
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เอ็มเอส ยูโรปา
Hapag-Lloyd Cruises


ฮัมเบิร์ก เมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ตั้งอยู่ริมทะเลเหนือ เมืองแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ แต่ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะและเสน่ห์ของชีวิตเมืองในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมบาโรกที่งดงาม หรือวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำที่รื่นรมย์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับตลาดปลาเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้ยังมีแกลเลอรีศิลปะและพิพิธภัณฑ์ชั้นเลิศ เช่น พิพิธภัณฑ์การเดินเรือฮัมเบิร์ก ที่จะพาคุณย้อนกลับไปยังยุครุ่งเรืองของการค้าและประวัติศาสตร์การเดินเรือ สำหรับผู้ที่หลงใหลในดนตรีและวัฒนธรรม รู้ไหมว่าถนนรอบๆ Grosse Freiheit เคยเป็นเวทีแรกของวงดนตรีชื่อดัง The Beatles ในยุด 60s หลายแห่งที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เคยมีชีวิตชีวาในสมัยกาลก่อน นอกจากนั้น ฮัมเบิร์กยังมีสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบให้แก่นักท่องเที่ยว ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายที่ควรค่าแก่การแวะถ่ายภาพและสัมผัสประสบการณ์อันหลากหลายที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้!


ท่าเรือ Newhaven ในเอดินบะระ สกอตแลนด์ ตั้งอยู่ระหว่าง Leith และ Granton ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 2 ไมล์ ท่าเรือแห่งนี้ถูกพัฒนาเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล ที่นำเสนอประสบการณ์การเดินทางสุดหรูท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ของเมือง Newhaven เคยเป็นหมู่บ้านและท่าเรือน้อยที่ตั้งอยู่ริม Firth of Forth ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจความงามของเมืองเอดินบะระแสนมีชีวิตชีวา เมื่อเดินทางมาที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับทัศนียภาพที่น่าประทับใจของท่าเรือและเรือดอกไม้สวยที่ลอยอยู่ในทะเล รวมทั้งมีกิจกรรมต่างๆ ให้เลือกมากมาย เช่น การล่องเรือชมวิวและการปั่นจักรยานตามแนวชายฝั่ง หากคุณหลงใหลในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม เพียงไม่นานหลังจากนั้นคุณจะถูกพาไปยังเอดินบะระที่อัดแน่นไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ปราสาทเอดินบะระและ Royal Mile เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับพลังของประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาของสกอตแลนด์ Newhaven ไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือที่น่าประทับใจ แต่ยังเป็นประตูสู่การสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และการหลงใหลในบรรยากาศอันอบอุ่นของเมืองเอดินบะระ อย่าพลาดโอกาสนี้ที่จะสัมผัสประสบการณ์ที่แสนพิเศษและสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืมในดินแดนแห่งความฝันนี้

ยินดีต้อนรับสู่เมืองเคิร์ควอลล์ ซึ่งเป็นเมืองหลักของหมู่เกาะออร์คนีย์ที่สกอตแลนด์ สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวประวัติศาสตร์ในทุกซอกมุม ด้วยถนนเล็ก ๆ ที่คดเคี้ยวและบรรยากาศที่คึกคัก ความประทับใจแรกเมื่อเข้าเมืองคือโบสถ์คันทาร์เบอรี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์มากมายที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของออร์คนีย์ การเดินเล่นในย่านเก่าแก่ของเคิร์ควอลล์จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามแห่งทัศนียภาพที่ทอดยาวไปยังท่าเรือและท้องทะเลที่สดใส เรือสำราญที่แวะมาที่นี่จะมอบโอกาสให้คุณได้สำรวจร้านค้าและคาเฟ่ท้องถิ่น พร้อมด้วยสิ่งของที่ระลึกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ นอกจากเคิร์ควอลล์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ชายหาดที่สวยงามและแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียง ผู้เดินทางสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำ ในขณะที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์และการต้อนรับที่อบอุ่นจากชาวออร์คนีย์ สัมผัสความมหัศจรรย์นี้ในครั้งต่อไปเมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่เคิร์ควอลล์และคอยต้อนรับความฝันแห่งการเดินทาง!


ฮีมาอี ของไอซ์แลนด์ คือจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางด้วยเรือสำราญ สัมผัสกับบรรยากาศของเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของการระเบิดภูเขาไฟที่น่าพิศวงเมื่อกว่า 40 ปีก่อน ซึ่งทำให้เกาะนี้ถูกแปรเปลี่ยนไปอย่างเหลือเชื่อ แต่ด้วยความกล้าหาญของผู้คนบนเกาะที่ได้ใช้น้ำทะเลหยุดยั้งลาวาจากภูเขาไฟเอลด์เฟล ทำให้ท่าเรือยังคงเปิดอยู่และอุตสาหกรรมการประมงที่มีความสำคัญยังคงยืนยาวต่อไป เดินเที่ยวตามถนนที่สวยงามในฮีมาอี ที่รายล้อมไปด้วยบ้านไม้สีขาว เรายังสามารถชมปราสาทหินภูเขาไฟที่ตระการตาที่เสมือนลอยอยู่เหนือน้ำ ส Revealing Nature of Iceland—through its landscapes, wildlife, and the warmth of its people—คุณจะได้สัมผัสความงามที่ไม่มีที่ไหนเหมือน สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติโดยใกล้ชิด ต้องไม่พลาดไปสำรวจชายฝั่งที่เต็มไปด้วยชีวิตทะเล รวมถึงนกพันธุ์หายากที่อพยพมาที่นี่ นอกจากการเดินชมหรือท่องเที่ยวแบบมีไกด์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมและอาหารท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเหตุนี้ ฮีมาอี จึงเป็นจุดหมายที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปให้ถึง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางหาทางออกใหม่ๆ ในชีวิต.

เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!

พบกับความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติที่เวสต์ฟยอร์ด ประเทศไอซ์แลนด์ ท่าเรือแห่งนี้มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครในทุกมุมมอง ด้วยภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยฟยอร์ดลึกและภูเขาสูงตระหง่าน น้ำทะเลที่ใสสะอาดและทิวทัศน์ที่งดงามสร้างบรรยากาศอันเงียบสงบ เหมาะแก่การหลบหนีจากชีวิตยุ่งเหยิงในเมืองใหญ่ เมื่อมาเยือนที่เวสต์ฟยอร์ด นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การเดินป่าผ่านสวนสาธารณะธรรมชาติ Djupavik ที่โดดเด่นไปด้วยน้ำตกที่สวยงาม ไปจนถึงการสำรวจเพนกวินคิงปิ้งและแมวน้ำที่ชายหาด Eglisstadir อันแสนสงบ หากคุณเป็นคนรักการถ่ายภาพ ที่นี่คือตัวเลือกที่ดี เพราะทิวทัศน์ร่ำรวยจะถูกบันทึกไว้ในความทรงจำของคุณ โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่เวสต์ฟยอร์ดมีแสงแดดยาวนานสามารถเห็นนอร์เทิร์น ไลท์ในฤดูหนาว ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่นเดียวกับที่ชาวไอซ์แลนด์ใช้ชีวิตง่าย ๆ แต่เต็มไปด้วยความงามตลอดฤดูกาล อย่าลืมแวะท้ายท่าเรือนี้เพื่อสัมผัสมนตร์เสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ให้คุณฝังใจแน่นอน

อาคูเรย์รีเป็นเมืองหลวงของภาคเหนือของไอซ์แลนด์ และเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เป็นเมืองที่มีความเป็นเอกลักษณ์ซึ่งตั้งอยู่ริมฟยอร์ดอันงดงามยาว 60 กิโลเมตร ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาทั้งสามด้าน ทำให้ได้รับการปกป้องจากลมทะเลอันรุนแรง สถาปัตยกรรมไม้สไตล์ศตวรรษที่ 19 ยังบอกเล่าเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่นี่ ขณะที่โบสถ์ลูเธอแรนที่มีหอคอยคู่ ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาเขียวข้างริมฟยอร์ด ทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์กลางสำคัญของเมือง นอกจากความงามของเมืองแล้ว อาคูเรย์รียังมีภูมิทัศน์ที่น่าทึ่ง ด้านใต้ของเมืองมีภูเขาไรโอลิตที่มีรูปพีระมิดชื่อว่า ซูลูร์ และเสน่ห์ของภูมิภาคนี้ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะอีกด้านคือเคอริง ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตเอจาฟยอร์ด คุณจะได้พบกับการเดินป่าและการสำรวจธรรมชาติอันรุ่งโรจน์ในพื้นที่นี้ มาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของอาคูเรย์รีดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์และความงดงามของธรรมชาติ ที่นี่จะทำให้การเดินทางของคุณกลายเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน และกระตุ้นให้คุณค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ในทุกย่างก้าว


เมืองอาเลซุนด์ (Ålesund) ตั้งอยู่ในเขตมอร์เรอ และ รอมส์ดาล (Møre og Romsdal) เป็นท่าเรือที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรม เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นราชธานีทางการค้าริมชายฝั่ง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในความงดงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ยูเจนด์สติล (Jugendstil) หรืออาร์ตนูโว ซึ่งบางคนยกให้เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของนอร์เวย์ เมืองอาเลซุนด์ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1904 ซึ่งทำให้มีบ้านเรือนถูกทำลายไปถึง 800 หลัง และประชาชนต้องไร้ที่อยู่อาศัยถึง 10,000 คน การสร้างใหม่ในครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจจากสถาปนิกหนุ่มต่างชาติที่นำสไตล์เยอรมันและรากเหง้าของชาวไวกิ้งมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้ถนนแคบๆ ในเมืองเต็มไปด้วยอาคารที่มียอดแหลมต่างๆ พร้อมการตกแต่งรูปหัวมังกรและลวดลายที่งดงาม นอกจากนี้อาเลซุนด์ยังเป็นหนึ่งในเมืองอาร์ตนูโวที่เหลืออยู่ไม่กี่เมืองในโลก และในปี 1998 เมืองนี้ได้รับรางวัล Houens National Memorial Prize เพื่อเป็นการยกย่องความพยายามในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์แห่งนี้ หากคุณได้มีโอกาสเยี่ยมชมเมืองอาเลซุนด์แล้ว จะรู้สึกถึงความงดงาม และเสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน

หากคุณใฝ่ฝันถึงการเดินทางสู่ทวีปยุโรป ประเทศนอร์เวย์เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะท่าเรือ Olden ที่จะนำพาคุณเข้าสู่ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่หาที่ไหนไม่ได้ ชมสีฟ้าครามของน้ำแข็งจากธารน้ำแข็ง Jostedal ที่ไหลลดหลั่นผ่านหุบเขา Oldedalen ทำให้คุณรู้สึกตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้สัมผัส Olden เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจความงามตามธรรมชาติ รวมถึง Briksdalsbreen ซึ่งเป็นแขนของน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านเพียงประมาณหนึ่งชั่วโมงหากเดินเท้า หรือคุณสามารถนั่งรถบัสไปยังที่นั่นได้อย่างสะดวกสบาย เพิ่มประสบการณ์เดินป่าในเส้นทางที่ประดับด้วยดอกไม้ป่า ร่วมเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายในหุบเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่โค้งงอน ในระหว่างการเดินทาง คุณจะสัมผัสถึงน้ำตกที่ไหลแรงและอากาศที่สดชื่น การเดินใกล้ๆ ธารน้ำแข็งนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงพลังของธรรมชาติอย่างแท้จริง ภูมิทัศน์ที่ปรากฏรอบตัวคุณจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับการเดินทางของคุณตลอดไป Olden เต็มไปด้วยความงามที่รอให้คุณมาเผชิญหน้ากับประสบการณ์เหนือคำบรรยายนี้อย่างรอคอย

เรือสำราญที่มุ่งหน้าไปยังนอร์เวย์จะต้องไม่พลาดที่จะแวะพักที่ท่าเรือโรเซนดาล (Rosendal) เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามในภูมิภาคฟยอร์ดของนอร์เวย์ สถานที่แห่งนี้มีชื่อเสียงด้วยวิวทิวทัศน์ที่น่าหลงใหลและมีบ้านเรือนสไตล์ประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในบรรยากาศเงียบสงบ ตลอดจนสวนดอกไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดี หนึ่งในจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ "คฤหาสน์บาร์นาจ" (Baroniet Rosendal) อันหรูหรา ซึ่งได้แก่สวนดอกไม้แบบอังกฤษที่สวยงามและอาคารที่มีสถาปัตยกรรมอันงดงาม มอบประสบการณ์การเดินเล่นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโรแมนติก สัมผัสความเก่าแก่ในหลากหลายมุมของอาคารที่มีประวัติยาวนาน นอกจากนี้ โรเซนดาลยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสำรวจฟยอร์ดในบริเวณใกล้เคียง ท่านสามารถเลือกไปท่องเที่ยวที่ฟยอร์ดเคนไลน์ (Hardangerfjord) ที่มีชื่อเสียงด้วยน้ำทะเลสีฟ้าครามและภูเขาสูงตระหง่าน หรือจะล่องเรือชมธรรมชาติอันงดงามที่สวยสะกดใจ เมื่อได้มาเยือนโรเซนดาลแล้ว คุณจะพบว่าที่นี่เปรียบเสมือนสรวงสวรรค์แห่งความสงบ และเป็นสถานที่ที่สร้างความทรงจำให้คุณตลอดไป ดั่งคำกล่าวที่ว่า "การเดินทางคือการค้นพบตัวเองใหม่" โรเซนดาลคือจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่มีความหมายนี้อย่างแท้จริง

ต้อนรับทุกท่านสู่ท่าเรือที่งดงามของประเทศนอร์เวย์ นั่นคือ “แซนด์เนส” (Sandnes) เมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาและทะเลที่สวยงาม ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองสตูแรน (Stavanger) ที่มีชื่อเสียงในการผลิตน้ำมันและเป็นประตูสู่ฟยอร์ดที่ลึกซึ้ง ของประเทศนอร์เวย์ แซนด์เนสไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่ให้บริการเรือสำราญเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของธรรมชาติ ลำธาร และทิวเขา นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินป่าในสวนสาธารณะของเมือง รวมทั้งเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์รัตน์เวิร์ค (Rogaland Art Museum) ซึ่งเป็นแหล่งรวมงานศิลปะร่วมสมัยที่มีคุณค่าทางศิลปะ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น ฟยอร์ดนอร์ดฟยอร์ด (Lysefjorden) ที่มอบความงดงามทั้งในหน้าร้อนและฤดูหนาว ความสูงชันของหน้าผา Preikestolen หรือ พีคโคห์ (Pulpit Rock) ซึ่งเป็นจุดชมวิวระดับโลกที่ไม่ควรพลาด แซนด์เนสเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณ ด้วยเสน่ห์ที่รวมระหว่างวัฒนธรรมและธรรมชาติ บนเส้นทางการเดินทางสุดหรูของคุณในนอร์เวย์ สัมผัสความงามแห่งอาร์กติก พร้อมสร้างความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคุณ


ฮัมเบิร์ก เมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ตั้งอยู่ริมทะเลเหนือ เมืองแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ แต่ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะและเสน่ห์ของชีวิตเมืองในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมบาโรกที่งดงาม หรือวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำที่รื่นรมย์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับตลาดปลาเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้ยังมีแกลเลอรีศิลปะและพิพิธภัณฑ์ชั้นเลิศ เช่น พิพิธภัณฑ์การเดินเรือฮัมเบิร์ก ที่จะพาคุณย้อนกลับไปยังยุครุ่งเรืองของการค้าและประวัติศาสตร์การเดินเรือ สำหรับผู้ที่หลงใหลในดนตรีและวัฒนธรรม รู้ไหมว่าถนนรอบๆ Grosse Freiheit เคยเป็นเวทีแรกของวงดนตรีชื่อดัง The Beatles ในยุด 60s หลายแห่งที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เคยมีชีวิตชีวาในสมัยกาลก่อน นอกจากนั้น ฮัมเบิร์กยังมีสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบให้แก่นักท่องเที่ยว ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายที่ควรค่าแก่การแวะถ่ายภาพและสัมผัสประสบการณ์อันหลากหลายที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้!




เพนท์เฮาส์แกรนด์สวีทเป็นห้องพักที่กว้างขวาง ขนาด 85 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนสะพาน เหมาะสำหรับผู้รักการพักผ่อนในวันที่อากาศอบอุ่นที่สามารถสัมผัสแสงแดดบนเกาะโซฟา DEDON สุดหรู โดยห้องจะมีการแบ่งพื้นที่การนอนและห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน ตกแต่งด้วยโทนสีธรรมชาติและเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสะดวกสบาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเรียกใช้บริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงบริการห้องพักโดยตรง ภายในห้องพักยังประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พื้นที่รับประทานอาหารที่กว้างขวาง ห้องน้ำที่มีพื้นอุ่น อ่างจากุซซี่ ฝักบัวแยกต่างหาก และซาวน่าเฉพาะตัว อีกทั้งยังมีห้องน้ำสำหรับแขกโดยเฉพาะ คุณจะได้พบกับเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น แท็บเล็ต เครื่องชงกาแฟ Nespresso มินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอัดลม เบียร์ และสุราหรูคุณภาพ พร้อมกับของว่างสดใหม่ นอกจากนี้ยังมีบริการรีดเสื้อผ้า การจองโต๊ะในร้านอาหาร The Globe โดยเชฟเควิน เฟลิ่ง และบริการหนังสือพิมพ์ฉบับเต็มฟรีทุกวันเมื่อมีการร้องขอ สัมผัสความพิเศษและสิทธิพิเศษที่ห้องพักนี้เตรียมไว้ให้คุณอย่างไม่รู้ลืม



ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายของห้องเพนท์เฮาส์ดีลักซ์สวีท ขอบริการความสะดวกสบายจากการบริการของกระเป๋าเดินทางของเรา ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยวชั้นเลิศหรือแก้วแชมเปญ คุณสามารถเลือกใช้เวลาผ่อนคลายในห้องนั่งเล่นที่น่าพิศวงหรือที่ระเบียงส่วนตัวของคุณ โดยทั้งสองที่สามารถมองเห็นวิวมหาสมุทรที่สวยงามได้ ห้องสวีทขนาด 45 ตารางเมตร (484 ตารางฟุต) มีพื้นที่ที่แยกจากกันสำหรับการนอนพักและการใช้ชีวิต พร้อมทั้งตู้เสื้อผ้าแบบใช้เดินเข้าและห้องน้ำที่มีการทำความร้อนพื้น พร้อมอ่างน้ำวนและฝักบัวแยก นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ตและเครื่องชงกาแฟ Nespresso ให้บริการ พร้อมด้วยมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอ่อน เบียร์ และสุราคุณภาพสูง คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การบริการพิเศษด้วยของว่างสดใหม่ทุกวัน รวมถึงบริการรีดผ้า และการจองโต๊ะในร้านอาหาร The Globe โดยเชฟเควิน เฟลลิง ทั้งหมดนี้คือความสะดวกสบายและบริการที่น่าพิศวงซึ่งรอให้คุณสัมผัสในเพนท์เฮาส์ดีลักซ์สวีทของเรา




ห้องพักสวีทสปา ขนาด 27 ตารางเมตร มาพร้อมระเบียงที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสความสบายในบรรยากาศที่ทันสมัยและมีสไตล์ การออกแบบที่เรียบง่ายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนช่วยให้ห้องดูกว้างขวางและสว่างไสวมากยิ่งขึ้น เพื่อความผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ห้องน้ำที่มีแสงธรรมชาติและวิวมหาสมุทร พร้อมอ่างอาบน้ำสปาที่มีไฟวิบวับสามารถมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่งดงามจากอ่างอาบน้ำได้อีกด้วย สำหรับอุปกรณ์ที่เลือกสรรมาให้สอดคล้องกับความต้องการของคุณ ห้องพักนี้ยังมีบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแพ็คเกจสปาที่ให้คุณได้ผ่อนคลายเต็มที่ ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดและตู้เย็นขนาดเล็กให้บริการน้ำดื่ม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เบียร์ และเครื่องดื่มชั้นดีอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ต, เครื่องชงกาแฟ Nespresso, บริการรีดผ้า รวมทั้งการจองโต๊ะสำหรับร้านอาหาร The Globe โดยเชฟ Kevin Fehling และบริการพิเศษตลอดการเข้าพัก เพื่อคืนสู่ความสงบและหรูหราในการพักผ่อนในทุกช่วงเวลา.




ห้องสวีทระเบียง (ประเภท 6-7) เป็นห้องพักที่มีดีไซน์ทันสมัยและตกแต่งอย่างมีสไตล์ในทุกรายละเอียด ขนาดของห้องอยู่ที่ 27 ตารางเมตร (291 ตารางฟุต) พร้อมระเบียงส่วนตัวที่จะให้คุณได้สัมผัสความเป็นส่วนตัวขณะชมวิวที่งดงาม ห้องนี้มีการแบ่งสัดส่วนระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและนอนอย่างชัดเจน พร้อมด้วยบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำพร้อมกับฝักบัวแยกต่างหาก เรายังจัดเตรียมเครื่องนวดกาแฟแบบ Nespresso และมินิบาร์ฟรี ซึ่งมีน้ำดื่ม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม และเบียร์ให้บริการ นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีตัวเลือกในการจองที่เชื่อมต่อกันเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น




ห้องสวีทระเบียง (ประเภท 4-5) เป็นที่พักสุดหรูที่ตอบโจทย์ความต้องการในการพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว โดยมีการออกแบบที่กลมกลืนในโทนสีอ่อนๆ และพื้นที่ใช้สอยที่ถูกแบ่งออกอย่างชัดเจนระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ห้องสวีทขนาด 27 ตารางเมตร (291 ตารางฟุต) มาพร้อมกับระเบียงส่วนตัว ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีบริการห้องสวีท 24 ชั่วโมง ที่จะทำให้การเข้าพักของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น มีตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้าได้และห้องน้ำที่มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยก สำหรับการชงกาแฟนั้นจัดให้มีเครื่องทำกาแฟแบบ Nespresso รวมถึงมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำดื่ม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอัดลม และเบียร์ให้บริการ สำหรับครอบครัว ห้องสวีทบางห้องสามารถจองพร้อมประตูเชื่อมต่อกันเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น หรือสามารถใช้สำหรับผู้ที่มีความพิการได้อีกด้วย

สวีทของคุณเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้านอย่างแท้จริง ด้วยการเลือกใช้โทนสีที่สร้างแรงบันดาลใจ แสงไฟอ่อนโยน และการตกแต่งภายในที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน นำมาซึ่งบรรยากาศที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข ห้องสวีทขนาด 27 ตารางเมตร พร้อมหน้าต่างพาโนรามาที่ให้คุณได้ชมวิวที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน นอกจากนี้ยังมีบริการห้องสวีทตลอด 24 ชั่วโมง พื้นที่นั่งเล่นและนอนแบ่งแยกอย่างชัดเจน มีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก รวมถึงเครื่องชงกาแฟ Nespresso และมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ ผลไม้ นํ้าอัดลม และเบียร์ให้บริการ ท่านจะได้สัมผัสความหรูหราในทุกช่วงเวลาที่อยู่ในสวีทนี้