
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เอ็มเอส ยูโรป้า 2
Hapag-Lloyd Cruises


ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ เป็นท่าเรือที่สำคัญในเกาะเทเนริเฟ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะคานารี ประเทศสเปน สถานที่นี้มีเสน่ห์โดดเด่นด้วยแสงอาทิตย์ที่สดใสตลอดทั้งปี และมีภูเขาเทอิดที่เป็นไฮไลต์ของเกาะ ตั้งอยู่ใจกลางเกาะ แวดล้อมด้วยหุบเขาเขียวขจีที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซานตาครูซซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็ก ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นเมืองที่ทันสมัย โดยมีสถาปัตยกรรมที่งดงามจากศตวรรษที่ 16 ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถัน ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ซานตาครูซ ปาเลมตัม ที่มีพื้นที่กว้างขวางถึง 29 เอเคอร์ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นปาล์มหลากหลายสายพันธุ์ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หากคุณมาที่นี่ อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศของเมือง และชื่นชมความงามของภูเขาเทอิดซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาด ด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำและความสวยงามแห่งธรรมชาติ ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ จึงเป็นปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มองหาการผจญภัยในสเปน

ซานเซบาสเตียน เดอ ลา กอเมรา (San Sebastián de La Gomera) เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมในสเปน โดดเด่นด้วยท่าเรือที่มีความงามและเงียบสงบ ท่าเรือแห่งนี้เป็นจุดแวะพักสำหรับเรือสำราญที่นำผู้เดินทางมาสัมผัสกับเกาะลำดับที่สองของหมู่เกาะคะแนเรีย (Canary Islands) ซึ่งโด่งดังในเรื่องของภูมิประเทศที่หลากหลายและอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี เมื่อเดินทางมายังซานเซบาสเตียน เดอ ลา กอเมรา คุณสามารถเยี่ยมชมเมืองประวัติศาสตร์ที่มีอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล รวมถึงโบสถ์ซาน เซบาสเตียน ที่มีความสวยงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อิ่มเอมกับทัศนียภาพของภูเขาและหุบเขาที่เฉียงไปตามชายหาด หรือจะล่องเรือไปตามอ่าวเพื่อชมความงามของน้ำทะเลใสสะอาด นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวต่างๆ เช่น การเดินป่าที่อุทยานแห่งชาติโบนัส และการสำรวจสวนสาธารณะแห่งชาติที่สวยงาม ซึ่งเต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ หากคุณต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายและสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ ซานเซบาสเตียน เดอ ลา กอเมรา จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน.

ซานตาครูซ เด ลา ปาลมา หรือที่รู้จักกันในนาม "ลาอิสลาบอนิตา" เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ที่สุดในสเปน เกาะลา ปาลมามีธรรมชาติที่งดงามและเต็มไปด้วยป่าเขียวขจี รวมถึงป่าสนและไม้ลอเรลที่ตัดกับความยิ่งใหญ่ของอุโมงค์ภูเขาไฟตาบูเรียนเต ซึ่งเป็นจุดเด่นของเกาะนี้ ซานตาครูซ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะ เป็นสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมความสวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในเขตเมืองเก่าหรือการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ที่นี่มีสินค้าให้เลือกมากมาย ตั้งแต่เครื่องประดับเงินที่มีราคาย่อมเยา ไปจนถึงสินค้าหนังและสิ่งทอที่ได้รับการปักเย็บอย่างประณีต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมู่เกาะคานารี อย่าลืมไปเยี่ยมชมโบสถ์แม่พระซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เพื่อเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวให้หลากหลายยิ่งขึ้น หากคุณมองหาความสุขและความทรงจำที่น่าประทับใจ ซานตาครูซ เด ลา ปาลมาจะเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางของคุณ


พอร์ติมาน (Portimão) เมืองท่าสำคัญของโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลที่สวยงาม ได้รับการลงทุนอย่างมากในการพัฒนาเป็นท่าเรือสำราญที่น่าสนใจพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการประมงที่สำคัญแล้ว พอร์ติมานยังมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ด้วยถนนช้อปปิ้งที่หลากหลายและบรรยากาศที่กว้างขวางถึงจะมีธุรกิจบางแห่งต้องปิดตัวลงไป แต่ความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้ยังคงน่าดึงดูดอยู่ แนะนำให้คุณใช้เวลาสักครู่ในการเดินเล่นที่ริมน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสะพานเก่าและสะพานรถไฟ เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจการล่องเรือชมชายฝั่งที่งดงาม และอย่าลืมแวะจิบกาแฟหรือทานอาหารกลางแจ้งที่คาเฟ่ Doca da Sardinha ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์อันยอดเยี่ยมของการรับประทานปลาซาร์ดีนย่างบนเตา พร้อมกับขนมปังสดและไวน์ท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณอิ่มท้อง แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมอีกด้วย พอร์ติมานจึงไม่ใช่เพียงแค่จุดแวะพักระหว่างการเดินทาง แต่คือแรงบันดาลใจใหม่ในการสำรวจวัฒนธรรม อาหาร และทิวทัศน์ที่สืบทอดต่อกันมาในโปรตุเกส.

เมือง Cádiz ตั้งอยู่บนคาบสมุทรที่สวยงามในแคว้นอันดาลูเซีย คือ หนึ่งในท่าเรือที่มีความสำคัญและมีเสน่ห์ที่สุดในสเปน ด้วยประวัติศาสตร์กว่า 3,000 ปี ทำให้ Cádiz เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ด้วยบ้านสีขาวสวยงามและระเบียงที่ตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสี สัมผัสบรรยากาศสบายๆ ผ่านการเดินเล่นที่ Plaza de España ซึ่งมีอนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงรัฐธรรมนูญสเปนฉบับแรกที่ถูกลงนามในปี 1812 สองข้างทางเดินริมทะเลที่สวยงามเชื่อมโยงกันดึงดูดผู้มาเยือนให้เพลิดเพลินไปกับวิวทะเลแอตแลนติกอันกว้างใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีสวนสาธารณะ Parque Genoves ที่ตั้งอยู่ใกล้หาดซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนที่โดดเด่น มีโรงละครกลางแจ้งและสวนแนวปาล์ม ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันสบายๆ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ไม่ควรพลาดคือมหาวิหารสไตล์นีโอคลาสสิกที่มีโดมทองอร่าม สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียง แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่รอให้คุณสัมผัสในทุกๆ หัวใจของการเดินทางในสเปน

เมื่อคุณขึ้นเรือเข้ามาสู่ท่าเรือมาลาก้า คุณจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งที่มีชื่อเสียงแห่งคอสตา เดล โซล (Costa del Sol) เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตั้งอยู่ในภูมิภาคลาซาร์กวา (La Axarquía) ที่มีกระท่อมประมง หากพูดถึงความเป็นแบบดั้งเดิมของสเปน นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านและทุ่งนา ที่รอให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศชวนฝัน มาลาก้ายังเป็นศูนย์กลางการเข้าถึงเมืองต่าง ๆ ของอันดาลูเซียที่มีเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น กรานาดาและเซบีย่า ในขณะที่ภูเขาเพนิเบติกา (Penibética) เป็นฉากหลังที่งดงาม ปกป้องเมืองจากลมหนาวจากทางเหนือ ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสถานที่หลบภัยที่มีเสน่ห์และรักษาความอบอุ่นได้ตลอดทั้งปี มาลาก้าไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่หยุดพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในสเปน ทั้งการชิมอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อย และการสำรวจความสวยงามของธรรมชาติที่รอให้คุณได้ค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำภายใต้แสงแดดของคอสตา เดล โซล!

เมื่อคุณขึ้นเรือเข้ามาสู่ท่าเรือมาลาก้า คุณจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งที่มีชื่อเสียงแห่งคอสตา เดล โซล (Costa del Sol) เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตั้งอยู่ในภูมิภาคลาซาร์กวา (La Axarquía) ที่มีกระท่อมประมง หากพูดถึงความเป็นแบบดั้งเดิมของสเปน นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านและทุ่งนา ที่รอให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศชวนฝัน มาลาก้ายังเป็นศูนย์กลางการเข้าถึงเมืองต่าง ๆ ของอันดาลูเซียที่มีเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น กรานาดาและเซบีย่า ในขณะที่ภูเขาเพนิเบติกา (Penibética) เป็นฉากหลังที่งดงาม ปกป้องเมืองจากลมหนาวจากทางเหนือ ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสถานที่หลบภัยที่มีเสน่ห์และรักษาความอบอุ่นได้ตลอดทั้งปี มาลาก้าไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่หยุดพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในสเปน ทั้งการชิมอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อย และการสำรวจความสวยงามของธรรมชาติที่รอให้คุณได้ค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำภายใต้แสงแดดของคอสตา เดล โซล!

อิบิซา (Ibiza) เกาะสุดหรูแห่งประเทศสเปน โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่ผสมผสานทั้งความหรูหราของโลกสมัยใหม่กับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า อกเหนือท่าเรือคือเมือง Dalt Vila ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 1999 แวดล้อมไปด้วยกำแพงหินขนาดใหญ่ที่บ่งบอกถึงอารยธรรมโบราณ ภายในยังมีวิหารโกธิคที่สวยงามสะดุดตา การเดินเล่นใน Sa Penya คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ถนนหินปูนที่แสดงถึงความมีชีวิตชีวาของเมือง เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งสินค้าแนวสร้างสรรค์ ลิ้มลองขนมหวานท้องถิ่น และค้นพบรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าคุณจะเลือกนั่งชิลล์ในคาเฟ่ริมทะเล หรือเพลิดเพลินกับคืนเร้าใจในคลับชื่อดัง ความหลากหลายนี้สร้างเสน่ห์ให้กับอิบิซา การเยือนอิบิซาไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสกับความบันเทิง นอกจากนี้ยังเป็นการเดินทางสู่อดีตที่ทำให้คุณค้นพบความงามและวัฒนธรรมของเกาะแห่งนี้ในทุกมุมมอง เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในหัวใจของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน!

ปัลม่า เดอ มายอร์กา เมืองหลวงที่มีเสน่ห์ของเกาะมายอร์กาในสเปน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมื่อเดินทางมาที่ท่าเรือ ปัลม่า คุณจะได้พบกับคาเฟ่และร้านค้าแนวทันสมัยที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง การเยี่ยมชมโบสถ์ La Seu ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรมโกธิคที่ล้ำค่าจริงๆ ไม่ไกลจากนั้น สวนสาธารณะ Parc de la Mar มอบบรรยากาศผ่อนคลาย ท่ามกลางวิวทะเลอันสวยงาม คุณสามารถเดินเล่นไปตามแนวกำแพงเมืองเก่า Ses Voltes ที่ไปตามรอบของโบสถ์พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ฉายแสงสะท้อนบนหน้าผาอันงดงาม สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ให้แวะชม Museu d'Es Baluard ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ผสมผสานระหว่างศิลปะและวิวทะเลอันน่าหลงใหล เมืองปัลม่าไม่เพียงแค่เป็นที่จอดเรือสำราญ แต่อย่างไรยังเป็นเวทีที่ให้คุณได้ค้นพบความงามและประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางที่ไม่มีวันลืมเลือน สัมผัสชีวิตในสไตล์ที่สุดขีด ณ ปัลม่า เดอ มายอร์กา และให้ความฝันของคุณเป็นจริงในดินแดนแห่งนี้!

อัลเกโร (Alghero) เมืองชายทะเลอันมีเสน่ห์ในอิตาลี ตั้งอยู่บนชายฝั่งฝั่งตะวันตกของเกาะซาร์ดีเนีย เมืองนี้มีประชากรประมาณ 45,000 คน เต็มไปด้วยบรรยากาศที่โดดเด่นจากวัฒนธรรมสเปน จึงถูกเรียกว่า "บาร์เซโลเนตต้า" (Barcelonetta) หรือ "บาร์เซโลน่าตัวน้อย" เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นโดยชาวอารากอนและชาวคาตาลันในศตวรรษที่ 14 พร้อมกำแพงและหอคอยที่แข็งแกร่ง ปกคลุมด้วยถนนแคบ ๆ ที่มีวิวบ้านสีขาวสวยงาม อัลเกโรยังเป็นที่รู้จักจากงานประดิษฐ์เหล็กดัดที่งดงาม ซึ่งประดับอยู่บนระเบียงและหน้าต่างของบ้านเมือง ท่านจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและภาษาอัลเกรีเซ ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นที่พูดกันในบริเวณนี้ ในการเดินเล่นท่ามกลางตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ คุณจะพบโบสถ์อัลเกโรและปาลาซโซดัลบิสที่สะท้อนถึงความงดงามทางสถาปัตยกรรม นอกจากนี้ เมืองแห่งนี้ยังมีชื่อเสียงด้านอาหารที่อร่อยในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งอัลเกโรไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือที่น่ารักเท่านั้น แต่ยังมอบประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความทรงจำอันล้ำค่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาความแปลกใหม่และการผจญภัยในโลกของวัฒนธรรมที่แตกต่าง ต้องไม่พลาดมาเยือนที่นี่!

ซาร์ดิเนีย (Sardinia) คือเกาะที่สวยงามและมีเสน่ห์ในประเทศอิตาลี ที่นี่มีท่าเรือดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยทิวทัศน์ที่งดงาม ผืนทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลใสสว่าง ซึ่งทำให้ซาร์ดิเนียกลายเป็นจุดหมายอันหรูหราสำหรับการพักผ่อนบนเรือสำราญ เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่ท่าเรือในซาร์ดิเนีย ผู้โดยสารสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่น่าทึ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในอดีตอันมีเสน่ห์ของเมืองคาลยารี (Cagliari) ที่มีพิพิธภัณฑ์และโบสถ์เก่าแก่ หรือการว่ายน้ำในอ่าวโคโรเนได้ซึ่งมีความงดงามจนได้รับฉายาว่าเป็น "จิวเวลแห่งเมดิเตอร์เรเนียน" ผู้ชื่นชอบการผจญภัยไม่ควรพลาดการสำรวจอุทยานแห่งชาติ "Maddalena Archipelago" ซึ่งเต็มไปด้วยเกาะและชายหาดที่เงียบสงบ สายอาหารห้ามพลาดชิมความอร่อยของอาหารถิ่น ที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบสดใหม่และกลิ่นหอมของสมุนไพรท้องถิ่น ซาร์ดิเนียไม่ใช่เพียงท่าเรือที่จอดเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความงดงามแห่งธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ รอให้คุณมาเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่นี่

ซาร์ดิเนีย (Sardinia) คือเกาะที่สวยงามและมีเสน่ห์ในประเทศอิตาลี ที่นี่มีท่าเรือดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยทิวทัศน์ที่งดงาม ผืนทรายขาวละเอียด และน้ำทะเลใสสว่าง ซึ่งทำให้ซาร์ดิเนียกลายเป็นจุดหมายอันหรูหราสำหรับการพักผ่อนบนเรือสำราญ เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่ท่าเรือในซาร์ดิเนีย ผู้โดยสารสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่น่าทึ่งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นในอดีตอันมีเสน่ห์ของเมืองคาลยารี (Cagliari) ที่มีพิพิธภัณฑ์และโบสถ์เก่าแก่ หรือการว่ายน้ำในอ่าวโคโรเนได้ซึ่งมีความงดงามจนได้รับฉายาว่าเป็น "จิวเวลแห่งเมดิเตอร์เรเนียน" ผู้ชื่นชอบการผจญภัยไม่ควรพลาดการสำรวจอุทยานแห่งชาติ "Maddalena Archipelago" ซึ่งเต็มไปด้วยเกาะและชายหาดที่เงียบสงบ สายอาหารห้ามพลาดชิมความอร่อยของอาหารถิ่น ที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบสดใหม่และกลิ่นหอมของสมุนไพรท้องถิ่น ซาร์ดิเนียไม่ใช่เพียงท่าเรือที่จอดเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และความงดงามแห่งธรรมชาติที่ซ่อนอยู่ รอให้คุณมาเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่นี่

บอนไฟซิโอ (Bonifacio) ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะคอร์ซิกา เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะนี้ ไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหน คุณจะเห็นความสวยงามของทะเลสีฟ้าครามและหาดทรายสีขาวนวลที่สะท้อนแสงแดด สถานที่นี้นอกจากจะมีทิวทัศน์ที่น่าหลงใหลแล้ว ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองเก่าที่มีป้อมปราการซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อคุณเข้ามาสัมผัสเมืองบอนไฟซิโอ คุณจะได้สำรวจถนนแคบ ๆ ที่มีเสน่ห์ บ้านเรือนเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาที่สูงชัน และเพลิดเพลินกับร้านคาเฟ่และร้านค้าเสน่ห์ที่เสิร์ฟความอร่อยของอาหารท้องถิ่น ให้คุณได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของชาวคอร์ซิกาอย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่หลงใหลในกิจกรรมกลางแจ้ง บอนไฟซิโอเป็นสวรรค์ที่เหมาะแก่การปั่นจักรยาน เที่ยวน้ำ หรือแม้แต่การล่องเรือไปชมเกาะเล็กๆ ที่งดงามรอบๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำไม่รู้ลืมให้กับทุกคนที่มาเยือน แน่นอนว่า บอนไฟซิโอ คือสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับการเดินทางครั้งสำคัญของคุณในคอร์ซิกา!

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง





เจ้าของสวีทคือห้องสวีทที่หรูหราที่สุดในเรือสำราญ ซึ่งมากกว่าคำว่า "การเข้าพัก" เป็นที่พักอาศัยสุดพิเศษบนท้องทะเลข้ามโลก เพลิดเพลินกับความสะดวกสบายทุกอย่างในพื้นที่ส่วนตัวกว่า 114 ตารางเมตร ที่ออกแบบอย่างสวยงาม โดยมีพื้นที่นั่งเล่นขนาด 99 ตารางเมตร และระเบียงขนาด 15 ตารางเมตร ห้องนี้ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกจากกัน โต๊ะรับประทานอาหารที่แยกออก ส้วมแขก ห้องน้ำพร้อมอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ห้องอาบน้ำที่มีฝักบัวและซาวน่าสำหรับผ่อนคลาย อ่างจากุซซี่และเตียงนอนกลางวันในพื้นที่ห้องน้ำ บริการบัตเลอร์ที่คอยดูแล ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินกับมินิบาร์ฟรีและสิทธิพิเศษบริการที่ไม่เหมือนใคร เพิ่มความหรูหราและไม่เหมือนใครให้กับประสบการณ์การเดินทางของท่านอย่างเหนือระดับ



สัมผัสความหรูหราพร้อมพื้นที่ที่กว้างขวางบนท้องทะเลในห้องสวีทแกรนด์เพนท์เฮาส์ ท่านสามารถนั่งพักผ่อนบนเตียงกลางแจ้งพร้อมชมวิวทะเลกว้างขวาง หรือจะผ่อนคลายในอ่างจากุซซี่ส่วนตัวท่ามกลางมหาสมุทร ห้องพักขนาด 78 ตารางเมตร มีระเบียงเพิ่มเติมอีก 10 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่นั่งเล่นและนอนแยกเป็นสัดส่วน รวมทั้งมีโต๊ะรับประทานอาหารแยกต่างหาก ห้องน้ำมีอ่างล้างมือสองอันและฝักบัวสายไอน้ำ พร้อมด้วยอ่างจากุซซี่และเตียงนอนในห้องน้ำเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์, มินิบาร์ฟรี และสิทธิพิเศษในการให้บริการที่เหนือกว่ามาตรฐาน เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการพักผ่อนบนเรือสำราญ

ห้องชุดแกรนด์โอเชียนเป็นโอเอซิสส่วนตัวที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและเป็นที่หลบภัยอันงดงาม ซึ่งจะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ด้วยอ่างอาบน้ำที่มีทิวทัศน์ทะเลกว้างขวาง ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 42 ตารางเมตร และระเบียงขนาด 10 ตารางเมตร ขับเคลื่อนด้วยแสงธรรมชาติ ห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าสองอ่างและห้องน้ำแยกต่างหาก พร้อมฝักบัวที่มีบริการซาวน่าสตีมและอ่างจากุซซี่สุดหรู นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ฟรีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าจดจำอย่างแท้จริง

เพนท์เฮาส์สวีทคือห้องสวีทที่กว้างขวางและสะดวกสบาย ตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้นสูง เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและเพลิดเพลินกับวิวทะเลอันไร้ขอบเขต ห้องมีพื้นที่ใช้สอยถึง 42 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 10 ตารางเมตร ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินและห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าสองอ่าง พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวที่แยกออกจากกัน นอกจากนี้ยังมีสุขภัณฑ์แยกต่างหาก และบริการพนักงาน ส่วนบริการมินิบาร์ฟรีและสิทธิพิเศษในการบริการอีกมากมาย เจ้าของห้องเพนท์เฮาส์สวีทสามารถขอให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้อยู่ wheelchair ได้ โดยห้องน้ำจะมีโถสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำด้วย



อพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน พร้อมพื้นที่กว้างขวางที่ตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวของทั้งครอบครัว เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อนที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย โดยอพาร์ตเมนต์นี้จะมอบพื้นที่การใช้ชีวิตที่แยกเป็นสองส่วนสำหรับพ่อแม่และเด็ก โดยมีประตูกับระเบียงเชื่อมต่อกัน หนึ่งในพื้นที่ดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประกอบด้วย 2 ห้อง กว้าง 20 ตร.ม. และระเบียงขนาด 14 ตร.ม. (สามารถแบ่งเป็น 2× 7 ตร.ม.) มีห้องน้ำแยกต่างหากและมินิบาร์ฟรีเพื่อความสะดวกสบายเพิ่มเติม ในพื้นที่สำหรับเด็กจะมีเตียงเดี่ยวสองเตียง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเตียงแบบพลึกแมนขนาด 80 x 200 ซม. พร้อมอ่างอาบน้ำขนาด 140 x 80 ซม. และเกมที่เหมาะสมกับวัยรวมถึงเครื่องเล่นเกมอีกด้วย สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ตอบสนองทุกความต้องการของครอบครัวในอพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัว ที่นี่คือการผสมผสานความสะดวกสบายและความสนุกสนานอย่างลงตัวในทริปสุดพิเศษของคุณ


หากคุณต้องการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยวิวอันยอดเยี่ยม โอเชียนสวีท จะทำให้คุณมีช่วงเวลาที่น่าประทับใจ ห้องพักขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตรให้คุณชมทิวทัศน์ทะเลได้อย่างเต็มที่ ห้องน้ำที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวแยก รวมถึงสุขาแยกอีกต่างหาก ห้องนี้ยังมาพร้อมกับมินิบาร์ฟรี ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณสุดแสนจะพิเศษและน่าจดจำอย่างแท้จริง



ห้องสวีทระเบียงนี้มอบพื้นที่กว้างขวางเพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างสบายในระหว่างการเดินทาง และมีวิวที่งดงามตลอดการล่องเรือ ห้องนั่งเล่นมีขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตร ทำให้คุณมีบรรยากาศที่รื่นรมย์และให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ภายในห้องยังมีตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in ที่จะช่วยให้คุณจัดเก็บสัมภาระได้อย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นพิเศษพร้อมเก้าอี้ยาวเพื่อการผ่อนคลายอย่างเหนือระดับ ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างอาบน้ำและฝักบัวที่แยกต่างหากเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับมินิบาร์ฟรีที่พร้อมเสิร์ฟคุณตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทระเบียงจึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างความทรงจำที่แสนพิเศษในการล่องเรือครั้งนี้