ซีแอตเทิล เป็นเมืองท่าทางทะเลที่สวยงามในรัฐวอชิงตัน ตั้งอยู่บนแหลมระหว่างอ่าวปูเจตและทะเลสาบวอชิงตัน ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐนี้ เริ่มต้นจากการตั้งถิ่นฐานของครอบครัวนักบุกเบิก 5 ครอบครัวจากรัฐอิลลินอยส์ในปี 1851 เมืองนี้ตั้งชื่อตามหัวหน้าเผ่า Suquamish ที่เป็นมิตร และได้รับการรับรองเป็นเมืองในปี 1869 ซีแอตเทิลเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากการมาถึงของรถไฟ Great Northern ในปี 1893 โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาของการขุดทองอลาสกาในปี 1897 เมื่อคลองปานามาเปิดให้บริการในปี 1914 ซีแอตเทิลกลายเป็นท่าเรือที่สำคัญทางแปซิฟิก ทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าและการขนส่งที่สำคัญในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติ Mount Rainier ที่มีภูเขาสูงตระหง่านและธรรมชาติที่งดงาม เรือสำราญที่แวะจอดที่นี่จะได้สัมผัสบรรยากาศที่น่าหลงใหล พร้อมกับกิจกรรมสนุกๆ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการชิมอาหารทะเลชื่อดังกระหึ่ม หรือช้อปปิ้งสินค้าพิเศษที่ Pike Place Market ห้ามพลาดที่จะเข้ามาสัมผัสเสน่ห์ของซีแอตเทิล เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรืองแห่งนี้!

บรรยากาศที่ท่าเรือโนม (Nome) รัฐอัลaska คือลูกผสมของประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นเต้นและธรรมชาติอันงดงาม รายล้อมไปด้วยทะเลแบริง อันมีชื่อเสียง ท่าเรือนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดแวะพักสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยแห่งความฝันที่น่าหลงใหล โนมมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 10,000 ปี ตั้งแต่สมัยอินูเปียค เอสกิโม ซึ่งใช้แหล่งนี้ในการดำรงชีวิต กระทั่งในปี 1898 ที่สามนักขุดทองชาวสวีเดน "Three Lucky Swedes" ค้นพบทองคำใน Anvil Creek ทำให้เมืองนี้เปลี่ยนเป็นสถานที่แห่งการค้นหาความมั่งคั่ง และในปี 1899 จำนวนประชากรพุ่งขึ้นเป็น 28,000 คน วัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่หลงเหลือจากยุคตื่นทองยังคงสัมผัสได้ในปัจจุบัน แม้ว่าโนมจะมีประชากรลดลงเหลือเพียงประมาณ 3,500 คน แต่ความรุ่งโรจน์ในอดีตยังสร้างเสน่ห์ไม่รู้ลืม ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมเมือง หรือล่องเรือสำรวจริมชายฝั่งที่มีความงดงามมากมาย เมื่อหยุดที่โนม คุณจะได้สัมผัสการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร เชื่อมโยงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตกับปัจจุบันในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจนทำให้หัวใจของนักเดินทางต้องเต้นตึกตักอย่างไม่มีวันลืม.

ท่าเรือเซนต์แมทธิว ในรัฐอลาสก้า เป็นจุดหมายที่โดดเดี่ยว ตั้งอยู่กลางทะเลแบริง ห่างจากหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุดกว่า 200 ไมล์ สถานที่นี้มีความงามให้อบอวลไปด้วยธรรมชาติที่ไม่เคยถูกทำลาย โดยเฉพาะที่ Cape Upright จุดใต้สุดของเกาะที่มีชายหาดเป็นทรายดำและกรวดที่ยกระดับขึ้นไปยังหน้าผาสูงกว่า 1,000 ฟุต ซึ่งเป็นที่อยู่ของนกทะเลหลายชนิด เช่น มูเรส และคิตตีเวค เซนต์แมทธิว เป็นที่รู้จักในฐานะเขตสงวนสัตว์ป่าที่สำคัญ โดยได้รับการคุ้มครองตั้งแต่ปี 1909 เมื่อการสำรวจของ Harriman ในปี 1899 ส่งผลให้ประธานาธิบดี Teddy Roosevelt ตัดสินใจให้เกาะนี้อยู่ภายใต้การคุ้มครอง เรื่องราวที่โดดเด่นของเกาะนี้คือ “กวางเรนเดียร์ที่หายไป” ในปี 1944 มีการนำกวางเรนเดียร์ 29 ตัวมาเพื่อเป็นแหล่งอาหารในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่จำนวนประชากรกลับเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 6,000 ตัวในปี 1963 ก่อนที่จะลดลงอย่างรวดเร็วในสามปีถัดมา โดยเกิดจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด เซนต์แมทธิว จึงไม่ใช่เพียงแค่จุดผ่านของเรือสำราญ แต่ยังเป็นที่มาของการสำรวจและการค้นพบที่น่าอัศจรรย์ รอคอยการผจญภัยที่ไม่มีวันลืมในหมู่เกาะที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้!

ท่าเรือเซนต์ปอล (Saint Paul) ตั้งอยู่ที่ปลายแหลมทางใต้ของเกาะเซนต์ปอล อันเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มเกาะพริบิลอฟ (Pribilof Islands) ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลเบริง ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย หากคุณต้องการสัมผัสความงดงามของทิวทัศน์และความหลากหลายทางธรรมชาติ เซนต์ปอลคือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง เมื่อเป็นที่อยู่ของประชากรเล็กน้อย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน เช่น โรงเรียน ร้านค้าเล็กๆ และโบสถ์รัสเซียนออร์โธดอกซ์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารประวัติศาสตร์แห่งชาติ เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเซนต์ปอลอยู่ที่ความหลากหลายของสัตว์ป่าที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะแมวน้ำนอร์ธเทิร์นฟูว์ ที่มีจำนวนประมาณ 500,000 ตัว รวมถึงนกทะเลอีกหลายล้านตัว เช่น นกปากแตงโม (tufted puffins) ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักดูนกจากทั่วโลก การเดินทางมายังท่าเรือเซนต์ปอลจะดื่มด่ำกับความงามแห่งธรรมชาติ อิสระภาพ และประวัติศาสตร์อันยาวนานที่รอคอยให้คุณค้นพบ สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร และปลดปล่อยจินตนาการไปกับการเดินทางอันแสนพิเศษนี้!

Dutch Harbor ตั้งอยู่ในรัฐอลาสกา เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นเต้นซึ่งต้องไม่พลาดเมื่อเดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกา เมืองเล็ก ๆ นี้เคยเจอการโจมตีโดยตรงจากญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้กลายเป็นหนึ่งในจุดที่มีความสำคัญทางการทหารของสหรัฐฯ คุณจะได้สัมผัสวิวทัศน์ที่งดงามของภูเขาและทะเลในเขตหมู่เกาะอาลูเชียน ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสัตว์ป่านานาชนิด เช่น นกอินทรีหัวล้านที่ลอยตัวอยู่เหนือท้องฟ้า ใน Dutch Harbor คุณยังสามารถเข้าร่วมทริปบนเรือประมงที่กำลังทำงานอยู่ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การจับปลาในทะเลเบริงที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นปลาโคดหรือปลาปอล็อค ซึ่งจะถูกจัดส่งไปยังโต๊ะอาหารทั่วประเทศสหรัฐฯ นี้คือโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับมรดกทางการประมงที่ร่ำรวยของชุมชนท้องถิ่น สภาพแวดล้อมที่น่าหลงใหลของ Dutch Harbor จึงไม่เพียงแต่มีประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง แต่ยังเสนอโอกาสในการเดินป่าในภูมิประเทศที่เขียวขจีและเป็นภูเขาไฟ อิ่มเอมไปกับการผจญภัยและสร้างความทรงจำที่สำคัญที่จะยังคงอยู่ในใจคุณตลอดไป

ท่าเรืออุงกา (Unga Island) ในอลาสกา เป็นจุดหมายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความลึกลับ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่เกาะอเลาสเตียน ด้วยความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของป่าไม้ฟอสซิลโบราณและเมืองผีที่เกิดจากการค้นหาทองคำในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 เมืองนี้ถูกทิ้งร้างตั้งแต่ปี 1960 ทำให้บรรยากาศภายในหมู่บ้านมีลักษณะเงียบเหงา บ้านเรือนได้พังทลายและถูกปกคลุมไปด้วยดอกไม้ไฟเวดสีฟูเชียที่สวยงาม อย่างไรก็ตาม ที่นี่ยังมีโบสถ์ที่ดูเหมือนจะคงอยู่แต่อาจมีความจริงที่น่าหดหู่ เพราะหลังคาอยู่บนพื้นและผนังก็พังทลายไปหมด ที่อุงกา คุณจะได้พบกับนกฮูกเกรทฮอร์น (Great Horned Owls) ที่ทำรังใกล้โบสถ์ และที่อ่าวยังมีนกเคลตวิคลิ (Kittiwakes), คอร์มอแรนต์ดับเบิลเครสต์ และนกภูเขาทัฟฟ์ (Tufted Puffins) ให้ได้ชม ท่าเรือนี้ไม่เพียงเป็นจุดแวะของเรือสำราญ แต่ยังเป็นประสบการณ์การเดินทางที่นำคุณสู่ยุคเก่า สัมผัสความงามทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหลในหนึ่งเดียว ขอบอกว่านี่คือสวรรค์สำหรับผู้รักการผจญภัยเหนือน้ำ!

ท่าเรือคูจูลิกเบย์ ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐอลาสก้า คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาประสบการณ์อันเหลือเชื่อในธรรมชาติ การเดินทางมายังท่าเรือนี้คือการผจญภัยสู่ดินแดนที่เต็มไปด้วยความงามทางธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ ที่คูจูลิกเบย์ คุณจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจของภูเขา น้ำตก และฟยอร์ดที่โอบล้อม ทำให้ที่นี่กลายเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การพายเรือคายัค การตกปลา และการชมสัตว์น้ำต่าง ๆ ตั้งแต่แมวน้ำ ไปจนถึงปลาวาฬ ซึ่งเผยให้เห็นความมหัศจรรย์ของชีวิตในทะเล นอกจากนี้ คุณยังสามารถสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชนเผ่าในพื้นที่ได้ที่หมู่บ้านใกล้เคียง นี่คือโอกาสที่ดีในการเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชนเผ่าอาลูตีและการอนุรักษ์ธรรมชาติ การเยือนคูจูลิกเบย์ไม่เพียงแต่ทำให้คุณหลุดพ้นจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวัน แต่ยังเติมเต็มหัวใจของคุณด้วยความสวยงามและความสงบ งดงามแห่งธรรมชาติรอคอยให้คุณมาเปิดประสบการณ์ ด้วยการเดินทางสู่จุดหมายที่เป็นสวรรค์นี้ ทำให้การล่องเรือของคุณมีความหมายและน่าจดจำอย่างแท้จริง

ท่าเรือภูมิศาสตร์ (Geographic Harbour) ตั้งอยู่ในใจกลางของอุทยานแห่งชาติและเขตอนุรักษ์คัทไม (Katmai National Park and Preserve) ในรัฐอลาสกา เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าทึ่งสำหรับผู้ที่รักการสำรวจธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่โดดเด่นด้วยหน้าผาหินที่สูงตระหง่าน มีรอยขาวที่เกิดจากเถ้าถ่านที่สะสมจากการระเบิดของภูเขาไฟ สร้างความงดงามที่ไม่เหมือนใคร การล่องเรือสำราญไปยังท่าเรือนี้จะนำคุณไปสู่การหลีกหนีจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน เมื่อคุณขึ้นเรือ Zodiac® ที่มีผู้เชี่ยวชาญจากเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก (National Geographic) จะมีโอกาสได้สำรวจความงามของหน้าผาและภูมิประเทศที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ภูมิศาสตร์ของพื้นที่และระบบนิเวศที่หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้พบกับสัตว์ป่าที่น่าทึ่ง รวมถึงหมีบราวน์ที่เป็นสัญลักษณ์ของอลาสกา และนกนานาชนิดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ ทำให้ท่าเรือภูมิศาสตร์ไม่เพียงแค่เป็นจุดแวะพัก แต่ยังเป็นประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำในธรรมชาติของอลาสกาอย่างแท้จริง ที่คุณจะไม่มีวันลืม.

อ่าวยูแยก (Uyak Bay) ตั้งอยู่บนเกาะโคเดียค (Kodiak Island) รัฐอลาสกา เป็นหนึ่งในท่าเรือที่งดงามและเงียบสงบซึ่งเรือสำราญหลายลำแวะจอด เพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์และความสวยงามที่หาที่ไหนไม่ได้ อ่าวยูแยกเป็นที่รู้จักในด้านทัศนียภาพที่น่าทึ่ง มีภูเขาที่สูงตระหง่านโอบล้อมอ่าว และน้ำทะเลสีฟ้าครามที่ใสสะอาด นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจพื้นที่ได้ทั้งการเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ Kodiak หรือการล่องเรือไปชมวาฬและชีวหลากหลายชนิดที่อาศัยอยู่ในทะเลวอชิงตัน สำหรับคนรักการตกปลา อ่าวยูแยกยังมีชื่อเสียงในเรื่องปลาซาวุบัสเตอร์และปลาทะเลอื่นๆ ที่มีรสชาติอร่อย ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดึงดูดนักตกปลาจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ คุณยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจากชนเผ่าพื้นเมืองและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จุดเทพระเจ้าที่สามารถเยี่ยมชมได้ เช่น ร้านค้าท้องถิ่นที่เสนอสินค้าหัตถกรรมและของที่ระลึกที่สามารถนำกลับไปเป็นของฝาก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนทำให้อ่าวยูแยกเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่มองหาประสบการณ์อันเต็มเปี่ยมด้วยความงามธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย อย่าพลาดโอกาสในการสำรวจอ่าวยูแยกและสร้างความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในชีวิตของคุณ!

ท่าเรือซิวาร์ด (Seward) ในรัฐอลาสก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสถานที่ที่งดงามจนยากจะเชื่อว่าเป็นจริง ด้วยภูมิทัศน์ที่รายล้อมไปด้วยอุทยานแห่งชาติเคนไนฟยอร์ด (Kenai Fjords National Park) และอ่าวเรเซอเรคชั่น (Resurrection Bay) ที่มีความพิเศษเฉพาะตัว ซิวาร์ดเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรประมาณ 2,750 คน ก่อตั้งขึ้นในปี 1903 เมื่อทีมสำรวจมาถึงท่าเรือที่ปราศจากน้ำแข็งและเริ่มวางแผนการก่อสร้างทางรถไฟไปยังภาคในเมือง เมืองนี้ไม่เพียงแต่มีบรรยากาศอบอุ่นของเมืองเล็กๆ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติ เคนไนฟยอร์ด ที่เต็มไปด้วยชีวิตทะเลและน้ำแข็งที่แตกตัว สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน นอกจากนี้ ซิวาร์ดยังเป็นที่รู้จักในด้านการตกปลาและการท่องเที่ยว ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการหลบหนีจากชีวิตประจำวันที่วุ่นวาย มาสัมผัสกับความงามของธรรมชาติและประสบการณ์การเดินทางอันน่าตื่นเต้น เสน่ห์ของซิวาร์ดจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนถูกสะกดจิตให้กลับมาเยือนอีกครั้งอย่างไม่รู้จบ

ซิตกา (Sitka) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุดในอลาสก้า ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมชนเผ่าอัลลาสก้า รัสเซีย และอเมริกัน อย่างลงตัว โดยมีสถานที่เด่นในการสำรวจคือ วิหารเซนต์ไมเคิล (St. Michael's Cathedral) และพิพิธภัณฑ์เชลดอน แจ็คสัน (Sheldon Jackson Museum) ที่จะพาคุณย้อนเวลาสู่วิถีชีวิตของชาวท้องถิ่น การเดินเล่นที่สวนสาธารณะประวัติศาสตร์ซิตกา (Sitka National Historical Park) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ซิตกามีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เริ่มต้นจากการตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าคิกซาดี (Kiksádi) ผู้มีบทบาทในภูมิภาคนี้มาก่อนการมาถึงของชาวรัสเซียในศตวรรษที่ 18 การพัฒนาของเมืองในช่วงเวลานั้นได้สร้างความเจริญรุ่งเรือง โดยในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ซิตกาได้กลายเป็นฐานการทหารสำคัญ ทำให้เมืองฟื้นตัวอีกครั้ง ปัจจุบัน ซิตกาเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ที่นี่มีอุตสาหกรรมการตกปลา รัฐบาล และการท่องเที่ยว ทำให้ซิตกายังคงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และน่าค้นหาในภูมิภาคอลาสก้าอย่างไม่เปลี่ยนแปลง

เมืองแวรังเกล (Wrangell) ตั้งอยู่ที่ปลายสุดเหนือของเกาะแวรังเกลในรัฐอลาสก้า เป็นชุมชนที่มีบรรยากาศสงบเงียบ เรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ของการทำไม้และการประมง ที่สำคัญคือ เป็นที่ตั้งของแม่น้ำสติคีน (Stikine River) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือที่ยังไม่ถูกสร้างเขื่อน แม่น้ำแห่งนี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในวิถีชีวิตของชาวเมืองแวรังเกล รวมถึงการเดินทางล่องเรือโดยมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ซึ่งแนะนำประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของการใช้ชีวิตแบบอลาสกัน แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจฐานทรัพยากรจะลดน้อยลง แต่ชาวบ้านที่รักแวรังเกลกำลังพัฒนาการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเทศกาล Bearfest ที่เริ่มจัดขึ้นในปี 2010 เพื่อฉลองความใกล้ชิดกับ Anan Creek ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่ผู้มาเยือนจะได้เห็นหมีสีน้ำตาลและหมีดำอย่างใกล้ชิด ด้วยความที่แวรังเกลตั้งอยู่นอกเส้นทางเรือสำราญใหญ่ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย ไม่มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย แต่ที่นี่มีร้านของขวัญและแกลเลอรีศิลปะที่จำหน่ายงานฝีมือท้องถิ่น ช่วยให้ผู้เดินทางได้สัมผัสกับกลิ่นอายของวัฒนธรรมและความอบอุ่นจากชาวเมืองที่ยินดีต้อนรับทุกคนอย่างใจดี ควรเพิ่มแวรังเกลลงในแผนการเดินทางของคุณเมื่อสำรวจภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอลาสก้า เพื่อหลีกหนีจากฝูงชนและค้นพบเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองนี้ค่ะ

ท่าเรือที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่อลาสก้าคือ Misty Fjords National Monument ตั้งอยู่ห่างจาก Ketchikan ไปทางตะวันออก 40 ไมล์ นี่คือความงามของธรรมชาติที่คุณจะต้องหลงใหล ด้วยแนวภูเขาสูงชันและผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดของสหรัฐอเมริกา Rudyerd Bay เป็นหนึ่งในจุดเด่นของ Misty Fjords ที่จะทำให้คุณต้องตะลึงกับทิวทัศน์ที่งดงาม โดยฟยอร์ดนี้จะตัดผ่านภูเขาสูงที่มีน้ำตกมหาศาลกว่า 1,000 ฟุต ที่ไหลตกลงสู่ผืนน้ำด้านล่าง สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่มาร่วมสัมผัสกับธรรมชาติที่บริสุทธิ์ การได้เดินทางมาเยือนที่นี่ นอกจากจะได้สัมผัสกับความงามของทิวทัศน์แล้ว คุณยังสามารถลองกิจกรรมต่างๆ เช่น การเดินป่า สำรวจป่าไม้ หรือการล่องเรือเพื่อชมความมหัศจรรย์ของแนวโขดหินและสัตว์ป่าที่หลากหลายและมีชีวิตชีวา Misty Fjords เป็นจุดหมายปลายทางที่จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำที่น่าประทับใจและความรู้สึกสงบที่มีค่าจริงๆ ในการสำรวจโลกที่สวยงามนี้

ท่าเรือแวนคูเวอร์ในบริติชโคลัมเบีย เป็นจุดหมายที่ลงตัวระหว่างความสง่างามในเมืองและการผจญภัยในธรรมชาติ กลางเมืองที่มีภูเขาและทะเลทำให้แวนคูเวอร์กลายเป็นสนามเด็กเล่นกลางแจ้งสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินเขา สกี การพายเรือ และการปั่นจักรยาน พร้อมกันนั้นศิลปะและอาหารที่หลากหลายยังสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ แวนคูเวอร์ได้รับการจัดอันดับอย่างต่อเนื่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ด้วยบรรยากาศที่สบายและเข้าถึงกิจกรรมกลางแจ้งได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายที่สวยงามหรือสวนสาธารณะที่ร่มรื่น มีนักท่องเที่ยวกว่า 8 ล้านคนเข้ามาสัมผัสความงดงามนี้ในทุกปี ในฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้หลากสีบานสะพรั่งในสวนสาธารณะ ในขณะที่ผู้คนสามารถใช้เวลาพักผ่อนที่ชายหาดในฤดูร้อน นอกจากนี้เมืองยังมีระบบขนส่งที่สะดวกสบาย ทำให้ผู้ที่พักในย่านราคาย่อมเยาสามารถเข้าถึงใจกลางเมืองได้อย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่ได้สัมผัสการล่องเรืออลาสก้า แวนคูเวอร์เป็นจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และถือเป็นประตูสู่การสำรวจโลกที่งดงามของแคนาดา คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวให้กลับมาเยือนอีกครั้งอย่างไม่รู้ลืม