
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oceania Insignia
โอเชียเนีย ครูซส์


ท่าเรือเซาแธมป์ตัน นับเป็นท่าเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ปากอ่าวเซาแธมป์ตัน ระหว่างแม่น้ำเทสต์และอิตเชน เมืองแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยกลาง โดยมีการส่งออกขนสัตว์และหนังสัตว์จากพื้นที่รอบ ๆ และนำเข้าผลิตภัณฑ์ไวน์จากบอร์โดซ์ แม้เซาแธมป์ตันจะต้องเผชิญกับการทำลายล้างอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เมืองนี้ก็ได้ฟื้นฟูและสร้างสรรค์ใหม่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยอาคารยุคกลางที่ยังคงเหลืออยู่ เช่น บาร์เกต (Bargate) ที่ถือเป็นหนึ่งในประตูเมืองที่สวยงามที่สุดในอังกฤษ นอกจากท่าเรืออันทันสมัยแล้ว เซาแธมป์ตันยังมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับนักเดินทาง ที่สามารถสำรวจเมืองแห่งประวัติศาสตร์และเต็มไปด้วยศิลปะ เช่น พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ที่นำเสนอผลงานศิลปะระดับโลก และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการออกไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองใกล้เคียง อย่างบอร์นมัธ และสนามกอล์ฟที่สวยงาม การมาที่เซาแธมป์ตันจึงไม่เพียงแค่การเริ่มต้นการเดินทางด้วยเรือสำราญ แต่ยังเป็นโอกาสในการดื่มด่ำกับความงดงามทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอังกฤษอย่างไม่รู้จบ


ท่าเรือ Newhaven ในเอดินบะระ สกอตแลนด์ ตั้งอยู่ระหว่าง Leith และ Granton ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 2 ไมล์ ท่าเรือแห่งนี้ถูกพัฒนาเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหล ที่นำเสนอประสบการณ์การเดินทางสุดหรูท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามและวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ของเมือง Newhaven เคยเป็นหมู่บ้านและท่าเรือน้อยที่ตั้งอยู่ริม Firth of Forth ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจความงามของเมืองเอดินบะระแสนมีชีวิตชีวา เมื่อเดินทางมาที่นี่ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับทัศนียภาพที่น่าประทับใจของท่าเรือและเรือดอกไม้สวยที่ลอยอยู่ในทะเล รวมทั้งมีกิจกรรมต่างๆ ให้เลือกมากมาย เช่น การล่องเรือชมวิวและการปั่นจักรยานตามแนวชายฝั่ง หากคุณหลงใหลในประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม เพียงไม่นานหลังจากนั้นคุณจะถูกพาไปยังเอดินบะระที่อัดแน่นไปด้วยสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น ปราสาทเอดินบะระและ Royal Mile เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับพลังของประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาของสกอตแลนด์ Newhaven ไม่ได้เป็นเพียงท่าเรือที่น่าประทับใจ แต่ยังเป็นประตูสู่การสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และการหลงใหลในบรรยากาศอันอบอุ่นของเมืองเอดินบะระ อย่าพลาดโอกาสนี้ที่จะสัมผัสประสบการณ์ที่แสนพิเศษและสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืมในดินแดนแห่งความฝันนี้

อเบอร์ดีน เป็นเมืองท่าที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และมีความสำคัญในสกอตแลนด์ โดยมีประชากรประมาณ 220,000 คน ถือเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ เมืองนี้ได้ชื่อว่า "เมืองแกรนิต" หรือ "เมืองเทา" เนื่องจากอาคารหลากหลายหลังสร้างจากแกรนิตสีเทาที่ขุดขึ้นในท้องถิ่น ตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ถึงกลางศตวรรษที่ 20 แกรนิตอเบอร์ดีนยังเคยใช้ในการสร้างอาคารสำคัญๆ อย่างเช่น อาคารรัฐสภาในลอนดอนและสะพานวอเตอร์ลู นอกจากนี้ อเบอร์ดีนยังได้ชื่อว่าเป็น "เมืองหลวงน้ำมันแห่งยุโรป" เนื่องจากมีการค้นพบน้ำมันในทะเลเหนือในช่วงทศวรรษที่ 1970 ทำให้ท่าเรือของเมืองนี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจอย่างมาก และสนามบินเฮลิคอปเตอร์ที่เชื่อมต่อไปยังแหล่งน้ำมันในทะเลเหนือ เป็นหนึ่งในสนามบินเฮลิคอปเตอร์ที่คึกคักที่สุดในโลก การเดินทางมายังอเบอร์ดีนจะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์วรรณกรรมที่ยิ่งใหญ่ และวัฒนธรรมที่น่าหลงใหล อีกทั้งยังมีทิวทัศน์ที่งดงามและทะเลที่สวยงาม ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางที่หรูหราและน่าจดจำสำหรับนักเดินทางทุกคน

ยินดีต้อนรับสู่เมืองเคิร์ควอลล์ ซึ่งเป็นเมืองหลักของหมู่เกาะออร์คนีย์ที่สกอตแลนด์ สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวประวัติศาสตร์ในทุกซอกมุม ด้วยถนนเล็ก ๆ ที่คดเคี้ยวและบรรยากาศที่คึกคัก ความประทับใจแรกเมื่อเข้าเมืองคือโบสถ์คันทาร์เบอรี ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นสัญลักษณ์ของพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์มากมายที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของออร์คนีย์ การเดินเล่นในย่านเก่าแก่ของเคิร์ควอลล์จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงามแห่งทัศนียภาพที่ทอดยาวไปยังท่าเรือและท้องทะเลที่สดใส เรือสำราญที่แวะมาที่นี่จะมอบโอกาสให้คุณได้สำรวจร้านค้าและคาเฟ่ท้องถิ่น พร้อมด้วยสิ่งของที่ระลึกที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ นอกจากเคิร์ควอลล์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ชายหาดที่สวยงามและแหล่งโบราณคดีที่มีชื่อเสียง ผู้เดินทางสามารถสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำ ในขณะที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์และการต้อนรับที่อบอุ่นจากชาวออร์คนีย์ สัมผัสความมหัศจรรย์นี้ในครั้งต่อไปเมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่เคิร์ควอลล์และคอยต้อนรับความฝันแห่งการเดินทาง!

เมื่อเรือสำราญของคุณจอดเทียบท่า ณ เมืองสตอร์โนเวย์ เกาะลูอิส คุณจะได้พบกับมิติใหม่ของการเดินทางซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติและวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของสก็อตแลนด์ เกาะลูอิสและแฮริส เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะฮีบรีดีนอก ทำให้เมืองสตอร์โนเวย์เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ในเมืองนี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการชิมอาหารท้องถิ่นที่ร้านอาหารคุณภาพสูง รวมทั้งเยี่ยมชมศูนย์ศิลปะ An Lanntair ที่มีนิทรรศการทั้งศิลปะร่วมสมัยและดั้งเดิม นอกจากนี้ยังมีวิหารเซนต์คลีเมนต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีโครงสร้างสวยงามที่สุดในเขตนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจประวัติศาสตร์ ที่นี่มีแหล่งโบราณคดีที่น่าทึ่ง เช่น กลุ่มหินคาลานิสที่สร้างขึ้นในยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมถึงหอคอย Dun Carloway ที่มีอายุประมาณ 2,000 ปี สัมผัสกับความงามและวัฒนธรรมของสตอร์โนเวย์ในขณะที่สำรวจธรรมชาติสุดอลังการและประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยสีสันของเกาะนี้ อย่าลืมแวะเยี่ยมชมร้านทวีตฮาร์ริสที่เผยแพร่สินค้าทอมือสุดพิเศษและของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของคุณในเกาะลูอิสแห่งนี้
Killybegs เมืองชายฝั่งที่เงียบสงบในแคว้น Donegal ของไอร์แลนด์ เป็นเมืองตกปลาอันดับหนึ่งของประเทศ ที่นี่เต็มไปด้วยบรรยากาศสดชื่นและอากาศทะเลที่เย็นสบาย ซึ่งดึงดูดให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับเสน่ห์ของการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เรือประมงที่เรียงรายอยู่ริมท่าเรือพร้อมล่องไปในรุ่งเช้า เป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจในช่วงต้นวัน Killybegs ยังเป็นประตูสู่ทัศนียภาพชายฝั่งที่งดงาม ไม่ว่าจะเป็นการชมประภาคารขาวสะอาดที่คอยเตือนภัยแก่เรือในทะเล หรือการเดินเล่นไปตามชายฝั่งอันตื่นตาตื่นใจ ขึ้นไปชมความงามของ Slieve League ที่ตั้งตระหง่าน ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในยุโรปตะวันตก ตรงนี้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความตื่นเต้นเมื่อได้มองเหล่าผาสูงชันที่ดิ่งลงสู่ทะเล ใน Killybegs คุณจะได้พบกับประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ตั้งแต่บรรยากาศการตกปลาจริง ไปจนถึงการสำรวจธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ หากคุณกำลังมองหาจุดหมายที่น่าพิสูจน์ และสัมผัสการเดินทางที่ไม่ธรรมดา Killybegs คือคำตอบสำหรับคุณในการผจญภัยครั้งหน้าในไอร์แลนด์

เบลฟาสต์ เมืองหลวงของไอร์แลนด์เหนือ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรือง ตั้งอยู่บนริมฝั่งทะเลไอริช โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า Béal Feirste ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการผลิตผ้าไหมและการสร้างเรือ ที่นี่เคยเป็นบ้านของชัยชนะในการสร้างไททานิค เรือสำราญที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการพัฒนาที่ก้าวกระโดดในศตวรรษที่ 18 เบลฟาสต์กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญ มีประชากรเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงเวลาหนึ่ง เมืองนี้ต้องเผชิญกับความขัดแย้งทางด้านศาสนา จนกระทั่งสงครามที่เรียกว่า “Troubles” สิ้นสุดลงในปี 1994 หลังจากนั้น เมืองได้เริ่มการฟื้นฟู ซึ่งรวมไปถึงการลงทุนในโรงแรมใหม่ ๆ และการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลมายังเมือง ปัจจุบัน เบลฟาสต์มีพื้นที่ใจกลางเมืองที่เดินง่าย ประกอบด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น หอศิลป์พิพิธภัณฑ์ โบสถ์ และโรงละคร การสำรวจเมืองนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าหลงใหลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่รักการเดินทางไปยังดินแดนที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์อันล้ำค่าดังกล่าว

ดันลาเกียร์ (Dun Laoghaire) เมืองท่าอันงดงามของไอร์แลนด์ ตั้งอยู่ห่างจากดับลินเมืองหลวงเพียงไม่กี่กิโลเมตร เป็นจุดเชื่อมต่อทะเลที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ดันลาเกียร์ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่ให้คุณสัมผัสบรรยากาศอันสดชื่นของทะเลแอตแลนติก ขณะที่คุณเดินเล่นริมท่าเรือ คุณจะได้พบกับวิวทิวทัศน์ที่งดงาม พร้อมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา มีร้านอาหารและคาเฟ่ที่พร้อมบริการอาหารอร่อยและเครื่องดื่มท่ามกลางลมทะเลที่เย็นสบาย นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอย่างอนุสรณ์สถาน “Eleanor’s” ที่เป็นสัญลักษณ์ในประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และหอคอยอันมีเอกลักษณ์ของดันลาเกียร์ที่เฝ้ามองดูทะเลมาช้านาน การเดินทางถึงดันลาเกียร์สะดวกสบายด้วยบริการรถไฟจากดับลิน รวมทั้งการสนับสนุนจากบริการขนส่งสาธารณะที่มีความเป็นระเบียบและครบครัน หากคุณมองหาประสบการณ์การเดินทางหรูหรา สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและวัฒนธรรมอันหลากหลาย ดันลาเกียร์คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาดในการสำรวจไอร์แลนด์ที่มีเสน่ห์นี้

ท่าเรือโคฟ (Cobh) ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคคอร์ก (Cork) ของไอร์แลนด์ เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวอันเข้มข้นของประวัติศาสตร์ ท่าเรือแห่งนี้มีบรรยากาศที่งดงามและวิวทิวทัศน์ที่เป็นเอกลักษณ์ โคฟยังเป็นจุดที่เรือสำราญหยุดแวะให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของความเป็นไอร์แลนด์อย่างแท้จริง หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดคือเกาะโฟตา (Fota Island) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง ที่นี่มีสวนพฤกษศาสตร์ที่กว้างใหญ่และสวนสัตว์ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด สำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ คฤหาสน์ฟอโต (Fota House) คือสถานที่ที่คุณสามารถสำรวจการใช้ชีวิตของชนชั้นสูงในอดีต นอกจากนี้ โคฟยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในฐานะท่าเรือที่ผู้คนต่างเดินทางผ่านมาสู่โลกใหม่ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา การเดินเล่นในย่านเก่าแก่และชมอาคารสถาปัตยกรรมที่มีสีสันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาในนิยาย ท่าเรือโคฟจึงเป็นที่ที่เหมาะสมสำหรับนักเดินทางผู้แสวงหาความงามตระการตาและประสบการณ์ที่น่าจดจำ เริ่มต้นการเดินทางที่นี่เพื่อค้นพบทุกเรื่องราวและมนต์เสน่ห์ของไอร์แลนด์ที่รอคุณอยู่!
ดาร์ทมัธ (Dartmouth) เมืองท่าแห่งประวัติศาสตร์ในอังกฤษ เปิดประตูสู่การเดินทางในยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงดงาม วิวทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำเดวอน และบรรยากาศสงบเงียบที่น่าหลงใหล ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด เมื่อเรือล่องแม่น้ำแวะจอดที่ท่าเรือนี้ ดาร์ทมัธมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โดยมีเอกลักษณ์ในการเป็นสถานที่สำคัญในยุคกลางและศูนย์กลางการค้าขายและการเดินเรือสมัยเก่า นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความเป็นไปอย่างมีชีวิตชีวาของตลาดท้องถิ่น พร้อมทั้งสามารถเยี่ยมชมอาคารจากศตวรรษที่ 16 ที่ยังคงรักษาไว้ด้วยความรัก นอกจากนี้ ดาร์ทมัธยังตั้งอยู่ใกล้กับท้องทะเลสวยงามของอ่าวเดวอน นักเดินทางสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมหลากหลายทั้งการล่องเรือ ตกปลา หรือเดินเล่นตามชายหาดที่งดงาม นอกจากนี้ยังไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมปราสาทดาร์ทมัธที่มีความอลังการ ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองนี้ เมื่อคุณก้าวลงจากเรือสำราญที่ท่าเรือนี้ คุณจะสัมผัสถึงมนต์เสน่ห์ของอังกฤษที่ลงตัวกับธรรมชาติและประวัติศาสตร์อย่างลงตัว เตรียมตัวให้พร้อมในการสร้างความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในดาร์ทมัธ เมืองที่รอคอยให้นักเดินทางมาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ อย่างเต็มที่

ท่าเรือเซาแธมป์ตัน นับเป็นท่าเรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ปากอ่าวเซาแธมป์ตัน ระหว่างแม่น้ำเทสต์และอิตเชน เมืองแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่สำคัญมาตั้งแต่สมัยกลาง โดยมีการส่งออกขนสัตว์และหนังสัตว์จากพื้นที่รอบ ๆ และนำเข้าผลิตภัณฑ์ไวน์จากบอร์โดซ์ แม้เซาแธมป์ตันจะต้องเผชิญกับการทำลายล้างอย่างหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เมืองนี้ก็ได้ฟื้นฟูและสร้างสรรค์ใหม่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว ด้วยอาคารยุคกลางที่ยังคงเหลืออยู่ เช่น บาร์เกต (Bargate) ที่ถือเป็นหนึ่งในประตูเมืองที่สวยงามที่สุดในอังกฤษ นอกจากท่าเรืออันทันสมัยแล้ว เซาแธมป์ตันยังมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับนักเดินทาง ที่สามารถสำรวจเมืองแห่งประวัติศาสตร์และเต็มไปด้วยศิลปะ เช่น พิพิธภัณฑ์และหอศิลป์ที่นำเสนอผลงานศิลปะระดับโลก และยังเป็นจุดเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับการออกไปสัมผัสเสน่ห์ของเมืองใกล้เคียง อย่างบอร์นมัธ และสนามกอล์ฟที่สวยงาม การมาที่เซาแธมป์ตันจึงไม่เพียงแค่การเริ่มต้นการเดินทางด้วยเรือสำราญ แต่ยังเป็นโอกาสในการดื่มด่ำกับความงดงามทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอังกฤษอย่างไม่รู้จบ

ท่าเรือเซ็บรูเก (Zeebrugge) ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเหนือของเบลเยียม เป็นท่าเรือที่มีความสำคัญและคึกคักที่สุดในยุโรปในยุคปัจจุบัน โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1895 ความสำคัญของท่าเรือนี้ชัดเจนเมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ซึ่งพยายามถูกทำลายหลายครั้งในช่วงสงครามโลกทั้งสองครั้ง แต่ยังคงยืนหยัดเป็นท่าเรือหลักในการประมงของเบลเยียม การเยี่ยมชมเซ็บรูเกจะเป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่ง เมื่อคุณมีโอกาสได้เดินทางไปยังเมืองบรูจ (Bruges) ที่อยู่ใกล้เคียง เมืองนี้ได้รับการออกแบบให้เปล่งประกายด้วยสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์อันล้ำค่า อีกทั้งยังสามารถเดินทางไปยังรีสอร์ทชายทะเลที่มีชายหาดทรายยาวได้อย่างสะดวกสบายโดยใช้รถรางที่วิ่งตลอดแนวชายฝั่งเบลเยียม แต่ควรทราบว่าในเบลเยียมไม่อนุญาตให้นำอาหารลงฝั่ง จึงไม่ควรพลาดในการสัมผัสกับรสชาติท้องถิ่นอันหลากหลายที่มีให้เลือกในเมืองและรอบท่าเรือ ด้วยท่าเรือเซ็บรูเกที่พร้อมจะเป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยใหม่ คุณจะได้รับแรงบันดาลใจให้สำรวจสมบัติทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งของเบลเยียมในทุกก้าวที่เดินทาง

ท่าเรืออัมสเตอร์ดัมตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่สวยงาม เป็นจุดหมายปลายทางที่แสดงถึงความรุ่งเรืองในยุคทองของศตวรรษที่ 17 อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอเสน่ห์ที่หลากหลายพร้อมด้วยพิพิธภัณฑ์ชื่อดังและศิลปะอันล้ำค่า เมืองแห่งคลองนี้มีระบบคลองที่ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน สร้างบรรยากาศอันเงียบสงบให้กับนักท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันก็มีชีวิตชีวาด้วยร้านค้าสมัยใหม่และแสงสีที่ส่องประกายเต็มถนน นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบอัญมณีที่ซ่อนอยู่ไม่ว่าจะเป็นตรอกเล็กๆ สวนลับที่เงียบสงบ หรือบ้านเรือนลอยน้ำที่สร้างสรรค์อย่างประณีต อัมสเตอร์ดัมมีสะพานกว่า 1,500 แห่ง และมีโบราณสถานถึง 7,000 แห่ง ซึ่งรวมถึงผลงานสำคัญจาก Rembrandt และ Van Gogh เมืองนี้ยังมีวัฒนธรรมที่เข้มข้น พร้อมกิจกรรมทางดนตรี และเทศกาลต่างๆ ตลอดทั้งปี ทำให้การเดินเล่นในเมืองนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าหลงใหล ตั้งแต่ซอกซอยเล็กๆ ไปจนถึงการสัมผัสบรรยากาศของพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ความมหัศจรรย์ของอัมสเตอร์ดัมคือการผสมผสานระหว่างอดีตและปัจจุบันที่แสนลงตัว ซึ่งรอให้คุณมาสัมผัสในเมืองแห่งคลองนี้


เมืองคีล (Kiel) ตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่มีใจรักในวัฒนธรรมทะเล ที่นี่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องคลองคีล (Kiel Canal) และเทศกาลคีลวีค (Kiel Week) ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยประวัติศาสตร์ทางทะเลที่สำคัญ คีลจึงเต็มไปด้วยเอกลักษณ์และเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร คุณสามารถสำรวจเมืองที่มีชีวิตชีวานี้ได้อย่างง่ายดาย โดยเริ่มต้นจากท่าเรือ ที่นี่มีวิวทะเลที่สวยงาม พร้อมกับโอกาสในการแวะพักหลากหลายร้านค้าและคาเฟ่ที่ตั้งอยู่ริมทะเล หากคุณเป็นแฟนของการช้อปปิ้ง ไม่ควรพลาดแหล่งช็อปปิ้งที่มีสินค้าแฟชั่นทันสมัยและของที่ระลึกอันน่าประทับใจ นอกจากนี้ เทศกาลคีลวีคซึ่งจัดขึ้นในช่วงฤดูร้อน เป็นหนึ่งในเทศกาลเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่มีการแข่งเรือ แต่ยังมีกิจกรรมดนตรีและการแสดงมากมายที่ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาในช่วงเวลานั้น เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และบรรยากาศที่น่าตื่นเต้น คีล คือจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการพบปะสังสรรค์และสำรวจวัฒนธรรมที่หลากหลาย ขอเชิญคุณมาสัมผัสและสร้างความทรงจำที่ไม่รู้ลืม ณ ที่แห่งนี้

เมืองวาร์เนมึนเดอ (Warnemünde) ซึ่งเป็นชานเมืองที่งดงามของโรสต็อกในประเทศเยอรมนี เป็นจุดหมายปลายทางที่ถูกใจนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ด้วยชายหาดทรายขาวกว่าหมื่นสองพันเมตร ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อน และเติมเต็มความสุขให้กับครอบครัวที่มองหาที่หลบหนีจากความวุ่นวาย วาร์เนมึนเดอไม่เพียงแต่มีโรงแรมและร้านอาหารที่ดีที่สุดในพื้นที่ แต่ยังเป็นท่าเรือสำราญที่สำคัญ สำหรับผู้ที่หลงใหลในฤดูกาลของการเดินทาง ทางเมืองจะเต็มไปด้วยชีวิตชีวาเมื่อลงเรือสำราญหลายลำที่จอดอยู่ในท่าพร้อมกัน การเฉลิมฉลองของเมืองจะเปล่งประกายออกมาให้เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่มีการเฉลิมฉลอง "dreifache Anlauf" ซึ่งมีเรือสามลำจอดพร้อมกัน โดยจะมีการจุดดอกไม้ไฟสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยความสงบและสวยงาม วาร์เนมึนเดอจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเติมเต็มจิตวิญญาณของผู้เดินทาง เสริมสร้างประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนในใจคุณ ด้วยภาพภูมิทัศน์ที่สวยงามและอิ่มเอมกับบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา นี่คือจุดหมายที่ต้องสัมผัสในทุกการเดินทาง.

ท่าเรือเชชซิน (Szczecin) ตั้งอยู่ในประเทศโปแลนด์ เป็นหนึ่งในท่าเรือที่สำคัญและมีเสน่ห์ที่สุดในยุโรป โดยเฉพาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักในการผจญภัยและการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ เชชซินเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่ได้รับอิทธิพลจากหลากหลายวัฒนธรรม ม่านหน้าที่สวยงามของเมืองนี้ถูกประดับด้วยอาคารแนวโกธิคที่งดงาม และโบสถ์โบราณซึ่งสร้างความรู้สึกเหมือนย้อนเวลาไปยังยุคอดีต เมื่อคุณลงเรือที่เชชซิน คุณจะสามารถสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของเมืองริมแม่น้ำ Oder ที่มีทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงาม ท่าเรือแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง อาทิเช่น ปราสาท Ducal Castle ซึ่งนับเป็นสัญลักษณ์ของเมืองและสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินเล่นริมแม่น้ำที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นในยามเย็น พรั่งพร้อมด้วยร้านกาแฟและบาร์ที่เชิญชวนให้คุณนั่งพักสะสมความประทับใจจากทริปนี้ หากคุณเป็นคนรักศิลปะ สถานที่จัดแสดงนิทรรศการต่าง ๆ ในเมืองจะทำให้คุณหลงรักวัฒนธรรมที่นี้มากยิ่งขึ้น เชชซินคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ สถานที่ที่อัดแน่นไปด้วยแรงบันดาลใจที่รอให้คุณมาเยือนในทุก ๆ เช้า!

ท่าเรือรอนเนอร์ (Rønne) ตั้งอยู่บนเกาะบอร์นโฮล์ม (Bornholm) ของประเทศเดนมาร์ก เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความงามทางธรรมชาติที่น่าหลงใหล เกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงในด้านทิวทัศน์ที่งดงาม หาดทรายขาวสะอาด และน้ำทะเลใส ที่สร้างบรรยากาศของการพักผ่อนอย่างแท้จริง เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือรอนเนอร์ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองที่มีเอกลักษณ์ ตั้งแต่บ้านไม้สีสันสวยงามไปจนถึงบรรยากาศของตลาดท้องถิ่นที่คุณสามารถชิมผลิตภัณฑ์อาหารทะเลสดๆ รวมถึงปลาที่จับได้ในท้องถิ่น เลือกซื้อตะกร้าอาหารแบรนด์ดัง หรือแม้กระทั่งของที่ระลึกที่ทำจากฝีมือชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจรอบเกาะ เช่น วัดเซนลุด (Sankt Nikolaj Kirke) ที่มีสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า และโรงงานทำช็อกโกแลตที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นในการผลิต อิสระในการสำรวจเกาะที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงาม ทำให้การเดินทางนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างแท้จริง ท่าเรือรอนเนอร์ไม่เพียงแต่ให้บริการเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมของเดนมาร์ก สัมผัสบรรยากาศที่แสนโรแมนติกและให้ความรู้สึกเหมือนเป็นชีวิตในฝันที่คุณควรมีในรายการเดินทางของคุณ

ท่าเรือคลายเปด้า (Klaipeda) ตั้งอยู่ในประเทศลิทัวเนีย เป็นท่าเรือหลักที่มีความสำคัญทั้งทางการค้าการขนส่งและ การท่องเที่ยว ด้วยทำเลที่ตั้งที่โดดเด่นติดทะเลบอลติก เมืองคลายเปด้ายังมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ทำให้เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เมื่อเยี่ยมชมที่นี่ ผู้เดินทางจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมยุโรปที่ผสมผสานวัฒนธรรมจากยุคต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณเมืองเก่าที่ประกอบไปด้วยอาคารสีสันสดใสและถนนที่พลุกพล่านไปด้วยคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ร้านค้าและร้านอาหารทันสมัยยังทำให้การเดินเล่นในย่านนี้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ นอกจากนี้ จุดหมายปลายทางที่ใกล้เคียงกันอย่างชายหาดนามาสทา (Nida) และอุทยานแห่งชาติคูริสค์ (Curonian Spit) นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามที่ไม่ควรพลาด โดยมีวิวทะเลที่น่าทึ่งและธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ นำเสนอวันที่แสนพิเศษสำหรับผู้มาพักผ่อน การเดินทางมาที่คลายเปด้า จึงเปรียบเสมือนการเปิดประสบการณ์ใหม่ใน ดินแดนแห่งวัฒนธรรม เทือกเขาและมหาสมุทรอันงดงามที่รอให้คุณค้นหา พร้อมให้คุณหลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์แห่งความเป็นยุโรปที่นี่
วิสบี (Visby) เมืองที่มีเสน่ห์บนเกาะก็อตแลนด์ (Gotland) ประเทศสวีเดน เป็นจุดหมายปลายทางอันน่าหลงใหลที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน และบรรยากาศที่เป็นกันเองในช่วงฤดูร้อน เกาะนี้มีความยาวถึง 125 กิโลเมตร และกว้าง 52 กิโลเมตร นับว่าเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงในฐานะสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด เมื่อคุณเดินทางมายังท่าเรือวิสบี คุณจะได้พบกับแนวชายทะเลที่สวยงาม ประกอบด้วยหาดทรายขาวละเอียดและกลุ่มหินรูปร่างแปลกตาที่เรียกว่า "ราวการ์" (raukar) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวปะการังที่เกิดขึ้นมาเมื่อกว่า 400 ล้านปีมาแล้ว นอกจากนี้ เกาะก็อตแลนด์ยังเป็นที่ตั้งของฟาร์มแกะ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมการเกษตรของสวีเดน ความหลากหลายทางธรรมชาติของที่นี่ยังไปไกลกว่าที่ตาผู้ชมเห็น โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิที่ 35 ชนิดของกล้วยไม้ป่าจะเบ่งบานอยู่ตามพื้นที่เขียวขจี ดึงดูดนักพฤกษศาสตร์จากทั่วทุกมุมโลก ที่วิสบี คุณยังจะได้สัมผัสกับเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมยุคกลางอันน่าตื่นตาตื่นใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมที่หลากหลาย กิจกรรมทั้งอาหารท้องถิ่นและเทศกาลที่มีชีวิตชีวา ยืนยันได้เลยว่า วิสบีในเกาะก็อตแลนด์จะเป็นจุดหมายการเดินทางที่คุณไม่ควรพลาด!

ริกา เมืองหลวงของลัตเวีย ที่นำเสนอความหรูหราในบรรยากาศของเมืองใหญ่ซึ่งไม่มีใครเทียบได้ในภูมิภาคนี้ สถานที่แห่งนี้นับเป็นศูนย์กลางการค้าและธุรกิจที่สำคัญ โดยมีร้านอาหารและโรงแรมระดับสูงที่เป็นที่กล่าวขานในวงการท่องเที่ยวในยุโรปตะวันตก ผู้มาเยือนจะได้รับการต้อนรับด้วยความงดงามของเมืองเก่า (Old Town) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกยูเนสโก หนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุดของสถาปัตยกรรมอาร์ต นูโว เส้นทางเดินในย่านนี้ จะเต็มไปด้วยบ้านแบบเยอรมันที่มีเสน่ห์ แบ่งป่าทางข้างในของเมืองออกเป็นสองส่วน สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Esplanāde รอคอยให้ผู้มาเยือนนั่งพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ในขณะที่ย่านสถาปัตยกรรมอาร์ต นูโว ที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโก ยังให้ความรู้สึกถึงความหรูหราในทุกซอกทุกมุม ไม่ว่าคุณจะถูกใจที่จะเดินชมบรรยากาศหรือจะเข้าไปสำรวจพิพิธภัณฑ์มากมายของเมือง ริการอุดมไปด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะ ที่คุณสามารถสัมผัสได้ตั้งแต่เส้นขอบฟ้าไปจนถึงคาเฟ่เล็กๆ ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เตรียมกระเป๋าของคุณแล้วไปสัมผัสกับความงามของริกากันเถอะ!

ต้อนรับสู่เมืองคอตกา (Kotka) หนึ่งในท่าเรือที่สวยงามและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของฟินแลนด์ พื้นที่แห่งนี้โดดเด่นด้วยทิวทัศน์ที่งดงามและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ตั้งอยู่ริมทะเลบอลติก คอตการับรองความประทับใจด้วยท่าเรือและกิจกรรมทางน้ำที่ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หนึ่งในไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือ สวนสาธารณะมาร์เกต (Marina Park) ที่เต็มไปด้วยสีสันจากดอกไม้และวิวทะเลที่น่าหลงใหล สถานที่ที่เหมาะสำหรับการใช้เวลาพักผ่อนพร้อมสัมผัสลมทะเล รวมถึงการเดินเล่นตามริมชายฝั่ง พร้อมชมเรือประมงและเรือสำราญที่แล่นผ่าน คอตกายังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะและวัฒนธรรมที่จัดแสดงผลงานศิลปะทั้งจากท้องถิ่นและนานาชาติ ให้คุณได้เรียนรู้และชื่นชมความคิดสร้างสรรค์ของศิลปินในชุมชน ด้วยความงามทางธรรมชาติและกิจกรรมที่หลากหลาย คอตกาจึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางผู้รักการผจญภัยในสไตล์หรูหรา เชิญคุณมาค้นพบเสน่ห์ของฟินแลนด์ที่นี่และสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในท่ามกลางธรรมชาติอันงดงามของคอตกา

ท่าเรือตัลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสัมผัสเสน่ห์ของประเทศแถบบอลติกที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันหลากหลาย ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาของการถูกปกครองโดยชนชาติต่าง ๆ เช่น เดนมาร์ก เยอรมัน สวีเดน และรัสเซีย ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 จนกระทั่งได้ประกาศเอกราชในปี 1918 แม้จะต้องเผชิญกับการยึดครองจากโซเวียตและนาซีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่เอสโตเนียได้ฟื้นฟูอิสรภาพและเข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 2004 ในปัจจุบัน ตัลลินน์เป็นเมืองหลวงที่เจริญรุ่งเรืองและเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะในปี 2011 ที่เมืองนี้ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองวัฒนธรรมแห่งยุโรป ชวนให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสถาปัตยกรรมเมืองเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี รวมถึงบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาของคาเฟ่และแกลเลอรีศิลปะต่าง ๆ เมื่อคุณมายังตัลลินน์ นอกจากการสำรวจตัวเมืองอันงดงามแล้ว ยังสามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง เช่น ปราสาทโตนลาห์ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม รองรับการเดินทางโดยเรือสำราญที่มาเยือนให้ความสุขและประสบการณ์ที่น่าจดจำในดินแดนแห่งประวัติศาสตร์นี้

สตอกโฮล์ม เมืองหลวงของสวีเดน เป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยความน่าหลงใหลและเสน่ห์พิเศษ ที่นี่คือเมืองแห่งนวัตกรรมและวัฒนธรรม ที่มีชีวิตชีวาในรูปแบบที่เป็นสากล ตั้งแต่กลางทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา สตอกโฮล์มเริ่มเปิดตีกรอบสู่โลกภายนอก ผ่านประสบการณ์การเจริญเติบโตทางเทคโนโลยีและการพัฒนาเศรษฐกิจที่น่าทึ่ง เมืองที่ตั้งอยู่บน 14 เกาะ ได้รับการเชื่อมโยงด้วยสะพานต่างๆ ยิ่งทำให้การเดินทางรอบเมืองเป็นเรื่องง่าย สตอกโฮล์มยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่อดีตที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้า จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือเมืองเก่าที่คงความสวยงามของสถาปัตยกรรมยุคกลาง รวมทั้งพระราชวังและโบสถ์โบราณ ชีวิตในสตอกโฮล์มเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ประชากรวัยหนุ่มสาวมีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ซึ่งทำให้เมืองนี้เป็นแหล่งรวมของแฟชั่น อาหารระดับโลก และการออกแบบ ที่นี่ยังมีร้านอาหารหรูหราและบรรยากาศที่น่าดื่มด่ำกับคาเฟ่ริมทาง มาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สตอกโฮล์ม และสัมผัสบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจในทริปเดินทางของคุณ!












เจ้าของสวีทใหม่ที่มีการออกแบบอย่างหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์จำนวนหกห้อง เป็นห้องที่มักถูกจองอย่างรวดเร็ว สวีทเหล่านี้กว้างใหญ่ถึงประมาณ 1,000 ตารางฟุต และเป็นโอเอซิสแห่งความเงียบสงบและการผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยมีห้องน้ำที่ได้รับการออกแบบใหม่สุดหรูซึ่งมีฝักบัวขนาดใหญ่ สวีทยังมีระเบียงไม้สักส่วนตัว และโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องเพื่อความสะดวกสบายที่สุด นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บริการซักรีดฟรีสูงสุดสามกระเป๋าต่อห้อง บริการผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชั่วโมง และการเข้าถึงสปา Aquamar Terrace อย่างไม่จำกัด ทั้งนี้ยังมีการต้อนรับด้วยแชมเปญฟรีและชุดของขวัญจากบุลการี รวมทั้งสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารและบริการอื่นๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในทุกมิติของความหรูหราในเจ้าของสวีทแห่งนี้







ห้องพักชื่อว่า วิสตา สวีท มอบวิวที่งดงามไปยังส่วนหน้าเรือ คุณจะพบกับสีสันที่สงบซึ่งสื่อถึงทะเลที่เงียบสงบและท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ห้องพักแต่ละห้องมีขนาดกว้างถึง 786 ตารางฟุต พร้อมทุกความสะดวกสบายที่คาดหวัง รวมถึงห้องน้ำที่สองสำหรับแขก และห้องน้ำหลักที่ตกแต่งด้วยหินออนิกซ์ หินอ่อนคารารา และหินแกรนิต พร้อมฝักบัวอาบน้ำสุดหรู คุณสามารถนั่งพักผ่อนบนระเบียงไม้ทีคหรือชมภาพยนตร์ผ่านระบบบันเทิงที่ปรับแต่งตามความต้องการของคุณ นอกจากนี้ ห้อง วิสตา สวีท ยังมีบริการพิเศษเพิ่มเติม เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก การลงทะเบียนขึ้นเรือเวลา 11.00 น. ด้วยความสำคัญ รวมถึงบริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง บาร์ในห้องพักที่มีเครื่องดื่มคุณภาพสูงและไวน์ 6 ขวดฟรี น้ำผลไม้สดที่เติมวันต่อวัน และการสำรองที่นั่งในร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด ไอแพดให้บริการตามคำขอ และชุดของขวัญจากแบรนด์บูร์การิ สิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย รวมถึงผ้าห่มแคชเมียร์และตัวเลือกของหมอนจากคอลเลกชันสุดหรู โปรดทราบว่าสูบบุหรี่ในห้องพัก ห้องสเตเตอร์รูมและบนระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด




เพนท์เฮาส์สวีทของเราเป็นห้องขนาด 322 ตารางฟุตที่ประดับประดาด้วยผ้าหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ในโทนสีสงบสุขของทะเลและท้องฟ้า ห้องนี้กว้างขวางพอสำหรับการรับประทานอาหารในห้องส่วนตัว พื้นที่นั่งเล่นมีมินิบาร์เย็นๆ และโต๊ะเครื่องแป้ง ในขณะที่ห้องน้ำได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีการตกแต่งด้วยหินหรูหราและฝักบัวอาบน้ำที่ทันสมัย เพนท์เฮาส์สวีทยังมอบสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้อง, การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. โดยมีการจัดส่งกระเป๋าอย่างเร่งด่วน, การบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, แชมเปญต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญ, การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด, iPad® สำหรับความบันเทิงขณะอยู่บนเรือตามคำขอ, ถุงผ้าสะพายแบรนด์ Oceania Cruises และกระดาษจดหมายส่วนตัว, ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง, บริการขัดรองเท้าฟรี และบริการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ โปรดทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องสวีท, ห้องพัก และบนระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด



ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียง (Category A Concierge Level Veranda Staterooms) ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ต้องการมากที่สุดบนเรือ นำเสนอการผสมผสานระหว่างคุณค่าและความหรูหราอย่างลงตัว ห้องพักขนาด 216 ตารางฟุตนี้ได้รับการออกแบบใหม่อย่างทันสมัย มอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นที่ต้องการและสิทธิพิเศษเฉพาะ เช่น บริการซักรีดฟรี ทำให้การเข้าพักของคุณไร้กังวลยิ่งขึ้น การตกแต่งใหม่ที่สดใส เตียง Tranquility ที่นุ่มสบาย และระเบียงที่ได้รับแรงบันดาลใจใหม่พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์ ครบครันประสบการณ์คอนเซียร์จอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับผู้เข้าพักในห้องคอนเซียร์จ เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก เมนูบริการอาหารกลางวันและอาหารเย็นที่ขยายออกจากห้องอาหารหลัก การขึ้นเรือในช่วงกลางวันอย่างมีลำดับความสำคัญ ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้าอย่างมีลำดับความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด iPad® ที่สามารถขอใช้ได้เมื่ออยู่บนเรือ กระเป๋าผ้าลาย Oceania Cruises ฟรี ผ้าห่มแคชเมียร์ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และบริการรีดเสื้อผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ โดยห้ามสูบบุหรี่ในห้องและบริเวณระเบียงโดยเด็ดขาด ไม่ว่าคุณจะมองหาความสะดวกสบายหรือหรูหรา ห้องพักนี้ตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างครบถ้วน




ระเบียง客艙 ขนาด 216 ตารางฟุต ถูกออกแบบอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับแต่งเฉพาะตัว, การตกแต่งด้วยหินที่แปลกใหม่, เตียงหัวนุ่ม และโคมไฟที่มีสไตล์ ทำให้คุณได้สัมผัสความหรูหราแบบไม่ซ้ำใคร นอกเหนือจากการชมวิวที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแล้ว ห้องพักยังมีระเบียงไม้สักส่วนตัว ซึ่งคือความสะดวกสบายที่ผู้เข้าพักประทับใจมากที่สุด สะดวกสบายในแต่ละห้องพักประกอบไปด้วยโต๊ะแต่งตัว, มินิบาร์ที่มีความเย็น, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษในระเบียง客艙 ได้แก่ เตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises ปลอกผ้าปูที่นอนด้าย 1,000 เส้น, เครื่องดื่มอ่อนที่เติมฟรีทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบซ้ำ, อุปกรณ์บูลการิ, บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง, บริการทำความสะอาดวันละสองครั้ง, ช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงคืน, ระบบทีวีแบบอินเตอร์แอคทีฟพร้อมภาพยนตร์ตามสั่ง, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่, โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเอกสาร, ผ้าขนหนูฝ้ายเนื้อนุ่ม, เสื้อคลุมและรองเท้าใส่ในบ้านที่หนา, ไดร์เป่าผมแบบพกพา, ตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย ห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด


ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลขนาด 165 ตารางฟุตได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้รู้สึกกว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เย็นขนาดเล็ก และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารที่ได้รับการตกแต่งด้วยเฉดสีที่นุ่มนวลและวัสดุที่มีสไตล์ การตกแต่งที่ทันสมัยช่วยให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลายและหรูหราทุกครั้งที่เข้าพัก ห้องพักนี้มีบริการฟรีต่างๆ อาทิ เครื่องดื่มอัดลมที่เติมให้ทุกวัน น้ำ Vero ที่ให้บริการทั้งแบบไม่มีอากาศและแบบมีอากาศ ตลอดจนบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่คัดสรรมาสำหรับคุณ อาทิเช่น เตียง Tranquility ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Oceania Cruises ชุดอุปกรณ์ Bulgari การทำความสะอาดห้องสองครั้งต่อวัน และระบบโทรทัศน์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง นอกจากนี้ยังมีบริการอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายและการเข้าถึงเครือข่ายมือถือ โต๊ะเขียนหนังสือและอุปกรณ์การเขียน ผ้าขนหนู ฝาโรบิน และรองเท้าอาบน้ำที่นุ่มสบาย ไดร์เป่าผมแบบมือถือ ตู้นิรภัย และช็อกโกแลตเบลเยี่ยมในบริการนอนเสริม โดยเฉพาะสำหรับห้องพักที่มีความต้องการพิเศษ จะมีการจัดเตรียมให้มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ช่วยยก ชุดประตูห้องน้ำขนาดใหญ่ ราวจับในห้องน้ำ และห้องน้ำที่ออกแบบให้เข้าถึงได้สะดวกแบบไม่มีรอบสูง รวมถึงอ่างอาบน้ำ วางแผนการพักผ่อนหรูหราของคุณได้แล้ววันนี้ในห้องพักเดลักซ์วิวทะเลที่รอให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจนี้!


ห้องพัก客艙วิวทะเล (D) ขนาด 165 ตารางฟุตที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเสน่ห์ นำเสนอการตกแต่งที่ทันสมัยและสะดวกสบาย ซึ่งคิดค้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่และความสะดวกสบาย ห้องพักนี้มีมุมพักผ่อนที่สะดวกสบาย พร้อมโซฟาที่ให้คุณยืดตัวออกได้, โต๊ะทำงาน, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และมินิบาร์ที่มีตู้เย็น ภายในห้องยังมีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกฟรี เช่น น้ำอัดลมเติมให้รายวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ที่เป็นทั้งน้ำเปล่าและน้ำอัดลมฟรี และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้คุณยังจะได้สัมผัสกับเตียง Tranquility ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises, สินค้าอาบน้ำ Bulgari, บริการทำความสะอาดห้องพักวันละสองครั้ง, ระบบโทรทัศน์อินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง และการบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย พร้อมการบริการของเจ้าหน้าที่ ที่จัดเตรียมผ้าขนหนู, เสื้อคลุม, และรองเท้าอาบน้ำที่ทำจากผ้าฝ้ายคุณภาพสูง พร้อมบริการเปลี่ยนให้ตื่นขึ้นมาพร้อมช็อกโกแลตเบลเจียน นอกจากนี้ยังมีเครื่องเป่าผม, ตู้นิรภัย, และการบริการที่ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในห้องพักหรือระเบียงทางเดินอีกด้วย


ห้องพักมองเห็นทะเล (E) ตั้งอยู่ใจกลางชั้น 6 ขนาด 143 ตารางฟุต โดยมีการออกแบบที่สดใหม่พร้อมหน้าต่างพาโนรามาที่มองเห็นวิวสวยงาม แม้จะมีมุมมองที่ถูกบังบางส่วน ห้องพักนี้มีโต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์แบบเย็น โต๊ะสำหรับทานอาหารเช้า และตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกได้แก่ เตียง Ultra Tranquility ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Oceania Cruises, ผลิตภัณฑ์ดูแลจาก Bulgari, ช็อกโกแลตเบลเยี่ยมสุดพิเศษพร้อมบริการจัดเตียงประจำทุกคืน, บริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมงฟรี, โทรทัศน์จอแบนพร้อมเครื่องเล่น DVD และสื่อมากมาย รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ ห้องพักยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ, ผ้าขนหนู ผ้านวม และรองเท้าอาบน้ำที่นุ่มสบาย, ไดร์เป่าผมแบบพกพา, และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย โดยห้องพักทั้งหมดและห้องชุดจะปลอดบุหรี่。


重新設計的ห้องพักภายใน以現代風格為特色,擁有160平方英尺的奢華空間。這個愉悅的私人度假空間包括舒適的座位區、化妝台、冰箱迷你酒吧及充足的儲物空間,而巧妙的空間利用更襯托出全新的裝飾風格。 這個房型的住客可享受多項免費設施,包括每日補充的飲料、靜水與氣泡水以及24小時房務菜單。房內配備了專屬的Tranquility床、Bulgari洗浴用品、每日兩次的客房清潔服務,以及互動電視系統,提供隨需應變的電影和天氣資訊。無線網絡及行動電話服務隨時可用,還配有書寫桌和文具、柔軟的棉質毛巾、浴袍及拖鞋,並提供手持吹風機、安全保險箱及晚間服務的比利時巧克力。您在此的放鬆經歷將無與倫比,然而請注意,所有套房和客艙均禁止吸煙。

ห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยว ขนาด 143 ตารางฟุต เป็นพื้นที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางคนเดียว ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายบนชั้น 6 ห้องพักทุกห้องมีเตียง Tranquility Bed ที่หลับสบายอย่างยิ่ง มินิบาร์ที่มีความเย็น และโต๊ะเขียนหนังสือ พร้อมด้วยพื้นที่เก็บของที่กว้างขวาง ทำให้คุณรู้สึกสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก.