่งมีกระจกสะท้อนเพื่อความเป็นส่วนตัว เปิดออกสู่ดาดฟ้าพromenade ห้องพักนี้ประกอบไปด้วยเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ พร้อมที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดคุณภาพสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ห้องพักมีขนาดประมาณ 196-240 ตารางฟุต โดยการจัดเตรียมห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้

ห้องพักประเภท "海景艙" ของเรานั้นกว้างขวางและสะดวกสบาย มีเตียงคู่สองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงคิงไซส์ขนาดหนึ่ง พร้อมด้วยเตียงฝัน Signature Mariner's Dream™ ที่นุ่มสบาย มาพร้อมกับที่นอนแบบ Euro-Top ชั้นพรีเมียมและหัวฝักบัวนวดเพื่อความผ่อนคลาย ห้องพักมีพื้นที่ประมาณ 140-319 ตารางฟุต และให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลที่งดงาม ในขณะที่คุณเพลิดเพลินกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลากหลายที่จัดเตรียมไว้ให้ สำหรับการพักผ่อนอย่างสบายๆ บนเรือที่มีความหรูหรา.

ห้องพักประเภท "艙窗" เป็นห้องที่กว้างขวาง มีพื้นที่ประมาณ 140-319 ตารางฟุต ซึ่งมาพร้อมกับเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์สุดหรู นั่นคือเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มีที่นอน Euro-Top นุ่มสบาย รวมถึงสายฝนที่นวดตัวคุณภาพสูง พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและหน้าต่างกระจกกลมที่เปิดให้ชมวิวทะเล ความสะดวกสบายและความหรูหราของห้องพักนี้ทำให้การพักผ่อนในเรือสำราญของคุณเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ห้องพักประเภทส่วนที่เห็นวิวทะเลนี้มอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร พร้อมเตียงคู่ที่สามารถปรับให้เป็นเตียงคิงไซส์ตามคอนเซ็ปต์ Mariner's Dream™ ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ในห้องพักขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุตนี้ คุณจะได้สัมผัสความสะดวกสบายและความหรูหราที่ลงตัว พร้อมวิวทะเลบางส่วนที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณพิเศษยิ่งขึ้น

ห้องพักขนาดใหญ่ประเภท "ห้องรับรองวิวทะเลที่มีอุปสรรค" มีเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย, หัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย ห้องพักนี้มีขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุต และทิวทัศน์จะถูกบดบังโดยสิ่งกีดขวาง ทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์พักผ่อนอันแสนสะดวกสบายในบรรยากาศที่หรูหรา.

ขอแนะนำห้องพักประเภท "ห้องพักภายใน" ซึ่งมีเตียงเดี่ยวสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ที่สะดวกสบาย ด้วยเตียงที่ได้รับการออกแบบเฉพาะอย่าง Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top นุ่มสบายและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ห้องพักเหล่านี้มีขนาดประมาณ 151-233 ตารางฟุต ซึ่งให้ความกว้างขวางและความสะดวกสบายในการพักผ่อน หลังจากวันอันแสนสนุกบนเรือ คุณจะได้สัมผัสกับการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมในห้องพักของเรา คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางของคุณอย่างเต็มที่