
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เอ็มเอส ยูโรปา
Hapag-Lloyd Cruises

ทราเวมึนเด คือเมืองตากอากาศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่ที่จุดบรรจบของแม่น้ำทราเวและทะเลบอลติก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 1730 โดยเคานต์อดอล์ฟที่ 3 แห่งชอว์เฮนบูร์ก เมืองนี้ถูกซื้อโดยลือเบคในปี 1329 เพื่อเข้าถึงทะเลบอลติกสำหรับการค้าระหว่างประเทศ โดยมีการประมงเป็นแหล่งรายได้หลักจนถึงศตวรรษที่ 18 เมืองนี้เคยเป็นที่นิยมในช่วงทศวรรษ 50 และ 60 ของศตวรรษที่ผ่านมา มีเสน่ห์ของวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและน่าหลงใหล โดยท่าจอดเรือที่เต็มไปด้วยบ้านชายหาดและเรือประมง เป็นจุดพักผ่อนที่เหมาะแก่การชาร์จพลัง การเดินลงริมชายหาดยาวนาน จะทำให้คุณสัมผัสถึงความสดชื่นของทะเลบอลติก และนั่งในเก้าอี้ชายหาดสไตล์วicker ที่สะดวกสบาย อีกทั้งการสำรวจริมแม่น้ำยังช่วยให้คุณได้ลิ้มลองเบียร์สดรสเลิศที่มีให้เลือกมากมาย และอย่าพลาดชิมเฮอริ่งเยาว์จานเด็ดพร้อมสลัดและมันฝรั่งต้มปรุงรสยี่หร่า สำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกาย มีเส้นทางเดินและปั่นจักรยานไปยังพื้นที่อนุรักษ์รอบ ๆ เบรอสดิเทนเนอร์ สเตลิฟูร์ ที่มีวิวสวยงามรออยู่ พร้อมทั้งสุนทรียภาพทางธรรมชาติที่คุณจะประทับใจไม่รู้ลืม


ต้อนรับทุกท่านสู่ท่าเรือที่งดงามของประเทศนอร์เวย์ นั่นคือ “แซนด์เนส” (Sandnes) เมืองที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาและทะเลที่สวยงาม ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองสตูแรน (Stavanger) ที่มีชื่อเสียงในการผลิตน้ำมันและเป็นประตูสู่ฟยอร์ดที่ลึกซึ้ง ของประเทศนอร์เวย์ แซนด์เนสไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่ให้บริการเรือสำราญเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ด้วยภูมิทัศน์ที่งดงามของธรรมชาติ ลำธาร และทิวเขา นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการเดินป่าในสวนสาธารณะของเมือง รวมทั้งเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ เช่น พิพิธภัณฑ์รัตน์เวิร์ค (Rogaland Art Museum) ซึ่งเป็นแหล่งรวมงานศิลปะร่วมสมัยที่มีคุณค่าทางศิลปะ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น ฟยอร์ดนอร์ดฟยอร์ด (Lysefjorden) ที่มอบความงดงามทั้งในหน้าร้อนและฤดูหนาว ความสูงชันของหน้าผา Preikestolen หรือ พีคโคห์ (Pulpit Rock) ซึ่งเป็นจุดชมวิวระดับโลกที่ไม่ควรพลาด แซนด์เนสเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณ ด้วยเสน่ห์ที่รวมระหว่างวัฒนธรรมและธรรมชาติ บนเส้นทางการเดินทางสุดหรูของคุณในนอร์เวย์ สัมผัสความงามแห่งอาร์กติก พร้อมสร้างความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคุณ

หากคุณใฝ่ฝันถึงการเดินทางสู่ทวีปยุโรป ประเทศนอร์เวย์เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะท่าเรือ Olden ที่จะนำพาคุณเข้าสู่ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่หาที่ไหนไม่ได้ ชมสีฟ้าครามของน้ำแข็งจากธารน้ำแข็ง Jostedal ที่ไหลลดหลั่นผ่านหุบเขา Oldedalen ทำให้คุณรู้สึกตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้สัมผัส Olden เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจความงามตามธรรมชาติ รวมถึง Briksdalsbreen ซึ่งเป็นแขนของน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านเพียงประมาณหนึ่งชั่วโมงหากเดินเท้า หรือคุณสามารถนั่งรถบัสไปยังที่นั่นได้อย่างสะดวกสบาย เพิ่มประสบการณ์เดินป่าในเส้นทางที่ประดับด้วยดอกไม้ป่า ร่วมเชื่อมต่อกับธรรมชาติภายในหุบเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่โค้งงอน ในระหว่างการเดินทาง คุณจะสัมผัสถึงน้ำตกที่ไหลแรงและอากาศที่สดชื่น การเดินใกล้ๆ ธารน้ำแข็งนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงพลังของธรรมชาติอย่างแท้จริง ภูมิทัศน์ที่ปรากฏรอบตัวคุณจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับการเดินทางของคุณตลอดไป Olden เต็มไปด้วยความงามที่รอให้คุณมาเผชิญหน้ากับประสบการณ์เหนือคำบรรยายนี้อย่างรอคอย

มอลด์ (Molde) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เมืองแห่งดอกกุหลาบ” เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาครอมส์ดาล (Romsdal) ของประเทศนอร์เวย์ มอลด์ตั้งอยู่บนคาบสมุทรรอมส์ดาล ล้อมรอบด้วยฟยอร์ดที่งดงาม เช่น ฟานเนฟยอร์ด (Fannefjord) และมอลด์ฟยอร์ด (Moldefjord) เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการบริหารของมณฑลมอร์เร่และรอมส์ดาล และเป็นจุดนัดพบทางการค้าในภูมิภาคนี้ การเดินทางมาที่มอลด์จะทำให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติที่ร่มรื่นและทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยเมืองมอลด์ยาวประมาณ 10 กิโลเมตร อยู่ติดกับชายฝั่งฟยอร์ด การออกสำรวจไปยังหมู่เกาะมอลด์ (Molde Archipelago) และภูเขาไม้ที่สวยงามของมอลด์มาร์กา (Moldemarka) จะเติมเต็มประสบการณ์ในการเยือนนี้อย่างไม่มีวันลืม หากคุณชอบกิจกรรมกลางแจ้ง มอลด์ยังเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าที่ทำให้คุณได้พบกับบรรยากาศของธรรมชาติที่บริสุทธิ์และน่าหลงใหล อย่าพลาดโอกาสที่จะดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่น การเดินชมตลาดในเมืองและลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ จะทำให้การเดินทางของคุณในมอลด์กลายเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจในชีวิต.


เลคเนส (Leknes) เมืองท่าที่งดงามแห่งหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ของนอร์เวย์ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ความงดงามที่นี่มีมากมาย ตั้งแต่เขาหินสูงชัน ลำธารที่ไหลริน และฟยอร์ดที่เงียบสงบ ไปจนถึงชายหาดทรายขาวสวยสะอาด น้อยนักที่จะมีเมืองใดในนอร์เวย์ที่สามารถเปรียบเทียบกับเลคเนสได้ในการนำเสนอภาพธรรมชาติที่สวยงาม การเยี่ยมชมในช่วงกลางคืนก็จะได้สัมผัสกับแสงอาทิตย์ที่ไม่เคยตกดินตั้งแต่วันที่ 26 พฤษภาคมถึง 17 กรกฎาคม ซึ่งสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่มีกิจกรรมหลากหลายให้เลือก เช่น การล่องเรือรอบหมู่เกาะ การตกปลาในทะเลลึก หรือแม้แต่การปั่นจักรยานสำรวจเมืองในแบบที่คุณต้องการ คุณสามารถเช่าจักรยานได้ง่ายดาย และจักรยานไฟฟ้าก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่อาจไม่คุ้นเคยกับการปั่น โดยเฉพาะหลังจากเพลิดเพลินกับอากาศสดชื่น อย่าลืมลิ้มลอง "สกิลลิงโบลเล่" ขนมอบกลิ่นซินนามอนที่อร่อยและฟู นี่คือความแปลกใหม่ที่ศูนย์กลางเมืองเลคเนสจะนำเสนอให้กับคุณ พร้อมเสพความสุขกับคาเฟ่สุดน่ารัก สัมผัสกับบรรยากาศนอร์เวย์และกล่าวขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่คุ้มค่า!

ในประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือ Honningsvåg เป็นประตูสู่การผจญภัยที่ไม่เหมือนใครบนแผ่นดินยุโรปเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเยือน Nordkapp หรือ North Cape ซึ่งเป็นจุดที่อยู่เหนือสุดของทวีปยุโรป การเดินทางจาก Honningsvåg ไปยัง Nordkapp ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร โดยมีทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของทุ่งหญ้าทุนดราและกวางเรนเดียร์ที่เดินกินหญ้าในทุ่งที่เป็นหิน ซึ่งจะมีการรวมฝูงกวางเป็นประจำทุกฤดูใบไม้ผลิ Honningsvåg ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Magerøya เป็นหมู่บ้านประมงที่ให้บรรยากาศอบอุ่น พร้อมมีจุดชมวิวที่ช่วยให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน การสำรวจ Nordkapp ไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสพื้นที่ที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังเป็นการชวนให้ผู้คนเคารพต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการเดินทางตามเส้นทางที่กำหนดและไม่สร้างความเสียหายให้กับธรรมชาติ สำหรับผู้ที่มาฤดูหนาว การเข้าถึง Nordkapp จะต้องใช้รถ Sno-Cat เพื่อย้ายผ่านภูมิประเทศที่ปกคลุมด้วยหิมะ สร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในภายหลัง การเดินทางสู่ Honningsvåg และ Nordkapp จึงเป็นประสบการณ์ที่พร้อมจะเติมเต็มความฝันให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจในความงามและความมหัศจรรย์ของอาร์กติก

ในประเทศนอร์เวย์ ท่าเรือ Honningsvåg เป็นประตูสู่การผจญภัยที่ไม่เหมือนใครบนแผ่นดินยุโรปเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเยือน Nordkapp หรือ North Cape ซึ่งเป็นจุดที่อยู่เหนือสุดของทวีปยุโรป การเดินทางจาก Honningsvåg ไปยัง Nordkapp ระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร โดยมีทิวทัศน์ที่น่าทึ่งของทุ่งหญ้าทุนดราและกวางเรนเดียร์ที่เดินกินหญ้าในทุ่งที่เป็นหิน ซึ่งจะมีการรวมฝูงกวางเป็นประจำทุกฤดูใบไม้ผลิ Honningsvåg ที่ตั้งอยู่บนเกาะ Magerøya เป็นหมู่บ้านประมงที่ให้บรรยากาศอบอุ่น พร้อมมีจุดชมวิวที่ช่วยให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน การสำรวจ Nordkapp ไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสพื้นที่ที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังเป็นการชวนให้ผู้คนเคารพต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการเดินทางตามเส้นทางที่กำหนดและไม่สร้างความเสียหายให้กับธรรมชาติ สำหรับผู้ที่มาฤดูหนาว การเข้าถึง Nordkapp จะต้องใช้รถ Sno-Cat เพื่อย้ายผ่านภูมิประเทศที่ปกคลุมด้วยหิมะ สร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในภายหลัง การเดินทางสู่ Honningsvåg และ Nordkapp จึงเป็นประสบการณ์ที่พร้อมจะเติมเต็มความฝันให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจในความงามและความมหัศจรรย์ของอาร์กติก

เมืองโบโด (Bodø) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคนอร์ดแลนด์ (Nordland) ในประเทศนอร์เวย์ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความสงบสุข แต่อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ทางทหารที่น่าสนใจ ในช่วงสงครามเย็น โบโดเคยเป็นฐานทัพนาโต้สำคัญที่ประจำการเครื่องบินขับไล่เพื่อสกัดกั้นเรือและเครื่องบินจากโซเวียต เมืองนี้ได้รับการกล่าวถึงในประวัติศาสตร์เมื่อกรัฐมนตรีครูชอฟขู่ว่าจะทำลายเมืองด้วยอาวุธนิวเคลียร์จากเหตุการณ์เครื่องบินสอดแนม CIA U-2 ถูกยิงตก นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์สงครามเย็นนี้ได้ที่พิพิธภัณฑ์การบินนอร์เวย์ ซึ่งมีการออกแบบอาคารให้เหมือนเครื่องบินเบลปเลน โดดเด่นด้วยการจัดแสดงเครื่องบิน U-2 ที่ยังสมบูรณ์ เครื่องบินสปิตไฟร์ (Spitfire) และเครื่องบินน้ำ Hønningstad C-5 ที่หายาก นอกจากนี้ โบโดยังมีมหาสมุทรที่มีแกว่งแรงที่สุดในโลกที่ซอลท์สตรอเมน (Saltstraumen) ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเป็นจำนวนมากทุกปี การเดินทางมายังโบโดย่อมทำให้คุณได้สัมผัสถึงมนต์เสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวา รวมทั้งการผจญภัยที่เปี่ยมไปด้วยความน่าตื่นเต้นเหนือธรรมชาติที่รอให้คุณสำรวจ!

ทรอนด์ไฮม์ (Trondheim) หนึ่งในเมืองเก่าแก่ของสแกนดิเนเวียที่เคยเป็นเมืองหลวงแรกของนอร์เวย์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 997 จนถึง 1380 เมืองที่ก่อตั้งโดยราชานอร์เวย์ โอลาฟ ทรียกวาเซน (Olav Tryggvason) นี้เดิมมีชื่อว่า นิดารอส (Nidaros) ซึ่งยังคงเป็นชื่อของมหาวิหารที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำนิดเอลวา (Nidelva) และปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของนอร์เวย์และอันดับสามในประเทศ ด้วยประชากรประมาณ 150,000 คน ในใจกลางเมืองแห่งนี้ ถนนถูกจัดเรียงอย่างกว้างขวางไปด้วยบ้านไม้ที่ทาสีสันสดใสและคลังสินค้าที่ล้วนมีเสน่ห์ดึงดูด ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง พร้อมกันนี้ยังเป็นที่ตั้งของ NTNU (มหาวิทยาลัยนอร์เวย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) ซึ่งทำให้ทรอนด์ไฮม์กลายเป็นเมืองหลวงทางด้านเทคโนโลยีของนอร์เวย์ สัมผัสประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาและสนุกสนานไปกับเสน่ห์ของเมืองศิลปะและนวัตกรรม พร้อมเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามจากแม่น้ำและชนบทที่ล้อมรอบ เป็นประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในการเดินทางมายังทรอนด์ไฮม์เมืองที่มีทั้งอดีตและอนาคตอันสดใส!

เมืองอาเลซุนด์ (Ålesund) ตั้งอยู่ในเขตมอร์เรอ และ รอมส์ดาล (Møre og Romsdal) เป็นท่าเรือที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรม เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นราชธานีทางการค้าริมชายฝั่ง และเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในความงดงามของสถาปัตยกรรมสไตล์ยูเจนด์สติล (Jugendstil) หรืออาร์ตนูโว ซึ่งบางคนยกให้เมืองนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดของนอร์เวย์ เมืองอาเลซุนด์ถูกสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ในปี 1904 ซึ่งทำให้มีบ้านเรือนถูกทำลายไปถึง 800 หลัง และประชาชนต้องไร้ที่อยู่อาศัยถึง 10,000 คน การสร้างใหม่ในครั้งนี้ได้แรงบันดาลใจจากสถาปนิกหนุ่มต่างชาติที่นำสไตล์เยอรมันและรากเหง้าของชาวไวกิ้งมาผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้ถนนแคบๆ ในเมืองเต็มไปด้วยอาคารที่มียอดแหลมต่างๆ พร้อมการตกแต่งรูปหัวมังกรและลวดลายที่งดงาม นอกจากนี้อาเลซุนด์ยังเป็นหนึ่งในเมืองอาร์ตนูโวที่เหลืออยู่ไม่กี่เมืองในโลก และในปี 1998 เมืองนี้ได้รับรางวัล Houens National Memorial Prize เพื่อเป็นการยกย่องความพยายามในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์แห่งนี้ หากคุณได้มีโอกาสเยี่ยมชมเมืองอาเลซุนด์แล้ว จะรู้สึกถึงความงดงาม และเสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครอย่างแน่นอน

อีดฟยอร์ด เป็นท่าเรือที่อยู่ท่ามกลางความงดงามของธรรมชาติที่ประเทศนอร์เวย์ ห่างจากฟยอร์ดที่มีชื่อเสียงในแถบนี้ไม่ไกล ที่นี่เป็นสรวงสรรค์สำหรับผู้รักการผจญภัยและความสงบ ที่พร้อมให้บริการนักเดินทางที่มาเยือนด้วยเรือสำราญ การเดินทางมาถึงอีดฟยอร์ด คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาสูงตระหง่านที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ และน้ำทะเลใสสะอาดที่ส่องประกายระยิบระยับในแสงแดด เส้นทางการเดินเท้าจำนวนมากตั้งอยู่ในบริเวณรอบท่าเรือ ชวนให้คุณสะดุดตากับความสวยงามของต้นไม้และดอกไม้ที่เบ่งบานตลอดทั้งปี นอกจากนั้น อีดฟยอร์ดยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการสำรวจอุทยานแห่งชาติฮาร์ดังเกอร์วีด้า ที่นี่เป็นพื้นที่กว้างขวางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดกับธรรมชาติ สัมผัสชีวิตสัตว์ป่าหายาก และชื่นชมกับน้ำตกอันตระการตาอย่างวอทนาฟอสเซน ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดในนอร์เวย์ เมื่อคุณกลับมาที่ท่าเรืออีดฟยอร์ด ความสงบและสวยงามของสถานที่นี้จะยังคงอยู่ในใจคุณตลอดไป เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับการสร้างแรงบันดาลใจ ในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ


ฮัมเบิร์ก เมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ตั้งอยู่ริมทะเลเหนือ เมืองแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ แต่ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะและเสน่ห์ของชีวิตเมืองในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมบาโรกที่งดงาม หรือวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำที่รื่นรมย์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับตลาดปลาเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้ยังมีแกลเลอรีศิลปะและพิพิธภัณฑ์ชั้นเลิศ เช่น พิพิธภัณฑ์การเดินเรือฮัมเบิร์ก ที่จะพาคุณย้อนกลับไปยังยุครุ่งเรืองของการค้าและประวัติศาสตร์การเดินเรือ สำหรับผู้ที่หลงใหลในดนตรีและวัฒนธรรม รู้ไหมว่าถนนรอบๆ Grosse Freiheit เคยเป็นเวทีแรกของวงดนตรีชื่อดัง The Beatles ในยุด 60s หลายแห่งที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เคยมีชีวิตชีวาในสมัยกาลก่อน นอกจากนั้น ฮัมเบิร์กยังมีสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบให้แก่นักท่องเที่ยว ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายที่ควรค่าแก่การแวะถ่ายภาพและสัมผัสประสบการณ์อันหลากหลายที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้!




เพนท์เฮาส์แกรนด์สวีทเป็นห้องพักที่กว้างขวาง ขนาด 85 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนสะพาน เหมาะสำหรับผู้รักการพักผ่อนในวันที่อากาศอบอุ่นที่สามารถสัมผัสแสงแดดบนเกาะโซฟา DEDON สุดหรู โดยห้องจะมีการแบ่งพื้นที่การนอนและห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน ตกแต่งด้วยโทนสีธรรมชาติและเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสะดวกสบาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเรียกใช้บริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงบริการห้องพักโดยตรง ภายในห้องพักยังประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พื้นที่รับประทานอาหารที่กว้างขวาง ห้องน้ำที่มีพื้นอุ่น อ่างจากุซซี่ ฝักบัวแยกต่างหาก และซาวน่าเฉพาะตัว อีกทั้งยังมีห้องน้ำสำหรับแขกโดยเฉพาะ คุณจะได้พบกับเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น แท็บเล็ต เครื่องชงกาแฟ Nespresso มินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอัดลม เบียร์ และสุราหรูคุณภาพ พร้อมกับของว่างสดใหม่ นอกจากนี้ยังมีบริการรีดเสื้อผ้า การจองโต๊ะในร้านอาหาร The Globe โดยเชฟเควิน เฟลิ่ง และบริการหนังสือพิมพ์ฉบับเต็มฟรีทุกวันเมื่อมีการร้องขอ สัมผัสความพิเศษและสิทธิพิเศษที่ห้องพักนี้เตรียมไว้ให้คุณอย่างไม่รู้ลืม



ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายของห้องเพนท์เฮาส์ดีลักซ์สวีท ขอบริการความสะดวกสบายจากการบริการของกระเป๋าเดินทางของเรา ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยวชั้นเลิศหรือแก้วแชมเปญ คุณสามารถเลือกใช้เวลาผ่อนคลายในห้องนั่งเล่นที่น่าพิศวงหรือที่ระเบียงส่วนตัวของคุณ โดยทั้งสองที่สามารถมองเห็นวิวมหาสมุทรที่สวยงามได้ ห้องสวีทขนาด 45 ตารางเมตร (484 ตารางฟุต) มีพื้นที่ที่แยกจากกันสำหรับการนอนพักและการใช้ชีวิต พร้อมทั้งตู้เสื้อผ้าแบบใช้เดินเข้าและห้องน้ำที่มีการทำความร้อนพื้น พร้อมอ่างน้ำวนและฝักบัวแยก นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ตและเครื่องชงกาแฟ Nespresso ให้บริการ พร้อมด้วยมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอ่อน เบียร์ และสุราคุณภาพสูง คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การบริการพิเศษด้วยของว่างสดใหม่ทุกวัน รวมถึงบริการรีดผ้า และการจองโต๊ะในร้านอาหาร The Globe โดยเชฟเควิน เฟลลิง ทั้งหมดนี้คือความสะดวกสบายและบริการที่น่าพิศวงซึ่งรอให้คุณสัมผัสในเพนท์เฮาส์ดีลักซ์สวีทของเรา




ห้องพักสวีทสปา ขนาด 27 ตารางเมตร มาพร้อมระเบียงที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสความสบายในบรรยากาศที่ทันสมัยและมีสไตล์ การออกแบบที่เรียบง่ายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนช่วยให้ห้องดูกว้างขวางและสว่างไสวมากยิ่งขึ้น เพื่อความผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ห้องน้ำที่มีแสงธรรมชาติและวิวมหาสมุทร พร้อมอ่างอาบน้ำสปาที่มีไฟวิบวับสามารถมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่งดงามจากอ่างอาบน้ำได้อีกด้วย สำหรับอุปกรณ์ที่เลือกสรรมาให้สอดคล้องกับความต้องการของคุณ ห้องพักนี้ยังมีบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแพ็คเกจสปาที่ให้คุณได้ผ่อนคลายเต็มที่ ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดและตู้เย็นขนาดเล็กให้บริการน้ำดื่ม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เบียร์ และเครื่องดื่มชั้นดีอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ต, เครื่องชงกาแฟ Nespresso, บริการรีดผ้า รวมทั้งการจองโต๊ะสำหรับร้านอาหาร The Globe โดยเชฟ Kevin Fehling และบริการพิเศษตลอดการเข้าพัก เพื่อคืนสู่ความสงบและหรูหราในการพักผ่อนในทุกช่วงเวลา.




ห้องสวีทระเบียง (ประเภท 6-7) เป็นห้องพักที่มีดีไซน์ทันสมัยและตกแต่งอย่างมีสไตล์ในทุกรายละเอียด ขนาดของห้องอยู่ที่ 27 ตารางเมตร (291 ตารางฟุต) พร้อมระเบียงส่วนตัวที่จะให้คุณได้สัมผัสความเป็นส่วนตัวขณะชมวิวที่งดงาม ห้องนี้มีการแบ่งสัดส่วนระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและนอนอย่างชัดเจน พร้อมด้วยบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำพร้อมกับฝักบัวแยกต่างหาก เรายังจัดเตรียมเครื่องนวดกาแฟแบบ Nespresso และมินิบาร์ฟรี ซึ่งมีน้ำดื่ม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม และเบียร์ให้บริการ นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีตัวเลือกในการจองที่เชื่อมต่อกันเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น




ห้องสวีทระเบียง (ประเภท 4-5) เป็นที่พักสุดหรูที่ตอบโจทย์ความต้องการในการพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว โดยมีการออกแบบที่กลมกลืนในโทนสีอ่อนๆ และพื้นที่ใช้สอยที่ถูกแบ่งออกอย่างชัดเจนระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ห้องสวีทขนาด 27 ตารางเมตร (291 ตารางฟุต) มาพร้อมกับระเบียงส่วนตัว ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีบริการห้องสวีท 24 ชั่วโมง ที่จะทำให้การเข้าพักของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น มีตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้าได้และห้องน้ำที่มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยก สำหรับการชงกาแฟนั้นจัดให้มีเครื่องทำกาแฟแบบ Nespresso รวมถึงมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำดื่ม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอัดลม และเบียร์ให้บริการ สำหรับครอบครัว ห้องสวีทบางห้องสามารถจองพร้อมประตูเชื่อมต่อกันเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น หรือสามารถใช้สำหรับผู้ที่มีความพิการได้อีกด้วย

สวีทของคุณเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้านอย่างแท้จริง ด้วยการเลือกใช้โทนสีที่สร้างแรงบันดาลใจ แสงไฟอ่อนโยน และการตกแต่งภายในที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน นำมาซึ่งบรรยากาศที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข ห้องสวีทขนาด 27 ตารางเมตร พร้อมหน้าต่างพาโนรามาที่ให้คุณได้ชมวิวที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน นอกจากนี้ยังมีบริการห้องสวีทตลอด 24 ชั่วโมง พื้นที่นั่งเล่นและนอนแบ่งแยกอย่างชัดเจน มีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก รวมถึงเครื่องชงกาแฟ Nespresso และมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ ผลไม้ นํ้าอัดลม และเบียร์ให้บริการ ท่านจะได้สัมผัสความหรูหราในทุกช่วงเวลาที่อยู่ในสวีทนี้