เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!

นอกเหนือจากความหนาวเย็นสะท้านของเทือกเขาและอาณาเขตที่ยิ่งใหญ่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง Nuuk หรือที่รู้จักกันในนาม “คาบเกี่ยว” เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์ยาวนานของกรีนแลนด์ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย สถานที่สำคัญได้แก่ บ้านของฮานส์ เอเกเด ผู้เผยแพร่ศาสนาหนึ่งในผู้ก่อตั้งเมือง และรัฐสภา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับโบสถ์แห่งพระผู้ช่วยให้รอด อวดโฉมความเรียบง่ายแต่สง่างาม นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรีนแลนด์ ที่จัดแสดงชุดพื้นเมืองที่น่าทึ่ง รวมถึงมัมมี่ Qilakitsoq ที่มีชื่อเสียงเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ นอกจากนี้ Katuaq Cultural Center อันมีรูปทรงที่ถูกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากแสงออโรร่า ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมวัฒนธรรมที่สำคัญของเมือง พร้อมรองรับผู้คนได้กว่า 10% ของประชากร Nuuk ท่าจอดเรือใน Nuuk ไม่เพียงเป็นจุดแวะพักผ่อนอันสงบสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจแผ่นดินที่มีชีวิตชีวาของกรีนแลนด์ ที่นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและสัมผัสกับวัฒนธรรมที่ยาวนาน พร้อมทั้งสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ!

ท่าเรือ Qikiqtarjuaq ตั้งอยู่ใน Nunavut ประเทศแคนาดา เป็นประตูสู่ประสบการณ์ท่องเที่ยวอันประทับใจในดินแดนที่แทบจะไม่เหมือนใคร โดยมีภูมิทัศน์ที่งดงามของธรรมชาติที่บริสุทธิ์และวิถีชีวิตของชนเผ่าเอสกิโมที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นไว้อย่างดี เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่า Qikiqtarjuaq นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสถึงความมหัศจรรย์ของ Arctic ที่มีชีวิตชีวา ทั้งภูเขาน้ำแข็งและฟยอร์ดที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีโอกาสในการชมสัตว์ป่าอย่างแมวน้ำและโลมา รวมถึงการสำรวจกระท่อมดั้งเดิมของชาวอินูอิต ซึ่งเต็มไปด้วยศิลปะและหัตถกรรมที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมโบราณ สำหรับผู้ที่หลงใหลในกิจกรรมกลางแจ้ง Qikiqtarjuaq ยังมีทางเดินเส้นทางธรรมชาติที่เอื้ออำนวยให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสกับการเดินป่าหรือพายเรือคายัคในน้ำที่ใสสะอาด นอกจากนี้ ช่วงฤดูร้อนยังเป็นฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมสำหรับการชมโลมาในทะเลและอาจได้เห็นแสงเหนือในคืนที่มีท้องฟ้าแจ่มใส Qikiqtarjuaq ไม่ได้มีเพียงแค่ความงามทางธรรมชาติ แต่ยังมาพร้อมกับประสบการณ์ที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้นักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกได้สัมผัสกับเอกลักษณ์ของแคนาดาเหนือที่น่าหลงใหล เตรียมพร้อมที่จะสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในดินแดนแห่งนี้กันเถอะ!

ในระหว่างการเดินทางที่ไม่ซ้ำใคร สู่ท่าเรืออิสเบลล่าเบย์ บนเกาะบาฟฟิน ในเขตนูนาเวต แคนาดา คุณจะได้สัมผัสกับความงามที่รอคอยการค้นพบ ด้วยภูมิประเทศที่อลังการ และธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เสน่ห์นี้ทำให้ที่นี่กลายเป็นดินแดนในฝันสำหรับนักเดินทางทุกคน อิสเบลล่าเบย์ ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่เป็นจุดนัดหมายให้เรือสำราญแวะจอด ยังเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวอินูอิทที่มีชีวิตชีวา ซึ่งยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี มาที่นี่คุณจะได้มีโอกาสเรียนรู้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม การล่าสัตว์ และการทำงานศิลปะที่แสดงถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชาวพื้นเมือง นอกจากนี้ คุณยังสามารถสำรวจความงามของแหล่งธรรมชาติ เช่น แก่งน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่และภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า เช่น หมีขั้วโลกและวาฬเบลูก้า สิ่งเหล่านี้เป็นประสบการณ์ที่จะอยู่ในใจของคุณเสมอ โดยเฉพาะเมื่อคุณได้เห็นความงดงามของธรรมชาติตลอดการเดินทาง หากคุณใฝ่ฝันที่จะสัมผัสกับธรรมชาติอันบริสุทธิ์และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ อิสเบลล่าเบย์ คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ.

ท่าเรือกิบส์ฟยอร์ด ตั้งอยู่ในนูนาแวท ประเทศแคนาดา เป็นสถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยมีภูเขาสูงตระหง่านและภูมิทัศน์ที่สวยงามรอบตัว ที่เป็นชื่อเสียงทำให้ท่าเรือแห่งนี้โดดเด่นในหมู่นักท่องเที่ยว สำหรับผู้ที่มาที่นี่ คุณจะได้เห็นหน้าผาสูงกว่า 4,000 ฟุต ที่สร้างเป็นกำแพงและป้อมปราการที่น่าเกรงขามของเกาะซิลเลม ซึ่งแบ่งพื้นที่น้ำลึกของฟยอร์ดกิบส์และฟยอร์ดคลาร์ก ภูมิทัศน์ที่แปลกตานี้เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ด้วยความงามที่สะดุดตาและความเงียบสงบของธรรมชาติ ทำให้ทุกมุมมองคือภาพศิลป์ที่รอการสร้างสรรค์ คุณจะรู้สึกทึ่งกับความเป็นธรรมชาติที่ยังไม่เคยถูกสำรวจมาก่อน การเยี่ยมชมกิบส์ฟยอร์ดไม่เพียงแค่ให้คุณได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่งดงาม แต่ยังเต็มไปด้วยโอกาสในการสร้างเสริมประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง และเป็นการเดินทางที่คุณจะไม่มีวันลืม.

ดันดาสฮาร์เบอร์ ติดอยู่ในภูมิภาคที่งดงามของเกาะเดวอน ซึ่งเป็นเกาะที่หกใหญ่ที่สุดในแคนาดา มันเป็นสถานที่ที่เงียบเหงาแต่มีความงามที่เข้มข้น เกาะนี้ถูกค้นพบครั้งแรกโดยนักสำรวจอังกฤษ โรเบิร์ต ไบลอท และวิลเลียม แบฟฟิน ในปี 1616 แต่มาเป็นที่รู้จักในแผนที่หลังการสำรวจโดยวิลเลียม เอ็ดเวิร์ด พาร์รีในช่วงปี 1820 พาร์รีได้ตั้งชื่อเกาะนี้ตามชื่อของเมืองเดวอนในอังกฤษ ในภาษาอินุกทิทูต (Inuktitut) ที่นี่ถูกเรียกว่า "ตาลลูรูติ" ซึ่งมีความหมายว่า “คางของผู้หญิงที่มีรอยสัก” สะท้อนถึงร่องลึกและริ้วที่ปรากฏบนเกาะ ผู้ที่เยือนดันดาสฮาร์เบอร์ยังสามารถค้นพบซากโบราณคดีของชุมชนธูเลซึ่งมีอายุกว่า 1,000 ปี รวมถึงวงแวนก tent รูปแบบต่าง ๆ และสุสาน ตลอดจนจุดลาดตระเวนของตำรวจม้าแคนาดาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1924 เพื่อควบคุมกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในเส้นทางน้ำที่สำคัญ ด้วยลักษณะภูมิประเทศและชายฝั่งที่เป็นเอกลักษณ์ บริเวณนี้ชวนให้หลงใหลในเสน่ห์ของฤดูร้อนขั้วโลก และเป็นโอกาสที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันการผจญภัยในดินแดนที่ประวัติศาสตร์และธรรมชาติเข้ากันอย่างลงตัว.

Beechey Island ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ Devon ในแคนาดา เป็นจุดเชื่อมที่มีประวัติศาสตร์อันน่าสนใจในแวดวงการสำรวจอาร์กติก จุดเด่นที่ทำให้เกาะแห่งนี้มีเสน่ห์คือการที่เคยเป็นที่ตั้งแคมป์ของ Sir John Franklin และลูกทีมในช่วงฤดูหนาวปี 1845-1846 ขณะมุ่งหน้าค้นหา Northwest Passage ที่หายไป การค้นพบซากศพที่ถูกทำให้มอมแมมของลูกทีมสามคนทำให้เราเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนการหายตัวไปของการสำรวจนี้ นอกจากนี้ Beechey Island ยังมีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ที่นักสำรวจที่มีชื่อเสียงอย่าง Roald Amundsen ได้แวะพักในปี 1903 ก่อนที่จะออกเดินทางในเส้นทางที่สำเร็จในการค้นหา Northwest Passage แม้เป็นเกาะเล็ก ๆ แต่ Beechey Island ก็ถูกประกาศให้เป็น "สถานที่ประวัติศาสตร์เขตแดน" โดยรัฐบาล Northwest Territories ตั้งแต่ปี 1975 มอบให้แก่นักท่องเที่ยวได้ศึกษาและสัมผัสกับมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เชิญคุณมารับประสบการณ์การเดินทางที่ไม่มีวันลืมที่ Beechey Island เพื่อสำรวจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันล้ำค่าของแถบอาร์กติก และดื่มด่ำกับธรรมชาติที่งดงามและเงียบสงบในพื้นที่แห่งนี้ ที่ที่ประวัติศาสตร์และความงามของธรรมชาติรอให้คุณค้นพบ.

ท่าน้ำที่นำเสนอในบทความนี้คือ "Croker Bay" ตั้งอยู่ในภูมิภาค Nunavut ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งอันงดงามที่เต็มไปด้วยธรรมชาติอันมหัศจรรย์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ Croker Bay ตั้งอยู่ในเขตอาร์กติก ทำให้สิ่งแวดล้อมรอบๆ มีความแตกต่างจากท่าเรืออื่นๆ ในโลก ท่านี้มีความน่าสนใจเนื่องจากเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเดินทางสำราญของผู้ที่รักธรรมชาติและการสำรวจ คุณจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่สวยงามของภูมิทัศน์น้ำแข็ง รวมถึงความสามารถในการเห็นสัตว์ป่าอาร์กติก เช่น หมีขั้วโลก แมวน้ำ และนกหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในเขตนี้ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของชาว Inuit ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และชีวิตประจำวันในพื้นที่นี้ อีกทั้งยังมีโอกาสเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เช่น การปีนเขา การพายเรือแคนู และการล่าปลาในช่วงฤดูกาล Croker Bay ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่เปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจความงามที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับชีวิตในพื้นที่อาร์กติกอันหนาวเหน็บและเงียบสงบ ที่นี่คือสถานที่ที่คุณจะได้สร้างความทรงจำและแรงบันดาลใจในทุกก้าวที่คุณก้าวเดิน.

ท่าเรือโคฟ (Cobh) ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคคอร์ก (Cork) ของไอร์แลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวอันเข้มข้นของประวัติศาสตร์ ท่าเรือแห่งนี้มีบรรยากาศที่งดงามและวิวทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ โคฟยังเป็นจุดที่เรือสำราญหยุดแวะให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของความเป็นไอร์แลนด์อย่างแท้จริง หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดคือเกาะโฟตา (Fota Island) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง ที่นี่มีสวนพฤกษศาสตร์ที่กว้างใหญ่และสวนสัตว์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด สำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ คฤหาสน์ฟอโต (Fota House) คือสถานที่ที่คุณสามารถสำรวจการใช้ชีวิตของชนชั้นสูงในอดีต นอกจากนี้ โคฟยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฐานะท่าเรือที่ผู้คนต่างเดินทางผ่านมาสู่โลกใหม่ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา การเดินเล่นในย่านเก่าแก่และชมอาคารสถาปัตยกรรมที่มีสีสันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาในนิยาย ท่าเรือโคฟจึงเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับนักเดินทางผู้แสวงหาความงามตระการตาและประสบการณ์ที่น่าจดจำ เริ่มต้นการเดินทางที่นี่เพื่อค้นพบทุกเรื่องราวและมนต์เสน่ห์ของไอร์แลนด์ที่รอคุณอยู่!

ควานาอัก (Qaanaaq) ตั้งอยู่ที่กรีนแลนด์ เป็นท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ที่นี่คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัย แวดล้อมด้วยภูมิประเทศที่งดงามและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของคนท้องถิ่นที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี ท่าเรือควานาอัก ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่จอดเรือสำราญแห่งหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รู้จักในฐานะศูนย์กลางของการสังเกตการณ์สัตว์น้ำและนกต่าง ๆ อย่างปลากระเบนและนกพัฟฟิน ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์และวิวที่งดงามเหนือภูเขาและผืนน้ำที่เป็นประกาย มาพร้อมกับกิจกรรมที่ท้าทายหัวใจเช่น การเดินป่า และขี่สโนว์โมบิล นอกจากนี้ ชุมชนท้องถิ่นของควานาอักมีความกระตือรือร้นในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยการแสดงออกถึงวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารแบบกรีนแลนด์ ที่สร้างจากวัตถุดิบสดใหม่และการทำงานฝีมือ ซึ่งสามารถมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างสรรค์ และเติมเต็มจิตวิญญาณแห่งการเดินทาง ควานาอัก จะเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในเส้นทางการสำรวจของคุณ

กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นเมืองที่ผสมผสานความงดงามและความมีชีวิตชีวาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากมรดกวัฒนธรรมที่หลากหลาย สามารถสังเกตได้จาก Plaza de Mayo อันมีเสน่ห์ดุจจัตุรัสใหญ่ในมาดริด และ Teatro Colón ที่สวยงามราวกับว่าได้ย้ายมาจากเวียนนา บัวโนสไอเรสยังมีความเป็นอเมริกาใต้ที่ชัดเจนจากการเดินเล่นในถนนที่ปูด้วยหินและรองเท้าหนังคุณภาพสูงที่วางขายในร้านค้าเล็กๆ แถมยังมีกิจกรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น ขบวนพาเหรดของแฟนฟุตบอลที่แสดงถึงความรักในกีฬานี้ของชาวเมือง นอกจากวัฒนธรรมและศิลปะที่หลากหลาย ชิมประสบการณ์ลิ้มลองไวน์ชั้นดี สเต็กเนื้อฉ่ำ และไอติมรสชาติต่างๆ ที่ได้มาเติมเต็มความอร่อยให้กับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ท่าเรือในกรุงบัวโนสไอเรส จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจเสน่ห์แห่งเมืองนี้ พร้อมเปิดประสบการณ์การเดินทางที่สุดหรูหรา ในดินแดนที่มีทั้งความคลาสสิกและความทันสมัยรอคุณอยู่

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่างและน่าตื่นเต้น ท่าเรือ Uummannaq ในกรีนแลนด์คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ท่ามกลางน้ำที่เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็ง ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณสามารถพบเห็นวาฬน้อยใหญ่ว่ายเวียนไปมาอย่างน่าทึ่ง Uummannaq เป็นหมู่บ้านที่มีชีวิตชีวาและมีประชากรประมาณ 1,200 คน ตั้งอยู่ที่ฐานของภูเขา Uummannaq ซึ่งมีรูปทรงคล้ายหัวใจของแมวน้ำ เมืองนี้มีโบสถ์ที่สร้างจากหินแกรนิตพร้อมด้วยวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์การล่าสัตว์และการประมง นอกจากนี้เมืองนี้ยังมีท่าเรือเฟอร์รีที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศ จึงถือเป็นประตูสู่การสำรวจธรรมชาติอันงดงามของกรีนแลนด์ Uummannaq ไม่ได้เพียงแค่มีธรรมชาติที่มหัศจรรย์ แต่ยังเป็นแหล่งที่ทำการประมงทำให้เศรษฐกิจในหมู่บ้านนี้มีความเข้มแข็ง ร่วมค้นพบความงดงามที่ซ่อนอยู่และลิ้มลองประสบการณ์ในบรรยากาศที่แสนอบอุ่นของชุมชนท้องถิ่น สร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในการเดินทางของคุณกับการเยือน Uummannaq!

สวัสดีค่ะทุกท่าน วันนี้เราขอเชิญคุณมาสำรวจเครื่องหมายสำคัญแห่งดินแดนบริสุทธิ์และสวยงามด้วยการเยือนท่าเรือ Vaigat Sound ที่เกรนแลนด์ ทะเลอันกว้างใหญ่และภูเขาที่สูงตระหง่านสร้างความลึกลับและมนต์เสน่ห์ให้กับสถานที่แห่งนี้ Vaigat Sound ตั้งอยู่ระหว่างเกาะ Disko และแผ่นดินใหญ่ของเกรนแลนด์ เป็นท่าเรือที่เรือสำราญหลายลำแวะจอดเพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสความงดงามที่ไม่เหมือนใคร จุดเด่นที่เหนือชั้นของที่นี่คือวิวทิวทัศน์อันตระการตาของวัวน้ำแข็ง ธารน้ำแข็งที่เคลื่อนไหวช้า และทะเลที่ใสสะอาด การได้เห็นวัวน้ำแข็งลอยอยู่ในน้ำในขณะที่กำลังล่องเรือเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่งและไม่ควรพลาด นอกจากนี้ อย่าลืมสัมผัสวัฒนธรรมของชาวเอสกิโม (Inuit) ที่มีเอกลักษณ์ และท่องเที่ยวไปยังหมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อทำความรู้จักกับวิถีชีวิตและประวัติศาสตร์ของพวกเขา ท่านจะได้สัมผัสอาหารถิ่นที่ปรุงสดใหม่และศิลปะท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยเรื่องราว สัมผัสความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ Vaigat Sound แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงความสงบท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของโลกใบนี้ เตรียมตัวให้พร้อมกับการเดินทางที่ไม่มีวันลืมที่นี่สัมผัสเสน่ห์ของเกรนแลนด์ได้ที่ Vaigat Sound!

สนุกไปกับการเดินทางสู่ Ilulissat หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แหล่งกำเนิดของภูเขาน้ำแข็ง” ภายในฟยอร์ดที่งดงามแห่งนี้ ผลผลิตน้ำแข็งถึง 20 ล้านตันต่อวัน ทำให้สถานที่แห่งนี้นับเป็นหนึ่งในมรดกธรรมชาติที่สำคัญของกรีนแลนด์ โดยคำว่า “Ilulissat” ในภาษาคาลาลลิซุตแปลว่า "ภูเขาน้ำแข็ง" เมือง Ilulissat เป็นเมืองที่มีความสงบสุข มีประชากรประมาณ 4,500 คน ซึ่งถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามในกรีนแลนด์ สภาพอากาศที่นี่มักจะเย็นสบายเนื่องจากความใกล้ชิดกับฟยอร์ด ที่นี่ยังมีสุนัขลากเลื่อนอาศัยอยู่แทบไม่ต่างจากจำนวนคน ทำให้บรรยากาศของเมืองเต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นซึ่งตั้งอยู่ในบ้านเดิมของ Knud Rasmussen นักสำรวจที่มีชื่อเสียง อีกทั้งการเดินทางล่องเรือไปชมทัศนียภาพอันตระการตาของภูเขาน้ำแข็งสร้างความประทับใจที่ยากจะลืมเลือน สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ณ Ilulissat หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หลงใหลในกรีนแลนด์ที่คุณต้องไม่พลาด!

ซิซิมิอุท (Sisimiut) คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่มีจิตวิญญาณการผจญภัย ตั้งอยู่ทางเหนือของวงกลมอาร์กติก ประเทศกรีนแลนด์ ท่าเรือนี้เป็นท่าเรือที่ปลอดภัยจากน้ำแข็งในฤดูหนาวและเป็นเมืองที่มีหิมะและน้ำแข็งหนาแน่นสำหรับการนั่งเลื่อนสุนัขในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ เมืองซิซิมิอุทมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4,500 ปี ทำให้ที่นี่เป็นจุดสัมผัสของวัฒนธรรมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เมืองซิซิมิอุทไม่เพียงเป็นศูนย์กลางการค้าและอุตสาหกรรมของกรีนแลนด์ตอนเหนือ แต่ยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วอยู่ในขณะนี้ การทำประมงเชิงพาณิชย์เป็นกิจกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับเมือง นอกจากนี้ ผู้มาเยือนยังสามารถได้สัมผัสกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย เช่น การเดินป่าในธรรมชาติอันสวยงาม การชมสัตว์ป่า และการสัมผัสวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมือง หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครและตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ซิซิมิอุทคือที่ที่คุณต้องมาเยือน โดยคุณจะได้สัมผัสกับความงามของอาร์กติกและความน่าสนใจของวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของกรีนแลนด์อย่างแท้จริง

นอกเหนือจากความหนาวเย็นสะท้านของเทือกเขาและอาณาเขตที่ยิ่งใหญ่ที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็ง Nuuk หรือที่รู้จักกันในนาม “คาบเกี่ยว” เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์ยาวนานของกรีนแลนด์ เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย สถานที่สำคัญได้แก่ บ้านของฮานส์ เอเกเด ผู้เผยแพร่ศาสนาหนึ่งในผู้ก่อตั้งเมือง และรัฐสภา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับโบสถ์แห่งพระผู้ช่วยให้รอด อวดโฉมความเรียบง่ายแต่สง่างาม นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรีนแลนด์ ที่จัดแสดงชุดพื้นเมืองที่น่าทึ่ง รวมถึงมัมมี่ Qilakitsoq ที่มีชื่อเสียงเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ นอกจากนี้ Katuaq Cultural Center อันมีรูปทรงที่ถูกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากแสงออโรร่า ยังเป็นสถานที่จัดกิจกรรมวัฒนธรรมที่สำคัญของเมือง พร้อมรองรับผู้คนได้กว่า 10% ของประชากร Nuuk ท่าจอดเรือใน Nuuk ไม่เพียงเป็นจุดแวะพักผ่อนอันสงบสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจแผ่นดินที่มีชีวิตชีวาของกรีนแลนด์ ที่นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและสัมผัสกับวัฒนธรรมที่ยาวนาน พร้อมทั้งสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ!

เรคยาวิก เมืองหลวงที่มีเสน่ห์และเป็นศูนย์กลางของไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนอ่าวที่มีภูเขามิท เอสยาเป็นฉากหลัง สะท้อนความเป็นธรรมชาติที่งดงามของประเทศ ด้วยบ้านที่ทาสีสันสดใสและหลังคาแดง น้ำเงิน และเขียว เมืองนี้เป็นการรวมตัวของประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ชื่อ "เรคยาวิก" มาจากคำภาษาไอซ์แลนด์ที่หมายถึง "อ่าวของควัน" ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามการค้นพบของนักเดินเรือชาวนอร์สที่มามองเห็นเกาะนี้ในปี ค.ศ. 874 ภายในเมืองมีการทำความร้อนจากน้ำร้อนจากบ่อน้ำร้อน ลดมลพิษทางอากาศและมอบความอบอุ่นให้กับบ้านเรือน การสำรวจเรคยาวิกนั้นง่ายด้วย Reykjavik City Card ซึ่งให้สิทธิ์ในการเดินทางด้วยรถประจำทางไม่จำกัดและเข้าชมสระว่ายน้ำทั้งหมดในเมือง รวมถึงสวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งเป็นที่รู้จัก การเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเช่น Hafnarhús และ Kjarvalsstaðir จะทำให้คุณได้รับบัตรเข้าชมฟรีไปยังพิพิธภัณฑ์อื่น ๆ ในวันเดียวกัน มาเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นในเรคยาวิก ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมและธรรมชาติ พร้อมกับสัมผัสความหลากหลายของกิจกรรมที่มีให้เพื่อเติมเต็มวันหยุดของคุณในดินแดนแห่งไฟและน้ำแข็ง!