
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เอ็มเอส ยูโรป้า 2
Hapag-Lloyd Cruises


ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ เป็นท่าเรือที่สำคัญในเกาะเทเนริเฟ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะคานารี ประเทศสเปน สถานที่นี้มีเสน่ห์โดดเด่นด้วยแสงอาทิตย์ที่สดใสตลอดทั้งปี และมีภูเขาเทอิดที่เป็นไฮไลต์ของเกาะ ตั้งอยู่ใจกลางเกาะ แวดล้อมด้วยหุบเขาเขียวขจีที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซานตาครูซซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็ก ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นเมืองที่ทันสมัย โดยมีสถาปัตยกรรมที่งดงามจากศตวรรษที่ 16 ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถัน ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ซานตาครูซ ปาเลมตัม ที่มีพื้นที่กว้างขวางถึง 29 เอเคอร์ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นปาล์มหลากหลายสายพันธุ์ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หากคุณมาที่นี่ อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศของเมือง และชื่นชมความงามของภูเขาเทอิดซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาด ด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำและความสวยงามแห่งธรรมชาติ ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ จึงเป็นปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มองหาการผจญภัยในสเปน


ดาการ์ เป็นจุดที่สวยงามตั้งอยู่ที่ปลายแหลมแคปเวิร์ต แห่งนี้คือเมืองหลวงของเซเนกัล และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานซึ่งมีเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการก่อตั้งในปี 1857 ดาการ์นับเป็นเมืองยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดในแอฟริกาตะวันตกและเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความเป็นสากลมากที่สุดในภูมิภาคนี้ ความรุ่งเรืองของดาการ์เริ่มต้นเมื่อมีการเปิดเส้นทางรถไฟดาการ์-เซนต์หลุยส์ในปี 1885 ซึ่งส่งผลให้เมืองนี้กลายเป็นฐานทัพเรือของฝรั่งเศสและในปี 1904 เป็นเมืองหลวงของภูมิภาค Afrique Occidentale Française ตัวเมืองเต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมฝรั่งเศส โดยเฉพาะในย่านพลาตอว์ (Plateau) ที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับภาคใต้ของฝรั่งเศส นอกจากความสวยงามของอาคารแล้ว ดาการ์ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวา นักท่องเที่ยวสามารถลองจิบชามิ้นต์ (Mint Tea) เมนูที่เป็นที่นิยมอย่างมาก และสนุกสนานกับการช้อปปิ้งในตลาดฝีมือที่มีสีสัน อาทิเช่น การต่อรองซื้อผ้าปัก ผลงานจากไม้ เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องประดับที่สร้างสรรค์อย่างประณีต การเดินทางมายังดาการ์คือการสัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย และประสบการณ์สุดพิเศษที่คุณจะไม่มีวันลืม

บันจูล เมืองเล็กแต่มีเสน่ห์แห่งประเทศแกมเบีย เป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนเกาะเซนต์แมรีส์ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำแกมเบียไหลเข้าสู่องค์มหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งแต่สมัยที่อังกฤษจัดตั้งเมืองบันจูลในต้นศตวรรษที่ 19 สิ่งที่เริ่มจากการเป็นฐานทัพทางทะเลเพื่อหยุดยั้งการค้าทาส กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันลึกซึ้ง บันจูลไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการเมืองที่มีประชาธิปไตยเก่าแก่ที่สุดในแอฟริกา แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ด้วยสภาพอากาศที่เหมาะสมตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับความงดงามของชายหาดที่ทอดยาวไปตามมหาสมุทร และสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ บันจูลยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ตลาดแห่งชาติเซนต์แมรี ซึ่งเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและงานหัตถกรรม รวมถึงความสามารถในการเพลิดเพลินไปกับอาหารพื้นเมืองที่หลากหลาย จุดหมายที่ไม่ควรพลาดนี้จึงเป็นบันไดสู่การเปิดโลกใหม่ของการเดินทางในแอฟริกา ชวนให้คุณมาสัมผัสด้วยตัวคุณเอง!


หลบหนีสู่สรวงสวรรค์เขตร้อนที่เกาะเซาโทเมและปรินซิปี ซึ่งตั้งอยู่ในอ่าวกินีของแอฟริกา ปลุกความรู้สึกหรูหราให้กับผู้มาเยือน ด้วยอากาศอบอุ่นแสงแดดสดใส และธรรมชาติที่เขียวขจีอันอุดมสมบูรณ์ ท่าเรือเซาโทเมบนเกาะเซาโทเม คือจุดเริ่มต้นของการค้นพบความมหัศจรรย์แห่งวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งเป็นการหลอมรวมระหว่างอารมณ์อาฟริกันและโปรตุเกส เดินทางไปสัมผัสกับความเป็นเอกลักษณ์ของดนตรีและการเต้นรำของชาวเซาโทเม ที่มีจังหวะอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น อุซซัว และโซโคเป ขณะที่เกาะปรินซิปีเสนอเสียงดนตรีที่เรียกว่า เด็กซ่า ที่จะทำให้คุณหลงใหลในทุกการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ การแสดงทิลโลลี จะเล่าเรื่องราวด้วยการผสมผสานการเต้นรำและดนตรีที่จะทำให้คุณตื่นตระหนก เซาโทเมและปรินซิปี ไม่ใช่เพียงแค่จุดหมายปลายทางที่สวยงาม แต่ยังเป็นแบบอย่างของวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ในการสำรวจเกาะมากมายและสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย ทุกขณะคือการเฉลิมฉลองและการค้นพบ รอคอยให้คุณตามไปสัมผัสกับประสบการณ์นี้ในสไตล์อันว่างามและหรูหรา


ท่าเรือหลวงดา (Luanda) เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลในประเทศแองโกลา ที่คุณจะได้สัมผัสประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง เคียงคู่ไปกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของมหานครที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์นี้ ลูอันดา ก่อตั้งในปี 1575 โดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส ผู้ที่ได้เห็นเมืองนี้กลายเป็นศูนย์กลางการค้า ระหว่างอาณานิคมในแอฟริกาและบราซิล ปัจจุบันหลวงดาได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่อย่างน่าประทับใจ ด้วยถนนและตึกระฟ้านานาประการ ที่สื่อถึงความภาคภูมิใจของประชาชนในแองโกลา ภายหลังจากการปฎิวัติในปี 1974 ประเทศนี้ได้เดินเข้าสู่การพัฒนาอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเพชรและน้ำมัน ทำให้หลวงดากลายเป็นเมืองที่มีสำนักงานของบริษัทนานาชาติหลายแห่ง ตั้งอยู่ แม้การซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานหลังจากสงครามกลางเมืองจะทำให้ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนหลวงดากลายเป็นหนึ่งในเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก แต่การเดินทางมาที่นี่ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่มีเสน่ห์ รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์นักเดินทางที่ปรารถนาความหรูหราและการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมฟื้นฟูธรรมชาติที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับความงามของธรรมชาติในแองโกลาอีกด้วย
ท่าเรือโลบิโต้ (Lobito) ตั้งอยู่ระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและนามิเบีย บนชายฝั่งที่สวยงามของแองโกลา เป็นเมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดเบ็งกูเอลา ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอยู่ภายใต้การปกครองของโปรตุเกส แม้ว่าเมืองนี้จะได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมือง แต่ก็มีการฟื้นฟูและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศจีนและบราซิลในการสร้างระบบรถไฟฟ้า โลบิโต้ไม่เพียงแค่มีท่าเรือที่สำคัญ แต่ยังมีชายหาดที่ยังคงความงดงามตามธรรมชาติ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่รักการพักผ่อนริมชายทะเล นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติที่กว้างขวาง และวัฒนธรรมที่อัดแน่นด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย สัมผัสกับเวทมนตร์ของโลบิโต้ ให้คุณได้มีโอกาสท่องเที่ยวในบรรยากาศอันสงบเสงี่ยม ทำให้มันเป็นจุดหมายปลายทางที่แปลกใหม่สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่แตกต่างและความสงบสุขกลางธรรมชาติ เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่โลบิโต้ และรับรู้ถึงคุณค่าของการเดินทางที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตคุณ!


วอลวิสเบย์ (Walvis Bay) ท่าเรือที่เคยเป็นสถานีล่าวาฬ เป็นประตูสู่ทิวทัศน์ทะเลทรายที่งดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของนามิเบีย สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ ซึ่ที่ประทับใจที่สุดคืออ่าวลุ่มน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีความโดดเด่นในการเป็นที่พักอาศัยของนกฟลามิงโกในช่วงเวลาหนึ่งของปี นอกจากนี้ยังมีนกน้ำหลากหลายชนิด เช่น เปลิแกนขาว ที่จะทำให้ท่านประทับใจไปกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ เมื่อมุ่งเข้าสู่ภายในทุ่งทะเลทราย ท่านจะได้พบกับทะเลทรายอันน่าทึ่งของนามิบ (Namib Desert) ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึงผู้กล้าหาญที่จะเยือนซอสซุสเวลล์ (Sossusvlei) ที่มีเนินทรายสีส้มอันโดดเด่น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก สัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เมืองสวาคอปมุนด์ (Swakopmund) ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอาณานิคมให้ท่านได้ชม วอลวิสเบย์ไม่เพียงแค่ท่าเรือที่มีความสำคัญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่จะนำท่านสู่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คงจะเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในทุกการเดินทางของคุณ

วอลวิสเบย์ (Walvis Bay) ท่าเรือที่เคยเป็นสถานีล่าวาฬ เป็นประตูสู่ทิวทัศน์ทะเลทรายที่งดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของนามิเบีย สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ ซึ่ที่ประทับใจที่สุดคืออ่าวลุ่มน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีความโดดเด่นในการเป็นที่พักอาศัยของนกฟลามิงโกในช่วงเวลาหนึ่งของปี นอกจากนี้ยังมีนกน้ำหลากหลายชนิด เช่น เปลิแกนขาว ที่จะทำให้ท่านประทับใจไปกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ เมื่อมุ่งเข้าสู่ภายในทุ่งทะเลทราย ท่านจะได้พบกับทะเลทรายอันน่าทึ่งของนามิบ (Namib Desert) ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึงผู้กล้าหาญที่จะเยือนซอสซุสเวลล์ (Sossusvlei) ที่มีเนินทรายสีส้มอันโดดเด่น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก สัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เมืองสวาคอปมุนด์ (Swakopmund) ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอาณานิคมให้ท่านได้ชม วอลวิสเบย์ไม่เพียงแค่ท่าเรือที่มีความสำคัญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่จะนำท่านสู่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คงจะเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในทุกการเดินทางของคุณ

ลูเดอritz ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลแห่งทะเลทรายหนามิบิอั้น สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของหมู่บ้านเล็กๆ ในศตวรรษที่ 19 ที่มองเห็นวิวทะเลอันวิจิตรตระการตาของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ การกลับมาของเหมืองเพชรที่อีลิซาเบธเบย์ในปีที่ผ่านมา เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้การท่องเที่ยวและการประมงกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง เพื่อนำพาความงดงามและความเป็นเอกลักษณ์ในแบบเมืองเยอรมันแห่งนี้ไปให้ทุกคนได้สัมผัส ในลูเดอritz นักท่องเที่ยวจะได้พบกับคาเฟ่ที่น่ารื่นรมย์ ร้านค้าอาหารที่หลากหลายและโบสถ์ลูเทอแรนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ธรรมชาติรอบตัวเธออัดแน่นไปด้วยชีวิตของสัตว์ทะเล นกเพนกวินและแมวน้ำที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง และยังมีชายหาดที่เต็มไปด้วยนกฟลามิงโก้ โดยคุณจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงาม อย่างไรก็ตาม ลูเดอritz ยังมีอดีตที่น่าทึ่งที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการประมง ซึ่งสามารถเล่าเรื่องราวของเมืองนี้ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1883 สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในลูเดอritz ที่ไม่เหมือนใคร พร้อมด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสวยงามและจินตนาการ รับรองว่าจะทำให้คุณมีความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน!


เคปทาวน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เมืองแม่" เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงที่สุดในแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าอันสำคัญของโลก โดยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ถูกก่อตั้งโดยนักสำรวจชาวดัตช์ ยาน แวน รีบีกในปี 1652 นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลจากหลากหลายวัฒนธรรม เช่น ชาวดัตช์ อังกฤษ และมลายู ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นละแวกที่มีเอกลักษณ์และความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เคปทาวน์ไม่เป็นเพียงท่าเรือที่สำคัญสำหรับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์และผลไม้สด แต่ยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการประมงที่มีเรือประมงขนาดใหญ่จากเอเชียเข้ามาใช้พื้นที่นี้ในการซ่อมบำรุงอีกด้วย สถานที่แห่งนี้ยังโดดเด่นด้วยความงดงามของธรรมชาติ โดยมีภูเขาเทเบิลและหัวสิงโตที่ตระการตา รวมถึงอุทยานธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์เช่น เคิร์สเตนบอส ซึ่งมีพันธุ์พืชพื้นเมืองที่หลากหลาย อากาศในเคปทาวน์มีความแปรปรวน สามารถแปรเปลี่ยนจากแดดจ้าไปยังพายุฝนฟ้าคะนองได้ในเวลาอันสั้น เมืองนี้จึงเป็นที่ตั้งของคำพูดที่ว่า "ในเคปทาวน์คุณสามารถสัมผัสได้ถึงสี่ฤดูในวันเดียว" สัมผัสความเร้าใจนี้ในทริปสุดหรูของคุณที่เคปทาวน์ พร้อมค้นพบประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม!





เจ้าของสวีทคือห้องสวีทที่หรูหราที่สุดในเรือสำราญ ซึ่งมากกว่าคำว่า "การเข้าพัก" เป็นที่พักอาศัยสุดพิเศษบนท้องทะเลข้ามโลก เพลิดเพลินกับความสะดวกสบายทุกอย่างในพื้นที่ส่วนตัวกว่า 114 ตารางเมตร ที่ออกแบบอย่างสวยงาม โดยมีพื้นที่นั่งเล่นขนาด 99 ตารางเมตร และระเบียงขนาด 15 ตารางเมตร ห้องนี้ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกจากกัน โต๊ะรับประทานอาหารที่แยกออก ส้วมแขก ห้องน้ำพร้อมอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ห้องอาบน้ำที่มีฝักบัวและซาวน่าสำหรับผ่อนคลาย อ่างจากุซซี่และเตียงนอนกลางวันในพื้นที่ห้องน้ำ บริการบัตเลอร์ที่คอยดูแล ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินกับมินิบาร์ฟรีและสิทธิพิเศษบริการที่ไม่เหมือนใคร เพิ่มความหรูหราและไม่เหมือนใครให้กับประสบการณ์การเดินทางของท่านอย่างเหนือระดับ



สัมผัสความหรูหราพร้อมพื้นที่ที่กว้างขวางบนท้องทะเลในห้องสวีทแกรนด์เพนท์เฮาส์ ท่านสามารถนั่งพักผ่อนบนเตียงกลางแจ้งพร้อมชมวิวทะเลกว้างขวาง หรือจะผ่อนคลายในอ่างจากุซซี่ส่วนตัวท่ามกลางมหาสมุทร ห้องพักขนาด 78 ตารางเมตร มีระเบียงเพิ่มเติมอีก 10 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่นั่งเล่นและนอนแยกเป็นสัดส่วน รวมทั้งมีโต๊ะรับประทานอาหารแยกต่างหาก ห้องน้ำมีอ่างล้างมือสองอันและฝักบัวสายไอน้ำ พร้อมด้วยอ่างจากุซซี่และเตียงนอนในห้องน้ำเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์, มินิบาร์ฟรี และสิทธิพิเศษในการให้บริการที่เหนือกว่ามาตรฐาน เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการพักผ่อนบนเรือสำราญ

ห้องชุดแกรนด์โอเชียนเป็นโอเอซิสส่วนตัวที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและเป็นที่หลบภัยอันงดงาม ซึ่งจะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ด้วยอ่างอาบน้ำที่มีทิวทัศน์ทะเลกว้างขวาง ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 42 ตารางเมตร และระเบียงขนาด 10 ตารางเมตร ขับเคลื่อนด้วยแสงธรรมชาติ ห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าสองอ่างและห้องน้ำแยกต่างหาก พร้อมฝักบัวที่มีบริการซาวน่าสตีมและอ่างจากุซซี่สุดหรู นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ฟรีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าจดจำอย่างแท้จริง

เพนท์เฮาส์สวีทคือห้องสวีทที่กว้างขวางและสะดวกสบาย ตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้นสูง เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและเพลิดเพลินกับวิวทะเลอันไร้ขอบเขต ห้องมีพื้นที่ใช้สอยถึง 42 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 10 ตารางเมตร ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินและห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าสองอ่าง พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวที่แยกออกจากกัน นอกจากนี้ยังมีสุขภัณฑ์แยกต่างหาก และบริการพนักงาน ส่วนบริการมินิบาร์ฟรีและสิทธิพิเศษในการบริการอีกมากมาย เจ้าของห้องเพนท์เฮาส์สวีทสามารถขอให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้อยู่ wheelchair ได้ โดยห้องน้ำจะมีโถสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำด้วย



อพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน พร้อมพื้นที่กว้างขวางที่ตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวของทั้งครอบครัว เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อนที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย โดยอพาร์ตเมนต์นี้จะมอบพื้นที่การใช้ชีวิตที่แยกเป็นสองส่วนสำหรับพ่อแม่และเด็ก โดยมีประตูกับระเบียงเชื่อมต่อกัน หนึ่งในพื้นที่ดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประกอบด้วย 2 ห้อง กว้าง 20 ตร.ม. และระเบียงขนาด 14 ตร.ม. (สามารถแบ่งเป็น 2× 7 ตร.ม.) มีห้องน้ำแยกต่างหากและมินิบาร์ฟรีเพื่อความสะดวกสบายเพิ่มเติม ในพื้นที่สำหรับเด็กจะมีเตียงเดี่ยวสองเตียง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเตียงแบบพลึกแมนขนาด 80 x 200 ซม. พร้อมอ่างอาบน้ำขนาด 140 x 80 ซม. และเกมที่เหมาะสมกับวัยรวมถึงเครื่องเล่นเกมอีกด้วย สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ตอบสนองทุกความต้องการของครอบครัวในอพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัว ที่นี่คือการผสมผสานความสะดวกสบายและความสนุกสนานอย่างลงตัวในทริปสุดพิเศษของคุณ


หากคุณต้องการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยวิวอันยอดเยี่ยม โอเชียนสวีท จะทำให้คุณมีช่วงเวลาที่น่าประทับใจ ห้องพักขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตรให้คุณชมทิวทัศน์ทะเลได้อย่างเต็มที่ ห้องน้ำที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวแยก รวมถึงสุขาแยกอีกต่างหาก ห้องนี้ยังมาพร้อมกับมินิบาร์ฟรี ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณสุดแสนจะพิเศษและน่าจดจำอย่างแท้จริง



ห้องสวีทระเบียงนี้มอบพื้นที่กว้างขวางเพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างสบายในระหว่างการเดินทาง และมีวิวที่งดงามตลอดการล่องเรือ ห้องนั่งเล่นมีขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตร ทำให้คุณมีบรรยากาศที่รื่นรมย์และให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ภายในห้องยังมีตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in ที่จะช่วยให้คุณจัดเก็บสัมภาระได้อย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นพิเศษพร้อมเก้าอี้ยาวเพื่อการผ่อนคลายอย่างเหนือระดับ ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างอาบน้ำและฝักบัวที่แยกต่างหากเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับมินิบาร์ฟรีที่พร้อมเสิร์ฟคุณตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทระเบียงจึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างความทรงจำที่แสนพิเศษในการล่องเรือครั้งนี้