
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โวลเเดม
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์



ลูเดอritz ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลแห่งทะเลทรายหนามิบิอั้น สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของหมู่บ้านเล็กๆ ในศตวรรษที่ 19 ที่มองเห็นวิวทะเลอันวิจิตรตระการตาของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ การกลับมาของเหมืองเพชรที่อีลิซาเบธเบย์ในปีที่ผ่านมา เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้การท่องเที่ยวและการประมงกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง เพื่อนำพาความงดงามและความเป็นเอกลักษณ์ในแบบเมืองเยอรมันแห่งนี้ไปให้ทุกคนได้สัมผัส ในลูเดอritz นักท่องเที่ยวจะได้พบกับคาเฟ่ที่น่ารื่นรมย์ ร้านค้าอาหารที่หลากหลายและโบสถ์ลูเทอแรนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ธรรมชาติรอบตัวเธออัดแน่นไปด้วยชีวิตของสัตว์ทะเล นกเพนกวินและแมวน้ำที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง และยังมีชายหาดที่เต็มไปด้วยนกฟลามิงโก้ โดยคุณจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงาม อย่างไรก็ตาม ลูเดอritz ยังมีอดีตที่น่าทึ่งที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการประมง ซึ่งสามารถเล่าเรื่องราวของเมืองนี้ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1883 สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในลูเดอritz ที่ไม่เหมือนใคร พร้อมด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสวยงามและจินตนาการ รับรองว่าจะทำให้คุณมีความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน!

วอลวิสเบย์ (Walvis Bay) ท่าเรือที่เคยเป็นสถานีล่าวาฬ เป็นประตูสู่ทิวทัศน์ทะเลทรายที่งดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของนามิเบีย สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ ซึ่ที่ประทับใจที่สุดคืออ่าวลุ่มน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีความโดดเด่นในการเป็นที่พักอาศัยของนกฟลามิงโกในช่วงเวลาหนึ่งของปี นอกจากนี้ยังมีนกน้ำหลากหลายชนิด เช่น เปลิแกนขาว ที่จะทำให้ท่านประทับใจไปกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ เมื่อมุ่งเข้าสู่ภายในทุ่งทะเลทราย ท่านจะได้พบกับทะเลทรายอันน่าทึ่งของนามิบ (Namib Desert) ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึงผู้กล้าหาญที่จะเยือนซอสซุสเวลล์ (Sossusvlei) ที่มีเนินทรายสีส้มอันโดดเด่น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก สัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เมืองสวาคอปมุนด์ (Swakopmund) ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอาณานิคมให้ท่านได้ชม วอลวิสเบย์ไม่เพียงแค่ท่าเรือที่มีความสำคัญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่จะนำท่านสู่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คงจะเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในทุกการเดินทางของคุณ

บันจูล เมืองเล็กแต่มีเสน่ห์แห่งประเทศแกมเบีย เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนเกาะเซนต์แมรีส์ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำแกมเบียไหลเข้าสู่องค์มหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งแต่สมัยที่อังกฤษจัดตั้งเมืองบันจูลในต้นศตวรรษที่ 19 สิ่งที่เริ่มจากการเป็นฐานทัพทางทะเลเพื่อหยุดยั้งการค้าทาส กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง บันจูลไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการเมืองที่มีประชาธิปไตยเก่าแก่ที่สุดในแอฟริกา แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ด้วยสภาพอากาศที่เหมาะสมตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับความงดงามของชายหาดที่ทอดยาวไปตามมหาสมุทร และสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ บันจูลยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ตลาดแห่งชาติเซนต์แมรี ซึ่งเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและงานหัตถกรรม รวมถึงความสามารถในการเพลิดเพลินไปกับอาหารพื้นเมืองที่หลากหลาย จุดหมายที่ไม่ควรพลาดนี้จึงเป็นบันไดสู่การเปิดโลกใหม่ของการเดินทางในแอฟริกา ชวนให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวคุณเอง!

ดาการ์ เป็นจุดที่สวยงามตั้งอยู่ที่ปลายแหลมแคปเวิร์ต แห่งนี้คือเมืองหลวงของเซเนกัล และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานซึ่งมีเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการก่อตั้งในปี 1857 ดาการ์นับเป็นเมืองยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดในแอฟริกาตะวันตกและเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความเป็นสากลมากที่สุดในภูมิภาคนี้ ความรุ่งเรืองของดาการ์เริ่มต้นเมื่อมีการเปิดเส้นทางรถไฟดาการ์-เซนต์หลุยส์ในปี 1885 ซึ่งส่งผลให้เมืองนี้กลายเป็นฐานทัพเรือของฝรั่งเศสและในปี 1904 เป็นเมืองหลวงของภูมิภาค Afrique Occidentale Française ตัวเมืองเต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมฝรั่งเศส โดยเฉพาะในย่านพลาตอว์ (Plateau) ที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับภาคใต้ของฝรั่งเศส นอกจากความสวยงามของอาคารแล้ว ดาการ์ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวา นักท่องเที่ยวสามารถลองจิบชามิ้นต์ (Mint Tea) เมนูที่เป็นที่นิยมอย่างมาก และสนุกสนานกับการช้อปปิ้งในตลาดฝีมือที่มีสีสัน อาทิเช่น การต่อรองซื้อผ้าปัก ผลงานจากไม้ เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องประดับที่สร้างสรรค์อย่างประณีต การเดินทางมายังดาการ์คือการสัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย และประสบการณ์สุดพิเศษที่คุณจะไม่มีวันลืม

เมื่อคุณมาถึงท่าเรือ Praia บนเกาะซานติอาโกในเคปเวิร์ด คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือ Praia เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการล่องเรือสำราญของคุณ ณ ที่นี้คุณสามารถสำรวจใจกลางเมืองเก่า ที่ตั้งอยู่ริมทะเล พร้อมกับอาคารโบราณที่มีหน้าต่างทรานซั่มสไตล์โปรตุเกส สะท้อนถึงความรุ่งเรืองในอดีต สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรม คุณสามารถแวะที่พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยา ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของต้นกำเนิดที่หลากหลายของหมู่เกาะนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นมาที่หลากหลายและที่มาของผู้คนในภูมิภาคนี้ จากนั้นในช่วงเย็น คุณสามารถเดินทางไปที่ท่าเรือเพื่อเยี่ยมชมรูปปั้นของ Diogo Gomes ผู้ค้นพบหมู่เกาะนี้ในปี 1460 สัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างเคปเวิร์ดและโลกภายนอก ไม่ว่าคุณจะเดินเล่นในตลาดท้องถิ่นหรือซึมซับบรรยากาศของการเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม Praia เป็นจุดหมายที่คุณจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน สร้างแรงบันดาลใจให้คุณใฝ่ฝันถึงการเดินทางครั้งต่อไปในวันข้างหน้า!

เมื่อคุณเดินทางมาถึง Mindelo ท่าเรือแห่งวัฒนธรรมของเกาะเซนต์วินเซนต์ในประเทศเคปเวิร์ด คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสันของเมืองเก่า ฟังดนตรีมอร์นาที่ดังกังวานตามบาร์ต่าง ๆ ขณะที่คุณสัมผัสรสชาติของสุราหรือน้ำตาลจากอ้อย ที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น Mindelo โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามจากยุคอาณานิคมการเมืองจากอังกฤษและโปรตุเกส ที่สะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรม อาคารบ้านเรือนในโทนสีพาสเทลบวกกับตลาดเทศบาลที่คึกคักเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด คุณสามารถเดินชมและเลือกซื้อของฝากหรือลิ้มลองสินค้าท้องถิ่นที่อัดแน่นด้วยรสชาติและความสดใหม่ นอกจากการเดินเล่นในเมืองแล้ว ลองคิดถึงการไปเยี่ยมชมหน้าผาที่งดงามบริเวณชายฝั่งหรือล่องเรือชมวิวที่สวยงามรอบเกาะ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณ แต่ยังทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมของเกาะอย่างแท้จริง เมื่อคุณออกเดินทางจาก Mindelo คุณจะทิ้งไว้แต่ความทรงจำที่อบอุ่นและประทับใจในหัวใจของคุณตลอดไป

ท่าเรือเตเนริฟในสเปน เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่ประสบการณ์อันหลากหลายของเกาะที่มีชื่อเสียงในหมู่ผู้รักการเดินทาง เตเนริฟนั้นเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะคานารี่ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกา เมื่อเรือสำราญของคุณเทียบท่าที่นี่ คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามอันสุดล้ำ อาทิ ภูเขาเทย์เด้ (Teide) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในสเปน ความสวยงามของอุทยานแห่งชาติเทย์เด้ ที่มีทิวทัศน์ที่หลากหลายจะทำให้คุณหลงใหลอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เตเนริฟยังมีชายหาดที่สวยงาม เช่น ชายหาดลา ลามิรีม่า และซานตาครูซ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสรสชาติอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ และสนุกกับงานประเพณีท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ เมื่อเดินทางมาที่ท่าเรือเตเนริฟ คุณจะได้เปิดประตูสู่ประสบการณ์อันน่าจดจำ ที่จะทำให้หัวใจของคุณรู้สึกกระตือรือร้นกับความงดงามอันหลากหลายของสเปน อย่าพลาดโอกาสในการสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืมในจุดหมายอันแสนพิเศษแห่งนี้!
ลาส ปัลมาส เดอ กราน คานาเรีย เป็นท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเกาะกราน คานาเรีย ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเกาะที่สวยงามที่สุดในหมู่เกาะคานารี ตั้งอยู่ใจกลางของเกาะ มีกระแสน้ำอุ่นและภูมิอากาศเขตร้อนที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เมื่อคุณมาถึงลาส ปัลมาส คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบระหว่างความงดงามของธรรมชาติและความคึกคักของเมืองหลวง สำรวจย่านเก่าแก่ Vegueta และ Triana ที่มีอายุกว่าศตวรรษที่ 15 ที่นี่คุณจะได้พบกับอาคารประวัติศาสตร์ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ในขณะเดียวกัน ชายหาดที่งดงามและภูมิทัศน์ของภูเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ลองเยี่ยมชมและสัมผัสกับผลไม้และต้นปาล์มที่เติบโตในสภาพอากาศที่น่าทึ่งนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่เกาะแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้ผู้มาเยือนหลงใหลเสมอ เมื่อล่องเรือมาถึงลาส ปัลมาส เดอ กราน คานาเรีย คุณจะได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม โดยเชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมที่จัดเต็มให้กับคุณในการเดินทางครั้งนี้อย่างแท้จริง

ลันซาโรเต (Lanzarote) เป็นเกาะที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามแห่งหนึ่งในสเปน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ชีวมณฑลยูเนสโก (UNESCO Biosphere Reserve) เกาะนี้มีภูมิประเทศที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต จึงมีลักษณะพื้นผิวที่โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ตลอดชายหาดที่สวยงามและสภาพอากาศที่แทบไม่มีฝน ทำให้ลันซาโรเตกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ท่าเรือหลักและเมืองหลวงของเกาะคือ อาเรซีเฟ (Arrecife) นั้นมีบรรยากาศที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยสวนสวยและริมน้ำที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่รอบเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอ่งเกลือจานูเบียนที่มีสีขาวสว่างและภูเขาไฟไฟร์ที่มีทิวทัศน์ที่ดึงดูด ขับรถออกไปจากตัวเมืองก็จะพบกับถ้ำโลสเวอร์เดสที่มีบรรยากาศน่าขนลุก รวมถึงหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงสงบเงียบซึ่งถูกประดับแต่งด้วยความงามธรรมชาติ นอกจากนี้ เกาะลันซาโรเตยังเป็นที่รู้จักในด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งรวมถึงถั่วชิกพีสตูว์ (garbanzos compuestos) และมันฝรั่งกับผัก (papas arrugadas) ที่รสชาติสดใส ก่อนออกไปสำรวจ ให้ระวังโปรแกรมทัวร์ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลือนในเกาะแห่งนี้อย่างเต็มที่

ท่าเรือคาซาบลังกาในโมร็อกโกคือหนึ่งในท่าเรือที่มีชีวิตชีวาที่สุดในโลกที่นักเดินทางหรูหราต้องไม่พลาด เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่าสู่เมืองคาซาบลังกา นอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือแล้ว ยังสามารถลุยสำรวจเสน่ห์ของตัวเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมยุโรป แอฟริกัน และอาหรับได้อย่างลงตัว การเดินผ่านเมืองท่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตเดโคและโคโลเนียลฝรั่งเศส คุณจะรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในภาพยนตร์คลาสสิก ด้วยอาคารเก่าแก่ ราคาเรื่อยๆ ของตลาดซูคที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้ค้าในตลาดเหล่านี้จะส่งเสียงเรียกนักท่องเที่ยวด้วยความกระตือรือร้น สร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและน่าตื่นตาตื่นใจ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งคือเมืองเก่าเมดิน่า ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ด้วยมัสยิดและบ้านเรือนที่สร้างขึ้นในสมัยของโมฮัมเหม็ด เบน อับดัลลาห์ ซึ่งคุณจะได้พบกับความงดงามของประวัติศาสตร์ ความหลากหลายของวัฒนธรรม และการต้อนรับอันอบอุ่นของชาวโมร็อกโก เมื่อมาเยือนคาซาบลังกาในครั้งนี้ คุณจะได้ค้นพบความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในมุมต่างๆ ของเมืองนี้ และดื่มด่ำกับประสบการณ์สุดพิเศษที่จะตราตรึงอยู่ในใจตลอดไป

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา

ท่าเรือที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่าง "โอปอร์ตู" (Oporto) คือเมืองที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส รองจากลิสบอน เมืองนี้มักถูกเรียกสั้นๆ ว่า "ปอร์โต" ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงองุ่นส่งตรงสำหรับผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือโอปอร์ตูตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดรู และมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่อดีต เมื่อชาวโรมันสร้างป้อมปราการที่นี่ เพื่อควบคุมเส้นทางการค้า ด้วยการที่เมืองนี้คือจุดแวะสำคัญสำหรับเหล่าผู้จาริกแสวงบุญในอดีต ทำให้โอปอร์ตูร่ำรวยจากการค้าและการค้นพบทางทะเลในศตวรรษที่ 15 และ 16 การค้าขายไวน์พอร์ตกับอังกฤษในภายหลังยังทำให้เมืองนี้เกิดการเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสะพานที่สวยงามข้ามแม่น้ำโดรู เสน่ห์ของย่านริมน้ำที่มีชีวิตชีวา และโรงไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการค้นหาความงามของโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกมุมเมือง

บิลบาว (Bilbao) เมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ ของประเทศสเปน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะและสถาปัตยกรรมได้สร้างความโดดเด่นให้กับเมืองนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) ที่ออกแบบโดย Frank Gehry เมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว สถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟใต้ดินที่ออกแบบโดย Norman Foster และสวนสาธารณะ Abandoibarra ก็เป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดในการเยือนเมืองนี้ อย่าลืมเดินชมย่านเก่าของบิลบาวที่เรียกว่า "คาสโก วิเอโก" (Casco Viejo) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีเสน่ห์ แถมยังมีตลาดกลางแจ้งที่ Plaza Nueva ซึ่งจัดขึ้นทุกเช้าวันอาทิตย์ ในการเดินเล่นริมแม่น้ำเนร์บิโอ (Nervión) คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันงดงาม ที่มีความรุ่งเรืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน สำหรับผู้หลงใหลในอาหาร บิลบาวมีชื่อเสียงด้านความอร่อย โดยเฉพาะอาหารบาสก์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และหากมีโอกาส อย่าลืมขึ้นรถราง Euskotram เพื่อสัมผัสการเดินทางริมแม่น้ำใจกลางเมือง มาร่วมตะลุยและค้นพบความงดงามของบิลบาว ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต!


ท่าเรือเชอร์บูร์ก (Cherbourg) ตั้งอยู่ในภูมิภาคนอร์มังดีของฝรั่งเศส เป็นท่าเรือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งถูกออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง วอโบแซง ตั้งแต่เริ่มต้นในอดีตที่เป็นแค่หมู่บ้านชาวประมง เชอร์บูร์กได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นท่าเรือเชิงประวัติศาสตร์ที่สำคัญ โดยเฉพาะในช่วงสงครามนโปเลียน ความสวยงามของท่าเรือนี้ยิ่งได้รับการยกระดับเมื่อรวมกับชายฝั่งที่งดงามและทิวทัศน์ของนาใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยบ้านช่องครึ่งไม้ที่งดงาม นอกจากท่าเรือที่มีมาตรฐานสูงและท่าเรือยอชต์ขนาดใหญ่แล้ว เชอร์บูร์กยังมีที่เที่ยวชวนให้หลงใหลมากมาย เช่น อบลุกซ์ (Abbeys) และปราสาท (Châteaux) ที่ประกอบไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ชายหาดที่รายล้อมด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เช่น แหลมคาป เดอ ลา ฮาเก (Cap de la Hague) และพอยต์เดอ บาร์เฟอร์ลูร์ (Pointe de Barfleur) ยังช่วยเติมเต็มความสวยงามให้แก่ภูมิภาคนี้ เชอร์บูร์กยังเป็นที่รู้จักในฐานะท่าเรือแรกที่เรือ RMS Titanic แวะจอดหลังออกจากซาวธแธมป์ตัน ประเทศอังกฤษ และยังมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ในสงคราม ช่วยทำให้ท่าเรือนี้เป็นสถานที่ที่มีทั้งประวัติศาสตร์และความงดงามรอให้นักเดินทางมาเยี่ยมชมและสัมผัสประสบการณ์ที่น่าพินิจพิเคราะห์

เมื่อพูดถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ หลายคนอาจนึกถึงภาพของคลองสวยงามและมิลล์ลที่เคลื่อนตัวไปตามลม แต่ถ้าคุณเยี่ยมชมที่ท่าเรือรอตเตอร์ดัม คุณจะได้สัมผัสกับอีกด้านหนึ่งของความงดงามและเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากเดิม รอตเตอร์ดัมคือเมืองที่รวมเอาความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ตั้งอยู่เป็นหนึ่งในท่าเรือที่วุ่นวายที่สุดในโลก เมื่อคุณเดินทางมายังรอตเตอร์ดัม นอกจากการสำรวจท่าเรืออันกว้างใหญ่แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้คุณได้สัมผัส เริ่มจากสถาปัตยกรรมอันล้ำสมัย ที่สามารถพบเห็นได้ตามตึกสูงต่างๆ เช่น 'Euromast' ที่เปิดโอกาสให้คุณได้ชมวิวเมืองจากมุมสูง นอกจากนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์ Boijmans Van Beuningen ที่นำเสนอผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดัง นอกจากเรื่องวัฒนธรรมแล้ว รอตเตอร์ดัมยังเป็นสวรรค์สำหรับนักชิม ด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมายที่เสิร์ฟเมนูต้นตำรับจากเนเธอร์แลนด์และนานาชาติ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ชิมที่หลากหลาย พร้อมกับบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เยี่ยมชมรอตเตอร์ดัม เพื่อค้นพบความงามในรูปแบบใหม่ๆ เสพสุขไปกับการเดินทางที่น่าจดจำในเมืองที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจนี้

ออสโล เมืองหลวงของนอร์เวย์และเมืองที่ใหญ่ที่สุด ตั้งอยู่ที่ปลายฟยอร์ดออสโลที่งดงาม ท่ามกลางภูเขาและป่าไม้ที่เขียวชอุ่ม เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของศิลปะและวัฒนธรรม โดยมีพิพิธภัณฑ์กว่า 50 แห่ง ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีคำว่า “ศิลปะ” ที่พร้อมให้คุณค้นพบ ไม่ว่าจะเป็นแกลเลอรีสุดหรู สวนประติมากรรมอันงดงาม หรือแม้แต่พระราชวังอันวิจิตร ออสโลยังมีอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ศตวรรษที่ 19 ที่สวยงาม ประกอบกับถนนกว้างขวาง ทําให้การสำรวจเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ประวัติศาสตร์ของออสโลยาวนานกว่า 1,000 ปี ซึ่งเต็มไปด้วยมรดกทางการเดินเรือจากยุคไวกิ้งจนถึงการผจญภัยของธอร์ เฮเยอร์ดาห์ล ผู้ที่โด่งดังจากการเดินทางด้วยเรือคอนทิกิ ให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของออสโลผ่านทริปสุดพิเศษที่เรานำเสนอ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นการเดินทางของคุณในเมืองที่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะ ออสโลจะเปิดประตูให้คุณเข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความสวยงามและเรื่องราวที่น่าทึ่ง.


ออร์ฮุส (Aarhus) เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเดนมาร์ก ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ด้วยวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวาและบรรยากาศที่เป็นกันเอง เมืองนี้โดดเด่นด้วยคลองออร์ฮุส (Århus Å) ที่ตัดผ่านกลางเมือง ซึ่งเมื่อก่อนเคยถูกปิดซ่อนอยู่ใต้ดิน แต่ได้ถูกเปิดเผยให้เห็นอีกครั้งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ตลอดแนวคลอง คุณจะพบกับบาร์ ร้านกาแฟ และร้านอาหารสมัยใหม่ที่เรียงรายอยู่ริมฝั่ง ผู้คนจะมาใช้เวลานั่งพักผ่อนและเพลิดเพลินกับบรรยากาศที่อบอุ่นในทุกช่วงเวลา ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ นอกจากนี้ ที่สำนักงานการท่องเที่ยว VisitÅrhus ยังมีข้อมูลเกี่ยวกับ 'Århus Passport' ซึ่งเป็นบัตรที่ช่วยให้คุณสามารถใช้บริการรถบัสได้ฟรี หรือเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังที่สุดในเมืองได้ในราคาไม่แพง ทั้งนี้ ออร์ฮุสยังเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์ Aros ที่มีงานศิลปะร่วมสมัยที่น่าทึ่งและวิวเมืองที่สวยงามจากจุดชมวิวอีกด้วย เมืองแห่งศิลปะนี้คือจุดที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่หลากหลายและน่าจดจำในยุโรป!
ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!

ซานฮวน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเปอร์โตริโก ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ติดทะเลอาตแลนติกซึ่งค้นพบโดยนักสำรวจ ฮวน ปอนเซ เด ลีออน เมื่อปี ค.ศ. 1508 เมืองนี้ส่องประกายทั้งในด้านสถาปัตยกรรมอันงดงามจากยุคอาณานิคมและความทันสมัย มีพื้นที่ที่น่าหลงใหลอย่าง Old San Juan ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยโดดเด่นด้วยถนนหินทรายและอาคารที่มีสีสัน อนุสรณ์สถานเช่น Castillo San Felipe del Morro ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น ซานฮวนไม่ได้มีดีแค่ส่วนที่เป็นประวัติศาสตร์ ยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาสำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนท้องถิ่น สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยชายหาดสวยงาม, คลับเสียงดังกระหึ่ม, ร้านอาหารระดับโลก, และพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ที่นำเสนอวัฒนธรรมและศิลปะหลากหลาย ประสบการณ์นี้ทำให้การเยือนซานฮวนไม่เป็นเพียงแค่การได้เที่ยวชมเมือง แต่คือการได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอันหลากหลายและเต็มไปด้วยสีสัน เมื่อคุณย่างก้าวเข้ามาในเมืองนี้ จะมีเสน่ห์ที่ทำให้คุณหลงใหลและรู้สึกอยากกลับมาอีกครั้ง ด้วยวัฒนธรรมที่เข้มข้นและความงดงามที่รอคอยให้คุณค้นพบ ร่วมสร้างความทรงจำในซานฮวน เพื่อตอบโจทย์ความฝันในการเดินทางที่ทุกคนใฝ่หา.

ฟอร์ตลอเดอร์เดล เมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ในรัฐฟลอริด้า คือจุดหมายปลายทางที่แสนงดงามและมีชีวิตชีวา เหมาะแก่การสำรวจและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ริมชายหาดที่สวยงาม คุณจะได้พบกับลาดยาโอลาส (Las Olas Boulevard) ที่เป็นศูนย์กลางของชีวิตเมือง มีร้านค้า บูติก และคาเฟ่ที่ทันสมัย ตั้งเรียงรายตลอดเส้นทาง 2 ไมล์ อันเป็นความพิเศษที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากชีวิตกลางคืนและวัฒนธรรมที่จัดเต็ม ฟอร์ตลอเดอร์เดลยังมีหาดทรายที่สวยสดงดงาม โซนที่พักหรูหราพร้อมวิวทะเลที่น่าประทับใจ ถูกสร้างขึ้นเพื่อแทนที่โรงแรมเก่าแก่ที่เคยเป็นเสน่ห์ในอดีต เมืองนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางสำหรับทั้งการเดินเรือและกีฬาทางน้ำ โดยมีกลุ่มยอชต์ที่ตั้งเรียงตามแนวชายฝั่ง ฟอร์ตลอเดอร์เดล จึงไม่ใช่แค่จุดหมายของการท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสถานที่ที่กระตุ้นให้เกิดความตื่นเต้นแก่ผู้ที่รักในทะเลและชีวิตค่ำคืนที่มีสีสัน. หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่หลากหลายและมีความน่าหลงใหล ฟอร์ตลอเดอร์เดลจะทำให้การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะอยู่ในใจตลอดไป


ห้องพักในหมวด "巔峰套房" คือห้องที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่าง ห้องชุดที่เรียบหรูนี้มีห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัวขนาดเล็กที่มีไมโครเวฟและตู้เย็น รวมถึงหน้าต่างที่สูงจากพื้นถึงเพดาน ซึ่งสามารถมองออกไปยังระเบียงส่วนตัวได้ ห้องนอนมีเตียงขนาดคิงไซส์ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย มีพื้นที่แต่งตัวแยกต่างหาก และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำแบบจาคุซซี่ขนาดใหญ่ พร้อมกับฝักบัวและห้องอาบน้ำเพิ่มเติม ยังมีโซฟาเบดที่สามารถรองรับผู้เข้าพักได้สองคน รวมถึงห้องน้ำสำหรับแขกอีกด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องประกอบด้วยระบบเสียงส่วนตัว การเข้าถึง Neptune Lounge ที่พิเศษ บริการผู้ช่วยส่วนตัว และบริการฟรีที่หลากหลาย ห้อง "巔峰套房" มีขนาดประมาณ 1,296 ตารางฟุต รวมถึงระเบียงด้วย

และนี่คือห้องพักประเภท "ห้องสวีทเนปจูน" ห้องที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงสว่างจากหน้าต่างที่มีความสูงจากพื้นจนถึงเพดาน มุมมองที่สวยงามนี้มองออกไปยังระเบียงส่วนตัว ห้องมีพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่พร้อมมินิบาร์และตู้เย็น โดยมีเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ “Mariner’s Dream™” พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย และยังมีห้องแต่งตัวแยกต่างหาก นอกจากนี้ยังมีโซฟาเบดที่รองรับผู้เข้าพักได้สองคน ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบเจ็ตเต็มขนาดและฝักบัว ภายในห้องยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย รวมถึงการใช้บริการใน Neptune Lounge ซึ่งเป็นบริการส่วนตัวและการบริการฟรีอีกมากมาย ขนาดพื้นที่ประมาณ 558-566 ตารางฟุต รวมระเบียงด้วย

ขอต้อนรับสู่ "景致套房" ที่มอบประสบการณ์การพักผ่อนสุดหรูบนเรือสำราญ ห้องชุดที่มีระเบียงที่ปูด้วยไม้สัก พร้อมด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานและพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ ห้องพักนี้มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 297-379 ตารางฟุต รวมทั้งพื้นที่ระเบียง ในห้องประกอบด้วยเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ ซึ่งคือเตียง "Mariner's Dream™" ที่มีที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำแบบน้ำวนและฝักบัว รวมถึงมินิบาร์และตู้เย็น เพื่อให้คุณสามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายตลอดการเดินทางของคุณ

ห้องพักประเภท "露台" มีการออกแบบที่สะดวกสบายพร้อมประตูเลื่อนกระจกซึ่งมีกระจกสะท้อนเพื่อความเป็นส่วนตัว เปิดออกสู่ดาดฟ้าพromenade ห้องพักนี้ประกอบไปด้วยเตียงขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงควีนไซส์ได้ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ พร้อมที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดคุณภาพสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ห้องพักมีขนาดประมาณ 196-240 ตารางฟุต โดยการจัดเตรียมห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้

ห้องพักประเภท "海景艙" ของเรานั้นกว้างขวางและสะดวกสบาย มีเตียงคู่สองเตียงที่สามารถปรับเป็นเตียงคิงไซส์ขนาดหนึ่ง พร้อมด้วยเตียงฝัน Signature Mariner's Dream™ ที่นุ่มสบาย มาพร้อมกับที่นอนแบบ Euro-Top ชั้นพรีเมียมและหัวฝักบัวนวดเพื่อความผ่อนคลาย ห้องพักมีพื้นที่ประมาณ 140-319 ตารางฟุต และให้คุณได้สัมผัสกับวิวทะเลที่งดงาม ในขณะที่คุณเพลิดเพลินกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลากหลายที่จัดเตรียมไว้ให้ สำหรับการพักผ่อนอย่างสบายๆ บนเรือที่มีความหรูหรา.

ห้องพักประเภท "艙窗" เป็นห้องที่กว้างขวาง มีพื้นที่ประมาณ 140-319 ตารางฟุต ซึ่งมาพร้อมกับเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์สุดหรู นั่นคือเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มีที่นอน Euro-Top นุ่มสบาย รวมถึงสายฝนที่นวดตัวคุณภาพสูง พร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยและหน้าต่างกระจกกลมที่เปิดให้ชมวิวทะเล ความสะดวกสบายและความหรูหราของห้องพักนี้ทำให้การพักผ่อนในเรือสำราญของคุณเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

ห้องพักประเภทส่วนที่เห็นวิวทะเลนี้มอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร พร้อมเตียงคู่ที่สามารถปรับให้เป็นเตียงคิงไซส์ตามคอนเซ็ปต์ Mariner's Dream™ ซึ่งมีที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ในห้องพักขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุตนี้ คุณจะได้สัมผัสความสะดวกสบายและความหรูหราที่ลงตัว พร้อมวิวทะเลบางส่วนที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณพิเศษยิ่งขึ้น

ห้องพักขนาดใหญ่ประเภท "ห้องรับรองวิวทะเลที่มีอุปสรรค" มีเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ ซึ่งเป็นเตียง Signature Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย, หัวฝักบัวนวดระดับพรีเมียม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย ห้องพักนี้มีขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุต และทิวทัศน์จะถูกบดบังโดยสิ่งกีดขวาง ทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์พักผ่อนอันแสนสะดวกสบายในบรรยากาศที่หรูหรา.

ขอแนะนำห้องพักประเภท "ห้องพักภายใน" ซึ่งมีเตียงเดี่ยวสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ที่สะดวกสบาย ด้วยเตียงที่ได้รับการออกแบบเฉพาะอย่าง Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top นุ่มสบายและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ห้องพักเหล่านี้มีขนาดประมาณ 151-233 ตารางฟุต ซึ่งให้ความกว้างขวางและความสะดวกสบายในการพักผ่อน หลังจากวันอันแสนสนุกบนเรือ คุณจะได้สัมผัสกับการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมในห้องพักของเรา คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางของคุณอย่างเต็มที่