
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Zaandam
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์


ซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นจุดหมายปลายทางในฝันที่เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวด้วยอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปี เฉลี่ยอยู่ที่มากกว่า 20 องศาเซลเซียส และแสงแดดที่ส่องสว่างเกือบตลอดวัน นอกจากนี้ ซานดิเอโกยังเป็นเมืองที่เหมาะสำหรับครอบครัว โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น LEGOLAND ที่น่าตื่นเต้น, พิพิธภัณฑ์เด็กใหม่ และสวนสัตว์ซานดิเอโกที่มีชื่อเสียงระดับโลก คนรักชายหาดจะต้องตกหลุมรักกับชายหาดที่สวยงามและมีหลากหลายแห่งให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นสำหรับผู้ที่ชอบอาบแดดหรือโต้คลื่น นักชิมอาหารก็ไม่ควรพลาดกับเบียร์อาร์ติซานและร้านอาหารหรูที่นำเสนอเมนูเลิศรส ตั้งแต่ความสนุกสนานของ La Jolla Playhouse ที่มีการแสดง Broadway จนถึงบรรยากาศยุโรปที่ Little Italy และความทันสมัยของ Gaslamp Quarter ซานดิเอโกจึงมีทุกอย่างที่นักท่องเที่ยวปรารถนา หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและความตื่นเต้น ซานดิเอโกคือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว!


เคยฝันถึงการล่องเรือมาที่ "ไคลัว-โคนา" บนเกาะฮาวาย ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ล้ำค่า วัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม เริ่มต้นการเดินทางด้วยการเยี่ยมชม "ฮูลิฮี พาเลซ" อดีตที่พักของราชวงศ์ในปี 1838 ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศและประวัติศาสตร์อันหรูหรา อย่าลืมไปเยือน "โบสถ์โมคูอาอิคาวา" โบสถ์คริสต์ที่เก่าแก่ที่สุดในฮาวาย ซึ่งตั้งอยู่กลางใจเมือง ช่วยให้คุณเข้าใจถึงความลึกซึ้งของจิตวิญญาณในพื้นที่นี้ สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ ให้แวะไปที่ "ที่ทำการประวัติศาสตร์แห่งชาติคามาคาฮอนู" ซึ่งเคยเป็นที่พักของกษัตริย์คาเมฮาเมฮา ที่นี้คุณจะได้ชมบ้านที่สร้างขึ้นใหม่และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สัมผัสความงดงามของ "ชายหาดคามาคาฮอนู" ซึ่งเป็นจุดดำน้ำตื้นที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยแนวปะการังสีสันสดใส ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่ล้ำค่า พร้อมให้บริการที่ท่าเรือแห่งนี้เข้าสู่น่านน้ำที่หลากหลาย มาเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไคลัว-โคนา สถานที่ที่ความงามธรรมชาติและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์รอคอยคุณอยู่!

คาฮูลูอิ (Kahului) ตั้งอยู่บนเกาะโมอิ (Maui) ของประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีเสน่ห์และความสำคัญทางการท่องเที่ยวสำหรับผู้เดินทางทางเรือสำราญที่จะมายังฮาวาย เมืองนี้มีบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติอันงดงามและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ ช่วยให้คุณสัมผัสถึงความงามของดินแดนมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างแท้จริง เมื่อเทียบท่าในคาฮูลูอิ นักเดินทางจะได้พบกับชายหาดที่สวยงาม อาทิ หาด Kānaha และ หาด Waiehu ที่มอบความเงียบสงบและกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ นอกจากนี้ อย่าพลาดที่จะสำรวจทางหลวง Hana Highway ซึ่งเป็นเส้นทางที่โอบล้อมด้วยทิวทัศน์ของน้ำตกและป่าเขียวขจี การเดินทางในบริเวณนั้นจะพาคุณไปยังชายฝั่งที่สวยงามตระการตาและโอกาสในการพบเห็นสัตว์ป่าท้องถิ่น วัฒนธรรมของฮาวายก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจ การเยี่ยมชมกลุ่มศิลปะการแสดงพื้นเมืองและการสัมผัสกับรสชาติอาหารท้องถิ่น เช่น poke และ loco moco จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การเที่ยวชมให้มีสีสันยิ่งขึ้น คาฮูลูอิไม่เพียงเป็นประตูสู่การผจญภัยของคุณ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของความทรงจำที่หลากหลายและประทับใจไม่รู้ลืม

เอเมอริกันซามัวเป็นสวรรค์เขตร้อนที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นที่ตั้งของพืชและสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากมาย ท่าเรือปาโกปาโก คือท่าเรือหลักและหมู่บ้านของเกาะทูตูอิลา นับว่าเป็นเมืองหลวงของดินแดนนี้และเป็นประตูสู่การสำรวจหมู่เกาะที่ถูกสร้างขึ้นจากภูเขาไฟที่งดงาม เมื่อคุณแวะมาที่ปาโกปาโก คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่น่าหลงใหล สายน้ำสีฟ้าครามที่โอบล้อมด้วยภูเขาป่าเขียวขจี หากคุณเป็นคนรักการผจญภัย ที่นี่มีเส้นทางเดินป่าที่เรียงตัวอย่างตื่นตาตื่นใจ เช่น เส้นทาง Roosevelet Track ที่พาคุณขึ้นสู่จุดชมวิวซึ่งมองเห็นทัศนียภาพที่ไม่เหมือนใครของมหาสมุทร รวมถึงการดำน้ำที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามใต้ทะเลและระบบนิเวศที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวยังมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมพื้นเมือง และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์แห่งนี้ แวะชิมอาหารทะเลสดใหม่และสัมผัสบรรยากาศของท้องถิ่น คุณจะพบว่าปาโกปาโกไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือ แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำที่รอให้คุณสัมผัสในทุกๆ มุมของเกาะที่งดงามแห่งนี้


ท่าเรืออาเปีย ตั้งอยู่ในซามัว เป็นประตูสู่ความงดงามของเกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ โดยซามัวประกอบด้วยเกาะทั้งหมดสิบแห่งที่รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพอันงดงามและภูมิประเทศที่เกิดจากภูเขาไฟ คลื่นซัดสาดในบริเวณชายฝั่งที่มีหาดทรายขาวสะอาด เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสถึงวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของชีวิตความเป็นอยู่แบบฟาอา ซามัว ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี เมื่อคุณก้าวเข้ามาถึงอาเปีย คุณจะได้พบกับบรรยากาศที่แสดงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น ทั้งการต้อนรับที่อบอุ่นและการนำเสนอสินค้าหัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น ตลาดสดที่เต็มไปด้วยผลไม้สด แหล่งประวัติศาสตร์เช่น น้ำตกปลาคูส หรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์ของซามัว การเยือนอาเปียไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังช่วยให้คุณสัมผัสถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและลึกซึ้งของชาวซามัว ที่จะทำให้การเดินทางของคุณมีความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน พร้อมเปิดประสบการณ์การผจญภัยในสวรรค์เขตร้อนแห่งนี้

ท่าเรือซาบูซาวู ในฟิจิโดดเด่นด้วยความงดงามของทิวทัศน์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย ตั้งอยู่ที่มุมตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะวิทลีวู ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะฟิจิ ใจกลางเมืองซูวาเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาคนี้ นอกจากท่าเรือที่ครบครันสำหรับเรือสำราญจากทั่วโลกแล้ว ยังมีความน่าสนใจมากมายในพื้นที่ใกล้เคียงที่รอให้คุณค้นพบ เดินชมเมืองซูวาในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา โดยเฉพาะบริเวณริมน้ำที่มีร้านอาหารและคาเฟ่ริมชายทะเลรอให้บริการ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ฟิจิมิวเซียมซึ่งจัดแสดงวัตถุโบราณที่บันทึกเรื่องราวของฟิจิในช่วงเวลา 3,000 ปี และสัมผัสความงามของสวนพฤกษศาสตร์ที่เต็มไปด้วยดอกไม้และต้นไม้หายาก การท่องเที่ยวในฟิจิไม่เพียงแต่จะเป็นการพักผ่อน แต่ยังเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมแบบเมลานีเซียที่ผสมผสานกับโพลินีเซีย ที่นี่รับรองว่าคุณจะได้รับการต้อนรับด้วยคำว่า "บูล่า!" อย่างอบอุ่น หรือหากคุณต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวาย สามารถสัมผัสความงามของธรรมชาติและกิจกรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่การดำน้ำ สันทนาการชายหาด ไปจนถึงการเฉลิมฉลองในเทศกาลต่างๆ ฟิจิจึงถือเป็นจุดหมายปลายทางที่เติมเต็มความฝันของคุณในการเดินทางอย่างแท้จริง
ฟิจิคือกลุ่มเกาะเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีชื่อเสียงในเรื่องการดำน้ำที่มีปะการังนุ่ม ชายหาดทรายขาวและบรรยากาศที่เงียบสงบ ทำให้ฟิจิเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับงานแต่งงานและฮันนีมูน ด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ท่าเรือซูวา ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะวิตี เลวู เป็นเมืองหลวงของฟิจิและเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสอง เมืองนี้มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายซึ่งรอคอยให้นักท่องเที่ยวได้ค้นพบ ตั้งแต่ตลาดพื้นเมืองที่มีสินค้าหัตถกรรมไปจนถึงร้านอาหารที่ให้บริการอาหารทะเลสดใหม่และเมนูพื้นเมืองที่อร่อย เมื่อคุณเยี่ยมชมซูวา คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นริมทะเลหรือสำรวจอุทยานแห่งชาติที่มีทิวทัศน์ที่ตระการตา เสน่ห์แห่งฟิจิเสนอประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร และทำให้ทุกการเดินทางกลายเป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณจะเริ่มต้นการผจญภัยใหม่ในแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และความสงบสุขของท้องทะเลฟิจิที่มอบความพิเศษให้แก่คุณและคนที่คุณรัก

ท่าเรือลาวโทกา (Lautoka) ตั้งอยู่ในประเทศฟิจิ เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสำรวจความงดงามแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก เสน่ห์ของลาวโทกานั้นไม่เพียงแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังรวมถึงประวัติศาสตร์อันหลากหลายที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเกษตรกรรมอ้อย โดยที่นี่ถูกขนานนามว่า "เมืองน้ำตาล" มีโรงงานแปรรูปอ้อยที่ใหญ่โตเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค การเดินทางจากนาดี (Nadi) สู่ลาวโทกาใช้เวลาประมาณ 45 นาที โดยจะผ่านไร่อ้อยฟีเจอร์มของภูมิภาค ซึ่งทำให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวฟิจิอย่างใกล้ชิด ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางสู่การล่องเรือสำรวจหมู่เกาะเบลูลากูน (Blue Lagoon) และบีชคอมเบอร์ (Beachcomber) ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องของน้ำทะเลใสสะอาดและชายหาดที่ขาวนุ่ม นอกจากนั้น ลาวโทการองรับนักท่องเที่ยวที่มองหาสินค้าเสื้อผ้าในราคาย่อมเยา ด้วยบรรยากาศของเมืองแล้วยังมีร้านรวงจำหน่ายสินค้าจำนวนมาก ที่นี่จึงเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เหมาะสำหรับการสะสมของฝากกลับบ้าน และสัมผัสกับความมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรมฟิจิอย่างแท้จริง
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรือ Easo บนเกาะ Lifou ในแหล่งท่องเที่ยว New Caledonia เป็นจุดหมายที่น่าสำรวจอย่างยิ่ง ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เกาะ Lifou แห่งนี้เต็มไปด้วยความสดชื่นและเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก เมื่อเรือสำราญเทียบท่าใน Easo นักเดินทางจะได้สัมผัสกับชายหาดที่มีทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลที่ใสสะอาด ยิ่งไปกว่านั้น เกาะนี้ยังมีกิจกรรมที่หลากหลายให้เลือกสรร อาทิ การดำน้ำตื้นเพื่อชมแนวปะการังที่สวยงาม นอกจากนี้ คุณยังสามารถสำรวจหมู่บ้านพื้นเมืองของชาว Kanak เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่ยั่งยืนของพวกเขา จำไว้ว่าการเดินทางไปที่ Lifou ไม่เพียงแค่การพักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นการเปิดโลกกว้าง สัมผัสธรรมชาติ สัมผัสกับวัฒนธรรมที่แตกต่าง และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่หลากหลาย ไม่น่าแปลกใจที่ Easo และเกาะ Lifou จะได้รับความนิยมจากชาวเรือสำราญที่แสวงหาความหรูหราและประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อมในการสร้างความทรงจำอันแสนพิเศษในจุดหมายปลายทางที่ทุกคนต้องหลงรักแห่งนี้!

นูเมอา (Nouméa) เมืองหลวงที่งดงามของนิวแคลิโดเนีย เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครและสถาปัตยกรรมที่อลังการ ประกอบด้วยธรรมชาติที่งดงามและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน เคยเป็นที่ตั้งของอาณานิคมเรือนจำ แต่ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมด้วยประชากรเกือบสองในสามของนิวแคลิโดเนีย นอกจากจะเป็นท่าเรือที่สำคัญ นูเมอายังมีศูนย์กลางที่ตั้งอยู่ใกล้ชายทะเลและสวนสาธารณะ Place de Cocotiers ซึ่งเป็นจุดพบปะสังสรรค์ที่ชื่นชอบของชาวเมืองและนักท่องเที่ยว ที่นี่ยังมีหลายวัดที่มีอายุกว่าศตวรรษที่ 19 พร้อมกับพิพิธภัณฑ์นิวแคลิโดเนียที่เก็บสะสมวัตถุทางวัฒนธรรมของชนเผ่าคานักและแปซิฟิกใต้ นอกจากนี้ ยังมีอควาเรียมระดับโลกที่ชายหาด Anse Vata และชายหาดที่ยาวเหยียดทางทิศใต้ เพื่อให้คุณได้ผจญภัยในน้ำทะเลใสและกิจกรรมกีฬาทางน้ำไม่จำกัด สุดท้าย สัญลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองคือ ศูนย์วัฒนธรรม Tjibaou ที่มีรูปแบบซุ้มเรือเหมือนหลังคาบ้านของชนเผ่าคานัก สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้มาเยือนสัมผัสถึงศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น ขอต้อนรับคุณสู่การเดินทางที่น่าประทับใจในนูเมอา สถานที่ที่จะเติมเต็มความฝันในการสำรวจโลกใหม่!

พอร์ตวิล่า ตั้งอยู่บนเกาะเอฟาเตในประเทศวานูอาตู เป็นจุดหมายปลายทางที่รวมเสน่ห์ของความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ภูมิศาสตร์ที่งดงามของเมืองนี้มีทั้งหาดทรายขาว น้ำทะเลใส และป่าเขตร้อน ทำให้เป็นสถานที่เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมกิจกรรมกลางแจ้งและการสำรวจธรรมชาติ เมืองพอร์ตวิล่า เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น โรงแรม คาสิโน และตลาดสด นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในเมืองนี้ผ่านการจัดทัวร์หมู่บ้าน เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวเมลานีเซียน รวมถึงการทานอาหารพื้นเมืองและการแสดงศิลปะการแสดงดนตรี และการเต้นรำ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น วัดพิพิธภัณฑ์วานูอาตู ซึ่งจัดแสดงโบราณวัตถุที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ Independence Park และสนามกอล์ฟระดับแชมป์ด้าน PGA ที่พอร์ตวิล่า เพื่อให้การท่องเที่ยวเกิดความตื่นเต้น นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมดำน้ำและพายเรือ หรือท่องเที่ยวเชิงนิเวศและผจญภัยในป่า การเดินเส้นทางธรรมชาติ และการขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อชมวิวที่สวยงามได้อย่างอิสระ ในระยะเวลาเพียงวันเดียว นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจความงดงามของพอร์ตวิล่าได้อย่างจุใจ ได้เวลาสำรวจและสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำกับที่นี่แล้ว!

ฮอนิอาราเป็นเมืองหลวงของหมู่เกาะโซโลมอน ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะกัวดาลคานาล เมืองนี้เป็นศูนย์กลางกิจกรรมที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคที่เพิ่งประสบกับการเติบโตทางเมืองอย่างรวดเร็ว สัมผัสความงดงามของธรรมชาติอันหลากหลายที่รายล้อมเมืองนี้ ทั้งหาดทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้าคราม และภูเขาที่เขียวขจี แม้จะมีความเจริญก้าวหน้าในด้านการพัฒนา แต่ฮอนิอารายังคงเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์สืบเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เมืองนี้โดดเด่นและดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น สุสานทหารที่หลากหลาย และบรรยากาศที่ยังคงกลิ่นอายของอดีต ทำให้ผู้เข้าชมมีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์โลก การเดินทางมาเยือนฮอนิอารานั้นไม่เพียงแค่การชมทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่ยังเป็นการเปิดโลกและประสบการณ์ใหม่ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ตามหาความแตกต่างและมุมมองใหม่ในการเดินทาง เพียงแค่ลงเรือสำราญ คุณจะได้สัมผัสกับความสงบของธรรมชาติและความน่าหลงใหลในประวัติศาสตร์ของโซโลมอนที่รอให้คุณค้นพบ.

ราบูล (Rabaul) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ภายในแคลเดอราของภูเขาไฟที่เคยระเบิดอย่างรุนแรง และเป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพอันงดงามแห่งหนึ่งในภูมิภาคบิสมาร์ค (Bismarck Archipelago) เมืองนี้มีความโดดเด่นด้วยภูมิทัศน์ที่มีภูเขาไฟที่ยังมีความเคลื่อนไหว โดยเฉพาะภูเขาไฟทาวูร์วูร์ (Tavurvur) ที่ปล่อยควันออกมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังธรรมชาติที่ไม่ได้ลดลงแม้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา การเดินทางมายังราบูลคุณจะได้สัมผัสประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ทั้งในด้านวัฒนธรรมและเหตุการณ์สำคัญอย่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กที่บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ตั้งอยู่ใกล้กับบังเกอร์ของนายพลยามาโมโตะ รวมถึงการแสดงที่ชวนให้เรียนรู้เกี่ยวกับอดีตของเมืองนี้จากเวลาที่เป็นอาณานิคม จนถึงการได้รับเอกราชในทศวรรษ 1970 สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ราบูลเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ควบคู่ไปกับการสำรวจความงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และการเข้าสัมผัสถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านที่อบอุ่น ทำให้ทุกการเดินทางที่ราบูลเต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าประทับใจและน่าจดจำอย่างแท้จริง
อลอตอว์ (Alotau) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดมิลน์เบย์ ตั้งอยู่ที่อ่าวตะวันออกเฉียงใต้ของปาปัวนิวกินี เมืองนี้มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมซากและอนุสรณ์สถานที่เกี่ยวข้องกับสงครามนี้ได้อย่างชัดเจน ในการเดินทางสำรวจเมืองอลอตอว์ คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่งดงามของอ่าว รวมทั้งเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่นที่คึกคัก ซึ่งไม่เพียงแต่มีชาวบ้านเท่านั้น แต่ยังมีผู้ค้าเกาะจากแหล่งต่าง ๆ มาขายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย อลอตอว์ยังเป็นท่าเรือสำคัญที่เชื่อมโยงไปยังเกาะต่าง ๆ ของภูมิภาคนี้ ดึงดูดผู้ค้าที่นำงานหัตถกรรมจากเกาะต่าง ๆ มาสร้างสีสันให้กับการเดินชมตลาด อาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ และสินค้าโบว์งานฝีมือ เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด สำหรับผู้ที่รักการเดินทางและต้องการสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลาย อลอตอว์และพื้นที่รอบ ๆ จะทำให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของปาปัวนิวกินีอย่างแน่นอน มาเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจโลกใหม่ที่รอคุณอยู่ที่อลอตอว์กันเถอะ!

เกาะคิริวินา ตั้งอยู่ในน่านน้ำของปาปัวนิวกินี เป็นสวรรค์แห่งใหม่สำหรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ลงตัว เป็นหนึ่งในเกาะที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มอุทยานแห่งชาติทอไอดาน่า คิริวินาเต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม มีหาดทรายขาวที่เรียงรายอยู่ตามชายฝั่งและน้ำทะเลใสแจ๋ว ซึ่งเหมาะแก่การดำน้ำตื้นเพื่อสำรวจโลกใต้ทะเลที่หลากหลาย. เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า คุณจะมีโอกาสพบกับชาวเกาะที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและอัธยาศัยดี พร้อมที่จะนำเสนอวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น งานฝีมือท้องถิ่นและการแสดงศิลปะเพื่อสืบทอดประเพณีอันยาวนาน อีกทั้งยังมีตลาดท้องถิ่นซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าหัตถกรรมที่สร้างจากวัสดุธรรมชาติ ที่คุณไม่ควรพลาดในการเลือกซื้อเป็นของฝาก. นอกจากนั้น คุณสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม และสัมผัสกับชีวิตประจำวันของชาวเกาะได้โดยตรง คิริวินาไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมสำหรับการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังเป็นที่มาของประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร สร้างแรงบันดาลใจให้คุณใฝ่ฝันถึงการผจญภัยใหม่ๆ ที่รอคุณอยู่ในทุกๆ มุมโลก.

หมู่เกาะคอนฟลิกต์ (Conflict Island Group) ตั้งอยู่ในประเทศปาปัวนิวกินี เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลที่สุดในแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร หมู่เกาะนี้ประกอบไปด้วยหลายเกาะเล็ก ๆ ที่มีธรรมชาติสวยงามและน้ำทะเลใสกระจ่าง ทำให้เป็นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการดำน้ำตื้นและเล่นเซิร์ฟ การเดินทางมายังหมู่เกาะคอนฟลิกต์ไม่เพียงแต่ให้โอกาสในการสำรวจโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยสีสันของปะการังและสัตว์ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ แต่ยังเป็นโอกาสในการสัมผัสวัฒนธรรมพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์ โบสถ์ขนาดเล็กและหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งสะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวปาปัวที่กลมกลืนกับธรรมชาติ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสนุกสนานกับกิจกรรมเช่น การตกปลา การพายเรือคายัค และการสำรวจป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้การหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตในเมืองเป็นเรื่องที่เข้ากันได้ง่ายดาย หากคุณกำลังมองหาทริปที่เต็มไปด้วยความสงบและความสวยงามของธรรมชาติ หมู่เกาะคอนฟลิกต์จะเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

เมืองเคิร์นส์ (Cairns) รัฐควีนส์แลนด์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์และเป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสำรวจธรรมชาติอันงดงามในด้านเหนือของรัฐควีนส์แลนด์ ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลเข้าร่วมทำกิจกรรมที่น่าตื่นเต้น เช่น ดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกที่แนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์รีฟ (Great Barrier Reef) นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ เช่น ล่องเรือ ตกปลา ปาร์เซลลิ่ง และการเดินป่าในป่าฝนที่เขียวขจี แม้จะมีสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น ความร้อนจัดและสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว เช่น จระเข้เค็มและงูพิษ แต่เคิร์นส์กลับมีมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดให้ผู้คนอยากมาเยือน ชาวบ้านที่นี่เป็นมิตรและจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน พร้อมทั้งทัศนียภาพอันงดงามที่รอให้คุณมาสัมผัส สำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนริมชายหาด เคิร์นส์ยังมีความเงียบสงบจากท้องทะเลที่สวยงามและบริการที่เป็นเลิศ ทำให้คุณสามารถใช้เวลาสนุกสนานท่ามกลางความงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ นี่คือประตูสู่การผจญภัยที่คุณไม่ควรพลาด!

ในท่ามกลางความงดงามแห่งท้องทะเลออสเตรเลีย ท่าเรือ Ribbon Reef ที่ตั้งอยู่ในแนวปะการัง Great Barrier Reef ได้นำเสนอประสบการณ์การเดินทางโดยเรือสำราญที่ไม่มีใครเหมือน นักท่องเที่ยวจะได้พบกับโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา โดดเด่นด้วยแนวปะการังที่สวยงามและสัตว์ทะเลที่หายาก นี่คือสวรรค์สำหรับผู้ที่รักการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก Ribbon Reef ประกอบไปด้วยชุดเกาะปะการังมากมาย ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของแนวปะการังหลากสีสันและประมงหลากหลายสายพันธุ์ สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กันคือการเล่นน้ำและการสำรวจรูปทรงปะการังที่น่าหลงใหล และหากคุณโชคดี อาจพบเต่าทะเลและปลากระเบนที่แหวกว่ายอยู่รอบๆ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าถึงกิจกรรมหลากหลาย เช่น การล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก การทำอาหารทะเลสดใหม่ หรือการเข้าร่วมกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติที่ช่วยรักษาแนวปะการังจากภัยคุกคามต่างๆ นี่คือโอกาสที่ดีในการสนับสนุนการอนุรักษ์และค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ การเยือน Ribbon Reef จึงไม่ใช่แค่การเดินทาง แต่คือประสบการณ์ทางอารมณ์ที่จะจดจำไปตลอดชีวิต พร้อมกับความทรงจำที่แตกต่างและน่าประทับใจในทุกๆ การเดินทางที่มีเสน่ห์นี้ ท่านจะกลับบ้านไปกับหัวใจที่เต็มไปด้วยรักในธรรมชาติและการผจญภัยที่ไม่มีที่สิ้นสุด

ดาร์วิน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสีสันและบรรยากาศแปลกใหม่ของออสเตรเลีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลทิมอร์ เป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ถนนหนทางที่ถูกประดับไปด้วยดอกไม้และต้นไม้เขตร้อนให้บรรยากาศที่โรแมนติกและผ่อนคลาย ดาร์วินมีอากาศร้อนชื้นในฤดูร้อนและแห้งสบายในฤดูหนาว ทำให้เป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อน เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายตั้งแต่อดีต เช่น การทดลองก่อตั้งเมืองในปี 1824 ที่ต้องพบกับสภาพอากาศที่รุนแรง จนกระทั่งในปี 1911 เมืองได้รับชื่อ "ดาร์วิน" ตามชื่อของนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองนี้เคยถูกโจมตีอยู่หลายครั้ง จนอาคารบ้านเรือนถูกทำลายโดยพายุไซโคลนทราซีในปี 1974 แต่ความเข้มแข็งของผู้คนทำให้เมืองนี้กลับมาฟื้นฟูและเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งในฐานะศูนย์กลางการบริหารและการค้าในภาคเหนือของออสเตรเลีย ปัจจุบัน ดาร์วินเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการสำรวจความงดงามของออสเตรเลียทางตอนเหนือ เช่น อุทยานแห่งชาติแคคาดูและภูมิภาคคิมเบอร์ลี ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในออสเตรเลีย
โบรมนั้นเป็นเมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกด้วยชายหาดที่สวยงาม ประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ตั้งอยู่ริมมหาสมุทรอินเดีย โบรมนำเสนอหาดเคเบิลที่มีชื่อเสียง ด้วยทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ และการนั่งอูฐในยามพระอาทิตย์ตกที่เสน่ห์ดึงดูดใจ นอกจากนี้ โบรมนั้นเคยเป็นศูนย์กลางการเก็บไข่มุกที่สำคัญ ทำให้เมืองนี้ยังคงสะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลายผ่านอาหารและสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ โบรมนั้นยังเป็นประตูสู่ภูมิภาคคิมเบอร์ลีย์ ที่มีทิวทัศน์ที่งดงามและสถานที่ธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น สTreaircase to the Moon ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่ามหัศจรรย์ เสน่ห์ของโบรมนั้นทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการผจญภัย การพักผ่อน และการสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ด้วยอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปีและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย โบรมนับเป็นจุดหมายปลายทางที่เตรียมพร้อมจะให้คุณสำรวจและสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน ระหว่างการเดินทางสำราญของคุณมาที่นี่ คุณจะพบกับการผสมผสานของธรรมชาติ วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าที่จะทำให้คุณประทับใจอย่างแท้จริง

เมื่อพูดถึงการเดินทางสุดหรูในออสเตรเลีย ท่าเรือ Exmouth ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดที่หนึ่ง ด้วยทัศนียภาพที่งดงามและอากาศที่อบอุ่นตลอดปี Exmouth ตั้งอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติ Cape Range ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามและหลากหลายของออสเตรเลียได้อย่างแท้จริง เมื่อเรือสำราญนำท่านมาถึง ท่านจะได้พบกับกิจกรรมมากมาย เช่น การดำน้ำลึกที่ Ningaloo Reef ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปลาฉลามวาฬและสัตว์ทะเลนานาชนิดรอคอยที่จะให้ท่านได้สัมผัส นอกจากนี้ยังมีหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวและน้ำทะเลใสแจ๋ว เสมือนใบหน้าของสวรรค์ Exmouth ไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในธรรมชาติ แต่ยังเป็นที่ตั้งของประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เช่น อดีตสถานีเรดาร์ของการทดสอบทางทหาร ที่สามารถให้มุมมองเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ออสเตรเลียได้อย่างดียิ่ง ในขณะที่คุณสำรวจท่าเรือ Exmouth นี้ ความงามของธรรมชาติและกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นรอให้คุณสัมผัสอยู่ พบกับมนต์เสน่ห์ที่หลากหลายและสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมในทริปเดินทางที่มีความหรูหราและอลังการที่นี่ได้เลย!


อัลบานี เมืองชายฝั่งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาการผจญภัยและความงดงามของธรรมชาติ เมืองอัลบานีซึ่งได้รับการประกาศเป็นเมืองในปี 1998 มีประชากรประมาณ 28,000 คน ถือเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญของภูมิภาคใต้ของรัฐออสเตรเลีย อัลบานีมีท่าเรือที่สวยงามบนอ่าวคิงจอร์จ ซึ่งเคยเป็นท่าเรือที่เจริญรุ่งเรืองในยุควาฬและยังเคยเป็นสถานีเติมน้ำมันสำหรับเรือในยุครถจักรไอน้ำที่เดินทางระหว่างอังกฤษและออสเตรเลีย นอกจากนี้ สายชายฝั่งที่ขรุขระยังมอบทิวทัศน์ที่งดงามราวกับภาพวาด พร้อมโอกาสในการชมวาฬที่แหวกว่ายอยู่ชายทะเลในช่วงเวลาที่เหมาะสม นอกจากท่าน้ำที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว อัลบานียังมีอาคารสไตล์โคโลเนียลที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และจุดชมวิวที่มอบทัศนียภาพที่งดงาม ทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับความงดงามของทิวทัศน์ทอดยาวไปสุดขอบฟ้า อัลบานีไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทาง แต่ยังเป็นที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำในทุกๆ ครั้งที่มาเยือน

เชิญผู้อ่านพบกับอาดิเลด เมืองหลวงสุดทรงพลังของรัฐเซาท์ออสเตรเลีย ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นเมืองออกอ่าวหรือ "เมืองของโบสถ์" แต่ปัจจุบันนี้ อาดิเลดได้ก้าวข้ามความคาดหวังเดิมๆ กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายและเต็มไปด้วยสีสัน จากชุมชนที่หลากหลายทางชาติพันธุ์ สู่การมีชีวิตชีวาของศิลปะและดนตรีที่เฟื่องฟู เมืองอาดิเลดมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ร่มรื่น และสว่างไสว พร้อมกับรูปแบบถนนที่จัดเป็นตาราง ช่วยให้การสำรวจที่นี่เป็นเรื่องง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินเลียบน้ำในแม่น้ำทอดเรนส์ที่ทอดผ่านตัวเมือง ซึ่งเป็นจุดที่สวยงามที่สุดที่มีศูนย์การแสดงเทศกาลตั้งอยู่ คู่ขนานกับการใช้ชีวิตในเมือง ยังมีโครงการ "การเปิดพื้นที่" ที่สนับสนุนการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น ตลาดนัด, การแสดงสด, และงานศิลปะ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ยังมีอาหารริมถนนที่ขอเชิญให้คุณลองชิม สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำใคร ที่จะทำให้การเดินทางของคุณยังคงอยู่ในความทรงจำตลอดไป อาดิเลดคือจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันจะสัมผัสความมหัศจรรย์ของวัฒนธรรมและธรรมชาติในแบบที่สวยงามและทันสมัย ต้อนรับทุกคนสู่การค้นพบใหม่อันน่าทึ่งในโลกของออสเตรเลีย!

คังการู ไอส์แลนด์ ตั้งอยู่ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสามในประเทศออสเตรเลีย มีพื้นที่กว่า 1,740 ตารางไมล์ ลักษณะของเกาะยาว 96 ไมล์ กว้าง 34 ไมล์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องความงามตามธรรมชาติที่ยอดเยี่ยม ด้วยทำเลที่ห่างไกล ทำให้เกาะนี้ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาของยุโรปน้อยกว่าฝั่งแผ่นดินใหญ่ การไปเยือนคังการู ไอส์แลนด์จะทำให้คุณสัมผัสกับพฤกษาและสัตว์ป่าที่หลากหลาย ซึ่งหาได้ยากในสถานที่อื่น ๆ ประมาณ 30% ของเกาะถูกกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยเฉพาะอุทยานฟลินเดอร์ส เชส ที่ตั้งอยู่ตอนตะวันตกของเกาะ และอุทยานคอนเซิร์ฟเซชั่น ซีล เบย์ ซึ่งมีชายหาดทรายขาวและพื้นที่ดูแลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทะเลออสเตรเลียเป็นที่พักผ่อนและเลี้ยงลูกเพื่อเติมเต็มชีวิต เมืองคิงสโคท เจ้าแห่งเกาะ เป็นเมืองใหญ่ที่สุด และเป็นศูนย์กลางการจัดจำหน่าย โดยการท่องเที่ยวเป็นอีกหนึ่งรากฐานที่สำคัญของเศรษฐกิจในพื้นที่ เกาะคังการูจึงเต็มไปด้วยหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์, สถานที่อนุรักษ์สัตว์ป่า และพื้นที่ธรรมชาติที่น่าหลงใหล готовыรอให้นักท่องเที่ยวทุกคนมาสัมผัสความมหัศจรรย์นี้ด้วยตนเอง

เมลเบิร์น ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก มันตั้งอยู่บนที่ราบชายฝั่งที่สวยงามบริเวณปากอ่าวพอร์ตฟิลิป เมืองนี้มีลักษณะเป็นตารางเรียบร้อย ที่เต็มไปด้วยอาคารสไตล์วิกตอเรียและธนาคารต่างๆ ที่สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองหลังยุคทอง มีบรรยากาศที่เหมาะสำหรับการสำรวจอย่างใจคอในช่วงวันหยุด ในเขตเซาท์แบงค์ ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของใจกลางเมือง มีการพัฒนา Southgate ที่รวมบาร์ ร้านอาหาร และร้านค้าทันสมัย ที่ยกระดับภาพลักษณ์ของเมืองตามแม่น้ำยาร์ร่า อีกทั้งยังมี Federation Square ที่เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเมลเบิร์น นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นอย่างสบายที่ Esplanade ในย่านเซนต์กิลด้า ชมบ้านเรือนสวยงามใน East Melbourne หรือเพลิดเพลินกับร้านค้และคาเฟ่ในย่านฟิตซ์รอยหรือคาร์ลตัน ที่ตลาดวิกตอเรีย คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศอันมีชีวิตชีวาจากคนท้องถิ่น และอย่าลืมแวะรับประทานอาหารยามบ่ายที่Windsor หรือเช่าเรือแคนูที่ Studley Park เพื่อพายไปตามแม่น้ำยาร์ร่า จะทำให้คุณได้ค้นพบจิตวิญญาณที่แท้จริงของเมลเบิร์นอย่างแน่นอน

ท่าเรือฮอบาร์ต ชาวตาสมาเนีย เปรียบได้กับไข่มุกในลูกฟูกแห่งออสเตรเลีย โดยตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำเดอเวนท์ ท่ามกลางธรรมชาติของภูเขาเวลลิงตัน ท่าเรือนี้มีประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ปี 1803 เมื่อครั้งที่เป็นสถานที่กักกันนักโทษ ทำให้ฮอบาร์ตเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และมากไปด้วยประวัติศาสตร์จนกลายเป็นเมืองหลวงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย เมื่อเดินไปตามถนนดูลึก คูเมืองและบ้านเรือนที่สร้างจากอิฐอาณานิคมล้วนเต็มไปด้วยอัตลักษณ์ ประกอบกับท่าเรือที่ลึกที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ช่วยสร้างบรรยากาศที่แสนงามให้กับเมืองขนาดเล็กที่เพรียบพร้อมไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ และอาหารเลิศรส ตลอดปี ฮอบาร์ตจัดงานเทศกาลต่าง ๆ อย่างเช่น การแข่งขันเรือใบซิดนีย์-ฮอบาร์ต ที่มีชีวิตชีวาในช่วงวันสิ้นปี และเทศกาล Tastes of Tasmania ที่จะพาคุณไปสัมผัสรสชาติของอาหารและไวน์ที่ดีที่สุดในพื้นที่ แม้ฮอบาร์ตจะสงบสุข แต่ใครต้องการความบันเทิงสามารถหาความสนุกได้จากร้านอาหารชั้นเลิศ, คลับแจ๊ซ และคาสิโนที่ Wrest Point นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวฮอบาร์ตเปิดบริการครบครันเพื่อช่วยเเพลนการผจญภัยของคุณ กรุณาอย่าพลาดโอกาสที่จะค้นพบเสน่ห์ของฮอบาร์ต จุดหมายปลายทางที่ควรสำรวจในทริปการเดินทางของคุณ!

ท่าเรือพอร์ตอาร์เธอร์ในแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อคุณมาที่นี่ด้วยเรือสำราญ ท่าเรือนี้มีชื่อเสียงจากประวัติศาสตร์อันล้ำค่าและทัศนียภาพที่งดงาม รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์และหน้าผาชัน พอร์ตอาร์เธอร์เคยเป็นสถานที่กักกันที่สร้างขึ้นในปี 1830 สะท้อนให้เห็นถึงอดีตที่มีความหมายลึกซึ้ง คุณสามารถเดินชมอาคารที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดีและเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของผู้ต้องขังในอดีต ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และการจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีการจัดทัวร์นำชมที่พาท่านสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนซึ่งน่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน นอกจากความงามทางประวัติศาสตร์แล้ว พอร์ตอาร์เธอร์ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจอุทยานแห่งชาติโคฟของแทสเมเนีย ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่น่าหลงใหล มีโอกาสให้ได้พบกับสัตว์ป่าผ่านไปยังทิวทัศน์ของชายฝั่งที่ไม่เคยถูกทำลาย ท่าเรือพอร์ตอาร์เธอร์จึงนับเป็นประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้รักการเดินทางที่ต้องการค้นพบบรรยากาศของประวัติศาสตร์อันล้ำค่าและความงามของธรรมชาติในหนึ่งเดียว พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ

ซิดนีย์ เมืองที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความมีชีวิตชีวาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ยินดีต้อนรับท่านสู่ท่าเรือที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ที่สุดในออสเตรเลีย ท่าเรือซิดนีย์นั้นรายล้อมไปด้วยอ่าวและชายหาดที่งดงาม แอ่งน้ำสีเข้มที่มีเรือใบลอยอยู่และอาคารโอเปราฮาที่เปล่งประกายสร้างภาพบรรยากาศที่น่าประทับใจ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาจอดแล่นเรือสำราญที่นี่ จะได้สัมผัสกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่มีทั้งอิทธิพลของชาวอิตาเลียน กรีก จีน และไทย ที่ทำให้ซิดนีย์กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ซิดนีย์ไม่เพียงแต่เป็นบ้านของประชากร 4.6 ล้านคน แต่ยังเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสามารถดึงดูดผู้เข้าชมจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชม ทั้งชายหาดที่มีชื่อเสียงอย่างบอนดิและมอยรา ที่เป็นสถานที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ แถมยังมีกิจกรรมมากมายให้เลือกสรรอีกด้วย การเดินทางมาท่าเรือซิดนีย์คือการเริ่มต้นประสบการณ์การสำรวจประเทศออสเตรเลียที่งดงาม โดยท่านยังสามารถสัมผัสกับสไตล์และความสง่างามของเมืองก่อนจะเดินทางต่อไปยังดินแดนที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์รออยู่ที่ด้านหลังของท่าเรือแห่งนี้


ห้องพักระดับสูงสุดในคลาสนี้คือ “巔峰套房” ที่ออกแบบอย่างหรูหราและกว้างขวาง เต็มไปด้วยแสงสว่าง ห้องนี้ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวขนาดเล็กพร้อมไมโครเวฟ ตู้เย็น และมินิบาร์ โดยมีหน้าต่างจากพื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ห้องนอนที่หรูหรามีเตียงขนาดคิงไซส์ที่เป็นเอกลักษณ์ “Mariner's Dream™” มีที่นอนฟูกนุ่มสบาย พร้อมด้วยห้องแต่งตัวแยกต่างหาก นอกจากนี้ ห้องน้ำยังมีอ่างอาบน้ำแบบเจ็ตและฝักบัวขนาดใหญ่ ห้องนี้ยังมาพร้อมกับโซฟาเบดที่นอนได้สองคน และห้องน้ำแขกอีกด้วย ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวก ผู้เข้าพักจะได้ใช้ระบบเสียงส่วนตัว ใช้บริการ Neptune Lounge แบบเอ็กซ์คลูซีฟ และบริการช่วยเหลือส่วนตัว พร้อมด้วยบริการฟรีอีกมากมาย ห้องพักทุกห้องมีขนาดประมาณ 1,296 ตารางฟุต รวมระเบียงส่วนตัวโดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและความหรูหราในการพักผ่อน ทางเลือกนี้ไม่ควรพลาด

ห้องสวีทขนาดกว้างของเรา "สวีทเนปจูน" มาพร้อมกับหน้าต่างจากพื้นจรดเพดานที่ให้ทัศนียภาพสวยงามของระเบียงส่วนตัวที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง ห้องนี้ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ที่มีมินิบาร์และตู้เย็น พร้อมเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงคิงไซส์ "Mariner's Dream™" ที่มีที่นอน Euro-Top ให้ความนุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีกั้นตู้เสื้อผ้าแยกต่างหาก และโซฟาเบดที่รองรับผู้เข้าพักได้อีกสองคน ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบวนรอบขนาดใหญ่และฝักบัวเพื่อความสะดวกสบายอีกด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงการใช้บริการจาก Neptune Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์ บริการคอนเซียจส่วนตัว และบริการที่หลากหลายเพื่อยกระดับประสบการณ์การพักผ่อนของคุณ ขนาดพื้นที่ประมาณ 558-566 ตารางฟุต รวมระเบียง ทำให้คุณได้สัมผัสกับความหรูหราอย่างแท้จริงในทุก ๆ การเดินทางของคุณ

ห้องพัก "景致套房" เป็นสวีทที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ ซึ่งมีระเบียงลายไม้สักและหน้าต่างจากพื้นจรดเพดาน พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย ห้องพักนี้มีเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซด์ ซึ่งเป็นเตียงที่มีชื่อเสียงของเรา มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่และฝักบัว, มินิบาร์, รวมถึงตู้เย็น ห้อง "景致套房" ขนาดประมาณ 297-379 ตารางฟุต รวมระเบียงด้วย ซึ่งจะตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างหรูหราอย่างแท้จริง

ห้องพักขนาดกว้างขวางนี้มีเตียงนอนขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงคิงไซส์ ซึ่งคือเตียงที่ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานของเราคือ Signature Mariner's Dream™ เตียงนี้มาพร้อมกับที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย, หัวฝักบัวนวดพรีเมียม, สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และวิวทะเลที่สวยงาม ขนาดของห้องพักอยู่ระหว่าง 140 ถึง 319 ตารางฟุต โดยการจัดรูปแบบห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง ร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษในห้องพักประเภท "海景艙" ที่สร้างความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกการเดินทาง

ห้องพักประเภท "วิวทะเล: วิวทะเลบางส่วน" มาพร้อมกับวิวทะเลเป็นบางส่วนและสามารถปรับเปลี่ยนเตียงสองเตียงให้กลายเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ได้ โดยเป็นเตียงที่ออกแบบเฉพาะของเราคือ Mariner's Dream™ ที่มีฟูกนุ่มสบายแบบ Euro-Top รวมถึงฝักบัวอาบน้ำพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุต โดยการจัดวางห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง การเข้าพักในห้องนี้จะทำให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราและสะดวกสบายในขณะล่องเรือ.

ห้องพักขนาดใหญ่ประเภท Sea View: วิวถูกปิดกั้นมีเตียงสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์—เตียง Mariner's Dream™ ที่มีคุณภาพสูง พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดระดับพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุต แม้ว่าจะไม่มีวิวให้ชม แต่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอย่างเต็มที่ในบรรยากาศที่หรูหราและสะดวกสบาย

ห้องพักประเภท "舷窗" มีพื้นที่กว้างขวาง โดยประกอบไปด้วยเตียงคู่ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ ซึ่งเป็นที่นอนที่มีชื่อเสียง "Mariner's Dream™" ที่มาพร้อมกับที่นอนแบบยูโร-ท็อปที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวที่มีแรงดันน้ำสูง และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมกับทัศนียภาพของมหาสมุทร ห้องพักมีขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุต และการจัดวางอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้

ห้องพักภายในของเราออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ที่มีความพิเศษเฉพาะในแบบ Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 182-293 ตารางฟุต โดยมีหัวฝักบัวเพื่อการนวดคุณภาพพรีเมียมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่ผ่อนคลายและเหนือระดับ ห้องพักมอบความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศที่เรียบหรู โดยมีการจัดวางที่อาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ แต่ยังคงให้อารมณ์ของการเดินทางที่น่าจดจำในแต่ละช่วงเวลาของการล่องเรือ