
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชียนิอามารินา
โอเชียเนีย ครูซส์


ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

ไมโคนอส (Mykonos) เป็นหนึ่งในเกาะอันสวยงามของกรีซที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหรูหราและบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งในปัจจุบันแลนด์มาร์คของที่นี่ได้แก่ เมืองไมโคนอส (Hora) ที่ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ด้วยลักษณะสถาปัตยกรรมที่งดงามในแบบไซคลาดิก หากคุณได้สำรวจตามถนนแคบ ๆ ที่ปูด้วยหิน คุณจะพบว่ามุมต่าง ๆ ของเมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลิตเติลเวนิซ (Little Venice) ที่สวยงาม พร้อมบ้านเรือนสีขาวที่มีประตูและโดมสีแดงหรือสีน้ำเงินโดดเด่นอย่างมีเสน่ห์ การเดินชมเมืองในยามเช้าจะมีความคึกคักกับนักท่องเที่ยวที่มุ่งหน้าสู่ท่าเรือหลัก สถานที่ที่คุณจะได้สัมผัสการส่งสินค้าและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา เมื่อถึงเวลาช่วงบ่าย ร้านอาหารและคาเฟ่ต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นและบรรยากาศที่อบอุ่น ขณะที่ยามค่ำคืนจะเป็นช่วงเวลาที่ไมโคนอสแสดงออกถึงความมีชีวิตชีวาที่แท้จริง ร้านค้าและบาร์หลายแห่งจะเปิดให้บริการจนถึงดึก พร้อมดนตรีที่กระตุ้นบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ไมโคนอสจึงไม่เพียงแต่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่หรูหราและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือน!

อิซเมียร์ถือเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าหลงใหลที่สุดในตุรกี ตั้งอยู่ตลอดริมฝั่งทะเลเอเจียน ซ่อนเร้นด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมืองนี้เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของตุรกี และเป็นท่าเรือที่สำคัญเป็นอันดับสองรองจากอิสตันบูล ท่าเรืออิซเมียร์ไม่เพียงแต่ให้บริการเรือสำราญ เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในภูมิภาคที่น่าตื่นตาตื่นใจ ระหว่างการแวะเยี่ยมชมอิซเมียร์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าทึ่งมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานในเมืองเอฟฟิซุส ที่แฝงไว้ด้วยเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมอันหนักแน่น หรือโรมแรมหรูหราที่หันหน้าเข้าหาทะเลอีเจียนที่สวยงามราวภาพวาด เมืองนี้ยังมีตลาดที่คึกคักเต็มไปด้วยของอร่อยจากอาหารท้องถิ่น และแหล่งช็อปปิ้งที่ทันสมัย เติมเต็มประสบการณ์การเดินทางให้น่าจดจำยิ่งขึ้น หยุดพักที่ท่าเรืออิซเมียร์และปล่อยให้เมืองนี้แสดงให้เห็นถึงความงดงามที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งต่อไปของคุณ.



เมืองเมสซินา ตั้งอยู่ในซิซิลี ประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาประสบการณ์อันน่าทึ่ง เมืองนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะและประวัติศาสตร์อันล้ำค่าอีกด้วย ที่นี่มี Museo Regionale di Messina ซึ่งจัดแสดงผลงานสองชิ้นอันมีชื่อเสียงของศิลปินระดับโลกอย่าง Caravaggio ซึ่งจะทำให้ทุกคนประทับใจในความสวยงามและความลึกซึ้งของศิลปะสมัยบาโรก นอกจากนี้ เมสซินายังมีเสน่ห์ที่น่าสนใจจากสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะโบสถ์คาทอลิกที่งดงามซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งของเมือง อีกทั้งยังมีวิวทะเลที่งดงาม ชายหาดที่สวยงามและขั้นบันไดจากภูเขานำเสนอทัศนียภาพที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ที่มีใจรักในการสำรวจ เมสซินาเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ของซิซิลี พร้อมทั้งสัมผัสถึงอาหารพื้นเมืองอันเลิศรสที่จะทำให้คุณลืมไม่ลง เพลิดเพลินไปกับเสน่ห์และความอัศจรรย์ของเมสซินาในทุก ๆ การเดินทางที่คุณมาที่นี่!

ปาแลร์โม เมืองหลวงของซิซิลี เป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญของอารยธรรมตั้งแต่อดีต โอบล้อมด้วยอ่าวรูปพระจันทร์และภูเขามอนเต้เพลเลกรีโกล่าสุดา เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางทางปัญญาของยุโรปใต้ และยังคงดึงดูดผู้มาเยือนจากทุกมุมโลก ด้วยเอกลักษณ์ที่ผสมผสานจากหลากหลายวัฒนธรรม ทำให้ปาแลร์โมมีบุคลิกเฉพาะตัวที่โดดเด่น ทั้งอาราบิก คริสเตียน ไบแซนไทน์ และโรมาโน ควรค่าแก่การชมคือสถาปัตยกรรมสไตล์อาหรับ-นอร์แมน ซึ่งเกิดจากการรวมกันของหลายวัฒนธรรม ทำให้เกิดผลงานศิลปะที่งดงาม โดยเฉพาะในเขตประวัติศาสตร์ ที่คุณจะได้พบกับตลาดกลางแจ้งที่มีชีวิตชีวา สแควร์และร้านค้าข้างถนนที่เต็มไปด้วยสีสัน นอกจากนี้ ปาแลร์โมยังเป็นที่รู้จักในเรื่องของ "ปาสเซสซาตา" ซึ่งเป็นการเดินเล่นที่สะท้อนถึงความมีชีวิตชีวาของเมืองได้อย่างดี เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าเรือปาแลร์โม อย่าลืมสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมนี้ เพื่อสัมผัสความงดงามที่ซ่อนอยู่ในทุกมุมมอง และสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนตลอดไป

ท่าเรือซาเลร์โน (Salerno) ตั้งอยู่บนอ่าวซาเลร์โนในประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลไม่เพียงแต่ด้วยทิวทัศน์ทะเลที่งดงาม แต่ยังอัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง ซาเลร์โนมีชื่อเสียงเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งแรกของโลก ส่งผลให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางด้านความรู้และการศึกษาในสมัยโบราณ นักท่องเที่ยวที่แวะมาที่นี่จะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดอ่อนๆ พร้อมกับการเดินเล่นตามชายหาดที่มีทรายละเอียดทำให้รู้สึกผ่อนคลายใจกลางทัศนียภาพที่สวยงาม ชิมอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ ที่หลากหลาย ทั้งพาสต้า วุ้นเส้น และอาหารทะเลสดใหม่ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจากฝีมือเชฟในท้องถิ่น ทำให้ทุกมื้อเป็นประสบการณ์พิเศษ นอกจากนี้ ซาเลร์โนยังเป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ อาทิเช่น ชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi Coast) ที่โด่งดังในเรื่องความสวยงามของธรรมชาติและหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ รวมทั้งเมืองอามาลฟีและโพสิตาโนที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรม, ท่าเรือซาเลร์โนคือไม่เพียงแค่จุดแวะที่ครบครัน แต่ยังเป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนใฝ่ฝันถึงการเดินทางในอิตาลีที่น่าตื่นเต้นนี้อย่างแท้จริง

โอลเบีย (Olbia) ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของซาร์ดิเนีย เป็นท่าเรือที่มีบรรยากาศคึกคักและเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญสำหรับเรือเฟอร์รี่จากแผ่นดินใหญ่ที่เข้าเทียบท่าในอ่าวที่กว้างใหญ่และสวยงาม ท่ามกลางรีสอร์ทหรูหราและชายหาดที่งดงาม ท่านจะได้สัมผัสความมีชีวิตชีวาของเมืองที่มีประชากรประมาณ 60,000 คน ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมโบสถ์ซานซิมปลิซิโอ (San Simplicio) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากโคร์โซ อุมแบร์โต (Corso Umberto) และสถานีรถไฟ โบสถ์นี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างโบสถ์ของชาวปีซา โดยมีการใช้หลักการสร้างจากอาคารโรมันในอดีต ภายในมีบรรยากาศที่เงียบสงบ สร้างความรู้สึกสงบเย็นด้วยซุ้มประตูที่เรียบง่ายและเสาหินที่ดูน่าทึ่ง ด้วยความสวยงามของธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย โอลเบียจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางไม่ควรพลาด โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เต็มไปด้วยเสน่ห์และกลิ่นอายของซาร์ดิเนีย ให้คุณหลงใหลในเส้นทางการเดินทางนี้ไปตลอดกาล.

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

บอนไฟซิโอ (Bonifacio) ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะคอร์ซิกา เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งบนเกาะนี้ ไม่ว่าคุณจะมองไปทางไหน คุณจะเห็นความสวยงามของทะเลสีฟ้าครามและหาดทรายสีขาวนวลที่สะท้อนแสงแดด สถานที่นี้นอกจากจะมีทิวทัศน์ที่น่าหลงใหลแล้ว ยังเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองเก่าที่มีป้อมปราการซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อคุณเข้ามาสัมผัสเมืองบอนไฟซิโอ คุณจะได้สำรวจถนนแคบ ๆ ที่มีเสน่ห์ บ้านเรือนเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ริมหน้าผาที่สูงชัน และเพลิดเพลินกับร้านคาเฟ่และร้านค้าเสน่ห์ที่เสิร์ฟความอร่อยของอาหารท้องถิ่น ให้คุณได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตของชาวคอร์ซิกาอย่างแท้จริง สำหรับผู้ที่หลงใหลในกิจกรรมกลางแจ้ง บอนไฟซิโอเป็นสวรรค์ที่เหมาะแก่การปั่นจักรยาน เที่ยวน้ำ หรือแม้แต่การล่องเรือไปชมเกาะเล็กๆ ที่งดงามรอบๆ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำไม่รู้ลืมให้กับทุกคนที่มาเยือน แน่นอนว่า บอนไฟซิโอ คือสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับการเดินทางครั้งสำคัญของคุณในคอร์ซิกา!

ลิเวอร์โน่ (Livorno) เป็นท่าเรือที่นับเป็นเพชรเม็ดงามของอิตาลี และได้เปลี่ยนผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีต เมืองนี้เริ่มต้นจากการที่เคยถูกแบ่งเป็นของปิซาและเจนัว ก่อนที่จะถูกซื้อโดยฟลอเรนซ์ในปี 1421 เพื่อเปิดเส้นทางสู่ทะเล คอสิโมที่ 1 ได้เริ่มก่อสร้างท่าเรือในปี 1571 ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางทางทะเลสำคัญ ตลอดศตวรรษที่ 18 ลิเวอร์โน่เจริญรุ่งเรืองเป็นท่าเรือที่สำคัญ โดยเป็นที่ตั้งของกลุ่มคนหลากหลายเชื้อชาติ เช่น ชาวโรมันคาทอลิกจากอังกฤษ และชาวยิวและมอริชจากสเปน นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์ Quattro Mori ที่สร้างเพื่อระลึกถึงเฟร์ดินานโดที่ 1 แม้ว่าหลายส่วนของสถาปัตยกรรมในเมืองจะมีอายุหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ลิเวอร์โน่เต็มไปด้วยสีสันของตลาดและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะ Mercato Nuovo ที่มีสินค้าท้องถิ่นให้เลือกซื้อมากมาย ตั้งแต่อาหารสดจนถึงผลิตภัณฑ์อเมริกัน ที่พบได้จากฐานทัพอเมริกัน Camp Darby ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง หากคุณมีเวลา ลิเวอร์โน่เป็นสถานที่ที่ควรแวะรับประทานอาหารกลางวันหรือมื้อเย็นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความหลากหลายแห่งนี้ จะทำให้คุณรู้สึกประทับใจในเอกลักษณ์ของเมืองที่สวยงามและมีชีวิตชีวาเป็นอย่างยิ่ง

คานส์ (Cannes) เมืองชายทะเลสุดหรูของฝรั่งเศส ที่มีสภาพอากาศอันเอื้ออำนวยตลอดทั้งปี ทำให้เป็นหนึ่งในรีสอร์ตยอดนิยมของยุโรป ในอดีต คานส์เคยเป็นจุดเฝ้าระวังของนักบวชที่อาศัยอยู่บนเกาะเซนต์ฮอนอเรตในยุคกลาง ท่าเรือที่นี่เดิมเป็นเพียงท่าเรือประมง จนกระทั่งในปี 1834 ขุนนางอังกฤษอย่างลอร์ดบรูแฮมได้หลงรักสถานที่นี้ในระหว่างการแวะพักไม่คาดคิดและตั้งใจสร้างบ้านพักที่นี่ และนี่ก็ทำให้คานส์กลายเป็นจุดหมายปลายทางสุดหรูสำหรับชนชั้นสูง คานส์ได้รับการยกระดับความน่าสนใจด้วยเทศกาลภาพยนตร์ประจำปีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ใครหลายคนมักจะรู้สึกเหมือนดาราภาพยนตร์เมื่อได้เดินเล่นบนเลอ ครัวเซ็ต (La Croisette) ทางเดินริมหาดที่สวยงาม ซึ่งรายล้อมไปด้วยร้านอาหารสุดหรูและชายหาดส่วนตัวที่มีชื่อเสียง ที่นี่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นปาล์มและบุคคลสำคัญ ร้านบูติกสุดเก๋และโรงแรมหรู เช่น โรงแรมคาร์ลตัน ที่เป็นฉากของภาพยนตร์ชื่อดัง “To Catch a Thief” คานส์จึงเป็นดินแดนแห่งความฝัน และเสน่ห์ของโคตแดนดาอาซูร์ (Côte d'Azur) ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน

ท่าเรือแห่งเมืองทูลอน ประเทศฝรั่งเศส เป็นจุดหมายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ตั้งอยู่ในภูมิภาคโปรวองซ์-อัลป์-โคตดาซูร์ ท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รายล้อมด้วยเทือกเขาหินที่เป็นเอกลักษณ์ ท่ามกลางความสวยงามทางธรรมชาติ เมืองทูลอนยังคงรักษาความเป็นเมืองท่าหลักที่สำคัญของฝรั่งเศส โดยมีท่าจอดเรือที่ทันสมัยและสะดวกสบาย สร้างบรรยากาศที่ เหมาะเจาะสำหรับการเริ่มต้นการผจญภัยในดินแดนอันหลากหลาย เมื่อมายังทูลอน อย่าพลาดที่จะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเช่น ป้อมคาโรลส์ที่มีอายุนับศตวรรษ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาและมอบวิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสีน้ำเงิน นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามของนครหลวงการเดินเรือที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทำให้คุณรู้สึกถึงการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความทันสมัย ดื่มด่ำกับความอร่อยของอาหารพื้นเมือง ตั้งแต่ซีฟู้ดสดใหม่จนถึงไวน์ชั้นเลิศ ที่สามารถพบได้ในร้านอาหารที่ตั้งอยู่ชายทะเล สัมผัสถึงมิตรไมตรีและความอ่อนโยนของวิถีชีวิตที่เมืองทูลอนเป็นที่รู้จัก พร้อมที่จะออกเดินทาง สู่ประสบการณ์นี้ที่ท่าเรือทูลอน ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักในความงดงามและความหลากหลายของฝรั่งเศสอย่างแน่นอน

บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!

มาทำความรู้จักกับเมืองวาเลนเซีย ประเทศสเปน ซึ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลายที่น่าหลงไหล วาเลนเซียเป็นเมืองที่มีขนาดเป็นอันดับสามของสเปน มีชีวิตชีวาด้วยกิจกรรมยามค่ำคืน ร้านอาหารรสเลิศ และพิพิธภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายคนมุ่งหมายไปเยี่ยมชมตลอดทั้งปี ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน วาเลนเซียเคยเป็นที่ตั้งของรัฐบาลผู้ภักดีต่อสาธารณรัฐในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน และในปัจจุบันเมืองนี้แสดงถึงความทันสมัยของสเปน ด้วยสถาปัตยกรรมที่แปลกใหม่และการทำอาหารที่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังคงรักษาประเพณีที่สำคัญไว้อย่างเกียรติ แม้ว่าวาเลนเซียจะอยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ถูกหล่อหลอมจากแม่น้ำทูเรียที่สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่รอบๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ เช่น Ciutat de les Arts i les Ciències ที่ออกแบบโดยสถาปนิกมีชื่อ ซานติอาโก คาลาตราวา รวมถึงสวนธรรมชาติอัลบูเฟร่าที่เหมาะสำหรับการเยี่ยมชม การเดินทางมาที่วาเลนเซียจึงเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ที่ผสมผสานทั้งศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอย่างลงตัว มาเริ่มต้นการเดินทางสุดหรูด้วยตัวคุณเองในเมืองนี้กันเถอะ!


ท่าเรือจิบรัลตาร์ ตั้งอยู่ที่จุดสิ้นสุดของคาบสมุทรไอบีเรีย เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยมี "หินจิบรัลตาร์" ที่สูงถึง 1,400 ฟุต ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของเมืองนี้ จิบรัลตาร์เป็นสถานที่ที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่บริเวณที่มหาสมุทรแอตแลนติกพบกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และห่างจากชายฝั่งของแอฟริกาเพียง 12 ไมล์ ในจิบรัลตาร์ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชอปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ซึ่งมีร้านค้าแบรนด์ดังในสไตล์อังกฤษที่คุ้นเคย ร่วมสัมผัสบรรยากาศที่เป็นกันเองและสบายเหมือนบ้านที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกมาเยือน สำหรับการสำรวจทัศนียภาพ ท่าเรือขนาดเล็กและถนนที่คดเคี้ยวทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยรถมินิบัสที่รองรับผู้โดยสารในจำนวนจำกัด โดยจะมีคนขับ/ไกด์คอยบริการนักท่องเที่ยว หากคุณต้องการความสะดวกในการเคลื่อนไหว สามารถจัดทัวร์ “Rock Tour” โดยแท็กซี่ที่มีพื้นที่เพิ่มเติมได้ จิบรัลตาร์ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่บ้านเกิดของนักเดินทาง แต่เป็นสถานที่เติมเต็มความฝันที่รอให้คุณมาเยือนและสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร!

เซบียา หรือที่รู้จักในชื่อ Seville เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,200 ปี ตั้งอยู่ในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เมืองนี้ไม่เพียงแค่เป็นที่รู้จักในเรื่องฟลาเมงโก้ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ แต่ยังมีมรดกโลกที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกถึงสามแห่ง ซึ่งทำให้เซบียาเป็นจุดหมายที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เมืองนี้ยังเป็นสถานที่ที่เคยเป็นบ้านเกิดของศิลปินชื่อดัง ดิเอโก้ เวลาซเกซ และเป็นที่ฝังศพของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นอกจากนั้น เซบียายังเป็นแรงบันดาลใจในผลงานของบิซเซต์ "คาร์เมน" และเคยเป็นฉากในซีรีส์ Game of Thrones ที่ได้รับความนิยมอีกด้วย สัมผัสความงดงามของเซบียาในถนนที่มีอายุนับศตวรรษ ที่นำเสนอร้านทาปาสเล็กๆ ที่เสิร์ฟอาหารที่อาจถือได้ว่าอร่อยที่สุดในดินแดนใต้ของมาดริด พร้อมกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมมูเดฆาร์และสวนที่เต็มไปด้วยน้ำพุและต้นปาล์ม ที่นี่คือโลกแห่งความฝันที่พร้อมให้คุณสำรวจและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอันหลากหลายของสเปนอย่างแท้จริง

ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา


ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ เป็นท่าเรือที่สำคัญในเกาะเทเนริเฟ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะคานารี ประเทศสเปน สถานที่นี้มีเสน่ห์โดดเด่นด้วยแสงอาทิตย์ที่สดใสตลอดทั้งปี และมีภูเขาเทอิดที่เป็นไฮไลต์ของเกาะ ตั้งอยู่ใจกลางเกาะ แวดล้อมด้วยหุบเขาเขียวขจีที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซานตาครูซซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็ก ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นเมืองที่ทันสมัย โดยมีสถาปัตยกรรมที่งดงามจากศตวรรษที่ 16 ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถัน ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ซานตาครูซ ปาเลมตัม ที่มีพื้นที่กว้างขวางถึง 29 เอเคอร์ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นปาล์มหลากหลายสายพันธุ์ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หากคุณมาที่นี่ อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศของเมือง และชื่นชมความงามของภูเขาเทอิดซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาด ด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำและความสวยงามแห่งธรรมชาติ ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ จึงเป็นปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มองหาการผจญภัยในสเปน

เมื่อพูดถึงการเดินทางไปยังท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจในยุโรป ท่าเรือฟุนชาลที่ตั้งอยู่ในมอริกาขอแนะนำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะมาเดราที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ เมืองฟุนชาลเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ซึ่งถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส João Gonçalves Zarco ในปี 1419 และตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำโคปเรซัลในนามของการค้า โดยเกาะนี้ได้รับชื่อว่า 'มาเดรา' ซึ่งแปลว่า 'ไม้' ในภาษาโปรตุเกส นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เนินเขาที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นไปจนถึงหมู่บ้านที่สวยงามและดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ความงามตามธรรมชาติของเกาะทำให้มันได้รับฉายาอันต่าง ๆ เช่น 'สวนลอยฟ้าบนมหาสมุทรแอตแลนติก' และ 'เกาะแห่งฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีที่สิ้นสุด' การเดินทางสำรวจเกาะนี้ถือเป็นการผจญภัยที่น่าจดจำ พร้อมกิจกรรมมากมายที่จัดเตรียมขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์และความงดงามของที่นี่ ฟุนชาลไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูที่คุณจะได้สัมผัสกับความงามและอารยธรรมที่หลากหลายของโปรตุเกสอย่างแท้จริง


ท่าเรือพอนตาเดลกาดา ในหมู่เกาะอะโซร์ของโปรตุเกส เป็นจุดแวะพักที่สำคัญสำหรับนักเดินทางที่ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก ด้วยความงดงามของภูมิประเทศที่เกิดจากภูเขาไฟ และธรรมชาติที่เขียวชอุ่ม ในช่วงฤดูร้อน คุณจะได้เห็นดอกไฮเดรนเยียที่บานสะพรั่ง ประดับประดาสถานที่ด้วยสีสันต่าง ๆ ยินดีต้อนรับนักเดินทางด้วยสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น เช่น โบสถ์เซาโฮเซ ที่มีฟาซาดสีดำและขาว กระตุ้นให้คุณสำรวจเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่น นอกจากนี้ ตลาดท้องถิ่นยังมีสินค้าท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น สับปะรดที่หวานหอม ใบชาคุณภาพ และเมล็ดกาแฟที่เสิร์ฟความรสชาติแก่นักชิม ท่ามกลางการเดินเล่นบนดินที่มั่นคงหลังการเดินทางบนทะเล เต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาสในการลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่และช้อปปิ้งของฝากที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ที่รักการผจญภัย การเดินทางไปยังแคลเดอรา ดาส เซเต้ ซิตาดัส เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด สัมผัสกับเส้นทางเดินป่าที่นำไปสู่ทะเลสาบในปล่องภูเขาไฟ พร้อมชมวิวทิวทัศน์อันน่าหลงใหลของทะเลแอตแลนติกที่กว้างใหญ่ รอคอยให้คุณมาเป็นเจ้าของประสบการณ์อันล้ำค่าในราชอาณาจักรแห่งธรรมชาติที่สวยงามแห่งนี้

ฮอร์ตา ตั้งอยู่บนเกาะฟาอัลในหมู่เกาะอะซอร์ส เป็นท่าเรือที่ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยศิลปะที่โดดเด่น สะท้อนถึงประสบการณ์และเรื่องราวของนักเดินเรือจากทั่วทุกมุมโลกที่ทิ้งไว้บนท่าเรือคอนกรีต ภายในใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติกห่างจากแผ่นดินใหญ่โปรตุเกสถึง 1,100 ไมล์ ฮอร์ตาถือเป็นจุดพักผ่อนชั้นยอดสำหรับเรือยอชท์ที่ข้ามมหาสมุทร เป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในโลก ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟปิโกที่โดดเด่นจากเกาะข้างเคียงได้อย่างงดงาม หากต้องการชมวิวที่สวยที่สุด คุณไม่ควรพลาดการขึ้นไปยังแคลเดรล ที่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันล้ำค่า มีโอกาสชมทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่รังสรรค์ขึ้นจากภูเขาไฟ อีกทั้งยังมีความสวยงามของดอกไม้ป่าและต้นไม้เขียวชอุ่มที่ให้ชีวิตชีวาแก่พื้นที่ นอกจากนี้ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ฟาอัล ที่มอบโอกาสให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับพืชพื้นเมืองและชมความงามของดอกไฮเดรนเยียสีน้ำเงินที่กระจายอยู่ทั่วเกาะ ฮอร์ตาเป็นสถานที่ที่รวมความสง่างามของธรรมชาติและเรื่องราวของนักเดินทางที่อัดแน่นไปด้วยแรงบันดาลใจ รอคอยที่จะให้คุณได้ค้นพบและสัมผัสเองในโลกแห่งความฝันนี้


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!















เจ้าของสวีท (Owner’s Suite) ให้ความรู้สึกหรูหราและมีสไตล์เหมือนวิลล่าตามชายฝั่งที่น่าทึ่ง โดยมีพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางฟุต แต่ละห้องมีพื้นที่นั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องนอนหลัก และห้องน้ำสองห้อง การตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์เนอร์และการตกแต่งที่งดงามสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบกลางทะเล มีเทอเรซแยกสำหรับพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน พร้อมด้วยหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่มอบทิวทัศน์ที่น่าหลงใหลให้คุณได้ชมความงามของทะเลรอบตัว ห้องสวีททุกห้องยังรวมบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง และมีพื้นที่กว้างขวางเป็นพิเศษ ทำให้ประสบการณ์การเข้าพักในห้องสวีทนี้ไม่มีใครเปรียบเทียบได้ นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องสวีทแล้ว เจ้าของสวีทยังมีสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสำหรับกระเป๋าสูงสุด 3 ใบ การขึ้นเรือแบบมีความสำคัญพร้อมการจัดส่งกระเป๋าอย่างรวดเร็ว การเข้าถึงห้องเลาจน์พิเศษที่มีบริการเครื่องดื่มฟรีตลอดทั้งวัน และบาร์ในห้องพักที่จัดเตรียมไว้อย่างดี มีแชมเปญต้อนรับ ผลไม้สดที่เติมได้ทุกวัน การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ได้ก่อนใคร รวมถึงการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีบริการไอแพดให้ยืมตามคำขอ ระบบความบันเทิงที่ปรับแต่งได้ และชุดของขวัญจาก Bulgari รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ไม่มีใครเหมือน เพื่อให้การเข้าพักของคุณเพียบพร้อมด้วยความสะดวกสบายและความหรูหราอย่างแท้จริง








วิสตา สวีทเป็นห้องสูทสุดหรูที่ได้รับการออกแบบภายในอย่างประณีต เหมือนกับบ้านสุดหรูในย่านปาร์คอเวนิว บนเรือสำราญและตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุด มองเห็นด้านหน้าเรือ ห้องสูทขนาด 1,200 ถึง 1,500 ตารางฟุตนี้มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ห้องโคลเซตขนาดใหญ่ เตียงคิงไซส์ ห้องน้ำที่สองสำหรับผู้มาเยือน สปาในและกลางแจ้ง รวมถึงห้องฟิตเนสส่วนตัว นอกจากนี้ผู้เข้าพักยังสามารถใช้บริการห้องเลานจ์พิเศษที่มีบัตเลอร์บริการ 24 ชั่วโมง โดยในห้องจะมีบาร์ส่วนตัวที่จัดตั้งเครื่องดื่มคุณภาพสูงและไวน์ไว้ พร้อมด้วยขนม และผลไม้สดที่เติมให้ทุกวัน อีกทั้งยังมีสิทธิประโยชน์ในการสำรองร้านอาหารพิเศษอย่างรวดเร็ว พร้อมการเข้าถึงแอควอมา สปา เทอเรซ อย่างไม่จำกัด อิ่มเอมไปกับความสะดวกสบายที่ไม่มีที่สิ้นสุดในวิสตา สวีท

โอเชียนเนียสวีทเป็นห้องสวีทที่หรูหราของเรือสำราญ ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางฟุต ทุกห้องมีการออกแบบอย่างมีระดับและเฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์ ห้องสวีทนี้ประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, ห้องสื่อที่มีอุปกรณ์ครบครัน, ห้องเสื้อผ้าขนาดใหญ่, เตียงขนาดคิงไซส์, ระเบียงส่วนตัวขนาดกว้าง, สปาน้ำวนทั้งในบ้านและกลางแจ้ง รวมถึงห้องน้ำอีกห้องสำหรับแขก พร้อมด้วยการเข้าถึงเลานจ์ส่วนตัวสำหรับผู้บริหารที่มีนิตยสาร, หนังสือพิมพ์, เครื่องดื่มและขนมกลางวันให้บริการ นอกจากนี้ยังมีบริการพิเศษเช่น บริการซักรีดฟรี, การขึ้นเรือในเวลา 11:00 น. ด้วยลำดับความสำคัญ, บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, บาร์ในห้องพักพร้อมเครื่องดื่มนำเข้าคุณภาพสูง, และบริการต่างๆ ที่ปรับให้เหมาะกับความต้องการของแขก เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีบริการจองห้องอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า, การเข้าถึงสปา Aquamar Terrace อย่างไม่จำกัด, พร้อมด้วยของขวัญจาก Bulgari, ผ้าห่มขนแคชเมียร์และตัวเลือกหมอนพิเศษ โอเชียนเนียสวีทจึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสการเดินทางสุดหรูและความสะดวกสบายอย่างแท้จริงบนเรือสำราญของเรา
เพนท์เฮาส์สวีทเป็นความงามแห่งการตกแต่งที่ลงตัวและหรูหรา ขนาดกว้างขวางถึง 440 ตารางฟุต ภายในห้องมีฟีเจอร์ที่น่าทึ่งมากมาย เช่น ระบบไฟที่ปรับแต่งได้ โต๊ะรับประทานอาหาร มุมพักผ่อนที่แยกออกจากกัน ตู้เสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ระเบียงไม้สักส่วนตัว และห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนซึ่งมีพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมและฝักบัวที่ขยายเพื่อมอบประสบการณ์การพักผ่อนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังสามารถเพลิดเพลินกับการบริการจากพนักงานคอนเซียร์จที่ม dedicated และเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในเลานจ์พิเศษสำหรับผู้บริหารได้โดยตรง สำหรับผู้เข้าพักในเพนท์เฮาส์สวีท ยังได้รับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 ถุงต่อห้อง บัตรเข้าถึงเลานจ์พิเศษที่มีกาแฟและขนมขบเคี้ยวตลอดทั้งวัน การบริการคนรับใช้ตลอด 24 ชั่วโมง ขวดแชมเปญต้อนรับที่มีให้ฟรี และการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด พร้อมผ้าห่มขนแคชเมียร์ และบริการขัดรองเท้าฟรี เพนท์เฮาส์สวีทจึงไม่ใช่แค่ที่พัก แต่เป็นประสบการณ์ที่เหนือระดับสำหรับการเดินทางอันเป็นเอกลักษณ์บนเรือสำราญที่หรูหรา.




คอนเซียร์จเวอเรนด้าเสตเตอร์รูม ของเรามีขนาด 282 ตารางฟุต เต็มไปด้วยการตกแต่งที่สวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหราที่สามารถพบได้ในเพนท์เฮาส์สวีท ซึ่งรวมถึงระเบียงส่วนตัว, โซฟานุ่มสบาย, มินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มเย็น, และห้องน้ำขนาดใหญ่ที่หุ้มด้วยหินอ่อนและแกรนิต พร้อมฝักบัวที่กว้างขวาง นอกจากนี้แขกผู้เข้าพักยังสามารถเข้าถึงเลานจ์คอนเซียร์จส่วนตัวที่มีคอนเซียร์จประจำตัวให้บริการ พร้อมด้วยนิตยสาร, หนังสือพิมพ์ประจำวัน, เครื่องดื่ม, และขนมขบเคี้ยวตลอดทั้งวัน การเข้าถึงสิทธิพิเศษสำหรับคอนเซียร์จนั้นเพิ่มเติมจากสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพัก ซึ่งรวมถึงเมนูบริการรูมเซอร์วิสสำหรับมื้อกลางวันและมื้อเย็นที่ขยายออกจาก The Grand Dining Room, บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก, การขึ้นเรือในช่วงเที่ยงด้วยสิทธิพิเศษ, การเข้าถึงเลานจ์คอนเซียร์จที่มีบริการเครื่องดื่มฟรีตลอดวัน, ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญ, การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace ได้ไม่จำกัด และบริการอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการให้ iPad ประกอบความบันเทิงระหว่างการเดินทาง ตามคำขอเป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสูบบุหรี่ในห้องพักและระเบียงเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทุกการเข้าพักเป็นไปอย่างราบรื่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยความสะดวกสบายในระหว่างที่อยู่บนเรือของเรา




ห้องสเตเตอร์รูมระเบียงขนาด 291 ตารางฟุตของเราเป็นห้องพักขนาดใหญ่ที่สุดในทะเล ภายในห้องมีระเบียงส่วนตัวที่ตกแต่งอย่างสะดวกสบาย ซึ่งถือเป็นความหรูหราที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ห้องพักทุกห้องมาพร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่มีความสะดวกสบาย มินิบาร์ที่มีการรีเฟรชเครื่องดื่มอัดลมฟรีทุกวัน ตู้เสื้อผ้าขนาดกว้างขวาง และห้องน้ำที่ประดับด้วยหินอ่อนและหินแกรนิตซึ่งมีอ่างอาบน้ำและฝักบัว ห้องสเตเตอร์รูมระเบียงยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่เหมือนใคร เช่น เตียงทรanquility ที่มีผ้าลินิน 1,000 เส้นด้าย บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง บริการทำความสะอาดสองครั้งต่อวัน และช็อคโกแลตเบลเยียมในช่วงเวลาปิดเตียง นอกจากนี้ยังมีระบบโทรทัศน์แบบโต้ตอบที่สามารถรับชมภาพยนตร์ตามความต้องการ รวมถึงการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและการบริการโทรศัพท์มือถือ คุณสามารถเพลิดเพลินกับผ้าขนหนูที่ทำจากผ้าฝ้ายเนื้อดีและเสื้อคลุมอาบน้ำที่หนานุ่ม รวมถึงปลอกผ้าขนหนูและเครื่องเป่าผมที่สามารถใช้ได้สะดวก ใส่ใจในความปลอดภัย ห้องพักยังมีเซฟส่วนตัวให้ด้วย อย่างไรก็ตาม การสูบบุหรี่ในห้องพัก ระเบียง และห้องสวีทถูกห้ามโดยเด็ดขาด

ห้องพักดูทะเลแบบหรูมีขนาด 242 ตารางฟุต โดดเด่นด้วยหน้าต่างแบบพาโนรามาขนาดใหญ่จากพื้นจรดเพดานที่สามารถเปิดเพื่อชมวิวทะเลอันงดงามได้อย่างเต็มตา ห้องพักนี้มีพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะอาหารเช้า มินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มเย็น และห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนและหินแกรนิตพร้อมฝักบัว ห้องพักมีการบริการที่หลากหลายเพื่อความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่เติมให้ฟรีทุกวันในมินิบาร์ บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง เตียง Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises อุปกรณ์ Bulgari บริการทำความสะอาด 2 ครั้งต่อวัน และระบบโทรทัศน์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือ โต๊ะเขียนหนังสือพร้อมอุปกรณ์เขียน ผ้าขนหนู ผ้าชุดนอน และรองเท้าสำหรับใช้ในห้องพักเพื่อความสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีตู้นิรภัยและช็อคโกแลตพรีเมี่ยมในเวลาปิดเตียงเพื่อเพิ่มสัมผัสหรูหรา ห้องพักนี้ยังมีคุณสมบัติการเข้าถึงที่ตอบสนองต่อความต้องการ โดยมีห้องน้ำที่ออกแบบให้เข้าถึงได้ง่ายและมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ。การสูบบุหรี่ในห้องพักและระเบียงถือเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างเคร่งครัด


ห้องพักภายในนี้มีพื้นที่กว้างขวางถึง 174 ตารางฟุต ซึ่งออกแบบอย่างหรูหราและตกแต่งอย่างมีสไตล์เพื่อเพิ่มความเงียบสงบและสันติสุขในระหว่างการเดินทางของคุณ ภายในห้องมีห้องน้ำที่มีการตกแต่งด้วยหินอ่อนและหินแกรนิต มีอ่างอาบน้ำ และช่องอาบน้ำกว้างขวาง พร้อมทั้งมีมุมทำงาน โต๊ะอาหารเช้า และมินิบาร์เย็นที่มีเครื่องดื่มซอฟต์ดริงค์เติมให้อย่างฟรีทุกวัน นอกจากนี้ยังมีน้ำดื่มสะอาดและน้ำอัดลม Vero Water ให้บริการฟรี ท่านจะได้รับการบริการห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับเตียง Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises และยังมีผลิตภัณฑ์อาบน้ำสุดหรูให้ใช้บริการอีกด้วย การบริการทำความสะอาดห้องพักมีถึงวันละสองครั้ง ระบบทีวีแบบอินเทอร์แอกทีฟมีภาพยนตร์ให้เลือกชม Weather และอีกมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถเข้าใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีมุมเขียนงานพร้อมอุปกรณ์เขียน ใหญ่หรูอย่างผ้าขนหนู ผ้าปู และรองเท้าสลิปเปอร์ที่ทำจากผ้าฝ้ายคุณภาพสูง เครื่องอบผม และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีช็อคโกแลตชั้นดีบริการในช่วงเย็น ทำให้ท่านได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ในห้องพักอันสวยงามนี้