เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!

นอกเหนือจากความหนาวเย็นสะท้านของเทือกเขาและอาณาเขตที่ยิ่งใหญ่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง Nuuk หรือที่รู้จักกันในนาม “คาบเกี่ยว” เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์ยาวนานของกรีนแลนด์ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย สถานที่สำคัญได้แก่ บ้านของฮานส์ เอเกเด ผู้เผยแพร่ศาสนาหนึ่งในผู้ก่อตั้งเมือง และรัฐสภา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับโบสถ์แห่งพระผู้ช่วยให้รอด อวดโฉมความเรียบง่ายแต่สง่างาม นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรีนแลนด์ ที่จัดแสดงชุดพื้นเมืองที่น่าทึ่ง รวมถึงมัมมี่ Qilakitsoq ที่มีชื่อเสียงเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ นอกจากนี้ Katuaq Cultural Center อันมีรูปทรงที่ถูกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากแสงออโรร่า ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมวัฒนธรรมที่สำคัญของเมือง พร้อมรองรับผู้คนได้กว่า 10% ของประชากร Nuuk ท่าจอดเรือใน Nuuk ไม่เพียงเป็นจุดแวะพักผ่อนอันสงบสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจแผ่นดินที่มีชีวิตชีวาของกรีนแลนด์ ที่นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและสัมผัสกับวัฒนธรรมที่ยาวนาน พร้อมทั้งสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ!

เอเวกิดสฟยอร์เดน (Evighedsfjorden) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวในกรีนแลนด์ ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดจอดเรือสำราญที่สำคัญแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ช่วยให้คุณสัมผัสประสบการณ์อันน่าหลงใหลในความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเอสกิโม ท่าเรือที่ตั้งอยู่ในเฟยร์เวสตน์ (Frederiksdal) นี้ เหล่าผู้ที่มาที่นี่จะได้ตื่นตาตื่นใจกับภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของแนวหินและธารน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะในฤดูร้อนที่ท้องฟ้าปลอดโปร่งวิวทิวทัศน์ยิ่งงดงามราวกับภาพฝัน สำหรับกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินได้ในเอเวกิดสฟยอร์เดน เริ่มต้นจากการล่องเรือไปตามฟยอร์ด เพื่อสัมผัสกับความเงียบสงบและบรรยากาศอันบริสุทธิ์ของทะเลเหนือ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้พบเจอกับสัตว์ทะเลที่สวยงาม เช่น วาฬและนกทะเลต่างๆ วัฒนธรรมของชาวกรีนแลนด์ยังช่วยเสริมสร้างความเข้มข้นในการเดินทาง เช่น การรับประทานอาหารพื้นเมืองที่อัดแน่นไปด้วยรสชาติของทะเลเหนือ เอเวกิดสฟยอร์เดน เป็นจุดหมายปลายทางที่สร้างแรงบันดาลใจและทำให้ความฝันในการเดินทางของคุณเป็นจริง ด้วยอะดรีนาลีนที่หลั่งไหลและประสบการณ์อันยากจะลืมเลือนในอ้อมกอดของธรรมชาติอันกว้างใหญ่ของกรีนแลนด์

ซิซิมิอุท (Sisimiut) คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่มีจิตวิญญาณการผจญภัย ตั้งอยู่ทางเหนือของวงกลมอาร์กติก ประเทศกรีนแลนด์ ท่าเรือนี้เป็นท่าเรือที่ปลอดภัยจากน้ำแข็งในฤดูหนาวและเป็นเมืองที่มีหิมะและน้ำแข็งหนาแน่นสำหรับการนั่งเลื่อนสุนัขในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ เมืองซิซิมิอุทมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,500 ปี ทำให้ที่นี่เป็นจุดสัมผัสของวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เมืองซิซิมิอุทไม่เพียงเป็นศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรมของกรีนแลนด์ตอนเหนือ แต่ยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วอยู่ในขณะนี้ การทำประมงเชิงพาณิชย์เป็นกิจกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับเมือง นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังสามารถได้สัมผัสกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย เช่น การเดินป่าในธรรมชาติอันสวยงาม การชมสัตว์ป่า และการสัมผัสวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมือง หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ซิซิมิอุทคือที่ที่คุณต้องมาเยือน โดยคุณจะได้สัมผัสกับความงามของอาร์กติกและความน่าสนใจของวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของกรีนแลนด์อย่างแท้จริง

สนุกไปกับการเดินทางสู่ Ilulissat หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แหล่งกำเนิดของภูเขาน้ำแข็ง” ภายในฟยอร์ดที่งดงามแห่งนี้ ผลผลิตน้ำแข็งถึง 20 ล้านตันต่อวัน ทำให้สถานที่แห่งนี้นับเป็นหนึ่งในมรดกธรรมชาติที่สำคัญของกรีนแลนด์ โดยคำว่า “Ilulissat” ในภาษาคาลาลลิซุตแปลว่า "ภูเขาน้ำแข็ง" เมือง Ilulissat เป็นเมืองที่มีความสงบสุข มีประชากรประมาณ 4,500 คน ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามในกรีนแลนด์ สภาพอากาศที่นี่มักจะเย็นสบายเนื่องจากความใกล้ชิดกับฟยอร์ด ที่นี่ยังมีสุนัขลากเลื่อนอาศัยอยู่แทบไม่ต่างจากจำนวนคน ทำให้บรรยากาศของเมืองเต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นซึ่งตั้งอยู่ในบ้านเดิมของ Knud Rasmussen นักสำรวจที่มีชื่อเสียง อีกทั้งการเดินทางล่องเรือไปชมทัศนียภาพอันตระการตาของภูเขาน้ำแข็งสร้างความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ณ Ilulissat หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หลงใหลในกรีนแลนด์ที่คุณต้องไม่พลาด!

พบกับพอร์ตที่น่าตื่นตาตื่นใจที่ตั้งอยู่บนเกาะบาฟฟินช่วงเหนือของแคนาดา นั่นคือ "Pond Inlet" ซึ่งมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมชาวอินูอิต และเป็นที่ตั้งของประชากรประมาณ 1,500 คน ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับความงามของธารน้ำแข็งและเทือกเขาที่สวยงาม ซึ่งทำให้ Pond Inlet กลายเป็นหนึ่งใน "อัญมณีแห่งทางเหนือ" ของแคนาดา Pond Inlet ยังมีมรดกทางวัฒนธรรมที่มีค่า ด้วยการค้นพบโบราณสถานที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชาวดอร์เซตและทูล ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ในอดีต พื้นที่นี้เป็นที่รู้จักในด้านการล่าสัตว์ เช่น มาการิเบา แมวน้ำ น้ำแข็ง และสัตว์ในพื้นที่อื่น ๆ อาทิ หมีขั้วโลกและนาร์วาล ซึ่งสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ในธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ Pond Inlet ยังเป็นศูนย์กลางของศิลปะชาวอินูอิต โดยเฉพาะงานพิมพ์และการแกะสลักหินที่มีสไตล์เฉพาะตัวซึ่งสามารถพบได้ในแกลเลอรีศิลปะต่างๆ ในเมืองนี้ หนึ่งในนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นในการค้นพบความงามของแคนาดาที่น่าหลงใหล เป็นแรงบันดาลใจให้คุณก้าวเข้าสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์และวัฒนธรรมล้ำค่ารอบตัวคุณ!

ดันดาสฮาร์เบอร์ ติดอยู่ในภูมิภาคที่งดงามของเกาะเดวอน ซึ่งเป็นเกาะที่หกใหญ่ที่สุดในแคนาดา มันเป็นสถานที่ที่เงียบเหงาแต่มีความงามที่เข้มข้น เกาะนี้ถูกค้นพบครั้งแรกโดยนักสำรวจอังกฤษ โรเบิร์ต ไบลอท และวิลเลียม แบฟฟิน ในปี 1616 แต่มาเป็นที่รู้จักในแผนที่หลังการสำรวจโดยวิลเลียม เอ็ดเวิร์ด พาร์รีในช่วงปี 1820 พาร์รีได้ตั้งชื่อเกาะนี้ตามชื่อของเมืองเดวอนในอังกฤษ ในภาษาอินุกทิทูต (Inuktitut) ที่นี่ถูกเรียกว่า "ตาลลูรูติ" ซึ่งมีความหมายว่า “คางของผู้หญิงที่มีรอยสัก” สะท้อนถึงร่องลึกและริ้วที่ปรากฏบนเกาะ ผู้ที่เยือนดันดาสฮาร์เบอร์ยังสามารถค้นพบซากโบราณคดีของชุมชนธูเลซึ่งมีอายุกว่า 1,000 ปี รวมถึงวงแวนก tent รูปแบบต่าง ๆ และสุสาน ตลอดจนจุดลาดตระเวนของตำรวจม้าแคนาดาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1924 เพื่อควบคุมกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในเส้นทางน้ำที่สำคัญ ด้วยลักษณะภูมิประเทศและชายฝั่งที่เป็นเอกลักษณ์ บริเวณนี้ชวนให้หลงใหลในเสน่ห์ของฤดูร้อนขั้วโลก และเป็นโอกาสที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันการผจญภัยในดินแดนที่ประวัติศาสตร์และธรรมชาติเข้ากันอย่างลงตัว.

ท่าน้ำที่นำเสนอในบทความนี้คือ "Croker Bay" ตั้งอยู่ในภูมิภาค Nunavut ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งอันงดงามที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันมหัศจรรย์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ Croker Bay ตั้งอยู่ในเขตอาร์กติก ทำให้สิ่งแวดล้อมรอบๆ มีความแตกต่างจากท่าเรืออื่นๆ ในโลก ท่านี้มีความน่าสนใจเนื่องจากเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเดินทางสำราญของผู้ที่รักธรรมชาติและการสำรวจ คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่สวยงามของภูมิทัศน์น้ำแข็ง รวมถึงความสามารถในการเห็นสัตว์ป่าอาร์กติก เช่น หมีขั้วโลก แมวน้ำ และนกหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในเขตนี้ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของชาว Inuit ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และชีวิตประจำวันในพื้นที่นี้ อีกทั้งยังมีโอกาสเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เช่น การปีนเขา การพายเรือแคนู และการล่าปลาในช่วงฤดูกาล Croker Bay ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่เปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจความงามที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับชีวิตในพื้นที่อาร์กติกอันหนาวเหน็บและเงียบสงบ ที่นี่คือสถานที่ที่คุณจะได้สร้างความทรงจำและแรงบันดาลใจในทุกก้าวที่คุณก้าวเดิน.

Beechey Island ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ Devon ในแคนาดา เป็นจุดเชื่อมที่มีประวัติศาสตร์อันน่าสนใจในแวดวงการสำรวจอาร์กติก จุดเด่นที่ทำให้เกาะแห่งนี้มีเสน่ห์คือการที่เคยเป็นที่ตั้งแคมป์ของ Sir John Franklin และลูกทีมในช่วงฤดูหนาวปี 1845-1846 ขณะมุ่งหน้าค้นหา Northwest Passage ที่หายไป การค้นพบซากศพที่ถูกทำให้มอมแมมของลูกทีมสามคนทำให้เราเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนการหายตัวไปของการสำรวจนี้ นอกจากนี้ Beechey Island ยังมีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ที่นักสำรวจที่มีชื่อเสียงอย่าง Roald Amundsen ได้แวะพักในปี 1903 ก่อนที่จะออกเดินทางในเส้นทางที่สำเร็จในการค้นหา Northwest Passage แม้เป็นเกาะเล็ก ๆ แต่ Beechey Island ก็ถูกประกาศให้เป็น "สถานที่ประวัติศาสตร์เขตแดน" โดยรัฐบาล Northwest Territories ตั้งแต่ปี 1975 มอบให้แก่นักท่องเที่ยวได้ศึกษาและสัมผัสกับมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เชิญคุณมารับประสบการณ์การเดินทางที่ไม่มีวันลืมที่ Beechey Island เพื่อสำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันล้ำค่าของแถบอาร์กติก และดื่มด่ำกับธรรมชาติที่งดงามและเงียบสงบในพื้นที่แห่งนี้ ที่ที่ประวัติศาสตร์และความงามของธรรมชาติรอให้คุณค้นพบ.

ท่าเรือฟอร์ตรอสในนูนาวุต ประเทศแคนาดา คือจุดหมายที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักการผจญภัยและธรรมชาติ ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในดินแดนมหัศจรรย์ที่มีวิวทิวทัศน์อันงดงามของน้ำแข็งและภูเขา เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของผู้หลงใหลในความบริสุทธิ์ทางธรรมชาติ เมื่อคุณเดินทางมายังฟอร์ตรอส คุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมของชาวอินูอิต ที่มีเรื่องราวที่น่าทึ่งและเปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์ ไกด์นำเที่ยวจะพาคุณไปสำรวจบ้านดั้งเดิมของชาวอินูอิตและสอนคุณเกี่ยวกับวิถีชีวิตที่เคยรุ่งเรืองในภูมิภาคนี้ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อคุณได้ฟังเรื่องราวทอดยาวจากคนท้องถิ่นจะทำให้คุณประทับใจและขยายมุมมองเกี่ยวกับชีวิตในดินแดนที่หนาวเย็นนี้ นอกจากนี้กิจกรรมกลางแจ้งยังเป็นที่นิยมที่ฟอร์ตรอส คุณสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินป่า, การล่าแสงเหนือ หรือการตกปลาในทะเลน้ำแข็ง ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับธรรมชาติอันแสนมหัศจรรย์ของแคนาดาอย่างใกล้ชิด ด้วยความเงียบสงบและความงามของฟอร์ตรอส คุณจะได้พบกับประสบการณ์ที่หาตัวจับยาก เลือกให้ฟอร์ตรอสเป็นจุดหมายในการเดินทางและสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในชีวิตคุณ!

สัมผัสความงามที่ไม่เหมือนใครที่ท่าเรือเบลอตสเตรต (Bellot Strait) ตั้งอยู่ในเขตนูนาวุต ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างมุมโลกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยทิวทัศน์ที่สดใสและธรรมชาติอันเหนือจริง เบลอตสเตรตเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์การเดินเรือที่สวยงามทางตอนเหนือสุดของแคนาดา ท่าเรือแห่งนี้เป็นเส้นทางที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ ช่วยให้คุณสำรวจโลกที่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและภูเขาที่สูงเสียดฟ้า นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นแหล่งอุดมไปด้วยสัตว์ป่าหายาก เช่น หมีขั้วโลกและนกนานาชนิด การเยือนเบลอตสเตรต จึงไม่เพียงเปิดให้คุณได้ชมทิวทัศน์ที่น่าตื่นตา แต่ยังมอบโอกาสในการศึกษาธรรมชาติที่ไม่ธรรมดา ในบริเวณใกล้เคียง ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ตั้งแต่วัฒนธรรมพื้นเมืองที่เข้มข้นไปจนถึงประวัติศาสตร์การเดินทางที่น่าติดตาม ทุก ๆ สถานที่ล้วนพร้อมเปิดประสบการณ์ที่จะทำให้คุณประทับใจและแสวงหาความสะดวกสบายในทริปที่หรูหราและเป็นเอกลักษณ์ สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่รักการผจญภัยได้เข้าถึงโลกใหม่ ๆ ที่งดงาม และเตรียมพร้อมไปสัมผัสอารยธรรมที่แสนมีเสน่ห์ของแดนเหนือสุดของแคนาดา

ท่าเรือคอนนิ่งแฮมเบย์ (Coningham Bay) ตั้งอยู่ในนูนาวุต ประเทศแคนาดา คือลานจอดเรือที่สวยงามพิเศษซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความงดงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง ท่าเรือนี้เป็นประตูสู่ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ จะพานักท่องเที่ยวไปสำรวจภูมิทัศน์ที่งดงามตั้งแต่ภูเขาไปจนถึงน้ำทะเลฟ้าคราม เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า คุณจะได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าหลงใหล ลองไปเดินเล่นตามชายฝั่งและสัมผัสกับความสงบสุขของโลกที่ยังไม่ถูกแตะต้อง และอย่าลืมเยี่ยมชมหมู่บ้านชนเผ่าพื้นเมืองที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อศึกษาเกี่ยวกับวิถีชีวิตและประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน นอกจากนี้ ในฤดูร้อนคุณอาจได้พบกับประสบการณ์การชมชีวิตสัตว์ป่าที่น่าตื่นตาตื่นใจ เช่น การเห็นวาฬหลังค่อมที่แหวกว่ายในน้ำหรือฝูงนกจำนวนมากในฤดูการอพยพ ซึ่งจะทำให้การเดินทางของคุณมีความพิเศษและน่าจดจำ ด้วยความงดงามที่สมบูรณ์แบบ นี่คือสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่เดินทางผ่านคอนนิ่งแฮมเบย์ สัมผัสความงามของดินแดนเหนือและสร้างประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมให้กับคุณและคนที่คุณรัก.

ยินดีต้อนรับสู่ Gjoa Haven ท่าเรือที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค Nunavut ประเทศแคนาดา ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใครและมีเสน่ห์ดึงดูดใจนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมที่แตกต่างจากที่เคยพบเห็น Gjoa Haven มีประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจเกี่ยวกับการสำรวจขั้วโลก โดยเป็นสถานที่ที่ โรเบิร์ต พีรี ได้จอดเรือในช่วงการเดินทางสำรวจขั้วโลกเหนือ นอกจากนี้ยังมีชุมชน Inuit ที่รักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมพื้นเมืองไว้อย่างดี การเยี่ยมชม Gjoa Haven จะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวอินูอิต ชมศิลปะและงานฝีมือที่มีทั้งความสวยงามและบอกเล่าเรื่องราวของผู้คนที่นี่ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับการผจญภัยกลางแจ้งที่ไม่เหมือนใคร เช่น การเดินทางด้วยสโนว์โมบิล การตกปลาในน้ำแข็ง หรือการออกเดินสำรวจธรรมชาติที่สวยงามรอบๆ หากคุณใฝ่ฝันถึงประสบการณ์ที่แปลกใหม่และต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมือง Gjoa Haven คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด สัมผัสกับความงดงามของขั้วโลกเหนือและเรื่องราวที่น่าทึ่งในท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้!

คัมเบอริจ เบย์ (Cambridge Bay) เป็นหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามในเขตนู้นาเฟต (Nunavut) ประเทศแคนาดา เป็นจุดหมายที่ไม่ซ้ำใครสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ธรรมชาติอันงามตระการตาในเขตอาร์กติก สถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากวงเหนือตั้งอยู่บนเกาะโบแอซ (Victoria Island) ที่มีวิวทะเลสาบสีน้ำเงินสะท้อนภาพของภูเขาน้ำแข็งยิ่งทำให้เกิดความงามตามธรรมชาติที่ไม่มีใครเหมือน นอกจากท่าเรือที่เหมาะแก่การหยุดพักด้วยความสะดวกสบายแล้ว คัมเบอริจ เบย์ ยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจวัฒนธรรมเอสกิโมและเรียนรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมในดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยธรรมชาติอันดิบดี ที่นี่มีโอกาสได้ชมสัตว์ป่าอาร์กติกอย่างเช่น หมีขั้วโลก และนกเพรียง ซึ่งทำให้การเยี่ยมชมเป็นประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ การเดินทางหยุดพักที่คัมเบอริจ เบย์ เป็นมากกว่าแค่การเยี่ยมชมท่าเรือ แต่คือการเข้าถึงจิตวิญญาณของภูมิภาคอาร์กติกที่และการค้นพบความสวยงามที่ซ่อนอยู่ในธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของแคนาดาที่รอให้คุณมาสัมผัสอยู่

เมื่อพูดถึงการเดินทางอันหรูหราที่ประเทศแคนาดา ท่าเรืออูลูแฮกตอคในเขตนอร์ธเวสต์เทร์ริทอรีส คือจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยการผจญภัยและความสงบสุข ซึ่งตั้งอยู่ดื่มด่ำไปในบรรยากาศของธรรมชาติอันงดงาม อูลูแฮกตอคเป็นหมู่บ้านที่มีประชากรน้อยแต่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมของชาวอินูอิต ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างต่อเนื่อง เมื่อเรือสำราญของคุณแวะจอดที่ท่าเรือแห่งนี้ คุณจะได้พบกับทิวทัศน์ที่มีความงดงาม ไม่ว่าจะเป็นทะเลที่สงบและภูเขาที่ตั้งตระหง่าน คุณสามารถสัมผัสกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินป่าเพื่อสำรวจแหล่งธรรมชาติและสัตว์ป่า หรืออาจจะมีโอกาสร่วมศึกษาเกี่ยวกับศิลปะการทำงานฝีมือของชาวอินูอิต ที่สร้างสรรค์จากวัสดุธรรมชาติ เช่น หินและไม้ เพื่อที่จะทำให้การเดินทางของคุณเป็นที่น่าประทับใจมากยิ่งขึ้น เราขอแนะนำให้คุณไม่พลาดการชิมอาหารท้องถิ่น ซึ่งได้รับการปรุงจากวัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติรอบ ๆ นี้ บรรยากาศของอูลูแฮกตอคจะทำให้คุณหลงใหลในความเรียบง่ายและความงดงามของชีวิตที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มาเปิดประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครกับเราในอูลูแฮกตอค ที่ซึ่งธรรมชาติและวัฒนธรรมหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวในดินแดนแห่งนี้!

ขอต้อนรับสู่เกาะเฮอร์เชล ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกธรรมชาติที่งดงามของแคนาดา ตั้งอยู่ในรัฐยูคอน เกาะแห่งนี้มีความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติ สัมผัสความสงบและความงามบริสุทธิ์ของธรรมชาติในขณะที่เดินทางมาถึงท่าเรือเฮอร์เชล เมื่อคุณก้าวเข้าสู่เกาะเฮอร์เชล คุณจะพบกับทิวทัศน์ที่ยากจะลืม รวมทั้งภูมิทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีชายหาดขาวสะอาดและภูเขาที่ตั้งอยู่โดยรอบ ให้คุณทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินป่า ไปจนถึงการสำรวจสัตว์ป่าที่มีเอกลักษณ์ เช่น แมวน้ำและนกเพนกวิน ในช่วงฤดูร้อน น้ำทะเลที่ใสสะอาดจะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การดำน้ำตื้นและกิจกรรมทางน้ำอื่น ๆ นอกจากนี้ เกาะนี้ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ผสมผสานการเป็นที่อาศัยของชาวเอสกิโมในอดีต คุณจะได้สัมผัสกับคัมภีร์ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่นำคณะทัวร์ไปเยือนสถานที่สำคัญต่าง ๆ มาร่วมค้นพบความสวยงามของเกาะเฮอร์เชลในครั้งต่อไปของการเดินทางของคุณ และปล่อยให้ความรู้สึกของการผจญภัยที่สวยงามนี้อยู่ในใจตลอดไม่รู้ลืม

บรรยากาศที่ท่าเรือโนม (Nome) รัฐอัลaska คือลูกผสมของประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นเต้นและธรรมชาติอันงดงาม รายล้อมไปด้วยทะเลแบริง อันมีชื่อเสียง ท่าเรือนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดแวะพักสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยแห่งความฝันที่น่าหลงใหล โนมมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 10,000 ปี ตั้งแต่สมัยอินูเปียค เอสกิโม ซึ่งใช้แหล่งนี้ในการดำรงชีวิต กระทั่งในปี 1898 ที่สามนักขุดทองชาวสวีเดน "Three Lucky Swedes" ค้นพบทองคำใน Anvil Creek ทำให้เมืองนี้เปลี่ยนเป็นสถานที่แห่งการค้นหาความมั่งคั่ง และในปี 1899 จำนวนประชากรพุ่งขึ้นเป็น 28,000 คน วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่หลงเหลือจากยุคตื่นทองยังคงสัมผัสได้ในปัจจุบัน แม้ว่าโนมจะมีประชากรลดลงเหลือเพียงประมาณ 3,500 คน แต่ความรุ่งโรจน์ในอดีตยังสร้างเสน่ห์ไม่รู้ลืม ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมเมือง หรือล่องเรือสำรวจริมชายฝั่งที่มีความงดงามมากมาย เมื่อหยุดที่โนม คุณจะได้สัมผัสการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร เชื่อมโยงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตกับปัจจุบันในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจนทำให้หัวใจของนักเดินทางต้องเต้นตึกตักอย่างไม่มีวันลืม.

ซีแอตเทิล เป็นเมืองท่าทางทะเลที่สวยงามในรัฐวอชิงตัน ตั้งอยู่บนแหลมระหว่างอ่าวปูเจตและทะเลสาบวอชิงตัน ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐนี้ เริ่มต้นจากการตั้งถิ่นฐานของครอบครัวนักบุกเบิก 5 ครอบครัวจากรัฐอิลลินอยส์ในปี 1851 เมืองนี้ตั้งชื่อตามหัวหน้าเผ่า Suquamish ที่เป็นมิตร และได้รับการรับรองเป็นเมืองในปี 1869 ซีแอตเทิลเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากการมาถึงของรถไฟ Great Northern ในปี 1893 โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาของการขุดทองอลาสกาในปี 1897 เมื่อคลองปานามาเปิดให้บริการในปี 1914 ซีแอตเทิลกลายเป็นท่าเรือที่สำคัญทางแปซิฟิก ทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าและการขนส่งที่สำคัญในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติ Mount Rainier ที่มีภูเขาสูงตระหง่านและธรรมชาติที่งดงาม เรือสำราญที่แวะจอดที่นี่จะได้สัมผัสบรรยากาศที่น่าหลงใหล พร้อมกับกิจกรรมสนุกๆ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการชิมอาหารทะเลชื่อดังกระหึ่ม หรือช้อปปิ้งสินค้าพิเศษที่ Pike Place Market ห้ามพลาดที่จะเข้ามาสัมผัสเสน่ห์ของซีแอตเทิล เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรืองแห่งนี้!