
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oceania Insignia
โอเชียเนีย ครูซส์


ท่าเรือเลออาฟร์ (Le Havre) ตั้งอยู่ในนอร์มังดี ประเทศฝรั่งเศส เป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ และมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่ก่อตั้งโดยกษัตริย์ฟรานซิสที่ 1 ในปี 1517 ที่นี้เคยเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อน กลไกการพัฒนาของเมืองเป็นไปตามแผนที่สร้างสรรค์โดยสถาปนิกชื่อดังชาวเบลเยียม ออกุสต์ แปร์เร ซึ่งได้ออกแบบให้เมืองมีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ โดยเฉพาะหลังจากที่เมืองต้องเผชิญกับการทำลายล้างในสงครามโลกครั้งที่สอง การฟื้นฟูเมืองเลออาฟร์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 2005 ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาความงดงามและประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่นในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ อาทิ ท่าเรือเก่าและโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมที่ลงตัว ร่วมเดินทางไปกับทัวร์หรูที่ทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันเหลือเชื่อในเมืองเลออาฟร์แห่งนี้ ที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณน่าจดจำยิ่งขึ้น


ท่าเรือ La Rochelle ในประเทศฝรั่งเศส เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามและยิ่งใหญ่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง เรือสำราญที่แวะจอดที่นี่จะให้โอกาสคุณได้สำรวจเมืองเก่าอันมีเสน่ห์ โดยเฉพาะมาร์ชี่จอห์นซิตี้ (Vieux Port) และหอคอยไตร (Tour de la Chaîne) ที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง เมื่อคุณเดินชมเมือง จะได้พบกับอาคารสไตล์เรอเนสซองส์และการตกแต่งที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการใช้เวลานั่งจิบไวน์ในร้านกาแฟกลางแจ้ง พร้อมกับการดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเล แน่นอนว่า La Rochelle ยังเป็นแหล่งรวมของอาหารทะเลสดใหม่ เต็มไปด้วยประสบการณ์การชิมที่คุณไม่ควรพลาด นอกจากนี้ ท่าเรือลา โรเชล ยังตั้งอยู่ใกล้กับเกาะ Ile de Ré ซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยสะพานที่งดงาม ทำให้คุณสามารถสัมผัสกับบรรยากาศของเกาะที่สงบสุข และซึมซับความงามของธรรมชาติโดยรอบได้อย่างเต็มที่ สถานที่แห่งนี้ถือเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างความทรงจำอันมีค่าในการเดินทางไปยังแดนฝรั่งเศสที่คุณจะไม่มีวันลืม

ท่าเรือโปยยัค (Pauillac) ตั้งอยู่ในภูมิภาคบอร์โดซ์ (Bordeaux) ของฝรั่งเศส เป็นหมู่บ้านที่มีเสน่ห์และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม โปยยัคตั้งอยู่ริมแม่น้ำในอ่าวจิโรนเด (Gironde) ซึ่งรู้จักกันดีในด้านไวน์แดงคุณภาพสูง โดยเฉพาะไวน์จากชาตอว์ที่มีชื่อเสียง เช่น ลาฟิท รอธschild (Lafite Rothschild) และ มูตง รอธschild (Mouton Rothschild) เมื่อคุณเดินทางมายังโปยยัค คุณจะได้สัมผัสวิถีชีวิตที่มีเสน่ห์ของชาวเมือง พร้อมกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ที่เผยให้เห็นในอาคารโบราณและตลาดสดที่คึกคัก ถ้าคุณหลงรักไวน์ การเยี่ยมชมไร่ไวน์ที่มีชื่อเสียงจะทำให้คุณได้ลิ้มลองรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ในบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม โปยยัคเป็นจุดหมายที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความหรูหราและเอกลักษณ์ของบอร์โดซ์ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นริมแม่น้ำ ชมวิวอันงดงาม หรือสำรวจมรดกทางวัฒนธรรม ที่นี่คือสวรรค์ของผู้หลงใหลในไวน์และการเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันทรงคุณค่า หมายความว่าคุณจะไม่พลาดความงดงามและเสน่ห์เหนือกาลเวลาของมุมที่สวยงามนี้ในฝรั่งเศส
เซนต์ฌอง-เดอ-ลูซ (Saint-Jean-de-Luz) เป็นท่าเรือที่สวยงามในเขตบาสก์ของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นจุดหมายที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นชายหาด ท่าเรือดั้งเดิม หรือบรรยากาศของชุมชนที่เป็นมิตรแห่งนี้ เมื่อคุณเดินทางมายังเซนต์ฌอง-เดอ-ลูซ คุณจะได้สัมผัสกับภูมิทัศน์ที่งดงามและทางเดินเลียบชายหาดที่เต็มไปด้วยความสดชื่น จากการชมเรือประมงที่จับปลาแบบดั้งเดิม คุณยังสามารถเดินเล่นในตรอกซอกซอยที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่ โดยเฉพาะจานที่ทำจากกุ้งและปลาพื้นบ้าน อีกทั้งเซนต์ฌอง-เดอ-ลูซยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน หากคุณสนใจในวัฒนธรรม ท่านจะได้เยี่ยมชมโบสถ์เซนต์ฌอง-แบพติสต์ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามและสำคัญในอดีต การเดินทางมาที่ท่าเรือนี้จึงไม่เพียงแค่การมาหยุดพักบนชายหาด แต่คือการค้นพบความงามและวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งของฝรั่งเศสในทุกๆ มุมที่คุณไปเยือน และสร้างสรรค์ความฝันในทุกก้าวเดินของคุณในเมืองแห่งนี้

บิลบาว (Bilbao) เมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นบาสก์ ของประเทศสเปน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางศิลปะและสถาปัตยกรรมได้สร้างความโดดเด่นให้กับเมืองนี้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากการเปิดตัวพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ (Guggenheim Museum) ที่ออกแบบโดย Frank Gehry เมืองนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากมาย นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว สถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น สถานีรถไฟใต้ดินที่ออกแบบโดย Norman Foster และสวนสาธารณะ Abandoibarra ก็เป็นจุดเด่นที่ไม่ควรพลาดในการเยือนเมืองนี้ อย่าลืมเดินชมย่านเก่าของบิลบาวที่เรียกว่า "คาสโก วิเอโก" (Casco Viejo) ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารที่มีเสน่ห์ แถมยังมีตลาดกลางแจ้งที่ Plaza Nueva ซึ่งจัดขึ้นทุกเช้าวันอาทิตย์ ในการเดินเล่นริมแม่น้ำเนร์บิโอ (Nervión) คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันงดงาม ที่มีความรุ่งเรืองจากอดีตสู่ปัจจุบัน สำหรับผู้หลงใหลในอาหาร บิลบาวมีชื่อเสียงด้านความอร่อย โดยเฉพาะอาหารบาสก์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และหากมีโอกาส อย่าลืมขึ้นรถราง Euskotram เพื่อสัมผัสการเดินทางริมแม่น้ำใจกลางเมือง มาร่วมตะลุยและค้นพบความงดงามของบิลบาว ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต!

ท่าเรือกิฮอน (Gijón) ประเทศสเปน เป็นจุดหมายที่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความทันสมัย ตั้งอยู่ริมทะเลในภูมิภาคอAsturias กิฮอนเป็นเมืองที่มีเสน่ห์ด้วยหลักฐานทางโบราณคดีจากสมัยโรมัน เช่น สปา Campo Valdés ซึ่งมีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 1 ที่เป็นจุดเด่นใจกลางเมืองและเป็นตัวแทนของประวัติศาสตร์อันรุ่งเรืองของเมือง ในอดีต กิฮอนเกือบถูกทำลายในศตวรรษที่ 14 แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นท่าเรือและเมืองอุตสาหกรรมที่เจริญรุ่งเรือง พื้นที่เมืองเต็มไปด้วยร้านกาแฟ อาหารท้องถิ่น และ sidrerías ร้านที่ขึ้นชื่อในเรื่องของแอปเปิ้ลซีดรา (Cider) ที่คุณไม่ควรพลาด ยามที่คุณเดินทางมาถึง ท่านยังสามารถพบกับชายหาดที่งดงามซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ เพิ่มเติมด้วยกิจกรรมหลากหลายที่น่าสนใจ ทำให้กิฮอนไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือ แต่ยังเป็นจุดหมายที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา รอคอยให้คุณได้สัมผัสและค้นพบเสน่ห์ของเมืองนี้อย่างแท้จริง

ลาคอรุญ่า คือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคกาลิเซีย ประเทศสเปน และเป็นหนึ่งในท่าเรือที่คึกคักที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่ในมุมตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรไอบีเรีย โดยมีทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มและหมอกลงหนา แตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ ของสเปน ชื่อ "กาลิเซีย" มีรากศัพท์มาจากภาษาเซลติก ซึ่งเป็นที่อยู่ของเซลติคในช่วงศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ลาคอรุญ่า เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญตั้งแต่สมัยโรมัน และพัฒนาเป็นศูนย์กลางการค้าขายที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 15 เมื่อได้รับสิทธิในการค้ากับอเมริกาในปี 1720 ความงดงามของลาคอรุญ่าสะท้อนผ่านอาคารแบบกระจกซึ่งทำให้เมืองนี้ได้รับชื่อว่า "เมืองแห่งคริสตัล" และสถานที่สำคัญอย่างจัตุรัสมาเรียพิทา ซึ่งเป็นเกียรติแก่หญิงผู้กล้าที่เคยปกป้องเมืองในปี 1589 ปัจจุบัน เมืองประกอบด้วยสามเขตที่แตกต่างกัน ได้แก่ เขตกลางเมือง ธุรกิจ และ “เอนซานเช่” ที่มีคลังสินค้าและโรงงาน อย่าพลาดโอกาสในการสำรวจวัฒนธรรมท้องถิ่นและสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของเมืองนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจและแรงบันดาลใจที่ทำให้ผู้มาเยือนต้องกลับมาอีกครั้ง.

ท่าเรือที่สวยงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอย่าง "โอปอร์ตู" (Oporto) คือเมืองที่สองที่ใหญ่ที่สุดในโปรตุเกส รองจากลิสบอน เมืองนี้มักถูกเรียกสั้นๆ ว่า "ปอร์โต" ซึ่งเป็นชื่อที่ทุกคนนึกถึงเมื่อพูดถึงองุ่นส่งตรงสำหรับผลิตไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียงระดับโลก ท่าเรือโอปอร์ตูตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดรู และมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่อดีต เมื่อชาวโรมันสร้างป้อมปราการที่นี่ เพื่อควบคุมเส้นทางการค้า ด้วยการที่เมืองนี้คือจุดแวะสำคัญสำหรับเหล่าผู้จาริกแสวงบุญในอดีต ทำให้โอปอร์ตูร่ำรวยจากการค้าและการค้นพบทางทะเลในศตวรรษที่ 15 และ 16 การค้าขายไวน์พอร์ตกับอังกฤษในภายหลังยังทำให้เมืองนี้เกิดการเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่หยุดยั้ง จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ ด้วยสะพานที่สวยงามข้ามแม่น้ำโดรู เสน่ห์ของย่านริมน้ำที่มีชีวิตชีวา และโรงไวน์พอร์ตที่มีชื่อเสียง เมืองนี้ไม่ได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทาง แต่ยังเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการค้นหาความงามของโลกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกมุมเมือง

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา


มอทริล (Motril) เมืองใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งคอสต้าโทรปิคัล (Costa Tropical) ในภูมิภาคอันดาลูเซียของสเปน ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของย่านนี้ เมืองมอทริลตั้งอยู่ห่างจากมาลากาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง โดยอยู่ระหว่างทะเลและเทือกเขาเซียราเนบาดา (Sierra Nevada) อันยิ่งใหญ่ เมืองนี้ไม่เพียงแต่มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่หลากหลาย เช่น ท่าเรือที่คึกคักในด้านการค้า การทำประมง และการพักผ่อน แต่ยังเป็นศูนย์กลางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งผลิตผลที่รู้จักกันดี ได้แก่ อ้อย ส้ม เลมอน แอปเปิ้ล อะโวคาโด มะม่วง และกล้วย ขึ้นชื่อว่าเป็นภูมิภาคที่มีสภาพอากาศแบบซับทรอปิคัล นักท่องเที่ยวยังสามารถเยี่ยมชมโบสถ์ Nuestra Señora de la Cabeza ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมือง และอีกทั้งยังสามารถสัมผัสประสบการณ์การเดินชมชายหาดที่งดงามได้อย่างสะดวก ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาเยือนอีกครั้ง มอทริลจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการสำรวจเสน่ห์ของชายฝั่งอันดาลูเซีย!

อาลิกันเต้ เมืองหลวงของจังหวัดวัลเลนเซีย เป็นประตูสู่การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามายังรีสอร์ทในคอสตาบลังก้าทุกปี ด้วยภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่อบอุ่นและชายหาดทรายทองที่ยาวเหยียด อาลิกันเต้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนในวันหยุดพักผ่อนอย่างแท้จริง แต่เมืองนี้ยังมีเสน่ห์มากกว่านั้นอีกหลายประการ ริมทะเลที่งดงามของอาลิกันเต้ตัดกับวิวของปราสาทซานตาบาร์บาราที่ตั้งตระหง่านเหนือเมือง ซึ่งสื่อถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและซับซ้อน ชวนให้คุณสำรวจเส้นทางเดินชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของชนชาติและวัฒนธรรมที่ริเริ่มมาจากหลากหลายยุคสมัย เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ชีวิตในอาลิกันเต้ยังคงคึกคักไม่หยุดนิ่ง ด้วยบรรยากาศของไนท์ไลฟ์ที่เต็มไปด้วยสีสันและร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารเมดิเตอร์เรเนียนรสเลิศครบครัน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความสวยงามของธรรมชาติ หรือผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาลิกันเต้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ประเทศสเปนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหล่านี้!

เมืองมาฮอน (Mahon) เมืองหลวงของเกาะเมนอร์ก้า (Menorca) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของสเปน เป็นจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์และเป็นที่รู้จักกันดีจากท่าเรือที่ลึกและกว้างใหญ่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและทำเลที่ตั้งที่สำคัญ มาฮอนจึงเคยเป็นที่มั่นของหลายประเทศในอดีต และเป็นสถานที่ที่นักสำรวจระดับโลกเคยมาเยือน จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดคือ อุโมงค์เซนต์ร็อค (Arch of Saint Roc) ซึ่งเป็นซากท่ามกลางความเจริญรุ่งเรืองของเมือง มีอาคารสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น สไตล์จอร์เจียน (Georgian) ที่แสดงถึงร่องรอยของการปกครองในอดีต รวมทั้งสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอคลาสสิก (Neo-Classical), บาร็อค (Baroque) และโรมาเนสก์ (Romanesque) ที่ยังคงสวยงามอยู่ เมืองนี้ไม่เพียงแต่น่าชม แต่ยังเต็มไปด้วยถนนเล็กๆ ที่รอให้คุณค้นพบ และพื้นที่กลางเมืองที่ได้รับการตกแต่งสวยงาม พร้อมร้านกาแฟที่ให้บริการอย่างอบอุ่น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดเพื่อเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศคือ ก่อนหรือหลังเวลาซีเอสตา (siesta) ที่ร้านค้าจะหยุดทำการในช่วงบ่าย สัมผัสมนต์เสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตชีวาที่มาฮอน นอกเหนือจากการเยี่ยมชมเทือกเขาหรือชายหาดงดงาม ที่รอคอยให้คุณมาค้นพบความงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมของสเปนในแบบที่คุณไม่เคยลืม

บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!












เจ้าของสวีทใหม่ที่มีการออกแบบอย่างหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ที่มีเอกลักษณ์จำนวนหกห้อง เป็นห้องที่มักถูกจองอย่างรวดเร็ว สวีทเหล่านี้กว้างใหญ่ถึงประมาณ 1,000 ตารางฟุต และเป็นโอเอซิสแห่งความเงียบสงบและการผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยมีห้องน้ำที่ได้รับการออกแบบใหม่สุดหรูซึ่งมีฝักบัวขนาดใหญ่ สวีทยังมีระเบียงไม้สักส่วนตัว และโทรทัศน์จอแบนสองเครื่องเพื่อความสะดวกสบายที่สุด นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บริการซักรีดฟรีสูงสุดสามกระเป๋าต่อห้อง บริการผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชั่วโมง และการเข้าถึงสปา Aquamar Terrace อย่างไม่จำกัด ทั้งนี้ยังมีการต้อนรับด้วยแชมเปญฟรีและชุดของขวัญจากบุลการี รวมทั้งสิทธิพิเศษในการจองร้านอาหารและบริการอื่นๆ เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในทุกมิติของความหรูหราในเจ้าของสวีทแห่งนี้







ห้องพักชื่อว่า วิสตา สวีท มอบวิวที่งดงามไปยังส่วนหน้าเรือ คุณจะพบกับสีสันที่สงบซึ่งสื่อถึงทะเลที่เงียบสงบและท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ห้องพักแต่ละห้องมีขนาดกว้างถึง 786 ตารางฟุต พร้อมทุกความสะดวกสบายที่คาดหวัง รวมถึงห้องน้ำที่สองสำหรับแขก และห้องน้ำหลักที่ตกแต่งด้วยหินออนิกซ์ หินอ่อนคารารา และหินแกรนิต พร้อมฝักบัวอาบน้ำสุดหรู คุณสามารถนั่งพักผ่อนบนระเบียงไม้ทีคหรือชมภาพยนตร์ผ่านระบบบันเทิงที่ปรับแต่งตามความต้องการของคุณ นอกจากนี้ ห้อง วิสตา สวีท ยังมีบริการพิเศษเพิ่มเติม เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก การลงทะเบียนขึ้นเรือเวลา 11.00 น. ด้วยความสำคัญ รวมถึงบริการผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง บาร์ในห้องพักที่มีเครื่องดื่มคุณภาพสูงและไวน์ 6 ขวดฟรี น้ำผลไม้สดที่เติมวันต่อวัน และการสำรองที่นั่งในร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังมีการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด ไอแพดให้บริการตามคำขอ และชุดของขวัญจากแบรนด์บูร์การิ สิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย รวมถึงผ้าห่มแคชเมียร์และตัวเลือกของหมอนจากคอลเลกชันสุดหรู โปรดทราบว่าสูบบุหรี่ในห้องพัก ห้องสเตเตอร์รูมและบนระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด




เพนท์เฮาส์สวีทของเราเป็นห้องขนาด 322 ตารางฟุตที่ประดับประดาด้วยผ้าหรูหราและเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ในโทนสีสงบสุขของทะเลและท้องฟ้า ห้องนี้กว้างขวางพอสำหรับการรับประทานอาหารในห้องส่วนตัว พื้นที่นั่งเล่นมีมินิบาร์เย็นๆ และโต๊ะเครื่องแป้ง ในขณะที่ห้องน้ำได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มีการตกแต่งด้วยหินหรูหราและฝักบัวอาบน้ำที่ทันสมัย เพนท์เฮาส์สวีทยังมอบสิทธิประโยชน์มากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้อง, การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. โดยมีการจัดส่งกระเป๋าอย่างเร่งด่วน, การบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, แชมเปญต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญ, การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด, iPad® สำหรับความบันเทิงขณะอยู่บนเรือตามคำขอ, ถุงผ้าสะพายแบรนด์ Oceania Cruises และกระดาษจดหมายส่วนตัว, ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง, บริการขัดรองเท้าฟรี และบริการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ โปรดทราบว่าการสูบบุหรี่ในห้องสวีท, ห้องพัก และบนระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด



ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียง (Category A Concierge Level Veranda Staterooms) ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ต้องการมากที่สุดบนเรือ นำเสนอการผสมผสานระหว่างคุณค่าและความหรูหราอย่างลงตัว ห้องพักขนาด 216 ตารางฟุตนี้ได้รับการออกแบบใหม่อย่างทันสมัย มอบสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นที่ต้องการและสิทธิพิเศษเฉพาะ เช่น บริการซักรีดฟรี ทำให้การเข้าพักของคุณไร้กังวลยิ่งขึ้น การตกแต่งใหม่ที่สดใส เตียง Tranquility ที่นุ่มสบาย และระเบียงที่ได้รับแรงบันดาลใจใหม่พร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์ ครบครันประสบการณ์คอนเซียร์จอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีสิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับผู้เข้าพักในห้องคอนเซียร์จ เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้องพัก เมนูบริการอาหารกลางวันและอาหารเย็นที่ขยายออกจากห้องอาหารหลัก การขึ้นเรือในช่วงกลางวันอย่างมีลำดับความสำคัญ ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้าอย่างมีลำดับความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด iPad® ที่สามารถขอใช้ได้เมื่ออยู่บนเรือ กระเป๋าผ้าลาย Oceania Cruises ฟรี ผ้าห่มแคชเมียร์ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และบริการรีดเสื้อผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ โดยห้ามสูบบุหรี่ในห้องและบริเวณระเบียงโดยเด็ดขาด ไม่ว่าคุณจะมองหาความสะดวกสบายหรือหรูหรา ห้องพักนี้ตอบสนองความต้องการของคุณได้อย่างครบถ้วน




ระเบียง客艙 ขนาด 216 ตารางฟุต ถูกออกแบบอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับแต่งเฉพาะตัว, การตกแต่งด้วยหินที่แปลกใหม่, เตียงหัวนุ่ม และโคมไฟที่มีสไตล์ ทำให้คุณได้สัมผัสความหรูหราแบบไม่ซ้ำใคร นอกเหนือจากการชมวิวที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาแล้ว ห้องพักยังมีระเบียงไม้สักส่วนตัว ซึ่งคือความสะดวกสบายที่ผู้เข้าพักประทับใจมากที่สุด สะดวกสบายในแต่ละห้องพักประกอบไปด้วยโต๊ะแต่งตัว, มินิบาร์ที่มีความเย็น, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษในระเบียง客艙 ได้แก่ เตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises ปลอกผ้าปูที่นอนด้าย 1,000 เส้น, เครื่องดื่มอ่อนที่เติมฟรีทุกวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ทั้งแบบธรรมดาและแบบซ้ำ, อุปกรณ์บูลการิ, บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง, บริการทำความสะอาดวันละสองครั้ง, ช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงคืน, ระบบทีวีแบบอินเตอร์แอคทีฟพร้อมภาพยนตร์ตามสั่ง, การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่, โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมเอกสาร, ผ้าขนหนูฝ้ายเนื้อนุ่ม, เสื้อคลุมและรองเท้าใส่ในบ้านที่หนา, ไดร์เป่าผมแบบพกพา, ตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย ห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด


ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลขนาด 165 ตารางฟุตได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้รู้สึกกว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วยพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เย็นขนาดเล็ก และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหารที่ได้รับการตกแต่งด้วยเฉดสีที่นุ่มนวลและวัสดุที่มีสไตล์ การตกแต่งที่ทันสมัยช่วยให้ผู้เข้าพักรู้สึกผ่อนคลายและหรูหราทุกครั้งที่เข้าพัก ห้องพักนี้มีบริการฟรีต่างๆ อาทิ เครื่องดื่มอัดลมที่เติมให้ทุกวัน น้ำ Vero ที่ให้บริการทั้งแบบไม่มีอากาศและแบบมีอากาศ ตลอดจนบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่คัดสรรมาสำหรับคุณ อาทิเช่น เตียง Tranquility ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Oceania Cruises ชุดอุปกรณ์ Bulgari การทำความสะอาดห้องสองครั้งต่อวัน และระบบโทรทัศน์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง นอกจากนี้ยังมีบริการอินเตอร์เน็ตแบบไร้สายและการเข้าถึงเครือข่ายมือถือ โต๊ะเขียนหนังสือและอุปกรณ์การเขียน ผ้าขนหนู ฝาโรบิน และรองเท้าอาบน้ำที่นุ่มสบาย ไดร์เป่าผมแบบมือถือ ตู้นิรภัย และช็อกโกแลตเบลเยี่ยมในบริการนอนเสริม โดยเฉพาะสำหรับห้องพักที่มีความต้องการพิเศษ จะมีการจัดเตรียมให้มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ช่วยยก ชุดประตูห้องน้ำขนาดใหญ่ ราวจับในห้องน้ำ และห้องน้ำที่ออกแบบให้เข้าถึงได้สะดวกแบบไม่มีรอบสูง รวมถึงอ่างอาบน้ำ วางแผนการพักผ่อนหรูหราของคุณได้แล้ววันนี้ในห้องพักเดลักซ์วิวทะเลที่รอให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจนี้!


ห้องพัก客艙วิวทะเล (D) ขนาด 165 ตารางฟุตที่ได้รับการออกแบบอย่างมีเสน่ห์ นำเสนอการตกแต่งที่ทันสมัยและสะดวกสบาย ซึ่งคิดค้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่และความสะดวกสบาย ห้องพักนี้มีมุมพักผ่อนที่สะดวกสบาย พร้อมโซฟาที่ให้คุณยืดตัวออกได้, โต๊ะทำงาน, โต๊ะสำหรับรับประทานอาหารเช้า และมินิบาร์ที่มีตู้เย็น ภายในห้องยังมีบริการสิ่งอำนวยความสะดวกฟรี เช่น น้ำอัดลมเติมให้รายวันในมินิบาร์, น้ำ Vero ที่เป็นทั้งน้ำเปล่าและน้ำอัดลมฟรี และบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้คุณยังจะได้สัมผัสกับเตียง Tranquility ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises, สินค้าอาบน้ำ Bulgari, บริการทำความสะอาดห้องพักวันละสองครั้ง, ระบบโทรทัศน์อินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง และการบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย พร้อมการบริการของเจ้าหน้าที่ ที่จัดเตรียมผ้าขนหนู, เสื้อคลุม, และรองเท้าอาบน้ำที่ทำจากผ้าฝ้ายคุณภาพสูง พร้อมบริการเปลี่ยนให้ตื่นขึ้นมาพร้อมช็อกโกแลตเบลเจียน นอกจากนี้ยังมีเครื่องเป่าผม, ตู้นิรภัย, และการบริการที่ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในห้องพักหรือระเบียงทางเดินอีกด้วย


ห้องพักมองเห็นทะเล (E) ตั้งอยู่ใจกลางชั้น 6 ขนาด 143 ตารางฟุต โดยมีการออกแบบที่สดใหม่พร้อมหน้าต่างพาโนรามาที่มองเห็นวิวสวยงาม แม้จะมีมุมมองที่ถูกบังบางส่วน ห้องพักนี้มีโต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์แบบเย็น โต๊ะสำหรับทานอาหารเช้า และตู้เสื้อผ้าที่กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกได้แก่ เตียง Ultra Tranquility ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Oceania Cruises, ผลิตภัณฑ์ดูแลจาก Bulgari, ช็อกโกแลตเบลเยี่ยมสุดพิเศษพร้อมบริการจัดเตียงประจำทุกคืน, บริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมงฟรี, โทรทัศน์จอแบนพร้อมเครื่องเล่น DVD และสื่อมากมาย รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ ห้องพักยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์ต่างๆ, ผ้าขนหนู ผ้านวม และรองเท้าอาบน้ำที่นุ่มสบาย, ไดร์เป่าผมแบบพกพา, และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย โดยห้องพักทั้งหมดและห้องชุดจะปลอดบุหรี่。


重新設計的ห้องพักภายใน以現代風格為特色,擁有160平方英尺的奢華空間。這個愉悅的私人度假空間包括舒適的座位區、化妝台、冰箱迷你酒吧及充足的儲物空間,而巧妙的空間利用更襯托出全新的裝飾風格。 這個房型的住客可享受多項免費設施,包括每日補充的飲料、靜水與氣泡水以及24小時房務菜單。房內配備了專屬的Tranquility床、Bulgari洗浴用品、每日兩次的客房清潔服務,以及互動電視系統,提供隨需應變的電影和天氣資訊。無線網絡及行動電話服務隨時可用,還配有書寫桌和文具、柔軟的棉質毛巾、浴袍及拖鞋,並提供手持吹風機、安全保險箱及晚間服務的比利時巧克力。您在此的放鬆經歷將無與倫比,然而請注意,所有套房和客艙均禁止吸煙。

ห้องพักริมทะเลสำหรับเดี่ยว ขนาด 143 ตารางฟุต เป็นพื้นที่พักผ่อนที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเดินทางคนเดียว ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายบนชั้น 6 ห้องพักทุกห้องมีเตียง Tranquility Bed ที่หลับสบายอย่างยิ่ง มินิบาร์ที่มีความเย็น และโต๊ะเขียนหนังสือ พร้อมด้วยพื้นที่เก็บของที่กว้างขวาง ทำให้คุณรู้สึกสะดวกสบายตลอดการเข้าพัก.