
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

HANSEATIC nature
Hapag-Lloyd Cruises


ดาการ์ เป็นจุดที่สวยงามตั้งอยู่ที่ปลายแหลมแคปเวิร์ต แห่งนี้คือเมืองหลวงของเซเนกัล และเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานซึ่งมีเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยการก่อตั้งในปี 1857 ดาการ์นับเป็นเมืองยุโรปที่เก่าแก่ที่สุดในแอฟริกาตะวันตกและเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความเป็นสากลมากที่สุดในภูมิภาคนี้ ความรุ่งเรืองของดาการ์เริ่มต้นเมื่อมีการเปิดเส้นทางรถไฟดาการ์-เซนต์หลุยส์ในปี 1885 ซึ่งส่งผลให้เมืองนี้กลายเป็นฐานทัพเรือของฝรั่งเศสและในปี 1904 เป็นเมืองหลวงของภูมิภาค Afrique Occidentale Française ตัวเมืองเต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมฝรั่งเศส โดยเฉพาะในย่านพลาตอว์ (Plateau) ที่มีบรรยากาศคล้ายคลึงกับภาคใต้ของฝรั่งเศส นอกจากความสวยงามของอาคารแล้ว ดาการ์ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวา นักท่องเที่ยวสามารถลองจิบชามิ้นต์ (Mint Tea) เมนูที่เป็นที่นิยมอย่างมาก และสนุกสนานกับการช้อปปิ้งในตลาดฝีมือที่มีสีสัน อาทิเช่น การต่อรองซื้อผ้าปัก ผลงานจากไม้ เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องประดับที่สร้างสรรค์อย่างประณีต การเดินทางมายังดาการ์คือการสัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลาย และประสบการณ์สุดพิเศษที่คุณจะไม่มีวันลืม

เมืองโคนากรี ตั้งอยู่บนแผ่นดินใหญ่ของประเทศกินี เป็นท่าเรือหลักที่สำคัญที่สุดในประเทศ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยความเป็นวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล โคนากรีเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ปรารถนาความหรูหราและการผจญภัย เมื่อแวะมาที่ท่าเรือโคนากรี นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลแอตแลนติก และความโดดเด่นของวิวทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่รอบล้อม ทั้งชายทะเลที่มีทรายละเอียดและป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของวัฒนธรรมแอฟริกันที่น่าทึ่ง ที่นี่เป็นแหล่งรวมของงานศิลปะและงานหัตถกรรมที่สืบทอดมาจากยุคก่อน อย่าพลาดโอกาสในการเยี่ยมชม ‘National Museum of Guinea’ ซึ่งอัดแน่นไปด้วยข้าวของและศิลปะที่บอกเล่าเรื่องราวของประเทศ นอกจากนี้ยังมี ‘Îles de Los’ โดยรอบที่เป็นสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสำหรับการดำน้ำและการส์เล่นน้ำอีกด้วย โคนากรีคือเสน่ห์ที่ไม่ได้ถูกค้นพบ ทำให้เมืองนี้เป็นหนึ่งในจุดหมายที่สร้างความทรงจำอันมีค่าในชีวิตของนักเดินทาง ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้รักธรรมชาติ ศิลปะ หรือต้องการใช้เวลาในบรรยากาศที่อบอุ่นและเต็มไปด้วยวัฒนธรรม สัมผัสความงดงามแห่งโคนากรี แล้วให้ใจของคุณหลงใหลไปกับทุกโมเมนต์ที่นี่!


อาบิดจาน (Abidjan) เมืองหลวงทางเศรษฐกิจของโกตดิวัวร์ (Côte d'Ivoire) ตั้งอยู่ทางใต้ของยาโมซุโกร (Yamoussoukro) ประมาณสามชั่วโมง การเดินทางมาที่นี่นำคุณสู่จุดตัดของวัฒนธรรมและการค้าในแอฟริกาตะวันตก สัมผัสกับสภาพอากาศที่อบอุ่นตลอดทั้งปี โดยเฉลี่ยมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 30 องศาเซลเซียส ที่นี่เต็มไปด้วยเสน่ห์และจิตวิญญาณที่หลากหลาย พร้อมทั้งวัฒนธรรมและประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน อาบิดจานเป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์สวยงามตั้งอยู่ระหว่างคลองและแหล่งน้ำต่างๆ เดินเล่นในย่านต่างๆ ของเมือง เพื่อนำเสนอความมีชีวิตชีวาจากอิทธิพลของฝรั่งเศสและกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ทำให้เมืองนี้ครึกครื้นและเต็มไปด้วยความหลากหลาย นอกจากการสัมผัสกับความน่าตื่นตาตื่นใจในชีวิตประจำวันแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยม อาทิ บริเวณชายทะเลที่สวยงามและตลาดท้องถิ่นที่คึกคัก แม้ว่าอาบิดจานเคยประสบปัญหาจากสงครามกลางเมืองในปี 2011 แต่เมืองนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและสามารถฟื้นตัวได้อย่างน่าทึ่ง ปัจจุบันจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการสำรวจและสัมผัสกับวัฒนธรรมที่หลากหลายและชีวิตที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ ขอต้อนรับคุณสู่การเดินทางที่น่าจดจำในอาบิดจาน เมืองที่ทุกคนต้องมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต!
ท่าเรือทาคอราคือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นตาตื่นใจของประเทศกานา เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของกานา อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชายหาดที่เงียบสงบที่ชวนให้พักผ่อน หรือศูนย์กลางการค้าที่คึกคักซึ่งเต็มไปด้วยสีสันของชีวิตประจำวัน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ในการลิ้มรสอาหารทะเลสดใหม่ที่ขายอยู่ริมชายหาด เสมอเหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างความงามของธรรมชาติและความมีชีวิตชีวาของเมือง เมื่อก้าวออกไปจากชายทะเลเพียงไม่กี่นาที จะพบกับตลาดเซอร์เคิลที่เป็นอัญมณีของชีวิตค้าขายของทาคอรา ที่นี่เป็นแหล่งผลิตสินค้าจากอุตสาหกรรมน้ำมันของกานาที่กำลังเติบโต ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น น้ำตกเอโคฟอร์ ทีมีความสวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ ทาคอราเป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเพื่อการพักผ่อนหรือค้นหาประสบการณ์ใหม่ ๆ และทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความหมายและแรงบันดาลใจในการสัมผัสโลกใหม่ ๆ ที่รอคอยอยู่ในทุกมุมของเมืองนี้
หากคุณรู้สึกเบื่อหน่ายกับรีสอร์ทชายหาดทั่วไป ขอเชิญคุณมาเยือนโลเม่ (Lomé) เมืองชายฝั่งของประเทศโตโก ซึ่งต้อนรับคุณด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ที่หาไม่ได้จากที่ไหน โลเม่เคยถูกขนานนามว่าเป็น 'อัญมณีแห่งแอฟริกาตะวันตก' นำเสนอชายหาดที่สวยงาม พร้อมการผลิตโกโก้ กาแฟ และเมล็ดสนที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ในโลเม่ คุณจะได้พบกับความวุ่นวายของการจราจร ทั้งจักรยานยนต์ที่ขับเคลื่อนรวดเร็วและผู้ขายที่ขนของอย่างมีศิลปะบนศีรษะ สร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ตลาดที่มีสีสันและความแออัด ผสมผสานความน่าสนใจและการผจญภัยไว้ในทุกๆ มุมของเมือง ทางชายหาดถูกประดับด้วยต้นปาล์ม ทำให้คุณสามารถนั่งพักผ่อนบนทรายอันกว้างใหญ่ โดยมีเสียงเล็กน้อยจากถนนเป็นเพียงเสียงกระซิบ อย่าลืมแวะชมพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน้ากากและรูปปั้นดั้งเดิม และอนุสาวรีย์อิสรภาพที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ของชาติ สำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันการเดินทางที่ไม่มีวันลืม โลเม่คือจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด!

ในท่ามกลางเกาะกะเทาะระหว่างไนจีเรียและโตโก ประเทศเบนิน คือท่าเรือโคโตนู (Cotonou) สถานที่ที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยการค้าขาย โคโตนูเป็นที่รู้จักในฐานะ "เมืองตลาด" จุดศูนย์กลางการค้าต่าง ๆ พร้อมทั้งตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ท่าเรือนี้มีความสำคัญมากในด้านการค้าไม้ปาล์มและสิ่งทอ ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความเคลื่อนไหว ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือผู้มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น โคโตนูไม่เพียงแต่มีท่าเรือที่คึกคัก แต่ยังเป็นประตูสู่เสน่ห์ของวัฒนธรรมเบนิน คุณสามารถสำรวจย่านการค้าท้องถิ่น ที่เต็มไปด้วยสิ่งศิลป์และดนตรีพื้นบ้าน ได้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมทะเลสาบนาโกอู (Lake Nakoué) ที่สวยงาม รายล้อมไปด้วยความหลากหลายของพืชและสัตว์น้ำ นอกจากนี้ คุณยังสามารถสัมผัสชุมชนท้องถิ่นที่อบอุ่น ซึ่งรอต้อนรับคุณด้วยความรักและความเป็นมิตร โคโตนู จึงไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางในการเดินทาง แต่เป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยสีสันและความทรงจำที่จะตราตรึงใจคุณไปตลอดกาล


หลบหนีสู่สรวงสวรรค์เขตร้อนที่เกาะเซาโทเมและปรินซิปี ซึ่งตั้งอยู่ในอ่าวกินีของแอฟริกา ปลุกความรู้สึกหรูหราให้กับผู้มาเยือน ด้วยอากาศอบอุ่นแสงแดดสดใส และธรรมชาติที่เขียวขจีอันอุดมสมบูรณ์ ท่าเรือเซาโทเมบนเกาะเซาโทเม คือจุดเริ่มต้นของการค้นพบความมหัศจรรย์แห่งวัฒนธรรมที่หลากหลาย ซึ่งเป็นการหลอมรวมระหว่างอารมณ์อาฟริกันและโปรตุเกส เดินทางไปสัมผัสกับความเป็นเอกลักษณ์ของดนตรีและการเต้นรำของชาวเซาโทเม ที่มีจังหวะอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น อุซซัว และโซโคเป ขณะที่เกาะปรินซิปีเสนอเสียงดนตรีที่เรียกว่า เด็กซ่า ที่จะทำให้คุณหลงใหลในทุกการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ การแสดงทิลโลลี จะเล่าเรื่องราวด้วยการผสมผสานการเต้นรำและดนตรีที่จะทำให้คุณตื่นตระหนก เซาโทเมและปรินซิปี ไม่ใช่เพียงแค่จุดหมายปลายทางที่สวยงาม แต่ยังเป็นแบบอย่างของวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ในการสำรวจเกาะมากมายและสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลาย ทุกขณะคือการเฉลิมฉลองและการค้นพบ รอคอยให้คุณตามไปสัมผัสกับประสบการณ์นี้ในสไตล์อันว่างามและหรูหรา

ท่าเรือโลบิโต้ (Lobito) ตั้งอยู่ระหว่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและนามิเบีย บนชายฝั่งที่สวยงามของแองโกลา เป็นเมืองเล็ก ๆ ในจังหวัดเบ็งกูเอลา ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานอยู่ภายใต้การปกครองของโปรตุเกส แม้ว่าเมืองนี้จะได้รับผลกระทบจากสงครามกลางเมือง แต่ก็มีการฟื้นฟูและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากประเทศจีนและบราซิลในการสร้างระบบรถไฟฟ้า โลบิโต้ไม่เพียงแค่มีท่าเรือที่สำคัญ แต่ยังมีชายหาดที่ยังคงความงดงามตามธรรมชาติ ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่รักการพักผ่อนริมชายทะเล นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่งชาติที่กว้างขวาง และวัฒนธรรมที่อัดแน่นด้วยมรดกทางประวัติศาสตร์ที่หลากหลาย สัมผัสกับเวทมนตร์ของโลบิโต้ ให้คุณได้มีโอกาสท่องเที่ยวในบรรยากาศอันสงบเสงี่ยม ทำให้มันเป็นจุดหมายปลายทางที่แปลกใหม่สำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่แตกต่างและความสงบสุขกลางธรรมชาติ เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่โลบิโต้ และรับรู้ถึงคุณค่าของการเดินทางที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตคุณ!


วอลวิสเบย์ (Walvis Bay) ท่าเรือที่เคยเป็นสถานีล่าวาฬ เป็นประตูสู่ทิวทัศน์ทะเลทรายที่งดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของนามิเบีย สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ ซึ่ที่ประทับใจที่สุดคืออ่าวลุ่มน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีความโดดเด่นในการเป็นที่พักอาศัยของนกฟลามิงโกในช่วงเวลาหนึ่งของปี นอกจากนี้ยังมีนกน้ำหลากหลายชนิด เช่น เปลิแกนขาว ที่จะทำให้ท่านประทับใจไปกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ เมื่อมุ่งเข้าสู่ภายในทุ่งทะเลทราย ท่านจะได้พบกับทะเลทรายอันน่าทึ่งของนามิบ (Namib Desert) ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึงผู้กล้าหาญที่จะเยือนซอสซุสเวลล์ (Sossusvlei) ที่มีเนินทรายสีส้มอันโดดเด่น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก สัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เมืองสวาคอปมุนด์ (Swakopmund) ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอาณานิคมให้ท่านได้ชม วอลวิสเบย์ไม่เพียงแค่ท่าเรือที่มีความสำคัญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่จะนำท่านสู่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คงจะเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในทุกการเดินทางของคุณ

วอลวิสเบย์ (Walvis Bay) ท่าเรือที่เคยเป็นสถานีล่าวาฬ เป็นประตูสู่ทิวทัศน์ทะเลทรายที่งดงามอันเป็นเอกลักษณ์ของนามิเบีย สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงามทางธรรมชาติ ซึ่ที่ประทับใจที่สุดคืออ่าวลุ่มน้ำธรรมชาติ ซึ่งมีความโดดเด่นในการเป็นที่พักอาศัยของนกฟลามิงโกในช่วงเวลาหนึ่งของปี นอกจากนี้ยังมีนกน้ำหลากหลายชนิด เช่น เปลิแกนขาว ที่จะทำให้ท่านประทับใจไปกับความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ เมื่อมุ่งเข้าสู่ภายในทุ่งทะเลทราย ท่านจะได้พบกับทะเลทรายอันน่าทึ่งของนามิบ (Namib Desert) ซึ่งเป็นบ้านของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด รวมถึงผู้กล้าหาญที่จะเยือนซอสซุสเวลล์ (Sossusvlei) ที่มีเนินทรายสีส้มอันโดดเด่น ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเนินทรายที่สูงที่สุดในโลก สัมผัสกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เมืองสวาคอปมุนด์ (Swakopmund) ซึ่งมีสถาปัตยกรรมอาณานิคมให้ท่านได้ชม วอลวิสเบย์ไม่เพียงแค่ท่าเรือที่มีความสำคัญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่จะนำท่านสู่ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร คงจะเป็นอีกหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในทุกการเดินทางของคุณ

ลูเดอritz ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลแห่งทะเลทรายหนามิบิอั้น สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของหมู่บ้านเล็กๆ ในศตวรรษที่ 19 ที่มองเห็นวิวทะเลอันวิจิตรตระการตาของมหาสมุทรแอตแลนติกใต้ การกลับมาของเหมืองเพชรที่อีลิซาเบธเบย์ในปีที่ผ่านมา เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้การท่องเที่ยวและการประมงกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง เพื่อนำพาความงดงามและความเป็นเอกลักษณ์ในแบบเมืองเยอรมันแห่งนี้ไปให้ทุกคนได้สัมผัส ในลูเดอritz นักท่องเที่ยวจะได้พบกับคาเฟ่ที่น่ารื่นรมย์ ร้านค้าอาหารที่หลากหลายและโบสถ์ลูเทอแรนที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ธรรมชาติรอบตัวเธออัดแน่นไปด้วยชีวิตของสัตว์ทะเล นกเพนกวินและแมวน้ำที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง และยังมีชายหาดที่เต็มไปด้วยนกฟลามิงโก้ โดยคุณจะรู้สึกถึงบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงาม อย่างไรก็ตาม ลูเดอritz ยังมีอดีตที่น่าทึ่งที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการประมง ซึ่งสามารถเล่าเรื่องราวของเมืองนี้ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1883 สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวในลูเดอritz ที่ไม่เหมือนใคร พร้อมด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความสวยงามและจินตนาการ รับรองว่าจะทำให้คุณมีความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน!
ท่าเรือพอร์ตนอลโลธ (Port Nolloth) ตั้งอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ลงตัวสำหรับการออกสำรวจความงดงามตามธรรมชาติของทะเลทรายอาคาโบ (Namaqualand) และแนวชายฝั่งที่อุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นี่เป็นที่รู้จักในฐานะท่าเรือเชิงพาณิชย์ที่สำคัญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการประมง นอกจากนี้ยังมีดำน้ำตื้นที่ยอดเยี่ยม ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับโลกใต้ทะเลที่เต็มไปด้วยชีวิตที่แปลกตา ไม่ไกลจากพอร์ตนอลโลธ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเช่น น้ำตกน้ำเค็ม (Sandy Point) และโครงการรักษาสิ่งแวดล้อมของสัตว์น้ำที่ช่วยอนุรักษ์สัตว์ทะเลที่น่ารัก อย่างแมวน้ำและเพนกวินที่ชื่นชมได้ในช่วงฤดูร้อน เมื่อมาเยือนจะได้สัมผัสกับความเป็นอยู่ของชุมชนท้องถิ่น และประสบการณ์การทำอาหารที่เต็มไปด้วยรสชาติ สำหรับนักเดินทางที่มองหาความหรูหราและประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น พอร์ตนอลโลธ มอบทั้งความสงบและกิจกรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน เหมาะแก่การเติมเต็มจิตวิญญาณนักเดินทาง ขอเชิญคุณมาสำรวจความงามที่รอคุณอยู่ในเส้นทางแห่งนี้!
แลมเบิร์ตสเบย์ (Lambert's Bay) คือหนึ่งในท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ในประเทศแอฟริกาใต้ ที่นำเสนอประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร สำหรับผู้ที่รักการสำรวจชายทะเลและสัมผัสธรรมชาติอันงดงาม ตั้งอยู่บนชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่ไกลจากเมืองเคปทาวน์ ในการเดินทางมาที่นี่ คุณจะได้พบกับทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ อาทิเช่น ชายหาดที่ขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าคราม และที่ราบสวยงามรายล้อมไปด้วยภูเขา หนึ่งในไฮไลท์ของแลมเบิร์ตสเบย์คือเกาะไคท์ (Bird Island) ที่เป็นที่อยู่อาศัยของนกเพนกวินและนกทะเลหลายพันตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมความน่ารักและพฤติกรรมของนกเหล่านี้ได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางน้ำต่างๆ เช่น การตกปลา และการเล่นเซิร์ฟ ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ แลมเบิร์ตสเบย์จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การหลีกหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน สร้างโอกาสในการสร้างความทรงจำระหว่างการเดินทางและสัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจที่หาไม่ได้จากที่ไหนในโลก พร้อมที่จะเดินทางไปค้นพบแลมเบิร์ตสเบย์แล้วหรือยัง?
เซนต์เฮเลนาเบย์ (Saint Helena Bay) ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกาใต้ คือจุดหมายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ท่าเรือนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “เพชรในมหาสมุทร” เพราะบรรยากาศที่เงียบสงบและทิวทัศน์ที่สวยงามของชายฝั่งทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนจากความวุ่นวาย ท่าเรือแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องการตกปลาและการชมปลาโลมา ที่คุณสามารถเข้าไปสัมผัสความงามตามธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น ชายหาดที่เงียบสงบและน้ำทะเลสีฟ้าใส นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการชมวาฬในช่วงฤดูหลอกลวง ซึ่งเป็นที่นิยมของนักเดินทางที่หวังจะเห็นเจ้าปลาจากเกาะทะเลที่ออกมาโชว์ตัว นอกจากกิจกรรมทางน้ำแล้ว เซนต์เฮเลนาเบย์ยังมีเส้นทางป่าและจุดชมวิวที่น่าหลงใหล ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด จบการเดินทางที่ท่าจอดเรือแห่งนี้จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่น และกลับมาพร้อมกับความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ ควรทิ้งเวลาไว้เพื่อสำรวจและสัมผัสวัฒนธรรมของท้องถิ่นซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนที่นี่

เคปทาวน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เมืองแม่" เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงที่สุดในแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าอันสำคัญของโลก โดยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ถูกก่อตั้งโดยนักสำรวจชาวดัตช์ ยาน แวน รีบีกในปี 1652 นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลจากหลากหลายวัฒนธรรม เช่น ชาวดัตช์ อังกฤษ และมลายู ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นละแวกที่มีเอกลักษณ์และความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เคปทาวน์ไม่เป็นเพียงท่าเรือที่สำคัญสำหรับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์และผลไม้สด แต่ยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการประมงที่มีเรือประมงขนาดใหญ่จากเอเชียเข้ามาใช้พื้นที่นี้ในการซ่อมบำรุงอีกด้วย สถานที่แห่งนี้ยังโดดเด่นด้วยความงดงามของธรรมชาติ โดยมีภูเขาเทเบิลและหัวสิงโตที่ตระการตา รวมถึงอุทยานธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์เช่น เคิร์สเตนบอส ซึ่งมีพันธุ์พืชพื้นเมืองที่หลากหลาย อากาศในเคปทาวน์มีความแปรปรวน สามารถแปรเปลี่ยนจากแดดจ้าไปยังพายุฝนฟ้าคะนองได้ในเวลาอันสั้น เมืองนี้จึงเป็นที่ตั้งของคำพูดที่ว่า "ในเคปทาวน์คุณสามารถสัมผัสได้ถึงสี่ฤดูในวันเดียว" สัมผัสความเร้าใจนี้ในทริปสุดหรูของคุณที่เคปทาวน์ พร้อมค้นพบประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม!

เคปทาวน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "เมืองแม่" เป็นท่าเรือที่มีชื่อเสียงที่สุดในแอฟริกาใต้ ตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าอันสำคัญของโลก โดยมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานตั้งแต่ถูกก่อตั้งโดยนักสำรวจชาวดัตช์ ยาน แวน รีบีกในปี 1652 นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลจากหลากหลายวัฒนธรรม เช่น ชาวดัตช์ อังกฤษ และมลายู ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นละแวกที่มีเอกลักษณ์และความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง เคปทาวน์ไม่เป็นเพียงท่าเรือที่สำคัญสำหรับการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์และผลไม้สด แต่ยังเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมการประมงที่มีเรือประมงขนาดใหญ่จากเอเชียเข้ามาใช้พื้นที่นี้ในการซ่อมบำรุงอีกด้วย สถานที่แห่งนี้ยังโดดเด่นด้วยความงดงามของธรรมชาติ โดยมีภูเขาเทเบิลและหัวสิงโตที่ตระการตา รวมถึงอุทยานธรรมชาติและสวนพฤกษศาสตร์เช่น เคิร์สเตนบอส ซึ่งมีพันธุ์พืชพื้นเมืองที่หลากหลาย อากาศในเคปทาวน์มีความแปรปรวน สามารถแปรเปลี่ยนจากแดดจ้าไปยังพายุฝนฟ้าคะนองได้ในเวลาอันสั้น เมืองนี้จึงเป็นที่ตั้งของคำพูดที่ว่า "ในเคปทาวน์คุณสามารถสัมผัสได้ถึงสี่ฤดูในวันเดียว" สัมผัสความเร้าใจนี้ในทริปสุดหรูของคุณที่เคปทาวน์ พร้อมค้นพบประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม!





ห้องสวีทใหญ่ เป็นที่พักสุดหรูมอบความสะดวกสบายอย่างครบครัน ด้วยพื้นที่แยกสำหรับนอนและนั่งเล่น รวมถึงพื้นที่รับประทานอาหารที่ให้ความเป็นส่วนตัว พื้นที่นอนมีวิวพานอรามาที่งดงาม พร้อมเตียงที่สามารถแยกได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังมีทีวีทั้งในพื้นที่นั่งเล่นและนอน มีระเบียงส่วนตัวที่ติดตั้งเครื่องทำความร้อนในช่วงที่อากาศหนาวเย็น ห้องน้ำธรรมชาติพร้อมอ่างอาบน้ำแบบยืนและฝักบัวฝน พร้อมด้วยการเข้าถึงระเบียงรวมถึงห้องอบไอน้ำในบริเวณฝักบัว และผนังห้องน้ำที่มีความร้อนสำหรับการวางผ้าเช็ดตัวและเสื้อแจ็คเก็ตเปียก ห้องสวีทใหญ่มีห้องสุขาแยกต่างหากและมินิบาร์ฟรี รวมถึงเครื่องชงกาแฟ นอกจากนี้ยังมีระบบสาระบันเทิงที่หลากหลายเช่น การถ่ายทอดสด การบันทึกการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ กล้องมองด้านหน้า แผนที่นำทาง ภาพยนตร์และอีกมากมาย รวมถึงมีกล้องส่องทางไกลและไม้เดินป่านอร์ดิกในห้องพัก เพื่อความสะดวกสบายยังมีบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง และบริการบัตเลอร์ พร้อมการจองโต๊ะในร้านอาหารหลัก และใช้งาน Wi-Fi ฟรีตามต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การล่องเรือที่หรูหราแบบไม่มีวันลืมที่ห้องสวีทใหญ่ของเรา


ห้องจูเนียร์สวีท เป็นห้องที่มีการออกแบบอย่างลงตัว พร้อมพื้นที่การใช้สอยที่แบ่งแยกอย่างชัดเจน โดยมีพื้นที่นั่งเล่นและนอนที่แยกจากกัน รวมถึงพื้นที่รับประทานอาหารที่เปิดกว้าง และมุมมองแบบพาโนรามาจากพื้นที่นอน ทำให้สามารถชมวิวทะเลได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถปรับเตียงให้แยกออกจากกันได้ตามความต้องการ มีทีวีให้บริการทั้งในพื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่นอน เพื่อความบันเทิงที่ครอบคลุม ห้องน้ำมีความหรูหรา พร้อมด้วยอ่างล้างหน้าสองอ่าง และฝักบัวแบบฝน ซึ่งเพิ่มความสบายให้แก่ผู้เข้าพัก นอกจากนี้ยังแยกห้องสุขาออกมาอย่างชัดเจน และมีซาวน่าคล้ายไอน้ำในพื้นที่อาบน้ำ เพื่อให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ โดยมีผนังอุ่นเพื่อความสะดวกในการใช้ผ้าขนหนูหรือเสื้อผ้าที่เปียก ภายในห้องยังมีมินิบาร์ฟรีและเครื่องชงกาแฟให้บริการ คุณสามารถเพลิดเพลินกับระบบบันเทิงที่หลากหลาย รวมถึงการถ่ายทอดสดและบันทึกการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ กล้องมองด้านหน้า แผนที่นำทาง รวมถึงภาพยนตร์ต่าง ๆ และอุปกรณ์อย่างกล้องส่องทางไกลและไม้เท้านอร์ดิก เพื่อการสำรวจในระหว่างการเดินทาง บริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมงและการจองโต๊ะในห้องอาหารหลัก (สำหรับแพ็คเกจ PLATINUM และ GOLD) ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพิเศษที่ให้บริการ โดยมีบัตเลอร์ส่วนตัวที่คอยบริการคุณอย่างใกล้ชิด ทำให้ห้องจูเนียร์สวีท เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายบนเรือสำราญ.

ห้องพักระเบียงคือห้องพักที่มอบความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกมิติ ภายในห้องมีผนังที่ให้ความร้อนในห้องน้ำ เหมาะสำหรับการอบผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าที่เปียกฝน นอกจากนี้ยังมีฝักบัวแบบฝนที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ผ่อนคลายในธรรมชาติ พร้อมด้วยมินิบาร์ฟรีที่มีเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องชงกาแฟส่วนตัวเพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ห้องพักจัดเตรียมเตียงที่สามารถแยกเป็นสองเตียงได้ตามต้องการ รวมถึงระบบบันเทิงครบครัน ที่มาพร้อมกับการถ่ายทอดสดและบันทึกการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ มีกล้องมองไปข้างหน้า แผนที่นำทาง ภาพยนตร์ และอื่นๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเข้าพัก นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ เช่น กล้องส่องทางไกลและไม้เดิน Nordic Walking พร้อมบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง ห้องพักระเบียงยังมีห้องหนึ่งที่ออกแบบให้สามารถเข้าถึงได้อย่างเต็มที่ พร้อมอุปกรณ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้าพักทุกคน ทำให้ทุกทริปของคุณเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำและสะดวกสบายอย่างแท้จริง

ห้องโดยสารระเบียงฝรั่งเศสในหมวด 3 บนชั้น 6 มีขนาดประมาณ 23 ตารางเมตร (248 ตารางฟุต) และห้องโดยสารในหมวด 5 บนชั้น 7 จะมีขนาดประมาณ 21 ตารางเมตร (226 ตารางฟุต) ห้องโดยสารที่มีระเบียงอยู่ที่ด้านท้ายมีแปลนพื้นแตกต่างออกไปเล็กน้อย สำหรับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ห้องน้ำมีผนังที่ทำให้ความร้อนซึ่งเหมาะสำหรับการแขวนผ้าเช็ดตัวและเสื้อกันฝนเปียก นอกจากนี้ยังมีฝักบัวฝนที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในธรรมชาติ ห้องพักยังมีมินิบาร์ฟรี (เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์) และเครื่องชงกาแฟเพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มสดชื่นตลอดการเดินทาง เตียงสามารถแยกออกได้ตามความต้องการ พร้อมด้วยระบบสื่อสารที่หลากหลาย เช่น การถ่ายทอดสดและการบันทึกการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ กล้องมองจากด้านหน้า แผนที่นำทาง และภาพยนตร์ต่างๆ ห้องโดยสารยังมีบริการ 24 ชั่วโมง และสำหรับผู้ที่ต้องการการเข้าถึงแบบพิเศษ มีห้องโดยสารที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับทุกคน (ห้อง 404) นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อย่างกล้องส่องทางไกลและไม้เดิน Nordic Walking เพื่อส่งเสริมการสำรวจในระหว่างการเดินทางของคุณ

ห้องพาโนรามาเป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนที่น่าหลงใหล โดยมีขนาดกว้างขวางและมีการจัดวางที่สะดวกสบาย พร้อมข้อมูลบันเทิงที่หลากหลาย รวมถึงการถ่ายทอดสดและบันทึกการนำเสนอจากผู้เชี่ยวชาญ กล้องที่มองไปข้างหน้า แผนที่นำทาง และภาพยนตร์ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีที่นั่งที่สามารถแยกจากกันได้ ซึ่งทำให้ห้องนี้เหมาะสำหรับทุกประเภทของผู้เข้าพัก ห้องน้ำถูกติดตั้งผนังทำความร้อนเพื่อให้มีความอบอุ่นสำหรับผ้าเช็ดตัวและชั้นบังแดดในเวลาหลังการใช้งาน มีฝักบัวฝนที่ช่วยให้การอาบน้ำเป็นประสบการณ์ที่สดชื่น นอกจากนี้ยังมีมินิบาร์ฟรีสำหรับเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องชงกาแฟสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟอย่างแท้จริง รวมถึงบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การเข้าพักของคุณเป็นไปอย่างสะดวกสบายที่สุด นอกจากนี้ ห้องพาโนรามายังมีอุปกรณ์สำหรับการเดินทาง เช่น ส่องทางไกลและไม้สำหรับเดิน Nordic Walking เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เข้าพักได้อย่างครบถ้วน

ห้องพักภายนอกเป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราในทุกการเข้าพัก ขนาดห้องกว้างขวางพร้อมบริการที่เหนือระดับ การตกแต่งภายในเน้นให้มีความร่วมสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย บริการฟรีมินิบาร์ที่มีน้ำอัดลมและเครื่องชงกาแฟที่ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาสบายๆ ในห้องพัก นอกจากนี้ยังมีฝักบัวฝนที่ให้ประสบการณ์การอาบน้ำที่ผ่อนคลาย และผนังระบายความร้อนในห้องน้ำเพื่อให้คุณอบอุ่นตลอดทั้งวัน สำหรับความบันเทิงภายในห้องพัก ห้องนี้ยังมีระบบ infotainment ที่มีรายการถ่ายทอดสด การบันทึกการนำเสนอโดยผู้เชี่ยวชาญ กล้องมองข้างหน้า แผนที่การเดินเรือ และภาพยนตร์ต่างๆ รวมทั้งอุปกรณ์สำหรับการเดิน Nordic Walking และกล้องส่องทางไกลเพื่อให้คุณได้สำรวจบรรยากาศรอบๆ ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด หวังว่าการเข้าพักในห้องพักภายนอกจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมอย่างแท้จริง