
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oceania Insignia
โอเชียเนีย ครูซส์


ท่าเรือบริจด์ทาวน์ในบาร์เบโดส เป็นที่ที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลาย ตั้งอยู่ข้างอ่าวธรรมชาติแห่งเดียวของเกาะ ท่านจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และยุคล่าอาณานิคม จนสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นพร้อมด้วยชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม ระหว่างการสำรวจเมืองนี้ ท่านจะได้พบกับอาคารรัฐสภาที่จัดสร้างในสไตล์อังกฤษ และประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในโบสถ์แองกลิกัน รวมถึงกองทัพบาร์เบโดสซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่ผ่อนคลายและชีวิตชายหาดที่คึกคักได้อย่างเต็มที่ การเดินทางจากเรือไปยังยานพาหนะเพื่อเริ่มต้นการท่องเที่ยวอาจมีระยะทางที่แตกต่างกันไป แต่อย่าห่วง เพราะทุกช่วงเวลาในบริจด์ทาวน์แทบจะตื่นเต้นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่รอคอยให้ท่านได้สัมผัส ซึ่งจะทำให้ทริปของท่านเป็นที่น่าจดจำไม่มีวันลืม กลับใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่บริจด์ทาวน์ สถานที่แสนประทับใจในบาร์เบโดส



ซานตาเร็ม (Santarém) เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ในประเทศบราซิล เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ภูมิภาคนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอเมซอน ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก เสน่ห์ของซานตาเร็มอยู่ที่การเป็นประตูสู่ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของอเมซอน หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติ การได้เห็นการผสมผสานระหว่างแม่น้ำดำและแม่น้ำขาวที่เรียกว่า "Encontro das Águas" เป็นประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด อนุสาวรีย์แห่งการพบกันนี้เป็นจุดสร้างความตราตรึงใจ และเป็นที่รู้จักในวงกว้างของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ซานตาเร็มยังมีตลาดกลางที่มีชีวิตชีวา ซึ่งคุณสามารถสัมผัสรสชาติของท้องถิ่น ซื้อของที่ระลึกที่ทำจากสินค้าจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้ท้องถิ่นและงานฝีมือที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น อนุสรณ์สถานทางศาสนาและพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมือง เตรียมตัวให้พร้อมที่จะค้นพบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในซานตาเร็ม ที่ซึ่งธรรมชาติและวัฒนธรรมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวทุกครั้งที่มีเรือสำราญจอดเทียบท่า ความมหัศจรรย์ของอเมซอนรอให้คุณมาสัมผัสแล้ววันนี้!

ท่าเรือ Parintins ตั้งอยู่ในใจกลางของ Amazon ประเทศบราซิล เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในการสำรวจความงดงามและความหลากหลายทางธรรมชาติของอเมซอน พื้นที่นี้เป็นที่รู้จักจากเทศกาล Boi Bumbá ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน เพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมพื้นเมืองและแสดงให้เห็นถึงความงดงามของชีวิตในป่าฝน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการแสดงที่เต็มไปด้วยสีสัน เสียงเพลง และแดนเซอร์ที่สวมใส่ชุดประจำชาติอย่างงดงาม นอกจากนี้ Parintins ยังเป็นประตูสู่การค้นพบธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในเขตอเมซอน ซึ่งมีทั้งสัตว์ป่าและพืชพรรณที่หายาก นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือไปตามแม่น้ำอเมซอนที่ยิ่งใหญ่ และสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงในระบบนิเวศที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ตามทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ การเดินทางมายัง Parintins โดยเรือสำราญจะทำให้คุณได้สนุกสนานกับการสำรวจ และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเผชิญหน้ากับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เปลี่ยนการเดินทางครั้งนี้ให้เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในจิตใจของคุณ


ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในบราซิล ท่าเรือ Boca de Valeria จะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับคุณ ตั้งอยู่ในเขตอเมซอน นี่คือหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและความงดงามของธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถพบกับชีวิตประจำวันของชาวพื้นเมืองที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Boca de Valeria มีบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณได้สัมผัสการเดินชมธรรมชาติริมแม่น้ำอเมซอน อันเป็นแหล่งชีวิตที่หลากหลายทั้งพืชและสัตว์ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ยากจะลืม คุณยังสามารถเล่นสนุกกับลิงหรือสัมผัสกับวัฒนธรรมพื้นเมืองที่นี่ได้อีกด้วย นอกเหนือจากการเยี่ยมชม Boca de Valeria นั้น ผู้ที่รักการผจญภัยจะต้องไม่พลาดที่จะสำรวจอุทยานแห่งชาติอเมซอน ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพอันน่าทึ่ง รวมถึงเส้นทางปั่นจักรยานหรือเดินป่าที่ช่วยให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง การมาเยือนที่ Boca de Valeria คือการค้นพบโลกใหม่ที่รอคุณอยู่ พร้อมให้คุณดื่มด่ำไปกับความงามของวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ในบราซิล รอให้คุณมาค้นพบ!

อัลเตอร์ โด ชาว (Alter do Chão) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในบราซิล ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแทปจอส (Tapajós River) ภายในรัฐปารา (Pará) ซึ่งมีทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงามและอุดมไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เข้มข้น การเดินทางมาที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายและแสนจะโรแมนติก ท่าเรืออัลเตอร์ โด ชาวเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการขึ้นเรือสำราญกลางแม่น้ำและสำรวจเกาะที่มีชื่อเสียงอย่าง "เกาะเซนต์ลูเซีย" และ "เกาะคาชู" ที่มีน้ำทะเลใสสะอาดเป็นอย่างมาก ที่นี่เหมาะสำหรับการว่ายน้ำ ดำน้ำตื้น และชมนกนานาพันธุ์ รวมถึงต้นไม้แปลกตาที่มีอยู่ทั่วไปในเส้นทางน้ำของป่าอเมซอน นอกจากนี้ ท่าเรือยังมีตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์พื้นบ้านและอาหารแสนอร่อย ไม่ว่าคุณจะอยากลิ้มลองปลาเฮอริ่งสดๆ หรือขนมหวานที่มีรสสัมผัสไม่เหมือนใคร ในทุกมุมของอัลเตอร์ โด ชาว คุณจะได้สัมผัสความสนุกและเรื่องราวที่รอให้คุณค้นพบ พร้อมด้วยมิตรภาพจากผู้คนที่อบอุ่นและเป็นมิตร การมาท่าเรืออัลเตอร์ โด ชาว คือการสร้างความทรงจำที่ยากจะลืม โดยเฉพาะการสำรวจธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจแห่งการค้นพบใหม่ ๆ ทุกครั้ง



บนชายฝั่งของเฟรนช์เกียน่า มีเกาะที่สื่อถึงความลึกลับและน่าสะพรึงกลัว นั่นคือ "เกาะปีศาจ" (Devil’s Island) รูปร่างของเกาะเป็นเหมือนกุญแจ มีหินแหลมคมและต้นมะพร้าวที่สั่นไปตามลม ที่นี่เคยเป็นสถานที่คุมขังที่โหดร้ายและน่าสะพรึงกลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ สถานที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องการทรมานและลงโทษอาชญากรที่เลวร้ายที่สุดของจักรวรรดิฝรั่งเศส แม้เกาะนี้จะปิดตัวลงตั้งแต่ปี 1953 แต่ชื่อเสียงที่เรียกว่าหมายถึงนรกบนดินยังคงอยู่ ภาพลักษณ์ที่น่าขนลุกในขณะที่เรือสำราญของคุณเข้าใกล้เกาะนี้ จะทำให้คุณรู้สึกถึงความแปลกประหลาด โดยต้นมะพร้าวที่ดูเหมือนไม่เป็นภัยกลับโบกมือเชื้อเชิญคุณมาที่ชายฝั่ง หากคุณมีโอกาสไปเยือนเกาะนี้ อย่าลืมสำรวจแนวชายฝั่งที่สวยงามและภูมิประเทศที่ทรงเสน่ห์ ไม่ว่าจะเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ หรือทะเลสีน้ำเงินที่ตั้งอยู่รายล้อม นอกจากนี้ยังมีประวัติศาสตร์ที่รอการเปิดเผย ทำให้เกาะปีศาจเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความลี้ลับ รอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต!


เกาะตรีนิดาดและโตเบโก เป็นสวรรค์ที่น่าหลงใหลในอ่าวแห่งแคริบเบียน โดยเฉพาะท่าเรือสการ์โบโรห์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจความงดงามที่รออยู่ ด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของธรรมชาติและการผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย สการ์โบโรห์มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เมื่อมาถึงสการ์โบโรห์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบและควบคู่ไปกับกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำตื้นในน้ำทะเลสีฟ้าหรือการพายเรือคายัคในอ่าวที่สวยงาม ภายในเขตเมืองสามารถเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึง Fort King George ที่สร้างขึ้นในยุคอาณานิคม ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา ให้มุมมองที่งดงามของสการ์โบโรห์ หากคุณกำลังมองหาการพักผ่อน การนอนชิลล์บนชายหาดที่ขาวสะอาด หรือลงไปในกับทะเลที่สดใส ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่คุณไม่ควรพลาด ในขณะที่ตรีนิดาดสะท้อนถึงชีวิตที่มีสีสัน โตเบโกเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการหยุดพักจากความเร่งรีบ อย่ารอช้า ให้สการ์โบโรห์เป็นจุดหมายในการเดินทางครั้งถัดไปของคุณ!

ท่าเรือ Port of Spain ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะตรินิแดด เป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการค้าของตรินิแดดและโตเบโก ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมที่หลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่อาคารวัดฮินดูจนถึงสไตล์โชว์กลมโค้งตระการตา ที่แสดงถึงการหลอมรวมของวัฒนธรรมจากหลากหลายเชื้อชาติ เช่น แอฟริกัน เอเชีย อินเดีย ยุโรป และนิวเวิลด์ ตรินิแดดยังเป็นที่รู้จักในฐานะ “บ้านของการเฉลิมฉลอง” ด้วยงานคาร์นิวาลและเสียงดนตรีจากวงสตีลแบนด์ที่โด่งดัง ส่วนผู้มาเยือนก็จะได้พบเจอกับนกที่สวยงามกว่า 400 ชนิด ณ Asa Wright Nature Reserve และพืชพันธุ์ไม้เมืองร้อนที่น่าสนใจ ในปี 1595 ชุมชน Conquerabia ของชนพื้นเมืองอเมริกันถูกก่อตั้งขึ้นที่พื้นที่นี้ ก่อนที่ชาวสเปนจะตั้งชื่อใหม่ว่า 'Puerto de España' และเมื่อบริเตนเข้าควบคุมเกาะในปี 1797 ชื่อเมืองถูกปรับเปลี่ยนเป็น Port of Spain ซึ่งยังคงเป็นศูนย์กลางสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ อย่าพลาดที่จะมาเยือนท่าเรือแห่งนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและเสน่ห์ของวัฒนธรรมที่หลากหลาย และให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครในมุมมองที่ตื่นตาตื่นใจ.

เกรเนดา สวรรค์แห่งทะเลแคริบเบียน ที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นหอมของเครื่องเทศ เช่น ลูกจันทน์เทศ อบเชย และโกโก้ เกาะขนาดเล็กแห่งนี้ไม่เพียงแต่สวยงามด้วยชายหาดทรายขาวและอ่าวที่เงียบสงบ แต่ยังมีเสน่ห์ในแง่ของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น สเตนจอร์จส์ เมืองหลวงที่มีภาพลักษณ์งดงามที่สุดในแคริบเบียน สะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของเมืองย้อนยุค แม้ในยุคที่เปลี่ยนไป ถนนหนทางแคบทอดยาวขึ้นเขา มีร้านค้ามากมายให้เลือกซื้อ สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เรือสำราญส่วนใหญ่จะมาจอดที่ท่าเรือสเตนจอร์จส์ ฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นอ่าวรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ล้อมรอบด้วยบ้านเรือนสีพาสเทลและคลื่นน้ำใสสะอาด ท่าเรือนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น อนุสาวรีย์คริสต์ผู้ลึกซึ้ง ณ สถานที่พักผ่อนกลางอ่าว และอุโมงค์เซนดอลล์ ที่สร้างขึ้นในปี 1895 ที่เชื่อมต่อระหว่างทั้งสองฝั่งของเมือง เกรเนดาเป็นที่รู้จักในนาม 'เกาะแห่งเครื่องเทศ' นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความอบอุ่นจากชาวเกรเนดาที่พร้อมต้อนรับ พร้อมด้วยร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอร่อย ๆ เช่น ปลาทอดและเครื่องเทศสด ๆ ที่จะทำให้เดินทางของคุณน่าจดจำตลอดไป

เมื่อพูดถึงการเดินทางสู่หมู่เกาะเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ ท่าเรือคิงสทาวน์ (Kingstown) จะเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ด้วยบรรยากาศที่งดงามและแวดล้อมด้วยภูมิทัศน์เขียวขจี ท่าเรือนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจวัฒนธรรมที่หลากหลายของประเทศนี้อีกด้วย ไม่ไกลจากท่าเรือ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความงดงามของสวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติที่มีต้นไม้หายากและดอกไม้สวยงาม มอบประสบการณ์การเดินชิวที่ไร้เดียงสา ท่ามกลางอากาศที่สดชื่น อีกทั้ง การสำรวจมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจในเมืองคิงสทาวน์เอง ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาด โดยได้แก่ โบสถ์เซนต์จอร์จ ที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม และตลาดท้องถิ่นที่คึกคักเต็มไปด้วยของฝากและผลิตผลที่สดใหม่ สุดท้ายก็ไม่ควรพลาดการสัมผัสชายหาดที่สวยงามซึ่งมีน้ำทะเลสีมรกตและหาดทรายขาวสะอาด ต้อนรับคุณด้วยความสงบและเป็นธรรมชาติ คิงสทาวน์เป็นจุดหมายที่เชิญชวนให้คุณมาใช้เวลาในการพักผ่อนและดื่มด่ำกับเสน่ห์ของเกาะที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่น่าจดจำเช่นนี้ได้อย่างไม่มีวันเบื่อ

เมื่อเรานึกถึงเกาะที่มีเสน่ห์แบบเขตร้อนที่รอการค้นพบ เกาะเซนต์ลูเซีย (Saint Lucia) คือสวรรค์ที่หยิบยื่นให้เราได้สัมผัสที่นี่ การเดินทางมาถึงท่าเรือคาสทรีส (Castries) จะนำพาคุณสู่โลกแห่งธรรมชาติอันงดงามในพื้นที่อันเล็กเพียง 27 ไมล์ยาวและ 14 ไมล์กว้าง แต่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สดใส ประกอบไปด้วยป่าฝนเขียวขจีและสวนกล้วยอันอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของเกาะนี้ต้องยกให้กับยอดเขาเลส์ปีตอง (Les Pitons) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีความสูงถึง 2,000 ฟุต ที่ส่งเสริมความยิ่งใหญ่และความงามของทิวทัศน์ บนเกาะยังมีนกหายากเช่นนกแก้วเซนต์ลูเซีย และพืชพันธุ์ที่แปลกใหม่มากมายที่รอให้คุณได้สำรวจ สัมผัสความอบอุ่นและยินดีต้อนรับจากชาวเกาะในหมู่บ้านเล็กๆ และการเดินตลาดกลางแจ้งที่มีสีสัน อย่างไรก็ตามควรระวังถึงเส้นทางที่ขรุขระซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านหลังหรือคอ เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำอันน่าประทับใจ พาทุกคนสัมผัสประสบการณ์น่าตื่นเต้นในแดนสวรรค์นี้ที่คุณจะไม่อยากพลาด!

ท่าเรือบริจด์ทาวน์ในบาร์เบโดส เป็นที่ที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลาย ตั้งอยู่ข้างอ่าวธรรมชาติแห่งเดียวของเกาะ ท่านจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และยุคล่าอาณานิคม จนสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นพร้อมด้วยชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม ระหว่างการสำรวจเมืองนี้ ท่านจะได้พบกับอาคารรัฐสภาที่จัดสร้างในสไตล์อังกฤษ และประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในโบสถ์แองกลิกัน รวมถึงกองทัพบาร์เบโดสซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่ผ่อนคลายและชีวิตชายหาดที่คึกคักได้อย่างเต็มที่ การเดินทางจากเรือไปยังยานพาหนะเพื่อเริ่มต้นการท่องเที่ยวอาจมีระยะทางที่แตกต่างกันไป แต่อย่าห่วง เพราะทุกช่วงเวลาในบริจด์ทาวน์แทบจะตื่นเต้นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่รอคอยให้ท่านได้สัมผัส ซึ่งจะทำให้ทริปของท่านเป็นที่น่าจดจำไม่มีวันลืม กลับใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่บริจด์ทาวน์ สถานที่แสนประทับใจในบาร์เบโดส












เจ้าของสวีทใหม่ที่มีการออกแบบอย่างหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์จำนวนหกห้อง เป็นห้องที่มักถูกจองอย่างรวดเร็ว สวีทเหล่านี้กว้างใหญ่ถึงประมาณ 1,000 ตารางฟุต และเป็นโอเอซิสแห่งความเงียบสงบและการผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยมีห้องน้ำที่ได้รับการออกแบบใหม่สุดหรูซึ่งมีฝักบัวขนาดใหญ่ สวีทยังมีระเบียงไม้สักส่วนตัว และโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องเพื่อความสะดวกสบายที่สุด นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บริการซักรีดฟรีสูงสุดสามกระเป๋าต่อห้อง บริการผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชั่วโมง และการเข้าถึงสปา Aquamar Terrace อย่างไม่จำกัด ทั้งนี้ยังมีการต้อนรับด้วยแชมเปญฟรีและชุดของขวัญจากบุลการี รวมทั้งสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารและบริการอื่นๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในทุกมิติของความหรูหราในเจ้าของสวีทแห่งนี้







ห้องพักชื่อว่า วิสตา สวีท มอบวิวที่งดงามไปยังส่วนหน้าเรือ คุณจะพบกับสีสันที่สงบซึ่งสื่อถึงทะเลที่เงียบสงบและท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ห้องพักแต่ละห้องมีขนาดกว้างถึง 786 ตารางฟุต พร้อมทุกความสะดวกสบายที่คาดหวัง รวมถึงห้องน้ำที่สองสำหรับแขก และห้องน้ำหลักที่ตกแต่งด้วยหินออนิกซ์ หินอ่อนคารารา และหินแกรนิต พร้อมฝักบัวอาบน้ำสุดหรู คุณสามารถนั่งพักผ่อนบนระเบียงไม้ทีคหรือชมภาพยนตร์ผ่านระบบบันเทิงที่ปรับแต่งตามความต้องการของคุณ นอกจากนี้ ห้อง วิสตา สวีท ยังมีบริการพิเศษเพิ่มเติม เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก การลงทะเบียนขึ้นเรือเวลา 11.00 น. ด้วยความสำคัญ รวมถึงบริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง บาร์ในห้องพักที่มีเครื่องดื่มคุณภาพสูงและไวน์ 6 ขวดฟรี น้ำผลไม้สดที่เติมวันต่อวัน และการสำรองที่นั่งในร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด ไอแพดให้บริการตามคำขอ และชุดของขวัญจากแบรนด์บูร์การิ สิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย รวมถึงผ้าห่มแคชเมียร์และตัวเลือกของหมอนจากคอลเลกชันสุดหรู โปรดทราบว่าสูบบุหรี่ในห้องพัก ห้องสเตเตอร์รูมและบนระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด




เพนท์เฮาส์สวีทของเราเป็นห้องขนาด 322 ตารางฟุตที่ประดับประดาด้วยผ้าหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ในโทนสีสงบสุขของทะเลและท้องฟ้า ห้องนี้กว้างขวางพอสำหรับการรับประทานอาหารในห้องส่วนตัว พื้นที่นั่งเล่นมีมินิบาร์เย็นๆ และโต๊ะเครื่องแป้ง ในขณะที่ห้องน้ำได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีการตกแต่งด้วยหินหรูหราและฝักบัวอาบน้ำที่ทันสมัย เพนท์เฮาส์สวีทยังมอบสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้อง, การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. โดยมีการจัดส่งกระเป๋าอย่างเร่งด่วน, การบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, แชมเปญต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญ, การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด, iPad® สำหรับความบันเทิงขณะอยู่บนเรือตามคำขอ, ถุงผ้าสะพายแบรนด์ Oceania Cruises และกระดาษจดหมายส่วนตัว, ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง, บริการขัดรองเท้าฟรี และบริการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ โปรดทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องสวีท, ห้องพัก และบนระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด



ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียง (Category A Concierge Level Veranda Staterooms) ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ต้องการมากที่สุดบนเรือ นำเสนอการผสมผสานระหว่างคุณค่าและความหรูหราอย่างลงตัว ห้องพักขนาด 216 ตารางฟุตนี้ได้รับการออกแบบใหม่อย่างทันสมัย มอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นที่ต้องการและสิทธิพิเศษเฉพาะ เช่น บริการซักรีดฟรี ทำให้การเข้าพักของคุณไร้กังวลยิ่งขึ้น การตกแต่งใหม่ที่สดใส เตียง Tranquility ที่นุ่มสบาย และระเบียงที่ได้รับแรงบันดาลใจใหม่พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์ ครบครันประสบการณ์คอนเซียร์จอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับผู้เข้าพักในห้องคอนเซียร์จ เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก เมนูบริการอาหารกลางวันและอาหารเย็นที่ขยายออกจากห้องอาหารหลัก การขึ้นเรือในช่วงกลางวันอย่างมีลำดับความสำคัญ ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้าอย่างมีลำดับความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด iPad® ที่สามารถขอใช้ได้เมื่ออยู่บนเรือ กระเป๋าผ้าลาย Oceania Cruises ฟรี ผ้าห่มแคชเมียร์ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และบริการรีดเสื้อผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ โดยห้ามสูบบุหรี่ในห้องและบริเวณระเบียงโดยเด็ดขาด ไม่ว่าคุณจะมองหาความสะดวกสบายหรือหรูหรา ห้องพักนี้ตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างครบถ้วน




ระเบียง客艙 ขนาด 216 ตารางฟุต ถูกออกแบบอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับแต่งเฉพาะตัว, การตกแต่งด้วยหินที่แปลกใหม่, เตียงหัวนุ่ม และโคมไฟที่มีสไตล์ ทำให้คุณได้สัมผัสความหรูหราแบบไม่ซ้ำใคร นอกเหนือจากการชมวิวที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแล้ว ห้องพักยังมีระเบียงไม้สักส่วนตัว ซึ่งคือความสะดวกสบายที่ผู้เข้าพักประทับใจมากที่สุด สะดวกสบายในแต่ละห้องพักประกอบไปด้วยโต๊ะแต่งตัว, มินิบาร์ที่มีความเย็น, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษในระเบียง客艙 ได้แก่ เตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises ปลอกผ้าปูที่นอนด้าย 1,000 เส้น, เครื่องดื่มอ่อนที่เติมฟรีทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบซ้ำ, อุปกรณ์บูลการิ, บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง, บริการทำความสะอาดวันละสองครั้ง, ช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงคืน, ระบบทีวีแบบอินเตอร์แอคทีฟพร้อมภาพยนตร์ตามสั่ง, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่, โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเอกสาร, ผ้าขนหนูฝ้ายเนื้อนุ่ม, เสื้อคลุมและรองเท้าใส่ในบ้านที่หนา, ไดร์เป่าผมแบบพกพา, ตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย ห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด


ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลขนาด 165 ตารางฟุตได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้รู้สึกกว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เย็นขนาดเล็ก และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารที่ได้รับการตกแต่งด้วยเฉดสีที่นุ่มนวลและวัสดุที่มีสไตล์ การตกแต่งที่ทันสมัยช่วยให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลายและหรูหราทุกครั้งที่เข้าพัก ห้องพักนี้มีบริการฟรีต่างๆ อาทิ เครื่องดื่มอัดลมที่เติมให้ทุกวัน น้ำ Vero ที่ให้บริการทั้งแบบไม่มีอากาศและแบบมีอากาศ ตลอดจนบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่คัดสรรมาสำหรับคุณ อาทิเช่น เตียง Tranquility ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Oceania Cruises ชุดอุปกรณ์ Bulgari การทำความสะอาดห้องสองครั้งต่อวัน และระบบโทรทัศน์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง นอกจากนี้ยังมีบริการอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายและการเข้าถึงเครือข่ายมือถือ โต๊ะเขียนหนังสือและอุปกรณ์การเขียน ผ้าขนหนู ฝาโรบิน และรองเท้าอาบน้ำที่นุ่มสบาย ไดร์เป่าผมแบบมือถือ ตู้นิรภัย และช็อกโกแลตเบลเยี่ยมในบริการนอนเสริม โดยเฉพาะสำหรับห้องพักที่มีความต้องการพิเศษ จะมีการจัดเตรียมให้มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ช่วยยก ชุดประตูห้องน้ำขนาดใหญ่ ราวจับในห้องน้ำ และห้องน้ำที่ออกแบบให้เข้าถึงได้สะดวกแบบไม่มีรอบสูง รวมถึงอ่างอาบน้ำ วางแผนการพักผ่อนหรูหราของคุณได้แล้ววันนี้ในห้องพักเดลักซ์วิวทะเลที่รอให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจนี้!


ห้องพัก客艙วิวทะเล (D) ขนาด 165 ตารางฟุตที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเสน่ห์ นำเสนอการตกแต่งที่ทันสมัยและสะดวกสบาย ซึ่งคิดค้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่และความสะดวกสบาย ห้องพักนี้มีมุมพักผ่อนที่สะดวกสบาย พร้อมโซฟาที่ให้คุณยืดตัวออกได้, โต๊ะทำงาน, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และมินิบาร์ที่มีตู้เย็น ภายในห้องยังมีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกฟรี เช่น น้ำอัดลมเติมให้รายวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ที่เป็นทั้งน้ำเปล่าและน้ำอัดลมฟรี และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้คุณยังจะได้สัมผัสกับเตียง Tranquility ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises, สินค้าอาบน้ำ Bulgari, บริการทำความสะอาดห้องพักวันละสองครั้ง, ระบบโทรทัศน์อินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง และการบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย พร้อมการบริการของเจ้าหน้าที่ ที่จัดเตรียมผ้าขนหนู, เสื้อคลุม, และรองเท้าอาบน้ำที่ทำจากผ้าฝ้ายคุณภาพสูง พร้อมบริการเปลี่ยนให้ตื่นขึ้นมาพร้อมช็อกโกแลตเบลเจียน นอกจากนี้ยังมีเครื่องเป่าผม, ตู้นิรภัย, และการบริการที่ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในห้องพักหรือระเบียงทางเดินอีกด้วย


ห้องพักมองเห็นทะเล (E) ตั้งอยู่ใจกลางชั้น 6 ขนาด 143 ตารางฟุต โดยมีการออกแบบที่สดใหม่พร้อมหน้าต่างพาโนรามาที่มองเห็นวิวสวยงาม แม้จะมีมุมมองที่ถูกบังบางส่วน ห้องพักนี้มีโต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์แบบเย็น โต๊ะสำหรับทานอาหารเช้า และตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกได้แก่ เตียง Ultra Tranquility ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Oceania Cruises, ผลิตภัณฑ์ดูแลจาก Bulgari, ช็อกโกแลตเบลเยี่ยมสุดพิเศษพร้อมบริการจัดเตียงประจำทุกคืน, บริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมงฟรี, โทรทัศน์จอแบนพร้อมเครื่องเล่น DVD และสื่อมากมาย รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ ห้องพักยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ, ผ้าขนหนู ผ้านวม และรองเท้าอาบน้ำที่นุ่มสบาย, ไดร์เป่าผมแบบพกพา, และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย โดยห้องพักทั้งหมดและห้องชุดจะปลอดบุหรี่。


重新設計的ห้องพักภายใน以現代風格為特色,擁有160平方英尺的奢華空間。這個愉悅的私人度假空間包括舒適的座位區、化妝台、冰箱迷你酒吧及充足的儲物空間,而巧妙的空間利用更襯托出全新的裝飾風格。 這個房型的住客可享受多項免費設施,包括每日補充的飲料、靜水與氣泡水以及24小時房務菜單。房內配備了專屬的Tranquility床、Bulgari洗浴用品、每日兩次的客房清潔服務,以及互動電視系統,提供隨需應變的電影和天氣資訊。無線網絡及行動電話服務隨時可用,還配有書寫桌和文具、柔軟的棉質毛巾、浴袍及拖鞋,並提供手持吹風機、安全保險箱及晚間服務的比利時巧克力。您在此的放鬆經歷將無與倫比,然而請注意,所有套房和客艙均禁止吸煙。

ห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยว ขนาด 143 ตารางฟุต เป็นพื้นที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางคนเดียว ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายบนชั้น 6 ห้องพักทุกห้องมีเตียง Tranquility Bed ที่หลับสบายอย่างยิ่ง มินิบาร์ที่มีความเย็น และโต๊ะเขียนหนังสือ พร้อมด้วยพื้นที่เก็บของที่กว้างขวาง ทำให้คุณรู้สึกสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก.