
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

เอ็มเอส ยูโรป้า 2
Hapag-Lloyd Cruises


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!

เกาะบิมินีในหมู่เกาะบาฮามาส เป็นจุดหมายปลายทางที่กำลังรอให้คุณค้นพบความงดงามที่แท้จริง ด้วยเกาะหลักสองเกาะ คือ เกาะนอร์ธบิมินี และเกาะเซาธ์บิมินี รวมถึงเกาะน้อยใหญ่อีกนับไม่ถ้วน ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งฟลอริดาเพียง 50 ไมล์ ทำให้บิมินีเป็นเกาะบาฮามาสที่ใกล้กับสหรัฐอเมริกาที่สุดและมีบรรยากาศที่อเมริกันอย่างชัดเจน ที่นี่ไม่เพียงเป็นจุดจอดเรือสำราญเท่านั้น แต่ยังเป็นสวรรค์ที่หลบซ่อนสำหรับผู้ที่หลงรักธรรมชาติ ทSand สวยและทะเลสีฟ้าครามที่ท้าให้คุณลิ้มลอง ทำกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เช่น ดำน้ำตื้น และพายเรือคายัก ท่านยังสามารถผ่อนคลายที่ชายหาดบริสุทธิ์ ประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดคือการสำรวจ World’s Depths หรือการเดินทางไปยังกลางคืนที่มีแสงดาว บิมินีไม่ใช่เพียงแค่เกาะสำหรับการพักผ่อน แต่ยังมาพร้อมกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย และเสน่ห์ของชุมชนท้องถิ่นที่เป็นมิตรและอบอุ่น พร้อมมอบมุมมองใหม่ ๆ ให้คุณ จงมาร่วมเติมเต็มประสบการณ์ในสวรรค์บนดินที่นี่ และปล่อยให้บิมินีเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องเล่าที่ไม่มีวันลืมได้!


ท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจของเกาะนอร์แมนในหมู่เกาะบริติชเวอร์จินนี้ เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกคนที่แวะมาเยือน นับเป็นจุดแวะพักสำคัญสำหรับเรือสำราญ ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของท้องทะเลแคริบเบียนอย่างแท้จริง การเดินทางมายังเกาะนอร์แมนจะทำให้คุณได้เห็นทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าครามใสสะอาด ที่นี่คือสวรรค์ของนักดำน้ำ คุณสามารถสัมผัสกับโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยปะการังและฝูงปลาแบบที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชม "The Willy T," ร้านอาหารบนเรือที่มีชื่อเสียง อาหารทะเลสดใหม่และบรรยากาศสุดสนุกจะทำให้คุณประทับใจ นอกจากนี้ยังมีโอกาสไปสำรวจ "The Caves" จุดดำน้ำที่มีถ้ำลับให้คุณได้ค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ สัมผัสกับกลิ่นอายของเกาะนอร์แมน เป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มความฝันในการเดินทาง ด้วยความงามและเสน่ห์ที่หลากหลาย เชื่อว่าคุณจะต้องหลงรักและอยากกลับมาเยือนอีกครั้งแน่นอน

เมื่อคุณมาถึงท่าเรือเซนต์จอห์นส์ในแอนติกาและบาร์บูดา คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามที่หลากหลายของเกาะนี้ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องชายหาดที่สวยงามมากถึง 365 หาด ซึ่งเพียงพอสำหรับทุกวันของปี นอกจากนั้น ยังมีแนวปะการังที่สวยงามและสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย เซนต์จอห์นส์ไม่เพียงแต่เป็นเมืองหลวงทางการของเกาะที่ตั้งอยู่ตั้งแต่ปี 1632 แต่ยังคงรักษาภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมแบบเวสท์อินดีสเอาไว้ อาทิ สถาปัตยกรรมแบบบ้านขนมปังขิงและบรรยากาศการเฉลิมฉลองในเทศกาลคาลิปโซ คุณสามารถเดินเล่นในย่านเรดคลิฟที่เต็มไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่ และแวะชมสินค้าท้องถิ่นที่ Heritage Quay ซึ่งมีร้านค้าหัตถกรรมหลากหลาย เซนต์จอห์นส์ยังมีสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่สวยงาม โดยเฉพาะวิหารที่มีสองยอด ซึ่งได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1845 และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ดีที่สุดในแคริบเบียน ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินทางโดยรถบัสเล็กที่มีคนขับเป็นไกด์ที่จะคอยให้ความรู้และข้อมูลส่วนต่างๆ ของเมือง ทำให้การสำรวจเซนต์จอห์นส์เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและประทับใจไม่รู้ลืม

มาร์ตินีก ไอแลนด์ที่งดงามที่สุดในกลุ่มเกาะลมพัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากปารีสถึง 4,261 ไมล์ แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมฝรั่งเศสปนกับเสน่ห์แบบแคริบเบียนอย่างลงตัว เมืองฟอร์ต-เดอ-ฟรองซ์ ซึ่งเป็นท่าเรือหลักของเกาะนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสดชื่นของธรรมชาติที่เขียวขจี และอาหารที่หลากหลาย รสชาติจะมีการผสมผสานระหว่างฝรั่งเศสและเครโอเล่ ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของมาร์ตินีก ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงาม คุณจะพบมุงเดียวกันที่มีผลไม้หลากหลาย ตั้งแต่ทุเรียน มะละกอ ไปจนถึงเชอร์รี่ในโทนสีแดงสด หากคุณเป็นนักเดินป่า ทิวเขาและป่าสีเขียวชอุ่มในภาคเหนือจะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้น ในขณะที่นักดำน้ำจะต้องหลงรักโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจที่น่าสนใจไปยังเซนต์-ปิแอร์ เมืองที่ประสบภัยจากการปะทุของภูเขาไฟมอนต์เปเล่ในปี 1902 อีกด้วย มาร์ตินีกเตรียมพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล รอให้คุณมาผจญภัยในวันหยุดที่แสนหรูหราและน่าจดจำ!

มาริโกทเบย์ (Marigot Bay) แห่งประเทศเซนต์ลูเซีย ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับความเป็นสวรรค์แห่งการพักผ่อนริมทะเล เป็นท่าเรือที่ได้รับการขนานนามว่า หนึ่งในท่าเรือที่สวยที่สุดในโลก ด้วยทิวทัศน์งดงามของภูเขาและน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ส่องประกายระยิบระยับ การเดินทางมาที่นี่ คือการเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับหัวใจและจิตวิญญาณ เมื่อเรือสำราญของคุณจอดเทียบท่า คุณจะได้รับการต้อนรับด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัว กลิ่นหอมหวานของธรรมชาติจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เข้าสู่โลกแห่งความฝัน ลองเดินเล่นบริเวณชายหาดอันสวยงาม หรือร่วมกิจกรรมทางน้ำต่าง ๆ เช่น การดำน้ำตื้น หรือพายเรือคายัคในอ่าวที่ใสสะอาด นอกจากความงามตามธรรมชาติแล้ว มาริโกทเบย์ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหารชั้นเยี่ยม ที่ให้บริการอาหารท้องถิ่นและนานาชาติที่มีคุณภาพ คุณสามารถลิ้มลองรสชาติอาหารเลิศรสในบรรยากาศที่เงียบสงบ พร้อมชมวิวอันงดงามของทะเล อย่าลืมสำรวจพื้นที่รอบๆ ทั้งน้ำตกและสวนพฤกษศาสตร์ ที่พร้อมจะพาคุณไปสัมผัสกับความงามของธรรมชาติ ส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเป็นที่จดจำตลอดไป มาริโกทเบย์ รอคอยคุณอยู่ อย่าพลาดที่จะมาเยือน!

เกาะเมย์รู (Mayreau) เป็นเกาะที่มีขนาดเล็กเพียง 1.5 ตารางไมล์ (3.9 ตารางกิโลเมตร) และเป็นเกาะที่มีประชากรอยู่มากที่สุดในหมู่เกาะเกรเนดีนส์ เกาะนี้ตั้งอยู่ในประเทศเซนต์ วินเซนต์ซึ่งตั้งอยู่ในทะเล Caribbean ที่สวยงาม โดยมีสองเกาะที่มีชื่อเสียงที่สุดในกลุ่มเกรเนดีนส์คือ มัสติค (Mustique) และเบคี (Bequia) ผู้มาเยือนส่วนใหญ่จะเดินทางมายังเกาะเมย์รูด้วยเรือสำราญ หรือเรือเฟอร์รี่ และยังมีบริการเรือยอชท์ให้เช่า เกาะนี้ปราศจากถนนหลักและสนามบิน มีเพียงหมู่บ้านชื่อว่า "หมู่บ้านที่ไม่มีชื่อ" แต่สิ่งนี้กลับทำให้บรรยากาศของเกาะนี้มีความสงบและเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคืออ่าวซาลีน (Saline Bay) ซึ่งมีชายหาดกว้างขวางที่สวยงาม และผู้ค้าในท้องถิ่นที่ขายเสื้อยืดและงานหัตถกรรมของท้องถิ่น อีกทั้งการเดินขึ้นไปยังหมู่บ้านบนเขาจะมอบทัศนียภาพอันงดงามที่สามารถมองเห็นเกาะเมย์รู ตูบาโกเคย์ (Tobago Cays) และเกาะแครีอากู (Carriacou) ด้วยความงดงามของทิวทัศน์และกิจกรรมดำน้ำตื้นที่นี่ เมย์รูจึงเป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดในทริปนี้

เกรเนดา สวรรค์แห่งทะเลแคริบเบียน ที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศ เช่น ลูกจันทน์เทศ อบเชย และโกโก้ เกาะขนาดเล็กแห่งนี้ไม่เพียงแต่สวยงามด้วยชายหาดทรายขาวและอ่าวที่เงียบสงบ แต่ยังมีเสน่ห์ในแง่ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น สเตนจอร์จส์ เมืองหลวงที่มีภาพลักษณ์งดงามที่สุดในแคริบเบียน สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของเมืองย้อนยุค แม้ในยุคที่เปลี่ยนไป ถนนหนทางแคบทอดยาวขึ้นเขา มีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อ สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เรือสำราญส่วนใหญ่จะมาจอดที่ท่าเรือสเตนจอร์จส์ ฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นอ่าวรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนสีพาสเทลและคลื่นน้ำใสสะอาด ท่าเรือนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น อนุสาวรีย์คริสต์ผู้ลึกซึ้ง ณ สถานที่พักผ่อนกลางอ่าว และอุโมงค์เซนดอลล์ ที่สร้างขึ้นในปี 1895 ที่เชื่อมต่อระหว่างทั้งสองฝั่งของเมือง เกรเนดาเป็นที่รู้จักในนาม 'เกาะแห่งเครื่องเทศ' นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความอบอุ่นจากชาวเกรเนดาที่พร้อมต้อนรับ พร้อมด้วยร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ เช่น ปลาทอดและเครื่องเทศสด ๆ ที่จะทำให้เดินทางของคุณน่าจดจำตลอดไป


ในใจกลางแห่งทะเลแคริบเบียน มีเกาะที่ซึ่งความสวยงามธรรมชาติและวัฒนธรรมผสมผสานอย่างลงตัว นั่นคือ บอนแนร์ เกาะเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณท่าเรือคราเลนไดค์ (Kralendijk) ที่เป็นทั้งประตูสู่การผจญภัยใต้ท้องทะเลและแหล่งวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าค้นพบ เมื่อเรือสำราญของคุณลอยลำถึงท่าเรือคราเลนไดค์ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร เช่นเดียวกับบ้านเรือนที่ถูกทาสีสดใสตามแบบสถาปัตยกรรมดัทช์ เดินเล่นบนถนนที่มีเสน่ห์พร้อมสัมผัสกลิ่นไอของทะเล คุณสามารถเลือกที่จะสำรวจดำน้ำ แหวกว่ายในน้ำใส และชมความงามของแนวปะการังที่โด่งดัง สามารถพบกับสัตว์ทะเลนานาชนิดที่รอคอยให้คุณได้สัมผัส นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและร้านอาหารบรรยากาศดีที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอร่อยล้ำ ชมงานศิลปะจากศิลปินท้องถิ่น และรับรู้วัฒนธรรมที่หลากหลายของเกาะบอนแนร์ ที่นี่ไม่ใช่เพียงท่าเรือ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความทรงจำและการเดินทางที่ไม่รู้ลืม ล่องเรือมาแล้ว คุณจะรู้สึกว่านี่คือสวรรค์สำหรับผู้ที่รักในการเดินทาง.

กรุงโอนานจ์สตัด เมืองหลวงของอารูบา เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลและสะดวกสบายสำหรับการสำรวจแบบเดินเท้า สายเดินทางที่มีต้นปาล์มเรียงรายพาคุณผ่านอาคารที่มีสีพาสเทลซึ่งผสมผสานกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมดัตช์และสเปน จัดขึ้นในรูปแบบที่น่าชื่นชม คุณจะได้พบกับห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยสินค้าหรูหราและแฟชั่นออกแบบ รวมถึง Renaissance Mall ที่เป็นจุดเด่น อนาคตของเขตเมืองได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะถนน Main Street (Caya G. F. Betico Croes) ที่ได้รับการปรับปรุง ให้คุณเพลิดเพลินไปกับร้านบูติกและร้านอาหารใหม่ๆ ตรงข้ามกับร้านค้าเก่าแก่ที่ดำเนินกิจการมายาวนาน นอกจากนี้ Linear Park ยังเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของโอนานจ์สตัด ที่จัดแสดงงานจากผู้ค้าและศิลปินท้องถิ่น พร้อมกิจกรรมสนุกๆ ล้อมรอบทางเดินริมน้ำที่คาดว่าจะเชื่อมต่อไปยัง Palm Beach กลายเป็นทางเดินที่ยาวที่สุดในแคริบเบียน การเดินทางในเมืองนี้จะสะดวกยิ่งขึ้นด้วย Eco Trolley แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้การสำรวจมุมมองที่งดงามของอารูบาเต็มไปด้วยความสะดวกสบายและความสนุกสนาน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจให้คุณค้นพบโลกใหม่แห่งการผจญภัย!


คาร์ตาเฆน่า เป็นหนึ่งในเมืองที่งดงามที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลของประเทศโคลอมเบีย เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงและป้อมปราการที่ได้รับการรับรองจากยูเนสโกเป็นมรดกโลก เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และชีวิตชีวาเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความงามของจัตุรัส โบสถ์ และพิพิธภัณฑ์ ทำให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้เดินทางไม่ควรพลาด เดิมที ก่อตั้งขึ้นในปี 1533 โดยนักล่าขุมทรัพย์ชาวสเปน เปโดร เด เฮรีเดีย คาร์ตาเฆน่าได้กลายเป็นท่าเรือเดียวในแผ่นดินใหญ่ของอเมริกาใต้ ที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าทองคำและเงินที่ถูกปล้นมา สร้างความสนใจแก่โจรสลัด เช่น เซอร์ ฟรานซิส เดรก ที่เคยเข้ามาเผาเมืองในปี 1586 กำแพงที่ล้อมรอบนอกจากจะปกป้องทรัพย์สมบัติแล้ว ยังเป็นเสมือนหลักชัยของมนุษยธรรม ต่อมาเมืองนี้กลายเป็นตลาดทาสอัฟริกันที่สำคัญในยุคอาณานิคม ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆน่ายังมีการพัฒนาโรงแรมและร้านอาหารใหม่ ๆ ซึ่งทำให้ย่านเมืองเก่ากลายเป็นสถานที่ที่น่าพักผ่อน สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมแบบโบฮีเมียน ย่านเกตเซมันีเป็นที่นิยมที่มีบรรยากาศจัดจ้าน สัมผัสความงดงามของชายหาดทรายสีเทาในเขตโบคากรานเด และสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้ได้เลย

หมู่เกาะซานบลาส (San Blas Islands) ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลแคริบเบียน บริเวณชายฝั่งตะวันออกของโคลอน โดยประกอบไปด้วยเกาะเล็กและใหญ่ถึง 365 เกาะ มีเฉพาะประมาณ 50 เกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ เรียกได้ว่าเป็นสรวงสวรรค์ที่ยังคงความบริสุทธิ์และวัฒนธรรมดั้งเดิมเต็มเปี่ยม ชาวคูนา (Kuna) ซึ่งเป็นชนเผ่าที่ปกครองดินแดนซานบลาส มีความภาคภูมิใจในประเพณีและภาษาท้องถิ่นของตน แม้จะได้รับอิทธิพลจากยุโรป หนึ่งในเกาะที่สำคัญคือเอล ปอร์เวนีร์ (El Porvenir) ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลของชาวคูนา ที่นี่คุณจะได้พบกับศิลปะและงานฝีมือดั้งเดิม โดยเฉพาะ “โมลา” (Mola) ซึ่งเป็นงานปักที่มีลวดลายสวยงาม และเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นของฝากที่ไม่ควรพลาด หญิงสาวในชุมชนสวมใส่เสื้อผ้าที่มีลวดลายพื้นบ้าน มีความโดดเด่นด้วยลวดลายเรขาคณิตและธรรมชาติ การมาเยือนหมู่เกาะซานบลาส นอกจากจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายแล้ว คุณยังสามารถเยี่ยมชมวิถีชีวิตที่แตกต่างและดื่มด่ำกับอารมณ์ของการเดินทางที่น่าจดจำ ที่นี่คือประตูสู่ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครในโลกแห่งการเดินเรือสำราญ.

การเดินทางสู่ท่าเรือปานามา สู่เมืองปานามาซิตี้ จะมอบประสบการณ์ที่น่าหลงใหลอย่างไม่รู้ลืม ตั้งแต่เราเดินทางมาถึงในยามเช้าตรู่ เมืองจะสะท้อนให้เห็นแสงสีเงินอ่อนๆ ที่เปลี่ยนเป็นแสงทองของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ขึ้นในยามเช้า อาคารสูงตระหง่านทำให้เมืองนี้เปล่งประกายด้วยความทันสมัยอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคือ ฟวยร์เต อมาดอร์ ซึ่งถึงแม้จะอยู่ใกล้เมืองแต่ก็มีกลิ่นอายความงดงามที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์มิราฟลอเรส ของคลองปานามาเป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดอลังการที่ควรเยี่ยมชม ซึ่งมี ทั้งการแสดง 3 มิติและระเบียงชมวิวที่เยี่ยมยอด สำหรับผู้ที่หลงใหลในอาหารทะเล เมืองนี้มีร้านอาหารและตลาดที่นำเสนอกุ้งซาชิมิสดใหม่ที่มีรสชาติแสนอร่อย พร้อมกับขนมปังกรอบและเบียร์เย็นๆ ถือเป็นวิถีการกินแบบปานามาที่ไม่ควรพลาด ควบคู่ไปกับความงามของเมืองใหญ่ ยังมีกิจกรรมนันทนาการท่ามกลางธรรมชาติทั้งชายหาดที่สวยงามและป่าฝนที่เขียวขจี ที่สามารถเข้าถึงได้เพียงการเดินทางสั้นๆ โดยแท็กซี่ หากคุณฝันถึงการเดินทางที่หรูหราและเต็มไปด้วยสีสัน ปานามาซิตี้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เพื่อสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรมและธรรมชาติในที่เดียว!


การเดินทางสู่ท่าเรือปานามา สู่เมืองปานามาซิตี้ จะมอบประสบการณ์ที่น่าหลงใหลอย่างไม่รู้ลืม ตั้งแต่เราเดินทางมาถึงในยามเช้าตรู่ เมืองจะสะท้อนให้เห็นแสงสีเงินอ่อนๆ ที่เปลี่ยนเป็นแสงทองของพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ขึ้นในยามเช้า อาคารสูงตระหง่านทำให้เมืองนี้เปล่งประกายด้วยความทันสมัยอย่างแท้จริง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคือ ฟวยร์เต อมาดอร์ ซึ่งถึงแม้จะอยู่ใกล้เมืองแต่ก็มีกลิ่นอายความงดงามที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้พิพิธภัณฑ์มิราฟลอเรส ของคลองปานามาเป็นอีกหนึ่งสถานที่สุดอลังการที่ควรเยี่ยมชม ซึ่งมี ทั้งการแสดง 3 มิติและระเบียงชมวิวที่เยี่ยมยอด สำหรับผู้ที่หลงใหลในอาหารทะเล เมืองนี้มีร้านอาหารและตลาดที่นำเสนอกุ้งซาชิมิสดใหม่ที่มีรสชาติแสนอร่อย พร้อมกับขนมปังกรอบและเบียร์เย็นๆ ถือเป็นวิถีการกินแบบปานามาที่ไม่ควรพลาด ควบคู่ไปกับความงามของเมืองใหญ่ ยังมีกิจกรรมนันทนาการท่ามกลางธรรมชาติทั้งชายหาดที่สวยงามและป่าฝนที่เขียวขจี ที่สามารถเข้าถึงได้เพียงการเดินทางสั้นๆ โดยแท็กซี่ หากคุณฝันถึงการเดินทางที่หรูหราและเต็มไปด้วยสีสัน ปานามาซิตี้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เพื่อสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรมและธรรมชาติในที่เดียว!





เจ้าของสวีทคือห้องสวีทที่หรูหราที่สุดในเรือสำราญ ซึ่งมากกว่าคำว่า "การเข้าพัก" เป็นที่พักอาศัยสุดพิเศษบนท้องทะเลข้ามโลก เพลิดเพลินกับความสะดวกสบายทุกอย่างในพื้นที่ส่วนตัวกว่า 114 ตารางเมตร ที่ออกแบบอย่างสวยงาม โดยมีพื้นที่นั่งเล่นขนาด 99 ตารางเมตร และระเบียงขนาด 15 ตารางเมตร ห้องนี้ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอนแยกจากกัน โต๊ะรับประทานอาหารที่แยกออก ส้วมแขก ห้องน้ำพร้อมอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ห้องอาบน้ำที่มีฝักบัวและซาวน่าสำหรับผ่อนคลาย อ่างจากุซซี่และเตียงนอนกลางวันในพื้นที่ห้องน้ำ บริการบัตเลอร์ที่คอยดูแล ทุกท่านสามารถเพลิดเพลินกับมินิบาร์ฟรีและสิทธิพิเศษบริการที่ไม่เหมือนใคร เพิ่มความหรูหราและไม่เหมือนใครให้กับประสบการณ์การเดินทางของท่านอย่างเหนือระดับ



สัมผัสความหรูหราพร้อมพื้นที่ที่กว้างขวางบนท้องทะเลในห้องสวีทแกรนด์เพนท์เฮาส์ ท่านสามารถนั่งพักผ่อนบนเตียงกลางแจ้งพร้อมชมวิวทะเลกว้างขวาง หรือจะผ่อนคลายในอ่างจากุซซี่ส่วนตัวท่ามกลางมหาสมุทร ห้องพักขนาด 78 ตารางเมตร มีระเบียงเพิ่มเติมอีก 10 ตารางเมตร พร้อมพื้นที่นั่งเล่นและนอนแยกเป็นสัดส่วน รวมทั้งมีโต๊ะรับประทานอาหารแยกต่างหาก ห้องน้ำมีอ่างล้างมือสองอันและฝักบัวสายไอน้ำ พร้อมด้วยอ่างจากุซซี่และเตียงนอนในห้องน้ำเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด นอกจากนี้ยังมีบริการบัตเลอร์, มินิบาร์ฟรี และสิทธิพิเศษในการให้บริการที่เหนือกว่ามาตรฐาน เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในการพักผ่อนบนเรือสำราญ

ห้องชุดแกรนด์โอเชียนเป็นโอเอซิสส่วนตัวที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและเป็นที่หลบภัยอันงดงาม ซึ่งจะช่วยให้คุณหลุดพ้นจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ด้วยอ่างอาบน้ำที่มีทิวทัศน์ทะเลกว้างขวาง ห้องนี้มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 42 ตารางเมตร และระเบียงขนาด 10 ตารางเมตร ขับเคลื่อนด้วยแสงธรรมชาติ ห้องน้ำมีอ่างล้างหน้าสองอ่างและห้องน้ำแยกต่างหาก พร้อมฝักบัวที่มีบริการซาวน่าสตีมและอ่างจากุซซี่สุดหรู นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ฟรีเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าจดจำอย่างแท้จริง

เพนท์เฮาส์สวีทคือห้องสวีทที่กว้างขวางและสะดวกสบาย ตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้นสูง เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนและเพลิดเพลินกับวิวทะเลอันไร้ขอบเขต ห้องมีพื้นที่ใช้สอยถึง 42 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 10 ตารางเมตร ห้องมีตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอินและห้องน้ำที่มีอ่างล้างหน้าสองอ่าง พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวที่แยกออกจากกัน นอกจากนี้ยังมีสุขภัณฑ์แยกต่างหาก และบริการพนักงาน ส่วนบริการมินิบาร์ฟรีและสิทธิพิเศษในการบริการอีกมากมาย เจ้าของห้องเพนท์เฮาส์สวีทสามารถขอให้มีสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับผู้อยู่ wheelchair ได้ โดยห้องน้ำจะมีโถสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำด้วย



อพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัวนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน พร้อมพื้นที่กว้างขวางที่ตอบโจทย์ความต้องการส่วนตัวของทั้งครอบครัว เหมาะสำหรับวันหยุดพักผ่อนที่เต็มไปด้วยความผ่อนคลาย โดยอพาร์ตเมนต์นี้จะมอบพื้นที่การใช้ชีวิตที่แยกเป็นสองส่วนสำหรับพ่อแม่และเด็ก โดยมีประตูกับระเบียงเชื่อมต่อกัน หนึ่งในพื้นที่ดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ พื้นที่ใช้สอยทั้งหมดประกอบด้วย 2 ห้อง กว้าง 20 ตร.ม. และระเบียงขนาด 14 ตร.ม. (สามารถแบ่งเป็น 2× 7 ตร.ม.) มีห้องน้ำแยกต่างหากและมินิบาร์ฟรีเพื่อความสะดวกสบายเพิ่มเติม ในพื้นที่สำหรับเด็กจะมีเตียงเดี่ยวสองเตียง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเตียงแบบพลึกแมนขนาด 80 x 200 ซม. พร้อมอ่างอาบน้ำขนาด 140 x 80 ซม. และเกมที่เหมาะสมกับวัยรวมถึงเครื่องเล่นเกมอีกด้วย สัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ตอบสนองทุกความต้องการของครอบครัวในอพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัว ที่นี่คือการผสมผสานความสะดวกสบายและความสนุกสนานอย่างลงตัวในทริปสุดพิเศษของคุณ


หากคุณต้องการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยวิวอันยอดเยี่ยม โอเชียนสวีท จะทำให้คุณมีช่วงเวลาที่น่าประทับใจ ห้องพักขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตรให้คุณชมทิวทัศน์ทะเลได้อย่างเต็มที่ ห้องน้ำที่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำจากุซซี่และฝักบัวแยก รวมถึงสุขาแยกอีกต่างหาก ห้องนี้ยังมาพร้อมกับมินิบาร์ฟรี ที่จะทำให้การพักผ่อนของคุณสุดแสนจะพิเศษและน่าจดจำอย่างแท้จริง



ห้องสวีทระเบียงนี้มอบพื้นที่กว้างขวางเพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างสบายในระหว่างการเดินทาง และมีวิวที่งดงามตลอดการล่องเรือ ห้องนั่งเล่นมีขนาด 28 ตารางเมตร พร้อมระเบียงขนาด 7 ตารางเมตร ทำให้คุณมีบรรยากาศที่รื่นรมย์และให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง ภายในห้องยังมีตู้เสื้อผ้าแบบ walk-in ที่จะช่วยให้คุณจัดเก็บสัมภาระได้อย่างเป็นระเบียบ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นพิเศษพร้อมเก้าอี้ยาวเพื่อการผ่อนคลายอย่างเหนือระดับ ห้องน้ำประกอบด้วยอ่างอาบน้ำและฝักบัวที่แยกต่างหากเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้น และคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับมินิบาร์ฟรีที่พร้อมเสิร์ฟคุณตลอดการเข้าพัก ห้องสวีทระเบียงจึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างความทรงจำที่แสนพิเศษในการล่องเรือครั้งนี้