
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เอ็มเอส ยูโรป้า 2
Hapag-Lloyd Cruises


ฮัมเบิร์ก เมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ตั้งอยู่ริมทะเลเหนือ เมืองแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ แต่ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะและเสน่ห์ของชีวิตเมืองในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมบาโรกที่งดงาม หรือวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำที่รื่นรมย์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับตลาดปลาเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้ยังมีแกลเลอรีศิลปะและพิพิธภัณฑ์ชั้นเลิศ เช่น พิพิธภัณฑ์การเดินเรือฮัมเบิร์ก ที่จะพาคุณย้อนกลับไปยังยุครุ่งเรืองของการค้าและประวัติศาสตร์การเดินเรือ สำหรับผู้ที่หลงใหลในดนตรีและวัฒนธรรม รู้ไหมว่าถนนรอบๆ Grosse Freiheit เคยเป็นเวทีแรกของวงดนตรีชื่อดัง The Beatles ในยุด 60s หลายแห่งที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เคยมีชีวิตชีวาในสมัยกาลก่อน นอกจากนั้น ฮัมเบิร์กยังมีสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบให้แก่นักท่องเที่ยว ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายที่ควรค่าแก่การแวะถ่ายภาพและสัมผัสประสบการณ์อันหลากหลายที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้!

ท่าเรือโดเวอร์ (Dover) เป็นประตูสู่ประเทศอังกฤษที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามสำหรับนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการเดินเรือที่วุ่นวายเป็นอันดับสองในสหราชอาณาจักร โดยมีชื่อเสียงในฐานะเมืองท่าที่สำคัญสำหรับการเดินทางข้ามทะเล เมื่อคุณมาถึงโดเวอร์ คุณจะได้พบกับ "หน้าผาสีขาว" ที่เป็นเอกลักษณ์ ประวัติศาสตร์อันยาวนานของเมืองนี้น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นเมื่อได้สำรวจปราสาทโดเวอร์ที่มีมาแล้วกว่า 2,000 ปี และพิพิธภัณฑ์ที่มีเรือสำราญยุคสำริดของโดเวอร์ ซึ่งเป็นเรือที่เก่าแก่ที่สุดที่รู้จักกันในโลกที่ใช้เดินทะเล นอกจากนี้ หน้าผาเหล่านี้ยังเป็นจุดสังเกตสำคัญในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นศูนย์ควบคุมในการอพยพชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองที่ดันเคิร์คในปี 1940 ด้วยความสูงตระหง่านและความงดงามของธรรมชาติ ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนักท่องเที่ยวถึงหลงใหลในความสุขที่โดเวอร์เสนอ ท่าเรือแห่งนี้พร้อมให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้น รอคอยการเดินทางที่ยอดเยี่ยม!

ท่าเรือ Cowes บนเกาะ Isle of Wight เป็นสถานที่ที่เสมือนหนึ่งเป็นอังกฤษในรูปแบบย่อ สถานที่แห่งนี้มีชายหาดสวยงามและหมู่บ้านที่มีบ้านทรงโดมรอบกัก โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคมที่ทุกคนจะมาร่วมงาน Cowes Week งานแข่งขันเรือที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหราชอาณาจักรที่เปรียบเสมือน "Ascot ของนักเดินเรือ" และเต็มไปด้วยสีสันจากนักท่องเที่ยวที่มาเยือน เกาะ Isle of Wight เป็นที่รู้จักในฐานะที่ประทับฤดูร้อนของสมเด็จพระราชินีวิกตอเรีย และเป็นที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์ที่น่าประทับใจ เช่น Osborne House ซึ่งมีการออกแบบอย่างงดงามโดยเจ้าชายอัลเบิร์ต สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ แหลม Needles ที่เป็นที่ตั้งของเสาหินปูนสูงตระหง่าน และหมู่บ้าน Shanklin ที่มีหน้าผาสีทอง ที่ Cowes ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสประสบการณ์การช็อปปิ้งจากสินค้ามารีน แว่นตายอช และของที่ระลึกที่ทำจากทรายสีสันสดใส ร้านอาหารที่แนะนำคือ Amadeus Restaurant ซึ่งเสิร์ฟอาหารทะเลและเมนูอังกฤษยอดนิยม สัมผัสความงดงามของเกาะ Isle of Wight และสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจในทุกย่างก้าว เมื่อคุณมาท่าเรือ Cowes ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันสวยงาม

เซนต์-มาลโล (Saint-Malo) เมืองท่าแห่งความโรแมนติกที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งเหนือของฝรั่งเศส เป็นจุดหมายที่ต้องไปเยือนสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับประวัติศาสตร์แห่งการเดินเรือและความงดงามของทะเล นับตั้งแต่สมัยก่อน เซนต์-มาลโลได้ชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของนักเดินเรือที่ยิ่งใหญ่ รวมไปถึงนักสำรวจที่มีชื่อเสียงอย่าง ฌาค คาร์เตียร์ ผู้ซึ่งเคยประกาศสิทธิ์ในแคนาดาให้กับฝรั่งเศสในปี 1534 เมืองนี้เคยถูกเรียกว่า "เมืองโจรสลัด" เนื่องจากมีนักโจรสลัดชื่อก้องอย่าง โรเบิร์ต ซูร์คุฟ และดูเกย์-ทรูอิน ที่ทำให้เซนต์-มาลโลรุ่งเรืองจากการล่าเมืองต่างชาติ แม้ว่าในปี 1944 เซนต์-มาลโลจะได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ที่เกิดจากการต่อสู้ในสงคราม แต่เมืองเก่าก็ได้รับการฟื้นฟูให้กลับคืนสู่ความงามเช่นเดิม ปัจจุบัน, นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นในถนนแคบพอ ๆ กับสัมผัสความงามของบ้านหินแกรนิตในย่าน Vieille Ville และชมปราสาทที่ตั้งตระหง่าน ท่าเรือแห่งนี้ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนริมทะเล หากคุณต้องการหลีกหนีจากฝูงชน ควรมาที่นี่ในฤดูนอกฤดูท่องเที่ยว รอคอยที่จะสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ที่ไม่ซ้ำใครของเซนต์-มาลโล สถานที่ที่เก็บรักษาประวัติศาสตร์และการผจญภัยในตำนานไว้อย่างน่าหลงใหล.


บิลบาว (Bilbao) เมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ ของประเทศสเปน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะและสถาปัตยกรรมได้สร้างความโดดเด่นให้กับเมืองนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) ที่ออกแบบโดย Frank Gehry เมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว สถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟใต้ดินที่ออกแบบโดย Norman Foster และสวนสาธารณะ Abandoibarra ก็เป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดในการเยือนเมืองนี้ อย่าลืมเดินชมย่านเก่าของบิลบาวที่เรียกว่า "คาสโก วิเอโก" (Casco Viejo) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีเสน่ห์ แถมยังมีตลาดกลางแจ้งที่ Plaza Nueva ซึ่งจัดขึ้นทุกเช้าวันอาทิตย์ ในการเดินเล่นริมแม่น้ำเนร์บิโอ (Nervión) คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันงดงาม ที่มีความรุ่งเรืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน สำหรับผู้หลงใหลในอาหาร บิลบาวมีชื่อเสียงด้านความอร่อย โดยเฉพาะอาหารบาสก์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และหากมีโอกาส อย่าลืมขึ้นรถราง Euskotram เพื่อสัมผัสการเดินทางริมแม่น้ำใจกลางเมือง มาร่วมตะลุยและค้นพบความงดงามของบิลบาว ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต!


ท่าเรือเลเซา (Leixões) ตั้งอยู่ในภูมิภาคนอร์ทของโปรตุเกส เป็นประตูสู่เมืองที่เต็มไปด้วยอารยธรรมและวัฒนธรรมอย่างโอปอร์โต (Oporto) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยโรมันเมื่อสร้างป้อมเพื่อเป็นจุดค้าที่สำคัญ ในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 โอปอร์โตได้เติบโตขึ้นจากความมั่งคั่งที่เกิดจากการสำรวจทางทะเลของโปรตุเกส และยังเป็นศูนย์กลางการผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือเลเซามีความสำคัญในการขนส่งทางทะเล เนื่องจากเป็นท่าเรือที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเข้ามาของเรือสำราญ ซึ่งไม่สามารถเข้าไปในโอปอร์โตได้ หลายคนมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับการสำรวจศิลปะและสถาปัตยกรรมของเมืองนี้ โดยเฉพาะย่านประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก นอกจากนี้ เลเซายังเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดของโปรตุเกส ซึ่งได้คว้าแชมป์ถ้วย Taça de Portugal ในปี 1961 ท่านจะได้พบกับประสบการณ์อันหรูหรา ทั้งในเรื่องของอาหารและการท่องเที่ยว ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำตลอดไป

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา


เมือง Cádiz ตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่สวยงามในแคว้นอันดาลูเซีย คือ หนึ่งในท่าเรือที่มีความสำคัญและมีเสน่ห์ที่สุดในสเปน ด้วยประวัติศาสตร์กว่า 3,000 ปี ทำให้ Cádiz เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ด้วยบ้านสีขาวสวยงามและระเบียงที่ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสี สัมผัสบรรยากาศสบายๆ ผ่านการเดินเล่นที่ Plaza de España ซึ่งมีอนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงรัฐธรรมนูญสเปนฉบับแรกที่ถูกลงนามในปี 1812 สองข้างทางเดินริมทะเลที่สวยงามเชื่อมโยงกันดึงดูดผู้มาเยือนให้เพลิดเพลินไปกับวิวทะเลแอตแลนติกอันกว้างใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีสวนสาธารณะ Parque Genoves ที่ตั้งอยู่ใกล้หาดซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนที่โดดเด่น มีโรงละครกลางแจ้งและสวนแนวปาล์ม ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันสบายๆ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ไม่ควรพลาดคือมหาวิหารสไตล์นีโอคลาสสิกที่มีโดมทองอร่าม สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียง แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่รอให้คุณสัมผัสในทุกๆ หัวใจของการเดินทางในสเปน
มาร์เบลล่า (Marbella) เมืองชายทะเลที่เลื่องชื่อในสเปน เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหรูหรา บริเวณท่าเรือของมาร์เบลล่าเป็นแหล่งรวมเรือสำราญสุดหรู ซึ่งท่านจะได้สัมผัสบรรยากาศชายทะเลที่สวยงาม พร้อมชมทิวทัศน์ของภูเขาเซอโรเนร่าที่โดดเด่น การเดินเล่นริมท่าเรือมาร์เบลล่าเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ มองเห็นเรือยอร์ชที่เรียงราย ทำให้รู้สึกถึงความหรูหราของการพักผ่อนในสไตล์ชาวเมดิเตอร์เรเนียน นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหารชั้นนำมากมายที่เสิร์ฟเมนูเด็ดจากพื้นเมือง และอาหารอินเตอร์เน็ตที่อร่อย นอกจากท่าเรือที่สวยงามแล้ว มาร์เบลล่ายังมีสถานที่ที่น่าสนใจ เช่น ชายหาดที่ละเอียด ขาวสะอาด วัฒนธรรมที่เข้มแข็ง และสนามกอล์ฟที่มีมาตรฐานสูง ถือเป็นจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนในบรรยากาศแห่งความหรูหรา มาร์เบลล่าจึงไม่ใช่เพียงแค่ท่าเรือที่มีเกียรติ แต่ยังเป็นเมืองที่หลอมรวมความเป็นธรรมชาติและความหรูหรา เข้ากับการใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ รอคอยคุณมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ที่มาร์เบลล่า!






เจ้าของสวีทคือห้องสวีทที่หรูหราที่สุดในเรือสำราญ ซึ่งมากกว่าคำว่า "การเข้าพัก" เป็นที่พักอาศัยสุดพิเศษบนท้องทะเลข้ามโลก เพลิดเพลินกับความสะดวกสบายทุกอย่างในพื้นที่ส่วนตัวกว่า 114 ตารางเมตร ที่ออกแบบอย่างสวยงาม โดยมีพื้นที่นั่งเล่นขนาด 99 ตารางเมตร และระเบียงขนาด 15 ตารางเมตร ห้องนี้ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกจากกัน โต๊ะรับประทานอาหารที่แยกออก ส้วมแขก ห้องน้ำพร้อมอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ห้องอาบน้ำที่มีฝักบัวและซาวน่าสำหรับผ่อนคลาย อ่างจากุซซี่และเตียงนอนกลางวันในพื้นที่ห้องน้ำ บริการบัตเลอร์ที่คอยดูแล ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินกับมินิบาร์ฟรีและสิทธิพิเศษบริการที่ไม่เหมือนใคร เพิ่มความหรูหราและไม่เหมือนใครให้กับประสบการณ์การเดินทางของท่านอย่างเหนือระดับ



สัมผัสความหรูหราพร้อมพื้นที่ที่กว้างขวางบนท้องทะเลในห้องสวีทแกรนด์เพนท์เฮาส์ ท่านสามารถนั่งพักผ่อนบนเตียงกลางแจ้งพร้อมชมวิวทะเลกว้างขวาง หรือจะผ่อนคลายในอ่างจากุซซี่ส่วนตัวท่ามกลางมหาสมุทร ห้องพักขนาด 78 ตารางเมตร มีระเบียงเพิ่มเติมอีก 10 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่นั่งเล่นและนอนแยกเป็นสัดส่วน รวมทั้งมีโต๊ะรับประทานอาหารแยกต่างหาก ห้องน้ำมีอ่างล้างมือสองอันและฝักบัวสายไอน้ำ พร้อมด้วยอ่างจากุซซี่และเตียงนอนในห้องน้ำเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์, มินิบาร์ฟรี และสิทธิพิเศษในการให้บริการที่เหนือกว่ามาตรฐาน เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการพักผ่อนบนเรือสำราญ

ห้องชุดแกรนด์โอเชียนเป็นโอเอซิสส่วนตัวที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและเป็นที่หลบภัยอันงดงาม ซึ่งจะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ด้วยอ่างอาบน้ำที่มีทิวทัศน์ทะเลกว้างขวาง ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 42 ตารางเมตร และระเบียงขนาด 10 ตารางเมตร ขับเคลื่อนด้วยแสงธรรมชาติ ห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าสองอ่างและห้องน้ำแยกต่างหาก พร้อมฝักบัวที่มีบริการซาวน่าสตีมและอ่างจากุซซี่สุดหรู นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ฟรีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าจดจำอย่างแท้จริง

เพนท์เฮาส์สวีทคือห้องสวีทที่กว้างขวางและสะดวกสบาย ตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้นสูง เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและเพลิดเพลินกับวิวทะเลอันไร้ขอบเขต ห้องมีพื้นที่ใช้สอยถึง 42 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 10 ตารางเมตร ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินและห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าสองอ่าง พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวที่แยกออกจากกัน นอกจากนี้ยังมีสุขภัณฑ์แยกต่างหาก และบริการพนักงาน ส่วนบริการมินิบาร์ฟรีและสิทธิพิเศษในการบริการอีกมากมาย เจ้าของห้องเพนท์เฮาส์สวีทสามารถขอให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้อยู่ wheelchair ได้ โดยห้องน้ำจะมีโถสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำด้วย



อพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน พร้อมพื้นที่กว้างขวางที่ตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวของทั้งครอบครัว เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อนที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย โดยอพาร์ตเมนต์นี้จะมอบพื้นที่การใช้ชีวิตที่แยกเป็นสองส่วนสำหรับพ่อแม่และเด็ก โดยมีประตูกับระเบียงเชื่อมต่อกัน หนึ่งในพื้นที่ดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประกอบด้วย 2 ห้อง กว้าง 20 ตร.ม. และระเบียงขนาด 14 ตร.ม. (สามารถแบ่งเป็น 2× 7 ตร.ม.) มีห้องน้ำแยกต่างหากและมินิบาร์ฟรีเพื่อความสะดวกสบายเพิ่มเติม ในพื้นที่สำหรับเด็กจะมีเตียงเดี่ยวสองเตียง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเตียงแบบพลึกแมนขนาด 80 x 200 ซม. พร้อมอ่างอาบน้ำขนาด 140 x 80 ซม. และเกมที่เหมาะสมกับวัยรวมถึงเครื่องเล่นเกมอีกด้วย สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ตอบสนองทุกความต้องการของครอบครัวในอพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัว ที่นี่คือการผสมผสานความสะดวกสบายและความสนุกสนานอย่างลงตัวในทริปสุดพิเศษของคุณ


หากคุณต้องการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยวิวอันยอดเยี่ยม โอเชียนสวีท จะทำให้คุณมีช่วงเวลาที่น่าประทับใจ ห้องพักขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตรให้คุณชมทิวทัศน์ทะเลได้อย่างเต็มที่ ห้องน้ำที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวแยก รวมถึงสุขาแยกอีกต่างหาก ห้องนี้ยังมาพร้อมกับมินิบาร์ฟรี ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณสุดแสนจะพิเศษและน่าจดจำอย่างแท้จริง



ห้องสวีทระเบียงนี้มอบพื้นที่กว้างขวางเพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างสบายในระหว่างการเดินทาง และมีวิวที่งดงามตลอดการล่องเรือ ห้องนั่งเล่นมีขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตร ทำให้คุณมีบรรยากาศที่รื่นรมย์และให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ภายในห้องยังมีตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in ที่จะช่วยให้คุณจัดเก็บสัมภาระได้อย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นพิเศษพร้อมเก้าอี้ยาวเพื่อการผ่อนคลายอย่างเหนือระดับ ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างอาบน้ำและฝักบัวที่แยกต่างหากเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับมินิบาร์ฟรีที่พร้อมเสิร์ฟคุณตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทระเบียงจึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างความทรงจำที่แสนพิเศษในการล่องเรือครั้งนี้