
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เอ็มเอส ยูโรป้า 2
Hapag-Lloyd Cruises


ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน

เกาะฮวาร์ ประเทศโครเอเชีย เป็นสถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น "เกาะที่มีแดดมากที่สุดในทะเลอาเดรียติก" ด้วยค่าเฉลี่ยชั่วโมงแสงแดดยาวนานถึง 2,724 ชั่วโมงต่อปี จึงไม่แปลกใจที่ที่แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก พื้นที่นี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ พร้อมทั้งธรรมชาติที่งดงาม นอกจากทะเลสีฟ้าใสและชายหาดที่สวยงามแล้ว เกาะฮวาร์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น ปราสาทเฟอร์ตาเรน ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของกิจกรรมให้ผู้เข้าชมได้เลือกมากมาย ตั้งแต่การเดินป่าของนักผจญภัย ไปจนถึงการล่องเรือในทะเลเปิด สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความหรูหรา ฮวาร์เต็มไปด้วยร้านอาหารระดับมิชลิน สปาและโรงแรมหรู ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณเป็นประสบการณ์ที่พิเศษยิ่งขึ้น เต็มเปี่ยมไปด้วยความโรแมนติกและความสุขในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาดหรือสำรวจประวัติศาสตร์ เรือสำราญที่จอดที่ท่าเรือฮวาร์จะนำคุณสู่โลกแห่งความฝันของราชวงศ์และความสวยงามที่คุณไม่ควรพลาด!

ซาดาร์ (Zadar) เมืองหลวงของดัลมาเชียที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 1,000 ปี ที่มักถูกมองข้ามโดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปยังสปลิตหรือดูบรอฟนิก แต่ที่นี่คือเมืองที่มอบความสวยงามสดใสและความมีชีวิตชีวาแม้จะมีอดีตที่ซับซ้อน Old Town ของซาดาร์ตั้งอยู่บนแหลมที่ยาวประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ประกอบไปด้วยถนนลาดยางหินอ่อนที่เรียงรายไปด้วยซากโรมัน โบสถ์ในยุคกลาง พระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ซาดาร์เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญมาก่อนที่โรมจะเข้าครอบครองในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช โดยมรดกทางสถาปัตยกรรมที่งดงามยังคงอยู่ในซากฟอรัมที่สามารถเห็นได้ในปัจจุบัน ช่วงเวลาที่โดดเด่นที่สุดคือการก่อสร้างโบสถ์เซ็นต์โดนัท (St. Donat's Basilica) ในศตวรรษที่ 9 ที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับเมือง แม้ซาดาร์จะเคยเผชิญกับสงครามและการยึดครองในหลายยุคหลายสมัย แต่วันนี้เมืองนี้กลับเปล่งประกายด้วยความสดใสของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ที่สำคัญยังมีสัญญาณอธิบายภาษาอังกฤษรอบเมืองเก่า ช่วยให้ผู้มาเยือนสามารถสำรวจคัดเลือกความน่าสนใจในที่แห่งนี้ได้อย่างสบายใจ เตรียมพบกับความมหัศจรรย์ของเมืองซาดาร์ที่นี่ ตรงกลางของดัลมาเชียที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงามรอคอยคุณอยู่!

โอพาติจา (Opatija) เป็นเมืองท่าเรือที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ตราตรึงใจนักท่องเที่ยวมาอย่างช้านาน ด้วยบรรยากาศท่าเรือที่สวยงาม ริมชายฝั่งที่พิเศษ คุณสามารถเดินเล่นไปตามทางเดินเลียบชายทะเลที่มีเสน่ห์ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์จากทะเลและชมความงดงามของเรือยอทช์ที่แล่นอยู่ในอ่าว โอพาติจามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เคยเป็นสถานพักผ่อนสุดหรูสำหรับชนชั้นสูงของยุโรป และยังคงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน อาคารสวยงามที่หันหน้าออกสู่ทะเลสีฟ้า รวมถึงภูเขาที่เขียวขจีล้อมรอบเมือง เป็นทิวทัศน์ที่น่าหลงใหล นอกจากนี้ สวนดอกไม้ที่สดใสและสภาพอากาศที่ดี ทำให้โอพาติจายังคงเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของโครเอเชีย ด้วยบริการระดับพรีเมียมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมสรรพ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความหรูหราและพลังกระตุ้นในการเดินทาง เพื่อค้นพบประสบการณ์ที่แตกต่างในโครเอเชีย สำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันในการพักผ่อนริมทะเล โอพาติจาคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางของคุณ

ท่าเรือที่น่าหลงใหลอย่างท่าเรือเมืองเตรียสเต (Trieste) ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี เป็นซีกหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ตัดกับความเป็นมาของอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการีในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วยคุณภาพความเป็นเมืองท่าที่สำคัญและศูนย์กลางการเงินเมื่อหลายทศวรรษก่อน เตรียสเตยังเป็นแหล่งรวมความคิดสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงในวงการวรรณกรรม โดยนักเขียนชื่อดังอย่างอิตาโล สเวโว (Italo Svevo) และเจมส์ จอยซ์ (James Joyce) ต่างได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศอันหลากหลายทางวัฒนธรรมของเมือง คุณจะได้สัมผัสความงามในการผสมผสานของสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิกและอาร์ตนูโว ซึ่งสร้างขึ้นในช่วงรุ่งเรืองของเมือง เตรียสเตยังมอบบรรยากาศที่เงียบสงบแต่แฝงไปด้วยความเศร้าสร้อยและงดงาม ในขณะที่คุณเดินชมถนนที่เรียงรายไปด้วยอาคารประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ สามารถสำรวจชายหาดที่มีวิวทะเลสวยงามและสัมผัสกับวัฒนธรรมและอาหารอิตาเลียนอันเลื่องชื่อได้อีกด้วย เตรียสเต คือจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสทั้งประวัติศาสตร์และความสวยงามในอิตาลีที่ไม่เหมือนใคร


มอนโอโปลา (Monopoli) เมืองชายทะเลที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคอาปูเลีย (Apulia) ของอิตาลี เป็นท่าเรือที่เต็มไปด้วยความงดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน สถานที่ที่เรือสำราญมักจะนำพานักท่องเที่ยวให้สัมผัสกับบรรยากาศที่น่าหลงใหลของทะเลเอเดรียติก ท่าเรือมอนโอโปลานั้นมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ด้วยน้ำทะเลใสสีฟ้าครามที่ทอดยาวไปเกือบตลอดแนวชายฝั่ง ผู้เข้าชมจะได้เดินเล่นไปตามถนนในเมืองเก่าที่ปูด้วยหินอ่อน พร้อมสัมผัสกับบ้านเรือนสีขาวซึ่งสร้างขึ้นในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ความเป็นมาของเมืองนี้ยังถูกเสริมสร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบบาโรกที่น่าทึ่ง เช่น โบสถ์เซนต์อันโดนิโอ (Chiesa di Sant'Antonio) ที่มีความงดงามในทุกรายละเอียด นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจชายหาดที่แถบชายฝั่ง เช่น โผลีน่า (Polignano a Mare) ที่มีหน้าผาสูงและวิวทะเลอันงดงาม พร้อมทั้งกิจกรรมต่างๆ เช่น ดำน้ำตื้นและพายเรือคายัค ซึ่งจะทำให้ทุกการเดินทางเป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน ในระหว่างที่คุณหยุดพักที่มอนโอโปลา อย่าลืมชิมอาหารทะเลสดใหม่ และเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่นที่จะทำให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมอย่างแท้จริง การเยือนมอนโอโปลาไม่เพียงแน่นอนว่าจะทำให้คุณทึ่งกับความงามของเมืองนี้ แต่ยังจะเป็นการเปิดโลกใหม่แห่งการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความทรงจำอันมีค่าในหัวใจของคุณตลอดไป

เมื่อคุณก้าวเท้าสู่เมืองโครฟู (Corfu) คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่มีมาช้านานที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของหลายวัฒนธรรม เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวานี้ตั้งอยู่บริเวณกลางชายฝั่งตะวันออกของเกาะโครฟู เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและมีใจกลางเมืองที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2007 ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาทางเรือเฟอร์รี่จากแผ่นดินใหญ่หรืออิตาลี หรือบินตรงมายังสนามบิน ณ โครฟู เมืองนี้คือจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยความงาม ทางเดินเล็ก ๆ ในเขตคนเดินยกระดับให้คุณเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมือง โดยคุณสามารถผ่อนคลายด้วยการจิบกาแฟหรือไอศกรีมที่ Liston Arcade ที่มีร่มเงา ควรใช้เวลาสำรวจพระราชวังมอน เรโปส (Mon Repos) โดยขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ให้บริการในช่วงฤดูร้อน และเมื่อถึงเวลาค่ำคืน เมืองนี้จะมีบรรยากาศที่แตกต่างด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารชั้นเลิศของเกาะ การเดินทางในเมืองโครฟูเป็นไปอย่างสะดวกสบาย คุณสามารถเดินเท้าสำรวจได้ทั่วถึง เมืองมีความเล็กพอที่คุณจึงไม่ต้องพึ่งพารถบัสที่ไม่สามารถเข้าถึงในเขตประวัติศาสตร์ หากคุณเดินทางมาทางเฟอร์รี่หรือเครื่องบิน แนะนำให้ใช้แท็กซี่ซึ่งจะพาคุณไปยังโรงแรมได้ในราคาเพียง 10 ยูโร ห้ามพลาด!

เกาะเลฟกาดา (Lefkáda) ตั้งอยู่ในภูมิภาคแห่งความงามอันมีเสน่ห์ของกรีซ เป็นจุดหมายปลายทางที่หลากหลายและตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากสำรวจท่าเรือที่มีเสน่ห์นี้ เรือสำราญหลายลำชอบแวะจอดที่ท่าเรือเลฟกาดา เนื่องจากทั้งความงามของทะเลอาจล้อมรอบด้วยภูเขาและวัฒนธรรมที่เข้มข้น ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดจอดเรือที่สะดวกสบาย ยังเป็นประตูสู่ชายหาดที่ยาวเหยียดและน้ำทะเลใสสะอาด เช่น ชายหาด Porto Katsiki ที่มีชื่อเสียง และ Agios Nikitas ที่งดงาม นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการว่ายน้ำหรือการทำกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ ที่มอบความตื่นเต้นไม่รู้จบ เมื่อสำรวจท่าเรือในเมืองเลฟกาดา นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบบดั้งเดิมและคาเฟ่ที่ให้บริการอาหารและขนมหวานกรีกอร่อย ๆ นอกจากนี้ ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมวัดโบราณและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ยังคงมีชีวิตอยู่ เกาะเลฟกาดาเป็นสถานที่ที่ลงตัวสำหรับผู้ที่ต้องการหลบหนีจากชีวิตประจำวัน สร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำและสวยงามอย่างแท้จริง ในทุกช่วงเวลาแห่งการสำรวจ ท่าเรือเลฟกาดาจะมอบแก่คุณความทรงจำที่สวยงามตราบเท่าที่คุณอยากกลับมาอีกครั้ง.

ท่าเรืออาร์โกสโตลี ประเทศกรีซ ตั้งอยู่บนเกาะเคฟาลอนีย์ เป็นจุดหมายที่แสนล้ำค่า สำหรับผู้ที่รักการเดินทางด้วยเรือสำราญ แม้เมืองนี้จะต้องเผชิญกับความหายนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 และแผ่นดินไหวที่รุนแรง แต่ปัจจุบัน อาร์โกสโตลีนั้นกลับโชว์อัตลักษณ์เอกลักษณ์และความงดงามของธรรมชาติอย่างมีศักดิ์ศรี ท่าเรือขนาดใหญ่ด้านตะวันออกของอาร์โกสโตลี ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก ความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้สะท้อนผ่านการเดินเล่นในบางกอกหินริมทะเล ที่มีคาเฟ่ที่พร้อมเสิร์ฟอูโซเหล้าองุ่นที่เลื่องชื่อ และผลไม้สดจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนให้ได้ลิ้มลอง ในตลาดกลางแจ้งที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสรรสิ่งแปลกใหม่ได้ตามใจชอบ นอกจากบรรยากาศที่รื่นรมย์ ผู้เข้าชมยังสามารถสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ ที่เพียบพร้อมไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อาทิเช่น ชายหาดที่มีทิวทัศน์อันงดงาม และทัศนียภาพของภูเขาในระยะไกล ท่าเรืออาร์โกสโตลีจะเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความทรงจำที่ไม่มีวันลืมสำหรับการเดินทางในฝันของคุณ.


ที่ท่าเรือนาฟพลิโอน (Náfplion) ประเทศกรีซ เมืองเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “โอเรีย” หรือ “สวยงาม” เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่โอบล้อมอ่าวอาร์กอส ตัวเมืองเป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของสถาปัตยกรรมแบบกรีก เวเนเชียน และตุรกี ถนนเล็ก ๆ ที่บางครั้งเปิดให้เดินขึ้นลงเส้นทางที่มีบันไดหิน ล้วนเสริมสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์ในเมืองนี้ หากคุณต้องการสัมผัสความงามของนาฟพลิโอน ควรใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งวันในการสำรวจและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ในขณะเดียวกัน คุณอาจพบว่าการใช้เวลาหลายวันหรือสัปดาห์ที่นี่จะช่วยให้คุณมีโอกาสสำรวจสถานที่โบราณโดยรอบได้อย่างสมบูรณ์แบบ จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ ปราสาทปาลามิดี (Palamidi) ที่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือเมือง เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ในสมัยเวเนเชียนที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 การขึ้นไปชมวิวจากปราสาทแห่งนี้จะทำให้คุณมีมุมมองที่งดงามของเมืองและทะเลอันสงบ นาฟพลิโอนคือเสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.





เจ้าของสวีทคือห้องสวีทที่หรูหราที่สุดในเรือสำราญ ซึ่งมากกว่าคำว่า "การเข้าพัก" เป็นที่พักอาศัยสุดพิเศษบนท้องทะเลข้ามโลก เพลิดเพลินกับความสะดวกสบายทุกอย่างในพื้นที่ส่วนตัวกว่า 114 ตารางเมตร ที่ออกแบบอย่างสวยงาม โดยมีพื้นที่นั่งเล่นขนาด 99 ตารางเมตร และระเบียงขนาด 15 ตารางเมตร ห้องนี้ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกจากกัน โต๊ะรับประทานอาหารที่แยกออก ส้วมแขก ห้องน้ำพร้อมอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ห้องอาบน้ำที่มีฝักบัวและซาวน่าสำหรับผ่อนคลาย อ่างจากุซซี่และเตียงนอนกลางวันในพื้นที่ห้องน้ำ บริการบัตเลอร์ที่คอยดูแล ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินกับมินิบาร์ฟรีและสิทธิพิเศษบริการที่ไม่เหมือนใคร เพิ่มความหรูหราและไม่เหมือนใครให้กับประสบการณ์การเดินทางของท่านอย่างเหนือระดับ



สัมผัสความหรูหราพร้อมพื้นที่ที่กว้างขวางบนท้องทะเลในห้องสวีทแกรนด์เพนท์เฮาส์ ท่านสามารถนั่งพักผ่อนบนเตียงกลางแจ้งพร้อมชมวิวทะเลกว้างขวาง หรือจะผ่อนคลายในอ่างจากุซซี่ส่วนตัวท่ามกลางมหาสมุทร ห้องพักขนาด 78 ตารางเมตร มีระเบียงเพิ่มเติมอีก 10 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่นั่งเล่นและนอนแยกเป็นสัดส่วน รวมทั้งมีโต๊ะรับประทานอาหารแยกต่างหาก ห้องน้ำมีอ่างล้างมือสองอันและฝักบัวสายไอน้ำ พร้อมด้วยอ่างจากุซซี่และเตียงนอนในห้องน้ำเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์, มินิบาร์ฟรี และสิทธิพิเศษในการให้บริการที่เหนือกว่ามาตรฐาน เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการพักผ่อนบนเรือสำราญ

ห้องชุดแกรนด์โอเชียนเป็นโอเอซิสส่วนตัวที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและเป็นที่หลบภัยอันงดงาม ซึ่งจะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ด้วยอ่างอาบน้ำที่มีทิวทัศน์ทะเลกว้างขวาง ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 42 ตารางเมตร และระเบียงขนาด 10 ตารางเมตร ขับเคลื่อนด้วยแสงธรรมชาติ ห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าสองอ่างและห้องน้ำแยกต่างหาก พร้อมฝักบัวที่มีบริการซาวน่าสตีมและอ่างจากุซซี่สุดหรู นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ฟรีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าจดจำอย่างแท้จริง

เพนท์เฮาส์สวีทคือห้องสวีทที่กว้างขวางและสะดวกสบาย ตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้นสูง เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและเพลิดเพลินกับวิวทะเลอันไร้ขอบเขต ห้องมีพื้นที่ใช้สอยถึง 42 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 10 ตารางเมตร ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินและห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าสองอ่าง พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวที่แยกออกจากกัน นอกจากนี้ยังมีสุขภัณฑ์แยกต่างหาก และบริการพนักงาน ส่วนบริการมินิบาร์ฟรีและสิทธิพิเศษในการบริการอีกมากมาย เจ้าของห้องเพนท์เฮาส์สวีทสามารถขอให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้อยู่ wheelchair ได้ โดยห้องน้ำจะมีโถสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำด้วย



อพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน พร้อมพื้นที่กว้างขวางที่ตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวของทั้งครอบครัว เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อนที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย โดยอพาร์ตเมนต์นี้จะมอบพื้นที่การใช้ชีวิตที่แยกเป็นสองส่วนสำหรับพ่อแม่และเด็ก โดยมีประตูกับระเบียงเชื่อมต่อกัน หนึ่งในพื้นที่ดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประกอบด้วย 2 ห้อง กว้าง 20 ตร.ม. และระเบียงขนาด 14 ตร.ม. (สามารถแบ่งเป็น 2× 7 ตร.ม.) มีห้องน้ำแยกต่างหากและมินิบาร์ฟรีเพื่อความสะดวกสบายเพิ่มเติม ในพื้นที่สำหรับเด็กจะมีเตียงเดี่ยวสองเตียง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเตียงแบบพลึกแมนขนาด 80 x 200 ซม. พร้อมอ่างอาบน้ำขนาด 140 x 80 ซม. และเกมที่เหมาะสมกับวัยรวมถึงเครื่องเล่นเกมอีกด้วย สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ตอบสนองทุกความต้องการของครอบครัวในอพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัว ที่นี่คือการผสมผสานความสะดวกสบายและความสนุกสนานอย่างลงตัวในทริปสุดพิเศษของคุณ


หากคุณต้องการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยวิวอันยอดเยี่ยม โอเชียนสวีท จะทำให้คุณมีช่วงเวลาที่น่าประทับใจ ห้องพักขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตรให้คุณชมทิวทัศน์ทะเลได้อย่างเต็มที่ ห้องน้ำที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวแยก รวมถึงสุขาแยกอีกต่างหาก ห้องนี้ยังมาพร้อมกับมินิบาร์ฟรี ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณสุดแสนจะพิเศษและน่าจดจำอย่างแท้จริง



ห้องสวีทระเบียงนี้มอบพื้นที่กว้างขวางเพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างสบายในระหว่างการเดินทาง และมีวิวที่งดงามตลอดการล่องเรือ ห้องนั่งเล่นมีขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตร ทำให้คุณมีบรรยากาศที่รื่นรมย์และให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ภายในห้องยังมีตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in ที่จะช่วยให้คุณจัดเก็บสัมภาระได้อย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นพิเศษพร้อมเก้าอี้ยาวเพื่อการผ่อนคลายอย่างเหนือระดับ ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างอาบน้ำและฝักบัวที่แยกต่างหากเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับมินิบาร์ฟรีที่พร้อมเสิร์ฟคุณตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทระเบียงจึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างความทรงจำที่แสนพิเศษในการล่องเรือครั้งนี้