
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oceania Allura
โอเชียเนีย ครูซส์


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!


ซานฮวน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเปอร์โตริโก ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ติดทะเลอาตแลนติกซึ่งค้นพบโดยนักสำรวจ ฮวน ปอนเซ เด ลีออน เมื่อปี ค.ศ. 1508 เมืองนี้ส่องประกายทั้งในด้านสถาปัตยกรรมอันงดงามจากยุคอาณานิคมและความทันสมัย มีพื้นที่ที่น่าหลงใหลอย่าง Old San Juan ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยโดดเด่นด้วยถนนหินทรายและอาคารที่มีสีสัน อนุสรณ์สถานเช่น Castillo San Felipe del Morro ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น ซานฮวนไม่ได้มีดีแค่ส่วนที่เป็นประวัติศาสตร์ ยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาสำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนท้องถิ่น สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยชายหาดสวยงาม, คลับเสียงดังกระหึ่ม, ร้านอาหารระดับโลก, และพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ที่นำเสนอวัฒนธรรมและศิลปะหลากหลาย ประสบการณ์นี้ทำให้การเยือนซานฮวนไม่เป็นเพียงแค่การได้เที่ยวชมเมือง แต่คือการได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอันหลากหลายและเต็มไปด้วยสีสัน เมื่อคุณย่างก้าวเข้ามาในเมืองนี้ จะมีเสน่ห์ที่ทำให้คุณหลงใหลและรู้สึกอยากกลับมาอีกครั้ง ด้วยวัฒนธรรมที่เข้มข้นและความงดงามที่รอคอยให้คุณค้นพบ ร่วมสร้างความทรงจำในซานฮวน เพื่อตอบโจทย์ความฝันในการเดินทางที่ทุกคนใฝ่หา.

เมื่อเรือล่องเรือสำราญจอดที่ท่าเรือ Basseterre ของเกาะเซนต์คิตส์และเนวิส คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของหมู่เกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่เผยให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในพื้นที่เพียง 65 ตารางไมล์ ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและทิวทัศน์ที่เขียวขจีของทุ่งอ้อยหลากหลายทำให้ที่นี่ถือเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่รักการสำรวจ คุณจะได้พบกับป่าเขตร้อนที่มีน้ำตกและเส้นทางลับ รวมถึงเทือกเขากลางที่ถูกปกครองโดยยอดเขา Mt. Liamuiga ที่มีความสูงถึง 3,792 ฟุต ที่นี่เคยเป็นภูเขาไฟแต่ปัจจุบันได้ดับสนิทแล้ว ความงดงามของ Brimstone Hill สถานที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 18 ซึ่งถูกเรียกว่า "กิ๊บรอลตาร์แห่งอินเดียตะวันตก" ก็เป็นอีกจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ชาวเกาะมีอัธยาศัยดีและพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงตะวันตก อินเทรนด์เรื่องมารยาทในสังคมที่นี่คือควรขออนุญาตก่อนถ่ายภาพ และควรสวมชุดคลุมหรือกางเกงขาสั้นเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ สัมผัสกับเสน่ห์ของเซนต์คิตส์และเนวิส แล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้ไม่รู้ลืม!

เมื่อเรานึกถึงเกาะที่มีเสน่ห์แบบเขตร้อนที่รอการค้นพบ เกาะเซนต์ลูเซีย (Saint Lucia) คือสวรรค์ที่หยิบยื่นให้เราได้สัมผัสที่นี่ การเดินทางมาถึงท่าเรือคาสทรีส (Castries) จะนำพาคุณสู่โลกแห่งธรรมชาติอันงดงามในพื้นที่อันเล็กเพียง 27 ไมล์ยาวและ 14 ไมล์กว้าง แต่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สดใส ประกอบไปด้วยป่าฝนเขียวขจีและสวนกล้วยอันอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของเกาะนี้ต้องยกให้กับยอดเขาเลส์ปีตอง (Les Pitons) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีความสูงถึง 2,000 ฟุต ที่ส่งเสริมความยิ่งใหญ่และความงามของทิวทัศน์ บนเกาะยังมีนกหายากเช่นนกแก้วเซนต์ลูเซีย และพืชพันธุ์ที่แปลกใหม่มากมายที่รอให้คุณได้สำรวจ สัมผัสความอบอุ่นและยินดีต้อนรับจากชาวเกาะในหมู่บ้านเล็กๆ และการเดินตลาดกลางแจ้งที่มีสีสัน อย่างไรก็ตามควรระวังถึงเส้นทางที่ขรุขระซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านหลังหรือคอ เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำอันน่าประทับใจ พาทุกคนสัมผัสประสบการณ์น่าตื่นเต้นในแดนสวรรค์นี้ที่คุณจะไม่อยากพลาด!

โรโซ เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และอบอุ่นที่สุดแห่งหนึ่งในแคริบเบียน แม้ขนาดจะเล็กลง แต่กลับมีประชากรหนาแน่นที่สุดในแถบตะวันออกของแคริบเบียน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบฉบับแคริบเบียนและตลาดที่คึกคัก โรโซจึงพานักท่องเที่ยวย้อนเวลากลับไปสัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตอย่างแท้จริง การเดินสำรวจเมืองในระยะเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงนั้น อาจจะเป็นประสบการณ์ที่รวดเร็ว แต่การเดินเล่นอย่างช้า ๆ จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรายละเอียดที่น่าสนใจยิ่งขึ้น เมืองนี้มีการฟื้นฟูอาคารที่สำคัญโดยองค์กร SHAPE ซึ่งได้ดูแลอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมหลายแห่ง เช่น Casa Lilac ที่มีระเบียงไม้แบบเก่าแก่ และอาคาร J.W. Edwards ที่มีผลงานหินและไม้ที่งดงาม ในใจกลางเขตประวัติศาสตร์คือ Old Market Plaza ซึ่งมีถนนหลายสายในอดีตที่ถูกออกแบบให้โค้งงอรอบพื้นที่นี้ นอกจากนี้ โรงแรม Fort Young ที่สร้างขึ้นเป็นป้อมปราการในศตวรรษที่ 18 รวมถึงห้องสมุดและวิหารแองกลิกันที่อยู่ใกล้เคียง ยังถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มาเยือน ลานหน้าเบย์ที่พัฒนาใหม่บน Dame M.E. Charles Boulevard ก็เป็นที่ที่ไม่ควรพลาดในการสัมผัสลมทะเลแคริบเบียนอย่างแท้จริง โรโซรอให้คุณค้นพบความงดงามในทุกมุมมอง!

ท่าเรือชาร์ล็อตต์อามาลี (Charlotte Amalie) ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะเวอร์จิ้นสหรัฐฯ เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก รอต้อนรับคุณด้วยทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสีน้ำเงินเข้มและภูมิทัศน์ที่เขียวชอุ่ม การเดินทางมาท่าเรือนี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายของพื้นที่ ได้สำรวจสถาปัตยกรรมอันสวยงาม รวมถึงอาคารเก่าแก่ที่สืบทอดวัฒนธรรมจากอดีตอาณานิคม เมื่อคุณมีโอกาสลงเรือที่ท่าเรือชาร์ล็อตต์อามาลี อย่าลืมแวะไปที่ Fort Christian ป้อมปราการสุดคลาสสิกที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่น่าสนใจ ซึ่งจะพาคุณย้อนเวลาไปยังประวัติศาสตร์ของเกาะ นอกจากนี้ยังมีหาดทรายทองที่น่าหลงใหล เช่น หาด Magens Bay ซึ่งได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในโลก ด้วยความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ท่าเรือชาร์ล็อตต์อามาลีจึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์สุดหรูหราในวันหยุดพักผ่อน ไม่ว่าคุณจะเลือกสำรวจเมืองหรือเพลิดเพลินกับการดำน้ำตื้น ก็จะเต็มไปด้วยความทรงจำอันน่าประทับใจอย่างแน่นอน


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!

เกรต สติรัป เคย์ (Great Stirrup Cay) เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากแนสซอประมาณ 50 ไมล์ และเป็นเจ้าของโดย Norwegian Cruise Line จุดหมายปลายทางอันแสนพิเศษแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 250 เอเคอร์ พร้อมให้คุณดื่มด่ำกับประสบการณ์หลากหลายรูปแบบที่หยิบยกความสนุกสนานและความท้าทาย ที่นี่คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมกีฬาทางน้ำที่น่าตื่นเต้น เช่น ดำน้ำ ตีกระดานโต้คลื่น หรือแม้แต่เล่นวอลเลย์บอลชายหาด กระนั้นยังไม่หมดเพียงเท่านี้ คุณยังสามารถสนุกสนานกับเกมปิงปองหรือสไลเดอร์น้ำที่จะทำให้วันของคุณสดชื่นขึ้นอย่างไม่รู้ลืม หลังจากกิจกรรมที่เต็มไปด้วยแอดrenaline เสร็จสิ้น เชิญสัมผัสรสชาติแห่งความสุขที่ Jumbey Beach Grill ซึ่งบริการบาร์บีคิวบนชายหาด อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลสดใหม่ท่ามกลางลมเย็นทะเลและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เพื่อให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น แวะไปที่ Berried Treasure Bazaar เพื่อเลือกซื้อของฝากเล็กๆ น้อยๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้าน มาสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนบนเกาะที่อันแสนอบอุ่นแห่งนี้ พร้อมเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด!


ท่าเรือคิงส์วอร์ฟในเบอร์มิวดา ถือเป็นประตูสู่สวรรค์ของคนรักทะเลและการผจญภัยอย่างแท้จริง เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามและเสน่ห์ของเกาะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เกาะเบอร์มิวดา ซึ่งตั้งรกรากโดยบริษัทเวอร์จิเนียในปี ค.ศ. 1609 ถือเป็นดินแดนที่อุดมไปด้วยวัฒนธรรมอังกฤษและความงามทางธรรมชาติ ไม่เพียงแต่ท่าเรือคิงส์วอร์ฟจะเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจเบอร์มิวดา แต่ยังนำพาคุณไปยังแหล่งดำน้ำตื้นที่มีปะการังสวยงามซึ่งอุดมไปด้วยปลาเขตร้อนหลากสี ทำให้นักดำน้ำได้สัมผัสความมหัศจรรย์ใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีซากเรืออับปางที่สร้างเรื่องราวและเป็นจุดสนใจที่ไม่ควรพลาด เบอร์มิวดายังเป็นที่อยู่อาศัยของคนดังหลายคน เช่น ไมเคิล ดักลาส และแคทเธอรีน ซีตา-โจนส์ ร่วมสร้างบรรยากาศที่หรูหราและเสน่ห์แห่งวิถีชีวิตแบบเขตร้อน เมื่อคุณมาถึงเบอร์มิวดาแล้ว คุณจะสัมผัสได้ถึงความงดงามที่ผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรมและธรรมชาติ อย่ารอช้าที่จะค้นพบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในแดนสวรรค์แห่งนี้!


ท่าเรือพอนตาเดลกาดา ในหมู่เกาะอะโซร์ของโปรตุเกส เป็นจุดแวะพักที่สำคัญสำหรับนักเดินทางที่ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความงดงามของภูมิประเทศที่เกิดจากภูเขาไฟ และธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม ในช่วงฤดูร้อน คุณจะได้เห็นดอกไฮเดรนเยียที่บานสะพรั่ง ประดับประดาสถานที่ด้วยสีสันต่าง ๆ ยินดีต้อนรับนักเดินทางด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เช่น โบสถ์เซาโฮเซ ที่มีฟาซาดสีดำและขาว กระตุ้นให้คุณสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ ตลาดท้องถิ่นยังมีสินค้าท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น สับปะรดที่หวานหอม ใบชาคุณภาพ และเมล็ดกาแฟที่เสิร์ฟความรสชาติแก่นักชิม ท่ามกลางการเดินเล่นบนดินที่มั่นคงหลังการเดินทางบนทะเล เต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาสในการลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่และช้อปปิ้งของฝากที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย การเดินทางไปยังแคลเดอรา ดาส เซเต้ ซิตาดัส เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด สัมผัสกับเส้นทางเดินป่าที่นำไปสู่ทะเลสาบในปล่องภูเขาไฟ พร้อมชมวิวทิวทัศน์อันน่าหลงใหลของทะเลแอตแลนติกที่กว้างใหญ่ รอคอยให้คุณมาเป็นเจ้าของประสบการณ์อันล้ำค่าในราชอาณาจักรแห่งธรรมชาติที่สวยงามแห่งนี้


เมื่อคุณขึ้นเรือเข้ามาสู่ท่าเรือมาลาก้า คุณจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งที่มีชื่อเสียงแห่งคอสตา เดล โซล (Costa del Sol) เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตั้งอยู่ในภูมิภาคลาซาร์กวา (La Axarquía) ที่มีกระท่อมประมง หากพูดถึงความเป็นแบบดั้งเดิมของสเปน นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านและทุ่งนา ที่รอให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศชวนฝัน มาลาก้ายังเป็นศูนย์กลางการเข้าถึงเมืองต่าง ๆ ของอันดาลูเซียที่มีเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น กรานาดาและเซบีย่า ในขณะที่ภูเขาเพนิเบติกา (Penibética) เป็นฉากหลังที่งดงาม ปกป้องเมืองจากลมหนาวจากทางเหนือ ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสถานที่หลบภัยที่มีเสน่ห์และรักษาความอบอุ่นได้ตลอดทั้งปี มาลาก้าไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่หยุดพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในสเปน ทั้งการชิมอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อย และการสำรวจความสวยงามของธรรมชาติที่รอให้คุณได้ค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำภายใต้แสงแดดของคอสตา เดล โซล!

คาร์ตาเฆนา ตั้งอยู่ในภูมิภาคมูร์เซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นท่าเรือสำคัญของกองทัพเรือสเปน จากอ่าวที่เงียบสงบซึ่งเป็นที่พักพิงของเรือสินค้าต่าง ๆ มานานหลายศตวรรษ เมืองนี้ก่อตั้งโดยคาร์เธจในปี 223 ก่อนคริสต์ศักราช และได้รับชื่อว่า "การ์ตาโก โนวา" นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาณานิคมโรมันที่เฟื่องฟู จนกระทั่งขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าของไบเซนไทน์อีกด้วย ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆนายังคงมีความสำคัญด้านการทหาร ตั้งแต่สมัยของพระเจ้าเฟลิเป II ซึ่งได้สร้างกำแพงป้องกันเมืองเพื่อคุ้มครองท่าเรือ จนถึงยุคราชวงศ์บูร์บอนในศตวรรษที่ 18 เมืองนี้ยังคงมอบความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยโบราณสถานที่ฟื้นฟู เช่น โรงละครโรมันที่ได้รับการเปิดเผยและเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1988 เมื่อคุณมีเวลาว่าง อย่าลืมสัมผัสเสน่ห์ของคาร์ตาเฆนาผ่านการล่องเรือรอบท่าเรือที่มีประวัติศาสตร์ซึ่งให้บริการหลายครั้งต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ความงดงามของเมืองนี้จะทำให้คุณหลงรักและฝันถึงการกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

ปัลม่า เดอ มายอร์กา เมืองหลวงที่มีเสน่ห์ของเกาะมายอร์กาในสเปน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมื่อเดินทางมาที่ท่าเรือ ปัลม่า คุณจะได้พบกับคาเฟ่และร้านค้าแนวทันสมัยที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง การเยี่ยมชมโบสถ์ La Seu ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรมโกธิคที่ล้ำค่าจริงๆ ไม่ไกลจากนั้น สวนสาธารณะ Parc de la Mar มอบบรรยากาศผ่อนคลาย ท่ามกลางวิวทะเลอันสวยงาม คุณสามารถเดินเล่นไปตามแนวกำแพงเมืองเก่า Ses Voltes ที่ไปตามรอบของโบสถ์พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ฉายแสงสะท้อนบนหน้าผาอันงดงาม สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ให้แวะชม Museu d'Es Baluard ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ผสมผสานระหว่างศิลปะและวิวทะเลอันน่าหลงใหล เมืองปัลม่าไม่เพียงแค่เป็นที่จอดเรือสำราญ แต่อย่างไรยังเป็นเวทีที่ให้คุณได้ค้นพบความงามและประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางที่ไม่มีวันลืมเลือน สัมผัสชีวิตในสไตล์ที่สุดขีด ณ ปัลม่า เดอ มายอร์กา และให้ความฝันของคุณเป็นจริงในดินแดนแห่งนี้!


เนเปิลส์ เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคแคมปาเนียของอิตาลี และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ ภูมิประเทศที่งดงามซึ่งมีอ่าวที่ถูกยกย่องว่าอยู่ในทำเลที่สะกดทุกสายตา ตลอดจนภูเขาเอเวอซูสที่มีรูปทรงกรวยสมบูรณ์แบบ เป็นสิ่งดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวได้อย่างน่ามหัศจรรย์ นอกจากทิวทัศน์ที่งดงามแล้ว เนเปิลส์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระราชวังหลวง, โรงอุปรากรซานคาร์โล, พิพิธภัณฑ์โบราณคดีแห่งชาติ และ ปราสาทนูโวซึ่งมีอายุกว่า 700 ปี สถานที่เหล่านี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงอดีตอันรุ่งเรือง การเดินสำรวจเมืองเนเปิลส์จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากการจราจรที่ค่อนข้างวุ่นวาย การเริ่มต้นเดินทางจากที่นี่ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่าง โปมเปอี และเกาะคาปรีซึ่งอยู่ใกล้ ใช้เวลาเพียง 45 นาทีโดยเรือเฟอร์รี่ เนเปิลส์ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ แต่ยังเป็นประตูสู่โลกโบราณที่น่าตื่นตาตื่นใจ ช่วยสร้างความประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริงในระหว่างการเดินทางที่จดจำไม่รู้ลืมในอิตาลี

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

เมื่อท่านมาถึงอามัลฟี เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขาเขียวชอุ่มของเทือกเขาลัตทารี และติดกับอ่าวซาเลโน ท่านจะรู้สึกเหมือนได้เดินเข้าสู่อดีตที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะหนึ่งในมหาอำนาจทางการเดินเรือที่สำคัญที่สุดในอิตาลี อามัลฟีเคยเป็นเมืองหลวงของสาธารณรัฐทางทะเล ที่คู่แข่งสำคัญของเจนัวและปิซาในศตวรรษที่ 11 และ 12 ท่าเรือที่เคยรองรับเรือรบยิ่งใหญ่แห่งอิตาลี ปัจจุบันเต็มไปด้วยเฟอร์รี่และเรือประมงสีฟ้า-ขาว ที่จอดเรียงรายอยู่ริมฝั่ง ขณะที่ถนนสายหลักมีร้านค้ามากมายและคาเฟ่ที่นำเสนอขนมหวานแบบดั้งเดิม ในแต่ละมุมของเมือง ท่านจะได้พบกับความงามของสวนมะนาวที่บานสะพรั่ง สะท้อนให้เห็นถึงการค้าอันรุ่งเรืองกับประเทศเลบานอน ตริโปลี และอัลจีเรีย นอกจากนี้ อามัลฟียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิ โบสถ์เก่าแก่และโรงงานผลิตกระดาษโบราณที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ และพระราชวังที่ได้เปลี่ยนมาเป็นโรงแรมหรูหรา พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยว พิสูจน์ให้เห็นว่าที่นี่ยังคงมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และความงามอันน่าหลงใหล โดยมีบรรยากาศของวันวานที่ส่งทอดมาถึงปัจจุบัน ทำให้ทุกการเดินทางที่นี่เป็นประสบการณ์ที่น่ารำลึกและคุ้มค่าต่อการสำรวจ.

คาทาเนีย (Catania) คือเมืองท่าสำคัญที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของซิซิลี บริเวณเชิงเขาไฟเอตนา (Mt. Etna) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความงามและสภาพแวดล้อมที่น่าตื่นตาตื่นใจ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปตามเส้นทางขึ้นเขาเพื่อสัมผัสประสบการณ์การปีนเขาที่จะพาไปสู่ยอดเขาที่เต็มไปด้วยมุมมองอันงดงาม ใจกลางเมืองคือจัตุรัสกัวโด ดูโอโม่ (Piazza del Duomo) ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยมีฟอนตาน่า เดลเลฟานเต้ (Fontana dell'Elefante) ที่ตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง และโบสถ์คาทานียาที่มีการตกแต่งอย่างหรูหรา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลาดปลา "ลาปิเชอเรีย" (La Pescheria) ในมุมตะวันตกเฉียงใต้ของจัตุรัสเป็นแหล่งสนุกสนานที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของอาหารทะเลสดใหม่ ทั้งยังมีร้านอาหารมากมายที่บริการอาหารอันแสนอร่อย การเยือนคาทาเนียจึงไม่เพียงแค่การสัมผัสความรักในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังเป็นโอกาสในการดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและลิ้มรสอาหารที่มีเอกลักษณ์ของซิซิลี เตรียมพร้อมให้คุณเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางครั้งนี้!

ท่าเรือคาทากอลอน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเพโลพอเนซ ทำหน้าที่เป็นประตูสู่ความมหัศจรรย์แห่งประวัติศาสตร์ที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ด้วยความใกล้ชิดกับโอลิมเปีย เมืองโบราณที่เคยเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการแข่งขันกีฬาโอlympic ครานั้น นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่เมื่อเรือสำราญจอดที่นี่ สถานที่นี้จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา โอลิมเปียซึ่งตั้งอยู่ห่างจากคาทากอลอนไม่ไกลนัก เป็นที่ตั้งของอัฒจันทร์กีฬาแห่งแรกของโลก เต็มไปด้วยเรื่องราวและตำนานที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของกรีซโบราณ นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามรอยเท้าของนักกีฬาโบราณ และชื่นชมซากปรักหักพังของวิหารซุสที่เคยดึงดูดผู้แสวงบุญจากทั่วทุกมุมเมดิเตอร์เรเนียน หากคุณไม่ต้องการเดินทางไปโอลิมเปีย คาทากอลอนก็เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนและรับประทานอาหารกลางวันสไตล์กรีก ขณะชมชาวประมงที่ก้าวข้ามมาทำงานในทะเล เหมาะสำหรับการพักผ่อนในบรรยากาศที่งดงามและไม่รีบร้อน คาทากอลอน พร้อมมอบทั้งความสงบและประสบการณ์ที่แสนน่าหลงใหล ในการสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของกรีซ โดยไม่ต้องมีอะไรให้ต้องรีบเร่ง

ซานโตรีนี (Santorini) เป็นเกาะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเจียน รูปร่างของเกาะเป็นเสี้ยวพระจันทร์ซึ่งถูกตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่เกาะไซคลาดิค ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจจากหมู่บ้านอียา (Ia) และสำรวจซากโบราณคดีอันน่าสนใจ ทั้งยังมีบ้านเรือนสีขาวสะอาดที่กลมกลืนกับท้องฟ้าอันสดใส ชื่อเดิมของซานโตรีนีคือ `คัลลิสติ` (Kállisti) ซึ่งแปลว่า "สวยที่สุด" แต่ต่อมาถูกปรับเป็น `ธีร่า` (Thira) ตามชื่อของผู้ตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เราเรียกในปัจจุบันคือ ซานโตรีนี ซึ่งได้ชื่อมาจากนักบุญไอรีน (St. Irene) แห่งเทสซาโลนิกิ การเดินทางโดยเรือมาถึงเกาะซานโตรีนีนั้นน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคุณล่องเรือผ่านเกาะซิกิโนส (Sikinos) และไอโอส (Ios) โดยมีกลุ่มเกาะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่สองด้าน การแล่นเรือเข้าสู่แคลเดอรีนั้นทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของหน้าผาที่สูง 1,100 ฟุต และเมื่อเรือถึงท่าเรืออาธินิออส (Athinios) คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันพิเศษที่สร้างความประทับใจ โดยภายในอ่าวนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมเก่าแก่และความงามที่ซ่อนอยู่จากพลังแห่งภูเขาไฟ ซานโตรีนี ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ยังมีเกาะเพื่อนบ้านที่น่าสนใจอีกมากมาย จึงไม่แปลกใจที่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

มิโลส (Milos) คือเกาะที่มีภูมิประเทศภูเขาไฟ ตั้งอยู่ในทะเลอีเจียน ทางตอนเหนือของทะเลครีต เป็นเพชรน้ำงามในกลุ่มเกาะไซคลาดีส ซึ่งเป็นเกาะที่มีเสน่ห์และความงามที่น่าหลงใหล ที่นี่ไม่เพียงแต่มีความโดดเด่นในด้านธรรมชาติ ยังเป็นที่ตั้งของโบราณวัตถุสำคัญ เช่น รูปปั้นวิสัยสัสอันมีชื่อเสียง "วีนัส เดอ มิโลส" และ "อาสคลีเปียส" ที่บ่งบอกถึงความรุ่งเรืองของอารยธรรมกรีก นอกจากนี้ยังพบนูนประติมากรรมของโพเซidon และอพอลโลอีกด้วย การเดินทางมายังมิโลสจะให้ประสบการณ์อันหลากหลาย ตั้งแต่การพักผ่อนบนชายหาดที่มีน้ำทะเลใสสะอาด ทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ รวมถึงการสำรวจถ้ำโพซิเดียนและถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าอันมีเสน่ห์ในหมู่บ้านต่างๆของเกาะ เมื่อจอดเรือสำราญที่ท่าเรือมิโลส คุณสามารถสัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบ ปราศจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่ โดยไม่พลาดที่จะลิ้มลองอาหารท้องถิ่นที่อร่อย สัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ทุกการเดินทางไปมิโลสเป็นประสบการณ์ที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป.

ไมโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในเกาะอันสวยงามของกรีซที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันแลนด์มาร์คของที่นี่ได้แก่ เมืองไมโคนอส (Hora) ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบไซคลาดิก หากคุณได้สำรวจตามถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน คุณจะพบว่ามุมต่าง ๆ ของเมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลิตเติลเวนิซ (Little Venice) ที่สวยงาม พร้อมบ้านเรือนสีขาวที่มีประตูและโดมสีแดงหรือสีน้ำเงินโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ การเดินชมเมืองในยามเช้าจะมีความคึกคักกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือหลัก สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสการส่งสินค้าและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เมื่อถึงเวลาช่วงบ่าย ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่ยามค่ำคืนจะเป็นช่วงเวลาที่ไมโคนอสแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาที่แท้จริง ร้านค้าและบาร์หลายแห่งจะเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีที่กระตุ้นบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ไมโคนอสจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน!

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.










เจ้าของสวีทของ Oceania Allura มีขนาดกว้างขวางถึง 2,400 ตารางฟุต พร้อมวิวทะเลอันสวยงามจากผนังกระจกใสที่ให้แสงแดดส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ ห้องพักได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยผ้าและเฟอร์นิเจอร์ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ สร้างความรู้สึกโอ่โถงในขณะเดียวกันก็อบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้าน ภายในมีห้องรับประทานอาหารที่สวยงามเพื่อรับประทานอาหารในห้องแบบส่วนตัว และพื้นที่นั่งเล่นที่ทันสมัยสามารถใช้สนทนาอย่างสบายได้ ห้องนอนหลักมีเตียงคิงไซส์ที่ให้ความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมห้องน้ำที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสปา สำหรับครอบครัวหรือคู่รักที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ยังมีระเบียงกว้างขวางจากห้องนั่งเล่นและห้องนอนหลักที่ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศอันหรูหรา ขณะชมวิวจากจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ในเจ้าของสวีท ยังมีบริการพิเศษต่างๆ เช่น บริการซักรีดฟรี น้ำดื่มและของว่างในเลานจ์ส่วนตัว บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และการต้อนรับด้วยแชมเปญขวดแรก นอกจากนี้ยังมีการสำรองห้องในร้านอาหารพิเศษ รับประกันการเข้าถึงเต็มที่ที่ Aquamar Spa Terrace และบริการจัดส่งสิ่งของในห้องพัก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณมีประสบการณ์การล่องเรือในสไตล์ที่ดีที่สุดที่ไม่เหมือนใคร









วิวสวยจากห้องพักริมชายทะเลในห้องพักประเภท วิสตา สวีท ที่มีกว่า 8 ห้องนี้ให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ด้วยขนาดตั้งแต่ 1,450 ถึงเกือบ 1,850 ตารางฟุต ห้องพักนี้ออกแบบมาให้กว้างขวางและหรูหรา ผนังตกแต่งด้วยเฉดสีที่สื่อถึงน้ำทะเลและท้องฟ้า ให้คุณได้เห็นวิวทะเลที่ตระการตาอย่างเต็มตา ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร บาร์ และห้องนอนใหญ่ที่ถูกจัดวางอย่างมีสไตล์พร้อมด้วยหินอ่อนที่เงางาม แกรนิตที่โดดเด่น และไม้โอ๊คที่มีสีสันธรรมชาติ เชื่อมต่อกับระเบียงไม้เทพที่กว้างขวาง ห้องน้ำสำหรับแขกยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อความสะดวกในการต้อนรับเพื่อนฝูง ห้องนอนใหญ่ที่ยิ่งใหญ่มีเตียงคิงไซส์ที่นุ่มสบาย ตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง และพื้นที่แต่งตัว ห้องน้ำหลักที่ราบเรียบมีอ่างอาบน้ำเซรามิกและห้องอาบน้ำแบบฝนที่หรูหรา ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านริมทะเลที่สวยงาม นอกจากนี้ ห้อง วิสตา สวีท ยังมาพร้อมกับบริการพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรี, การเช็คอินบนเรือพร้อมการจัดส่งสัมภาระลำดับความสำคัญ, และการเข้าถึงลาน Lounge ส่วนตัวที่มีคอนเซียร์จดูแลอย่างใกล้ชิด คุณจะได้รับการบริการจากบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยการจัดเตรียมบาร์ในห้องพัก และ ข้าวผลไม้สดที่เติมให้ใหม่ทุกวัน สัมผัสประสบการณ์ความหรูหราที่ไม่เหมือนใครในห้องพัก วิสตา สวีท และให้ทุกช่วงเวลาของการพักผ่อนเป็นไปอย่างต้องมนต์ในสภาพแวดล้อมที่งดงามของมหาสมุทร







โอเชียนเนียสวีท เป็นห้องสวีทที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสะดวกสบายแบบอพาร์ตเมนต์ที่ตั้งอยู่บน Central Park East ห้องพักทั้งหมด 14 ห้องเฉลี่ยพื้นที่ประมาณ 1,000 ถึง 1,200 ตารางฟุต ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง ที่เหมาะสำหรับการต้อนรับแขกด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่คัดสรรมาอย่างดีในพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร ที่เวิร์คในแบบที่ไม่เป็นทางการและมีบรรยากาศชวนผ่อนคลาย โดยห้องนั่งเล่นและห้องนอนเปิดออกสู่ระเบียงไม้สีก้านมะฮอกกานีที่เป็นส่วนตัว พร้อมเตียงขนาดคิงไซค์ที่แสนนุ่มสบาย และห้องน้ำหินอ่อนที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัวให้คุณได้พักผ่อนจากความเครียดในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังมีห้องทำงานส่วนตัวที่อบอุ่น ซึ่งสามารถใช้เป็นสตูดิโอสำหรับแขก และห้องน้ำสำหรับแขกที่มีสไตล์ให้ใช้บริการด้วย การเข้าพักในโอเชียนเนียสวีทจะมาพร้อมกับสิทธิพิเศษที่น่าทึ่ง รวมถึงการบริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้อง, การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. พร้อมการจัดส่งกระเป๋าอย่างเร่งด่วน, การเข้าถึงเลานจ์ส่วนตัวที่มีพนักงานดูแลอย่างดีมีบริการเครื่องดื่มและขนมฟรีตลอดทั้งวัน, และบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมบาร์ในห้องแบบฟรีซึ่งประกอบด้วยสุราพรีเมียมและไวน์ 6 ขวด, ขวดแชมเปญต้อนรับ, ผลไม้สดที่มีการเติมใหม่ทุกวัน และการจองร้านอาหารแบบออนไลน์ที่มีลำดับความสำคัญ นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการ Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด และมีระบบความบันเทิงที่ปรับแต่งตามต้องการ พร้อมด้วยชุดของขวัญอาบน้ำระดับหรูและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้การเข้าพักของคุณเป็นประสบการณ์ที่หรูหราที่สุดในโลกของการเดินเรือ




เพนท์เฮาส์สวีทคือพื้นที่ออกแบบที่สง่างาม เฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ด้วยขนาดกว้างขวางและบรรยากาศที่เงียบสงบ เพนท์เฮาส์สวีทมอบความรู้สึกที่เหมือนอยู่บ้านที่ท่าเรือ โซฟาและเฟอร์นิเจอร์ที่มีความหรูหราและสีสันที่ผ่อนคลาย สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น และเสริมความหรูหราด้วยผ้าหรูและเบาะที่นุ่มนวล ทุกตารางฟุตของพื้นที่ 440 ตารางฟุตได้รับการจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้ชีวิตประจำวัน เช่น ตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้าที่กว้างขวางและห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีอ่างล้างมือคู่และฝักบัวแบบฝน นอกจากนี้ เพนท์เฮาส์สวีทยังมีระเบียงส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทะเลอันแปรเปลี่ยนตลอดเวลา ทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพนท์เฮาส์สวีทยังมีบริการพิเศษต่างๆ เช่น บริการซักรีดฟรีสำหรับกระเป๋าซักสูงสุด 3 ใบ การเข้าถึงเลานจ์ส่วนตัวที่มีพนักงานดูแลตลอด 24 ชั่วโมงและบริการผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมด้วยเครื่องดื่มเย็น ขนมและกาแฟฟรี การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญและการเข้าถึงพื้นที่สุขภาพ Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีขวดแชมเปญต้อนรับพร้อมด้วยผ้าห่มขนสัตว์และบริการทำความสะอาดรองเท้าไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้เพนท์เฮาส์สวีทนี้เป็นทางเลือกที่หรูหราและสะดวกสบายสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศที่หรูหราและเป็นส่วนตัว


ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงมอบความหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์อยู่ในบรรยากาศที่แสนผ่อนคลาย เปรียบเสมือนบ้านพักสุดหรูในเมืองเซนต์โตรเปซ ห้องพักขนาด 290 ตารางฟุตถูกตกแต่งด้วยเฉดสีฟานและครีมที่อบอุ่น ทำให้กลมกลืนกับสีสันสดใสของทะเลและท้องฟ้าที่มองเห็นจากระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ ภายในห้องมีพื้นที่นั่งเล่นที่ออกแบบมาอย่างดี ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และห้องน้ำหรูหราที่มีฝักบัวฝนในสวนอันอบอุ่น เตียงขนาดควีนไซส์ที่มีชื่อว่า Tranquility Bed ช่วยให้คุณได้สัมผัสการนอนหลับที่แสนสงบใจดุจพักอยู่ในวิลล่าที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกคอนเซียร์จพิเศษ เช่น บริการอาหารในห้องพักจากห้องอาหาร Grand Dining Room และบริการซักรีดฟรีเพื่อเติมเต็มประสบการณ์พิเศษนี้อย่างครบครัน

ห้องสเตเทอรูมระเบียงเดี่ยวระดับคอนเซียร์จของ Oceania Allura ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับนักเดินทางที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายในขณะที่ล่องเรือ ที่นี่ให้ความอบอุ่นและความสงบ รวมถึงมีพื้นที่กว้างขวางที่สะท้อนถึงการใช้ชีวิตที่ทันสมัย โต๊ะนั่งเล่นที่สะดวกสบายเหมือนสวมสเวตเตอร์ขนสัตว์ บวกกับระเบียงส่วนตัวที่ทำให้คุณสามารถนั่งพักผ่อนริมทะเลได้อย่างใจเย็น การแบ่งโซนสำหรับนอน ห้องน้ำ และที่เก็บของกว้างขวางทำให้คุณสามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่หลังจากวันที่เต็มไปด้วยการสำรวจ นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษระดับคอนเซียร์จมากมายรออยู่ เช่น บริการซักรีดฟรีถึง 3 กระเป๋า การเข้าถึงคอนเซียร์จเลานจ์แบบเฉพาะที่มีบริการเครื่องดื่มและของว่างตลอดทั้งวัน รวมถึงบริการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์แบบเร่งด่วน และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด อีกทั้งยังมีขวดแชมเปญต้อนรับและผ้าห่มขนสัตว์ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนบนระเบียง ห้องสเตเทอรูมนี้ช่วยให้คุณได้สัมผัสการเดินทางที่หรูหราและเต็มไปด้วยความพิเศษที่คุณคู่ควร.


ระเบียง客艙ของ Oceania Allura เป็นนิยามของความสง่างามที่ยั่งยืน ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางถึง 290 ตารางฟุต ตกแต่งด้วยโทนสีที่อบอุ่นผ่อนคลายและมีการแต่งเติมสีชีน่าอย่างลงตัว ภายในห้องประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสมัยใหม่และตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง เพื่อการเข้าพักที่สะดวกสบาย เตียงควีนไซส์ที่อบอุ่นจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ขณะที่ห้องน้ำที่ตกแต่งอย่างหรูหรามีพื้นที่ตู้เครื่องแป้งขนาดใหญ่และฝักบัวฝนที่น่าทึ่ง ที่มุมพักผ่อนจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายก่อนออกไปยังระเบียงส่วนตัว เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบๆ ระเบียง客艙ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าดึงดูดมากมาย เช่น ที่นอน Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises พร้อมผ้าปูที่นอน 1,000 เส้นด้าย เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่เติมทุกวันในมินิบาร์ส่วนตัว น้ำ Vero ที่เป็นน้ำธรรมชาติและน้ำโซดาแพ็คตกแต่ง พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมงและการบริการทำความสะอาดสองครั้งต่อวัน ทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่หรูหราอย่างแท้จริง

ห้องพักระเบียงแบบฝรั่งเศสเป็นสถานที่พักอันกว้างขวางและเชิญชวนให้คุณสัมผัสกับความสบายราวกับอยู่บ้านริมทะเล เหตุผลที่ทำให้ห้องพักนี้น่าหลงใหลคือประตูกระจกสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงสุดเก๋า โดยคุณจะรู้สึกเหมือนอยู่ในวิลล่าที่ชิคบนชายฝั่ง Côte d’Azur สถานที่แห่งนี้ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน พร้อมเตียงขนาดควีนที่น่าดึงดูด พื้นที่นั่งเล่นแยกต่างหาก และเฟอร์นิเจอร์ที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและคุ้นเคย ห้องน้ำกว้างขวางมีฝักบัวแบบเรนฟอเรสต์ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ความสะดวกสบายภายในห้องพักยังรวมถึงการบริการที่ไร้ที่ติ โดยมีการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและบริการทำความสะอาดสองครั้งในแต่ละวัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิเช่น เครื่องดื่มอัดลมที่เติมให้ฟรีในมินิบาร์ รายการอาหารแบบรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายเพื่อให้คุณเชื่อมต่อโลกภายนอกได้ตลอดเวลา ห้องพักนี้จึงเป็นซึ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนที่ดื่มด่ำไปกับความหรูหราและความสะดวกสบายอย่างแท้จริง