ท่าเรือพอนตาเดลกาดา ในหมู่เกาะอะโซร์ของโปรตุเกส เป็นจุดแวะพักที่สำคัญสำหรับนักเดินทางที่ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความงดงามของภูมิประเทศที่เกิดจากภูเขาไฟ และธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม ในช่วงฤดูร้อน คุณจะได้เห็นดอกไฮเดรนเยียที่บานสะพรั่ง ประดับประดาสถานที่ด้วยสีสันต่าง ๆ ยินดีต้อนรับนักเดินทางด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เช่น โบสถ์เซาโฮเซ ที่มีฟาซาดสีดำและขาว กระตุ้นให้คุณสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ ตลาดท้องถิ่นยังมีสินค้าท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น สับปะรดที่หวานหอม ใบชาคุณภาพ และเมล็ดกาแฟที่เสิร์ฟความรสชาติแก่นักชิม ท่ามกลางการเดินเล่นบนดินที่มั่นคงหลังการเดินทางบนทะเล เต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาสในการลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่และช้อปปิ้งของฝากที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย การเดินทางไปยังแคลเดอรา ดาส เซเต้ ซิตาดัส เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด สัมผัสกับเส้นทางเดินป่าที่นำไปสู่ทะเลสาบในปล่องภูเขาไฟ พร้อมชมวิวทิวทัศน์อันน่าหลงใหลของทะเลแอตแลนติกที่กว้างใหญ่ รอคอยให้คุณมาเป็นเจ้าของประสบการณ์อันล้ำค่าในราชอาณาจักรแห่งธรรมชาติที่สวยงามแห่งนี้

เกาะพิโก ประเทศโปรตุเกส เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล สำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสกับความงามของธรรมชาติอันบริสุทธิ์และวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่นอกชายฝั่งของแอตแลนติก สามารถเดินทางมายังท่าเรืออันสวยงามได้ง่ายดายด้วยเรือสำราญ เมื่อเดินทางมายังท่าเรือเกาะพิโก คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์อันตระการตาของภูเขาที่สูงที่สุดในโปรตุเกส นั่นคือ ภูเขาพิโก (Pico Mountain) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก นักท่องเที่ยวสามารถปีนเขาเพื่อสัมผัสประสบการณ์อันตื่นเต้นและการชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หาที่เปรียบไม่ได้ นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดคือภูมิทัศน์ของไร่องุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งไวน์พิโกที่มีชื่อเสียง ที่นี่คุณจะได้ลิ้มลองไวน์ท้องถิ่น พร้อมกับเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเกาะ อย่าลืมแวะเยือนหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์อย่างลูซิเทเร หรือสำรวจสุสานซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของเกาะ การเดินทางสู่พิโกจึงไม่ใช่เพียงแค่การไปเยือนท่าเรือ แต่คือการเข้าสู่อ้อมกอดของธรรมชาติที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ดึงดูดใจคุณให้ค้นพบและสัมผัสประสบการณ์อันล้ำค่าในทุกช่วงเวลา

ท่าเรือเลเซา (Leixões) ตั้งอยู่ในภูมิภาคนอร์ทของโปรตุเกส เป็นประตูสู่เมืองที่เต็มไปด้วยอารยธรรมและวัฒนธรรมอย่างโอปอร์โต (Oporto) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยโรมันเมื่อสร้างป้อมเพื่อเป็นจุดค้าที่สำคัญ ในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 โอปอร์โตได้เติบโตขึ้นจากความมั่งคั่งที่เกิดจากการสำรวจทางทะเลของโปรตุเกส และยังเป็นศูนย์กลางการผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือเลเซามีความสำคัญในการขนส่งทางทะเล เนื่องจากเป็นท่าเรือที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเข้ามาของเรือสำราญ ซึ่งไม่สามารถเข้าไปในโอปอร์โตได้ หลายคนมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับการสำรวจศิลปะและสถาปัตยกรรมของเมืองนี้ โดยเฉพาะย่านประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก นอกจากนี้ เลเซายังเป็นที่ตั้งของหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดของโปรตุเกส ซึ่งได้คว้าแชมป์ถ้วย Taça de Portugal ในปี 1961 ท่านจะได้พบกับประสบการณ์อันหรูหรา ทั้งในเรื่องของอาหารและการท่องเที่ยว ที่จะทำให้การเดินทางของคุณน่าจดจำตลอดไป

ท่าเรือที่เมืองวีโก (Vigo) ประเทศสเปน เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เมืองวีโกมีท่าเรือธรรมชาติที่งดงามและถือเป็นท่าเรือประมงที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยในปี 1702 สถานที่นี้เคยเป็นสมรภูมิที่ฝ่ายอังกฤษและชาวดัตช์สามารถเอาชนะกองเรือฝรั่งเศสและสเปนได้ เมืองวีโกเต็มไปด้วยความหลากหลาย โดยมีท่าเรือที่สวยงามให้คุณได้พักผ่อนและสัมผัสกับบรรยากาศของการประมง ต่อมา การเดินเที่ยวชมเมืองทำให้คุณได้พบกับสถาปัตยกรรมแบบยุคศตวรรษที่ 17 และภูมิประเทศที่สวยงามโดยรอบ เมืองเก่าที่มีเสน่ห์เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยที่แคบและจตุรัสที่มีร่มเงาเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจ นอกจากนี้ การเดินทางไปยังเมืองทุย (Tui) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิหาร หรือเมืองซานติอาโก เดอ คอมโพสเตลลาที่มีชื่อเสียงในฐานะศูนย์รวมการแสวงบุญเพียง 1 ชั่วโมง 15 นาทีจากวีโก จะเป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มความทรงจำในการเดินทางของคุณอย่างแน่นอน อย่าพลาดที่จะค้นหาความงามของวีโกและเสน่ห์ที่รอคอยคุณอยู่ในแต่ละซอกมุมของเมืองนี้!

ท่าเรือ Douarnenez ตั้งอยู่ในภูมิภาค Brittany ของฝรั่งเศส เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาความงดงามและเสน่ห์ของวัฒนธรรมฝรั่งเศสโบราณ ตลอดการเดินทาง คุณจะได้สัมผัสกับ Locronan หมู่บ้านกลางสมัยที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยที่สุดของฝรั่งเศส เสน่ห์ของที่นี่อยู่ที่อาคารหินเก่าแก่และถนนอันแสนโรแมนติก เมื่อมาเยือน Locronan คุณจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยการนำชมแบบมีไกด์ โดยจะมีโบสถ์ที่ประดับด้วยกระจกสีในศตวรรษที่ 15 ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของนักบุญ Ronan นอกจากนี้ คุณยังมีโอกาสลิ้มรสขนมเค้กเนยสไตล์เบรอตงที่ชื่อว่า "kouign amann" ที่ร้านเบเกอรี่ Le Guillou ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกสัมผัสถึงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ อย่าลืมชมการแสดงการเต้นรำแบบดั้งเดิมที่จัดแสดงโดยนักเต้นในชุดเครื่องแต่งกายท้องถิ่น ที่นี่คือการเปิดประตูสู่วัฒนธรรมที่เข้มข้นและหลากหลายของเบรอตง สร้างความทรงจำที่น่าประทับใจให้กับการเดินทางของคุณในภูมิภาคที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์และศิลปะนี้

เมื่อพูดถึงจุดหมายการเดินทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ไม่ควรพลาด “Channel Islands” หรือหมู่เกาะช่องแคบอังกฤษ ที่ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งอังกฤษและฝรั่งเศส หมู่เกาะนี้ประกอบด้วยเกาะเจอร์ซี่ (Jersey), เกาะเกิร์นซีย์ (Guernsey) และเกาะอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งแต่ละเกาะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่สัมผัส สำหรับผู้ที่เดินทางโดยเรือสำราญ, Channel Islands เป็นจุดแวะที่ลงตัว โดยเฉพาะท่าเรือในเจอร์ซี่ ที่มีบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความเก่าแก่ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วย artisanal foods, ชมความสวยงามของชายหาดที่มีทรายละเอียด และสำรวจปราสาทหินโบราณที่สร้างขึ้นในยุคกลาง ให้คุณได้ร่วมสัมผัสประวัติศาสตร์ที่มีสีสัน เกิร์นซีย์ยังมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน ด้วยทะเลสวยใสหรือล่องเรือไปที่ ‘Herm’ เกาะเล็ก ๆ ที่เป็นภูเขาแห่งธรรมชาติ พร้อมกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลาย ทั้งเดินป่าและปั่นจักรยาน นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟเล็ก ๆที่คอยต้อนรับคุณให้รู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง ช่องแคบอังกฤษคือทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายและสัมผัสกับความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่อุดมไปด้วยความหลากหลาย เพียงแค่คุณก้าวขึ้นสู่เรือสำราญ การเดินทางในทริปล่าสุดนี้อาจกลายเป็นความทรงจำสุดหรูที่ไม่มีวันลืมเลือน.

เฮลโกแลนด์ (Helgoland) เป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในทะเลเหนือของเยอรมนี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ เมื่อคุณขึ้นฝั่งที่นี่ คุณจะพบกับงานศิลปะการสร้างสรรค์จากธรรมชาติและวัฒนธรรมที่กลมกลืนกันอย่างไร้ที่ติ เกาะนี้เป็นที่รู้จักด้วยหน้าผาแดงที่ตระการตาและชายหาดทรายขาวสะอาด ซึ่งเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลายและสัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ เพลิดเพลินไปกับการเดินชมวิวทางเดินริมทะเล หรือล่องเรือไปยังเกาะที่มีมุมมองอันงดงามของทะเล นอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว เฮลโกแลนด์ยังเป็นที่ตั้งของแหล่งช้อปปิ้งปลอดภาษีที่มีชื่อเสียง โดยสินค้าแบรนด์ดังสามารถหาซื้อได้ในราคาที่คุ้มค่า นอกจากนี้ อย่าพลาดที่จะลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ที่เสิร์ฟในร้านอาหารตามชายหาด ด้วยความงดงามของธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ เฮลโกแลนด์จึงเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลบหนีจากความวุ่นวายและสัมผัสกับสุนทรียภาพอันแสนวิเศษของชีวิตในท้องทะเลเหนืออีกด้วย

ฮัมเบิร์ก เมืองท่าที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมัน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล ตั้งอยู่ริมทะเลเหนือ เมืองแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญ แต่ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะและเสน่ห์ของชีวิตเมืองในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมบาโรกที่งดงาม หรือวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำที่รื่นรมย์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับตลาดปลาเก่าแก่ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้ยังมีแกลเลอรีศิลปะและพิพิธภัณฑ์ชั้นเลิศ เช่น พิพิธภัณฑ์การเดินเรือฮัมเบิร์ก ที่จะพาคุณย้อนกลับไปยังยุครุ่งเรืองของการค้าและประวัติศาสตร์การเดินเรือ สำหรับผู้ที่หลงใหลในดนตรีและวัฒนธรรม รู้ไหมว่าถนนรอบๆ Grosse Freiheit เคยเป็นเวทีแรกของวงดนตรีชื่อดัง The Beatles ในยุด 60s หลายแห่งที่นี่เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำไปกับบรรยากาศที่เคยมีชีวิตชีวาในสมัยกาลก่อน นอกจากนั้น ฮัมเบิร์กยังมีสวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม สร้างบรรยากาศที่เงียบสงบให้แก่นักท่องเที่ยว ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายที่ควรค่าแก่การแวะถ่ายภาพและสัมผัสประสบการณ์อันหลากหลายที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้!