
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oceania Insignia
โอเชียเนีย ครูซส์


ท่าเรือวัลปาราอีโซ (Valparaíso) ของชิลี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่งดงามและมีเสน่ห์เฉพาะตัว เสน่ห์แห่งวิวทิวทัศน์ที่ตระการตาของเมืองนี้เกิดจากศิลปกรรมที่สร้างขึ้นอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วย cerros (เนินเขา) ถึง 45 ลูกที่ตั้งตระหง่านเหนือมหาสมุทร พี่น้องชาววัลปาราอีโซจะเข้าใจความสำคัญของการเดินทางด้วยทางเดินที่คดเคี้ยวและลิฟต์ไม้ (ascensores) เพื่อขึ้นไปยังมุมต่าง ๆ ภายในเมือง เมืองนี้มีบ้านสีสันสดใสเรียงรายอยู่ตามเชิงเขา ส่วนใหญ่สร้างจากเหล็กกล้าที่ถอดออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์ ทำให้แต่ละหลังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วัลปาราอีโซเคยเป็นท่าเรือที่สำคัญที่สุดในอเมริกาใต้ ก่อนที่คลองปานามาจะเปิดใช้ และแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงด้านเส้นทางการค้า สถานะของเมืองยังคงเป็นท่าเรือหลักของชิลี สำหรับบรรดานักท่องเที่ยว การเดินเล่นสัมผัสกับวัฒนธรรมของเมืองผ่าน El Plan ซึ่งเป็นพื้นที่ร้านค้าและร้านอาหารแนวใหม่ นับเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นั่นคุณจะพบกับบรรยากาศที่คึกคักและวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของทะเล การเดินชมเมืองที่เต็มไปด้วยศิลปะและประวัติศาสตร์จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางที่มองเห็นความงดงามของชีวิตชาวพอร์ตในทุกขั้นตอน

เมืองปูเออร์โต้ มอนต์ (Puerto Montt) เป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากในเขตทะเลสาบของชิลี ด้วยบรรยากาศที่มีลมพัดเย็นสบายและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม เมืองนี้เคยเป็นจุดสิ้นสุดสำหรับผู้เดินทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่เขตนี้ แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางประมง สิ่งทอ และการท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดในภูมิภาค ปูเออร์โต้ มอนต์ เป็นเมืองที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม และตึกสำนักงานตั้งอยู่ในใจกลางเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีโอกาสมาเยือนในวันที่อากาศแจ่มใส คุณจะเพลิดเพลินกับชายหาดที่สวยงาม เช่น พลายา เปลูโก (Playa Pelluco) ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน หรือสามารถขับรถไปตามชายฝั่งเพื่อสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของเนินเขาที่ล้อมรอบ นอกจากนี้ ปูเออร์โต้ มอนต์ ยังเป็นประตูสู่การสำรวจธรรมชาติอันงดงามของชิลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติออสตราล ซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางเดินป่าและภูมิทัศน์ที่น่าหลงใหล หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในชีวิต อย่าลืมวางแผนการเดินทางมายังเมืองนี้ การล่องเรือในท่าเรือที่มีชื่อเสียงจะเป็นการเริ่มต้นการผจญภัยที่น่าจดจำ!
เมืองคัสโตร (Castro) ประเทศชิลี เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจซึ่งตั้งอยู่บนเกาะชิลัว (Chiloe) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และสีสันแห่งวัฒนธรรม โดยเฉพาะบ้านไม้สีสันสดใสที่ตั้งอยู่บนเสาเรียงรายริมแม่น้ำ การเดินชมในย่านนี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในภาพฝันที่เปล่งประกาย ด้วยบ้านทรงปาลาฟิโต (palafitos) ที่ทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความมีชีวิตชีวาของชาวชิลี คัสโตรไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือที่น่าเยี่ยมชม แต่ยังเป็นประตูสู่การสำรวจหมู่เกาะอันงดงามรอบข้าง ทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้ได้รับการฟื้นฟูจากผลกระทบของแผ่นดินไหวและไฟไหม้ในอดีต โดยเฉพาะแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงในปี 1960 แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของชุมชนที่นี่ และตอนนี้คัสโตรได้กลายเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ที่น่าจดจำ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ในการเฉลิมฉลองความงามและวัฒนธรรม บรรดาเมนูอาหารทะเลสดใหม่ และวิวธรรมชาติที่งดงาม คัสโตร คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางมายังชิลีของคุณ

ท่าเรือปวยร์โต้ชากาบูโก (Puerto Chacabuco) ตั้งอยู่ในประเทศชิลี เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างทิวทัศน์อันงดงามของธรรมชาติและทะเลที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ เมื่อคุณเดินทางจากเมืองคอยไอเก (Coyhaique) ผ่านทิวเขา ธรรมชาติจะพาคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศของฟาร์มที่มีหมอกปกคลุม ราวกับภาพวาดที่สวยงาม ขณะที่น้ำตกและแม่น้ำเล็กๆ ไหลผ่านภูเขาที่สวยสดงดงาม รอบๆ คือภูมิทัศน์ที่เขียวขจี มีต้นปอปลาร์สีเหลืองเรียงรายอยู่รอบที่พักเรียบง่าย ท่าเรือชากาบูโก เป็นประตูสู่การผจญภัยอันน่าตื่นตาตื่นใจ โดยเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังเมืองปวยร์โต้มอนต์ (Puerto Montt) และเกาะชิโลเอ (Chiloé) ซึ่งมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นเส้นทางไปยังลากูนาซานราฟาเอล (Laguna San Rafael) ที่มีความงดงามตามธรรมชาติรอคุณอยู่ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่เต็มไปด้วยความสงบและความประทับใจ ล่องเรือจากชากาบูโกสู่จุดหมายที่สวยงามนี้จะทำให้คุณรู้สึกถึงความอบอุ่นและความตื่นเต้น พร้อมหรือไม่ที่จะเปิดประตูสู่การสำรวจที่ไม่รู้จบในชิลี?

ท่าเรือสู่ประสบการณ์อันล้ำค่า: อุทยานแห่งชาติลาโกนา ซาน ราฟาเอล เมื่อเรือสำราญของท่านแล่นอย่างสง่างามไปตามช่องทางน้ำ ประมาณ 150 ไมล์ทะเลจากปอร์ตู ชาคาบูโก ท่านจะได้พบกับอุทยานแห่งชาติลาโกนา ซาน ราฟาเอล ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามตระการตา ด้วยภูเขาที่สูงที่สุดในแอนดีสตอนใต้ คือยอดเขาซาน วาเลนติน ที่มีความสูงถึง 4,054 เมตร ซึ่งถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและเป็นต้นกำเนิดของธารน้ำแข็งถึง 19 แห่ง แต่จุดเด่นที่ทำให้อุทยานนี้เป็นที่รู้จักคือ ธารน้ำแข็งที่ยอดเขาซาน วาเลนติน ที่ความยิ่งใหญ่ของน้ำแข็งหินอัดแน่นจะผสมผสานกันสร้างภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยท่านจะได้ยินเสียงดังกึกก้องเมื่อเกล็ดน้ำแข็งขนาดใหญ่แตกตัวและตกลงสู่ทะเลสาบ เบื้องหน้าเขตแดนของน้ำแข็งที่ผสมผสานกับทิวทัศน์ที่งดงามนี้ ทำให้การเดินทางของท่านเป็นอีกหนึ่งบันทึกที่ไม่มีวันลืม สัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและความเงียบสงบในอุทยานแห่งนี้ ทำให้ที่นี่เป็นปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ใฝ่หาความงามของโลกใบนี้อย่างแท้จริง



อูซัวอิอา (Ushuaia) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ที่ละติจูด 55 องศาใต้ ซึ่งมีเสน่ห์กลมกลืนระหว่างธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ในฐานะเมืองหลวงของทีแอร่า เดล ฟูเอโก (Tierra del Fuego) เมืองนี้ตั้งอยู่ที่ปลายด้ามขวานของประเทศอาร์เจนตินา และมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก สายลมเย็นจากมหาสมุทรและภูเขาหิมะที่ตั้งตระหง่านประกอบร่วมกันสร้างวิวที่สวยงามทำให้ทุกคนหลงรัก ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าผ่านอุทยานแห่งชาติทีแอร่า เดล ฟูเอโก การเที่ยวชมสัตว์ป่า และการตกปลาในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความตื่นเต้น ยังมีการเล่นสกีที่กลาเซียร์มาร์เชียล (Martial Glacier) ด้วย นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติ อูซัวอิอายังมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เมืองนี้เคยเป็นสถานที่ตั้งของเรือนจำที่สำคัญ ทำให้มีสภาพแวดล้อมที่เข้มแข็งและเรื่องราวความเป็นมาที่น่าพิสมัย โดยในปัจจุบัน อูซัวอิอากลายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่รับนักท่องเที่ยวกว่า 120,000 คนต่อปี ไฮไลต์ของการเยี่ยมชมคือคลองบีเกิล (Beagle Channel) ที่สามารถมองเห็นวิวของภูเขาหิมะที่สะท้อนตัวเองในน้ำสีนิ่งสงบในช่วงยามเย็น สร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกอยู่ตลอดทั้งปี อูซัวอิอา คือการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ และความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่



ท่าเรือพอร์ตสแตนลีย์ ตั้งอยู่ในหมู่เกาะฟอล์คลแลนด์ (หรือที่รู้จักกันในชื่อเกาะมาลวินาส) เป็นจุดหมายที่ซ่อนเร้นในใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ที่นี่คือเมืองหลวงที่มีเสน่ห์และบรรยากาศที่เหมือนกับหมู่บ้านอังกฤษที่หลุดออกมาใกล้เคียง โดยบ้านเรือนที่มีสีสันสดใสเป็นเอกลักษณ์ช่วยเติมเต็มความงามให้กับทิวทัศน์ที่ถูกตั้งอยู่ในธรรมชาติอันงดงาม นอกจากนี้พอร์ตสแตนลีย์ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยมีซากเรือ Lady Elizabeth ที่จมอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่ง เป็นเครื่องเตือนใจถึงสภาพอากาศอันโหดร้ายที่แวดล้อมหมู่เกาะนี้ การเดินทางมายังฟอล์คลแลนด์ไม่ได้มีเพียงการพบกับภาพวิวอันน่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ได้สัมผัสกับโลกของเพนกวินหลากหลายสายพันธุ์ เช่น เพนกวิน Gentoo, Magellanic และ King ที่มักจะอาศัยอยู่ที่นี่หรือแวะพักระหว่างการเดินทาง สำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่า ฟอล์คลแลนด์คือต่อมที่เปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์อย่างลงตัว สร้างประสบการณ์การเดินทางที่น่าจดจำในดินแดนที่ไม่เหมือนใคร


เมื่อเข้ามายังเมือง Puerto Madryn จากเส้นทาง Ruta 3 คุณอาจรู้สึกประหลาดใจเมื่อพบว่าเมืองนี้คือหนึ่งในจุดเที่ยวที่สำคัญที่สุดในแพตาโกเนียชายฝั่ง การเดินทางจะพาคุณมายังถนนริมชายฝั่ง Rambla ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และเกสต์เฮาส์ที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ในท่ามกลางวิวของอ่าว Golfo Nuevo ที่สวยงามและสงบ Puerto Madryn อาจไม่ใช่จุดหมายปลายทางที่มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย แต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น คาบสมุทร Valdés และ Punta Tombo ที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหายาก ในช่วงฤดูวาฬที่มีระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม คุณจะได้เห็นวาฬที่แหวกว่ายในอ่าวอย่างใกล้ชิดและสามารถเดินไปยังท่าเรือเพื่อชมความงามเหล่านี้ได้ การวางแผนทริปต่าง ๆ ก็สะดวกสบายด้วยตัวแทนจัดทัวร์และบริษัทเช่ารถมากมายที่มีให้บริการ ร่วมสนุกในกิจกรรมระยะสั้นที่เปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ พร้อมให้ Puerto Madryn เป็นประตูสู่การผจญภัยที่น่าจดจำในดินแดนแห่งสัตว์ป่าชั้นนำของอาร์เจนตินา!


กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นเมืองที่ผสมผสานความงดงามและความมีชีวิตชีวาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากมรดกวัฒนธรรมที่หลากหลาย สามารถสังเกตได้จาก Plaza de Mayo อันมีเสน่ห์ดุจจัตุรัสใหญ่ในมาดริด และ Teatro Colón ที่สวยงามราวกับว่าได้ย้ายมาจากเวียนนา บัวโนสไอเรสยังมีความเป็นอเมริกาใต้ที่ชัดเจนจากการเดินเล่นในถนนที่ปูด้วยหินและรองเท้าหนังคุณภาพสูงที่วางขายในร้านค้าเล็กๆ แถมยังมีกิจกรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น ขบวนพาเหรดของแฟนฟุตบอลที่แสดงถึงความรักในกีฬานี้ของชาวเมือง นอกจากวัฒนธรรมและศิลปะที่หลากหลาย ชิมประสบการณ์ลิ้มลองไวน์ชั้นดี สเต็กเนื้อฉ่ำ และไอติมรสชาติต่างๆ ที่ได้มาเติมเต็มความอร่อยให้กับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ท่าเรือในกรุงบัวโนสไอเรส จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจเสน่ห์แห่งเมืองนี้ พร้อมเปิดประสบการณ์การเดินทางที่สุดหรูหรา ในดินแดนที่มีทั้งความคลาสสิกและความทันสมัยรอคุณอยู่

มอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัย ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำริโอเดอพลาตา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความมีชีวิตชีวา มาพร้อมกับทางเดินเลียบชายฝั่งหรือที่เรียกว่า "มาลิโคน" ที่ทอดยาวไปตามแนวชายหาด ร้านอาหารที่หลากหลาย และสวนสาธารณะมากมาย ที่นี่ คุณจะได้พบกับชาวมอนเตวิเดโอ เดินเล่น ออกกำลังกาย หรือแค่เพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเล มอนเตวิเดโอมีความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม โดยมีทั้งความเจริญก้าวหน้าของอาคารสมัยใหม่และเสน่ห์ของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่หรูหรา นอกจากนี้ ยังมีจัตุรัสและสวนสาธารณะเขียวขจีมากมาย ที่ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาและสมบูรณ์แบบในการใช้เวลา เมื่ออากาศดี ถนนเลียบชายฝั่งที่ยาวถึง 22 กิโลเมตรจะเต็มไปด้วยผู้คนต่างเดินเล่น ตกปลาหรือลองขนมไอศกรีม โดยเฉพาะในช่วงเย็น ขณะที่คู่รักเริ่มออกมาสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกของเมือง ความละเอียดอ่อนในชีวิตประจำวันที่นี่ทำให้มอนเตวิเดโอถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในละตินอเมริกา หญิงสาวที่จะเดินทางไปที่นี่ คงรู้สึกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจที่จะกลับมาอีกครั้งในค่ำคืนที่สวยงามในฤดูร้อน.

เมื่อคุณก้าวเข้าไปในโลกแห่งความหรูหรา ณ Punta del Este ประเทศอุรุกวัย คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมักถูกเปรียบเทียบกับ Hamptons หรือ St-Tropez เมืองนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่ความพิเศษจะส่งเสริมให้เกิดปาร์ตี้ไม่รู้จบ ขณะเดียวกัน Punta del Este ยังคงเป็นสถานที่หลากหลายที่เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน หรือนักธุรกิจที่ปรารถนาความสงบในบรรยากาศที่มีระดับ บริเวณชายฝั่งมีชีวิตชีวาในตัวเมืองที่มีชายหาดทอดยาว ขณะที่ด้านในก็มีฟาร์มและคฤหาสน์หรูหราที่เรียกว่า "chacras" หรือ "estancias" ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างสงบ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยสีสันอย่าง La Barra และ José Ignacio ซึ่งตกกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน Punta del Este ได้ชื่อมาจาก "จุดตะวันออก" ซึ่งเป็นจุดแบ่งแยกระหว่าง Río de la Plata และมหาสมุทรแอตแลนติก ทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง Punta Ballena ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน หากคุณมีโอกาสได้เยือนที่นี่ รับรองว่าจะไม่มีใครผิดหวัง กับความงดงามที่ซ่อนอยู่รอให้คุณไปค้นพบ.

ท่าเรือริโอกรานเด ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางพื้นที่ทางตอนใต้ของบราซิล เป็นหนึ่งในท่าเรือที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยเรือสำราญ พื้นที่แห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นจุดแวะพักที่สะดวกสบาย แต่ยังเต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรมที่โดดเด่น เมื่อคุณมาถึงที่ท่าเรือริโอกรานเด คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเมืองท่าที่มีชีวิตชีวา เดินเล่นไปตามชายหาดที่สวยงาม โดยเฉพาะหาด Mólhe do Grande ที่มีทัศนียภาพของทะเลที่ตัดกับฟ้าอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังสามารถเยี่ยมชม Ponta do Seixas ซึ่งเป็นจุดที่อยู่ทางตะวันออกสุดของบราซิล ที่ซึ่งคุณจะพบกับทัศนียภาพที่น่าอัศจรรย์ อย่าลืมชิมอาหารท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ข้าวอบกับอาหารทะเล ที่ผสมผสานความหลากหลายของวัตถุดิบพื้นเมือง พร้อมกับรสชาติที่ทำให้คุณหลงใหล แม้ว่าท่าเรืองจะเป็นแค่จุดเริ่มต้น แต่การเดินทางในเมืองริโอกรานเดจะทำให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่น่าจดจำอย่างแท้จริง เมื่อสำรวจรอบเมืองเพิ่มเติม คุณจะพบกับตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยศิลปะและงานฝีมือของชาวบ้าน ที่มักนำเสนอความคิดสร้างสรรค์และมรดกทางวัฒนธรรมของบริเวณนี้ เชิญชวนให้คุณสัมผัสประสบการณ์ที่จะสร้างความทรงจำอันมีค่าในการเดินทางที่น่าตื่นเต้นแห่งนี้

ฟลอเรียโนโปลิส (Florianópolis) คือเมืองชายทะเลที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ในประเทศบราซิล ที่นี่คือจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด หาดทรายขาวทอดยาวและน้ำทะเลใสสะอาดเป็นจุดเด่นที่ยั่วยวนใจให้ทุกคนมีความสุขกับการพักผ่อนและกิจกรรมทางน้ำ ท่าเรือฟลอเรียโนโปลิสใช่เพียงแค่จุดจอดเรือสำราญที่พาคุณเข้าสู้มุมมหัศจรรย์ของเมืองนี้ แต่ยังเป็นประตูเชื่อมโยงคุณไปยังแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น หาดโจญา (Joaquina Beach) ที่มีคลื่นเหมาะสำหรับการโต้คลื่นและหาดแคมป์ (Campeche Beach) อันเงียบสงบที่โด่งดังเรื่องการดำน้ำตื้นและใต้น้ำ นอกจากชายหาดที่สวยงาม ฟลอเรียโนโปลิสยังมีวัฒนธรรมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอาหารซีฟู้ดสดใหม่ที่เต็มไปด้วยรสชาติหอมหวาน สถานที่อย่างตลาดสด (Mercado Público) เป็นแหล่งชิมที่ต้องไม่พลาด ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับรสชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นในบรรยากาศที่คึกคัก สัมผัสประสบการณ์เดินทางที่ยากจะลืมเลือนในฟลอเรียโนโปลิส ที่จะเติมเต็มใจคุณด้วยความประทับใจแห่งมหาสมุทรและอัศจรรย์แห่งการผจญภัยในบราซิล!
ท่าเรืออิตาจาย (Itajaí) ตั้งอยู่ในรัฐซานตากาตารีนา ประเทศบราซิล เป็นจุดหมายที่มีเสน่ห์และมีอารยธรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อมีการอพยพจากยุโรปเข้ามายังภูมิภาคนี้ นำมาซึ่งการเจริญเติบโตของเมืองในด้านธุรกิจและวัฒนธรรมสืบทอดจากชาวอิตาลี เยอรมัน และโปแลนด์ที่ยังเห็นได้ในสถาปัตยกรรมของเมืองในปัจจุบัน อิตาจายอาจไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เรียกว่า "ต้องเห็น" มากนัก แต่มีชายหาดที่สวยงามอยู่ใกล้เคียง เช่น ชายหาดอาตาลายาและเกเรเมียส ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับบรรยากาศท้องถิ่นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ การเดินทางไปยังกัมโบเรีย (Camboriú) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมเพียง 10 กิโลเมตรจากท่าเรือ จะทำให้คุณได้พบกับบรรยากาศที่ครึกครื้น มีศูนย์การค้าที่หลากหลาย และเคเบิลคาร์ที่เชื่อมสองชายหาดเข้าด้วยกัน สำหรับการเดินทาง ความสะดวกสบายมีให้โดยท่าเทียบเรือที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่ให้บริการอาหารพื้นเมืองและนานาชาติหลายแห่ง ซึ่งเป็นโอกาสดีในการสัมผัสรสชาติของท้องถิ่น การเดินชมถนนคนเดิน หรือการเยี่ยมชมโบสถ์ประจำเมืองก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด มาสัมผัสความงดงามและเสน่ห์ของอิตาจาย ที่ซึ่งท่าเรือและวัฒนธรรมท้องถิ่นอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางสู่การค้นพบใหม่ ๆ ในบราซิล!

ซานเปาโล เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและวัฒนธรรม อาจเป็นหนึ่งในจุดหมายที่เรียกว่า “เมืองแห่งโอกาส” ของบราซิล และยังเป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญที่จะนำพาคุณไปสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งท่าเรือ San Paulo ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นจุดเชื่อมต่อที่คุณจะได้สัมผัสทั้งความทันสมัยและประวัติศาสตร์ ศิลปะและธรรมชาติ รวมถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ตัวเมืองเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้าที่หรูหราทั่วทั้งเมือง เช่น ปลาซา อีตาเบล และโรงแรมหรูที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เมื่อมาถึงซานเปาโล คุณยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะซานเปาโล (MASP) ซึ่งมีผลงานจากศิลปินระดับโลกที่ตั้งอยู่บนถนนปาโคลสะ หนึ่งในเส้นทางสำคัญของเมือง หรือเดินชมสวนโบตาโฟโกที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศที่สงบและวิวที่งดงาม หากคุณใฝ่ฝันที่จะสัมผัสเมืองที่มีทั้งความสุขและความหลากหลาย ซานเปาโลจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางครั้งติดใจในยุโรปใต้ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมในทุกย่างก้าวที่คุณเดินทางไป

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวอันหรูหราที่ผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความงดงามทางธรรมชาติ ท่าเรือ Parati ในบราซิลคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ห่างจากริโอเดจาเนโรประมาณ 180 ไมล์ เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ปี 1660 และยังคงรักษาบรรยากาศดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน Parati เคยเป็นจุดสำคัญในการค้าทองจาก Minas Gerais สู่โปรตุเกสในศตวรรษที่ 18 แต่จากการโจมตีของโจรสลัด เมืองจึงถูกหลบซ่อนในมุมที่เงียบสงบ ปัจจุบัน Parati ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมอาณานิคมที่สำคัญ คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของถนนปูกระเบื้องที่แคบซึ่งปลอดจากรถยนต์ และความงดงามของอาคารเก่าที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม ในเมืองนี้ยังมีศิลปินท้องถิ่นที่นำเสนอผลงานศิลปะและของที่ระลึกให้คุณได้เยี่ยมชม นอกจากนี้ คุณยังสามารถเยี่ยมชมโบสถ์ Santa Rita de Cassia ที่สร้างขึ้นในปี 1722 ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมบาร์อคบราซิล Parati ไม่เพียงแต่มีวัฒนธรรมที่ล้ำค่า แต่ยังมีภูมิทัศน์ที่งดงามปกคลุมไปด้วยภูเขาสีเขียวและเกาะน้อยใหญ่ที่กระจายอยู่ทั่วอ่าว เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้เต็มอิ่มกับประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำอย่างแท้จริง

อิลฮา แกรนเด เป็นจุดหมายปลายทางอันงดงามที่ซ่อนเร้นอยู่ในเมืองบราเซิล ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และชายหาดที่สวยงามสะกดทุกสายตา คุณสามารถเดินเล่นบนชายหาดที่มีปีกสีทองอย่าง Praia Lopes Mendes หรือจะสำรวจป่าฝนเขตร้อนที่เต็มไปด้วยพันธุ์พืชและสัตว์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น อิลฮา แกรนเด ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยกิจกรรมให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูปะการัง ดูปลาสีสันสดใส หรือนั่งเรือไปชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบเกาะ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย การปีนเขาไปยังยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาะก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าตื่นเต้น เพื่อให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด อย่าลืมลองสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการล déguster อาหารทะเลสดใหม่ที่มีชื่อเสียง โดนเฉพาะเมนูปลาสด ๆ ที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ซึ่งจะทำให้คุณหลงใหลในความอร่อยแบบบราเซิล ยิ่งไปกว่านั้น การแวะเยือนอิลฮา แกรนเด จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดไปยังสวรรค์ที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยเสน่ห์ ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและสัมผัสชีวิตแบบเรียบง่ายบนเกาะที่นี่ แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขของการเดินทางคืออะไร

เมืองบูซิออส (Búzios) ตั้งอยู่ห่างจากริโอเดจาเนโรเพียงสองชั่วโมง เป็นเพนินซ่าที่มีชายหาดที่สวยงามเรียงรายตลอด 8 กิโลเมตร ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบจนกระทั่งในปี 1960 เมื่อดาราฮอลลีวูดชื่อดัง บริจิตต์ บาร์โด ได้มาใช้เวลาพักผ่อนที่นี่เพื่อหนีจากการตามล่าของช่างภาพ และบูซิออสก็กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการ บูซิออสมีทุกสิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่โรงแรมที่ตอบโจทย์ครอบครัวพร้อมกิจกรรมมากมายและบริการดูแลเด็กตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงสถานที่ที่มีสปาและโปรแกรมรีทรีตสุดพิเศษ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง บูซิออสยังมีกีฬาทางน้ำหลากหลาย เช่น เซิร์ฟกีฬาทางน้ำ วอเตอร์สกี ไคท์เซิร์ฟ รวมถึงการดำน้ำและการปั่นจักรยานเสือภูเขา นอกจากนี้ บูซิออสยังมีสนามกอล์ฟที่สวยงาม ตลอดจนชายหาดที่แผ่กว้างให้คุณได้สนุกสนานและผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม การเดินทางมาที่นี่เปรียบเสมือนการเข้าร่วมในบรรยากาศที่เงียบสงบริมหาดสวรรค์ ซึ่งและเป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ และความงดงามของบราซิลอย่างแท้จริง




อัลเตอร์ โด ชาว (Alter do Chão) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในบราซิล ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแทปจอส (Tapajós River) ภายในรัฐปารา (Pará) ซึ่งมีทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงามและอุดมไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เข้มข้น การเดินทางมาที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายและแสนจะโรแมนติก ท่าเรืออัลเตอร์ โด ชาวเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการขึ้นเรือสำราญกลางแม่น้ำและสำรวจเกาะที่มีชื่อเสียงอย่าง "เกาะเซนต์ลูเซีย" และ "เกาะคาชู" ที่มีน้ำทะเลใสสะอาดเป็นอย่างมาก ที่นี่เหมาะสำหรับการว่ายน้ำ ดำน้ำตื้น และชมนกนานาพันธุ์ รวมถึงต้นไม้แปลกตาที่มีอยู่ทั่วไปในเส้นทางน้ำของป่าอเมซอน นอกจากนี้ ท่าเรือยังมีตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์พื้นบ้านและอาหารแสนอร่อย ไม่ว่าคุณจะอยากลิ้มลองปลาเฮอริ่งสดๆ หรือขนมหวานที่มีรสสัมผัสไม่เหมือนใคร ในทุกมุมของอัลเตอร์ โด ชาว คุณจะได้สัมผัสความสนุกและเรื่องราวที่รอให้คุณค้นพบ พร้อมด้วยมิตรภาพจากผู้คนที่อบอุ่นและเป็นมิตร การมาท่าเรืออัลเตอร์ โด ชาว คือการสร้างความทรงจำที่ยากจะลืม โดยเฉพาะการสำรวจธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจแห่งการค้นพบใหม่ ๆ ทุกครั้ง

ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในบราซิล ท่าเรือ Boca de Valeria จะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับคุณ ตั้งอยู่ในเขตอเมซอน นี่คือหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและความงดงามของธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถพบกับชีวิตประจำวันของชาวพื้นเมืองที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Boca de Valeria มีบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณได้สัมผัสการเดินชมธรรมชาติริมแม่น้ำอเมซอน อันเป็นแหล่งชีวิตที่หลากหลายทั้งพืชและสัตว์ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ยากจะลืม คุณยังสามารถเล่นสนุกกับลิงหรือสัมผัสกับวัฒนธรรมพื้นเมืองที่นี่ได้อีกด้วย นอกเหนือจากการเยี่ยมชม Boca de Valeria นั้น ผู้ที่รักการผจญภัยจะต้องไม่พลาดที่จะสำรวจอุทยานแห่งชาติอเมซอน ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพอันน่าทึ่ง รวมถึงเส้นทางปั่นจักรยานหรือเดินป่าที่ช่วยให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง การมาเยือนที่ Boca de Valeria คือการค้นพบโลกใหม่ที่รอคุณอยู่ พร้อมให้คุณดื่มด่ำไปกับความงามของวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ในบราซิล รอให้คุณมาค้นพบ!


ท่าเรือ Parintins ตั้งอยู่ในใจกลางของ Amazon ประเทศบราซิล เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในการสำรวจความงดงามและความหลากหลายทางธรรมชาติของอเมซอน พื้นที่นี้เป็นที่รู้จักจากเทศกาล Boi Bumbá ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน เพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมพื้นเมืองและแสดงให้เห็นถึงความงดงามของชีวิตในป่าฝน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการแสดงที่เต็มไปด้วยสีสัน เสียงเพลง และแดนเซอร์ที่สวมใส่ชุดประจำชาติอย่างงดงาม นอกจากนี้ Parintins ยังเป็นประตูสู่การค้นพบธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในเขตอเมซอน ซึ่งมีทั้งสัตว์ป่าและพืชพรรณที่หายาก นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือไปตามแม่น้ำอเมซอนที่ยิ่งใหญ่ และสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงในระบบนิเวศที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ตามทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ การเดินทางมายัง Parintins โดยเรือสำราญจะทำให้คุณได้สนุกสนานกับการสำรวจ และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเผชิญหน้ากับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เปลี่ยนการเดินทางครั้งนี้ให้เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในจิตใจของคุณ

ซานตาเร็ม (Santarém) เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ในประเทศบราซิล เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ภูมิภาคนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอเมซอน ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก เสน่ห์ของซานตาเร็มอยู่ที่การเป็นประตูสู่ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของอเมซอน หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติ การได้เห็นการผสมผสานระหว่างแม่น้ำดำและแม่น้ำขาวที่เรียกว่า "Encontro das Águas" เป็นประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด อนุสาวรีย์แห่งการพบกันนี้เป็นจุดสร้างความตราตรึงใจ และเป็นที่รู้จักในวงกว้างของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ซานตาเร็มยังมีตลาดกลางที่มีชีวิตชีวา ซึ่งคุณสามารถสัมผัสรสชาติของท้องถิ่น ซื้อของที่ระลึกที่ทำจากสินค้าจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้ท้องถิ่นและงานฝีมือที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น อนุสรณ์สถานทางศาสนาและพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมือง เตรียมตัวให้พร้อมที่จะค้นพบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในซานตาเร็ม ที่ซึ่งธรรมชาติและวัฒนธรรมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวทุกครั้งที่มีเรือสำราญจอดเทียบท่า ความมหัศจรรย์ของอเมซอนรอให้คุณมาสัมผัสแล้ววันนี้!



ท่าเรือบริจด์ทาวน์ในบาร์เบโดส เป็นที่ที่ท่านจะได้สัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความหลากหลาย ตั้งอยู่ข้างอ่าวธรรมชาติแห่งเดียวของเกาะ ท่านจะได้พบกับสถาปัตยกรรมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างสมัยใหม่และยุคล่าอาณานิคม จนสร้างบรรยากาศที่โดดเด่นพร้อมด้วยชายหาดที่เรียงรายไปด้วยต้นปาล์ม ระหว่างการสำรวจเมืองนี้ ท่านจะได้พบกับอาคารรัฐสภาที่จัดสร้างในสไตล์อังกฤษ และประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกไว้ในโบสถ์แองกลิกัน รวมถึงกองทัพบาร์เบโดสซึ่งมีอายุกว่า 200 ปี ทั้งยังสามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมที่ผ่อนคลายและชีวิตชายหาดที่คึกคักได้อย่างเต็มที่ การเดินทางจากเรือไปยังยานพาหนะเพื่อเริ่มต้นการท่องเที่ยวอาจมีระยะทางที่แตกต่างกันไป แต่อย่าห่วง เพราะทุกช่วงเวลาในบริจด์ทาวน์แทบจะตื่นเต้นไปด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่รอคอยให้ท่านได้สัมผัส ซึ่งจะทำให้ทริปของท่านเป็นที่น่าจดจำไม่มีวันลืม กลับใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ที่บริจด์ทาวน์ สถานที่แสนประทับใจในบาร์เบโดส












เจ้าของสวีทใหม่ที่มีการออกแบบอย่างหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์จำนวนหกห้อง เป็นห้องที่มักถูกจองอย่างรวดเร็ว สวีทเหล่านี้กว้างใหญ่ถึงประมาณ 1,000 ตารางฟุต และเป็นโอเอซิสแห่งความเงียบสงบและการผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยมีห้องน้ำที่ได้รับการออกแบบใหม่สุดหรูซึ่งมีฝักบัวขนาดใหญ่ สวีทยังมีระเบียงไม้สักส่วนตัว และโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องเพื่อความสะดวกสบายที่สุด นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บริการซักรีดฟรีสูงสุดสามกระเป๋าต่อห้อง บริการผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชั่วโมง และการเข้าถึงสปา Aquamar Terrace อย่างไม่จำกัด ทั้งนี้ยังมีการต้อนรับด้วยแชมเปญฟรีและชุดของขวัญจากบุลการี รวมทั้งสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารและบริการอื่นๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในทุกมิติของความหรูหราในเจ้าของสวีทแห่งนี้







ห้องพักชื่อว่า วิสตา สวีท มอบวิวที่งดงามไปยังส่วนหน้าเรือ คุณจะพบกับสีสันที่สงบซึ่งสื่อถึงทะเลที่เงียบสงบและท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ห้องพักแต่ละห้องมีขนาดกว้างถึง 786 ตารางฟุต พร้อมทุกความสะดวกสบายที่คาดหวัง รวมถึงห้องน้ำที่สองสำหรับแขก และห้องน้ำหลักที่ตกแต่งด้วยหินออนิกซ์ หินอ่อนคารารา และหินแกรนิต พร้อมฝักบัวอาบน้ำสุดหรู คุณสามารถนั่งพักผ่อนบนระเบียงไม้ทีคหรือชมภาพยนตร์ผ่านระบบบันเทิงที่ปรับแต่งตามความต้องการของคุณ นอกจากนี้ ห้อง วิสตา สวีท ยังมีบริการพิเศษเพิ่มเติม เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก การลงทะเบียนขึ้นเรือเวลา 11.00 น. ด้วยความสำคัญ รวมถึงบริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง บาร์ในห้องพักที่มีเครื่องดื่มคุณภาพสูงและไวน์ 6 ขวดฟรี น้ำผลไม้สดที่เติมวันต่อวัน และการสำรองที่นั่งในร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด ไอแพดให้บริการตามคำขอ และชุดของขวัญจากแบรนด์บูร์การิ สิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย รวมถึงผ้าห่มแคชเมียร์และตัวเลือกของหมอนจากคอลเลกชันสุดหรู โปรดทราบว่าสูบบุหรี่ในห้องพัก ห้องสเตเตอร์รูมและบนระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด




เพนท์เฮาส์สวีทของเราเป็นห้องขนาด 322 ตารางฟุตที่ประดับประดาด้วยผ้าหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ในโทนสีสงบสุขของทะเลและท้องฟ้า ห้องนี้กว้างขวางพอสำหรับการรับประทานอาหารในห้องส่วนตัว พื้นที่นั่งเล่นมีมินิบาร์เย็นๆ และโต๊ะเครื่องแป้ง ในขณะที่ห้องน้ำได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีการตกแต่งด้วยหินหรูหราและฝักบัวอาบน้ำที่ทันสมัย เพนท์เฮาส์สวีทยังมอบสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้อง, การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. โดยมีการจัดส่งกระเป๋าอย่างเร่งด่วน, การบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, แชมเปญต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญ, การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด, iPad® สำหรับความบันเทิงขณะอยู่บนเรือตามคำขอ, ถุงผ้าสะพายแบรนด์ Oceania Cruises และกระดาษจดหมายส่วนตัว, ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง, บริการขัดรองเท้าฟรี และบริการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ โปรดทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องสวีท, ห้องพัก และบนระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด



ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียง (Category A Concierge Level Veranda Staterooms) ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ต้องการมากที่สุดบนเรือ นำเสนอการผสมผสานระหว่างคุณค่าและความหรูหราอย่างลงตัว ห้องพักขนาด 216 ตารางฟุตนี้ได้รับการออกแบบใหม่อย่างทันสมัย มอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นที่ต้องการและสิทธิพิเศษเฉพาะ เช่น บริการซักรีดฟรี ทำให้การเข้าพักของคุณไร้กังวลยิ่งขึ้น การตกแต่งใหม่ที่สดใส เตียง Tranquility ที่นุ่มสบาย และระเบียงที่ได้รับแรงบันดาลใจใหม่พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์ ครบครันประสบการณ์คอนเซียร์จอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับผู้เข้าพักในห้องคอนเซียร์จ เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก เมนูบริการอาหารกลางวันและอาหารเย็นที่ขยายออกจากห้องอาหารหลัก การขึ้นเรือในช่วงกลางวันอย่างมีลำดับความสำคัญ ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้าอย่างมีลำดับความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด iPad® ที่สามารถขอใช้ได้เมื่ออยู่บนเรือ กระเป๋าผ้าลาย Oceania Cruises ฟรี ผ้าห่มแคชเมียร์ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และบริการรีดเสื้อผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ โดยห้ามสูบบุหรี่ในห้องและบริเวณระเบียงโดยเด็ดขาด ไม่ว่าคุณจะมองหาความสะดวกสบายหรือหรูหรา ห้องพักนี้ตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างครบถ้วน




ระเบียง客艙 ขนาด 216 ตารางฟุต ถูกออกแบบอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับแต่งเฉพาะตัว, การตกแต่งด้วยหินที่แปลกใหม่, เตียงหัวนุ่ม และโคมไฟที่มีสไตล์ ทำให้คุณได้สัมผัสความหรูหราแบบไม่ซ้ำใคร นอกเหนือจากการชมวิวที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแล้ว ห้องพักยังมีระเบียงไม้สักส่วนตัว ซึ่งคือความสะดวกสบายที่ผู้เข้าพักประทับใจมากที่สุด สะดวกสบายในแต่ละห้องพักประกอบไปด้วยโต๊ะแต่งตัว, มินิบาร์ที่มีความเย็น, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษในระเบียง客艙 ได้แก่ เตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises ปลอกผ้าปูที่นอนด้าย 1,000 เส้น, เครื่องดื่มอ่อนที่เติมฟรีทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบซ้ำ, อุปกรณ์บูลการิ, บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง, บริการทำความสะอาดวันละสองครั้ง, ช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงคืน, ระบบทีวีแบบอินเตอร์แอคทีฟพร้อมภาพยนตร์ตามสั่ง, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่, โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเอกสาร, ผ้าขนหนูฝ้ายเนื้อนุ่ม, เสื้อคลุมและรองเท้าใส่ในบ้านที่หนา, ไดร์เป่าผมแบบพกพา, ตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย ห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด


ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลขนาด 165 ตารางฟุตได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้รู้สึกกว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เย็นขนาดเล็ก และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารที่ได้รับการตกแต่งด้วยเฉดสีที่นุ่มนวลและวัสดุที่มีสไตล์ การตกแต่งที่ทันสมัยช่วยให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลายและหรูหราทุกครั้งที่เข้าพัก ห้องพักนี้มีบริการฟรีต่างๆ อาทิ เครื่องดื่มอัดลมที่เติมให้ทุกวัน น้ำ Vero ที่ให้บริการทั้งแบบไม่มีอากาศและแบบมีอากาศ ตลอดจนบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่คัดสรรมาสำหรับคุณ อาทิเช่น เตียง Tranquility ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Oceania Cruises ชุดอุปกรณ์ Bulgari การทำความสะอาดห้องสองครั้งต่อวัน และระบบโทรทัศน์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง นอกจากนี้ยังมีบริการอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายและการเข้าถึงเครือข่ายมือถือ โต๊ะเขียนหนังสือและอุปกรณ์การเขียน ผ้าขนหนู ฝาโรบิน และรองเท้าอาบน้ำที่นุ่มสบาย ไดร์เป่าผมแบบมือถือ ตู้นิรภัย และช็อกโกแลตเบลเยี่ยมในบริการนอนเสริม โดยเฉพาะสำหรับห้องพักที่มีความต้องการพิเศษ จะมีการจัดเตรียมให้มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ช่วยยก ชุดประตูห้องน้ำขนาดใหญ่ ราวจับในห้องน้ำ และห้องน้ำที่ออกแบบให้เข้าถึงได้สะดวกแบบไม่มีรอบสูง รวมถึงอ่างอาบน้ำ วางแผนการพักผ่อนหรูหราของคุณได้แล้ววันนี้ในห้องพักเดลักซ์วิวทะเลที่รอให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจนี้!


ห้องพัก客艙วิวทะเล (D) ขนาด 165 ตารางฟุตที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเสน่ห์ นำเสนอการตกแต่งที่ทันสมัยและสะดวกสบาย ซึ่งคิดค้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่และความสะดวกสบาย ห้องพักนี้มีมุมพักผ่อนที่สะดวกสบาย พร้อมโซฟาที่ให้คุณยืดตัวออกได้, โต๊ะทำงาน, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และมินิบาร์ที่มีตู้เย็น ภายในห้องยังมีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกฟรี เช่น น้ำอัดลมเติมให้รายวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ที่เป็นทั้งน้ำเปล่าและน้ำอัดลมฟรี และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้คุณยังจะได้สัมผัสกับเตียง Tranquility ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises, สินค้าอาบน้ำ Bulgari, บริการทำความสะอาดห้องพักวันละสองครั้ง, ระบบโทรทัศน์อินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง และการบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย พร้อมการบริการของเจ้าหน้าที่ ที่จัดเตรียมผ้าขนหนู, เสื้อคลุม, และรองเท้าอาบน้ำที่ทำจากผ้าฝ้ายคุณภาพสูง พร้อมบริการเปลี่ยนให้ตื่นขึ้นมาพร้อมช็อกโกแลตเบลเจียน นอกจากนี้ยังมีเครื่องเป่าผม, ตู้นิรภัย, และการบริการที่ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในห้องพักหรือระเบียงทางเดินอีกด้วย


ห้องพักมองเห็นทะเล (E) ตั้งอยู่ใจกลางชั้น 6 ขนาด 143 ตารางฟุต โดยมีการออกแบบที่สดใหม่พร้อมหน้าต่างพาโนรามาที่มองเห็นวิวสวยงาม แม้จะมีมุมมองที่ถูกบังบางส่วน ห้องพักนี้มีโต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์แบบเย็น โต๊ะสำหรับทานอาหารเช้า และตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกได้แก่ เตียง Ultra Tranquility ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Oceania Cruises, ผลิตภัณฑ์ดูแลจาก Bulgari, ช็อกโกแลตเบลเยี่ยมสุดพิเศษพร้อมบริการจัดเตียงประจำทุกคืน, บริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมงฟรี, โทรทัศน์จอแบนพร้อมเครื่องเล่น DVD และสื่อมากมาย รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ ห้องพักยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ, ผ้าขนหนู ผ้านวม และรองเท้าอาบน้ำที่นุ่มสบาย, ไดร์เป่าผมแบบพกพา, และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย โดยห้องพักทั้งหมดและห้องชุดจะปลอดบุหรี่。


重新設計的ห้องพักภายใน以現代風格為特色,擁有160平方英尺的奢華空間。這個愉悅的私人度假空間包括舒適的座位區、化妝台、冰箱迷你酒吧及充足的儲物空間,而巧妙的空間利用更襯托出全新的裝飾風格。 這個房型的住客可享受多項免費設施,包括每日補充的飲料、靜水與氣泡水以及24小時房務菜單。房內配備了專屬的Tranquility床、Bulgari洗浴用品、每日兩次的客房清潔服務,以及互動電視系統,提供隨需應變的電影和天氣資訊。無線網絡及行動電話服務隨時可用,還配有書寫桌和文具、柔軟的棉質毛巾、浴袍及拖鞋,並提供手持吹風機、安全保險箱及晚間服務的比利時巧克力。您在此的放鬆經歷將無與倫比,然而請注意,所有套房和客艙均禁止吸煙。

ห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยว ขนาด 143 ตารางฟุต เป็นพื้นที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางคนเดียว ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายบนชั้น 6 ห้องพักทุกห้องมีเตียง Tranquility Bed ที่หลับสบายอย่างยิ่ง มินิบาร์ที่มีความเย็น และโต๊ะเขียนหนังสือ พร้อมด้วยพื้นที่เก็บของที่กว้างขวาง ทำให้คุณรู้สึกสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก.