
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เวสต์แฮม
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ย่านโยโกฮาม่า ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับโลกตะวันตกเกิดขึ้นที่นี่ในปี 1853 เมื่อเรือรบของสหรัฐฯ เข้าท่าและนำพาความท้าทายในการเปิดประเทศ ซึ่งนั้นได้นำไปสู่การพัฒนาอย่างรวดเร็วของโยโกฮาม่า ที่เคยเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง ในปี 1859 โยโกฮาม่าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่าข้ามแดนซึ่งมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ ในยุคที่ท่าเรือแห่งนี้เติบโตขึ้น โยโกฮาม่าได้เป็นศูนย์กลางแห่งการค้าของเอเชียตะวันออก แต่ในปี 1923 เกิดแผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหายอย่างมากก่อนที่เมืองจะฟื้นฟูในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และกลายเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ปัจจุบัน โยโกฮาม่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ย่านไชน่าทาวน์ อุทยานโยมาชิตะ และลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเลได้อย่างดี นอกจากนี้ ชิน-โยโกฮาม่า สถานีรถไฟที่เชื่อมโยงเมืองแห่งนี้กับโตเกียวเป็นอีกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ทั้งนี้การเดินทางมายังโยโกฮาม่าง่าย สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นที่คุณจะไม่มีวันลืม

ท่าเรือโคจิ (Kochi Port) ในประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งอยู่ในภูมิภาคชิโกะกุ ท่าเรือนี้เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญสำหรับการเดินเรือสำราญ โดยมีการให้บริการที่สะดวกสบายและบริการต่าง ๆ ที่ครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ เมื่อมาถึงโคจิ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวเด่น เช่น ปราสาทโคจิที่สวยงามซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยยังคงความงดงามในสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งยังมีสวนปราสาทที่ร่มรื่นเหมาะแก่การเดินเล่นและสัมผัสบรรยากาศ นอกจากนี้ ตลาดสดโคจิ (Kochi Sunday Market) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ที่นี่คุณจะได้สัมผัสชีวิตประจำวันของคนท้องถิ่น พร้อมซื้อของฝากที่มีชื่อเสียง เช่น ผลไม้สดและของทำมือที่สร้างจากวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่เพียงแค่ท่าสำหรับการหยุดพักของเรือสำราญ โคจิยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติที่น่าหลงใหล นับเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางที่หรูหราและน่าจดจำในประเทศญี่ปุ่น ด้วยเสน่ห์อันยิ่งใหญ่และเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ทำให้โคจิเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต

การเดินทางมายังท่าเรือคาโกชิมะ ประเทศญี่ปุ่น คือการเริ่มต้นค้นพบเสน่ห์อันหลากหลายของเมืองเอกแห่งจังหวัดคาโกชิมะ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะคิวชู เมืองคาโกชิมะมีภูมิอากาศที่อบอุ่นและมีภาพลักษณ์ที่เปรียบเสมือนกับเมืองเนเปิลส์ในอิตาลี เนื่องจากมีภูเขาไฟซากุระจิม่าที่มีชื่อเสียงและเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของภูมิภาคนี้ ซากุระจิม่าซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ ได้มีประวัติศาสตร์การปะทุอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 1914 เคยเป็นเกาะที่แยกตัวออกมาแต่ได้เชื่อมต่อกับคาบสมุทรโอโซมิหลังจากการปะทุ เมื่อมาเยือนที่นี่ คุณอาจจะโชคดีได้เห็นควันพวยพุ่งจากยอดเขาในขณะอากาศเอื้ออำนวย นอกจากซากุระจิม่าที่แสดงถึงความงามของเมืองคาโกชิมะแล้ว สวนเซงังเอนก็ถือเป็นอีกหนึ่งมรดกอันล้ำค่า สร้างขึ้นโดยซามูไรมิตสึฮิสะ ชิมาซุ เพื่อเป็นที่พักอาศัยของเจ้านาย สวนญี่ปุ่นแห่งนี้มีทิวทัศน์ที่งดงามดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เปิดประสบการณ์ในการสำรวจวัฒนธรรมและธรรมชาติที่คาโกชิมะซึ่งจะทำให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของญี่ปุ่นใต้ ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการเดินเล่นในสวน หรือการสำรวจสถานที่ทางประวัติศาสตร์ คาโกชิมะย่อมเปิดโอกาสใหม่ซึ่งคุณไม่ควรพลาด!

นากาซากิ เมืองท่าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ได้รับการยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศในยุคที่ประเทศญี่ปุ่นปิดประเทศในศตวรรษที่ 17 ซึ่งมีเพียงไม่กี่ท่าเรือที่เปิดให้กับการค้าระหว่างประเทศ เมืองแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในความสัมพันธ์ทางการค้ากับฮอลแลนด์ และเป็นที่ตั้งของเกาะเดชิมะ ซึ่งฮอลันดาเป็นเพียงชาติเดียวที่อนุญาตให้อยู่และดำเนินการค้าในเงื่อนไขที่เข้มงวด โดยไม่สามารถติดต่อกับชาวญี่ปุ่นได้อย่างเสรี นอกจากมรดกทางวัฒนธรรมที่หลงเหลือจากชาวดัตช์และจีนแล้ว นากาซากิยังเป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจในการตระหนักถึงสันติภาพ หลังจากที่ถูกทำลายในเหตุการณ์ระเบิดนิวเคลียร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นเมืองที่สองที่ได้รับผลกระทบจากสงครามหลังฮิโรชิมา การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ระเบิดนิวเคลียร์และอุทยานอนุสรณ์สันติภาพ จะทำให้ท่านสัมผัสถึงเรื่องราวและความเจ็บปวดที่ประชาชนเคยประสบมา นากาซากิจึงไม่เพียงแค่เป็นเมืองท่าสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสถานที่แห่งความหวังและความปรารถนาเพื่อสันติภาพในโลกอีกด้วย สำรวจความงดงามและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของนากาซากิ แล้วพบกับประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมในระหว่างการเดินทางของคุณ ที่นี่คือปลายทางที่สร้างแรงบันดาลใจและมอบความทรงจำที่ยั่งยืนให้กับผู้มาเยือนทุกคน.


เมื่อคุณก้าวเท้าเข้าสู่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามที่ผสานระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมอย่างลงตัว ท่าเรือปูซาน ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือที่คึกคักที่สุดในเอเชีย เสนอประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยชายหาดทรายขาวอันงดงามและบ่ออนเซ็นที่มอบความผ่อนคลายตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูร้อน ชายหาดของปูซานเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวตลอดเพราะความสดชื่นของทรายและน้ำทะเลที่ใส แต่สำหรับคนรักศิลปะและภาพยนตร์ เดือนตุลาคมจะเป็นช่วงเวลาที่พลาดไม่ได้ เนื่องจากการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ที่นี่คุณจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของภูมิทัศน์ urban ที่รวมตัวกันของภาพยนตร์จากทั่วทุกมุมโลก ิคุมขลังของปูซานยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ การเยี่ยมชมวัดเบอมยอซาน ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและสถาปัตยกรรมน่าทึ่ง เป็นประสบการณ์ที่ทำให้คุณเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมเกาหลีได้อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ยังมีสปาท้องถิ่นที่นำเสนอการบำบัดด้วยน้ำแร่ที่เป็นเอกลักษณ์ มาสำรวจปูซาน ท่าเรือแห่งความสุขที่เต็มไปด้วยอรรถรสที่คุณไม่ควรพลาด!

ฟุกุโอกะ เมืองที่สวยงามและมีเสน่ห์แห่งญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนเกาะคิวชู และเป็นหนึ่งในจุดลงเรือสำราญที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงญี่ปุ่น เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานและวัฒนธรรมที่หลากหลาย พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ ท่าเรือฟุกุโอกะเป็นจุดเริ่มต้นที่สะดวกสบายสำหรับการสำรวจเมืองและแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง อีกทั้งยังมีบริการขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว และสะดวกสบาย หนึ่งในสถานที่ที่ต้องแวะเยี่ยมชมคือสวนโอฮาระ สวนสวยที่มีต้นซากุระบานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ ช้อปปิ้งในย่านรอบๆ เช่น ย่านเท็นจิน จะทำให้คุณได้สัมผัสกับสินค้าท้องถิ่นและขนมหวานชื่อดังอย่างโมจิฟุกุโอกะ การลิ้มลองราเม็งฟุกุโอกะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นประสบการณ์ที่ห้ามพลาด นอกจากนี้ยังมีงานเทศกาลเบียร์ฟุกุโอกะ ที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมการดื่มที่เข้มข้นของเมืองนี้ ฟุกุโอกะคือจุดหมายที่มอบประสบการณ์อันหลากหลายและไม่เหมือนใคร ช่วยให้คุณสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในระหว่างการเดินทางของคุณในญี่ปุ่น

โคเบะ (Kobe) ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลในของญี่ปุ่น เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญและมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งแต่เปิดรับนักค้าและนักลงทุนต่างชาติในปี 1868 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดประเทศญี่ปุ่นสู่โลกภายนอก ทำให้โคเบะกลายเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างเด่นชัด ปัจจุบันมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ถึง 98 ประเทศ ทำให้สามารถสัมผัสประสบการณ์การชิมอาหารนานาชาติ รวมถึงเนื้อโกเบที่มีชื่อเสียงในระดับโลก แม้ว่าแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1995 จะทำให้โคเบะต้องเผชิญกับความเสียหายอย่างหนัก แต่เมืองนี้ได้ฟื้นฟูและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ และแหล่งช้อปปิ้งที่มีชีวิตชีวา หลากหลายพิพิธภัณฑ์ และร้านอาหารคุณภาพ โดยท่าเรือโคเบะยังคงเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางการค้าและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ โคเบะยังเป็นประตูสู่เมืองโบราณที่สำคัญอย่างเกียวโตและนารา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในบรรยากาศที่สงบและงดงามได้ ด้วยแสงสีของชีวิตยามค่ำคืนในบาร์อบอุ่นและไนท์คลับหรูหรา โคเบะจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ใหม่ในญี่ปุ่น

ย่านโยโกฮาม่า ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับโลกตะวันตกเกิดขึ้นที่นี่ในปี 1853 เมื่อเรือรบของสหรัฐฯ เข้าท่าและนำพาความท้าทายในการเปิดประเทศ ซึ่งนั้นได้นำไปสู่การพัฒนาอย่างรวดเร็วของโยโกฮาม่า ที่เคยเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง ในปี 1859 โยโกฮาม่าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่าข้ามแดนซึ่งมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ ในยุคที่ท่าเรือแห่งนี้เติบโตขึ้น โยโกฮาม่าได้เป็นศูนย์กลางแห่งการค้าของเอเชียตะวันออก แต่ในปี 1923 เกิดแผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหายอย่างมากก่อนที่เมืองจะฟื้นฟูในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และกลายเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ปัจจุบัน โยโกฮาม่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ย่านไชน่าทาวน์ อุทยานโยมาชิตะ และลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเลได้อย่างดี นอกจากนี้ ชิน-โยโกฮาม่า สถานีรถไฟที่เชื่อมโยงเมืองแห่งนี้กับโตเกียวเป็นอีกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ทั้งนี้การเดินทางมายังโยโกฮาม่าง่าย สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นที่คุณจะไม่มีวันลืม

โคเบะ (Kobe) ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลในของญี่ปุ่น เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญและมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งแต่เปิดรับนักค้าและนักลงทุนต่างชาติในปี 1868 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดประเทศญี่ปุ่นสู่โลกภายนอก ทำให้โคเบะกลายเป็นเมืองที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างเด่นชัด ปัจจุบันมีชาวต่างชาติอาศัยอยู่ถึง 98 ประเทศ ทำให้สามารถสัมผัสประสบการณ์การชิมอาหารนานาชาติ รวมถึงเนื้อโกเบที่มีชื่อเสียงในระดับโลก แม้ว่าแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1995 จะทำให้โคเบะต้องเผชิญกับความเสียหายอย่างหนัก แต่เมืองนี้ได้ฟื้นฟูและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ และแหล่งช้อปปิ้งที่มีชีวิตชีวา หลากหลายพิพิธภัณฑ์ และร้านอาหารคุณภาพ โดยท่าเรือโคเบะยังคงเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางการค้าและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ โคเบะยังเป็นประตูสู่เมืองโบราณที่สำคัญอย่างเกียวโตและนารา ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปสัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในบรรยากาศที่สงบและงดงามได้ ด้วยแสงสีของชีวิตยามค่ำคืนในบาร์อบอุ่นและไนท์คลับหรูหรา โคเบะจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์ใหม่ในญี่ปุ่น

ท่าเรือโคจิ (Kochi Port) ในประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งอยู่ในภูมิภาคชิโกะกุ ท่าเรือนี้เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญสำหรับการเดินเรือสำราญ โดยมีการให้บริการที่สะดวกสบายและบริการต่าง ๆ ที่ครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ เมื่อมาถึงโคจิ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวเด่น เช่น ปราสาทโคจิที่สวยงามซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยยังคงความงดงามในสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งยังมีสวนปราสาทที่ร่มรื่นเหมาะแก่การเดินเล่นและสัมผัสบรรยากาศ นอกจากนี้ ตลาดสดโคจิ (Kochi Sunday Market) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ที่นี่คุณจะได้สัมผัสชีวิตประจำวันของคนท้องถิ่น พร้อมซื้อของฝากที่มีชื่อเสียง เช่น ผลไม้สดและของทำมือที่สร้างจากวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่เพียงแค่ท่าสำหรับการหยุดพักของเรือสำราญ โคจิยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติที่น่าหลงใหล นับเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางที่หรูหราและน่าจดจำในประเทศญี่ปุ่น ด้วยเสน่ห์อันยิ่งใหญ่และเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ทำให้โคจิเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต

ฮิโรชิม่า เมืองที่เคยประสบกับความหายนะในปี 1945 กลับฟื้นตัวขึ้นมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความประทับใจและความมุ่งมั่นเพื่อสันติภาพ ความสำคัญของเมืองนี้สะท้อนให้เห็นในอนุสรณ์สถานสันติภาพที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก ที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในสวนสันติภาพซึ่งประดับประดาด้วยต้นไม้เขียวขจี และเฝ้าชมเปลวไฟแห่งสันติภาพที่ส่องสว่างตลอดไป จนกว่าระเบิดปรมาณูทั่วโลกจะถูกทำลาย นอกจากนี้ ยังมีอนุสาวรีย์เด็กผู้ให้ความหวังอย่างอนุสาวรีย์เด็กสาวซาดาโกะ สะซากิ ที่เป็นสัญลักษณ์ของความหวังและความอดทน เรื่องราวของเธอได้รับการถ่ายทอดถึงความสำคัญของการต่อสู้ที่ไม่สิ้นสุดเพื่ออนาคต การเยือนฮิโรชิม่าไม่ได้มีเพียงความรู้สึกถึงอดีตที่ส่งผลกระทบ แต่ยังเปิดประสบการณ์ใหม่ไปยังแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารริมถนนที่มีชีวิตชีวา คุณยังไม่ควรพลาดการเดินทางไปยังเกาะมิยาจิมะที่มีประตูโทริอิสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ หากคุณมีโอกาสได้ไปเยือนในช่วงที่ซากุระบานสะพรั่ง ภาพของดอกไม้สีชมพูที่ลอยละลิ่วบนผืนน้ำจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้สัมผัสความงดงามที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีก

เมื่อคุณก้าวเท้าเข้าสู่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามที่ผสานระหว่างธรรมชาติและวัฒนธรรมอย่างลงตัว ท่าเรือปูซาน ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือที่คึกคักที่สุดในเอเชีย เสนอประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยชายหาดทรายขาวอันงดงามและบ่ออนเซ็นที่มอบความผ่อนคลายตลอดทั้งปี ในช่วงฤดูร้อน ชายหาดของปูซานเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวตลอดเพราะความสดชื่นของทรายและน้ำทะเลที่ใส แต่สำหรับคนรักศิลปะและภาพยนตร์ เดือนตุลาคมจะเป็นช่วงเวลาที่พลาดไม่ได้ เนื่องจากการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปูซาน ที่นี่คุณจะได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของภูมิทัศน์ urban ที่รวมตัวกันของภาพยนตร์จากทั่วทุกมุมโลก ิคุมขลังของปูซานยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ การเยี่ยมชมวัดเบอมยอซาน ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและสถาปัตยกรรมน่าทึ่ง เป็นประสบการณ์ที่ทำให้คุณเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมเกาหลีได้อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ยังมีสปาท้องถิ่นที่นำเสนอการบำบัดด้วยน้ำแร่ที่เป็นเอกลักษณ์ มาสำรวจปูซาน ท่าเรือแห่งความสุขที่เต็มไปด้วยอรรถรสที่คุณไม่ควรพลาด!
ท่าเรือซะไคมินาโตะ ตั้งอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยทะเลญี่ปุ่นตามทิศตะวันออก ช่องแคบซะไคทางทิศเหนือ และทะเลสาบนาคาอุมิทางทิศตะวันตก เมืองนี้ถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจไม่น้อย สำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่น จากท่าเรือซะไคมินาโตะ ผู้เดินทางสามารถไปสำรวจเมืองมัตซูเอะ ที่ได้รับการขนานนามว่า “เมืองน้ำ” โดยมีทะเลสาบชินจิและทะเลสาบนาคาอุมิอยู่ใกล้เคียง ที่นี่มีปราสาทไม้เก่าแก่ที่ยังคงอยู่ ซึ่งเป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งในญี่ปุ่นที่สามารถชมได้ นอกจากนี้ การล่องเรือบนแม่น้ำฮอริคาวาและการสำรวจรอบ ๆ ปราสาทก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด ในขณะที่เมืองยาซูกิ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะอดาชิ ซึ่งมีการจัดเก็บผลงานศิลปะร่วมสมัยญี่ปุ่นที่ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยสวนขนาด 165,000 ตารางเมตร ที่จัดแสดงพรรณไม้และหินตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน สวนเหล่านี้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “สวนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น” หลายปีติดต่อกัน การเยี่ยมชมซะไคมินาโตะ ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่น แต่ยังได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายที่จะเติมเต็มความสุขให้กับการเดินทางของคุณอย่างแน่นอน

ท่าเรือโซมะ (Tsuruga) ตั้งอยู่ในจังหวัดฟุคุอิ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่รักการผจญภัยและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านความสวยงามของทิวทัศน์ทางทะเลและความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ เมื่อก้าวเท้าออกจากเรือสำราญ คุณจะได้พบกับ ศาสนสถานและวัดหรูหราที่มีอายุนับร้อยปี รวมถึงวัดโซเซนจิ ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้คนมาเยี่ยมเยียนมากมาย นอกจากนี้ ท่าเรือโซมะยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางสำรวจภูเขาไฟฟูจิที่อยู่ไม่ไกลออกไป ชิมอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง เช่น ปลาและอาหารทะเลสดใหม่ที่ตลาดท้องถิ่น คุณจะได้สัมผัสกับรสชาติแท้ ๆ ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะแมงกะพรุนและกุ้งที่จับได้จากทะเลใกล้เคียง สัมผัสวัฒนธรรมที่โดดเด่นด้วยการเข้าร่วมงานเทศกาลท้องถิ่นที่จัดขึ้นตลอดทั้งปี ท่าเรือโซมะไม่เพียงแต่เป็นประตูสู่การผจญภัยในญี่ปุ่น แต่ยังเป็นสถานที่ที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความงาม ความอุดมสมบูรณ์ทางวัฒนธรรม และรสชาติของอาหารที่ไม่เหมือนใคร เตรียมพร้อมที่จะดื่มด่ำไปกับประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ณ ท่าเรือแห่งนี้!

ท่าเรือโทยามะ (Toyama Port) ตั้งอยู่ในจังหวัดโทยามะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นจุดหมายปลายทางอันงดงามที่นักเดินทางไม่ควรพลาด หากคุณมีโอกาสได้สำรวจพื้นที่นี้ ไม่เพียงแต่ท่าเรือที่มีความสำคัญในการส่งออกสินค้าและนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ แต่ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่รอให้คุณสัมผัส เมื่อคุณมาถึงโทยามะ คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเทือกเขาแห่งญี่ปุ่น โดยเฉพาะภูเขา Tateyama ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ‘เทือกเขา Japanese Alps’ ที่นักเดินทางมักจะมาเยี่ยมชมเพื่อเดินป่าและถ่ายภาพ นอกจากนี้ คุณยังสามารถสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ ที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งมีบ้านเรือนกึ่งดั้งเดิมอันน่าทึ่งและสวยงาม ในเรื่องของอาหารทะเล ท่าเรือโทยามะมีชื่อเสียงในด้านปลาทูน่าที่สดใหม่และอาหารทะเลอื่นๆ ที่คุณไม่ควรพลาด ลองลิ้มรสซาชิมิสดๆ ที่นำเสนอในร้านอาหารท้องถิ่น กล่าวได้ว่าโทยามะเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเริ่มต้นการค้นพบความมหัศจรรย์ของญี่ปุ่น ซึ่งรับรองว่าจะทำให้คุณหวนนึกถึงความทรงจำที่ไม่สามารถลืมเลือนเมื่อต้องกลับมาอีกครั้ง

ท่าเรือซาคาตะ ตั้งอยู่ในจังหวัดยามากาตะ ประเทศญี่ปุ่น เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์และมีความสำคัญต่อการค้าและการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้ เสน่ห์ของซาคาตะอยู่ที่การผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมที่เก่าแก่และธรรมชาติอันงดงาม เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์อันตื่นเต้นที่เมืองซาคาตะ ด้วยวิวทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขาซาอิซัน และแม่น้ำที่ไหลผ่านเมือง พลาดไม่ได้กับการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญอย่างวัดนันไกจิ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการบูรณะในสมัยเอโดะ ซึ่งมีความหมายต่อชาวเมืองเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ เมืองซาคาตะยังเป็นแหล่งรวมของวัฒนธรรมและศิลปกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมตลาดท้องถิ่นที่มีผลิตภัณฑ์สดใหม่ของท้องถิ่น รวมถึงอาหารทะเลคุณภาพสูงที่รับประกันความอร่อย และอย่าลืมลิ้มลอง ‘ซาชิมิ’ และ ‘ซูชิ’ ที่มีชื่อเสียงของที่นี่ การเดินทางมาที่ท่าเรือซาคาตะ จึงเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด หากคุณกำลังมองหาที่ท่องเที่ยวที่มีมนต์เสน่ห์และความหลากหลาย ดินแดนแห่งนี้รอคอยการค้นพบจากคุณอยู่เสมอ

ท่าเรืออาโอโมริในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและเทศกาลท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลเนบุตะ มัตสึริ ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 7 สิงหาคมของทุกปี เทศกาลนี้เป็นหนึ่งในงานเฉลิมฉลองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น กับขบวนแห่ลอยประดับไฟที่มีขนาดใหญ่ แสดงถึงรูปปั้นซามูไรที่น่าประทับใจ พรั่งพร้อมไปด้วยการเต้นรำที่รื่นเริงจากนักเต้น "เฮเนโต" ที่วิ่งเคียงข้างขบวนลอย คุณจะได้สัมผัสถึงความมหัศจรรย์และพลังแห่งชัยชนะหลังจากการต่อสู้ นอกจากนี้ อาโอโมริยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดๆ จากอ่าวอาโอโมริ โดยเฉพาะ "โอมา โน มะกุโร" (ทูน่าจากโอมา) และผลไม้ผักสดใหม่ เช่น กระเทียมที่มีชื่อเสียง ซึ่งนับว่าเป็นความใส่ใจต่อรสชาติและคุณภาพของอาหารท้องถิ่น ไม่ว่าคุณจะเลือกเยี่ยมชมในช่วงฤดูร้อนหรือมาในช่วงเวลาที่แตกต่าง คุณจะต้องการที่จะสัมผัสประสบการณ์ที่เย้ายวนใจในเมืองนี้ และในขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินไปกับการเดินทางอันหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นตามคาบสมุทรที่มีเสน่ห์นี้

ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์ในญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสองอ่าว ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่งดงามและบรรยากาศที่เงียบสงบของเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 19 ด้วยอาคารไม้ที่เรียงรายอยู่ริมถนนลาดชัน พื้นที่ริมท่าเรือเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่เดินได้สะดวก พร้อมทั้งรถรางที่ให้บริการบริเวณใจกลางเมือง เมื่อมาถึงฮาโกดาเตะ นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมยอดเขาฮาโกดาเตะที่สูง 1,100 ฟุต ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเห็นวิวรอบเมืองอย่างสวยงาม โดยเฉพาะในยามเย็นเมื่อเมืองถูกประดับประดาด้วยแสงไฟ ปลาทูน่านับเป็นดาวเด่นที่ไม่ควรพลาดในตลาดปลา ซึ่งเปิดให้บริการแต่เช้า นั่นคือจุดเริ่มต้นของมื้อเช้าที่สดใหม่และอร่อย เมืองนี้เคยเป็นหนึ่งในท่าเรือแรกที่รัฐบาลเมจิเปิดให้การค้าอย่างเป็นทางการในปี 1859 ที่นี่คุณจะพบกับร่องรอยทางวัฒนธรรมที่หลากหลายจากหลายชาติ ทั้งรัสเซีย อเมริกา จีน และยุโรป การเดินทางในเมืองนั้นง่ายและสามารถเข้าถึงข้อมูลภาษาอังกฤษได้อย่างสะดวก ฮาโกดาเตะคือจุดหมายที่เต็มไปด้วยแรงดลใจสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความประทับใจในประวัติศาสตร์และรุงเรือง เริ่มต้นแผนการเดินทางของคุณวันนี้!

ย่านโยโกฮาม่า ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งทั้งในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับโลกตะวันตกเกิดขึ้นที่นี่ในปี 1853 เมื่อเรือรบของสหรัฐฯ เข้าท่าและนำพาความท้าทายในการเปิดประเทศ ซึ่งนั้นได้นำไปสู่การพัฒนาอย่างรวดเร็วของโยโกฮาม่า ที่เคยเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง ในปี 1859 โยโกฮาม่าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นท่าข้ามแดนซึ่งมีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในฐานะศูนย์กลางการค้าระหว่างประเทศ ในยุคที่ท่าเรือแห่งนี้เติบโตขึ้น โยโกฮาม่าได้เป็นศูนย์กลางแห่งการค้าของเอเชียตะวันออก แต่ในปี 1923 เกิดแผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหายอย่างมากก่อนที่เมืองจะฟื้นฟูในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และกลายเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ปัจจุบัน โยโกฮาม่าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ย่านไชน่าทาวน์ อุทยานโยมาชิตะ และลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเลได้อย่างดี นอกจากนี้ ชิน-โยโกฮาม่า สถานีรถไฟที่เชื่อมโยงเมืองแห่งนี้กับโตเกียวเป็นอีกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ทั้งนี้การเดินทางมายังโยโกฮาม่าง่าย สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นที่คุณจะไม่มีวันลืม
