
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

HANSEATIC nature
Hapag-Lloyd Cruises


ท่าเรือเลเซา (Leixões) ตั้งอยู่ในภูมิภาคนอร์ทของโปรตุเกส เป็นประตูสู่เมืองที่เต็มไปด้วยอารยธรรมและวัฒนธรรมอย่างโอปอร์โต (Oporto) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยโรมันเมื่อสร้างป้อมเพื่อเป็นจุดค้าที่สำคัญ ในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 โอปอร์โตได้เติบโตขึ้นจากความมั่งคั่งที่เกิดจากการสำรวจทางทะเลของโปรตุเกส และยังเป็นศูนย์กลางการผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือเลเซามีความสำคัญในการขนส่งทางทะเล เนื่องจากเป็นท่าเรือที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเข้ามาของเรือสำราญ ซึ่งไม่สามารถเข้าไปในโอปอร์โตได้ หลายคนมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับการสำรวจศิลปะและสถาปัตยกรรมของเมืองนี้ โดยเฉพาะย่านประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก นอกจากนี้ เลเซายังเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดของโปรตุเกส ซึ่งได้คว้าแชมป์ถ้วย Taça de Portugal ในปี 1961 ท่านจะได้พบกับประสบการณ์อันหรูหรา ทั้งในเรื่องของอาหารและการท่องเที่ยว ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำตลอดไป

ลาคอรุญ่า คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคกาลิเซีย ประเทศสเปน และเป็นหนึ่งในท่าเรือที่คึกคักที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ในมุมตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรไอบีเรีย โดยมีทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มและหมอกลงหนา แตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ ของสเปน ชื่อ "กาลิเซีย" มีรากศัพท์มาจากภาษาเซลติก ซึ่งเป็นที่อยู่ของเซลติคในช่วงศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ลาคอรุญ่า เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญตั้งแต่สมัยโรมัน และพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15 เมื่อได้รับสิทธิในการค้ากับอเมริกาในปี 1720 ความงดงามของลาคอรุญ่าสะท้อนผ่านอาคารแบบกระจกซึ่งทำให้เมืองนี้ได้รับชื่อว่า "เมืองแห่งคริสตัล" และสถานที่สำคัญอย่างจัตุรัสมาเรียพิทา ซึ่งเป็นเกียรติแก่หญิงผู้กล้าที่เคยปกป้องเมืองในปี 1589 ปัจจุบัน เมืองประกอบด้วยสามเขตที่แตกต่างกัน ได้แก่ เขตกลางเมือง ธุรกิจ และ “เอนซานเช่” ที่มีคลังสินค้าและโรงงาน อย่าพลาดโอกาสในการสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นและสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเมืองนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจและแรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้มาเยือนต้องกลับมาอีกครั้ง.


ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใคร ท่าเรือเซนต์แมรีส์ในหมู่เกาะสกิลลีก็เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด เซนต์แมรีส์ถือเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะนี้ มีพื้นที่ 6.58 ตารางกิโลเมตร และประชากรเพียง 1,800 คน ทำให้บรรยากาศที่นี่อบอุ่นเป็นกันเอง ช่วยเติมเต็มความรู้สึกของการพักผ่อนและหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตเมือง ตลอดเส้นทางที่ทอดยาวไปตามชายหาดสีขาวที่บริสุทธิ์ คุณจะได้พบกับอ่าวที่งดงาม และทิวทัศน์ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลักของที่นี่คือเมืองฮิว ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์ของอาคารเก่าแก่ ชายหาดที่ทอดยาว สถานที่สงวนธรรมชาติ และโบสถ์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ รวมถึงถนนเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยร้านค้าเล็ก ๆ ซึ่งเต็มไปด้วยของฝากสุดพิเศษ นักเดินทางสามารถสำรวจเส้นทางเดินที่สวยงาม ซึ่งมีทั้งทางเดินเลียบทะเลและเส้นทางในชนบท ที่ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับเสน่ห์ของอารยธรรมเก่าแก่และการค้นพบโบราณสถานที่ซ่อนอยู่มายาวนาน ท่าเรือเซนต์แมรีส์ไม่ใช่แค่ท่าเรือจอดเรือ แต่เป็นประตูสู่การผจญภัยที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและความงดงามที่รอให้คุณค้นพบ.

เมื่อเรือสำราญของคุณแล่นเข้าสู่ท่าเรือคอร์ก (Cork) ในไอร์แลนด์ คุณจะได้สัมผัสกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลซึ่งสืบทอดมายาวนานตั้งแต่ปี 1185 คอร์กมีชื่อมาจากคำว่า “corcaigh” ซึ่งหมายถึง “สถานที่ที่มีน้ำท่วม” อดีตเคยเป็น settlement ในศตวรรษที่ 6 ที่กระจายอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ถึง 13 เกาะในแม่น้ำลี (River Lee) ด้วยประวัติศาสตร์ที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องในศตวรรษที่ 17 และ 18 เมืองนี้จึงเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบจอร์เจียนที่สวยงาม ซึ่งมีหน้าต่างโค้งกว้างให้คุณได้ชมความงาม อีกทั้งยังมีศูนย์กลางการค้ามากมายที่ตั้งอยู่บนเกาะทำให้มีสะพานและท่าเรือที่หลากหลาย สร้างเสน่ห์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร คอร์กเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยความเป็นไอริช ทั้งกีฬาเฮอร์ลิง, ฟุตบอลเกลิค, ผับที่มีดนตรีสด และการแข่งขันสรีรศาสตร์ที่น่าตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยคุณอาจได้เห็นฮิปปี้ ชาวเกย์ และเกษตรกรนั่งดื่มที่ผับเดียวกัน สัมผัสเมืองที่ให้บรรยากาศเป็นกันเองและต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยความอบอุ่น เปลี่ยนเส้นทางการเดินทางของคุณให้น่าจดจำในท่ามกลางความงดงามของคอร์ก วันที่คุณมาที่นี่ คุณจะไม่เพียงแค่เยี่ยมชมเมือง แต่ยังรู้สึกถึงชีวิตและวัฒนธรรมที่เปี่ยมไปด้วยสีสันที่น่าหลงใหลอีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรือแบนทรี (Bantry) ในไอร์แลนด์อาจเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบ ท่าประมงที่น่าหลงใหลนี้ตั้งอยู่ในเวสต์โคร์ค ที่มาพร้อมกับวิวทิวทัศน์ทะเลที่งดงามและภูเขาที่ตั้งตระหง่าน ศูนย์กลางของชีวิตท้องถิ่นและวัฒนธรรม อัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน เมื่อย่างเท้าเข้าสู่แบนทรี คุณจะพบกับบ้านเรือนสไตล์เก่าแก่และร้านค้าเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งนำเสนอสินค้าท้องถิ่นและงานฝีมือ นอกจากนั้นอ่าวแบนทรียังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัย เพื่อสำรวจหมู่เกาะเบลลิเนล (Bere Islands) ซึ่งเต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่าและปั่นจักรยาน โดยมีทัศนียภาพที่งดงามรายล้อม การมาเยือนแบนทรีไม่สมบูรณ์หากไม่ได้แวะเยี่ยมชมบ้านกลางน้ำ (Bantry House) ที่เป็นที่ตั้งของสวนอังกฤษ และวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจจากยอดเขา ทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติก ท่าเรือแบนทรีไม่ได้เป็นเพียงจุดจอดเรือสำราญ แต่มันคือประตูสู่การค้นพบไอร์แลนด์ที่แท้จริง สัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำและเติมเต็มเรือหรูหราของคุณให้เต็มไปด้วยความสุขและแรงบันดาลใจในการเดินทางอีกครั้งหนึ่ง

ท่าเรือดิ๊งเลย์ (Dingle Port) ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลในประเทศไอร์แลนด์ ท่าเรือนี้ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่สวยงาม ประกอบไปด้วยวิวทะเลที่งดงามและแนวชายฝั่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมในหมู่นักเดินทางที่ปรารถนาเปิดโลกในยุโรป เมื่อเรือสำราญของท่านเทียบท่าในดิ๊งเลย์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามของวิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน และเสียงคลื่นที่กระทบฝั่ง หากคุณเป็นคนที่รักการผจญภัย ควรไม่พลาดที่จะสำรวจคาบสมุทรดิงเลย์ (Dingle Peninsula) ที่มีเส้นทางเดินป่าที่งดงาม พร้อมทั้งทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นภูเขาและทะเลเป็นฉากหลัง นอกจากนี้ ท่าเรือดิ๊งเลย์ยังเป็นประตูสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจต่างๆ เช่น สวนแห่งชาติและเกาะสกิลลีย์ (Skellig Islands) ที่ได้ชื่อว่าเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ ด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และวัฒนธรรมที่ร่ำรวย มาสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในดิ๊งเลย์ และทำให้การสำรวจนี้กลายเป็นความทรงจำที่มิอาจลืมเลือนในหัวใจของคุณ ผ่านท่าเรือแห่งนี้ที่พร้อมจะนำคุณสู่การผจญภัยที่น่าทึ่งในไอร์แลนด์ ที่รอคอยให้คุณมาค้นพบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด.

Killybegs เมืองชายฝั่งที่เงียบสงบในแคว้น Donegal ของไอร์แลนด์ เป็นเมืองตกปลาอันดับหนึ่งของประเทศ ที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศสดชื่นและอากาศทะเลที่เย็นสบาย ซึ่งดึงดูดให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับเสน่ห์ของการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เรือประมงที่เรียงรายอยู่ริมท่าเรือพร้อมล่องไปในรุ่งเช้า เป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจในช่วงต้นวัน Killybegs ยังเป็นประตูสู่ทัศนียภาพชายฝั่งที่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นการชมประภาคารขาวสะอาดที่คอยเตือนภัยแก่เรือในทะเล หรือการเดินเล่นไปตามชายฝั่งอันตื่นตาตื่นใจ ขึ้นไปชมความงามของ Slieve League ที่ตั้งตระหง่าน ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตก ตรงนี้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความตื่นเต้นเมื่อได้มองเหล่าผาสูงชันที่ดิ่งลงสู่ทะเล ใน Killybegs คุณจะได้พบกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่บรรยากาศการตกปลาจริง ไปจนถึงการสำรวจธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ หากคุณกำลังมองหาจุดหมายที่น่าพิสูจน์ และสัมผัสการเดินทางที่ไม่ธรรมดา Killybegs คือคำตอบสำหรับคุณในการผจญภัยครั้งหน้าในไอร์แลนด์
เกาะรัธลิน (Rathlin Island) เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนไอร์แลนด์เหนือ ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองบัลลีแคลร์เพียงไม่กี่ไมล์ รัธลินเป็นเกาะที่เงียบสงบและมีบรรยากาศสงบ ภายในเกาะมีทิวทัศน์อันสวยงามของหน้าผาและชายหาดที่บริสุทธิ์ ควบคู่ไปกับเส้นทางเดินป่าที่จะพาคุณสัมผัสกับความงดงามของพืชพรรณและสัตว์ป่า เมื่อเข้าไปเยือนเกาะนี้ นักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมประภาคารสมัยศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดูเด่นตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลหลากหลายเฉดสี ที่ประภาคารนี้สามารถมองเห็นวิวชายฝั่งที่สวยงามของเกาะ จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและดื่มด่ำกับธรรมชาติ นอกจากนี้ เกาะรัธลินยังเป็นแหล่งรวมของพระอาทิตย์ตกอันน่าตื่นตาตื่นใจ ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโลกแห่งความฝัน การเดินทางมายังเกาะนี้สามารถทำได้โดยเรือสำราญ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ แทบจะไม่ผิดหวังเมื่อได้มาเยือนแห่งนี้ เพลิดเพลินไปกับชีวิตที่ช้าลงและความงามตามธรรมชาติที่จะดึงดูดใจนักเดินทางมากมาย

เบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่บนริมฝั่งทะเลไอริช โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Béal Feirste ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการผลิตผ้าไหมและการสร้างเรือ ที่นี่เคยเป็นบ้านของชัยชนะในการสร้างไททานิค เรือสำราญที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดในศตวรรษที่ 18 เบลฟาสต์กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง เมืองนี้ต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางด้านศาสนา จนกระทั่งสงครามที่เรียกว่า “Troubles” สิ้นสุดลงในปี 1994 หลังจากนั้น เมืองได้เริ่มการฟื้นฟู ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนในโรงแรมใหม่ ๆ และการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังเมือง ปัจจุบัน เบลฟาสต์มีพื้นที่ใจกลางเมืองที่เดินง่าย ประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น หอศิลป์พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และโรงละคร การสำรวจเมืองนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าหลงใหลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักการเดินทางไปยังดินแดนที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าดังกล่าว

ดับลิน เมืองหลวงของไอร์แลนด์ กำลังกลับมาผงาดอีกครั้ง หลังจากผ่านพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในยุค "Celtic Tiger" ที่ยิ่งใหญ่ สู่ความฟื้นตัวที่ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในยุโรปตะวันตก ดับลินในวันนี้คือการผสมผสานระหว่างความเก่าแก่และทันสมัย เพราะไม่ว่าคุณจะมาเยือนเพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมหรือเสน่ห์ใหม่ๆ จะพบว่าที่นี่เต็มไปด้วยความบันเทิงที่ไม่รู้จบ วอล์กผ่านย่าน Temple Bar ย่านที่เคยอับโชคแต่ปัจจุบันเต็มไปด้วยคาเฟ่และโรงแรมสุดเก๋ พร้อมบรรยากาศของปาร์ตี้ที่ไม่เคยหลับใหล นอกจากนี้ เขต Italian Quarter ที่แอบซ่อนความหรูหราด้วยร้านอาหารกลางแจ้งและการเรียนทำนองทังโก้ สะท้อนให้เห็นถึงความมีชีวิตชีวาของวัฒนธรรมเซลติก ที่ไม่ว่าจะเป็นการแสดง Riverdance หรือผลงานเพลงของ Hozier ก็สามารถดึงดูดความสนใจได้อย่างดี นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแล้ว ดับลินยังมีร้านค้า โรงแรม และแกลเลอรีศิลปะมากมาย ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่กลางกรุงปารีส เมืองที่ค้นพบใหม่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่าเย้ายวนใจ รอให้คุณสัมผัสและสร้างความทรงจำไม่รู้ลืมที่นี่ในเมืองที่เป็นนวัตกรรมและความมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง





ห้องสวีทใหญ่ เป็นที่พักสุดหรูมอบความสะดวกสบายอย่างครบครัน ด้วยพื้นที่แยกสำหรับนอนและนั่งเล่น รวมถึงพื้นที่รับประทานอาหารที่ให้ความเป็นส่วนตัว พื้นที่นอนมีวิวพานอรามาที่งดงาม พร้อมเตียงที่สามารถแยกได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมีทีวีทั้งในพื้นที่นั่งเล่นและนอน มีระเบียงส่วนตัวที่ติดตั้งเครื่องทำความร้อนในช่วงที่อากาศหนาวเย็น ห้องน้ำธรรมชาติพร้อมอ่างอาบน้ำแบบยืนและฝักบัวฝน พร้อมด้วยการเข้าถึงระเบียงรวมถึงห้องอบไอน้ำในบริเวณฝักบัว และผนังห้องน้ำที่มีความร้อนสำหรับการวางผ้าเช็ดตัวและเสื้อแจ็คเก็ตเปียก ห้องสวีทใหญ่มีห้องสุขาแยกต่างหากและมินิบาร์ฟรี รวมถึงเครื่องชงกาแฟ นอกจากนี้ยังมีระบบสาระบันเทิงที่หลากหลายเช่น การถ่ายทอดสด การบันทึกการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ กล้องมองด้านหน้า แผนที่นำทาง ภาพยนตร์และอีกมากมาย รวมถึงมีกล้องส่องทางไกลและไม้เดินป่านอร์ดิกในห้องพัก เพื่อความสะดวกสบายยังมีบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง และบริการบัตเลอร์ พร้อมการจองโต๊ะในร้านอาหารหลัก และใช้งาน Wi-Fi ฟรีตามต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การล่องเรือที่หรูหราแบบไม่มีวันลืมที่ห้องสวีทใหญ่ของเรา


ห้องจูเนียร์สวีท เป็นห้องที่มีการออกแบบอย่างลงตัว พร้อมพื้นที่การใช้สอยที่แบ่งแยกอย่างชัดเจน โดยมีพื้นที่นั่งเล่นและนอนที่แยกจากกัน รวมถึงพื้นที่รับประทานอาหารที่เปิดกว้าง และมุมมองแบบพาโนรามาจากพื้นที่นอน ทำให้สามารถชมวิวทะเลได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถปรับเตียงให้แยกออกจากกันได้ตามความต้องการ มีทีวีให้บริการทั้งในพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่นอน เพื่อความบันเทิงที่ครอบคลุม ห้องน้ำมีความหรูหรา พร้อมด้วยอ่างล้างหน้าสองอ่าง และฝักบัวแบบฝน ซึ่งเพิ่มความสบายให้แก่ผู้เข้าพัก นอกจากนี้ยังแยกห้องสุขาออกมาอย่างชัดเจน และมีซาวน่าคล้ายไอน้ำในพื้นที่อาบน้ำ เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ โดยมีผนังอุ่นเพื่อความสะดวกในการใช้ผ้าขนหนูหรือเสื้อผ้าที่เปียก ภายในห้องยังมีมินิบาร์ฟรีและเครื่องชงกาแฟให้บริการ คุณสามารถเพลิดเพลินกับระบบบันเทิงที่หลากหลาย รวมถึงการถ่ายทอดสดและบันทึกการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ กล้องมองด้านหน้า แผนที่นำทาง รวมถึงภาพยนตร์ต่าง ๆ และอุปกรณ์อย่างกล้องส่องทางไกลและไม้เท้านอร์ดิก เพื่อการสำรวจในระหว่างการเดินทาง บริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมงและการจองโต๊ะในห้องอาหารหลัก (สำหรับแพ็คเกจ PLATINUM และ GOLD) ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพิเศษที่ให้บริการ โดยมีบัตเลอร์ส่วนตัวที่คอยบริการคุณอย่างใกล้ชิด ทำให้ห้องจูเนียร์สวีท เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายบนเรือสำราญ.

ห้องพักระเบียงคือห้องพักที่มอบความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกมิติ ภายในห้องมีผนังที่ให้ความร้อนในห้องน้ำ เหมาะสำหรับการอบผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าที่เปียกฝน นอกจากนี้ยังมีฝักบัวแบบฝนที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ผ่อนคลายในธรรมชาติ พร้อมด้วยมินิบาร์ฟรีที่มีเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องชงกาแฟส่วนตัวเพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ห้องพักจัดเตรียมเตียงที่สามารถแยกเป็นสองเตียงได้ตามต้องการ รวมถึงระบบบันเทิงครบครัน ที่มาพร้อมกับการถ่ายทอดสดและบันทึกการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ มีกล้องมองไปข้างหน้า แผนที่นำทาง ภาพยนตร์ และอื่นๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเข้าพัก นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ เช่น กล้องส่องทางไกลและไม้เดิน Nordic Walking พร้อมบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง ห้องพักระเบียงยังมีห้องหนึ่งที่ออกแบบให้สามารถเข้าถึงได้อย่างเต็มที่ พร้อมอุปกรณ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้าพักทุกคน ทำให้ทุกทริปของคุณเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำและสะดวกสบายอย่างแท้จริง

ห้องโดยสารระเบียงฝรั่งเศสในหมวด 3 บนชั้น 6 มีขนาดประมาณ 23 ตารางเมตร (248 ตารางฟุต) และห้องโดยสารในหมวด 5 บนชั้น 7 จะมีขนาดประมาณ 21 ตารางเมตร (226 ตารางฟุต) ห้องโดยสารที่มีระเบียงอยู่ที่ด้านท้ายมีแปลนพื้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย สำหรับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ห้องน้ำมีผนังที่ทำให้ความร้อนซึ่งเหมาะสำหรับการแขวนผ้าเช็ดตัวและเสื้อกันฝนเปียก นอกจากนี้ยังมีฝักบัวฝนที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในธรรมชาติ ห้องพักยังมีมินิบาร์ฟรี (เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์) และเครื่องชงกาแฟเพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มสดชื่นตลอดการเดินทาง เตียงสามารถแยกออกได้ตามความต้องการ พร้อมด้วยระบบสื่อสารที่หลากหลาย เช่น การถ่ายทอดสดและการบันทึกการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ กล้องมองจากด้านหน้า แผนที่นำทาง และภาพยนตร์ต่างๆ ห้องโดยสารยังมีบริการ 24 ชั่วโมง และสำหรับผู้ที่ต้องการการเข้าถึงแบบพิเศษ มีห้องโดยสารที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับทุกคน (ห้อง 404) นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อย่างกล้องส่องทางไกลและไม้เดิน Nordic Walking เพื่อส่งเสริมการสำรวจในระหว่างการเดินทางของคุณ

ห้องพาโนรามาเป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าหลงใหล โดยมีขนาดกว้างขวางและมีการจัดวางที่สะดวกสบาย พร้อมข้อมูลบันเทิงที่หลากหลาย รวมถึงการถ่ายทอดสดและบันทึกการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ กล้องที่มองไปข้างหน้า แผนที่นำทาง และภาพยนตร์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีที่นั่งที่สามารถแยกจากกันได้ ซึ่งทำให้ห้องนี้เหมาะสำหรับทุกประเภทของผู้เข้าพัก ห้องน้ำถูกติดตั้งผนังทำความร้อนเพื่อให้มีความอบอุ่นสำหรับผ้าเช็ดตัวและชั้นบังแดดในเวลาหลังการใช้งาน มีฝักบัวฝนที่ช่วยให้การอาบน้ำเป็นประสบการณ์ที่สดชื่น นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ฟรีสำหรับเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องชงกาแฟสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟอย่างแท้จริง รวมถึงบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การเข้าพักของคุณเป็นไปอย่างสะดวกสบายที่สุด นอกจากนี้ ห้องพาโนรามายังมีอุปกรณ์สำหรับการเดินทาง เช่น ส่องทางไกลและไม้สำหรับเดิน Nordic Walking เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักได้อย่างครบถ้วน

ห้องพักภายนอกเป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกการเข้าพัก ขนาดห้องกว้างขวางพร้อมบริการที่เหนือระดับ การตกแต่งภายในเน้นให้มีความร่วมสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย บริการฟรีมินิบาร์ที่มีน้ำอัดลมและเครื่องชงกาแฟที่ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาสบายๆ ในห้องพัก นอกจากนี้ยังมีฝักบัวฝนที่ให้ประสบการณ์การอาบน้ำที่ผ่อนคลาย และผนังระบายความร้อนในห้องน้ำเพื่อให้คุณอบอุ่นตลอดทั้งวัน สำหรับความบันเทิงภายในห้องพัก ห้องนี้ยังมีระบบ infotainment ที่มีรายการถ่ายทอดสด การบันทึกการนำเสนอโดยผู้เชี่ยวชาญ กล้องมองข้างหน้า แผนที่การเดินเรือ และภาพยนตร์ต่างๆ รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับการเดิน Nordic Walking และกล้องส่องทางไกลเพื่อให้คุณได้สำรวจบรรยากาศรอบๆ ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด หวังว่าการเข้าพักในห้องพักภายนอกจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมอย่างแท้จริง