
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oceania Allura
โอเชียเนีย ครูซส์


วัลเลตตา เมืองหลวงสุดหรูของประเทศมอลตา นับเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักการเดินทาง สถาปัตยกรรมที่ประณีตของพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่ล้อมรอบด้วยป้อมปราการสีครีมอันงดงาม จะทำให้คุณรู้สึกย้อนเวลาไปยังอดีตเมื่อก้าวเข้าสู่อาณาเขตแห่งนี้ การสำรวจเมืองวัลเลตตานั้นไม่จำเป็นต้องใช้รถ ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเดินสำรวจถนนสายหลักอย่าง Triq Repubblika ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคัก พร้อมด้วย Triq Mercante ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดท้องถิ่น ที่เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบในบรรยากาศที่เป็นกันเอง จุดเริ่มต้นการเดินทางในวัลเลตตาคือ City Gate ซึ่งเป็นประตูเข้าสู่เมือง ใช้เวลาพักผ่อนที่ออฟฟิศข้อมูลนักท่องเที่ยวบน Triq Mercante เพื่อรับแผนที่และข้อมูลสำคัญก่อนการเดินทาง ต่อด้วยการเลือกสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และสถานที่จัดแสดงศิลปะกลางแจ้ง วัลเลตตาไม่เพียงแต่ยังมีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่รอคอยให้คุณเดินทางมาสัมผัสและสร้างความทรงจำใหม่ในทุกย่างก้าว

ท่าเรือ ลา กูลเลต (La Goulette) ตั้งอยู่ในกรุงตูนิส ประเทศตูนิเซีย คือประตูสู่เสน่ห์อันหลากหลายของโลกอาหรับและเมดิเตอร์เรเนียน ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เพราะเป็นท่าเรือหลักที่เรือสำราญลอยลำเข้ามา เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ขอเชิญคุณสำรวจเมืองตูนิส ซึ่งแวดล้อมไปด้วยประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และวัฒนธรรมที่หลากหลาย คุณจะได้เห็นเมืองเก่าที่มีสีสันสดใส วิหารโบราณ และตลาดพื้นเมืองที่คึกคัก ที่นี่คุณสามารถสัมผัสกับการช้อปปิ้งสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น เช่น เครื่องปั้นดินเผาและผ้าทอมือ ยิ่งไปกว่านั้น การเดินทางจากลา กูลเลตยังง่ายดายไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอื่น ๆ เช่น เมืองคาร์เธจ ที่เป็นเมืองโบราณและมรดกโลกซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ หรือที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างสุสานโรมันที่มีเสน่ห์ ละลายใจในความงดงามของธรรมชาติ รวมทั้งหาดทรายนุ่มที่คุณสามารถพักผ่อนและย disfrutar de las vistas al mar. เป็นที่ที่สัมผัสถึงความหรูหราและเอกลักษณ์ของแต่ละวัฒนธรรม ขอเชิญคุณมาเปิดประสบการณ์ที่ ลา กูลเลต ท่าเรือใกล้ชิดโลกอาหรับที่รอคอยให้คุณค้นพบ!


คาร์ตาเฆนา ตั้งอยู่ในภูมิภาคมูร์เซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นท่าเรือสำคัญของกองทัพเรือสเปน จากอ่าวที่เงียบสงบซึ่งเป็นที่พักพิงของเรือสินค้าต่าง ๆ มานานหลายศตวรรษ เมืองนี้ก่อตั้งโดยคาร์เธจในปี 223 ก่อนคริสต์ศักราช และได้รับชื่อว่า "การ์ตาโก โนวา" นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาณานิคมโรมันที่เฟื่องฟู จนกระทั่งขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าของไบเซนไทน์อีกด้วย ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆนายังคงมีความสำคัญด้านการทหาร ตั้งแต่สมัยของพระเจ้าเฟลิเป II ซึ่งได้สร้างกำแพงป้องกันเมืองเพื่อคุ้มครองท่าเรือ จนถึงยุคราชวงศ์บูร์บอนในศตวรรษที่ 18 เมืองนี้ยังคงมอบความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยโบราณสถานที่ฟื้นฟู เช่น โรงละครโรมันที่ได้รับการเปิดเผยและเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1988 เมื่อคุณมีเวลาว่าง อย่าลืมสัมผัสเสน่ห์ของคาร์ตาเฆนาผ่านการล่องเรือรอบท่าเรือที่มีประวัติศาสตร์ซึ่งให้บริการหลายครั้งต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ความงดงามของเมืองนี้จะทำให้คุณหลงรักและฝันถึงการกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

เมื่อคุณขึ้นเรือเข้ามาสู่ท่าเรือมาลาก้า คุณจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งที่มีชื่อเสียงแห่งคอสตา เดล โซล (Costa del Sol) เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตั้งอยู่ในภูมิภาคลาซาร์กวา (La Axarquía) ที่มีกระท่อมประมง หากพูดถึงความเป็นแบบดั้งเดิมของสเปน นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านและทุ่งนา ที่รอให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศชวนฝัน มาลาก้ายังเป็นศูนย์กลางการเข้าถึงเมืองต่าง ๆ ของอันดาลูเซียที่มีเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น กรานาดาและเซบีย่า ในขณะที่ภูเขาเพนิเบติกา (Penibética) เป็นฉากหลังที่งดงาม ปกป้องเมืองจากลมหนาวจากทางเหนือ ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสถานที่หลบภัยที่มีเสน่ห์และรักษาความอบอุ่นได้ตลอดทั้งปี มาลาก้าไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่หยุดพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในสเปน ทั้งการชิมอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อย และการสำรวจความสวยงามของธรรมชาติที่รอให้คุณได้ค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำภายใต้แสงแดดของคอสตา เดล โซล!


เมื่อพูดถึงการเดินทางไปยังท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจในยุโรป ท่าเรือฟุนชาลที่ตั้งอยู่ในมอริกาขอแนะนำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะมาเดราที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ เมืองฟุนชาลเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ซึ่งถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส João Gonçalves Zarco ในปี 1419 และตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำโคปเรซัลในนามของการค้า โดยเกาะนี้ได้รับชื่อว่า 'มาเดรา' ซึ่งแปลว่า 'ไม้' ในภาษาโปรตุเกส นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เนินเขาที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นไปจนถึงหมู่บ้านที่สวยงามและดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ความงามตามธรรมชาติของเกาะทำให้มันได้รับฉายาอันต่าง ๆ เช่น 'สวนลอยฟ้าบนมหาสมุทรแอตแลนติก' และ 'เกาะแห่งฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีที่สิ้นสุด' การเดินทางสำรวจเกาะนี้ถือเป็นการผจญภัยที่น่าจดจำ พร้อมกิจกรรมมากมายที่จัดเตรียมขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์และความงดงามของที่นี่ ฟุนชาลไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูที่คุณจะได้สัมผัสกับความงามและอารยธรรมที่หลากหลายของโปรตุเกสอย่างแท้จริง

ซานตาครูซ เด ลา ปาลมา หรือที่รู้จักกันในนาม "ลาอิสลาบอนิตา" เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ที่สุดในสเปน เกาะลา ปาลมามีธรรมชาติที่งดงามและเต็มไปด้วยป่าเขียวขจี รวมถึงป่าสนและไม้ลอเรลที่ตัดกับความยิ่งใหญ่ของอุโมงค์ภูเขาไฟตาบูเรียนเต ซึ่งเป็นจุดเด่นของเกาะนี้ ซานตาครูซ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะ เป็นสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมความสวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในเขตเมืองเก่าหรือการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ที่นี่มีสินค้าให้เลือกมากมาย ตั้งแต่เครื่องประดับเงินที่มีราคาย่อมเยา ไปจนถึงสินค้าหนังและสิ่งทอที่ได้รับการปักเย็บอย่างประณีต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมู่เกาะคานารี อย่าลืมไปเยี่ยมชมโบสถ์แม่พระซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เพื่อเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวให้หลากหลายยิ่งขึ้น หากคุณมองหาความสุขและความทรงจำที่น่าประทับใจ ซานตาครูซ เด ลา ปาลมาจะเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางของคุณ

ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ เป็นท่าเรือที่สำคัญในเกาะเทเนริเฟ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะคานารี ประเทศสเปน สถานที่นี้มีเสน่ห์โดดเด่นด้วยแสงอาทิตย์ที่สดใสตลอดทั้งปี และมีภูเขาเทอิดที่เป็นไฮไลต์ของเกาะ ตั้งอยู่ใจกลางเกาะ แวดล้อมด้วยหุบเขาเขียวขจีที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซานตาครูซซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็ก ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นเมืองที่ทันสมัย โดยมีสถาปัตยกรรมที่งดงามจากศตวรรษที่ 16 ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถัน ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ซานตาครูซ ปาเลมตัม ที่มีพื้นที่กว้างขวางถึง 29 เอเคอร์ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นปาล์มหลากหลายสายพันธุ์ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หากคุณมาที่นี่ อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศของเมือง และชื่นชมความงามของภูเขาเทอิดซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาด ด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำและความสวยงามแห่งธรรมชาติ ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ จึงเป็นปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มองหาการผจญภัยในสเปน

ลันซาโรเต (Lanzarote) เป็นเกาะที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามแห่งหนึ่งในสเปน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ชีวมณฑลยูเนสโก (UNESCO Biosphere Reserve) เกาะนี้มีภูมิประเทศที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต จึงมีลักษณะพื้นผิวที่โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ตลอดชายหาดที่สวยงามและสภาพอากาศที่แทบไม่มีฝน ทำให้ลันซาโรเตกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ท่าเรือหลักและเมืองหลวงของเกาะคือ อาเรซีเฟ (Arrecife) นั้นมีบรรยากาศที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยสวนสวยและริมน้ำที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่รอบเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอ่งเกลือจานูเบียนที่มีสีขาวสว่างและภูเขาไฟไฟร์ที่มีทิวทัศน์ที่ดึงดูด ขับรถออกไปจากตัวเมืองก็จะพบกับถ้ำโลสเวอร์เดสที่มีบรรยากาศน่าขนลุก รวมถึงหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงสงบเงียบซึ่งถูกประดับแต่งด้วยความงามธรรมชาติ นอกจากนี้ เกาะลันซาโรเตยังเป็นที่รู้จักในด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งรวมถึงถั่วชิกพีสตูว์ (garbanzos compuestos) และมันฝรั่งกับผัก (papas arrugadas) ที่รสชาติสดใส ก่อนออกไปสำรวจ ให้ระวังโปรแกรมทัวร์ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลือนในเกาะแห่งนี้อย่างเต็มที่

อากาดีร์ เมืองท่าที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก สวยงามด้วยแนวชายหาดโค้งมน และถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอตลาส ที่นี่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 15 เมื่อชาวโปรตุเกสสร้างป้อมขึ้น โดยตั้งชื่อว่า ซานตาครูซ เดอ กีร์ นับตั้งแต่นั้นเมืองนี้ได้เติบโตเป็นท่าเรือที่มีชีวิตชีวาและรุ่งเรือง ในปี 1911 เมืองอากาดีร์กลายเป็นจุดสนใจระดับโลกเมื่อเรือประจัญบานของเยอรมนีเข้ามาในอ่าวเพื่อประท้วงการแบ่งพื้นที่ในแอฟริกาเหนือ ปัจจุบัน เมืองนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังจากการได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี 1956 และยังต้องเผชิญกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวในปี 1960 แต่ก็ได้ฟื้นตัวได้อย่างสง่างาม เมืองอากาดีร์เติมเต็มด้วยชายหาดทรายขาวละเอียด โรงแรมหรู และร้านอาหารที่มีสไตล์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับตลาดซุก (souks) ที่เต็มไปด้วยสินค้าท้องถิ่น สามารถทำให้คุณได้ช้อปปิ้งอย่างมีสีสัน ในขณะที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็พร้อมที่จะให้บริการคุณตลอดเวลา แค่เพียงก้าวแรก คุณจะได้พบกับมนตร์เสน่ห์ของอากาดีร์ ที่รอให้นักเดินทางอย่างคุณสัมผัสและสัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำในดินแดนแห่งนี้

ท่าเรือคาซาบลังกาในโมร็อกโกคือหนึ่งในท่าเรือที่มีชีวิตชีวาที่สุดในโลกที่นักเดินทางหรูหราต้องไม่พลาด เมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่าสู่เมืองคาซาบลังกา นอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของท่าเรือแล้ว ยังสามารถลุยสำรวจเสน่ห์ของตัวเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมยุโรป แอฟริกัน และอาหรับได้อย่างลงตัว การเดินผ่านเมืองท่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตเดโคและโคโลเนียลฝรั่งเศส คุณจะรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในภาพยนตร์คลาสสิก ด้วยอาคารเก่าแก่ ราคาเรื่อยๆ ของตลาดซูคที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้ค้าในตลาดเหล่านี้จะส่งเสียงเรียกนักท่องเที่ยวด้วยความกระตือรือร้น สร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาและน่าตื่นตาตื่นใจ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งคือเมืองเก่าเมดิน่า ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ด้วยมัสยิดและบ้านเรือนที่สร้างขึ้นในสมัยของโมฮัมเหม็ด เบน อับดัลลาห์ ซึ่งคุณจะได้พบกับความงดงามของประวัติศาสตร์ ความหลากหลายของวัฒนธรรม และการต้อนรับอันอบอุ่นของชาวโมร็อกโก เมื่อมาเยือนคาซาบลังกาในครั้งนี้ คุณจะได้ค้นพบความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในมุมต่างๆ ของเมืองนี้ และดื่มด่ำกับประสบการณ์สุดพิเศษที่จะตราตรึงอยู่ในใจตลอดไป

เซบียา หรือที่รู้จักในชื่อ Seville เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,200 ปี ตั้งอยู่ในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เมืองนี้ไม่เพียงแค่เป็นที่รู้จักในเรื่องฟลาเมงโก้ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ แต่ยังมีมรดกโลกที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกถึงสามแห่ง ซึ่งทำให้เซบียาเป็นจุดหมายที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เมืองนี้ยังเป็นสถานที่ที่เคยเป็นบ้านเกิดของศิลปินชื่อดัง ดิเอโก้ เวลาซเกซ และเป็นที่ฝังศพของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นอกจากนั้น เซบียายังเป็นแรงบันดาลใจในผลงานของบิซเซต์ "คาร์เมน" และเคยเป็นฉากในซีรีส์ Game of Thrones ที่ได้รับความนิยมอีกด้วย สัมผัสความงดงามของเซบียาในถนนที่มีอายุนับศตวรรษ ที่นำเสนอร้านทาปาสเล็กๆ ที่เสิร์ฟอาหารที่อาจถือได้ว่าอร่อยที่สุดในดินแดนใต้ของมาดริด พร้อมกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมมูเดฆาร์และสวนที่เต็มไปด้วยน้ำพุและต้นปาล์ม ที่นี่คือโลกแห่งความฝันที่พร้อมให้คุณสำรวจและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอันหลากหลายของสเปนอย่างแท้จริง


บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!










เจ้าของสวีทของ Oceania Allura มีขนาดกว้างขวางถึง 2,400 ตารางฟุต พร้อมวิวทะเลอันสวยงามจากผนังกระจกใสที่ให้แสงแดดส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ ห้องพักได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยผ้าและเฟอร์นิเจอร์ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ สร้างความรู้สึกโอ่โถงในขณะเดียวกันก็อบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้าน ภายในมีห้องรับประทานอาหารที่สวยงามเพื่อรับประทานอาหารในห้องแบบส่วนตัว และพื้นที่นั่งเล่นที่ทันสมัยสามารถใช้สนทนาอย่างสบายได้ ห้องนอนหลักมีเตียงคิงไซส์ที่ให้ความสะดวกสบายสูงสุด พร้อมห้องน้ำที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับสปา สำหรับครอบครัวหรือคู่รักที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ยังมีระเบียงกว้างขวางจากห้องนั่งเล่นและห้องนอนหลักที่ช่วยให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศอันหรูหรา ขณะชมวิวจากจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ในเจ้าของสวีท ยังมีบริการพิเศษต่างๆ เช่น บริการซักรีดฟรี น้ำดื่มและของว่างในเลานจ์ส่วนตัว บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และการต้อนรับด้วยแชมเปญขวดแรก นอกจากนี้ยังมีการสำรองห้องในร้านอาหารพิเศษ รับประกันการเข้าถึงเต็มที่ที่ Aquamar Spa Terrace และบริการจัดส่งสิ่งของในห้องพัก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณมีประสบการณ์การล่องเรือในสไตล์ที่ดีที่สุดที่ไม่เหมือนใคร









วิวสวยจากห้องพักริมชายทะเลในห้องพักประเภท วิสตา สวีท ที่มีกว่า 8 ห้องนี้ให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร ด้วยขนาดตั้งแต่ 1,450 ถึงเกือบ 1,850 ตารางฟุต ห้องพักนี้ออกแบบมาให้กว้างขวางและหรูหรา ผนังตกแต่งด้วยเฉดสีที่สื่อถึงน้ำทะเลและท้องฟ้า ให้คุณได้เห็นวิวทะเลที่ตระการตาอย่างเต็มตา ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร บาร์ และห้องนอนใหญ่ที่ถูกจัดวางอย่างมีสไตล์พร้อมด้วยหินอ่อนที่เงางาม แกรนิตที่โดดเด่น และไม้โอ๊คที่มีสีสันธรรมชาติ เชื่อมต่อกับระเบียงไม้เทพที่กว้างขวาง ห้องน้ำสำหรับแขกยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อความสะดวกในการต้อนรับเพื่อนฝูง ห้องนอนใหญ่ที่ยิ่งใหญ่มีเตียงคิงไซส์ที่นุ่มสบาย ตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง และพื้นที่แต่งตัว ห้องน้ำหลักที่ราบเรียบมีอ่างอาบน้ำเซรามิกและห้องอาบน้ำแบบฝนที่หรูหรา ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในบ้านริมทะเลที่สวยงาม นอกจากนี้ ห้อง วิสตา สวีท ยังมาพร้อมกับบริการพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรี, การเช็คอินบนเรือพร้อมการจัดส่งสัมภาระลำดับความสำคัญ, และการเข้าถึงลาน Lounge ส่วนตัวที่มีคอนเซียร์จดูแลอย่างใกล้ชิด คุณจะได้รับการบริการจากบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วยการจัดเตรียมบาร์ในห้องพัก และ ข้าวผลไม้สดที่เติมให้ใหม่ทุกวัน สัมผัสประสบการณ์ความหรูหราที่ไม่เหมือนใครในห้องพัก วิสตา สวีท และให้ทุกช่วงเวลาของการพักผ่อนเป็นไปอย่างต้องมนต์ในสภาพแวดล้อมที่งดงามของมหาสมุทร







โอเชียนเนียสวีท เป็นห้องสวีทที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสะดวกสบายแบบอพาร์ตเมนต์ที่ตั้งอยู่บน Central Park East ห้องพักทั้งหมด 14 ห้องเฉลี่ยพื้นที่ประมาณ 1,000 ถึง 1,200 ตารางฟุต ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง ที่เหมาะสำหรับการต้อนรับแขกด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่คัดสรรมาอย่างดีในพื้นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหาร ที่เวิร์คในแบบที่ไม่เป็นทางการและมีบรรยากาศชวนผ่อนคลาย โดยห้องนั่งเล่นและห้องนอนเปิดออกสู่ระเบียงไม้สีก้านมะฮอกกานีที่เป็นส่วนตัว พร้อมเตียงขนาดคิงไซค์ที่แสนนุ่มสบาย และห้องน้ำหินอ่อนที่มีอ่างอาบน้ำและฝักบัวให้คุณได้พักผ่อนจากความเครียดในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังมีห้องทำงานส่วนตัวที่อบอุ่น ซึ่งสามารถใช้เป็นสตูดิโอสำหรับแขก และห้องน้ำสำหรับแขกที่มีสไตล์ให้ใช้บริการด้วย การเข้าพักในโอเชียนเนียสวีทจะมาพร้อมกับสิทธิพิเศษที่น่าทึ่ง รวมถึงการบริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้อง, การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. พร้อมการจัดส่งกระเป๋าอย่างเร่งด่วน, การเข้าถึงเลานจ์ส่วนตัวที่มีพนักงานดูแลอย่างดีมีบริการเครื่องดื่มและขนมฟรีตลอดทั้งวัน, และบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมบาร์ในห้องแบบฟรีซึ่งประกอบด้วยสุราพรีเมียมและไวน์ 6 ขวด, ขวดแชมเปญต้อนรับ, ผลไม้สดที่มีการเติมใหม่ทุกวัน และการจองร้านอาหารแบบออนไลน์ที่มีลำดับความสำคัญ นอกจากนี้ยังสามารถใช้บริการ Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด และมีระบบความบันเทิงที่ปรับแต่งตามต้องการ พร้อมด้วยชุดของขวัญอาบน้ำระดับหรูและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เพื่อให้การเข้าพักของคุณเป็นประสบการณ์ที่หรูหราที่สุดในโลกของการเดินเรือ




เพนท์เฮาส์สวีทคือพื้นที่ออกแบบที่สง่างาม เฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ด้วยขนาดกว้างขวางและบรรยากาศที่เงียบสงบ เพนท์เฮาส์สวีทมอบความรู้สึกที่เหมือนอยู่บ้านที่ท่าเรือ โซฟาและเฟอร์นิเจอร์ที่มีความหรูหราและสีสันที่ผ่อนคลาย สร้างบรรยากาศที่อบอุ่น และเสริมความหรูหราด้วยผ้าหรูและเบาะที่นุ่มนวล ทุกตารางฟุตของพื้นที่ 440 ตารางฟุตได้รับการจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้ชีวิตประจำวัน เช่น ตู้เสื้อผ้าแบบเดินเข้าที่กว้างขวางและห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีอ่างล้างมือคู่และฝักบัวแบบฝน นอกจากนี้ เพนท์เฮาส์สวีทยังมีระเบียงส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทะเลอันแปรเปลี่ยนตลอดเวลา ทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพนท์เฮาส์สวีทยังมีบริการพิเศษต่างๆ เช่น บริการซักรีดฟรีสำหรับกระเป๋าซักสูงสุด 3 ใบ การเข้าถึงเลานจ์ส่วนตัวที่มีพนักงานดูแลตลอด 24 ชั่วโมงและบริการผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมด้วยเครื่องดื่มเย็น ขนมและกาแฟฟรี การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญและการเข้าถึงพื้นที่สุขภาพ Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีขวดแชมเปญต้อนรับพร้อมด้วยผ้าห่มขนสัตว์และบริการทำความสะอาดรองเท้าไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำให้เพนท์เฮาส์สวีทนี้เป็นทางเลือกที่หรูหราและสะดวกสบายสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนในบรรยากาศที่หรูหราและเป็นส่วนตัว


ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียงมอบความหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์อยู่ในบรรยากาศที่แสนผ่อนคลาย เปรียบเสมือนบ้านพักสุดหรูในเมืองเซนต์โตรเปซ ห้องพักขนาด 290 ตารางฟุตถูกตกแต่งด้วยเฉดสีฟานและครีมที่อบอุ่น ทำให้กลมกลืนกับสีสันสดใสของทะเลและท้องฟ้าที่มองเห็นจากระเบียงส่วนตัวขนาดใหญ่ ภายในห้องมีพื้นที่นั่งเล่นที่ออกแบบมาอย่างดี ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และห้องน้ำหรูหราที่มีฝักบัวฝนในสวนอันอบอุ่น เตียงขนาดควีนไซส์ที่มีชื่อว่า Tranquility Bed ช่วยให้คุณได้สัมผัสการนอนหลับที่แสนสงบใจดุจพักอยู่ในวิลล่าที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกคอนเซียร์จพิเศษ เช่น บริการอาหารในห้องพักจากห้องอาหาร Grand Dining Room และบริการซักรีดฟรีเพื่อเติมเต็มประสบการณ์พิเศษนี้อย่างครบครัน

ห้องสเตเทอรูมระเบียงเดี่ยวระดับคอนเซียร์จของ Oceania Allura ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับนักเดินทางที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและสะดวกสบายในขณะที่ล่องเรือ ที่นี่ให้ความอบอุ่นและความสงบ รวมถึงมีพื้นที่กว้างขวางที่สะท้อนถึงการใช้ชีวิตที่ทันสมัย โต๊ะนั่งเล่นที่สะดวกสบายเหมือนสวมสเวตเตอร์ขนสัตว์ บวกกับระเบียงส่วนตัวที่ทำให้คุณสามารถนั่งพักผ่อนริมทะเลได้อย่างใจเย็น การแบ่งโซนสำหรับนอน ห้องน้ำ และที่เก็บของกว้างขวางทำให้คุณสามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่หลังจากวันที่เต็มไปด้วยการสำรวจ นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษระดับคอนเซียร์จมากมายรออยู่ เช่น บริการซักรีดฟรีถึง 3 กระเป๋า การเข้าถึงคอนเซียร์จเลานจ์แบบเฉพาะที่มีบริการเครื่องดื่มและของว่างตลอดทั้งวัน รวมถึงบริการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์แบบเร่งด่วน และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด อีกทั้งยังมีขวดแชมเปญต้อนรับและผ้าห่มขนสัตว์ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนบนระเบียง ห้องสเตเทอรูมนี้ช่วยให้คุณได้สัมผัสการเดินทางที่หรูหราและเต็มไปด้วยความพิเศษที่คุณคู่ควร.


ระเบียง客艙ของ Oceania Allura เป็นนิยามของความสง่างามที่ยั่งยืน ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางถึง 290 ตารางฟุต ตกแต่งด้วยโทนสีที่อบอุ่นผ่อนคลายและมีการแต่งเติมสีชีน่าอย่างลงตัว ภายในห้องประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสมัยใหม่และตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง เพื่อการเข้าพักที่สะดวกสบาย เตียงควีนไซส์ที่อบอุ่นจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ขณะที่ห้องน้ำที่ตกแต่งอย่างหรูหรามีพื้นที่ตู้เครื่องแป้งขนาดใหญ่และฝักบัวฝนที่น่าทึ่ง ที่มุมพักผ่อนจะเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายก่อนออกไปยังระเบียงส่วนตัว เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบๆ ระเบียง客艙ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าดึงดูดมากมาย เช่น ที่นอน Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises พร้อมผ้าปูที่นอน 1,000 เส้นด้าย เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่เติมทุกวันในมินิบาร์ส่วนตัว น้ำ Vero ที่เป็นน้ำธรรมชาติและน้ำโซดาแพ็คตกแต่ง พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมงและการบริการทำความสะอาดสองครั้งต่อวัน ทำให้คุณได้รับประสบการณ์ที่หรูหราอย่างแท้จริง

ห้องพักระเบียงแบบฝรั่งเศสเป็นสถานที่พักอันกว้างขวางและเชิญชวนให้คุณสัมผัสกับความสบายราวกับอยู่บ้านริมทะเล เหตุผลที่ทำให้ห้องพักนี้น่าหลงใหลคือประตูกระจกสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดออกสู่ระเบียงสุดเก๋า โดยคุณจะรู้สึกเหมือนอยู่ในวิลล่าที่ชิคบนชายฝั่ง Côte d’Azur สถานที่แห่งนี้ตกแต่งอย่างพิถีพิถัน พร้อมเตียงขนาดควีนที่น่าดึงดูด พื้นที่นั่งเล่นแยกต่างหาก และเฟอร์นิเจอร์ที่ทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและคุ้นเคย ห้องน้ำกว้างขวางมีฝักบัวแบบเรนฟอเรสต์ที่ให้ความรู้สึกหรูหรา ความสะดวกสบายภายในห้องพักยังรวมถึงการบริการที่ไร้ที่ติ โดยมีการเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและบริการทำความสะอาดสองครั้งในแต่ละวัน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิเช่น เครื่องดื่มอัดลมที่เติมให้ฟรีในมินิบาร์ รายการอาหารแบบรูมเซอร์วิส 24 ชั่วโมง และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายเพื่อให้คุณเชื่อมต่อโลกภายนอกได้ตลอดเวลา ห้องพักนี้จึงเป็นซึ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนที่ดื่มด่ำไปกับความหรูหราและความสะดวกสบายอย่างแท้จริง