
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เอ็มเอส ยูโรปา
Hapag-Lloyd Cruises


เมื่อพูดถึงเมืองที่มีมนต์เสน่ห์ที่สุดในฝรั่งเศส คงจะไม่สามารถมองข้ามเมืองนีซได้ เมืองนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส เก่าแก่ถึง 230,000 ปี และถือเป็นเพชรเม็ดงามบนโค้งริมหาดสีน้ำเงิน เมืองนีซมีประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล โดยในสมัยโบราณมีชาวกรีกได้จัดตั้งท่าเรือที่นี่ ตั้งชื่อว่า “นิกาเรีย” ซึ่งกลายมาเป็นคู่แข่งสำคัญของเมืองมาร์เซย์ เมืองนีซได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมอิตาเลียนในช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองของบ้านซาวอยติดต่อกันนานถึง 500 ปี ส่งผลให้เมืองนี้มีวัฒนธรรมที่หลากหลายและสวยงาม ดินแดนที่ปัจจุบันถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ "promenade des Anglais" เส้นทางริมทะเลสายงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทุกย่างก้าวจะได้พบกับร้านค้าหรือร้านอาหารที่มีบรรยากาศสุดคลาสสิก นอกจากความสวยงามของชายหาด ท่าเรือนีซยังมีการปรับปรุงให้ทันสมัย ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินมาชมสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ที่นี่ยังเหมาะสำหรับครอบครัว เพราะมีป้าย “Family Plus” ที่รองรับผู้ที่มีเด็กเล็กด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางอย่างแท้จริง เมืองนีซคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด!


มาทำความรู้จักกับเมืองวาเลนเซีย ประเทศสเปน ซึ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลายที่น่าหลงไหล วาเลนเซียเป็นเมืองที่มีขนาดเป็นอันดับสามของสเปน มีชีวิตชีวาด้วยกิจกรรมยามค่ำคืน ร้านอาหารรสเลิศ และพิพิธภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายคนมุ่งหมายไปเยี่ยมชมตลอดทั้งปี ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน วาเลนเซียเคยเป็นที่ตั้งของรัฐบาลผู้ภักดีต่อสาธารณรัฐในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน และในปัจจุบันเมืองนี้แสดงถึงความทันสมัยของสเปน ด้วยสถาปัตยกรรมที่แปลกใหม่และการทำอาหารที่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังคงรักษาประเพณีที่สำคัญไว้อย่างเกียรติ แม้ว่าวาเลนเซียจะอยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ถูกหล่อหลอมจากแม่น้ำทูเรียที่สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่รอบๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ เช่น Ciutat de les Arts i les Ciències ที่ออกแบบโดยสถาปนิกมีชื่อ ซานติอาโก คาลาตราวา รวมถึงสวนธรรมชาติอัลบูเฟร่าที่เหมาะสำหรับการเยี่ยมชม การเดินทางมาที่วาเลนเซียจึงเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ที่ผสมผสานทั้งศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอย่างลงตัว มาเริ่มต้นการเดินทางสุดหรูด้วยตัวคุณเองในเมืองนี้กันเถอะ!

มาร์เบลล่า (Marbella) เมืองชายทะเลที่เลื่องชื่อในสเปน เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหรูหรา บริเวณท่าเรือของมาร์เบลล่าเป็นแหล่งรวมเรือสำราญสุดหรู ซึ่งท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศชายทะเลที่สวยงาม พร้อมชมทิวทัศน์ของภูเขาเซอโรเนร่าที่โดดเด่น การเดินเล่นริมท่าเรือมาร์เบลล่าเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ มองเห็นเรือยอร์ชที่เรียงราย ทำให้รู้สึกถึงความหรูหราของการพักผ่อนในสไตล์ชาวเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหารชั้นนำมากมายที่เสิร์ฟเมนูเด็ดจากพื้นเมือง และอาหารอินเตอร์เน็ตที่อร่อย นอกจากท่าเรือที่สวยงามแล้ว มาร์เบลล่ายังมีสถานที่ที่น่าสนใจ เช่น ชายหาดที่ละเอียด ขาวสะอาด วัฒนธรรมที่เข้มแข็ง และสนามกอล์ฟที่มีมาตรฐานสูง ถือเป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนในบรรยากาศแห่งความหรูหรา มาร์เบลล่าจึงไม่ใช่เพียงแค่ท่าเรือที่มีเกียรติ แต่ยังเป็นเมืองที่หลอมรวมความเป็นธรรมชาติและความหรูหรา เข้ากับการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ รอคอยคุณมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ที่มาร์เบลล่า!


ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา


ลาคอรุญ่า คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคกาลิเซีย ประเทศสเปน และเป็นหนึ่งในท่าเรือที่คึกคักที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ในมุมตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรไอบีเรีย โดยมีทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มและหมอกลงหนา แตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ ของสเปน ชื่อ "กาลิเซีย" มีรากศัพท์มาจากภาษาเซลติก ซึ่งเป็นที่อยู่ของเซลติคในช่วงศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ลาคอรุญ่า เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญตั้งแต่สมัยโรมัน และพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15 เมื่อได้รับสิทธิในการค้ากับอเมริกาในปี 1720 ความงดงามของลาคอรุญ่าสะท้อนผ่านอาคารแบบกระจกซึ่งทำให้เมืองนี้ได้รับชื่อว่า "เมืองแห่งคริสตัล" และสถานที่สำคัญอย่างจัตุรัสมาเรียพิทา ซึ่งเป็นเกียรติแก่หญิงผู้กล้าที่เคยปกป้องเมืองในปี 1589 ปัจจุบัน เมืองประกอบด้วยสามเขตที่แตกต่างกัน ได้แก่ เขตกลางเมือง ธุรกิจ และ “เอนซานเช่” ที่มีคลังสินค้าและโรงงาน อย่าพลาดโอกาสในการสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นและสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเมืองนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจและแรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้มาเยือนต้องกลับมาอีกครั้ง.


เซนต์-มาลโล (Saint-Malo) เมืองท่าแห่งความโรแมนติกที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งเหนือของฝรั่งเศส เป็นจุดหมายที่ต้องไปเยือนสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับประวัติศาสตร์แห่งการเดินเรือและความงดงามของทะเล นับตั้งแต่สมัยก่อน เซนต์-มาลโลได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของนักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงนักสำรวจที่มีชื่อเสียงอย่าง ฌาค คาร์เตียร์ ผู้ซึ่งเคยประกาศสิทธิ์ในแคนาดาให้กับฝรั่งเศสในปี 1534 เมืองนี้เคยถูกเรียกว่า "เมืองโจรสลัด" เนื่องจากมีนักโจรสลัดชื่อก้องอย่าง โรเบิร์ต ซูร์คุฟ และดูเกย์-ทรูอิน ที่ทำให้เซนต์-มาลโลรุ่งเรืองจากการล่าเมืองต่างชาติ แม้ว่าในปี 1944 เซนต์-มาลโลจะได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ที่เกิดจากการต่อสู้ในสงคราม แต่เมืองเก่าก็ได้รับการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ความงามเช่นเดิม ปัจจุบัน, นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในถนนแคบพอ ๆ กับสัมผัสความงามของบ้านหินแกรนิตในย่าน Vieille Ville และชมปราสาทที่ตั้งตระหง่าน ท่าเรือแห่งนี้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนริมทะเล หากคุณต้องการหลีกหนีจากฝูงชน ควรมาที่นี่ในฤดูนอกฤดูท่องเที่ยว รอคอยที่จะสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครของเซนต์-มาลโล สถานที่ที่เก็บรักษาประวัติศาสตร์และการผจญภัยในตำนานไว้อย่างน่าหลงใหล.

เมืองฮอนฟลอร์ (Honfleur) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของ Côte Fleurie ในฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในเมืองชายทะเลที่มีความงดงามแบบคลาสสิคที่ไม่เหมือนใคร ด้วยบ้านไม้กึ่งปูนที่เรียงรายอยู่ตามถนนอิฐประดับ ซึ่งสร้างบรรยากาศสวยงามชวนฝัน เมืองนี้ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูที่งดงาม โดยเฉพาะเมืองเก่าฝั่งท่าเรือ Vieux Bassin ซึ่งเปรียบเสมือนแก่นของสังคมตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 ที่ท่าเรือแห่งนี้ ใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ มีบ้านหินสองชั้นที่มีหลังคาแบบลาดชัน และบ้านสูงที่ตกแต่งด้วยแผ่นหินที่ทำให้ทิวทัศน์รอบด้านมีเสน่ห์เกินบรรยาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางทางทะเลสำคัญ รวมถึงการเดินทางไปยังแคนาดาในอดีต และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินอิมเพรสชันนิสต์ที่ได้มาเยี่ยมชมและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ วันนี้ เมืองฮอนฟลอร์ยังคงมีชีวิตชีวา แม้จะมีผู้คนมาเยือนเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เปิดสะพาน Pont de Normandie ในปี 1995 ที่เชื่อมต่อลุ่มน้ำเหนือของนอร์มานดี เป็นสะพานแขวนที่สูงกว่าหอไอเฟล ยิ่งทำให้ฮอนฟลอร์เป็นจุดหมายที่ต้องไปสัมผัสด้วยตนเองในทริปที่หรูหราและเต็มไปด้วยความประทับใจแห่งนี้

เมืองฮอนฟลอร์ (Honfleur) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของ Côte Fleurie ในฝรั่งเศส ถือเป็นหนึ่งในเมืองชายทะเลที่มีความงดงามแบบคลาสสิคที่ไม่เหมือนใคร ด้วยบ้านไม้กึ่งปูนที่เรียงรายอยู่ตามถนนอิฐประดับ ซึ่งสร้างบรรยากาศสวยงามชวนฝัน เมืองนี้ยังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมสมัยฟื้นฟูที่งดงาม โดยเฉพาะเมืองเก่าฝั่งท่าเรือ Vieux Bassin ซึ่งเปรียบเสมือนแก่นของสังคมตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 ที่ท่าเรือแห่งนี้ ใต้บรรยากาศที่เงียบสงบ มีบ้านหินสองชั้นที่มีหลังคาแบบลาดชัน และบ้านสูงที่ตกแต่งด้วยแผ่นหินที่ทำให้ทิวทัศน์รอบด้านมีเสน่ห์เกินบรรยาย นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางทางทะเลสำคัญ รวมถึงการเดินทางไปยังแคนาดาในอดีต และยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินอิมเพรสชันนิสต์ที่ได้มาเยี่ยมชมและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ วันนี้ เมืองฮอนฟลอร์ยังคงมีชีวิตชีวา แม้จะมีผู้คนมาเยือนเพิ่มขึ้นนับตั้งแต่เปิดสะพาน Pont de Normandie ในปี 1995 ที่เชื่อมต่อลุ่มน้ำเหนือของนอร์มานดี เป็นสะพานแขวนที่สูงกว่าหอไอเฟล ยิ่งทำให้ฮอนฟลอร์เป็นจุดหมายที่ต้องไปสัมผัสด้วยตนเองในทริปที่หรูหราและเต็มไปด้วยความประทับใจแห่งนี้

แอนต์เวิร์ป (Antwerp) ถือเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดดเด่นอยู่ในประเทศเบลเยียม เมืองนี้เป็นที่รู้จักกันในฐานะเมืองแห่งเพชรและศิลปะที่สำคัญของยุโรป ด้วยบรรดาศิลปินที่มีชื่อเสียงซึ่งเคยสร้างสรรค์ผลงานที่นี่ เช่น รูเบนส์ และติซิปิเยอ ไม่เพียงแต่มีความงามของศิลปะเท่านั้น แต่แอนต์เวิร์ปยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมเพชรที่มีชื่อเสียง ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและโชว์รูมเพชรที่สวยงาม นอกจากอุตสาหกรรมเพชรแล้ว เมืองนี้ยังเป็นที่ตั้งของแฟชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีการออกแบบที่ไม่ซ้ำใครและน่าค้นหา และยังมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น พิพิธภัณฑ์แม่บ้าน รูเบนส์ ซึ่งเป็นบ้านของศิลปินชื่อดัง พร้อมด้วยหอศิลป์อีกมากมาย สัมผัสบรรยากาศสุดหรูในย่านเก่าแก่ของแอนต์เวิร์ป เดินช้อปปิ้งที่ถนนแฟชั่น และเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่มีชื่อเสียง จึงไม่แปลกใจเลยที่แอนต์เวิร์ปจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนใฝ่ฝันถึง ระหว่างการเดินทางสำรวจเมืองนี้ คุณจะได้ค้นพบความงดงามที่ซ่อนอยู่และสัมผัสถึงความสร้างสรรค์อันไม่มีที่สิ้นสุดในแอนต์เวิร์ป เมืองที่พร้อมเปิดประตูต้อนรับคุณด้วยประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร.


ฮัมเบิร์ก เมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ตั้งอยู่ริมทะเลเหนือ เมืองแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ แต่ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะและเสน่ห์ของชีวิตเมืองในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมบาโรกที่งดงาม หรือวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำที่รื่นรมย์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับตลาดปลาเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้ยังมีแกลเลอรีศิลปะและพิพิธภัณฑ์ชั้นเลิศ เช่น พิพิธภัณฑ์การเดินเรือฮัมเบิร์ก ที่จะพาคุณย้อนกลับไปยังยุครุ่งเรืองของการค้าและประวัติศาสตร์การเดินเรือ สำหรับผู้ที่หลงใหลในดนตรีและวัฒนธรรม รู้ไหมว่าถนนรอบๆ Grosse Freiheit เคยเป็นเวทีแรกของวงดนตรีชื่อดัง The Beatles ในยุด 60s หลายแห่งที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เคยมีชีวิตชีวาในสมัยกาลก่อน นอกจากนั้น ฮัมเบิร์กยังมีสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบให้แก่นักท่องเที่ยว ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายที่ควรค่าแก่การแวะถ่ายภาพและสัมผัสประสบการณ์อันหลากหลายที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้!




เพนท์เฮาส์แกรนด์สวีทเป็นห้องพักที่กว้างขวาง ขนาด 85 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนสะพาน เหมาะสำหรับผู้รักการพักผ่อนในวันที่อากาศอบอุ่นที่สามารถสัมผัสแสงแดดบนเกาะโซฟา DEDON สุดหรู โดยห้องจะมีการแบ่งพื้นที่การนอนและห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน ตกแต่งด้วยโทนสีธรรมชาติและเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสะดวกสบาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเรียกใช้บริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงบริการห้องพักโดยตรง ภายในห้องพักยังประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พื้นที่รับประทานอาหารที่กว้างขวาง ห้องน้ำที่มีพื้นอุ่น อ่างจากุซซี่ ฝักบัวแยกต่างหาก และซาวน่าเฉพาะตัว อีกทั้งยังมีห้องน้ำสำหรับแขกโดยเฉพาะ คุณจะได้พบกับเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น แท็บเล็ต เครื่องชงกาแฟ Nespresso มินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอัดลม เบียร์ และสุราหรูคุณภาพ พร้อมกับของว่างสดใหม่ นอกจากนี้ยังมีบริการรีดเสื้อผ้า การจองโต๊ะในร้านอาหาร The Globe โดยเชฟเควิน เฟลิ่ง และบริการหนังสือพิมพ์ฉบับเต็มฟรีทุกวันเมื่อมีการร้องขอ สัมผัสความพิเศษและสิทธิพิเศษที่ห้องพักนี้เตรียมไว้ให้คุณอย่างไม่รู้ลืม



ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายของห้องเพนท์เฮาส์ดีลักซ์สวีท ขอบริการความสะดวกสบายจากการบริการของกระเป๋าเดินทางของเรา ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยวชั้นเลิศหรือแก้วแชมเปญ คุณสามารถเลือกใช้เวลาผ่อนคลายในห้องนั่งเล่นที่น่าพิศวงหรือที่ระเบียงส่วนตัวของคุณ โดยทั้งสองที่สามารถมองเห็นวิวมหาสมุทรที่สวยงามได้ ห้องสวีทขนาด 45 ตารางเมตร (484 ตารางฟุต) มีพื้นที่ที่แยกจากกันสำหรับการนอนพักและการใช้ชีวิต พร้อมทั้งตู้เสื้อผ้าแบบใช้เดินเข้าและห้องน้ำที่มีการทำความร้อนพื้น พร้อมอ่างน้ำวนและฝักบัวแยก นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ตและเครื่องชงกาแฟ Nespresso ให้บริการ พร้อมด้วยมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอ่อน เบียร์ และสุราคุณภาพสูง คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การบริการพิเศษด้วยของว่างสดใหม่ทุกวัน รวมถึงบริการรีดผ้า และการจองโต๊ะในร้านอาหาร The Globe โดยเชฟเควิน เฟลลิง ทั้งหมดนี้คือความสะดวกสบายและบริการที่น่าพิศวงซึ่งรอให้คุณสัมผัสในเพนท์เฮาส์ดีลักซ์สวีทของเรา




ห้องพักสวีทสปา ขนาด 27 ตารางเมตร มาพร้อมระเบียงที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสความสบายในบรรยากาศที่ทันสมัยและมีสไตล์ การออกแบบที่เรียบง่ายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนช่วยให้ห้องดูกว้างขวางและสว่างไสวมากยิ่งขึ้น เพื่อความผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ห้องน้ำที่มีแสงธรรมชาติและวิวมหาสมุทร พร้อมอ่างอาบน้ำสปาที่มีไฟวิบวับสามารถมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่งดงามจากอ่างอาบน้ำได้อีกด้วย สำหรับอุปกรณ์ที่เลือกสรรมาให้สอดคล้องกับความต้องการของคุณ ห้องพักนี้ยังมีบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแพ็คเกจสปาที่ให้คุณได้ผ่อนคลายเต็มที่ ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดและตู้เย็นขนาดเล็กให้บริการน้ำดื่ม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เบียร์ และเครื่องดื่มชั้นดีอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ต, เครื่องชงกาแฟ Nespresso, บริการรีดผ้า รวมทั้งการจองโต๊ะสำหรับร้านอาหาร The Globe โดยเชฟ Kevin Fehling และบริการพิเศษตลอดการเข้าพัก เพื่อคืนสู่ความสงบและหรูหราในการพักผ่อนในทุกช่วงเวลา.




ห้องสวีทระเบียง (ประเภท 6-7) เป็นห้องพักที่มีดีไซน์ทันสมัยและตกแต่งอย่างมีสไตล์ในทุกรายละเอียด ขนาดของห้องอยู่ที่ 27 ตารางเมตร (291 ตารางฟุต) พร้อมระเบียงส่วนตัวที่จะให้คุณได้สัมผัสความเป็นส่วนตัวขณะชมวิวที่งดงาม ห้องนี้มีการแบ่งสัดส่วนระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและนอนอย่างชัดเจน พร้อมด้วยบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำพร้อมกับฝักบัวแยกต่างหาก เรายังจัดเตรียมเครื่องนวดกาแฟแบบ Nespresso และมินิบาร์ฟรี ซึ่งมีน้ำดื่ม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม และเบียร์ให้บริการ นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีตัวเลือกในการจองที่เชื่อมต่อกันเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น




ห้องสวีทระเบียง (ประเภท 4-5) เป็นที่พักสุดหรูที่ตอบโจทย์ความต้องการในการพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว โดยมีการออกแบบที่กลมกลืนในโทนสีอ่อนๆ และพื้นที่ใช้สอยที่ถูกแบ่งออกอย่างชัดเจนระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ห้องสวีทขนาด 27 ตารางเมตร (291 ตารางฟุต) มาพร้อมกับระเบียงส่วนตัว ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีบริการห้องสวีท 24 ชั่วโมง ที่จะทำให้การเข้าพักของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น มีตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้าได้และห้องน้ำที่มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยก สำหรับการชงกาแฟนั้นจัดให้มีเครื่องทำกาแฟแบบ Nespresso รวมถึงมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำดื่ม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอัดลม และเบียร์ให้บริการ สำหรับครอบครัว ห้องสวีทบางห้องสามารถจองพร้อมประตูเชื่อมต่อกันเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น หรือสามารถใช้สำหรับผู้ที่มีความพิการได้อีกด้วย

สวีทของคุณเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้านอย่างแท้จริง ด้วยการเลือกใช้โทนสีที่สร้างแรงบันดาลใจ แสงไฟอ่อนโยน และการตกแต่งภายในที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน นำมาซึ่งบรรยากาศที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข ห้องสวีทขนาด 27 ตารางเมตร พร้อมหน้าต่างพาโนรามาที่ให้คุณได้ชมวิวที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน นอกจากนี้ยังมีบริการห้องสวีทตลอด 24 ชั่วโมง พื้นที่นั่งเล่นและนอนแบ่งแยกอย่างชัดเจน มีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก รวมถึงเครื่องชงกาแฟ Nespresso และมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ ผลไม้ นํ้าอัดลม และเบียร์ให้บริการ ท่านจะได้สัมผัสความหรูหราในทุกช่วงเวลาที่อยู่ในสวีทนี้