
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เอ็มเอส ยูโรปา
Hapag-Lloyd Cruises


เคปทาวน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เมืองแม่" เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงที่สุดในแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าอันสำคัญของโลก โดยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ถูกก่อตั้งโดยนักสำรวจชาวดัตช์ ยาน แวน รีบีกในปี 1652 นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลจากหลากหลายวัฒนธรรม เช่น ชาวดัตช์ อังกฤษ และมลายู ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นละแวกที่มีเอกลักษณ์และความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เคปทาวน์ไม่เป็นเพียงท่าเรือที่สำคัญสำหรับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์และผลไม้สด แต่ยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการประมงที่มีเรือประมงขนาดใหญ่จากเอเชียเข้ามาใช้พื้นที่นี้ในการซ่อมบำรุงอีกด้วย สถานที่แห่งนี้ยังโดดเด่นด้วยความงดงามของธรรมชาติ โดยมีภูเขาเทเบิลและหัวสิงโตที่ตระการตา รวมถึงอุทยานธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์เช่น เคิร์สเตนบอส ซึ่งมีพันธุ์พืชพื้นเมืองที่หลากหลาย อากาศในเคปทาวน์มีความแปรปรวน สามารถแปรเปลี่ยนจากแดดจ้าไปยังพายุฝนฟ้าคะนองได้ในเวลาอันสั้น เมืองนี้จึงเป็นที่ตั้งของคำพูดที่ว่า "ในเคปทาวน์คุณสามารถสัมผัสได้ถึงสี่ฤดูในวันเดียว" สัมผัสความเร้าใจนี้ในทริปสุดหรูของคุณที่เคปทาวน์ พร้อมค้นพบประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม!


ลูเดอritz ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลแห่งทะเลทรายหนามิบิอั้น สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของหมู่บ้านเล็กๆ ในศตวรรษที่ 19 ที่มองเห็นวิวทะเลอันวิจิตรตระการตาของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ การกลับมาของเหมืองเพชรที่อีลิซาเบธเบย์ในปีที่ผ่านมา เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้การท่องเที่ยวและการประมงกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง เพื่อนำพาความงดงามและความเป็นเอกลักษณ์ในแบบเมืองเยอรมันแห่งนี้ไปให้ทุกคนได้สัมผัส ในลูเดอritz นักท่องเที่ยวจะได้พบกับคาเฟ่ที่น่ารื่นรมย์ ร้านค้าอาหารที่หลากหลายและโบสถ์ลูเทอแรนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ธรรมชาติรอบตัวเธออัดแน่นไปด้วยชีวิตของสัตว์ทะเล นกเพนกวินและแมวน้ำที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง และยังมีชายหาดที่เต็มไปด้วยนกฟลามิงโก้ โดยคุณจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงาม อย่างไรก็ตาม ลูเดอritz ยังมีอดีตที่น่าทึ่งที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการประมง ซึ่งสามารถเล่าเรื่องราวของเมืองนี้ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1883 สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในลูเดอritz ที่ไม่เหมือนใคร พร้อมด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสวยงามและจินตนาการ รับรองว่าจะทำให้คุณมีความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน!

วอลวิสเบย์ (Walvis Bay) ท่าเรือที่เคยเป็นสถานีล่าวาฬ เป็นประตูสู่ทิวทัศน์ทะเลทรายที่งดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของนามิเบีย สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ ซึ่ที่ประทับใจที่สุดคืออ่าวลุ่มน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีความโดดเด่นในการเป็นที่พักอาศัยของนกฟลามิงโกในช่วงเวลาหนึ่งของปี นอกจากนี้ยังมีนกน้ำหลากหลายชนิด เช่น เปลิแกนขาว ที่จะทำให้ท่านประทับใจไปกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ เมื่อมุ่งเข้าสู่ภายในทุ่งทะเลทราย ท่านจะได้พบกับทะเลทรายอันน่าทึ่งของนามิบ (Namib Desert) ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึงผู้กล้าหาญที่จะเยือนซอสซุสเวลล์ (Sossusvlei) ที่มีเนินทรายสีส้มอันโดดเด่น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก สัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เมืองสวาคอปมุนด์ (Swakopmund) ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอาณานิคมให้ท่านได้ชม วอลวิสเบย์ไม่เพียงแค่ท่าเรือที่มีความสำคัญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่จะนำท่านสู่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คงจะเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในทุกการเดินทางของคุณ

วอลวิสเบย์ (Walvis Bay) ท่าเรือที่เคยเป็นสถานีล่าวาฬ เป็นประตูสู่ทิวทัศน์ทะเลทรายที่งดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของนามิเบีย สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ ซึ่ที่ประทับใจที่สุดคืออ่าวลุ่มน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีความโดดเด่นในการเป็นที่พักอาศัยของนกฟลามิงโกในช่วงเวลาหนึ่งของปี นอกจากนี้ยังมีนกน้ำหลากหลายชนิด เช่น เปลิแกนขาว ที่จะทำให้ท่านประทับใจไปกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ เมื่อมุ่งเข้าสู่ภายในทุ่งทะเลทราย ท่านจะได้พบกับทะเลทรายอันน่าทึ่งของนามิบ (Namib Desert) ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึงผู้กล้าหาญที่จะเยือนซอสซุสเวลล์ (Sossusvlei) ที่มีเนินทรายสีส้มอันโดดเด่น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก สัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เมืองสวาคอปมุนด์ (Swakopmund) ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอาณานิคมให้ท่านได้ชม วอลวิสเบย์ไม่เพียงแค่ท่าเรือที่มีความสำคัญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่จะนำท่านสู่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คงจะเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในทุกการเดินทางของคุณ


ท่าเรือ Gqeberha (เดิมคือ Port Elizabeth) เป็นจุดท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามทางธรรมชาติของแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่ในอ่าว Algoa ซึ่งมีน้ำอุ่นและลมพัดเบาๆ เป็นที่นิยมสำหรับนักว่ายน้ำและผู้ที่ชื่นชอบกีฬาทางน้ำ ทั้งยังมีชายหาดที่ยาวเหยียดเรียงรายรอบเมือง ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและสัมผัสกับความงดงามของมหาสมุทร ในทางประวัติศาสตร์ Gqeberha เคยเป็นที่ตั้งของกลุ่มชนซานและโคอิซาน ก่อนที่จะเป็นจุดแวะพักของเรือสำราญจากยุโรปหลังจากที่บาร์โทโลมีอุส ดิอาซ มาถึงในปี 1488 เมืองนี้ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในช่วงหลังการสร้างทางรถไฟไปยังคิมเบอรีในปี 1873 ทำให้เป็นหนึ่งในท่าเรือหลักของประเทศ สำหรับผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์ สามารถเดินตามเส้นทาง Donkin Heritage Trail ที่มอบโอกาสให้คุณได้สำรวจบ้านสไตล์วิคตอเรียและชายสวนที่สวยงาม รวมถึงโบสถ์สไตล์นีโอโกธิค ในบริเวณใกล้เคียงยังมีเขตสงวนสัตว์ป่า เช่น อุทยานแห่งชาติ Addo Elephant ที่มีชื่อเสียง การเยี่ยมชม Gqeberha จึงเป็นประสบการณ์ที่หลอมรวมวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติอันงดงาม ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสกับกลิ่นอายของแอฟริกาใต้.


ดาร์บัน เป็นเพชรเม็ดงามที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของแอฟริกา นับว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศแอฟริกาใต้ และเป็นศูนย์กลางสำคัญของรัฐควาซูลู-นัทัล เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในด้านการค้าที่มีทะเล เป็นเวลากว่าหลายศตวรรษ และกลับมาคึกคักอีกครั้งในยุคปัจจุบัน ด้วยศูนย์ศิลปะที่เจริญรุ่งเรืองซึ่งเป็นที่รวมตัวของวัฒนธรรมที่หลากหลาย และตลาดที่มีชีวิตชีวา ท่าเรือของดาร์บันมีลักษณะเป็นอ่าวครึ่งพระจันทร์ ที่มีชายหาดขาวสะอาดและน้ำทะเลสีฟ้าครามซึ่งสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เป็นที่ตั้งของท่าเรือสถานที่สำคัญที่มีระเบียงยื่นเข้าไปในน้ำเสมือนไม้พัดซึ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับพื้นที่ ชายหาดที่มีชื่อเสียงอย่าง "โกลเด้นไมล์" ยาวเหยียดไปตามท่าเรือ ตั้งอยู่ในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและผู้คนท้องถิ่นหลั่งไหลมาพักผ่อนและสัมผัสลมทะเลตลอดทั้งปี ตลอดฤดูร้อนที่อบอุ่นและฤดูหนาวที่แห้งแล้งของดาร์บัน พื้นที่นี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากลมหนาว โดยเฉพาะกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลสดใหม่และงานศิลปะท้องถิ่นที่รอคอยให้คุณได้มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ที่นี่คือสถานที่ในการสร้างความทรงจำที่น่าหลงใหลระหว่างการเดินทางที่ไม่เหมือนใครในชีวิตคุณ

ดาร์บัน เป็นเพชรเม็ดงามที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของแอฟริกา นับว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศแอฟริกาใต้ และเป็นศูนย์กลางสำคัญของรัฐควาซูลู-นัทัล เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในด้านการค้าที่มีทะเล เป็นเวลากว่าหลายศตวรรษ และกลับมาคึกคักอีกครั้งในยุคปัจจุบัน ด้วยศูนย์ศิลปะที่เจริญรุ่งเรืองซึ่งเป็นที่รวมตัวของวัฒนธรรมที่หลากหลาย และตลาดที่มีชีวิตชีวา ท่าเรือของดาร์บันมีลักษณะเป็นอ่าวครึ่งพระจันทร์ ที่มีชายหาดขาวสะอาดและน้ำทะเลสีฟ้าครามซึ่งสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เป็นที่ตั้งของท่าเรือสถานที่สำคัญที่มีระเบียงยื่นเข้าไปในน้ำเสมือนไม้พัดซึ่งช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับพื้นที่ ชายหาดที่มีชื่อเสียงอย่าง "โกลเด้นไมล์" ยาวเหยียดไปตามท่าเรือ ตั้งอยู่ในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและผู้คนท้องถิ่นหลั่งไหลมาพักผ่อนและสัมผัสลมทะเลตลอดทั้งปี ตลอดฤดูร้อนที่อบอุ่นและฤดูหนาวที่แห้งแล้งของดาร์บัน พื้นที่นี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากลมหนาว โดยเฉพาะกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลสดใหม่และงานศิลปะท้องถิ่นที่รอคอยให้คุณได้มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ที่นี่คือสถานที่ในการสร้างความทรงจำที่น่าหลงใหลระหว่างการเดินทางที่ไม่เหมือนใครในชีวิตคุณ


มอสเซล เบย์ (Mossel Bay) คือท่าเรือที่แสนงดงามในประเทศแอฟริกาใต้ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเวสเทิร์น เคป ของแอฟริกาใต้ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักของเรือสำราญที่เดินทางตามชายฝั่งแอฟริกา แต่ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย มอสเซล เบย์เป็นที่รู้จักกันในฐานะจุดเริ่มต้นการสำรวจของนักเดินเรือชื่อดัง เช่น บาร์โธโลมิว ดิอาส และเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ Post Office Tree ซึ่งมีอายุกว่า 500 ปี และถือเป็นต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในการส่งจดหมายในโลก นอกจากนั้น คุณจะได้สัมผัสกับชายหาดที่สวยงาม น้ำทะเลใสแจ๋ว และเป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย อีกสิ่งที่น่าสนใจคือหน้าผาทะเลที่มีวิวอันงดงาม ให้คุณได้ชมการเล่นของปลาฉลามและปลาโลมา ซึ่งเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อคุณได้เยือนที่นี่ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามเส้นทางเดินธรรมชาติ, การท่องเที่ยวทางทะเล และการลิ้มลองอาหารทะเลสด ๆ ที่ขึ้นชื่อ มอสเซล เบย์คือต้นแบบแห่งการผจญภัย ด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและวัฒนธรรมที่หลากหลายรอคอยการค้นพบจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก อย่างไม่ต้องสงสัย ที่นี่คือสถานที่แห่งความฝันที่สร้างแรงบันดาลใจให้นักเดินทางได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของแอฟริกาใต้.

เคปทาวน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เมืองแม่" เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงที่สุดในแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าอันสำคัญของโลก โดยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ถูกก่อตั้งโดยนักสำรวจชาวดัตช์ ยาน แวน รีบีกในปี 1652 นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลจากหลากหลายวัฒนธรรม เช่น ชาวดัตช์ อังกฤษ และมลายู ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นละแวกที่มีเอกลักษณ์และความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เคปทาวน์ไม่เป็นเพียงท่าเรือที่สำคัญสำหรับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์และผลไม้สด แต่ยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการประมงที่มีเรือประมงขนาดใหญ่จากเอเชียเข้ามาใช้พื้นที่นี้ในการซ่อมบำรุงอีกด้วย สถานที่แห่งนี้ยังโดดเด่นด้วยความงดงามของธรรมชาติ โดยมีภูเขาเทเบิลและหัวสิงโตที่ตระการตา รวมถึงอุทยานธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์เช่น เคิร์สเตนบอส ซึ่งมีพันธุ์พืชพื้นเมืองที่หลากหลาย อากาศในเคปทาวน์มีความแปรปรวน สามารถแปรเปลี่ยนจากแดดจ้าไปยังพายุฝนฟ้าคะนองได้ในเวลาอันสั้น เมืองนี้จึงเป็นที่ตั้งของคำพูดที่ว่า "ในเคปทาวน์คุณสามารถสัมผัสได้ถึงสี่ฤดูในวันเดียว" สัมผัสความเร้าใจนี้ในทริปสุดหรูของคุณที่เคปทาวน์ พร้อมค้นพบประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม!

เคปทาวน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เมืองแม่" เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงที่สุดในแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าอันสำคัญของโลก โดยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ถูกก่อตั้งโดยนักสำรวจชาวดัตช์ ยาน แวน รีบีกในปี 1652 นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลจากหลากหลายวัฒนธรรม เช่น ชาวดัตช์ อังกฤษ และมลายู ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นละแวกที่มีเอกลักษณ์และความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เคปทาวน์ไม่เป็นเพียงท่าเรือที่สำคัญสำหรับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์และผลไม้สด แต่ยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการประมงที่มีเรือประมงขนาดใหญ่จากเอเชียเข้ามาใช้พื้นที่นี้ในการซ่อมบำรุงอีกด้วย สถานที่แห่งนี้ยังโดดเด่นด้วยความงดงามของธรรมชาติ โดยมีภูเขาเทเบิลและหัวสิงโตที่ตระการตา รวมถึงอุทยานธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์เช่น เคิร์สเตนบอส ซึ่งมีพันธุ์พืชพื้นเมืองที่หลากหลาย อากาศในเคปทาวน์มีความแปรปรวน สามารถแปรเปลี่ยนจากแดดจ้าไปยังพายุฝนฟ้าคะนองได้ในเวลาอันสั้น เมืองนี้จึงเป็นที่ตั้งของคำพูดที่ว่า "ในเคปทาวน์คุณสามารถสัมผัสได้ถึงสี่ฤดูในวันเดียว" สัมผัสความเร้าใจนี้ในทริปสุดหรูของคุณที่เคปทาวน์ พร้อมค้นพบประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม!




เพนท์เฮาส์แกรนด์สวีทเป็นห้องพักที่กว้างขวาง ขนาด 85 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนสะพาน เหมาะสำหรับผู้รักการพักผ่อนในวันที่อากาศอบอุ่นที่สามารถสัมผัสแสงแดดบนเกาะโซฟา DEDON สุดหรู โดยห้องจะมีการแบ่งพื้นที่การนอนและห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจน ตกแต่งด้วยโทนสีธรรมชาติและเฟอร์นิเจอร์คุณภาพสูง ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและสะดวกสบาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเรียกใช้บริการบัตเลอร์ส่วนตัวที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงบริการห้องพักโดยตรง ภายในห้องพักยังประกอบด้วยตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ พื้นที่รับประทานอาหารที่กว้างขวาง ห้องน้ำที่มีพื้นอุ่น อ่างจากุซซี่ ฝักบัวแยกต่างหาก และซาวน่าเฉพาะตัว อีกทั้งยังมีห้องน้ำสำหรับแขกโดยเฉพาะ คุณจะได้พบกับเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น แท็บเล็ต เครื่องชงกาแฟ Nespresso มินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอัดลม เบียร์ และสุราหรูคุณภาพ พร้อมกับของว่างสดใหม่ นอกจากนี้ยังมีบริการรีดเสื้อผ้า การจองโต๊ะในร้านอาหาร The Globe โดยเชฟเควิน เฟลิ่ง และบริการหนังสือพิมพ์ฉบับเต็มฟรีทุกวันเมื่อมีการร้องขอ สัมผัสความพิเศษและสิทธิพิเศษที่ห้องพักนี้เตรียมไว้ให้คุณอย่างไม่รู้ลืม



ในบรรยากาศที่ผ่อนคลายของห้องเพนท์เฮาส์ดีลักซ์สวีท ขอบริการความสะดวกสบายจากการบริการของกระเป๋าเดินทางของเรา ไม่ว่าจะเป็นขนมขบเคี้ยวชั้นเลิศหรือแก้วแชมเปญ คุณสามารถเลือกใช้เวลาผ่อนคลายในห้องนั่งเล่นที่น่าพิศวงหรือที่ระเบียงส่วนตัวของคุณ โดยทั้งสองที่สามารถมองเห็นวิวมหาสมุทรที่สวยงามได้ ห้องสวีทขนาด 45 ตารางเมตร (484 ตารางฟุต) มีพื้นที่ที่แยกจากกันสำหรับการนอนพักและการใช้ชีวิต พร้อมทั้งตู้เสื้อผ้าแบบใช้เดินเข้าและห้องน้ำที่มีการทำความร้อนพื้น พร้อมอ่างน้ำวนและฝักบัวแยก นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ตและเครื่องชงกาแฟ Nespresso ให้บริการ พร้อมด้วยมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอ่อน เบียร์ และสุราคุณภาพสูง คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การบริการพิเศษด้วยของว่างสดใหม่ทุกวัน รวมถึงบริการรีดผ้า และการจองโต๊ะในร้านอาหาร The Globe โดยเชฟเควิน เฟลลิง ทั้งหมดนี้คือความสะดวกสบายและบริการที่น่าพิศวงซึ่งรอให้คุณสัมผัสในเพนท์เฮาส์ดีลักซ์สวีทของเรา




ห้องพักสวีทสปา ขนาด 27 ตารางเมตร มาพร้อมระเบียงที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสความสบายในบรรยากาศที่ทันสมัยและมีสไตล์ การออกแบบที่เรียบง่ายพร้อมเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนช่วยให้ห้องดูกว้างขวางและสว่างไสวมากยิ่งขึ้น เพื่อความผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ห้องน้ำที่มีแสงธรรมชาติและวิวมหาสมุทร พร้อมอ่างอาบน้ำสปาที่มีไฟวิบวับสามารถมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับวิวที่งดงามจากอ่างอาบน้ำได้อีกด้วย สำหรับอุปกรณ์ที่เลือกสรรมาให้สอดคล้องกับความต้องการของคุณ ห้องพักนี้ยังมีบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมแพ็คเกจสปาที่ให้คุณได้ผ่อนคลายเต็มที่ ตู้เสื้อผ้าแบบเปิดและตู้เย็นขนาดเล็กให้บริการน้ำดื่ม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม เบียร์ และเครื่องดื่มชั้นดีอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีแท็บเล็ต, เครื่องชงกาแฟ Nespresso, บริการรีดผ้า รวมทั้งการจองโต๊ะสำหรับร้านอาหาร The Globe โดยเชฟ Kevin Fehling และบริการพิเศษตลอดการเข้าพัก เพื่อคืนสู่ความสงบและหรูหราในการพักผ่อนในทุกช่วงเวลา.




ห้องสวีทระเบียง (ประเภท 6-7) เป็นห้องพักที่มีดีไซน์ทันสมัยและตกแต่งอย่างมีสไตล์ในทุกรายละเอียด ขนาดของห้องอยู่ที่ 27 ตารางเมตร (291 ตารางฟุต) พร้อมระเบียงส่วนตัวที่จะให้คุณได้สัมผัสความเป็นส่วนตัวขณะชมวิวที่งดงาม ห้องนี้มีการแบ่งสัดส่วนระหว่างพื้นที่นั่งเล่นและนอนอย่างชัดเจน พร้อมด้วยบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำพร้อมกับฝักบัวแยกต่างหาก เรายังจัดเตรียมเครื่องนวดกาแฟแบบ Nespresso และมินิบาร์ฟรี ซึ่งมีน้ำดื่ม น้ำผลไม้ น้ำอัดลม และเบียร์ให้บริการ นอกจากนี้ ห้องสวีทยังมีตัวเลือกในการจองที่เชื่อมต่อกันเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น




ห้องสวีทระเบียง (ประเภท 4-5) เป็นที่พักสุดหรูที่ตอบโจทย์ความต้องการในการพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว โดยมีการออกแบบที่กลมกลืนในโทนสีอ่อนๆ และพื้นที่ใช้สอยที่ถูกแบ่งออกอย่างชัดเจนระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ห้องสวีทขนาด 27 ตารางเมตร (291 ตารางฟุต) มาพร้อมกับระเบียงส่วนตัว ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีบริการห้องสวีท 24 ชั่วโมง ที่จะทำให้การเข้าพักของคุณสะดวกสบายยิ่งขึ้น มีตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้าได้และห้องน้ำที่มาพร้อมกับอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยก สำหรับการชงกาแฟนั้นจัดให้มีเครื่องทำกาแฟแบบ Nespresso รวมถึงมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำดื่ม น้ำผลไม้ เครื่องดื่มอัดลม และเบียร์ให้บริการ สำหรับครอบครัว ห้องสวีทบางห้องสามารถจองพร้อมประตูเชื่อมต่อกันเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น หรือสามารถใช้สำหรับผู้ที่มีความพิการได้อีกด้วย

สวีทของคุณเป็นสถานที่ที่ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้านอย่างแท้จริง ด้วยการเลือกใช้โทนสีที่สร้างแรงบันดาลใจ แสงไฟอ่อนโยน และการตกแต่งภายในที่ได้รับการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน นำมาซึ่งบรรยากาศที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข ห้องสวีทขนาด 27 ตารางเมตร พร้อมหน้าต่างพาโนรามาที่ให้คุณได้ชมวิวที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน นอกจากนี้ยังมีบริการห้องสวีทตลอด 24 ชั่วโมง พื้นที่นั่งเล่นและนอนแบ่งแยกอย่างชัดเจน มีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัวแยกต่างหาก รวมถึงเครื่องชงกาแฟ Nespresso และมินิบาร์ฟรีที่มีน้ำ ผลไม้ นํ้าอัดลม และเบียร์ให้บริการ ท่านจะได้สัมผัสความหรูหราในทุกช่วงเวลาที่อยู่ในสวีทนี้