
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Zaandam
ฮอลแลนด์อเมริกาไลน์



ท่าเรือซานโตส (Santos) ตั้งอยู่ในประเทศบราซิล เป็นหนึ่งในท่าเรือที่สำคัญและมีความคึกคักที่สุดในโลก โดยท่าเรือซานโตสไม่ได้เป็นเพียงสถานที่สำหรับเรือสำราญมาจอดเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลในบราซิลอีกด้วย เมื่อคุณมาถึงท่าเรือซานโตส คุณจะได้พบกับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองชายทะเลที่คึกคักแห่งนี้ ที่ตั้งอยู่ระหว่างแนวชายฝั่งที่สวยงามและเทือกเขาที่เขียวขจี ท่าเรือทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นในการสำรวจเมืองซานโตส ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องของชายหาดที่งดงาม เช่น มงตูบา (Montuba) และการเดินเล่นในสวนสาธารณะปาเอีย (Praia do Gonzaga) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและคาเฟ่ตลอดเส้นทาง นอกจากนี้ เซียนนักชิมทุกท่านต้องไม่พลาดสัมผัสกับอาหารทะเลที่สดใหม่และสูตรเฉพาะของซานโตส รวมไปถึงการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ซานโตส ซึ่งนำเสนอประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองนี้อย่างน่าสนใจ ท่าเรือซานโตสจึงไม่ใช่แค่สถานที่สำหรับการขึ้นเรือ แต่เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าประทับใจในบราซิลอย่างแท้จริง.

อิลฮา แกรนเด เป็นจุดหมายปลายทางอันงดงามที่ซ่อนเร้นอยู่ในเมืองบราเซิล ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และชายหาดที่สวยงามสะกดทุกสายตา คุณสามารถเดินเล่นบนชายหาดที่มีปีกสีทองอย่าง Praia Lopes Mendes หรือจะสำรวจป่าฝนเขตร้อนที่เต็มไปด้วยพันธุ์พืชและสัตว์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น อิลฮา แกรนเด ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยกิจกรรมให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูปะการัง ดูปลาสีสันสดใส หรือนั่งเรือไปชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบเกาะ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย การปีนเขาไปยังยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาะก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าตื่นเต้น เพื่อให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด อย่าลืมลองสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการล déguster อาหารทะเลสดใหม่ที่มีชื่อเสียง โดนเฉพาะเมนูปลาสด ๆ ที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ซึ่งจะทำให้คุณหลงใหลในความอร่อยแบบบราเซิล ยิ่งไปกว่านั้น การแวะเยือนอิลฮา แกรนเด จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดไปยังสวรรค์ที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยเสน่ห์ ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและสัมผัสชีวิตแบบเรียบง่ายบนเกาะที่นี่ แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขของการเดินทางคืออะไร


ซัลวาดอร์ เดอ บาเฮีย (Salvador de Bahia) เมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งบราซิล เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและความงดงามของท้องทะเล เมืองที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทร surrounded by the stunning Baía de Todos os Santos และมหาสมุทรแอตแลนติก ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองหลวงทางดนตรีที่สำคัญของประเทศ ตัวเมืองแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ Cidade Alta และ Cidade Baixa ที่เชื่อมต่อกันด้วย Elevador Lacerda ที่มีโครงสร้างสวยงาม ซัลวาดอร์เด่นชัดด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากแอฟริกัน โดยเฉพาะผู้คน Afro-Brazilian ที่มีมากถึง 70% ของประชากรทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีวัดและโบสถ์ที่ประดับด้วยทองคำ ทำให้เมืองนี้ถูกยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว สถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับดนตรีและการเต้นรำแอฟริกัน รวมถึงการชมคาโปเอร่า ศิลปะการต่อสู้ที่เกิดจากแรงงานทาส พื้นที่ Pelourinho เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบ้านเรือนสีสันสดใสจากศตวรรษที่ 18-19 และพลาซ่าที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมร้านค้าและร้านอาหารที่เปิดตลอดคืน นอกจากนี้ ทะเลบริเวณชายฝั่งของเมืองยังมีชายหาดที่งดงามและสะอาดที่สุด ที่รอให้คุณมาสัมผัสความสุขแห่งการพักผ่อนในแสงดาวของซัลวาดอร์ เดอ บาเฮีย

เรซิฟ (Recife) เมืองสีสันแห่งบราซิลที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยและประวัติศาสตร์ ช่วงเวลาแห่งการเจริญรุ่งเรืองของเมืองนี้เริ่มขึ้นในยุคที่ดัตช์เข้ามาปกครอง โดยมีการพัฒนาอย่างมากในสมัยของเคานต์มอริซิโอ เดอ นาซาว์ เมืองนี้ตั้งอยู่ในรัฐเปร์นัมบูโก้ (Pernambuco) ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่สำคัญของการต่อสู้ระหว่างชาวดัตช์และชาวโปรตุเกส เรซิฟมีสถาปัตยกรรมที่งดงามตลอดแนวย่านแม่น้ำ สะท้อนวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนอยู่ในยุโรป แม้ว่าโครงสร้างอาคารบางส่วนในยุค 19 ได้ถูกปรับปรุงใหม่ แต่ยังมีเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่สามารถพบนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ เรซิฟยังเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพแห่งที่สามของบราซิล และเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่มีคุณภาพ เมืองนี้นับว่ามีร้านอาหารมากมายที่เสิร์ฟอาหารอร่อยตั้งแต่จานท้องถิ่นไปจนถึงระดับโลก การเดินเที่ยวชมเมืองเรซิฟก็ยังชวนให้ตื่นตาตื่นใจด้วยแม่น้ำที่ไหลผ่านถึงสามสาย และสะพาน 49 สะพานที่เชื่อมต่อกันอย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็นชายหาด Boa Viagem ที่เต็มไปด้วยสาหร่ายหรือเขตเมืองเก่าที่มีชื่อว่า Recife Antigo ซึ่งให้บรรยากาศที่โรแมนติก เมืองเรซิฟมีเสน่ห์ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาอีกครั้งแน่นอนค่ะ

ฟอร์เทลซา (Fortaleza) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เมืองแห่งแสงสว่าง" เป็นท่าเรือสำคัญของบราซิลที่มีชื่อเสียงในด้านแสงแดดที่ส่องสว่างถึง 2,800 ชั่วโมงต่อปี ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามของชายทะเลที่ยาวเหยียดไปทางตะวันออกและตะวันตก ชายหาดในฟอร์เทลซามีเสน่ห์อันโดดเด่น ทั้งชายฝั่งทะเลอีสท์ที่เรียกว่า "Costa Sol Nascente" เต็มไปด้วยหมู่บ้านชาวประมงที่น่าหลงใหล ขณะที่ชายฝั่งทางตะวันตก หรือ "Costa Sol Poente" มีพื้นที่ชายหาดที่สะอาดบริสุทธิ์ มอบบรรยากาศที่เงียบสงบและเย็นสบาย โดยอุณหภูมิของน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 24°C ฟอร์เทลซายังเป็นเมืองหลวงของรัฐที่มีประชากรมากกว่า 2 ล้านคน และเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับห้าในประเทศบราซิล สุดทันสมัยด้วยสนามบินใหม่ ศูนย์ประชุมที่ทันสมัย และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย รวมถึงพิพิธภัณฑ์และโรงละครมากมาย ในย่านชายหาด Praia de Iracema คุณจะพบกับร้านกาแฟริมชายหาด บาร์ และคลับเต้นรำที่ให้บรรยากาศสนุกสนาน แต่ถ้าคุณเดินไปตามแนวชายฝั่ง คุณก็จะได้พบกับชาวประมงที่ยังคงพายเรือจังการ์ด (jangadas) มาขึ้นฝั่งพร้อมกับจับปลาในแบบดั้งเดิม การเยือนฟอร์เทลซาจึงเป็นทริปที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม การพักผ่อนในบรรยากาศที่สวยงาม และความเป็นบราซิลในแบบที่ลงตัวอย่างแท้จริง.
ท่าเรืออิโคอาราชี (Icoaraci) ตั้งอยู่ในบราซิล เป็นจุดแวะพักที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่กำลังมองหาแหล่งประสบการณ์ใหม่ ในท่าเรือนี้ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ ถ่ายทอดเสน่ห์ของวัฒนธรรมบราซิลที่เต็มไปด้วยสีสัน หลังจากขึ้นจากเรือสำราญแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมตลาดพื้นเมืองที่เต็มไปด้วยของอร่อย อาทิ อาหารทะเลสดใหม่และผลไม้ท้องถิ่นที่มีรสชาติหวานฉ่ำ นอกจากนี้ยังมีการแสดงศิลปะและดนตรีท้องถิ่นที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ไม่ควรพลาดที่จะสำรวจความงามของธรรมชาติรอบท่าเรือ เช่น ป่าชายเลนที่เป็นที่อยู่อาศัยของนกและสัตว์น้ำมากมาย บริเวณชายฝั่งที่ทอดยาวสามารถทำกิจกรรมพายเรือแคนนูหรือตกปลาได้โดยที่คุณสามารถสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวประมงในพื้นที่ ท่าอิโคอาราชีเป็นประตูสู่ประสบการณ์ที่หรูหราและน่าหลงใหล ให้คุณได้ใช้เวลากับธรรมชาติและวัฒนธรรมอันหลากหลาย อย่าลืมเก็บภาพความทรงจำที่งดงามนี้กลับไปเผื่อแบ่งปันกับคนที่คุณรัก ความทรงจำที่นี่จะติดตรึงใจคุณไปอีกนานแสนนาน

บนชายฝั่งของเฟรนช์เกียน่า มีเกาะที่สื่อถึงความลึกลับและน่าสะพรึงกลัว นั่นคือ "เกาะปีศาจ" (Devil’s Island) รูปร่างของเกาะเป็นเหมือนกุญแจ มีหินแหลมคมและต้นมะพร้าวที่สั่นไปตามลม ที่นี่เคยเป็นสถานที่คุมขังที่โหดร้ายและน่าสะพรึงกลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ สถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการทรมานและลงโทษอาชญากรที่เลวร้ายที่สุดของจักรวรรดิฝรั่งเศส แม้เกาะนี้จะปิดตัวลงตั้งแต่ปี 1953 แต่ชื่อเสียงที่เรียกว่าหมายถึงนรกบนดินยังคงอยู่ ภาพลักษณ์ที่น่าขนลุกในขณะที่เรือสำราญของคุณเข้าใกล้เกาะนี้ จะทำให้คุณรู้สึกถึงความแปลกประหลาด โดยต้นมะพร้าวที่ดูเหมือนไม่เป็นภัยกลับโบกมือเชื้อเชิญคุณมาที่ชายฝั่ง หากคุณมีโอกาสไปเยือนเกาะนี้ อย่าลืมสำรวจแนวชายฝั่งที่สวยงามและภูมิประเทศที่ทรงเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ หรือทะเลสีน้ำเงินที่ตั้งอยู่รายล้อม นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่รอการเปิดเผย ทำให้เกาะปีศาจเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความลี้ลับ รอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต!

ท่าเรือบริจด์ทาวน์ในบาร์เบโดส เป็นที่ที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลาย ตั้งอยู่ข้างอ่าวธรรมชาติแห่งเดียวของเกาะ ท่านจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และยุคล่าอาณานิคม จนสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นพร้อมด้วยชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม ระหว่างการสำรวจเมืองนี้ ท่านจะได้พบกับอาคารรัฐสภาที่จัดสร้างในสไตล์อังกฤษ และประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในโบสถ์แองกลิกัน รวมถึงกองทัพบาร์เบโดสซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่ผ่อนคลายและชีวิตชายหาดที่คึกคักได้อย่างเต็มที่ การเดินทางจากเรือไปยังยานพาหนะเพื่อเริ่มต้นการท่องเที่ยวอาจมีระยะทางที่แตกต่างกันไป แต่อย่าห่วง เพราะทุกช่วงเวลาในบริจด์ทาวน์แทบจะตื่นเต้นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่รอคอยให้ท่านได้สัมผัส ซึ่งจะทำให้ทริปของท่านเป็นที่น่าจดจำไม่มีวันลืม กลับใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่บริจด์ทาวน์ สถานที่แสนประทับใจในบาร์เบโดส

เมื่อเรานึกถึงเกาะที่มีเสน่ห์แบบเขตร้อนที่รอการค้นพบ เกาะเซนต์ลูเซีย (Saint Lucia) คือสวรรค์ที่หยิบยื่นให้เราได้สัมผัสที่นี่ การเดินทางมาถึงท่าเรือคาสทรีส (Castries) จะนำพาคุณสู่โลกแห่งธรรมชาติอันงดงามในพื้นที่อันเล็กเพียง 27 ไมล์ยาวและ 14 ไมล์กว้าง แต่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สดใส ประกอบไปด้วยป่าฝนเขียวขจีและสวนกล้วยอันอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของเกาะนี้ต้องยกให้กับยอดเขาเลส์ปีตอง (Les Pitons) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีความสูงถึง 2,000 ฟุต ที่ส่งเสริมความยิ่งใหญ่และความงามของทิวทัศน์ บนเกาะยังมีนกหายากเช่นนกแก้วเซนต์ลูเซีย และพืชพันธุ์ที่แปลกใหม่มากมายที่รอให้คุณได้สำรวจ สัมผัสความอบอุ่นและยินดีต้อนรับจากชาวเกาะในหมู่บ้านเล็กๆ และการเดินตลาดกลางแจ้งที่มีสีสัน อย่างไรก็ตามควรระวังถึงเส้นทางที่ขรุขระซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านหลังหรือคอ เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำอันน่าประทับใจ พาทุกคนสัมผัสประสบการณ์น่าตื่นเต้นในแดนสวรรค์นี้ที่คุณจะไม่อยากพลาด!

เมื่อเรือล่องเรือสำราญจอดที่ท่าเรือ Basseterre ของเกาะเซนต์คิตส์และเนวิส คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของหมู่เกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่เผยให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในพื้นที่เพียง 65 ตารางไมล์ ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและทิวทัศน์ที่เขียวขจีของทุ่งอ้อยหลากหลายทำให้ที่นี่ถือเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่รักการสำรวจ คุณจะได้พบกับป่าเขตร้อนที่มีน้ำตกและเส้นทางลับ รวมถึงเทือกเขากลางที่ถูกปกครองโดยยอดเขา Mt. Liamuiga ที่มีความสูงถึง 3,792 ฟุต ที่นี่เคยเป็นภูเขาไฟแต่ปัจจุบันได้ดับสนิทแล้ว ความงดงามของ Brimstone Hill สถานที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 18 ซึ่งถูกเรียกว่า "กิ๊บรอลตาร์แห่งอินเดียตะวันตก" ก็เป็นอีกจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ชาวเกาะมีอัธยาศัยดีและพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงตะวันตก อินเทรนด์เรื่องมารยาทในสังคมที่นี่คือควรขออนุญาตก่อนถ่ายภาพ และควรสวมชุดคลุมหรือกางเกงขาสั้นเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ สัมผัสกับเสน่ห์ของเซนต์คิตส์และเนวิส แล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้ไม่รู้ลืม!

ซานฮวน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเปอร์โตริโก ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ติดทะเลอาตแลนติกซึ่งค้นพบโดยนักสำรวจ ฮวน ปอนเซ เด ลีออน เมื่อปี ค.ศ. 1508 เมืองนี้ส่องประกายทั้งในด้านสถาปัตยกรรมอันงดงามจากยุคอาณานิคมและความทันสมัย มีพื้นที่ที่น่าหลงใหลอย่าง Old San Juan ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยโดดเด่นด้วยถนนหินทรายและอาคารที่มีสีสัน อนุสรณ์สถานเช่น Castillo San Felipe del Morro ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น ซานฮวนไม่ได้มีดีแค่ส่วนที่เป็นประวัติศาสตร์ ยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาสำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนท้องถิ่น สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยชายหาดสวยงาม, คลับเสียงดังกระหึ่ม, ร้านอาหารระดับโลก, และพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ที่นำเสนอวัฒนธรรมและศิลปะหลากหลาย ประสบการณ์นี้ทำให้การเยือนซานฮวนไม่เป็นเพียงแค่การได้เที่ยวชมเมือง แต่คือการได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอันหลากหลายและเต็มไปด้วยสีสัน เมื่อคุณย่างก้าวเข้ามาในเมืองนี้ จะมีเสน่ห์ที่ทำให้คุณหลงใหลและรู้สึกอยากกลับมาอีกครั้ง ด้วยวัฒนธรรมที่เข้มข้นและความงดงามที่รอคอยให้คุณค้นพบ ร่วมสร้างความทรงจำในซานฮวน เพื่อตอบโจทย์ความฝันในการเดินทางที่ทุกคนใฝ่หา.

ฟอร์ตลอเดอร์เดล เมืองชายฝั่งที่ตั้งอยู่ในรัฐฟลอริด้า คือจุดหมายปลายทางที่แสนงดงามและมีชีวิตชีวา เหมาะแก่การสำรวจและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ริมชายหาดที่สวยงาม คุณจะได้พบกับลาดยาโอลาส (Las Olas Boulevard) ที่เป็นศูนย์กลางของชีวิตเมือง มีร้านค้า บูติก และคาเฟ่ที่ทันสมัย ตั้งเรียงรายตลอดเส้นทาง 2 ไมล์ อันเป็นความพิเศษที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากชีวิตกลางคืนและวัฒนธรรมที่จัดเต็ม ฟอร์ตลอเดอร์เดลยังมีหาดทรายที่สวยสดงดงาม โซนที่พักหรูหราพร้อมวิวทะเลที่น่าประทับใจ ถูกสร้างขึ้นเพื่อแทนที่โรงแรมเก่าแก่ที่เคยเป็นเสน่ห์ในอดีต เมืองนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางสำหรับทั้งการเดินเรือและกีฬาทางน้ำ โดยมีกลุ่มยอชต์ที่ตั้งเรียงตามแนวชายฝั่ง ฟอร์ตลอเดอร์เดล จึงไม่ใช่แค่จุดหมายของการท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสถานที่ที่กระตุ้นให้เกิดความตื่นเต้นแก่ผู้ที่รักในทะเลและชีวิตค่ำคืนที่มีสีสัน. หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่หลากหลายและมีความน่าหลงใหล ฟอร์ตลอเดอร์เดลจะทำให้การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจและประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะอยู่ในใจตลอดไป


ห้องพักระดับสูงสุดในคลาสนี้คือ “巔峰套房” ที่ออกแบบอย่างหรูหราและกว้างขวาง เต็มไปด้วยแสงสว่าง ห้องนี้ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวขนาดเล็กพร้อมไมโครเวฟ ตู้เย็น และมินิบาร์ โดยมีหน้าต่างจากพื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงส่วนตัว ห้องนอนที่หรูหรามีเตียงขนาดคิงไซส์ที่เป็นเอกลักษณ์ “Mariner's Dream™” มีที่นอนฟูกนุ่มสบาย พร้อมด้วยห้องแต่งตัวแยกต่างหาก นอกจากนี้ ห้องน้ำยังมีอ่างอาบน้ำแบบเจ็ตและฝักบัวขนาดใหญ่ ห้องนี้ยังมาพร้อมกับโซฟาเบดที่นอนได้สองคน และห้องน้ำแขกอีกด้วย ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวก ผู้เข้าพักจะได้ใช้ระบบเสียงส่วนตัว ใช้บริการ Neptune Lounge แบบเอ็กซ์คลูซีฟ และบริการช่วยเหลือส่วนตัว พร้อมด้วยบริการฟรีอีกมากมาย ห้องพักทุกห้องมีขนาดประมาณ 1,296 ตารางฟุต รวมระเบียงส่วนตัวโดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและความหรูหราในการพักผ่อน ทางเลือกนี้ไม่ควรพลาด

ห้องสวีทขนาดกว้างของเรา "สวีทเนปจูน" มาพร้อมกับหน้าต่างจากพื้นจรดเพดานที่ให้ทัศนียภาพสวยงามของระเบียงส่วนตัวที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง ห้องนี้ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่นขนาดใหญ่ที่มีมินิบาร์และตู้เย็น พร้อมเตียงคู่ที่สามารถปรับเป็นเตียงคิงไซส์ "Mariner's Dream™" ที่มีที่นอน Euro-Top ให้ความนุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีกั้นตู้เสื้อผ้าแยกต่างหาก และโซฟาเบดที่รองรับผู้เข้าพักได้อีกสองคน ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำแบบวนรอบขนาดใหญ่และฝักบัวเพื่อความสะดวกสบายอีกด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงการใช้บริการจาก Neptune Lounge ที่เป็นเอกสิทธิ์ บริการคอนเซียจส่วนตัว และบริการที่หลากหลายเพื่อยกระดับประสบการณ์การพักผ่อนของคุณ ขนาดพื้นที่ประมาณ 558-566 ตารางฟุต รวมระเบียง ทำให้คุณได้สัมผัสกับความหรูหราอย่างแท้จริงในทุก ๆ การเดินทางของคุณ

ห้องพัก "景致套房" เป็นสวีทที่กว้างขวางและเต็มไปด้วยแสงธรรมชาติ ซึ่งมีระเบียงลายไม้สักและหน้าต่างจากพื้นจรดเพดาน พร้อมด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย ห้องพักนี้มีเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซด์ ซึ่งเป็นเตียงที่มีชื่อเสียงของเรา มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีอ่างอาบน้ำแบบจากุซซี่และฝักบัว, มินิบาร์, รวมถึงตู้เย็น ห้อง "景致套房" ขนาดประมาณ 297-379 ตารางฟุต รวมระเบียงด้วย ซึ่งจะตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างหรูหราอย่างแท้จริง

ห้องพักขนาดกว้างขวางนี้มีเตียงนอนขนาดเล็กสองเตียงที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงคิงไซส์ ซึ่งคือเตียงที่ได้รับการออกแบบตามมาตรฐานของเราคือ Signature Mariner's Dream™ เตียงนี้มาพร้อมกับที่นอนแบบ Euro-Top ที่นุ่มสบาย, หัวฝักบัวนวดพรีเมียม, สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และวิวทะเลที่สวยงาม ขนาดของห้องพักอยู่ระหว่าง 140 ถึง 319 ตารางฟุต โดยการจัดรูปแบบห้องอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง ร่วมสัมผัสประสบการณ์พิเศษในห้องพักประเภท "海景艙" ที่สร้างความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกการเดินทาง

ห้องพักประเภท "วิวทะเล: วิวทะเลบางส่วน" มาพร้อมกับวิวทะเลเป็นบางส่วนและสามารถปรับเปลี่ยนเตียงสองเตียงให้กลายเป็นเตียงขนาดคิงไซส์ได้ โดยเป็นเตียงที่ออกแบบเฉพาะของเราคือ Mariner's Dream™ ที่มีฟูกนุ่มสบายแบบ Euro-Top รวมถึงฝักบัวอาบน้ำพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุต โดยการจัดวางห้องพักอาจแตกต่างจากภาพที่แสดง การเข้าพักในห้องนี้จะทำให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่หรูหราและสะดวกสบายในขณะล่องเรือ.

ห้องพักขนาดใหญ่ประเภท Sea View: วิวถูกปิดกั้นมีเตียงสองเตียงที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์—เตียง Mariner's Dream™ ที่มีคุณภาพสูง พร้อมที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวนวดระดับพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุต แม้ว่าจะไม่มีวิวให้ชม แต่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนอย่างเต็มที่ในบรรยากาศที่หรูหราและสะดวกสบาย

ห้องพักประเภท "舷窗" มีพื้นที่กว้างขวาง โดยประกอบไปด้วยเตียงคู่ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเตียงขนาดควีนไซส์ ซึ่งเป็นที่นอนที่มีชื่อเสียง "Mariner's Dream™" ที่มาพร้อมกับที่นอนแบบยูโร-ท็อปที่นุ่มสบาย นอกจากนี้ยังมีฝักบัวที่มีแรงดันน้ำสูง และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมกับทัศนียภาพของมหาสมุทร ห้องพักมีขนาดประมาณ 140-319 ตารางฟุต และการจัดวางอาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้

ห้องพักภายในของเราออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมเตียงคู่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นเตียงควีนไซส์ที่มีความพิเศษเฉพาะในแบบ Mariner's Dream™ ที่มาพร้อมกับที่นอน Euro-Top ที่นุ่มสบาย ห้องพักมีขนาดประมาณ 182-293 ตารางฟุต โดยมีหัวฝักบัวเพื่อการนวดคุณภาพพรีเมียมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนที่ผ่อนคลายและเหนือระดับ ห้องพักมอบความเป็นส่วนตัวในบรรยากาศที่เรียบหรู โดยมีการจัดวางที่อาจแตกต่างจากภาพที่แสดงไว้ แต่ยังคงให้อารมณ์ของการเดินทางที่น่าจดจำในแต่ละช่วงเวลาของการล่องเรือ