
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชียนิอามารินา
โอเชียเนีย ครูซส์


กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นเมืองที่ผสมผสานความงดงามและความมีชีวิตชีวาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากมรดกวัฒนธรรมที่หลากหลาย สามารถสังเกตได้จาก Plaza de Mayo อันมีเสน่ห์ดุจจัตุรัสใหญ่ในมาดริด และ Teatro Colón ที่สวยงามราวกับว่าได้ย้ายมาจากเวียนนา บัวโนสไอเรสยังมีความเป็นอเมริกาใต้ที่ชัดเจนจากการเดินเล่นในถนนที่ปูด้วยหินและรองเท้าหนังคุณภาพสูงที่วางขายในร้านค้าเล็กๆ แถมยังมีกิจกรรมที่เต็มไปด้วยสีสัน เช่น ขบวนพาเหรดของแฟนฟุตบอลที่แสดงถึงความรักในกีฬานี้ของชาวเมือง นอกจากวัฒนธรรมและศิลปะที่หลากหลาย ชิมประสบการณ์ลิ้มลองไวน์ชั้นดี สเต็กเนื้อฉ่ำ และไอติมรสชาติต่างๆ ที่ได้มาเติมเต็มความอร่อยให้กับทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ท่าเรือในกรุงบัวโนสไอเรส จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสำรวจเสน่ห์แห่งเมืองนี้ พร้อมเปิดประสบการณ์การเดินทางที่สุดหรูหรา ในดินแดนที่มีทั้งความคลาสสิกและความทันสมัยรอคุณอยู่

มอนเตวิเดโอ เมืองหลวงของอุรุกวัย ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำริโอเดอพลาตา เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความมีชีวิตชีวา มาพร้อมกับทางเดินเลียบชายฝั่งหรือที่เรียกว่า "มาลิโคน" ที่ทอดยาวไปตามแนวชายหาด ร้านอาหารที่หลากหลาย และสวนสาธารณะมากมาย ที่นี่ คุณจะได้พบกับชาวมอนเตวิเดโอ เดินเล่น ออกกำลังกาย หรือแค่เพลิดเพลินกับบรรยากาศริมทะเล มอนเตวิเดโอมีความหลากหลายทางสถาปัตยกรรม โดยมีทั้งความเจริญก้าวหน้าของอาคารสมัยใหม่และเสน่ห์ของเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่หรูหรา นอกจากนี้ ยังมีจัตุรัสและสวนสาธารณะเขียวขจีมากมาย ที่ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาและสมบูรณ์แบบในการใช้เวลา เมื่ออากาศดี ถนนเลียบชายฝั่งที่ยาวถึง 22 กิโลเมตรจะเต็มไปด้วยผู้คนต่างเดินเล่น ตกปลาหรือลองขนมไอศกรีม โดยเฉพาะในช่วงเย็น ขณะที่คู่รักเริ่มออกมาสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกของเมือง ความละเอียดอ่อนในชีวิตประจำวันที่นี่ทำให้มอนเตวิเดโอถูกจัดให้เป็นเมืองที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในละตินอเมริกา หญิงสาวที่จะเดินทางไปที่นี่ คงรู้สึกว่ามีเสน่ห์ดึงดูดใจที่จะกลับมาอีกครั้งในค่ำคืนที่สวยงามในฤดูร้อน.

เมื่อคุณก้าวเข้าไปในโลกแห่งความหรูหรา ณ Punta del Este ประเทศอุรุกวัย คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมักถูกเปรียบเทียบกับ Hamptons หรือ St-Tropez เมืองนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่ความพิเศษจะส่งเสริมให้เกิดปาร์ตี้ไม่รู้จบ ขณะเดียวกัน Punta del Este ยังคงเป็นสถานที่หลากหลายที่เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน หรือนักธุรกิจที่ปรารถนาความสงบในบรรยากาศที่มีระดับ บริเวณชายฝั่งมีชีวิตชีวาในตัวเมืองที่มีชายหาดทอดยาว ขณะที่ด้านในก็มีฟาร์มและคฤหาสน์หรูหราที่เรียกว่า "chacras" หรือ "estancias" ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างสงบ นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยสีสันอย่าง La Barra และ José Ignacio ซึ่งตกกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมในช่วงฤดูร้อน Punta del Este ได้ชื่อมาจาก "จุดตะวันออก" ซึ่งเป็นจุดแบ่งแยกระหว่าง Río de la Plata และมหาสมุทรแอตแลนติก ทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงไปยังพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง Punta Ballena ที่มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน หากคุณมีโอกาสได้เยือนที่นี่ รับรองว่าจะไม่มีใครผิดหวัง กับความงดงามที่ซ่อนอยู่รอให้คุณไปค้นพบ.

ท่าเรืออิตาจาย (Itajaí) ตั้งอยู่ในรัฐซานตากาตารีนา ประเทศบราซิล เป็นจุดหมายที่มีเสน่ห์และมีอารยธรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อมีการอพยพจากยุโรปเข้ามายังภูมิภาคนี้ นำมาซึ่งการเจริญเติบโตของเมืองในด้านธุรกิจและวัฒนธรรมสืบทอดจากชาวอิตาลี เยอรมัน และโปแลนด์ที่ยังเห็นได้ในสถาปัตยกรรมของเมืองในปัจจุบัน อิตาจายอาจไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เรียกว่า "ต้องเห็น" มากนัก แต่มีชายหาดที่สวยงามอยู่ใกล้เคียง เช่น ชายหาดอาตาลายาและเกเรเมียส ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับบรรยากาศท้องถิ่นอย่างแท้จริง นอกจากนี้ การเดินทางไปยังกัมโบเรีย (Camboriú) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมเพียง 10 กิโลเมตรจากท่าเรือ จะทำให้คุณได้พบกับบรรยากาศที่ครึกครื้น มีศูนย์การค้าที่หลากหลาย และเคเบิลคาร์ที่เชื่อมสองชายหาดเข้าด้วยกัน สำหรับการเดินทาง ความสะดวกสบายมีให้โดยท่าเทียบเรือที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่ให้บริการอาหารพื้นเมืองและนานาชาติหลายแห่ง ซึ่งเป็นโอกาสดีในการสัมผัสรสชาติของท้องถิ่น การเดินชมถนนคนเดิน หรือการเยี่ยมชมโบสถ์ประจำเมืองก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด มาสัมผัสความงดงามและเสน่ห์ของอิตาจาย ที่ซึ่งท่าเรือและวัฒนธรรมท้องถิ่นอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางสู่การค้นพบใหม่ ๆ ในบราซิล!

ซานเปาโล เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและวัฒนธรรม อาจเป็นหนึ่งในจุดหมายที่เรียกว่า “เมืองแห่งโอกาส” ของบราซิล และยังเป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญที่จะนำพาคุณไปสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งท่าเรือ San Paulo ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นจุดเชื่อมต่อที่คุณจะได้สัมผัสทั้งความทันสมัยและประวัติศาสตร์ ศิลปะและธรรมชาติ รวมถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา ตัวเมืองเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีห้างสรรพสินค้าที่หรูหราทั่วทั้งเมือง เช่น ปลาซา อีตาเบล และโรงแรมหรูที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เมื่อมาถึงซานเปาโล คุณยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะซานเปาโล (MASP) ซึ่งมีผลงานจากศิลปินระดับโลกที่ตั้งอยู่บนถนนปาโคลสะ หนึ่งในเส้นทางสำคัญของเมือง หรือเดินชมสวนโบตาโฟโกที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศที่สงบและวิวที่งดงาม หากคุณใฝ่ฝันที่จะสัมผัสเมืองที่มีทั้งความสุขและความหลากหลาย ซานเปาโลจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเดินทางครั้งติดใจในยุโรปใต้ที่จะสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมในทุกย่างก้าวที่คุณเดินทางไป

หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การท่องเที่ยวอันหรูหราที่ผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความงดงามทางธรรมชาติ ท่าเรือ Parati ในบราซิลคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ห่างจากริโอเดจาเนโรประมาณ 180 ไมล์ เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่ปี 1660 และยังคงรักษาบรรยากาศดั้งเดิมเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน Parati เคยเป็นจุดสำคัญในการค้าทองจาก Minas Gerais สู่โปรตุเกสในศตวรรษที่ 18 แต่จากการโจมตีของโจรสลัด เมืองจึงถูกหลบซ่อนในมุมที่เงียบสงบ ปัจจุบัน Parati ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมอาณานิคมที่สำคัญ คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของถนนปูกระเบื้องที่แคบซึ่งปลอดจากรถยนต์ และความงดงามของอาคารเก่าที่ได้รับการบูรณะอย่างสวยงาม ในเมืองนี้ยังมีศิลปินท้องถิ่นที่นำเสนอผลงานศิลปะและของที่ระลึกให้คุณได้เยี่ยมชม นอกจากนี้ คุณยังสามารถเยี่ยมชมโบสถ์ Santa Rita de Cassia ที่สร้างขึ้นในปี 1722 ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของสถาปัตยกรรมบาร์อคบราซิล Parati ไม่เพียงแต่มีวัฒนธรรมที่ล้ำค่า แต่ยังมีภูมิทัศน์ที่งดงามปกคลุมไปด้วยภูเขาสีเขียวและเกาะน้อยใหญ่ที่กระจายอยู่ทั่วอ่าว เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้เต็มอิ่มกับประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำอย่างแท้จริง

อิลฮา แกรนเด เป็นจุดหมายปลายทางอันงดงามที่ซ่อนเร้นอยู่ในเมืองบราเซิล ซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และชายหาดที่สวยงามสะกดทุกสายตา คุณสามารถเดินเล่นบนชายหาดที่มีปีกสีทองอย่าง Praia Lopes Mendes หรือจะสำรวจป่าฝนเขตร้อนที่เต็มไปด้วยพันธุ์พืชและสัตว์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น อิลฮา แกรนเด ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยกิจกรรมให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูปะการัง ดูปลาสีสันสดใส หรือนั่งเรือไปชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามรอบเกาะ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย การปีนเขาไปยังยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาะก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าตื่นเต้น เพื่อให้การเดินทางของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด อย่าลืมลองสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ผ่านการล déguster อาหารทะเลสดใหม่ที่มีชื่อเสียง โดนเฉพาะเมนูปลาสด ๆ ที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน ซึ่งจะทำให้คุณหลงใหลในความอร่อยแบบบราเซิล ยิ่งไปกว่านั้น การแวะเยือนอิลฮา แกรนเด จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้หลุดไปยังสวรรค์ที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยเสน่ห์ ดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและสัมผัสชีวิตแบบเรียบง่ายบนเกาะที่นี่ แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขของการเดินทางคืออะไร

เมืองบูซิออส (Búzios) ตั้งอยู่ห่างจากริโอเดจาเนโรเพียงสองชั่วโมง เป็นเพนินซ่าที่มีชายหาดที่สวยงามเรียงรายตลอด 8 กิโลเมตร ที่นี่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เงียบสงบจนกระทั่งในปี 1960 เมื่อดาราฮอลลีวูดชื่อดัง บริจิตต์ บาร์โด ได้มาใช้เวลาพักผ่อนที่นี่เพื่อหนีจากการตามล่าของช่างภาพ และบูซิออสก็กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการ บูซิออสมีทุกสิ่งสำหรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่โรงแรมที่ตอบโจทย์ครอบครัวพร้อมกิจกรรมมากมายและบริการดูแลเด็กตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงสถานที่ที่มีสปาและโปรแกรมรีทรีตสุดพิเศษ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง บูซิออสยังมีกีฬาทางน้ำหลากหลาย เช่น เซิร์ฟกีฬาทางน้ำ วอเตอร์สกี ไคท์เซิร์ฟ รวมถึงการดำน้ำและการปั่นจักรยานเสือภูเขา นอกจากนี้ บูซิออสยังมีสนามกอล์ฟที่สวยงาม ตลอดจนชายหาดที่แผ่กว้างให้คุณได้สนุกสนานและผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม การเดินทางมาที่นี่เปรียบเสมือนการเข้าร่วมในบรรยากาศที่เงียบสงบริมหาดสวรรค์ ซึ่งและเป็นโอกาสที่ดีในการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ และความงดงามของบราซิลอย่างแท้จริง



เรซิฟ (Recife) เมืองสีสันแห่งบราซิลที่ผสมผสานระหว่างความทันสมัยและประวัติศาสตร์ ช่วงเวลาแห่งการเจริญรุ่งเรืองของเมืองนี้เริ่มขึ้นในยุคที่ดัตช์เข้ามาปกครอง โดยมีการพัฒนาอย่างมากในสมัยของเคานต์มอริซิโอ เดอ นาซาว์ เมืองนี้ตั้งอยู่ในรัฐเปร์นัมบูโก้ (Pernambuco) ถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางที่สำคัญของการต่อสู้ระหว่างชาวดัตช์และชาวโปรตุเกส เรซิฟมีสถาปัตยกรรมที่งดงามตลอดแนวย่านแม่น้ำ สะท้อนวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกเหมือนอยู่ในยุโรป แม้ว่าโครงสร้างอาคารบางส่วนในยุค 19 ได้ถูกปรับปรุงใหม่ แต่ยังมีเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่สามารถพบนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ เรซิฟยังเป็นศูนย์กลางการดูแลสุขภาพแห่งที่สามของบราซิล และเป็นจุดหมายปลายทางด้านอาหารที่มีคุณภาพ เมืองนี้นับว่ามีร้านอาหารมากมายที่เสิร์ฟอาหารอร่อยตั้งแต่จานท้องถิ่นไปจนถึงระดับโลก การเดินเที่ยวชมเมืองเรซิฟก็ยังชวนให้ตื่นตาตื่นใจด้วยแม่น้ำที่ไหลผ่านถึงสามสาย และสะพาน 49 สะพานที่เชื่อมต่อกันอย่างงดงาม ไม่ว่าจะเป็นชายหาด Boa Viagem ที่เต็มไปด้วยสาหร่ายหรือเขตเมืองเก่าที่มีชื่อว่า Recife Antigo ซึ่งให้บรรยากาศที่โรแมนติก เมืองเรซิฟมีเสน่ห์ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาอีกครั้งแน่นอนค่ะ



อัลเตอร์ โด ชาว (Alter do Chão) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์แห่งหนึ่งในบราซิล ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแทปจอส (Tapajós River) ภายในรัฐปารา (Pará) ซึ่งมีทัศนียภาพธรรมชาติที่สวยงามและอุดมไปด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เข้มข้น การเดินทางมาที่นี่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ผ่อนคลายและแสนจะโรแมนติก ท่าเรืออัลเตอร์ โด ชาวเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการขึ้นเรือสำราญกลางแม่น้ำและสำรวจเกาะที่มีชื่อเสียงอย่าง "เกาะเซนต์ลูเซีย" และ "เกาะคาชู" ที่มีน้ำทะเลใสสะอาดเป็นอย่างมาก ที่นี่เหมาะสำหรับการว่ายน้ำ ดำน้ำตื้น และชมนกนานาพันธุ์ รวมถึงต้นไม้แปลกตาที่มีอยู่ทั่วไปในเส้นทางน้ำของป่าอเมซอน นอกจากนี้ ท่าเรือยังมีตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์พื้นบ้านและอาหารแสนอร่อย ไม่ว่าคุณจะอยากลิ้มลองปลาเฮอริ่งสดๆ หรือขนมหวานที่มีรสสัมผัสไม่เหมือนใคร ในทุกมุมของอัลเตอร์ โด ชาว คุณจะได้สัมผัสความสนุกและเรื่องราวที่รอให้คุณค้นพบ พร้อมด้วยมิตรภาพจากผู้คนที่อบอุ่นและเป็นมิตร การมาท่าเรืออัลเตอร์ โด ชาว คือการสร้างความทรงจำที่ยากจะลืม โดยเฉพาะการสำรวจธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ที่จะทำให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจแห่งการค้นพบใหม่ ๆ ทุกครั้ง

ถ้าคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในบราซิล ท่าเรือ Boca de Valeria จะเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าตื่นเต้นสำหรับคุณ ตั้งอยู่ในเขตอเมซอน นี่คือหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและความงดงามของธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถพบกับชีวิตประจำวันของชาวพื้นเมืองที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ Boca de Valeria มีบรรยากาศที่เงียบสงบและงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณได้สัมผัสการเดินชมธรรมชาติริมแม่น้ำอเมซอน อันเป็นแหล่งชีวิตที่หลากหลายทั้งพืชและสัตว์ เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ยากจะลืม คุณยังสามารถเล่นสนุกกับลิงหรือสัมผัสกับวัฒนธรรมพื้นเมืองที่นี่ได้อีกด้วย นอกเหนือจากการเยี่ยมชม Boca de Valeria นั้น ผู้ที่รักการผจญภัยจะต้องไม่พลาดที่จะสำรวจอุทยานแห่งชาติอเมซอน ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพอันน่าทึ่ง รวมถึงเส้นทางปั่นจักรยานหรือเดินป่าที่ช่วยให้คุณได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง การมาเยือนที่ Boca de Valeria คือการค้นพบโลกใหม่ที่รอคุณอยู่ พร้อมให้คุณดื่มด่ำไปกับความงามของวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ในบราซิล รอให้คุณมาค้นพบ!


ท่าเรือ Parintins ตั้งอยู่ในใจกลางของ Amazon ประเทศบราซิล เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในการสำรวจความงดงามและความหลากหลายทางธรรมชาติของอเมซอน พื้นที่นี้เป็นที่รู้จักจากเทศกาล Boi Bumbá ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน เพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมพื้นเมืองและแสดงให้เห็นถึงความงดงามของชีวิตในป่าฝน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับการแสดงที่เต็มไปด้วยสีสัน เสียงเพลง และแดนเซอร์ที่สวมใส่ชุดประจำชาติอย่างงดงาม นอกจากนี้ Parintins ยังเป็นประตูสู่การค้นพบธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ในเขตอเมซอน ซึ่งมีทั้งสัตว์ป่าและพืชพรรณที่หายาก นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือไปตามแม่น้ำอเมซอนที่ยิ่งใหญ่ และสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงในระบบนิเวศที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ตามทั้งสองฝั่งของแม่น้ำ การเดินทางมายัง Parintins โดยเรือสำราญจะทำให้คุณได้สนุกสนานกับการสำรวจ และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เงียบสงบและเผชิญหน้ากับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ เปลี่ยนการเดินทางครั้งนี้ให้เป็นความทรงจำที่ไม่มีวันลืมในจิตใจของคุณ

ซานตาเร็ม (Santarém) เป็นท่าเรือที่ตั้งอยู่ในประเทศบราซิล เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ภูมิภาคนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอเมซอน ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในโลก เสน่ห์ของซานตาเร็มอยู่ที่การเป็นประตูสู่ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของอเมซอน หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติ การได้เห็นการผสมผสานระหว่างแม่น้ำดำและแม่น้ำขาวที่เรียกว่า "Encontro das Águas" เป็นประสบการณ์ที่คุณไม่ควรพลาด อนุสาวรีย์แห่งการพบกันนี้เป็นจุดสร้างความตราตรึงใจ และเป็นที่รู้จักในวงกว้างของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ซานตาเร็มยังมีตลาดกลางที่มีชีวิตชีวา ซึ่งคุณสามารถสัมผัสรสชาติของท้องถิ่น ซื้อของที่ระลึกที่ทำจากสินค้าจากธรรมชาติ เช่น ผลไม้ท้องถิ่นและงานฝีมือที่งดงาม นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น อนุสรณ์สถานทางศาสนาและพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของเมือง เตรียมตัวให้พร้อมที่จะค้นพบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในซานตาเร็ม ที่ซึ่งธรรมชาติและวัฒนธรรมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวทุกครั้งที่มีเรือสำราญจอดเทียบท่า ความมหัศจรรย์ของอเมซอนรอให้คุณมาสัมผัสแล้ววันนี้!


เมื่อเรานึกถึงเกาะที่มีเสน่ห์แบบเขตร้อนที่รอการค้นพบ เกาะเซนต์ลูเซีย (Saint Lucia) คือสวรรค์ที่หยิบยื่นให้เราได้สัมผัสที่นี่ การเดินทางมาถึงท่าเรือคาสทรีส (Castries) จะนำพาคุณสู่โลกแห่งธรรมชาติอันงดงามในพื้นที่อันเล็กเพียง 27 ไมล์ยาวและ 14 ไมล์กว้าง แต่เต็มไปด้วยทิวทัศน์สดใส ประกอบไปด้วยป่าฝนเขียวขจีและสวนกล้วยอันอุดมสมบูรณ์ จุดเด่นของเกาะนี้ต้องยกให้กับยอดเขาเลส์ปีตอง (Les Pitons) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีความสูงถึง 2,000 ฟุต ที่ส่งเสริมความยิ่งใหญ่และความงามของทิวทัศน์ บนเกาะยังมีนกหายากเช่นนกแก้วเซนต์ลูเซีย และพืชพันธุ์ที่แปลกใหม่มากมายที่รอให้คุณได้สำรวจ สัมผัสความอบอุ่นและยินดีต้อนรับจากชาวเกาะในหมู่บ้านเล็กๆ และการเดินตลาดกลางแจ้งที่มีสีสัน อย่างไรก็ตามควรระวังถึงเส้นทางที่ขรุขระซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่มีปัญหาด้านหลังหรือคอ เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสุขและความทรงจำอันน่าประทับใจ พาทุกคนสัมผัสประสบการณ์น่าตื่นเต้นในแดนสวรรค์นี้ที่คุณจะไม่อยากพลาด!

เมื่อเรือล่องเรือสำราญจอดที่ท่าเรือ Basseterre ของเกาะเซนต์คิตส์และเนวิส คุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่หลากหลายของหมู่เกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่เผยให้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติในพื้นที่เพียง 65 ตารางไมล์ ภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและทิวทัศน์ที่เขียวขจีของทุ่งอ้อยหลากหลายทำให้ที่นี่ถือเป็นสวรรค์สำหรับผู้ที่รักการสำรวจ คุณจะได้พบกับป่าเขตร้อนที่มีน้ำตกและเส้นทางลับ รวมถึงเทือกเขากลางที่ถูกปกครองโดยยอดเขา Mt. Liamuiga ที่มีความสูงถึง 3,792 ฟุต ที่นี่เคยเป็นภูเขาไฟแต่ปัจจุบันได้ดับสนิทแล้ว ความงดงามของ Brimstone Hill สถานที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 18 ซึ่งถูกเรียกว่า "กิ๊บรอลตาร์แห่งอินเดียตะวันตก" ก็เป็นอีกจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ชาวเกาะมีอัธยาศัยดีและพูดภาษาอังกฤษด้วยสำเนียงตะวันตก อินเทรนด์เรื่องมารยาทในสังคมที่นี่คือควรขออนุญาตก่อนถ่ายภาพ และควรสวมชุดคลุมหรือกางเกงขาสั้นเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ สัมผัสกับเสน่ห์ของเซนต์คิตส์และเนวิส แล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้ไม่รู้ลืม!


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!















เจ้าของสวีท (Owner’s Suite) ให้ความรู้สึกหรูหราและมีสไตล์เหมือนวิลล่าตามชายฝั่งที่น่าทึ่ง โดยมีพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางฟุต แต่ละห้องมีพื้นที่นั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องนอนหลัก และห้องน้ำสองห้อง การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เนอร์และการตกแต่งที่งดงามสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบกลางทะเล มีเทอเรซแยกสำหรับพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน พร้อมด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่มอบทิวทัศน์ที่น่าหลงใหลให้คุณได้ชมความงามของทะเลรอบตัว ห้องสวีททุกห้องยังรวมบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และมีพื้นที่กว้างขวางเป็นพิเศษ ทำให้ประสบการณ์การเข้าพักในห้องสวีทนี้ไม่มีใครเปรียบเทียบได้ นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องสวีทแล้ว เจ้าของสวีทยังมีสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสำหรับกระเป๋าสูงสุด 3 ใบ การขึ้นเรือแบบมีความสำคัญพร้อมการจัดส่งกระเป๋าอย่างรวดเร็ว การเข้าถึงห้องเลาจน์พิเศษที่มีบริการเครื่องดื่มฟรีตลอดทั้งวัน และบาร์ในห้องพักที่จัดเตรียมไว้อย่างดี มีแชมเปญต้อนรับ ผลไม้สดที่เติมได้ทุกวัน การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ได้ก่อนใคร รวมถึงการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีบริการไอแพดให้ยืมตามคำขอ ระบบความบันเทิงที่ปรับแต่งได้ และชุดของขวัญจาก Bulgari รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ไม่มีใครเหมือน เพื่อให้การเข้าพักของคุณเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายและความหรูหราอย่างแท้จริง








วิสตา สวีทเป็นห้องสูทสุดหรูที่ได้รับการออกแบบภายในอย่างประณีต เหมือนกับบ้านสุดหรูในย่านปาร์คอเวนิว บนเรือสำราญและตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุด มองเห็นด้านหน้าเรือ ห้องสูทขนาด 1,200 ถึง 1,500 ตารางฟุตนี้มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ห้องโคลเซตขนาดใหญ่ เตียงคิงไซส์ ห้องน้ำที่สองสำหรับผู้มาเยือน สปาในและกลางแจ้ง รวมถึงห้องฟิตเนสส่วนตัว นอกจากนี้ผู้เข้าพักยังสามารถใช้บริการห้องเลานจ์พิเศษที่มีบัตเลอร์บริการ 24 ชั่วโมง โดยในห้องจะมีบาร์ส่วนตัวที่จัดตั้งเครื่องดื่มคุณภาพสูงและไวน์ไว้ พร้อมด้วยขนม และผลไม้สดที่เติมให้ทุกวัน อีกทั้งยังมีสิทธิประโยชน์ในการสำรองร้านอาหารพิเศษอย่างรวดเร็ว พร้อมการเข้าถึงแอควอมา สปา เทอเรซ อย่างไม่จำกัด อิ่มเอมไปกับความสะดวกสบายที่ไม่มีที่สิ้นสุดในวิสตา สวีท

โอเชียนเนียสวีทเป็นห้องสวีทที่หรูหราของเรือสำราญ ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางฟุต ทุกห้องมีการออกแบบอย่างมีระดับและเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์ ห้องสวีทนี้ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องสื่อที่มีอุปกรณ์ครบครัน, ห้องเสื้อผ้าขนาดใหญ่, เตียงขนาดคิงไซส์, ระเบียงส่วนตัวขนาดกว้าง, สปาน้ำวนทั้งในบ้านและกลางแจ้ง รวมถึงห้องน้ำอีกห้องสำหรับแขก พร้อมด้วยการเข้าถึงเลานจ์ส่วนตัวสำหรับผู้บริหารที่มีนิตยสาร, หนังสือพิมพ์, เครื่องดื่มและขนมกลางวันให้บริการ นอกจากนี้ยังมีบริการพิเศษเช่น บริการซักรีดฟรี, การขึ้นเรือในเวลา 11:00 น. ด้วยลำดับความสำคัญ, บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, บาร์ในห้องพักพร้อมเครื่องดื่มนำเข้าคุณภาพสูง, และบริการต่างๆ ที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของแขก เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีบริการจองห้องอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า, การเข้าถึงสปา Aquamar Terrace อย่างไม่จำกัด, พร้อมด้วยของขวัญจาก Bulgari, ผ้าห่มขนแคชเมียร์และตัวเลือกหมอนพิเศษ โอเชียนเนียสวีทจึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสการเดินทางสุดหรูและความสะดวกสบายอย่างแท้จริงบนเรือสำราญของเรา
เพนท์เฮาส์สวีทเป็นความงามแห่งการตกแต่งที่ลงตัวและหรูหรา ขนาดกว้างขวางถึง 440 ตารางฟุต ภายในห้องมีฟีเจอร์ที่น่าทึ่งมากมาย เช่น ระบบไฟที่ปรับแต่งได้ โต๊ะรับประทานอาหาร มุมพักผ่อนที่แยกออกจากกัน ตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ระเบียงไม้สักส่วนตัว และห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนซึ่งมีพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมและฝักบัวที่ขยายเพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังสามารถเพลิดเพลินกับการบริการจากพนักงานคอนเซียร์จที่ม dedicated และเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในเลานจ์พิเศษสำหรับผู้บริหารได้โดยตรง สำหรับผู้เข้าพักในเพนท์เฮาส์สวีท ยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้อง บัตรเข้าถึงเลานจ์พิเศษที่มีกาแฟและขนมขบเคี้ยวตลอดทั้งวัน การบริการคนรับใช้ตลอด 24 ชั่วโมง ขวดแชมเปญต้อนรับที่มีให้ฟรี และการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด พร้อมผ้าห่มขนแคชเมียร์ และบริการขัดรองเท้าฟรี เพนท์เฮาส์สวีทจึงไม่ใช่แค่ที่พัก แต่เป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับสำหรับการเดินทางอันเป็นเอกลักษณ์บนเรือสำราญที่หรูหรา.




คอนเซียร์จเวอเรนด้าเสตเตอร์รูม ของเรามีขนาด 282 ตารางฟุต เต็มไปด้วยการตกแต่งที่สวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหราที่สามารถพบได้ในเพนท์เฮาส์สวีท ซึ่งรวมถึงระเบียงส่วนตัว, โซฟานุ่มสบาย, มินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มเย็น, และห้องน้ำขนาดใหญ่ที่หุ้มด้วยหินอ่อนและแกรนิต พร้อมฝักบัวที่กว้างขวาง นอกจากนี้แขกผู้เข้าพักยังสามารถเข้าถึงเลานจ์คอนเซียร์จส่วนตัวที่มีคอนเซียร์จประจำตัวให้บริการ พร้อมด้วยนิตยสาร, หนังสือพิมพ์ประจำวัน, เครื่องดื่ม, และขนมขบเคี้ยวตลอดทั้งวัน การเข้าถึงสิทธิพิเศษสำหรับคอนเซียร์จนั้นเพิ่มเติมจากสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก ซึ่งรวมถึงเมนูบริการรูมเซอร์วิสสำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็นที่ขยายออกจาก The Grand Dining Room, บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก, การขึ้นเรือในช่วงเที่ยงด้วยสิทธิพิเศษ, การเข้าถึงเลานจ์คอนเซียร์จที่มีบริการเครื่องดื่มฟรีตลอดวัน, ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญ, การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด และบริการอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการให้ iPad ประกอบความบันเทิงระหว่างการเดินทาง ตามคำขอเป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสูบบุหรี่ในห้องพักและระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทุกการเข้าพักเป็นไปอย่างราบรื่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบายในระหว่างที่อยู่บนเรือของเรา




ห้องสเตเตอร์รูมระเบียงขนาด 291 ตารางฟุตของเราเป็นห้องพักขนาดใหญ่ที่สุดในทะเล ภายในห้องมีระเบียงส่วนตัวที่ตกแต่งอย่างสะดวกสบาย ซึ่งถือเป็นความหรูหราที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ห้องพักทุกห้องมาพร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่มีความสะดวกสบาย มินิบาร์ที่มีการรีเฟรชเครื่องดื่มอัดลมฟรีทุกวัน ตู้เสื้อผ้าขนาดกว้างขวาง และห้องน้ำที่ประดับด้วยหินอ่อนและหินแกรนิตซึ่งมีอ่างอาบน้ำและฝักบัว ห้องสเตเตอร์รูมระเบียงยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่เหมือนใคร เช่น เตียงทรanquility ที่มีผ้าลินิน 1,000 เส้นด้าย บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง บริการทำความสะอาดสองครั้งต่อวัน และช็อคโกแลตเบลเยียมในช่วงเวลาปิดเตียง นอกจากนี้ยังมีระบบโทรทัศน์แบบโต้ตอบที่สามารถรับชมภาพยนตร์ตามความต้องการ รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและการบริการโทรศัพท์มือถือ คุณสามารถเพลิดเพลินกับผ้าขนหนูที่ทำจากผ้าฝ้ายเนื้อดีและเสื้อคลุมอาบน้ำที่หนานุ่ม รวมถึงปลอกผ้าขนหนูและเครื่องเป่าผมที่สามารถใช้ได้สะดวก ใส่ใจในความปลอดภัย ห้องพักยังมีเซฟส่วนตัวให้ด้วย อย่างไรก็ตาม การสูบบุหรี่ในห้องพัก ระเบียง และห้องสวีทถูกห้ามโดยเด็ดขาด

ห้องพักดูทะเลแบบหรูมีขนาด 242 ตารางฟุต โดดเด่นด้วยหน้าต่างแบบพาโนรามาขนาดใหญ่จากพื้นจรดเพดานที่สามารถเปิดเพื่อชมวิวทะเลอันงดงามได้อย่างเต็มตา ห้องพักนี้มีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะอาหารเช้า มินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มเย็น และห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนและหินแกรนิตพร้อมฝักบัว ห้องพักมีการบริการที่หลากหลายเพื่อความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่เติมให้ฟรีทุกวันในมินิบาร์ บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง เตียง Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises อุปกรณ์ Bulgari บริการทำความสะอาด 2 ครั้งต่อวัน และระบบโทรทัศน์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์เขียน ผ้าขนหนู ผ้าชุดนอน และรองเท้าสำหรับใช้ในห้องพักเพื่อความสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีตู้นิรภัยและช็อคโกแลตพรีเมี่ยมในเวลาปิดเตียงเพื่อเพิ่มสัมผัสหรูหรา ห้องพักนี้ยังมีคุณสมบัติการเข้าถึงที่ตอบสนองต่อความต้องการ โดยมีห้องน้ำที่ออกแบบให้เข้าถึงได้ง่ายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ。การสูบบุหรี่ในห้องพักและระเบียงถือเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด


ห้องพักภายในนี้มีพื้นที่กว้างขวางถึง 174 ตารางฟุต ซึ่งออกแบบอย่างหรูหราและตกแต่งอย่างมีสไตล์เพื่อเพิ่มความเงียบสงบและสันติสุขในระหว่างการเดินทางของคุณ ภายในห้องมีห้องน้ำที่มีการตกแต่งด้วยหินอ่อนและหินแกรนิต มีอ่างอาบน้ำ และช่องอาบน้ำกว้างขวาง พร้อมทั้งมีมุมทำงาน โต๊ะอาหารเช้า และมินิบาร์เย็นที่มีเครื่องดื่มซอฟต์ดริงค์เติมให้อย่างฟรีทุกวัน นอกจากนี้ยังมีน้ำดื่มสะอาดและน้ำอัดลม Vero Water ให้บริการฟรี ท่านจะได้รับการบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับเตียง Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises และยังมีผลิตภัณฑ์อาบน้ำสุดหรูให้ใช้บริการอีกด้วย การบริการทำความสะอาดห้องพักมีถึงวันละสองครั้ง ระบบทีวีแบบอินเทอร์แอกทีฟมีภาพยนตร์ให้เลือกชม Weather และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถเข้าใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีมุมเขียนงานพร้อมอุปกรณ์เขียน ใหญ่หรูอย่างผ้าขนหนู ผ้าปู และรองเท้าสลิปเปอร์ที่ทำจากผ้าฝ้ายคุณภาพสูง เครื่องอบผม และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีช็อคโกแลตชั้นดีบริการในช่วงเย็น ทำให้ท่านได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในห้องพักอันสวยงามนี้