
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oceania Insignia
โอเชียเนีย ครูซส์


บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!

ปัลม่า เดอ มายอร์กา เมืองหลวงที่มีเสน่ห์ของเกาะมายอร์กาในสเปน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมื่อเดินทางมาที่ท่าเรือ ปัลม่า คุณจะได้พบกับคาเฟ่และร้านค้าแนวทันสมัยที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง การเยี่ยมชมโบสถ์ La Seu ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรมโกธิคที่ล้ำค่าจริงๆ ไม่ไกลจากนั้น สวนสาธารณะ Parc de la Mar มอบบรรยากาศผ่อนคลาย ท่ามกลางวิวทะเลอันสวยงาม คุณสามารถเดินเล่นไปตามแนวกำแพงเมืองเก่า Ses Voltes ที่ไปตามรอบของโบสถ์พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ฉายแสงสะท้อนบนหน้าผาอันงดงาม สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ให้แวะชม Museu d'Es Baluard ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ผสมผสานระหว่างศิลปะและวิวทะเลอันน่าหลงใหล เมืองปัลม่าไม่เพียงแค่เป็นที่จอดเรือสำราญ แต่อย่างไรยังเป็นเวทีที่ให้คุณได้ค้นพบความงามและประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางที่ไม่มีวันลืมเลือน สัมผัสชีวิตในสไตล์ที่สุดขีด ณ ปัลม่า เดอ มายอร์กา และให้ความฝันของคุณเป็นจริงในดินแดนแห่งนี้!

อาลิกันเต้ เมืองหลวงของจังหวัดวัลเลนเซีย เป็นประตูสู่การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามายังรีสอร์ทในคอสตาบลังก้าทุกปี ด้วยภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่อบอุ่นและชายหาดทรายทองที่ยาวเหยียด อาลิกันเต้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนในวันหยุดพักผ่อนอย่างแท้จริง แต่เมืองนี้ยังมีเสน่ห์มากกว่านั้นอีกหลายประการ ริมทะเลที่งดงามของอาลิกันเต้ตัดกับวิวของปราสาทซานตาบาร์บาราที่ตั้งตระหง่านเหนือเมือง ซึ่งสื่อถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและซับซ้อน ชวนให้คุณสำรวจเส้นทางเดินชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของชนชาติและวัฒนธรรมที่ริเริ่มมาจากหลากหลายยุคสมัย เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ชีวิตในอาลิกันเต้ยังคงคึกคักไม่หยุดนิ่ง ด้วยบรรยากาศของไนท์ไลฟ์ที่เต็มไปด้วยสีสันและร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารเมดิเตอร์เรเนียนรสเลิศครบครัน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความสวยงามของธรรมชาติ หรือผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาลิกันเต้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ประเทศสเปนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหล่านี้!

คาร์ตาเฆนา ตั้งอยู่ในภูมิภาคมูร์เซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นท่าเรือสำคัญของกองทัพเรือสเปน จากอ่าวที่เงียบสงบซึ่งเป็นที่พักพิงของเรือสินค้าต่าง ๆ มานานหลายศตวรรษ เมืองนี้ก่อตั้งโดยคาร์เธจในปี 223 ก่อนคริสต์ศักราช และได้รับชื่อว่า "การ์ตาโก โนวา" นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาณานิคมโรมันที่เฟื่องฟู จนกระทั่งขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าของไบเซนไทน์อีกด้วย ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆนายังคงมีความสำคัญด้านการทหาร ตั้งแต่สมัยของพระเจ้าเฟลิเป II ซึ่งได้สร้างกำแพงป้องกันเมืองเพื่อคุ้มครองท่าเรือ จนถึงยุคราชวงศ์บูร์บอนในศตวรรษที่ 18 เมืองนี้ยังคงมอบความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยโบราณสถานที่ฟื้นฟู เช่น โรงละครโรมันที่ได้รับการเปิดเผยและเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1988 เมื่อคุณมีเวลาว่าง อย่าลืมสัมผัสเสน่ห์ของคาร์ตาเฆนาผ่านการล่องเรือรอบท่าเรือที่มีประวัติศาสตร์ซึ่งให้บริการหลายครั้งต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ความงดงามของเมืองนี้จะทำให้คุณหลงรักและฝันถึงการกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

เมื่อคุณขึ้นเรือเข้ามาสู่ท่าเรือมาลาก้า คุณจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งที่มีชื่อเสียงแห่งคอสตา เดล โซล (Costa del Sol) เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตั้งอยู่ในภูมิภาคลาซาร์กวา (La Axarquía) ที่มีกระท่อมประมง หากพูดถึงความเป็นแบบดั้งเดิมของสเปน นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านและทุ่งนา ที่รอให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศชวนฝัน มาลาก้ายังเป็นศูนย์กลางการเข้าถึงเมืองต่าง ๆ ของอันดาลูเซียที่มีเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น กรานาดาและเซบีย่า ในขณะที่ภูเขาเพนิเบติกา (Penibética) เป็นฉากหลังที่งดงาม ปกป้องเมืองจากลมหนาวจากทางเหนือ ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสถานที่หลบภัยที่มีเสน่ห์และรักษาความอบอุ่นได้ตลอดทั้งปี มาลาก้าไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่หยุดพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในสเปน ทั้งการชิมอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อย และการสำรวจความสวยงามของธรรมชาติที่รอให้คุณได้ค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำภายใต้แสงแดดของคอสตา เดล โซล!

เซบียา หรือที่รู้จักในชื่อ Seville เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,200 ปี ตั้งอยู่ในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เมืองนี้ไม่เพียงแค่เป็นที่รู้จักในเรื่องฟลาเมงโก้ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ แต่ยังมีมรดกโลกที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกถึงสามแห่ง ซึ่งทำให้เซบียาเป็นจุดหมายที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เมืองนี้ยังเป็นสถานที่ที่เคยเป็นบ้านเกิดของศิลปินชื่อดัง ดิเอโก้ เวลาซเกซ และเป็นที่ฝังศพของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นอกจากนั้น เซบียายังเป็นแรงบันดาลใจในผลงานของบิซเซต์ "คาร์เมน" และเคยเป็นฉากในซีรีส์ Game of Thrones ที่ได้รับความนิยมอีกด้วย สัมผัสความงดงามของเซบียาในถนนที่มีอายุนับศตวรรษ ที่นำเสนอร้านทาปาสเล็กๆ ที่เสิร์ฟอาหารที่อาจถือได้ว่าอร่อยที่สุดในดินแดนใต้ของมาดริด พร้อมกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมมูเดฆาร์และสวนที่เต็มไปด้วยน้ำพุและต้นปาล์ม ที่นี่คือโลกแห่งความฝันที่พร้อมให้คุณสำรวจและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอันหลากหลายของสเปนอย่างแท้จริง

พอร์ติมาน (Portimão) เมืองท่าสำคัญของโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลที่สวยงาม ได้รับการลงทุนอย่างมากในการพัฒนาเป็นท่าเรือสำราญที่น่าสนใจพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการประมงที่สำคัญแล้ว พอร์ติมานยังมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ด้วยถนนช้อปปิ้งที่หลากหลายและบรรยากาศที่กว้างขวางถึงจะมีธุรกิจบางแห่งต้องปิดตัวลงไป แต่ความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้ยังคงน่าดึงดูดอยู่ แนะนำให้คุณใช้เวลาสักครู่ในการเดินเล่นที่ริมน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสะพานเก่าและสะพานรถไฟ เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจการล่องเรือชมชายฝั่งที่งดงาม และอย่าลืมแวะจิบกาแฟหรือทานอาหารกลางแจ้งที่คาเฟ่ Doca da Sardinha ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์อันยอดเยี่ยมของการรับประทานปลาซาร์ดีนย่างบนเตา พร้อมกับขนมปังสดและไวน์ท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณอิ่มท้อง แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมอีกด้วย พอร์ติมานจึงไม่ใช่เพียงแค่จุดแวะพักระหว่างการเดินทาง แต่คือแรงบันดาลใจใหม่ในการสำรวจวัฒนธรรม อาหาร และทิวทัศน์ที่สืบทอดต่อกันมาในโปรตุเกส.

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา


ลันซาโรเต (Lanzarote) เป็นเกาะที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามแห่งหนึ่งในสเปน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ชีวมณฑลยูเนสโก (UNESCO Biosphere Reserve) เกาะนี้มีภูมิประเทศที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต จึงมีลักษณะพื้นผิวที่โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ตลอดชายหาดที่สวยงามและสภาพอากาศที่แทบไม่มีฝน ทำให้ลันซาโรเตกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ท่าเรือหลักและเมืองหลวงของเกาะคือ อาเรซีเฟ (Arrecife) นั้นมีบรรยากาศที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยสวนสวยและริมน้ำที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่รอบเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอ่งเกลือจานูเบียนที่มีสีขาวสว่างและภูเขาไฟไฟร์ที่มีทิวทัศน์ที่ดึงดูด ขับรถออกไปจากตัวเมืองก็จะพบกับถ้ำโลสเวอร์เดสที่มีบรรยากาศน่าขนลุก รวมถึงหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงสงบเงียบซึ่งถูกประดับแต่งด้วยความงามธรรมชาติ นอกจากนี้ เกาะลันซาโรเตยังเป็นที่รู้จักในด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งรวมถึงถั่วชิกพีสตูว์ (garbanzos compuestos) และมันฝรั่งกับผัก (papas arrugadas) ที่รสชาติสดใส ก่อนออกไปสำรวจ ให้ระวังโปรแกรมทัวร์ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลือนในเกาะแห่งนี้อย่างเต็มที่
ลาส ปัลมาส เดอ กราน คานาเรีย เป็นท่าเรือที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเกาะกราน คานาเรีย ซึ่งถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในเกาะที่สวยงามที่สุดในหมู่เกาะคานารี ตั้งอยู่ใจกลางของเกาะ มีกระแสน้ำอุ่นและภูมิอากาศเขตร้อนที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี เมื่อคุณมาถึงลาส ปัลมาส คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบระหว่างความงดงามของธรรมชาติและความคึกคักของเมืองหลวง สำรวจย่านเก่าแก่ Vegueta และ Triana ที่มีอายุกว่าศตวรรษที่ 15 ที่นี่คุณจะได้พบกับอาคารประวัติศาสตร์ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ในขณะเดียวกัน ชายหาดที่งดงามและภูมิทัศน์ของภูเขาก็เป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ควรพลาด ลองเยี่ยมชมและสัมผัสกับผลไม้และต้นปาล์มที่เติบโตในสภาพอากาศที่น่าทึ่งนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่เกาะแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้ผู้มาเยือนหลงใหลเสมอ เมื่อล่องเรือมาถึงลาส ปัลมาส เดอ กราน คานาเรีย คุณจะได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม โดยเชื่อมโยงกับธรรมชาติและวัฒนธรรมที่จัดเต็มให้กับคุณในการเดินทางครั้งนี้อย่างแท้จริง

ซานตาครูซ เด ลา ปาลมา หรือที่รู้จักกันในนาม "ลาอิสลาบอนิตา" เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ที่สุดในสเปน เกาะลา ปาลมามีธรรมชาติที่งดงามและเต็มไปด้วยป่าเขียวขจี รวมถึงป่าสนและไม้ลอเรลที่ตัดกับความยิ่งใหญ่ของอุโมงค์ภูเขาไฟตาบูเรียนเต ซึ่งเป็นจุดเด่นของเกาะนี้ ซานตาครูซ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะ เป็นสถานที่ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับการสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมความสวยงามของอาคารสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในเขตเมืองเก่าหรือการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ ที่นี่มีสินค้าให้เลือกมากมาย ตั้งแต่เครื่องประดับเงินที่มีราคาย่อมเยา ไปจนถึงสินค้าหนังและสิ่งทอที่ได้รับการปักเย็บอย่างประณีต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมู่เกาะคานารี อย่าลืมไปเยี่ยมชมโบสถ์แม่พระซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง เพื่อเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวให้หลากหลายยิ่งขึ้น หากคุณมองหาความสุขและความทรงจำที่น่าประทับใจ ซานตาครูซ เด ลา ปาลมาจะเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางของคุณ




นัสเซาท์ (Nassau) เป็นท่าเรือที่มีความงดงามในบาฮามาส ซึ่งมีบรรยากาศคึกคักจากเรือสำราญที่จำนวนมากแวะมาเยือน ท่าเรือที่สงบเรียบร้อยแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในสินค้าแบรนด์เนมระดับพรีเมียมต่าง ๆ ซึ่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์การช้อปปิ้งบนถนนเบย์ (Bay Street) ที่มีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้มาฮอกานีและลิกนัม วิตา นอกจากนี้ นัสเซาท์ยังมีอาหารและงานฝีมือแท้ ๆ ของบาฮามาสให้เลือกซื้อมากมาย ชนิดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ด้วยการปรับปรุงย่านใจกลางเมือง ทำให้โรงแรมบริติชโคลอเนียลฮิลตันเป็นที่รู้จักอีกครั้ง พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของภัตตาคารสุดหรูและคาเฟ่แนวใหม่ ซึ่งนำเสนอการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมกับความทันสมัย การสำรวจนัสเซาท์ยังไม่ครบถ้วนหากไม่ได้เยี่ยมชมอาคารประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่ยืนหยัดอยู่มายาวนาน เช่น อาคารสไตล์โคโลเนียลสีชมพูที่บ้านรัฐสภา และป้อมฟอร์ตชาร์ลอตต์ ซึ่งตราตรึงใจไปด้วยเรื่องราวของโจรสลัดในอดีต ท่านสามารถเลือกรับประสบการณ์ทัวร์ด้วยการนั่งรถม้าสะดวกสบาย เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของพื้นที่อย่างเต็มที่ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้นัสเซาท์เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งนี้!

ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!


ตั้งอยู่ในใจกลางหมู่เกาะบริทิชเวอร์จิน ท่าเรือ Tortola เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด สัมผัสความมีชีวิตชีวาของเมืองหลวงที่มองออกไปยัง Road Harbour ซึ่งจะทำให้คุณได้เดินเล่นท่ามกลางเสน่ห์ของอาคารสไตล์เวสต์อินเดียนที่มีสีสันสดใส ทั้งสีพาสเทลและหลังคาเหล็กกล้า คุณจะพบกับช้อปปิ้งใน Main Street และสัมผัสบรรยากาศริมทะเลในบรรยากาศที่น่าเพลิดเพลิน โดยสามารถใช้เวลาเดินเล่นสบาย ๆ เพียงประมาณหนึ่งชั่วโมง ผู้เดินทางสามารถแวะที่สำนักงานการท่องเที่ยว BVI เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมท่องเที่ยว ท่องเที่ยวริมทะเล หรือตารางเดินเรือที่มีรูปแบบหลากหลาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถได้นั่งพักผ่อนใน Sir Olva Georges Square บน Waterfront Drive เพื่อชื่นชมชีวิตของผู้คนที่เดินผ่านไปมาจากท่าเรือเฟอร์รี่และสำนักงานศุลกากร หากคุณได้มีโอกาสมาเยือน Tortola จะได้สัมผัสทั้งวัฒนธรรมอันหลากหลาย และความงามของธรรมชาติที่ซ่อนอยู่รอบ ๆ ซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุก ๆ การเดินทางเป็นประสบการณ์ที่ไ unforgettable. หนีความวุ่นวายไปสัมผัสความสงบกับชีวิตในวิถีเกาะ และให้ท่าเรือ Tortola เป็นบ้านหลังที่สองของคุณในครั้งนี้!

เมื่อคุณมาถึงท่าเรือเซนต์จอห์นส์ในแอนติกาและบาร์บูดา คุณจะได้สัมผัสกับความงดงามที่หลากหลายของเกาะนี้ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องชายหาดที่สวยงามมากถึง 365 หาด ซึ่งเพียงพอสำหรับทุกวันของปี นอกจากนั้น ยังมีแนวปะการังที่สวยงามและสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกมากมาย เซนต์จอห์นส์ไม่เพียงแต่เป็นเมืองหลวงทางการของเกาะที่ตั้งอยู่ตั้งแต่ปี 1632 แต่ยังคงรักษาภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมแบบเวสท์อินดีสเอาไว้ อาทิ สถาปัตยกรรมแบบบ้านขนมปังขิงและบรรยากาศการเฉลิมฉลองในเทศกาลคาลิปโซ คุณสามารถเดินเล่นในย่านเรดคลิฟที่เต็มไปด้วยบ้านไม้เก่าแก่ และแวะชมสินค้าท้องถิ่นที่ Heritage Quay ซึ่งมีร้านค้าหัตถกรรมหลากหลาย เซนต์จอห์นส์ยังมีสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่สวยงาม โดยเฉพาะวิหารที่มีสองยอด ซึ่งได้รับการก่อสร้างเมื่อปี 1845 และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ดีที่สุดในแคริบเบียน ผู้เยี่ยมชมสามารถเดินทางโดยรถบัสเล็กที่มีคนขับเป็นไกด์ที่จะคอยให้ความรู้และข้อมูลส่วนต่างๆ ของเมือง ทำให้การสำรวจเซนต์จอห์นส์เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นและประทับใจไม่รู้ลืม

เมื่อเรานึกถึงเกาะที่มีเสน่ห์แบบเขตร้อนที่รอการค้นพบ เกาะเซนต์ลูเซีย (Saint Lucia) คือสวรรค์ที่หยิบยื่นให้เราได้สัมผัสที่นี่ การเดินทางมาถึงท่าเรือคาสทรีส (Castries) จะนำพาคุณสู่โลกแห่งธรรมชาติอันงดงามในพื้นที่อันเล็กเพียง 27 ไมล์ยาวและ 14 ไมล์กว้าง แต่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สดใส ประกอบไปด้วยป่าฝนเขียวขจีและสวนกล้วยอันอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของเกาะนี้ต้องยกให้กับยอดเขาเลส์ปีตอง (Les Pitons) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีความสูงถึง 2,000 ฟุต ที่ส่งเสริมความยิ่งใหญ่และความงามของทิวทัศน์ บนเกาะยังมีนกหายากเช่นนกแก้วเซนต์ลูเซีย และพืชพันธุ์ที่แปลกใหม่มากมายที่รอให้คุณได้สำรวจ สัมผัสความอบอุ่นและยินดีต้อนรับจากชาวเกาะในหมู่บ้านเล็กๆ และการเดินตลาดกลางแจ้งที่มีสีสัน อย่างไรก็ตามควรระวังถึงเส้นทางที่ขรุขระซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านหลังหรือคอ เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำอันน่าประทับใจ พาทุกคนสัมผัสประสบการณ์น่าตื่นเต้นในแดนสวรรค์นี้ที่คุณจะไม่อยากพลาด!

เกาะตรีนิดาดและโตเบโก เป็นสวรรค์ที่น่าหลงใหลในอ่าวแห่งแคริบเบียน โดยเฉพาะท่าเรือสการ์โบโรห์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจความงดงามที่รออยู่ ด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของธรรมชาติและการผสมผสานวัฒนธรรมที่หลากหลาย สการ์โบโรห์มีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร เมื่อมาถึงสการ์โบโรห์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบและควบคู่ไปกับกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำตื้นในน้ำทะเลสีฟ้าหรือการพายเรือคายัคในอ่าวที่สวยงาม ภายในเขตเมืองสามารถเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึง Fort King George ที่สร้างขึ้นในยุคอาณานิคม ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา ให้มุมมองที่งดงามของสการ์โบโรห์ หากคุณกำลังมองหาการพักผ่อน การนอนชิลล์บนชายหาดที่ขาวสะอาด หรือลงไปในกับทะเลที่สดใส ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่คุณไม่ควรพลาด ในขณะที่ตรีนิดาดสะท้อนถึงชีวิตที่มีสีสัน โตเบโกเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการหยุดพักจากความเร่งรีบ อย่ารอช้า ให้สการ์โบโรห์เป็นจุดหมายในการเดินทางครั้งถัดไปของคุณ!



ซานตาเร็ม (Santarém) เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ในประเทศบราซิล เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ภูมิภาคนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอเมซอน ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก เสน่ห์ของซานตาเร็มอยู่ที่การเป็นประตูสู่ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของอเมซอน หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติ การได้เห็นการผสมผสานระหว่างแม่น้ำดำและแม่น้ำขาวที่เรียกว่า "Encontro das Águas" เป็นประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด อนุสาวรีย์แห่งการพบกันนี้เป็นจุดสร้างความตราตรึงใจ และเป็นที่รู้จักในวงกว้างของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ซานตาเร็มยังมีตลาดกลางที่มีชีวิตชีวา ซึ่งคุณสามารถสัมผัสรสชาติของท้องถิ่น ซื้อของที่ระลึกที่ทำจากสินค้าจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้ท้องถิ่นและงานฝีมือที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น อนุสรณ์สถานทางศาสนาและพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมือง เตรียมตัวให้พร้อมที่จะค้นพบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในซานตาเร็ม ที่ซึ่งธรรมชาติและวัฒนธรรมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวทุกครั้งที่มีเรือสำราญจอดเทียบท่า ความมหัศจรรย์ของอเมซอนรอให้คุณมาสัมผัสแล้ววันนี้!

ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในบราซิล ท่าเรือ Boca de Valeria จะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับคุณ ตั้งอยู่ในเขตอเมซอน นี่คือหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและความงดงามของธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถพบกับชีวิตประจำวันของชาวพื้นเมืองที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Boca de Valeria มีบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณได้สัมผัสการเดินชมธรรมชาติริมแม่น้ำอเมซอน อันเป็นแหล่งชีวิตที่หลากหลายทั้งพืชและสัตว์ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ยากจะลืม คุณยังสามารถเล่นสนุกกับลิงหรือสัมผัสกับวัฒนธรรมพื้นเมืองที่นี่ได้อีกด้วย นอกเหนือจากการเยี่ยมชม Boca de Valeria นั้น ผู้ที่รักการผจญภัยจะต้องไม่พลาดที่จะสำรวจอุทยานแห่งชาติอเมซอน ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพอันน่าทึ่ง รวมถึงเส้นทางปั่นจักรยานหรือเดินป่าที่ช่วยให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง การมาเยือนที่ Boca de Valeria คือการค้นพบโลกใหม่ที่รอคุณอยู่ พร้อมให้คุณดื่มด่ำไปกับความงามของวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ในบราซิล รอให้คุณมาค้นพบ!


ท่าเรือ Parintins ตั้งอยู่ในใจกลางของ Amazon ประเทศบราซิล เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในการสำรวจความงดงามและความหลากหลายทางธรรมชาติของอเมซอน พื้นที่นี้เป็นที่รู้จักจากเทศกาล Boi Bumbá ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน เพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมพื้นเมืองและแสดงให้เห็นถึงความงดงามของชีวิตในป่าฝน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการแสดงที่เต็มไปด้วยสีสัน เสียงเพลง และแดนเซอร์ที่สวมใส่ชุดประจำชาติอย่างงดงาม นอกจากนี้ Parintins ยังเป็นประตูสู่การค้นพบธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในเขตอเมซอน ซึ่งมีทั้งสัตว์ป่าและพืชพรรณที่หายาก นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือไปตามแม่น้ำอเมซอนที่ยิ่งใหญ่ และสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงในระบบนิเวศที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ตามทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ การเดินทางมายัง Parintins โดยเรือสำราญจะทำให้คุณได้สนุกสนานกับการสำรวจ และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเผชิญหน้ากับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เปลี่ยนการเดินทางครั้งนี้ให้เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในจิตใจของคุณ

อัลเตอร์ โด ชาว (Alter do Chão) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในบราซิล ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแทปจอส (Tapajós River) ภายในรัฐปารา (Pará) ซึ่งมีทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงามและอุดมไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เข้มข้น การเดินทางมาที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายและแสนจะโรแมนติก ท่าเรืออัลเตอร์ โด ชาวเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการขึ้นเรือสำราญกลางแม่น้ำและสำรวจเกาะที่มีชื่อเสียงอย่าง "เกาะเซนต์ลูเซีย" และ "เกาะคาชู" ที่มีน้ำทะเลใสสะอาดเป็นอย่างมาก ที่นี่เหมาะสำหรับการว่ายน้ำ ดำน้ำตื้น และชมนกนานาพันธุ์ รวมถึงต้นไม้แปลกตาที่มีอยู่ทั่วไปในเส้นทางน้ำของป่าอเมซอน นอกจากนี้ ท่าเรือยังมีตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์พื้นบ้านและอาหารแสนอร่อย ไม่ว่าคุณจะอยากลิ้มลองปลาเฮอริ่งสดๆ หรือขนมหวานที่มีรสสัมผัสไม่เหมือนใคร ในทุกมุมของอัลเตอร์ โด ชาว คุณจะได้สัมผัสความสนุกและเรื่องราวที่รอให้คุณค้นพบ พร้อมด้วยมิตรภาพจากผู้คนที่อบอุ่นและเป็นมิตร การมาท่าเรืออัลเตอร์ โด ชาว คือการสร้างความทรงจำที่ยากจะลืม โดยเฉพาะการสำรวจธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจแห่งการค้นพบใหม่ ๆ ทุกครั้ง



ท่าเรือบริจด์ทาวน์ในบาร์เบโดส เป็นที่ที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลาย ตั้งอยู่ข้างอ่าวธรรมชาติแห่งเดียวของเกาะ ท่านจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และยุคล่าอาณานิคม จนสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นพร้อมด้วยชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม ระหว่างการสำรวจเมืองนี้ ท่านจะได้พบกับอาคารรัฐสภาที่จัดสร้างในสไตล์อังกฤษ และประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในโบสถ์แองกลิกัน รวมถึงกองทัพบาร์เบโดสซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่ผ่อนคลายและชีวิตชายหาดที่คึกคักได้อย่างเต็มที่ การเดินทางจากเรือไปยังยานพาหนะเพื่อเริ่มต้นการท่องเที่ยวอาจมีระยะทางที่แตกต่างกันไป แต่อย่าห่วง เพราะทุกช่วงเวลาในบริจด์ทาวน์แทบจะตื่นเต้นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่รอคอยให้ท่านได้สัมผัส ซึ่งจะทำให้ทริปของท่านเป็นที่น่าจดจำไม่มีวันลืม กลับใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่บริจด์ทาวน์ สถานที่แสนประทับใจในบาร์เบโดส

โรโซ เป็นเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และอบอุ่นที่สุดแห่งหนึ่งในแคริบเบียน แม้ขนาดจะเล็กลง แต่กลับมีประชากรหนาแน่นที่สุดในแถบตะวันออกของแคริบเบียน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบฉบับแคริบเบียนและตลาดที่คึกคัก โรโซจึงพานักท่องเที่ยวย้อนเวลากลับไปสัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตอย่างแท้จริง การเดินสำรวจเมืองในระยะเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงนั้น อาจจะเป็นประสบการณ์ที่รวดเร็ว แต่การเดินเล่นอย่างช้า ๆ จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับรายละเอียดที่น่าสนใจยิ่งขึ้น เมืองนี้มีการฟื้นฟูอาคารที่สำคัญโดยองค์กร SHAPE ซึ่งได้ดูแลอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมหลายแห่ง เช่น Casa Lilac ที่มีระเบียงไม้แบบเก่าแก่ และอาคาร J.W. Edwards ที่มีผลงานหินและไม้ที่งดงาม ในใจกลางเขตประวัติศาสตร์คือ Old Market Plaza ซึ่งมีถนนหลายสายในอดีตที่ถูกออกแบบให้โค้งงอรอบพื้นที่นี้ นอกจากนี้ โรงแรม Fort Young ที่สร้างขึ้นเป็นป้อมปราการในศตวรรษที่ 18 รวมถึงห้องสมุดและวิหารแองกลิกันที่อยู่ใกล้เคียง ยังถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มาเยือน ลานหน้าเบย์ที่พัฒนาใหม่บน Dame M.E. Charles Boulevard ก็เป็นที่ที่ไม่ควรพลาดในการสัมผัสลมทะเลแคริบเบียนอย่างแท้จริง โรโซรอให้คุณค้นพบความงดงามในทุกมุมมอง!

ฟิลิปส์เบิร์ก เมืองหลวงของเซนต์มาร์เทน (ดัตช์) เป็นสถานที่ที่ป็นจริงอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของขอบฟ้าหมายเลขทรายขาวและทะเลสีคราม สถานที่นี้มีลักษณะเป็นรูปแบบที่น่าประทับใจ ยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างอ่าวเกรตเบย์และบ่อน้ำเค็ม มีถนนห้าเส้นเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ สถานที่นิยมที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยือนคือ Front Street ซึ่งตั้งอยู่ใกล้อ่าวเกรตเบย์ ที่นี่คุณจะได้พบกับร้านค้าปลอดภาษีและร้านอาหารมากมาย ในบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา โดยเฉพาะเมื่อเรือสำราญจอดเทียบท่า นอกจาก Front Street แล้วยังมี Back Street ที่มีบรรยากาศเงียบสงบกว่า และเชื่อมต่อกับซอยเล็กๆ ที่เรียกว่า "steegjes" ที่จะพาคุณเข้าสู่พื้นที่เก่าแก่ของเมือง โดยไม่ควรพลาดที่จะเดินไปตามชายหาดที่มีทางเดินริมทะเลยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารและจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi ใจกลางของเมืองคือ Wathey Square โดยรอบเต็มไปด้วยร้านค้าชั้นนำและคาเฟ่ที่ให้บริการอร่อย นอกจากนี้ยังมีอาคารประวัติศาสตร์ที่ผ่านการบูรณะสนุกสนาน รวมถึงท่าเรือ Captain Hodge ที่มอบวิวทิวทัศน์สุดพิเศษของเกรตเบย์และชายหาดที่ทอดยาวไปตามแนวทะเล สถานที่ที่ซึ่งความพิเศษและความแตกต่างรอคุณไปค้นพบ!

ซานฮวน เมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเปอร์โตริโก ได้รับการขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ติดทะเลอาตแลนติกซึ่งค้นพบโดยนักสำรวจ ฮวน ปอนเซ เด ลีออน เมื่อปี ค.ศ. 1508 เมืองนี้ส่องประกายทั้งในด้านสถาปัตยกรรมอันงดงามจากยุคอาณานิคมและความทันสมัย มีพื้นที่ที่น่าหลงใหลอย่าง Old San Juan ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก โดยโดดเด่นด้วยถนนหินทรายและอาคารที่มีสีสัน อนุสรณ์สถานเช่น Castillo San Felipe del Morro ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น ซานฮวนไม่ได้มีดีแค่ส่วนที่เป็นประวัติศาสตร์ ยังเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาสำหรับนักท่องเที่ยวและประชาชนท้องถิ่น สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยชายหาดสวยงาม, คลับเสียงดังกระหึ่ม, ร้านอาหารระดับโลก, และพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียง ที่นำเสนอวัฒนธรรมและศิลปะหลากหลาย ประสบการณ์นี้ทำให้การเยือนซานฮวนไม่เป็นเพียงแค่การได้เที่ยวชมเมือง แต่คือการได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอันหลากหลายและเต็มไปด้วยสีสัน เมื่อคุณย่างก้าวเข้ามาในเมืองนี้ จะมีเสน่ห์ที่ทำให้คุณหลงใหลและรู้สึกอยากกลับมาอีกครั้ง ด้วยวัฒนธรรมที่เข้มข้นและความงดงามที่รอคอยให้คุณค้นพบ ร่วมสร้างความทรงจำในซานฮวน เพื่อตอบโจทย์ความฝันในการเดินทางที่ทุกคนใฝ่หา.


นัสเซาท์ (Nassau) เป็นท่าเรือที่มีความงดงามในบาฮามาส ซึ่งมีบรรยากาศคึกคักจากเรือสำราญที่จำนวนมากแวะมาเยือน ท่าเรือที่สงบเรียบร้อยแห่งนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในสินค้าแบรนด์เนมระดับพรีเมียมต่าง ๆ ซึ่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์การช้อปปิ้งบนถนนเบย์ (Bay Street) ที่มีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้มาฮอกานีและลิกนัม วิตา นอกจากนี้ นัสเซาท์ยังมีอาหารและงานฝีมือแท้ ๆ ของบาฮามาสให้เลือกซื้อมากมาย ชนิดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเลยทีเดียว ด้วยการปรับปรุงย่านใจกลางเมือง ทำให้โรงแรมบริติชโคลอเนียลฮิลตันเป็นที่รู้จักอีกครั้ง พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของภัตตาคารสุดหรูและคาเฟ่แนวใหม่ ซึ่งนำเสนอการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมกับความทันสมัย การสำรวจนัสเซาท์ยังไม่ครบถ้วนหากไม่ได้เยี่ยมชมอาคารประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่ยืนหยัดอยู่มายาวนาน เช่น อาคารสไตล์โคโลเนียลสีชมพูที่บ้านรัฐสภา และป้อมฟอร์ตชาร์ลอตต์ ซึ่งตราตรึงใจไปด้วยเรื่องราวของโจรสลัดในอดีต ท่านสามารถเลือกรับประสบการณ์ทัวร์ด้วยการนั่งรถม้าสะดวกสบาย เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของพื้นที่อย่างเต็มที่ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้นัสเซาท์เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในประสบการณ์ท่องเที่ยวครั้งนี้!

ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!












เจ้าของสวีทใหม่ที่มีการออกแบบอย่างหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์จำนวนหกห้อง เป็นห้องที่มักถูกจองอย่างรวดเร็ว สวีทเหล่านี้กว้างใหญ่ถึงประมาณ 1,000 ตารางฟุต และเป็นโอเอซิสแห่งความเงียบสงบและการผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยมีห้องน้ำที่ได้รับการออกแบบใหม่สุดหรูซึ่งมีฝักบัวขนาดใหญ่ สวีทยังมีระเบียงไม้สักส่วนตัว และโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องเพื่อความสะดวกสบายที่สุด นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บริการซักรีดฟรีสูงสุดสามกระเป๋าต่อห้อง บริการผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชั่วโมง และการเข้าถึงสปา Aquamar Terrace อย่างไม่จำกัด ทั้งนี้ยังมีการต้อนรับด้วยแชมเปญฟรีและชุดของขวัญจากบุลการี รวมทั้งสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารและบริการอื่นๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในทุกมิติของความหรูหราในเจ้าของสวีทแห่งนี้







ห้องพักชื่อว่า วิสตา สวีท มอบวิวที่งดงามไปยังส่วนหน้าเรือ คุณจะพบกับสีสันที่สงบซึ่งสื่อถึงทะเลที่เงียบสงบและท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ห้องพักแต่ละห้องมีขนาดกว้างถึง 786 ตารางฟุต พร้อมทุกความสะดวกสบายที่คาดหวัง รวมถึงห้องน้ำที่สองสำหรับแขก และห้องน้ำหลักที่ตกแต่งด้วยหินออนิกซ์ หินอ่อนคารารา และหินแกรนิต พร้อมฝักบัวอาบน้ำสุดหรู คุณสามารถนั่งพักผ่อนบนระเบียงไม้ทีคหรือชมภาพยนตร์ผ่านระบบบันเทิงที่ปรับแต่งตามความต้องการของคุณ นอกจากนี้ ห้อง วิสตา สวีท ยังมีบริการพิเศษเพิ่มเติม เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก การลงทะเบียนขึ้นเรือเวลา 11.00 น. ด้วยความสำคัญ รวมถึงบริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง บาร์ในห้องพักที่มีเครื่องดื่มคุณภาพสูงและไวน์ 6 ขวดฟรี น้ำผลไม้สดที่เติมวันต่อวัน และการสำรองที่นั่งในร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด ไอแพดให้บริการตามคำขอ และชุดของขวัญจากแบรนด์บูร์การิ สิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย รวมถึงผ้าห่มแคชเมียร์และตัวเลือกของหมอนจากคอลเลกชันสุดหรู โปรดทราบว่าสูบบุหรี่ในห้องพัก ห้องสเตเตอร์รูมและบนระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด




เพนท์เฮาส์สวีทของเราเป็นห้องขนาด 322 ตารางฟุตที่ประดับประดาด้วยผ้าหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ในโทนสีสงบสุขของทะเลและท้องฟ้า ห้องนี้กว้างขวางพอสำหรับการรับประทานอาหารในห้องส่วนตัว พื้นที่นั่งเล่นมีมินิบาร์เย็นๆ และโต๊ะเครื่องแป้ง ในขณะที่ห้องน้ำได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีการตกแต่งด้วยหินหรูหราและฝักบัวอาบน้ำที่ทันสมัย เพนท์เฮาส์สวีทยังมอบสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้อง, การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. โดยมีการจัดส่งกระเป๋าอย่างเร่งด่วน, การบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, แชมเปญต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญ, การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด, iPad® สำหรับความบันเทิงขณะอยู่บนเรือตามคำขอ, ถุงผ้าสะพายแบรนด์ Oceania Cruises และกระดาษจดหมายส่วนตัว, ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง, บริการขัดรองเท้าฟรี และบริการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ โปรดทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องสวีท, ห้องพัก และบนระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด



ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียง (Category A Concierge Level Veranda Staterooms) ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ต้องการมากที่สุดบนเรือ นำเสนอการผสมผสานระหว่างคุณค่าและความหรูหราอย่างลงตัว ห้องพักขนาด 216 ตารางฟุตนี้ได้รับการออกแบบใหม่อย่างทันสมัย มอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นที่ต้องการและสิทธิพิเศษเฉพาะ เช่น บริการซักรีดฟรี ทำให้การเข้าพักของคุณไร้กังวลยิ่งขึ้น การตกแต่งใหม่ที่สดใส เตียง Tranquility ที่นุ่มสบาย และระเบียงที่ได้รับแรงบันดาลใจใหม่พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์ ครบครันประสบการณ์คอนเซียร์จอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับผู้เข้าพักในห้องคอนเซียร์จ เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก เมนูบริการอาหารกลางวันและอาหารเย็นที่ขยายออกจากห้องอาหารหลัก การขึ้นเรือในช่วงกลางวันอย่างมีลำดับความสำคัญ ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้าอย่างมีลำดับความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด iPad® ที่สามารถขอใช้ได้เมื่ออยู่บนเรือ กระเป๋าผ้าลาย Oceania Cruises ฟรี ผ้าห่มแคชเมียร์ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และบริการรีดเสื้อผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ โดยห้ามสูบบุหรี่ในห้องและบริเวณระเบียงโดยเด็ดขาด ไม่ว่าคุณจะมองหาความสะดวกสบายหรือหรูหรา ห้องพักนี้ตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างครบถ้วน




ระเบียง客艙 ขนาด 216 ตารางฟุต ถูกออกแบบอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับแต่งเฉพาะตัว, การตกแต่งด้วยหินที่แปลกใหม่, เตียงหัวนุ่ม และโคมไฟที่มีสไตล์ ทำให้คุณได้สัมผัสความหรูหราแบบไม่ซ้ำใคร นอกเหนือจากการชมวิวที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแล้ว ห้องพักยังมีระเบียงไม้สักส่วนตัว ซึ่งคือความสะดวกสบายที่ผู้เข้าพักประทับใจมากที่สุด สะดวกสบายในแต่ละห้องพักประกอบไปด้วยโต๊ะแต่งตัว, มินิบาร์ที่มีความเย็น, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษในระเบียง客艙 ได้แก่ เตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises ปลอกผ้าปูที่นอนด้าย 1,000 เส้น, เครื่องดื่มอ่อนที่เติมฟรีทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบซ้ำ, อุปกรณ์บูลการิ, บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง, บริการทำความสะอาดวันละสองครั้ง, ช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงคืน, ระบบทีวีแบบอินเตอร์แอคทีฟพร้อมภาพยนตร์ตามสั่ง, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่, โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเอกสาร, ผ้าขนหนูฝ้ายเนื้อนุ่ม, เสื้อคลุมและรองเท้าใส่ในบ้านที่หนา, ไดร์เป่าผมแบบพกพา, ตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย ห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด


ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลขนาด 165 ตารางฟุตได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้รู้สึกกว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เย็นขนาดเล็ก และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารที่ได้รับการตกแต่งด้วยเฉดสีที่นุ่มนวลและวัสดุที่มีสไตล์ การตกแต่งที่ทันสมัยช่วยให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลายและหรูหราทุกครั้งที่เข้าพัก ห้องพักนี้มีบริการฟรีต่างๆ อาทิ เครื่องดื่มอัดลมที่เติมให้ทุกวัน น้ำ Vero ที่ให้บริการทั้งแบบไม่มีอากาศและแบบมีอากาศ ตลอดจนบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่คัดสรรมาสำหรับคุณ อาทิเช่น เตียง Tranquility ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Oceania Cruises ชุดอุปกรณ์ Bulgari การทำความสะอาดห้องสองครั้งต่อวัน และระบบโทรทัศน์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง นอกจากนี้ยังมีบริการอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายและการเข้าถึงเครือข่ายมือถือ โต๊ะเขียนหนังสือและอุปกรณ์การเขียน ผ้าขนหนู ฝาโรบิน และรองเท้าอาบน้ำที่นุ่มสบาย ไดร์เป่าผมแบบมือถือ ตู้นิรภัย และช็อกโกแลตเบลเยี่ยมในบริการนอนเสริม โดยเฉพาะสำหรับห้องพักที่มีความต้องการพิเศษ จะมีการจัดเตรียมให้มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ช่วยยก ชุดประตูห้องน้ำขนาดใหญ่ ราวจับในห้องน้ำ และห้องน้ำที่ออกแบบให้เข้าถึงได้สะดวกแบบไม่มีรอบสูง รวมถึงอ่างอาบน้ำ วางแผนการพักผ่อนหรูหราของคุณได้แล้ววันนี้ในห้องพักเดลักซ์วิวทะเลที่รอให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจนี้!


ห้องพัก客艙วิวทะเล (D) ขนาด 165 ตารางฟุตที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเสน่ห์ นำเสนอการตกแต่งที่ทันสมัยและสะดวกสบาย ซึ่งคิดค้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่และความสะดวกสบาย ห้องพักนี้มีมุมพักผ่อนที่สะดวกสบาย พร้อมโซฟาที่ให้คุณยืดตัวออกได้, โต๊ะทำงาน, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และมินิบาร์ที่มีตู้เย็น ภายในห้องยังมีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกฟรี เช่น น้ำอัดลมเติมให้รายวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ที่เป็นทั้งน้ำเปล่าและน้ำอัดลมฟรี และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้คุณยังจะได้สัมผัสกับเตียง Tranquility ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises, สินค้าอาบน้ำ Bulgari, บริการทำความสะอาดห้องพักวันละสองครั้ง, ระบบโทรทัศน์อินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง และการบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย พร้อมการบริการของเจ้าหน้าที่ ที่จัดเตรียมผ้าขนหนู, เสื้อคลุม, และรองเท้าอาบน้ำที่ทำจากผ้าฝ้ายคุณภาพสูง พร้อมบริการเปลี่ยนให้ตื่นขึ้นมาพร้อมช็อกโกแลตเบลเจียน นอกจากนี้ยังมีเครื่องเป่าผม, ตู้นิรภัย, และการบริการที่ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในห้องพักหรือระเบียงทางเดินอีกด้วย


ห้องพักมองเห็นทะเล (E) ตั้งอยู่ใจกลางชั้น 6 ขนาด 143 ตารางฟุต โดยมีการออกแบบที่สดใหม่พร้อมหน้าต่างพาโนรามาที่มองเห็นวิวสวยงาม แม้จะมีมุมมองที่ถูกบังบางส่วน ห้องพักนี้มีโต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์แบบเย็น โต๊ะสำหรับทานอาหารเช้า และตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกได้แก่ เตียง Ultra Tranquility ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Oceania Cruises, ผลิตภัณฑ์ดูแลจาก Bulgari, ช็อกโกแลตเบลเยี่ยมสุดพิเศษพร้อมบริการจัดเตียงประจำทุกคืน, บริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมงฟรี, โทรทัศน์จอแบนพร้อมเครื่องเล่น DVD และสื่อมากมาย รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ ห้องพักยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ, ผ้าขนหนู ผ้านวม และรองเท้าอาบน้ำที่นุ่มสบาย, ไดร์เป่าผมแบบพกพา, และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย โดยห้องพักทั้งหมดและห้องชุดจะปลอดบุหรี่。


重新設計的ห้องพักภายใน以現代風格為特色,擁有160平方英尺的奢華空間。這個愉悅的私人度假空間包括舒適的座位區、化妝台、冰箱迷你酒吧及充足的儲物空間,而巧妙的空間利用更襯托出全新的裝飾風格。 這個房型的住客可享受多項免費設施,包括每日補充的飲料、靜水與氣泡水以及24小時房務菜單。房內配備了專屬的Tranquility床、Bulgari洗浴用品、每日兩次的客房清潔服務,以及互動電視系統,提供隨需應變的電影和天氣資訊。無線網絡及行動電話服務隨時可用,還配有書寫桌和文具、柔軟的棉質毛巾、浴袍及拖鞋,並提供手持吹風機、安全保險箱及晚間服務的比利時巧克力。您在此的放鬆經歷將無與倫比,然而請注意,所有套房和客艙均禁止吸煙。

ห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยว ขนาด 143 ตารางฟุต เป็นพื้นที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางคนเดียว ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายบนชั้น 6 ห้องพักทุกห้องมีเตียง Tranquility Bed ที่หลับสบายอย่างยิ่ง มินิบาร์ที่มีความเย็น และโต๊ะเขียนหนังสือ พร้อมด้วยพื้นที่เก็บของที่กว้างขวาง ทำให้คุณรู้สึกสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก.