
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

MSC Magnifica
MSC Cruises


เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

เจนัว (Genoa) เป็นเมืองท่าที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอิตาลี ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนาน เมืองนี้ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการค้าขาย แต่ยังเป็นบ้านของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเจนัว (Genoa Aquarium) ที่มีชื่อเสียงในด้านการจัดแสดงความหลากหลายทางชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือเจนัว คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันรื่นรมย์ของเมืองที่มีภูมิทัศน์สวยงามและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง ตั้งแต่ตึกเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ไปจนถึงร้านอาหารที่เสนอเมนูอิตาเลียนแท้ๆ ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความอร่อยและวัฒนธรรมในท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ เช่น ปราสาทดเจนัว (Palazzo Ducale) และโบสถ์ซานลอเรนโซ (Basilica di San Lorenzo) ที่จะนำคุณย้อนเวลากลับไปในประวัติศาสตร์ และเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณให้สมบูรณ์แบบ เจนัวจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามทางศิลปะและธรรมชาติ ทำให้ทุกช่วงเวลาของการเยือนเมืองนี้เต็มไปด้วยความประทับใจและแรงบันดาลใจในการสำรวจโลกใบใหม่

ท่าเรือมาร์เซย์ (Marseille) เมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงวัฒนธรรมแห่งยุโรปในปี 2013 ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างมหาศาล ด้วยการลงทุนกว่า 660 ล้านยูโร เพื่อสร้างศูนย์ศิลป์ใหม่ ๆ มากมาย ท่าเรือได้รับการปรับปรุงอย่างงดงาม ถนนหนทางและย่านต่าง ๆ กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชีวิตชีวา คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ มาร์เซย์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของฝรั่งเศส ซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา มีประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ตั้งแต่คราวที่ชาวฟินีเชียนและกรีกมายังท่าเรือในปี 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช จนกระทั่งสงครามและการเปลี่ยนแปลงมากมายได้สร้างรูปแบบใหม่ให้กับเมือง วันนี้ มาเยือนที่ท่าเรือเก่า (Vieux Port) คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลาย ทั้งร้านค้า หอศิลป์และร้านอาหารที่ลงทุนสร้างใหม่อย่างทันสมัย มาร์เซย์จึงไม่ใช่แค่ท่าเรือ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวของวัฒนธรรมที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่น หรือการแสดงศิลปะที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นเต้นและมีเสน่ห์ ต้องไม่พลาดที่จะเยือนมาร์เซย์ซึ่งเต็มไปด้วย charm และ history ที่คุณจะไม่มีวันลืม.

บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!

ท่าเรือจิบรัลตาร์ ตั้งอยู่ที่จุดสิ้นสุดของคาบสมุทรไอบีเรีย เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยมี "หินจิบรัลตาร์" ที่สูงถึง 1,400 ฟุต ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของเมืองนี้ จิบรัลตาร์เป็นสถานที่ที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่บริเวณที่มหาสมุทรแอตแลนติกพบกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และห่างจากชายฝั่งของแอฟริกาเพียง 12 ไมล์ ในจิบรัลตาร์ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชอปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ซึ่งมีร้านค้าแบรนด์ดังในสไตล์อังกฤษที่คุ้นเคย ร่วมสัมผัสบรรยากาศที่เป็นกันเองและสบายเหมือนบ้านที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกมาเยือน สำหรับการสำรวจทัศนียภาพ ท่าเรือขนาดเล็กและถนนที่คดเคี้ยวทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยรถมินิบัสที่รองรับผู้โดยสารในจำนวนจำกัด โดยจะมีคนขับ/ไกด์คอยบริการนักท่องเที่ยว หากคุณต้องการความสะดวกในการเคลื่อนไหว สามารถจัดทัวร์ “Rock Tour” โดยแท็กซี่ที่มีพื้นที่เพิ่มเติมได้ จิบรัลตาร์ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่บ้านเกิดของนักเดินทาง แต่เป็นสถานที่เติมเต็มความฝันที่รอให้คุณมาเยือนและสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร!

ท่าเรือคาซาบลังกาในโมร็อกโกคือหนึ่งในท่าเรือที่มีชีวิตชีวาที่สุดในโลกที่นักเดินทางหรูหราต้องไม่พลาด เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่าสู่เมืองคาซาบลังกา นอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือแล้ว ยังสามารถลุยสำรวจเสน่ห์ของตัวเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมยุโรป แอฟริกัน และอาหรับได้อย่างลงตัว การเดินผ่านเมืองท่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตเดโคและโคโลเนียลฝรั่งเศส คุณจะรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในภาพยนตร์คลาสสิก ด้วยอาคารเก่าแก่ ราคาเรื่อยๆ ของตลาดซูคที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้ค้าในตลาดเหล่านี้จะส่งเสียงเรียกนักท่องเที่ยวด้วยความกระตือรือร้น สร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและน่าตื่นตาตื่นใจ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งคือเมืองเก่าเมดิน่า ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ด้วยมัสยิดและบ้านเรือนที่สร้างขึ้นในสมัยของโมฮัมเหม็ด เบน อับดัลลาห์ ซึ่งคุณจะได้พบกับความงดงามของประวัติศาสตร์ ความหลากหลายของวัฒนธรรม และการต้อนรับอันอบอุ่นของชาวโมร็อกโก เมื่อมาเยือนคาซาบลังกาในครั้งนี้ คุณจะได้ค้นพบความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในมุมต่างๆ ของเมืองนี้ และดื่มด่ำกับประสบการณ์สุดพิเศษที่จะตราตรึงอยู่ในใจตลอดไป

เมื่อคุณเดินทางมาถึง Mindelo ท่าเรือแห่งวัฒนธรรมของเกาะเซนต์วินเซนต์ในประเทศเคปเวิร์ด คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสันของเมืองเก่า ฟังดนตรีมอร์นาที่ดังกังวานตามบาร์ต่าง ๆ ขณะที่คุณสัมผัสรสชาติของสุราหรือน้ำตาลจากอ้อย ที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น Mindelo โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงามจากยุคอาณานิคมการเมืองจากอังกฤษและโปรตุเกส ที่สะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรม อาคารบ้านเรือนในโทนสีพาสเทลบวกกับตลาดเทศบาลที่คึกคักเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาด คุณสามารถเดินชมและเลือกซื้อของฝากหรือลิ้มลองสินค้าท้องถิ่นที่อัดแน่นด้วยรสชาติและความสดใหม่ นอกจากการเดินเล่นในเมืองแล้ว ลองคิดถึงการไปเยี่ยมชมหน้าผาที่งดงามบริเวณชายฝั่งหรือล่องเรือชมวิวที่สวยงามรอบเกาะ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางของคุณ แต่ยังทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมของเกาะอย่างแท้จริง เมื่อคุณออกเดินทางจาก Mindelo คุณจะทิ้งไว้แต่ความทรงจำที่อบอุ่นและประทับใจในหัวใจของคุณตลอดไป

ซัลวาดอร์ เดอ บาเฮีย (Salvador de Bahia) เมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งบราซิล เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมและความงดงามของท้องทะเล เมืองที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทร surrounded by the stunning Baía de Todos os Santos และมหาสมุทรแอตแลนติก ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองหลวงทางดนตรีที่สำคัญของประเทศ ตัวเมืองแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ Cidade Alta และ Cidade Baixa ที่เชื่อมต่อกันด้วย Elevador Lacerda ที่มีโครงสร้างสวยงาม ซัลวาดอร์เด่นชัดด้วยมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากแอฟริกัน โดยเฉพาะผู้คน Afro-Brazilian ที่มีมากถึง 70% ของประชากรทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีวัดและโบสถ์ที่ประดับด้วยทองคำ ทำให้เมืองนี้ถูกยกย่องว่าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว สถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับดนตรีและการเต้นรำแอฟริกัน รวมถึงการชมคาโปเอร่า ศิลปะการต่อสู้ที่เกิดจากแรงงานทาส พื้นที่ Pelourinho เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบ้านเรือนสีสันสดใสจากศตวรรษที่ 18-19 และพลาซ่าที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา พร้อมร้านค้าและร้านอาหารที่เปิดตลอดคืน นอกจากนี้ ทะเลบริเวณชายฝั่งของเมืองยังมีชายหาดที่งดงามและสะอาดที่สุด ที่รอให้คุณมาสัมผัสความสุขแห่งการพักผ่อนในแสงดาวของซัลวาดอร์ เดอ บาเฮีย



เมื่อเข้ามายังเมือง Puerto Madryn จากเส้นทาง Ruta 3 คุณอาจรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าเมืองนี้คือหนึ่งในจุดเที่ยวที่สำคัญที่สุดในแพตาโกเนียชายฝั่ง การเดินทางจะพาคุณมายังถนนริมชายฝั่ง Rambla ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และเกสต์เฮาส์ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ในท่ามกลางวิวของอ่าว Golfo Nuevo ที่สวยงามและสงบ Puerto Madryn อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น คาบสมุทร Valdés และ Punta Tombo ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายาก ในช่วงฤดูวาฬที่มีระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม คุณจะได้เห็นวาฬที่แหวกว่ายในอ่าวอย่างใกล้ชิดและสามารถเดินไปยังท่าเรือเพื่อชมความงามเหล่านี้ได้ การวางแผนทริปต่าง ๆ ก็สะดวกสบายด้วยตัวแทนจัดทัวร์และบริษัทเช่ารถมากมายที่มีให้บริการ ร่วมสนุกในกิจกรรมระยะสั้นที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ พร้อมให้ Puerto Madryn เป็นประตูสู่การผจญภัยที่น่าจดจำในดินแดนแห่งสัตว์ป่าชั้นนำของอาร์เจนตินา!
ท่าเรือพอร์ตสแตนลีย์ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะฟอล์คลแลนด์ (หรือที่รู้จักกันในชื่อเกาะมาลวินาส) เป็นจุดหมายที่ซ่อนเร้นในใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นี่คือเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และบรรยากาศที่เหมือนกับหมู่บ้านอังกฤษที่หลุดออกมาใกล้เคียง โดยบ้านเรือนที่มีสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์ช่วยเติมเต็มความงามให้กับทิวทัศน์ที่ถูกตั้งอยู่ในธรรมชาติอันงดงาม นอกจากนี้พอร์ตสแตนลีย์ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยมีซากเรือ Lady Elizabeth ที่จมอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่ง เป็นเครื่องเตือนใจถึงสภาพอากาศอันโหดร้ายที่แวดล้อมหมู่เกาะนี้ การเดินทางมายังฟอล์คลแลนด์ไม่ได้มีเพียงการพบกับภาพวิวอันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ได้สัมผัสกับโลกของเพนกวินหลากหลายสายพันธุ์ เช่น เพนกวิน Gentoo, Magellanic และ King ที่มักจะอาศัยอยู่ที่นี่หรือแวะพักระหว่างการเดินทาง สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่า ฟอล์คลแลนด์คือต่อมที่เปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์อย่างลงตัว สร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำในดินแดนที่ไม่เหมือนใคร

เมืองปูเออร์โต้ มอนต์ (Puerto Montt) เป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากในเขตทะเลสาบของชิลี ด้วยบรรยากาศที่มีลมพัดเย็นสบายและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เมืองนี้เคยเป็นจุดสิ้นสุดสำหรับผู้เดินทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่เขตนี้ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางประมง สิ่งทอ และการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค ปูเออร์โต้ มอนต์ เป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม และตึกสำนักงานตั้งอยู่ในใจกลางเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีโอกาสมาเยือนในวันที่อากาศแจ่มใส คุณจะเพลิดเพลินกับชายหาดที่สวยงาม เช่น พลายา เปลูโก (Playa Pelluco) ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน หรือสามารถขับรถไปตามชายฝั่งเพื่อสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของเนินเขาที่ล้อมรอบ นอกจากนี้ ปูเออร์โต้ มอนต์ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจธรรมชาติอันงดงามของชิลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติออสตราล ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าและภูมิทัศน์ที่น่าหลงใหล หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต อย่าลืมวางแผนการเดินทางมายังเมืองนี้ การล่องเรือในท่าเรือที่มีชื่อเสียงจะเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าจดจำ!


เกาะอีสเตอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ฮังกาโรอา" เป็นเพชรน้ำหนึ่งในมหาสมุทรแปซิฟิกที่ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งชิลีไปถึง 2,300 ไมล์ เป็นสถานที่ที่มีความโดดเดี่ยวที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและถูกประกาศเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี 1722 เกาะนี้มีขนาด 64 ตารางไมล์และมีชื่อเสียงจากสถานที่สำคัญอย่าง "โมอาอิ" รูปปั้นหินขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ ซึ่งถือเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก แม้เกาะอีสเตอร์จะมีลักษณะวัฒนธรรมเป็นโพลินีเซีย แต่ภายหลังถูกผนวกโดยชิลีในปี 1888 ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมและโบราณคดี แต่ยังมีชายหาดอันงดงาม น้ำทะเลใส และแนวปะการังที่น่าหลงใหล ที่จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เดินทางเข้าสู่วัฒนธรรมที่ต่างออกไป ถูกขนาบข้างด้วยภูเขาไฟสามลูกที่เคยระเบิดเมื่อราวสามล้านปีก่อน ได้แก่ โปยเค, ราโน คาอู และมอุงกา เทเรวากา สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและความตั้งใจที่จะค้นหาความลับของวัฒนธรรมที่น่าสนใจ สามารถสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครได้ที่นี่ พร้อมให้คุณปล่อยกายปล่อยใจบนเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันล้ำค่า

เกาะพิทเคิร์น หรือที่รู้จักกันในชื่อท่าเรือพิทเคิร์น เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใครในมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ระหว่างเปรูและนิวซีแลนด์ ท่าเรือแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านอาดัมส์ทาวน์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวที่มีประชากรอาศัยอยู่ โดยมีผู้คนเพียง 56 คนเท่านั้น ซึ่งสะท้อนถึงสไตล์การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและใกล้ชิดกับธรรมชาติ พิทเคิร์นมีความเป็นมาที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของกลุ่มกบฏจากเรือ HMS Bounty ที่มาหลบซ่อนตัวในช่วงศตวรรษที่ 18 ที่นี่มีพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงาม ขณะเดียวกันคุณยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ซึ่งมีพระคัมภีร์ HMS Bounty และโบสถ์อาดัมส์ทาวน์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกให้คุณได้สัมผัส อย่าลืมสำรวจถ้ำของฟลิตเชอร์ คริสเตียน ซึ่งเป็นที่เก็บความลับในประวัติศาสตร์ หรือค้นหานกพีทเคิร์นรีดวอร์เบลเลอร์ซึ่งเป็นนกพื้นเมืองที่หายาก สัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำที่เกาะพิทเคิร์น ท่าเรือที่มอบความสงบสุขและสวยงาม เป็นการเดินทางที่แปลกใหม่และเฉพาะตัวที่จะทำให้คุณได้รับความประทับใจที่ไม่มีวันลืมเลือน


มูเรอา (Mo’orea) เป็นหนึ่งในหมู่เกาะสังคมแห่งฟรานซ์ โปลินีเซีย ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ถือเป็นเกาะที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหล ด้วยภูเขาไฟสูงสง่าที่ตั้งตระหง่าน สะท้อนความงดงามในทัศนียภาพของน้ำมุ่งเลี้ยงอุ่นและทุ่งหญ้าเขียวขจี อันเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกระดับที่มองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั้งบนบกและใต้น้ำ ที่มูเรอา คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ดำน้ำลึกในน้ำทะเลใสสะอาด ส่องดูชีวิตใต้ทะเลที่มีความหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเดินป่าขึ้นภูเขาเพื่อดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของหมู่เกาะรอบ ๆ และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ให้คุณเข้าใจวิถีชีวิตและประเพณีของคนท้องถิ่น การมาที่มูเรอาไม่ใช่เพียงแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำอันมีค่าในดินแดนที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมที่อยู่รอบตัวคุณ จึงไม่แปลกใจที่เกาะนี้จะเป็นจุดหมายในการเดินทางสำหรับผู้ที่ใฝ่ฝันถึงความงดงามของโลกใบนี้
อายุของความงามในกลุ่มเกาะคุกนั้นไม่อาจเปรียบเทียบได้เมื่อพูดถึง “ไอตูตากิ” (Aitutaki) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “เกาะที่สวยที่สุดในโลก” โดยโทนี วีลเลอร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง Lonely Planet พระอาทิตย์ตกที่นี่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังมีกลิ่นอายของโรแมนติกที่ทำให้หัวใจคุณเต้นแรงเมื่อสีสันแห่งการสะท้อนในท้องฟ้าตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าลึกและหาดทรายขาวบริสุทธิ์ ไอตูตากิไม่เพียงมีความงามตามธรรมชาติ แต่ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เริ่มต้นตั้งแต่การเยือนของลูกเรือ HMS Bounty ในปี 1789 ซึ่งต้องพบกับการเปลี่ยนแปลง หลังจากนั้นเมื่อผู้ตั้งถิ่นฐานโพลินีเซียนมาถึงในราวปี 900 และสร้างวัฒนธรรมการร้องเพลงและการเต้นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แม้ว่าจะมีการแนะนำศาสนาคริสต์เข้ามา แต่ความรักในการแสดงออกของประชาชนยังคงเหนือกว่ามาโดยตลอด หาดทรายที่นี่ให้คุณได้ผ่อนคลายสุดๆ ขณะที่คุณนอนเหยียดอยู่ในอานม้า ภายในอ่าวไอตูตากิ แหล่งท่องเที่ยวทางน้ำสำคัญที่เต็มไปด้วยปลาทะเลนานาชนิด พร้อมโอกาสในการดำน้ำตื้นที่น่าตื่นตาตื่นใจบนเกาะหนึ่งฟุต ที่คุณจะมีโอกาสได้รับตราประทับอันเป็นเอกลักษณ์จากเกาะนี้ นอกจากนี้ยังมีเกาะมอทูรากาวสวรรค์ของนกและปูที่คอยให้คุณได้สัมผัสกับความงามที่เป็นธรรมชาติที่แท้จริง การเยือนไอตูตากิคือการสัมผัสกับความงามที่ลึกล้ำ ท่ามกลางเกาะอันงดงามที่รอคอยให้คุณได้เข้ามาสร้างความทรงจำอันยั่งยืน

ระหว่างการเดินทางไปยังหมู่เกาะคุก คุณไม่ควรพลาดที่จะเยี่ยมชมเกาะราระโทงา เกาะที่ใหญ่ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดในกลุ่มหมู่เกาะนี้ ที่นี่เป็นสถานที่ที่น่าหลงใหล ที่ซึ่งคุณจะพบกับทัศนีภาพชายหาดทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสแจ๋ว ซึ่งเหมาะแก่การนอนอาบแดดหรือการพักผ่อนอย่างเต็มที่ หากคุณเป็นสายแอ็คทีฟ ที่นี่มีหลากหลายกิจกรรมสนุกสนานให้คุณได้เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำตื้นหรือดำน้ำลึกที่เต็มไปด้วยชีวิตใต้ทะเลอันมีเสน่ห์ หรือการปั่นจักรยานไปตามวิวทะเลที่งดงาม และคุณยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ขี่ม้ารอบชายฝั่งได้อีกด้วย นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการตกปลา การเดินป่าผ่านธรรมชาติ และการเล่นกีฬาต่างๆ เช่น สควอชและเทนนิสได้อีกด้วย อีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจคือ การนั่งอยู่บนกำแพงทะเลข้างสนามบินเพื่อสัมผัสแรงลมจากเครื่องบินที่บินขึ้นอย่างตื่นเต้น เหตุการณ์นี้ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวและชาวบ้าน ทั้งนี้ ราระโทงา พร้อมให้คุณได้ค้นพบความผ่อนคลายพร้อมกับประสบการณ์ที่หลากหลายอย่างแท้จริง อย่าให้โอกาสนี้หลุดมือไป!

เบย์ ออฟ ไอแลนด์ส (Bay of Islands) อันงดงาม ตั้งอยู่ในนอร์ธแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่มาพร้อมกับชายหาดที่ขาวสะอาด น้ำทะเลใสสะอาด และทิวทัศน์อันร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ที่โอบล้อมไปทั่วบริเวณ การเดินทางมาที่เบย์ ออฟ ไอแลนด์ส เป็นการเดินผ่านภูมิประเทศที่หลากหลาย ทั้งฟาร์มธรรมชาติ บริเวณชายหาดที่สวยงาม และภูเขา ดังเช่นไบรด์เนอร์วิน ฮิลส์ ที่นำเข้าสู่เมืองหวังกาเรอิ (Whangarei) เมืองเดียวในนอร์ธแลนด์ ซึ่งเป็นฐานที่เหมาะสำหรับการผจญภัยไปยังชายหาดที่ซ่อนอยู่ และทะเลอันเงียบสงบ เบย์ ออฟ ไอแลนด์สไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายที่มีธรรมชาติอันงดงาม แต่ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วย เนื่องจากที่นี่เป็นสถานที่ที่มีการลงนามในสนธิสัญญาไวแทนกิ (Treaty of Waitangi) ในปี 1840 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของนิวซีแลนด์ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมสถานที่สำคัญนี้ และเข้าร่วมเทศกาลที่จัดขึ้นทุกปีในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ความงดงามของเบย์ ออฟ ไอแลนด์ส จึงไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยทัศนียภาพ แต่ยังเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ รอคอยให้คุณมาสัมผัสและสร้างประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตที่นี่

ออคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเมืองที่ถูกขนานนามว่า “เมืองแห่งใบใบเรือ” และเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เมื่อมาถึง คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามของท่าเรือไวเทมาตา ซึ่งหมายถึงน้ำที่ส่องประกาย และมีเกาะเล็ก ๆ ที่น่าสำรวจรอบๆ พร้อมกับเรือมากกว่า 70,000 ลำ ซึ่งแสดงถึงวัฒนธรรมการแล่นเรือที่รากฐานของชาวออคแลนด์ นอกจากนี้ ออคแลนด์ยังมีชายหาดจำนวนมากให้เลือกพักผ่อน ซึ่งหลายแห่งมีความสงบในช่วงวันธรรมดา แถมยังมีสนามกอล์ฟสาธารณะที่สามารถไปเล่นสนุกได้ภายในเวลาเพียง 30 นาทีจากตัวเมือง เมื่อมาเยือนแล้วคุณจะพบกับความมีชีวิตชีวาและวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะการผสมผสานระหว่างชาวเมารี ชาวแปซิฟิก และเอเชีย ที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้แก่เมือง ที่ใจกลางเมืองคือ Sky Tower หอคอยที่สูงถึง 1,082 ฟุต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่เด่นชัดสำหรับผู้ที่เดินสำรวจเมือง มีร้านอาหารและบาร์มากมายตั้งอยู่บริเวณ Viaduct Basin ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อรองรับการท่องเที่ยว มาร่วมสัมผัสกับความวิเศษของออคแลนด์ เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความทันสมัย ที่จะทำให้คุณหลงรักในการเดินทางครั้งนี้!

ท่าเรือทอเรนกา (Tauranga) ตั้งอยู่ในใจกลางของอ่าวพลันตี้ (Bay of Plenty) เป็นหนึ่งในเมืองที่เติบโตเร็วที่สุดในนิวซีแลนด์ และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีแสงแดดมากที่สุดของประเทศร่วมกับเมืองวะคาอาตาเน (Whakatane) ที่อยู่ใกล้เคียง เมืองนี้ไม่เคยเงียบเหงาแม้ในฤดูนอกท่องเที่ยว เนื่องจากท่าเรือทอเรนกามีความคึกคัก และถือเป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีความสำคัญที่สุดในนิวซีแลนด์ การเดินทางมายังทอเรนกาจะนำคุณสู่ชายหาดที่สวยงามของมอนต์มออแนควาย (Mount Maunganui) ซึ่งอยู่ห่างเพียงสะพานข้ามทะเลไปไม่ไกล นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่นักโต้คลื่นและนักท่องเที่ยวต่างเติมเต็มความสนุกและความคึกคักของชีวิต นอกจากกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้ว คุณยังสามารถสำรวจธรรมชาติอันงดงาม คู่ไปกับการชิมอาหารท้องถิ่นที่หรูหรา ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ และได้พบกับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทอเรนกาคือปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณในนิวซีแลนด์

คริสต์เชิร์ชเป็นหนึ่งในเมืองที่มีบรรยากาศอังกฤษมากที่สุดในนิวซีแลนด์ การตั้งชื่อเมืองนี้มีที่มาจากวิทยาลัยชื่อดังในอ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศในเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมอังกฤษอย่างชัดเจน สายน้ำแห่งแม่น้ำอาวอนก็เหมาะแก่การพายเรือรูปแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า “พันท” สร้างภาพอันโรแมนติกที่ช่วยเติมเต็มการพักผ่อนอย่างลงตัว นักท่องเที่ยวจะได้พบกับอาคารสถาปัตยกรรมจากยุควิกตอเรียนที่งดงาม พร้อมสวนสาธารณะที่ร่มรื่นเช่นสวนฮาเกลีย์ ที่เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยม นอกจากนี้ ในช่วงเที่ยงวัน นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการทานอาหารรสเลิศในร้านกาแฟและภัตตาคารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ หรือแม้กระทั่งช้อปปิ้งในตลาดท้องถิ่นที่มีผลิตภัณฑ์แฮนด์เมดจากศิลปินท้องถิ่น เมื่อเรือสำราญของคุณจอดอยู่ที่ท่าเรือในคริสต์เชิร์ช นี่คือโอกาสอันดีที่จะไม่เพียงแค่ทำความรู้จักกับเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความงดงาม แต่ยังได้รับแรงบันดาลใจจากความสงบและความงามของธรรมชาติที่ล้อมรอบเมืองแห่งนี้อีกด้วย

ดันนิดิน เมืองน่าอัศจรรย์บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ เป็นท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ให้บริการนักท่องเที่ยวด้วยทิวทัศน์ทางทะเลที่งดงามและความหลากหลายของสัตว์ป่า โดยมีภูมิทัศน์ที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมสไตล์สกอต และบรรยากาศของมหาวิทยาลัยซึ่งทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น เมืองนี้ได้รับการก่อตั้งโดยผู้ตั้งถิ่นฐานชาวสก๊อตในปี 1848 และยังคงแสดงถึงรากฐานทางวัฒนธรรมที่ชัดเจน ตั้งแต่โรงกลั่นวิสกี้ที่เก่าแก่ที่สุดในนิวซีแลนด์ ไปจนถึงรูปปั้นของกวีชาวสก๊อต โรเบิร์ต เบิร์นส์ นอกจากนี้ยังมีความสนุกสนานจากกีฬาที่แปลกใหม่ เช่น การแข่งขันวิ่งขึ้นบัลด์วินสตรีท ถนนที่ชันที่สุดในโลก และการแข่งขันกลิ้งช็อกโกแลตจาฟฟา ดันนิดินมีชื่อเสียงด้านความแปลกประหลาดและการสร้างสรรค์ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งพบปะของนักเขียนและศิลปินอย่างต่อเนื่อง เช่น เจเน็ต เฟรม และเจมส์ เค. แบ็กซ์เตอร์ แถมยังมีแนวดนตรีที่เรียกว่า "เสียงดันนิดิน" ที่มีอิทธิพลในวงการดนตรียุค 70 และ 80 สัมผัสประสบการณ์แห่งเสรีภาพ และดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ในเมืองนี้ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ รอให้คุณมาคค้นพบ!











































