
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชเนีย นอโตกระ
โอเชียเนีย ครูซส์


ไมอามี่ เมืองพักผ่อนระดับโลกที่ไม่มีวันลืม มอบประสบการณ์หลากหลายไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ชายหาดอันงดงาม มรดกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และแหล่งช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางของวัฒนธรรมลาติน ซึ่งมีร้านอาหารคิวบาอร่อยๆ และคาเฟ่ที่น่าสนใจให้คุณได้สัมผัสรสชาติอันอร่อย เมื่อเรือสำราญแวะจอดที่ท่าเรือไมอามี่ คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางอันน่าจดจำได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นตามชายหาดที่มีชื่อเสียง เช่น ไซด์บีช หรือสำรวจพิพิธภัณฑสถานที่มีชื่อเสียงซึ่งจัดแสดงศิลปะจากทั่วทุกมุมโลก ที่นี่ยังมีสปารีสอร์ทให้คุณได้ผ่อนคลาย พร้อมกับกิจกรรมต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไมอามี่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการให้ชีวิตมีสีสันและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ มาเปิดประตูสู่การผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ในเมืองที่มีเสน่ห์แห่งนี้กันเถอะ!


ฮามิลตัน เมืองหลวงของเบอร์มิวด้า อาจไม่ใช่เมืองใหญ่ที่มีประชากรมากมาย แต่กลับมีชีวิตชีวาเต็มเปี่ยมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และสำนักงานที่น่าสนใจ ส่งเสริมให้เมืองนี้มีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพลัง แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ฮามิลตันเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะในด้านการเงิน การประกันภัย และการจัดการทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งช่วยให้ที่นี่มีความทันสมัยและมีเสน่ห์เป็นพิเศษ นอกจากฮามิลตันแล้ว พื้นที่ใกล้เคียงอย่างพาจัตต์ วอร์วิค และเดวอนเชียร์ ยังเติมเต็มความหลากหลายระหว่างการพักผ่อนในธรรมชาติและชายหาดที่สวยงาม คุณสามารถเดินทางไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ เหล่านี้ได้สะดวกโดยใช้บริการรถบัสและเรือเฟอร์รี่ที่เชื่อมต่อกัน ทำให้สามารถหลีกหนีจากการท่องเที่ยวที่คึกคักในเมืองได้อย่างรวดเร็ว สัมผัสประสบการณ์สำคัญของเบอร์มิวด้าในฮามิลตัน ให้คุณได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมท้องถิ่นและความงามทางธรรมชาติ เพื่อตอบสนองความใฝ่ฝันในการเดินทางที่หรูหราและน่าจดจำ ไม่ว่าคุณจะสำรวจทางเดินริมทะเล หรือเพลิดเพลินกับอาหารทะเลที่สดใหม่ ทริปนี้จะทำให้คุณประทับใจในทุกช่วงเวลาอย่างแน่นอน


เมื่อพูดถึงการเดินทางไปยังท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจในยุโรป ท่าเรือฟุนชาลที่ตั้งอยู่ในมอริกาขอแนะนำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของเกาะมาเดราที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ เมืองฟุนชาลเป็นเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ ซึ่งถูกค้นพบโดยนักสำรวจชาวโปรตุเกส João Gonçalves Zarco ในปี 1419 และตั้งอยู่ห่างจากแม่น้ำโคปเรซัลในนามของการค้า โดยเกาะนี้ได้รับชื่อว่า 'มาเดรา' ซึ่งแปลว่า 'ไม้' ในภาษาโปรตุเกส นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่หลากหลาย ตั้งแต่เนินเขาที่เต็มไปด้วยไร่องุ่นไปจนถึงหมู่บ้านที่สวยงามและดอกไม้ที่บานสะพรั่ง ความงามตามธรรมชาติของเกาะทำให้มันได้รับฉายาอันต่าง ๆ เช่น 'สวนลอยฟ้าบนมหาสมุทรแอตแลนติก' และ 'เกาะแห่งฤดูใบไม้ผลิที่ไม่มีที่สิ้นสุด' การเดินทางสำรวจเกาะนี้ถือเป็นการผจญภัยที่น่าจดจำ พร้อมกิจกรรมมากมายที่จัดเตรียมขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์และความงดงามของที่นี่ ฟุนชาลไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางของการล่องเรือสำราญ แต่ยังเป็นประตูที่คุณจะได้สัมผัสกับความงามและอารยธรรมที่หลากหลายของโปรตุเกสอย่างแท้จริง

ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ เป็นท่าเรือที่สำคัญในเกาะเทเนริเฟ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะคานารี ประเทศสเปน สถานที่นี้มีเสน่ห์โดดเด่นด้วยแสงอาทิตย์ที่สดใสตลอดทั้งปี และมีภูเขาเทอิดที่เป็นไฮไลต์ของเกาะ ตั้งอยู่ใจกลางเกาะ แวดล้อมด้วยหุบเขาเขียวขจีที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซานตาครูซซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็ก ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นเมืองที่ทันสมัย โดยมีสถาปัตยกรรมที่งดงามจากศตวรรษที่ 16 ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นด้วยความพิถีพิถัน ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีสวนพฤกษศาสตร์ซานตาครูซ ปาเลมตัม ที่มีพื้นที่กว้างขวางถึง 29 เอเคอร์ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นปาล์มหลากหลายสายพันธุ์ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นและสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด หากคุณมาที่นี่ อย่าลืมสัมผัสบรรยากาศของเมือง และชื่นชมความงามของภูเขาเทอิดซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาด ด้วยประสบการณ์ที่น่าจดจำและความสวยงามแห่งธรรมชาติ ซานตาครูซ เดอ เทเนริเฟ จึงเป็นปลายทางที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มองหาการผจญภัยในสเปน

ลันซาโรเต (Lanzarote) เป็นเกาะที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามแห่งหนึ่งในสเปน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ชีวมณฑลยูเนสโก (UNESCO Biosphere Reserve) เกาะนี้มีภูมิประเทศที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟในอดีต จึงมีลักษณะพื้นผิวที่โดดเด่นและน่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ ตลอดชายหาดที่สวยงามและสภาพอากาศที่แทบไม่มีฝน ทำให้ลันซาโรเตกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ท่าเรือหลักและเมืองหลวงของเกาะคือ อาเรซีเฟ (Arrecife) นั้นมีบรรยากาศที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยสวนสวยและริมน้ำที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอยู่รอบเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแอ่งเกลือจานูเบียนที่มีสีขาวสว่างและภูเขาไฟไฟร์ที่มีทิวทัศน์ที่ดึงดูด ขับรถออกไปจากตัวเมืองก็จะพบกับถ้ำโลสเวอร์เดสที่มีบรรยากาศน่าขนลุก รวมถึงหมู่บ้านชาวประมงที่ยังคงสงบเงียบซึ่งถูกประดับแต่งด้วยความงามธรรมชาติ นอกจากนี้ เกาะลันซาโรเตยังเป็นที่รู้จักในด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งรวมถึงถั่วชิกพีสตูว์ (garbanzos compuestos) และมันฝรั่งกับผัก (papas arrugadas) ที่รสชาติสดใส ก่อนออกไปสำรวจ ให้ระวังโปรแกรมทัวร์ เพื่อให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลือนในเกาะแห่งนี้อย่างเต็มที่

อากาดีร์ เมืองท่าที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก สวยงามด้วยแนวชายหาดโค้งมน และถูกล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอตลาส ที่นี่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ตั้งแต่สมัยปลายศตวรรษที่ 15 เมื่อชาวโปรตุเกสสร้างป้อมขึ้น โดยตั้งชื่อว่า ซานตาครูซ เดอ กีร์ นับตั้งแต่นั้นเมืองนี้ได้เติบโตเป็นท่าเรือที่มีชีวิตชีวาและรุ่งเรือง ในปี 1911 เมืองอากาดีร์กลายเป็นจุดสนใจระดับโลกเมื่อเรือประจัญบานของเยอรมนีเข้ามาในอ่าวเพื่อประท้วงการแบ่งพื้นที่ในแอฟริกาเหนือ ปัจจุบัน เมืองนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นหลังจากการได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี 1956 และยังต้องเผชิญกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวในปี 1960 แต่ก็ได้ฟื้นตัวได้อย่างสง่างาม เมืองอากาดีร์เติมเต็มด้วยชายหาดทรายขาวละเอียด โรงแรมหรู และร้านอาหารที่มีสไตล์ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถสัมผัสกับตลาดซุก (souks) ที่เต็มไปด้วยสินค้าท้องถิ่น สามารถทำให้คุณได้ช้อปปิ้งอย่างมีสีสัน ในขณะที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าก็พร้อมที่จะให้บริการคุณตลอดเวลา แค่เพียงก้าวแรก คุณจะได้พบกับมนตร์เสน่ห์ของอากาดีร์ ที่รอให้นักเดินทางอย่างคุณสัมผัสและสัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำในดินแดนแห่งนี้


ท่าเรือลิสบอนตั้งอยู่ริมน้ำแทกุส สร้างขึ้นบนเนินเขาสูงเจ็ดลูก ซึ่งทำให้ลิสบอนกลายเป็นเมืองที่งดงามและเปล่งประกายด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่หลากหลายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งรถรางไม้ที่ให้บรรยากาศย้อนยุค อันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ ท่านจะได้เดินเล่นใน Praça do Comércio ซึ่งคือจัตุรัสอันกว้างใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ที่ถูกออกแบบให้สวยงามโดยมาร์คิวสแห่งปอมบาล หลังจากแผ่นดินไหวที่ทำลายล้างในศตวรรษที่ 18 การเยี่ยมชมลิสบอนจึงไม่เพียงแค่ชมความงามพระอาทิตย์ตกแบบโรแมนติกใต้สะพาน 25 Abril แต่ยังมีกิจกรรมช้อปปิ้งและสัมผัสวัฒนธรรมในเมืองเก่า ที่สร้างอยู่บนเนินเขาที่ลาดเอียง การแวะเยือนของเรือสำราญที่ท่าเรือลิสบอนทำให้ท่านมีโอกาสสัมผัสทั้งวัฒนธรรมและความงามของเมืองที่ไม่สิ้นสุด ซึ่งรอให้คุณได้ค้นพบในทุกมุมถนน รับประสบการณ์อันหรูหราจากการเดินทางในครั้งนี้ และสัมผัสความมหัศจรรย์ของลิสบอนที่สามารถทำให้หัวใจคุณเต้นแรงได้ในทุก ๆ ช่วงเวลา

พอร์ติมาน (Portimão) เมืองท่าสำคัญของโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลที่สวยงาม ได้รับการลงทุนอย่างมากในการพัฒนาเป็นท่าเรือสำราญที่น่าสนใจพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากจะเป็นศูนย์กลางการประมงที่สำคัญแล้ว พอร์ติมานยังมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล ด้วยถนนช้อปปิ้งที่หลากหลายและบรรยากาศที่กว้างขวางถึงจะมีธุรกิจบางแห่งต้องปิดตัวลงไป แต่ความมีชีวิตชีวาของเมืองนี้ยังคงน่าดึงดูดอยู่ แนะนำให้คุณใช้เวลาสักครู่ในการเดินเล่นที่ริมน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสะพานเก่าและสะพานรถไฟ เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสำรวจการล่องเรือชมชายฝั่งที่งดงาม และอย่าลืมแวะจิบกาแฟหรือทานอาหารกลางแจ้งที่คาเฟ่ Doca da Sardinha ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์อันยอดเยี่ยมของการรับประทานปลาซาร์ดีนย่างบนเตา พร้อมกับขนมปังสดและไวน์ท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณอิ่มท้อง แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำที่ยากจะลืมอีกด้วย พอร์ติมานจึงไม่ใช่เพียงแค่จุดแวะพักระหว่างการเดินทาง แต่คือแรงบันดาลใจใหม่ในการสำรวจวัฒนธรรม อาหาร และทิวทัศน์ที่สืบทอดต่อกันมาในโปรตุเกส.

เซบียา หรือที่รู้จักในชื่อ Seville เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,200 ปี ตั้งอยู่ในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เมืองนี้ไม่เพียงแค่เป็นที่รู้จักในเรื่องฟลาเมงโก้ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ แต่ยังมีมรดกโลกที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกถึงสามแห่ง ซึ่งทำให้เซบียาเป็นจุดหมายที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เมืองนี้ยังเป็นสถานที่ที่เคยเป็นบ้านเกิดของศิลปินชื่อดัง ดิเอโก้ เวลาซเกซ และเป็นที่ฝังศพของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นอกจากนั้น เซบียายังเป็นแรงบันดาลใจในผลงานของบิซเซต์ "คาร์เมน" และเคยเป็นฉากในซีรีส์ Game of Thrones ที่ได้รับความนิยมอีกด้วย สัมผัสความงดงามของเซบียาในถนนที่มีอายุนับศตวรรษ ที่นำเสนอร้านทาปาสเล็กๆ ที่เสิร์ฟอาหารที่อาจถือได้ว่าอร่อยที่สุดในดินแดนใต้ของมาดริด พร้อมกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมมูเดฆาร์และสวนที่เต็มไปด้วยน้ำพุและต้นปาล์ม ที่นี่คือโลกแห่งความฝันที่พร้อมให้คุณสำรวจและดื่มด่ำกับวัฒนธรรมอันหลากหลายของสเปนอย่างแท้จริง

ท่าเรือแทนเจียร์ ประเทศโมร็อกโก ตั้งอยู่ ณ จุดกรอบของมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งแต่สมัยฟินิเชียนและกรีกโบราณ แทนเจียร์ได้รับชื่อมาจาก Tinge มารดาของฮีราคลิทัส สัญลักษณ์แห่งตำนานที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งปรากฏชัดตั้งแต่อดีตเมื่อเคยเป็นจังหวัดของโรมันและผ่านการปกครองจากหลายประเทศ รวมถึงสเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอังกฤษ เมืองแทนเจียร์ตั้งอยู่บนชายฝั่งที่มองเห็นช่องแคบยิบรอลตาร์ และถือเป็นจุดเชื่อมโยงสองทวีป ทำให้เป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพงดงามสุดตระการตา ไม่ว่าคุณจะสำรวจเมืองเก่ากับซุ้มประตูที่สวยงาม หรือเดินเล่นอย่างสบายในย่านใหม่ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่เก๋ไก๋ คุณจะพบกับศิลปะและวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว สำรวจด้านต่างๆ ของเมืองผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น ชิมอาหารท้องถิ่นที่อร่อย หรือเยี่ยมชมตลาดพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ลงทุนในประสบการณ์ที่ให้คุณเข้าใจลึกซึ้งในจิตวิญญาณของแทนเจียร์ เรียนรู้ที่จะรักในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมิตรภาพที่อบอุ่นของชาวเมือง แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงเสน่ห์ที่ซ่อนเร้นของเมืองนี้ในทุกก้าวที่คุณเดินทาง

ท่าเรือจิบรัลตาร์ ตั้งอยู่ที่จุดสิ้นสุดของคาบสมุทรไอบีเรีย เป็นจุดหมายที่น่าตื่นตาตื่นใจของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ โดยมี "หินจิบรัลตาร์" ที่สูงถึง 1,400 ฟุต ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของเมืองนี้ จิบรัลตาร์เป็นสถานที่ที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ ตั้งอยู่บริเวณที่มหาสมุทรแอตแลนติกพบกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และห่างจากชายฝั่งของแอฟริกาเพียง 12 ไมล์ ในจิบรัลตาร์ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการชอปปิ้งสินค้าปลอดภาษี ซึ่งมีร้านค้าแบรนด์ดังในสไตล์อังกฤษที่คุ้นเคย ร่วมสัมผัสบรรยากาศที่เป็นกันเองและสบายเหมือนบ้านที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกมาเยือน สำหรับการสำรวจทัศนียภาพ ท่าเรือขนาดเล็กและถนนที่คดเคี้ยวทำให้การเดินทางสะดวกสบายยิ่งขึ้น ด้วยรถมินิบัสที่รองรับผู้โดยสารในจำนวนจำกัด โดยจะมีคนขับ/ไกด์คอยบริการนักท่องเที่ยว หากคุณต้องการความสะดวกในการเคลื่อนไหว สามารถจัดทัวร์ “Rock Tour” โดยแท็กซี่ที่มีพื้นที่เพิ่มเติมได้ จิบรัลตาร์ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่บ้านเกิดของนักเดินทาง แต่เป็นสถานที่เติมเต็มความฝันที่รอให้คุณมาเยือนและสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร!

เมื่อคุณขึ้นเรือเข้ามาสู่ท่าเรือมาลาก้า คุณจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งที่มีชื่อเสียงแห่งคอสตา เดล โซล (Costa del Sol) เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตั้งอยู่ในภูมิภาคลาซาร์กวา (La Axarquía) ที่มีกระท่อมประมง หากพูดถึงความเป็นแบบดั้งเดิมของสเปน นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านและทุ่งนา ที่รอให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศชวนฝัน มาลาก้ายังเป็นศูนย์กลางการเข้าถึงเมืองต่าง ๆ ของอันดาลูเซียที่มีเสน่ห์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่น่าทึ่ง เช่น กรานาดาและเซบีย่า ในขณะที่ภูเขาเพนิเบติกา (Penibética) เป็นฉากหลังที่งดงาม ปกป้องเมืองจากลมหนาวจากทางเหนือ ทำให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสถานที่หลบภัยที่มีเสน่ห์และรักษาความอบอุ่นได้ตลอดทั้งปี มาลาก้าไม่เพียงแค่เป็นสถานที่ที่หยุดพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในสเปน ทั้งการชิมอาหารท้องถิ่นที่แสนอร่อย และการสำรวจความสวยงามของธรรมชาติที่รอให้คุณได้ค้นพบ เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับประสบการณ์ที่น่าจดจำภายใต้แสงแดดของคอสตา เดล โซล!

คาร์ตาเฆนา ตั้งอยู่ในภูมิภาคมูร์เซีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของสเปน เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และเป็นท่าเรือสำคัญของกองทัพเรือสเปน จากอ่าวที่เงียบสงบซึ่งเป็นที่พักพิงของเรือสินค้าต่าง ๆ มานานหลายศตวรรษ เมืองนี้ก่อตั้งโดยคาร์เธจในปี 223 ก่อนคริสต์ศักราช และได้รับชื่อว่า "การ์ตาโก โนวา" นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาณานิคมโรมันที่เฟื่องฟู จนกระทั่งขึ้นชื่อว่าเป็นศูนย์กลางการค้าของไบเซนไทน์อีกด้วย ในปัจจุบัน คาร์ตาเฆนายังคงมีความสำคัญด้านการทหาร ตั้งแต่สมัยของพระเจ้าเฟลิเป II ซึ่งได้สร้างกำแพงป้องกันเมืองเพื่อคุ้มครองท่าเรือ จนถึงยุคราชวงศ์บูร์บอนในศตวรรษที่ 18 เมืองนี้ยังคงมอบความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวด้วยโบราณสถานที่ฟื้นฟู เช่น โรงละครโรมันที่ได้รับการเปิดเผยและเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1988 เมื่อคุณมีเวลาว่าง อย่าลืมสัมผัสเสน่ห์ของคาร์ตาเฆนาผ่านการล่องเรือรอบท่าเรือที่มีประวัติศาสตร์ซึ่งให้บริการหลายครั้งต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ความงดงามของเมืองนี้จะทำให้คุณหลงรักและฝันถึงการกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

อาลิกันเต้ เมืองหลวงของจังหวัดวัลเลนเซีย เป็นประตูสู่การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลเข้ามายังรีสอร์ทในคอสตาบลังก้าทุกปี ด้วยภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่อบอุ่นและชายหาดทรายทองที่ยาวเหยียด อาลิกันเต้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนในวันหยุดพักผ่อนอย่างแท้จริง แต่เมืองนี้ยังมีเสน่ห์มากกว่านั้นอีกหลายประการ ริมทะเลที่งดงามของอาลิกันเต้ตัดกับวิวของปราสาทซานตาบาร์บาราที่ตั้งตระหง่านเหนือเมือง ซึ่งสื่อถึงประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและซับซ้อน ชวนให้คุณสำรวจเส้นทางเดินชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของชนชาติและวัฒนธรรมที่ริเริ่มมาจากหลากหลายยุคสมัย เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ชีวิตในอาลิกันเต้ยังคงคึกคักไม่หยุดนิ่ง ด้วยบรรยากาศของไนท์ไลฟ์ที่เต็มไปด้วยสีสันและร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารเมดิเตอร์เรเนียนรสเลิศครบครัน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในความสวยงามของธรรมชาติ หรือผู้ที่สนใจในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ อาลิกันเต้คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ประเทศสเปนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหล่านี้!

อิบิซา (Ibiza) เกาะสุดหรูแห่งประเทศสเปน โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่ผสมผสานทั้งความหรูหราของโลกสมัยใหม่กับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า อกเหนือท่าเรือคือเมือง Dalt Vila ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 1999 แวดล้อมไปด้วยกำแพงหินขนาดใหญ่ที่บ่งบอกถึงอารยธรรมโบราณ ภายในยังมีวิหารโกธิคที่สวยงามสะดุดตา การเดินเล่นใน Sa Penya คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ถนนหินปูนที่แสดงถึงความมีชีวิตชีวาของเมือง เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งสินค้าแนวสร้างสรรค์ ลิ้มลองขนมหวานท้องถิ่น และค้นพบรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าคุณจะเลือกนั่งชิลล์ในคาเฟ่ริมทะเล หรือเพลิดเพลินกับคืนเร้าใจในคลับชื่อดัง ความหลากหลายนี้สร้างเสน่ห์ให้กับอิบิซา การเยือนอิบิซาไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสกับความบันเทิง นอกจากนี้ยังเป็นการเดินทางสู่อดีตที่ทำให้คุณค้นพบความงามและวัฒนธรรมของเกาะแห่งนี้ในทุกมุมมอง เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในหัวใจของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน!

ปัลม่า เดอ มายอร์กา เมืองหลวงที่มีเสน่ห์ของเกาะมายอร์กาในสเปน เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เมื่อเดินทางมาที่ท่าเรือ ปัลม่า คุณจะได้พบกับคาเฟ่และร้านค้าแนวทันสมัยที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง การเยี่ยมชมโบสถ์ La Seu ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมือง จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรมโกธิคที่ล้ำค่าจริงๆ ไม่ไกลจากนั้น สวนสาธารณะ Parc de la Mar มอบบรรยากาศผ่อนคลาย ท่ามกลางวิวทะเลอันสวยงาม คุณสามารถเดินเล่นไปตามแนวกำแพงเมืองเก่า Ses Voltes ที่ไปตามรอบของโบสถ์พร้อมชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ฉายแสงสะท้อนบนหน้าผาอันงดงาม สำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ให้แวะชม Museu d'Es Baluard ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ผสมผสานระหว่างศิลปะและวิวทะเลอันน่าหลงใหล เมืองปัลม่าไม่เพียงแค่เป็นที่จอดเรือสำราญ แต่อย่างไรยังเป็นเวทีที่ให้คุณได้ค้นพบความงามและประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางที่ไม่มีวันลืมเลือน สัมผัสชีวิตในสไตล์ที่สุดขีด ณ ปัลม่า เดอ มายอร์กา และให้ความฝันของคุณเป็นจริงในดินแดนแห่งนี้!

บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!

ท่าเรือปาลาโมส ตั้งอยู่บนชายฝั่งคอสตาบราวาในสเปน เป็นจุดหมายที่หลอมรวมความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ตั้งอยู่ห่างจากบาร์เซโลนาประมาณ 36 ไมล์ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอ่าวธรรมชาติที่ลึกที่สุดในเมดิเตอร์เรเนียนตะวันตก ทำให้ที่นี่มีความสำคัญทั้งด้านการค้าวรรณกรรมและการประมง ด้วยบรรยากาศที่ยังคงความเป็นหมู่บ้านชาวประมง ปาลาโมสยังมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้มาเยือน ทั้งการเดินชมท่าเรือที่คึกคัก ที่นี่ยังมีกิจกรรมการประมูลปลา ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นอกจากนี้ผู้ที่รักศิลปะไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมเมืองฟิกูเรส ที่มีพิพิธภัณฑ์ดาลีชื่อดังซึ่งเป็นสถานที่แห่งแรกที่เชื่อมโยงกับศิลปินเซอร์เรียลลิสต์ ซัลวาดอร์ ดาลี การเดินทางมายังปาลาโมสไม่เพียงแต่เพื่อเพลิดเพลินกับชายหาดที่สวยงาม แต่ยังมีโอกาสที่จะสำรวจเมืองจิโรนา เมืองหลวงของจังหวัดที่ขึ้นชื่อด้านสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมอันร่ำรวย เต็มไปด้วยความหลงใหลในเรื่องราวและศิลปกรรมที่มีมายาวนาน ปาลาโมสจึงเป็นทางเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเริ่มต้นการเดินทางอันน่าตื่นเต้นในแคว้นคาตาลูญญา

ท่าเรือเซ็ต (Sète) ตั้งอยู่บนชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนของฝรั่งเศส เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีเสน่ห์ดึงดูดผู้มาเยือน เช่นเดียวกับการเป็นประตูสู่เมืองมงเปลลิเยร์ (Montpellier) ที่อยู่ใกล้เคียง ท่าเรือแห่งนี้ยังเปิดโอกาสให้คุณได้สำรวจแหล่งท่องเที่ยวที่น่าหลงใหลอื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น ปราสาทการ์กาซอน (Carcassonne) เมืองโบราณอายุกว่าศตวรรษ ที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงอาเกส มอร์ตส์ (Aigues Mortes) และอ๊บบาย เดอ ฟองฟรอยด์ (Abbaye de Fontfroide) ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ใจกลางทุ่งป่า เซ็ตยังเป็นท่าเรือประมงที่ใหญ่ที่สุดในเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้คุณได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวประมงในบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ใจกลางเมืองที่มีคลองทอดยาวทำให้การเดินเล่นเป็นเรื่องสนุกสนาน และหากคุณต้องการผ่อนคลาย ชายหาดพลาจ เดอ คอร์นีช (Plage de la Corniche) จะเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการว่ายน้ำในน้ำทะเลใสสะอาด สำหรับการมองเห็นทิวทัศน์รอบท่าเรือให้ชัดเจน สามารถขึ้นไปยังเขามองต์ เซนต์แคลร์ (Mont St-Clair) หรือเลส์ เปียร์เรส บลันช์ (Les Pierres Blanches) และเลือกชายหาดที่ต้องการนั่งพักผ่อน สัมผัสความสุขและเสน่ห์ของเซ็ตแล้วจะรู้ว่าที่นี่คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ฝรั่งเศส!

ท่าเรือมาร์เซย์ (Marseille) เมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงวัฒนธรรมแห่งยุโรปในปี 2013 ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างมหาศาล ด้วยการลงทุนกว่า 660 ล้านยูโร เพื่อสร้างศูนย์ศิลป์ใหม่ ๆ มากมาย ท่าเรือได้รับการปรับปรุงอย่างงดงาม ถนนหนทางและย่านต่าง ๆ กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชีวิตชีวา คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ มาร์เซย์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของฝรั่งเศส ซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา มีประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ตั้งแต่คราวที่ชาวฟินีเชียนและกรีกมายังท่าเรือในปี 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช จนกระทั่งสงครามและการเปลี่ยนแปลงมากมายได้สร้างรูปแบบใหม่ให้กับเมือง วันนี้ มาเยือนที่ท่าเรือเก่า (Vieux Port) คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลาย ทั้งร้านค้า หอศิลป์และร้านอาหารที่ลงทุนสร้างใหม่อย่างทันสมัย มาร์เซย์จึงไม่ใช่แค่ท่าเรือ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวของวัฒนธรรมที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่น หรือการแสดงศิลปะที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นเต้นและมีเสน่ห์ ต้องไม่พลาดที่จะเยือนมาร์เซย์ซึ่งเต็มไปด้วย charm และ history ที่คุณจะไม่มีวันลืม.

ท่าเรือแห่งเมืองทูลอน ประเทศฝรั่งเศส เป็นจุดหมายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง ตั้งอยู่ในภูมิภาคโปรวองซ์-อัลป์-โคตดาซูร์ ท่านจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน รายล้อมด้วยเทือกเขาหินที่เป็นเอกลักษณ์ ท่ามกลางความสวยงามทางธรรมชาติ เมืองทูลอนยังคงรักษาความเป็นเมืองท่าหลักที่สำคัญของฝรั่งเศส โดยมีท่าจอดเรือที่ทันสมัยและสะดวกสบาย สร้างบรรยากาศที่ เหมาะเจาะสำหรับการเริ่มต้นการผจญภัยในดินแดนอันหลากหลาย เมื่อมายังทูลอน อย่าพลาดที่จะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเช่น ป้อมคาโรลส์ที่มีอายุนับศตวรรษ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาและมอบวิวทิวทัศน์อันงดงามของทะเลสีน้ำเงิน นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามของนครหลวงการเดินเรือที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทำให้คุณรู้สึกถึงการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความทันสมัย ดื่มด่ำกับความอร่อยของอาหารพื้นเมือง ตั้งแต่ซีฟู้ดสดใหม่จนถึงไวน์ชั้นเลิศ ที่สามารถพบได้ในร้านอาหารที่ตั้งอยู่ชายทะเล สัมผัสถึงมิตรไมตรีและความอ่อนโยนของวิถีชีวิตที่เมืองทูลอนเป็นที่รู้จัก พร้อมที่จะออกเดินทาง สู่ประสบการณ์นี้ที่ท่าเรือทูลอน ที่จะทำให้คุณตกหลุมรักในความงดงามและความหลากหลายของฝรั่งเศสอย่างแน่นอน
เมื่อเดินทางมาถึงท่าเรือของอาจักซิโอ (Ajaccio) บนเกาะคอร์ซิกา คุณจะได้สัมผัสกับการหลอมรวมระหว่างประวัติศาสตร์และความงดงามตามธรรมชาติที่อิ่มเอมใจ ท่าเรือแห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางการค้าขายและวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของคอร์ซิกา โดยตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ห่างจากมาร์แซย์ประมาณ 644 กิโลเมตร เมืองที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1492 นี้มีความเกี่ยวพันกับนโปเลียน โบนาปาร์ต ซึ่งเป็นบุตรชายของเมืองที่มีชื่อเสียง บ้านเกิดของเขา ปัจจุบันคือพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ Maison Bonaparte ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และสูบฉีดแรงบันดาลใจให้ผู้มาเยือน ในย่านเมืองเก่า คุณจะพบกับซากความเป็นอาณานิคมเจนัวอันเก่าแก่ ที่ยังคงยืนหยัดอยู่รอบๆ ป้อมปราการและหอคอยที่โดดเด่น เมืองอาจักซิโอได้ชื่อว่าเป็นเมืองชายทะเลยอดนิยมที่มีทิวทัศน์ที่ร่มรื่นและชายหาดที่งดงาม พร้อมด้วยร้านเช่าเรือ แล่นไปยังท่าเรือ Tino Rossi ที่เป็นที่จอดเรือประมงและเรือใบสำราญที่ส่งความสุขแก่ผู้มาเยือนด้วยร้านอาหารและคาเฟ่ที่บริการอาหารท้องถิ่นที่สดใหม่ สำรวจความหรูหราและเสน่ห์ที่อาจักซิโอ ที่ซึ่งคุณสามารถสัมผัสทั้งความเป็นกระแสสังคมและความงามของธรรมชาติได้ในที่เดียว!

ท่าเรือโกลโฟ อารันชี (Golfo Aranci) ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี โดยเฉพาะในแคว้นซาร์ดิเนีย คือต้นกำเนิดที่น่าหลงใหลสำหรับนักเดินทางที่ปรารถนามอบความหวานให้กับการพักผ่อนหย่อนใจและสำรวจความสวยงามของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่นี่เป็นจุดหมายที่บูรณาการระหว่างการท่องเที่ยวทางทะเลที่ผ่อนคลายและความน่าตื่นเต้นของการผจญภัยในธรรมชาติ แต่สิ่งที่ทำให้โกลโฟ อารันชีโดดเด่นคือชายหาดที่เก่าแก่และงดงาม เช่น ชายหาดเฟอรี (Spiaggia di Marinella) และชายหาดชาร์ฟาร์โก (Spiaggia di Cala Sassari) ซึ่งด้วยน้ำทะเลใสสะอาด นอกจากนี้ยังมีบริการกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย อาทิเช่น การดำน้ำตื้นและการพายเรือคายัค ไม่เพียงเท่านั้น โกลโฟ อารันชียังมีเสน่ห์เมืองเล็ก ๆ เต็มไปด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่นำเสนอเมนูอาหารทะเลสดใหม่และไวน์ชั้นเลิศ ทำให้ผู้มาเยือนได้รับประสบการณ์ที่จับต้องได้ในวัฒนธรรมซาร์ดิเนีย อิ่มเอมกับบรรยากาศสบาย ๆ และความเป็นอยู่ที่แสนจะผ่อนคลายที่ท่าเรือนี้ เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่จะสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใครในโกลโฟ อารันชิ เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของอิตาลีที่ไม่มีวันลืมเลือน.

ท่าเรือปอร์โตฟิโน่ (Portofino) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของอิตาลี เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและความหรูหรา ที่มีชื่อเสียงในการเป็นสถานที่พักผ่อนของคนชั้นสูงและเซเลบริตี้ มันเคยเป็นอาณานิคมโรมันที่ได้รับการปกครองจากหลายชาติ ทั้งฝรั่งเศส อังกฤษ สเปน และออสเตรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นยุคของโจรสลัดที่มีชื่อเสียง ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่มีช่วงเวลาที่คึกคักมากนัก แม้ว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาจำนวนมากในช่วงกลางวัน แต่บรรยากาศในตอนเย็นจะกลับกลายเป็นบรรยากาศที่มีเสน่ห์ ด้วยการมองเห็นเรือยอชท์หรูหราที่ทอดอยู่บนผืนน้ำสีฟ้าของทะเลลิกูเรียน สิ่งที่นักท่องเที่ยวทำได้ที่ปอร์โตฟิโน่มักจะเป็นการเดินเล่นรอบท่าเรือ ชมนครที่มีปราสาท และสัมผัสกับสวนสวยที่อยู่เหนือน้ำ หากคุณไม่ต้องการใช้จ่ายมากเกินไป การพักที่เมืองคามอจี (Camogli) หรือซานต้า มาร์เกอรีต้า ลิกูเร่ (Santa Margherita Ligure) อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อาหารที่นี่ไม่ว่าจะเป็นร้านหรือคาเฟ่ก็มีราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่มีเสน่ห์และน่าจดจำที่ปอร์โตฟิโน่ แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งนี้คือแหล่งรวมของความงามตามธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย รอให้คุณไปค้นพบ!

ลิเวอร์โน่ (Livorno) เป็นท่าเรือที่นับเป็นเพชรเม็ดงามของอิตาลี และได้เปลี่ยนผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีต เมืองนี้เริ่มต้นจากการที่เคยถูกแบ่งเป็นของปิซาและเจนัว ก่อนที่จะถูกซื้อโดยฟลอเรนซ์ในปี 1421 เพื่อเปิดเส้นทางสู่ทะเล คอสิโมที่ 1 ได้เริ่มก่อสร้างท่าเรือในปี 1571 ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางทางทะเลสำคัญ ตลอดศตวรรษที่ 18 ลิเวอร์โน่เจริญรุ่งเรืองเป็นท่าเรือที่สำคัญ โดยเป็นที่ตั้งของกลุ่มคนหลากหลายเชื้อชาติ เช่น ชาวโรมันคาทอลิกจากอังกฤษ และชาวยิวและมอริชจากสเปน นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์ Quattro Mori ที่สร้างเพื่อระลึกถึงเฟร์ดินานโดที่ 1 แม้ว่าหลายส่วนของสถาปัตยกรรมในเมืองจะมีอายุหลังสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ลิเวอร์โน่เต็มไปด้วยสีสันของตลาดและวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะ Mercato Nuovo ที่มีสินค้าท้องถิ่นให้เลือกซื้อมากมาย ตั้งแต่อาหารสดจนถึงผลิตภัณฑ์อเมริกัน ที่พบได้จากฐานทัพอเมริกัน Camp Darby ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง หากคุณมีเวลา ลิเวอร์โน่เป็นสถานที่ที่ควรแวะรับประทานอาหารกลางวันหรือมื้อเย็นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและความหลากหลายแห่งนี้ จะทำให้คุณรู้สึกประทับใจในเอกลักษณ์ของเมืองที่สวยงามและมีชีวิตชีวาเป็นอย่างยิ่ง

ท่าเรือ Portoferraio บนเกาะเอลบา ซึ่งตั้งอยู่ในอาร์คิปาลิโกของทัสคานี เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่เดินทางด้วยเรือสำราญ เกาะเอลบานั้นเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในอาร์คิปาลิโก โดดเด่นด้วยธรรมชาติที่งดงามและภูมิทัศน์ที่เขียวชอุ่ม ด้วยแหล่งน้ำใต้ดินที่ทำให้พื้นที่นี้มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามกว่าที่อื่น นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับความหลากหลายของพืชพรรณในแบบกึ่งเขตร้อน รวมถึงทิวเขาที่สลับซับซ้อน ซึ่งเป็นภาพที่หาดูได้ยากในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เกาะเอลบาเป็นจุดพักผ่อนที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูร้อน การเดินทางรอบเกาะเพื่อสำรวจสถานที่ต่างๆ ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แม้ว่าการเช่ารถจะสะดวก แต่อีกทางเลือกหนึ่งคือการใช้บริการรถบัสสาธารณะที่มีให้บริการหลายครั้งในแต่ละวัน ผู้มาเยือนสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตารางเดินรถได้จากสำนักงานการท่องเที่ยวท้องถิ่น สัมผัสกับความงามที่ไม่เหมือนใครและความสงบในบรรยากาศของ Portoferraio และเกาะเอลบา สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์ พร้อมประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม.

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

ท่าเรือซาเลร์โน (Salerno) ตั้งอยู่บนอ่าวซาเลร์โนในประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลไม่เพียงแต่ด้วยทิวทัศน์ทะเลที่งดงาม แต่ยังอัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง ซาเลร์โนมีชื่อเสียงเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งแรกของโลก ส่งผลให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางด้านความรู้และการศึกษาในสมัยโบราณ นักท่องเที่ยวที่แวะมาที่นี่จะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดอ่อนๆ พร้อมกับการเดินเล่นตามชายหาดที่มีทรายละเอียดทำให้รู้สึกผ่อนคลายใจกลางทัศนียภาพที่สวยงาม ชิมอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ ที่หลากหลาย ทั้งพาสต้า วุ้นเส้น และอาหารทะเลสดใหม่ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจากฝีมือเชฟในท้องถิ่น ทำให้ทุกมื้อเป็นประสบการณ์พิเศษ นอกจากนี้ ซาเลร์โนยังเป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ อาทิเช่น ชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi Coast) ที่โด่งดังในเรื่องความสวยงามของธรรมชาติและหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ รวมทั้งเมืองอามาลฟีและโพสิตาโนที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรม, ท่าเรือซาเลร์โนคือไม่เพียงแค่จุดแวะที่ครบครัน แต่ยังเป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนใฝ่ฝันถึงการเดินทางในอิตาลีที่น่าตื่นเต้นนี้อย่างแท้จริง
ท่าเรือ Trapani ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งตะวันตกของซิซิลี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุดในอิตาลี ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามของเกาะ Egadi ที่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้า ท่าเรือนี้มีบรรยากาศที่มีเสน่ห์และเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ โดยเขตเก่าของ Trapani นั้นตั้งอยู่บนแหลมที่มีรูปร่างคล้ายเคียว ระหว่างทะเลเปิดที่อยู่ทางทิศเหนือและพื้นที่เกลือที่อยู่ทางทิศใต้ อุตสาหกรรมเกลือที่เคยรุ่งเรืองในอดีตได้รับการฟื้นฟูอีกครั้ง และผู้มาเยือนสามารถสัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์นี้ที่ Museo delle Saline นอกจากนี้ยังมีหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่งดงามอย่าง Erice ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา พร้อมด้วยทิวทัศน์ที่ทำให้คุณต้องหลงใหล หรือ Capo San Vito ที่มีหาดทรายขาวและน้ำทะเลใส การเดินทางจาก Trapani คุณยังสามารถไปสัมผัสความงามของเกาะ Motya และเมือง Marsala ซึ่งชื่อเสียงด้านไวน์โลก นอกจากนี้ ยังมีโอกาสไปเยือนแหล่งโบราณสถาน Segesta ที่น่าตื่นตาตื่นใจ หรือทำการล่องเรือไปยังเกาะ Egadi ที่เงียบสงบและสวยงาม เป็นการผจญภัยที่ไม่ควรพลาดในประสบการณ์การเดินทางสุดหรูของคุณในประเทศอิตาลี.

ท่าเรือ ลา กูลเลต (La Goulette) ตั้งอยู่ในกรุงตูนิส ประเทศตูนิเซีย คือประตูสู่เสน่ห์อันหลากหลายของโลกอาหรับและเมดิเตอร์เรเนียน ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางไม่ควรพลาด เพราะเป็นท่าเรือหลักที่เรือสำราญลอยลำเข้ามา เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร ขอเชิญคุณสำรวจเมืองตูนิส ซึ่งแวดล้อมไปด้วยประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และวัฒนธรรมที่หลากหลาย คุณจะได้เห็นเมืองเก่าที่มีสีสันสดใส วิหารโบราณ และตลาดพื้นเมืองที่คึกคัก ที่นี่คุณสามารถสัมผัสกับการช้อปปิ้งสินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น เช่น เครื่องปั้นดินเผาและผ้าทอมือ ยิ่งไปกว่านั้น การเดินทางจากลา กูลเลตยังง่ายดายไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอื่น ๆ เช่น เมืองคาร์เธจ ที่เป็นเมืองโบราณและมรดกโลกซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ หรือที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างสุสานโรมันที่มีเสน่ห์ ละลายใจในความงดงามของธรรมชาติ รวมทั้งหาดทรายนุ่มที่คุณสามารถพักผ่อนและย disfrutar de las vistas al mar. เป็นที่ที่สัมผัสถึงความหรูหราและเอกลักษณ์ของแต่ละวัฒนธรรม ขอเชิญคุณมาเปิดประสบการณ์ที่ ลา กูลเลต ท่าเรือใกล้ชิดโลกอาหรับที่รอคอยให้คุณค้นพบ!

คาทาเนีย (Catania) คือเมืองท่าสำคัญที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของซิซิลี บริเวณเชิงเขาไฟเอตนา (Mt. Etna) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความงามและสภาพแวดล้อมที่น่าตื่นตาตื่นใจ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปตามเส้นทางขึ้นเขาเพื่อสัมผัสประสบการณ์การปีนเขาที่จะพาไปสู่ยอดเขาที่เต็มไปด้วยมุมมองอันงดงาม ใจกลางเมืองคือจัตุรัสกัวโด ดูโอโม่ (Piazza del Duomo) ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยมีฟอนตาน่า เดลเลฟานเต้ (Fontana dell'Elefante) ที่ตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง และโบสถ์คาทานียาที่มีการตกแต่งอย่างหรูหรา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลาดปลา "ลาปิเชอเรีย" (La Pescheria) ในมุมตะวันตกเฉียงใต้ของจัตุรัสเป็นแหล่งสนุกสนานที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของอาหารทะเลสดใหม่ ทั้งยังมีร้านอาหารมากมายที่บริการอาหารอันแสนอร่อย การเยือนคาทาเนียจึงไม่เพียงแค่การสัมผัสความรักในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังเป็นโอกาสในการดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและลิ้มรสอาหารที่มีเอกลักษณ์ของซิซิลี เตรียมพร้อมให้คุณเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางครั้งนี้!


ท่าเรือคาทากอลอน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเพโลพอเนซ ทำหน้าที่เป็นประตูสู่ความมหัศจรรย์แห่งประวัติศาสตร์ที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ด้วยความใกล้ชิดกับโอลิมเปีย เมืองโบราณที่เคยเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการแข่งขันกีฬาโอlympic ครานั้น นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่เมื่อเรือสำราญจอดที่นี่ สถานที่นี้จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา โอลิมเปียซึ่งตั้งอยู่ห่างจากคาทากอลอนไม่ไกลนัก เป็นที่ตั้งของอัฒจันทร์กีฬาแห่งแรกของโลก เต็มไปด้วยเรื่องราวและตำนานที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของกรีซโบราณ นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามรอยเท้าของนักกีฬาโบราณ และชื่นชมซากปรักหักพังของวิหารซุสที่เคยดึงดูดผู้แสวงบุญจากทั่วทุกมุมเมดิเตอร์เรเนียน หากคุณไม่ต้องการเดินทางไปโอลิมเปีย คาทากอลอนก็เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนและรับประทานอาหารกลางวันสไตล์กรีก ขณะชมชาวประมงที่ก้าวข้ามมาทำงานในทะเล เหมาะสำหรับการพักผ่อนในบรรยากาศที่งดงามและไม่รีบร้อน คาทากอลอน พร้อมมอบทั้งความสงบและประสบการณ์ที่แสนน่าหลงใหล ในการสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของกรีซ โดยไม่ต้องมีอะไรให้ต้องรีบเร่ง

มอเนมวาเซีย (Monemvasia) คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์แห่งกรีซ ตั้งอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเพโลพอนนีส โดยมีประวัติยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เมื่อชาวกรีกที่หนีการโจมตีของชาวสลาฟมาพบที่นี่เป็นที่หลบภัย ในช่วงเวลาที่รุ่งเรือง มอเนมวาเซียได้ควบคุมการเดินเรือระหว่างแผ่นดินเลบานอนและชายฝั่งยุโรป เมืองเก่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงได้ขยายไปตามแนวลาดชันของยอดเขาสูงถึง 300 เมตร และล้อมรอบด้วยทะเล ในยุคหนึ่ง เมืองนี้เคยเป็นป้อมปราการที่ยิ่งใหญ่ แต่ประชาชนเริ่มย้ายไปยังแผ่นดินใหญ่ ทำให้ประชากรลดน้อยลง จนกระทั่งมีโครงการฟื้นฟูเพื่อรักษามรดกของมอเนมวาเซีย เมืองเก่าเริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อขึ้นไปบนเมืองสูง ยังมีซากป้อมปราการโบราณและโบสถ์ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) ให้ได้สำรวจ พร้อมทัศนียภาพที่งดงามของภูมิประเทศโดยรอบ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันล้ำค่าของกรีซ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คุณหลงใหลในเสน่ห์ของทะเลและภูเขาในดินแดนแห่งเทพนิยาย.

ซานโตรีนี (Santorini) เป็นเกาะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเจียน รูปร่างของเกาะเป็นเสี้ยวพระจันทร์ซึ่งถูกตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่เกาะไซคลาดิค ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจจากหมู่บ้านอียา (Ia) และสำรวจซากโบราณคดีอันน่าสนใจ ทั้งยังมีบ้านเรือนสีขาวสะอาดที่กลมกลืนกับท้องฟ้าอันสดใส ชื่อเดิมของซานโตรีนีคือ `คัลลิสติ` (Kállisti) ซึ่งแปลว่า "สวยที่สุด" แต่ต่อมาถูกปรับเป็น `ธีร่า` (Thira) ตามชื่อของผู้ตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เราเรียกในปัจจุบันคือ ซานโตรีนี ซึ่งได้ชื่อมาจากนักบุญไอรีน (St. Irene) แห่งเทสซาโลนิกิ การเดินทางโดยเรือมาถึงเกาะซานโตรีนีนั้นน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคุณล่องเรือผ่านเกาะซิกิโนส (Sikinos) และไอโอส (Ios) โดยมีกลุ่มเกาะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่สองด้าน การแล่นเรือเข้าสู่แคลเดอรีนั้นทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของหน้าผาที่สูง 1,100 ฟุต และเมื่อเรือถึงท่าเรืออาธินิออส (Athinios) คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันพิเศษที่สร้างความประทับใจ โดยภายในอ่าวนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมเก่าแก่และความงามที่ซ่อนอยู่จากพลังแห่งภูเขาไฟ ซานโตรีนี ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ยังมีเกาะเพื่อนบ้านที่น่าสนใจอีกมากมาย จึงไม่แปลกใจที่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

เอเฟซัส (Ephesus) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นหนึ่งในหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่แสนมหัศจรรย์ของการเดินทางที่ทุกคนควรเห็นสักครั้งในชีวิต เมืองนี้เป็นที่ตั้งของซากปรักหักพังที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงวิหารอาร์เทมิส ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ นอกจากนี้ยังมีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ที่รองรับผู้ชมได้มากถึง 25,000 คน และถนนเซลซุสที่มีเสาเรียงรายอย่างสวยงาม สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมโรมัน การเดินทางมายังเอเฟซัส นอกจากการสัมผัสกับประวัติศาสตร์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในเมืองเก่าที่มีกลิ่นอายของความรุ่งเรืองจากวันวาน ร้านค้าและคาเฟ่ที่เปิดบริการอยู่ตลอดเส้นทาง เตรียมให้คุณได้พักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบ หากคุณมีเวลามากขึ้น ควรไปเยือนชายหาดปามูคาเล่ ที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติให้คุณได้แช่ตัวหรือไปยังเมืองซูคู เมืองท่าที่สวยงาม ด้วยความหลากหลายทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่งดงาม เอเฟซัสจึงไม่ใช่เพียงแค่ท่าเรือที่เรือสำราญแวะจอด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ตุรกี!

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.











เจ้าของสวีทที่หรูหราของเรานั้นมาพร้อมกับฟานส์ซึ่งออกแบบอย่างดีและวัสดุที่มีคุณภาพสูง ภายในพื้นที่ขนาดเกือบ 1,000 ตารางฟุตนี้คุณจะพบกับความกว้างขวางและความหรูหราอย่างแท้จริง โดยห้องนี้ถูกออกแบบเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับความสงบและการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกสิ่งที่คุณต้องการมีไว้ครบครัน พร้อมทั้งห้องน้ำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งมีฝักบัวขนาดใหญ่ ระเบียงไม้ทีคส่วนตัว และโทรทัศน์จอแบนสองเครื่อง นอกจากนี้ เจ้าของสวีทยังมีสิทธิประโยชน์ที่เหนือระดับ รวมถึงบริการซักรีดฟรีถึง 3 ถุงต่อห้องและการขึ้นเรือในเวลา 11 โมงเช้าพร้อมบริการขนสัมภาระที่มีลำดับความสำคัญ คุณจะได้เพลิดเพลินกับบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงอาหารกลางวันภายในห้องในวันขึ้นเรือแบบส่วนตัวที่สามารถเลือกได้ระหว่างเที่ยงถึงบ่าย 2 นอกจากนี้ยังมีบริการบาร์ภายในห้องฟรีที่มีสุราหรือไวน์ระดับพรีเมียม 6 ขวด รวมถึงขนมปังข้าวสาลีต้อนรับขวดแชมเปญสดใหม่และผลไม้ที่เติมให้ทุกวัน คุณจะได้รับสิทธิในการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด และสินค้านวดที่หรูหรา คุณยังมีทางเลือกในการเลือกผ้านวมจากผ้าขนสัตว์ชนิดหนึ่งที่หรูหรารวมถึงบริการขัดรองเท้าฟรีและการรีดเสื้อผ้าในวันขึ้นเรือ ทั้งหมดนี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหรูหราที่สุดในเจ้าของสวีท





วิสตา สวีทที่มีมุมมองอันงดงามเหนือด้านหน้าของเรือมีพื้นที่กว้างขวางถึง 786 ตารางฟุต ให้ความสะดวกสบายที่คุณสามารถจินตนาการได้อย่างแท้จริง รวมถึงห้องน้ำที่สองสำหรับแขก และห้องน้ำหลักที่ออกแบบใหม่ด้วยหินออนิกซ์และหินแกรนิต พร้อมด้วยฝักบัวอาบน้ำที่หรูหรา คุณสามารถผ่อนคลายบนระเบียงส่วนตัวที่ทำจากไม้สัก ฟังเพลงผ่านระบบเสียงที่ยอดเยี่ยม หรือชมภาพยนตร์บนโทรทัศน์จอแบนสองเครื่อง พร้อมอินเทอร์เน็ตไร้สายที่มีให้ใช้งานฟรีผ่าน iPad® ที่จัดเตรียมไว้ให้ นอกจากนี้ วิสตา สวีทยังมอบสิทธิประโยชน์พิเศษ ซึ่งรวมถึงบริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องที่พัก การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. ด้วยความสำคัญพร้อมการจัดส่งสัมภาระลำดับความสำคัญ บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง บาร์ในห้องพักที่มีเครื่องดื่มพรีเมียม 6 ขวดจากเมนูเครื่องดื่มสำหรับสวีท ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี以及ผลไม้สดที่เติมให้ใหม่ทุกวัน การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ที่มีความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด และของใช้ในห้องน้ำหรูหรา นอกจากนี้ยังมีหนังสือพิมพ์รายวันเลือกอ่านได้ และกระเป๋าทรงโอตต์ Oceania Cruises พร้อมอุปกรณ์ stationery ส่วนตัว ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และเลือกหมอนจากคอลเล็กชั่นหรูหรา รวมถึงบริการขัดรองเท้าฟรี และบริการรีดเสื้อผ้าฟรีในวันขึ้นเรือ โปรดทราบว่าการสูบบุหรี่ในสวีท ห้องพัก และบนระเบียงนั้นห้ามอย่างเคร่งครัด


ห้องเพนท์เฮาส์สวีท ขนาด 322 ตารางฟุต ถูกออกแบบอย่างหรูหราและมีสไตล์ด้วยการตกแต่งสุดประณีตที่มีโทนสีอันเงียบสงบสื่อความงดงามของทะเลและแสงแดด ห้องนี้กว้างขวางเพียงพอสำหรับการรับประทานอาหารในห้องส่วนตัว โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่รวมถึงมินิบาร์พร้อมตู้เย็น และโต๊ะแต่งตัว ในห้องน้ำหุ้มด้วยหินแกรนิต ที่กว้างขวางทำให้คุณสามารถผ่อนคลายในอ่างอาบน้ำขนาดเต็มหรือฝักบัวได้อย่างหรูหรา นอกจากนี้ยังมีกระดานไม้เท็กซ์ที่ตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อให้คุณได้นั่งพักผ่อนอย่างสบายใจในระเบียงส่วนตัวของคุณ เพนท์เฮาส์สวีทยังมอบสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก, บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, แชมเปญต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้าที่มีลำดับความสำคัญ, การเข้าถึงเทอเรซสปา Aquamar ไม่จำกัด, ถุงผ้าสำหรับเดินทางของ Oceania Cruises ฟรี, ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการนั่งพักผ่อนในระเบียง, บริการเงางามรองเท้าฟรี และบริการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ ห้องนี้ไม่มีการอนุญาตให้สูบบุหรี่ในสวีท ห้องพัก และระเบียงเพื่อความสะดวกสบายของผู้เข้าพักทุกท่าน


ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียง (Concierge Level Veranda Stateroom) ถูกตั้งอยู่ในทำเลที่ต้องการสูงสุดบนเรือสำราญ เชิญคุณสัมผัสความหรูหราในห้องพักขนาด 216 ตารางฟุต ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและสิทธิพิเศษที่ทำให้การเดินทางของคุณเพิ่มความสบายใจ เช่น บริการซักรีดฟรีถึง 3 ถุงต่อห้องพัก ภายในห้องพักคุณจะพบการตกแต่งใหม่ที่สดใส พร้อมเตียง Tranquility ที่นุ่มสบายและระเบียงที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ทันสมัย สัมผัสประสบการณ์คอนเซียร์จที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการบริการที่ครอบคลุม เช่น เมนูบริการอาหารกลางวันและเย็นที่ขยายจากห้องรับประทานอาหาร Grand Dining Room รับ Champagne ต้อนรับฟรี และการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์แบบมีลำดับความสำคัญ รวมถึงการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี ห้องพักนี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคุณ โดยปราศจากการสูบบุหรี่ในห้องพักและบนระเบียง


ระเบียง客艙 ขนาด 216 ตารางฟุตนี้มีการออกแบบที่หรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับแต่งพิเศษและการตกแต่งด้วยหินที่แปลกใหม่ พร้อมกับหัวเตียงบุผ้านุ่มและไฟสวยงาม คือที่พักที่โดดเด่นที่สุดในเรือสำราญของเรา ความสะดวกสบายในห้องพักประกอบไปด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์ที่มีห้องเย็นสำหรับเครื่องดื่มต่างๆ โต๊ะอาหารเช้า และพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง มีระเบียงไม้ที่ทำจากไม้เทคส่วนตัว เพื่อให้คุณได้ชมวิวเปลี่ยนแปลงตลอดการเดินทาง ห้องพักนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises พร้อมชุดเครื่องนอน 1,000 เส้นใย และน้ำดื่ม Vero Water ที่เปล่าหมายของคุณ พร้อมด้วยบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง และบริการทำความสะอาดห้องพักวันละสองครั้ง รวมถึงช็อกโกแลตเบลเยียมในตอนเย็น ระบบทีวีที่มีฟังก์ชันสั่งได้ รวมถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการมือถือ อีกทั้งยังมีตู้นิรภัยและชุดเสื้อคลุมฝ้ายหนา พร้อมรองเท้าแตะ เพื่อให้คุณได้สัมผัสความสะดวกสบายในขณะที่พักผ่อนบนเรือสำราญ หมายเหตุ: ห้ามสูบบุหรี่ในห้องชุด ห้องพัก และระเบียงโดยเด็ดขาด

ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลมีพื้นที่กว้างขวางถึง 165 ตารางฟุต ถูกออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ด้วยตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และเฟอร์นิเจอร์ที่ลงตัว ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งสบายให้แก่ผู้เข้าพัก โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์ที่เย็นเฉียบ และมุมสำหรับรับประทานอาหารเช้าที่ตกแต่งด้วยสีอ่อนและผ้าหรูที่ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ห้องพักนี้ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น น้ำอัดลมที่เติมใหม่ทุกวันในมินิบาร์ น้ำ Vero น้ำสะอาดและน้ำมีฟอง พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ภายในห้องมีเตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises พร้อมอุปกรณ์ Bulgari และบริการทำความสะอาดห้องแบบสองครั้งต่อวัน นอกจากนี้ยังมีระบบโทรทัศน์อินเตอร์แอกทีฟที่มีภาพยนตร์ตามคำขอ บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายและโทรศัพท์มือถือ รวมถึงโต๊ะเขียนหนังสือและเครื่องเขียน พร้อมผ้าเช็ดตัวของใช้ในห้องน้ำที่นุ่มฟู ผ้าโรเบอร์และรองเท้าอาบน้ำ รวมถึงการบริการจัดเตรียมช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงเปลี่ยนผ้าห่ม ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลยังมีฟีเจอร์สำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการการเข้าถึงที่สะดวกสบาย เช่น เตียงที่มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ช่วยเหลือ ประตูห้องน้ำขนาดใหญ่ ราวจับที่ห้องน้ำ และห้องน้ำที่ออกแบบมาเพื่อให้สะดวกในการเข้าออกโดยไม่มีขอบสูง รวมถึงอ่างอาบน้ำในห้องน้ำด้วย โปรดทราบว่าห้ามสูบบุหรี่ในห้องพัก สวีท และระเบียงโดยเด็ดขาด

ห้องพักแบบมองเห็นทะเล ขนาด 165 ตารางฟุต มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัยและการตกแต่งที่มีระดับ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพัก ด้วยพอร์ตโฮลคลาสสิกที่เปิดมุมมองสู่ทิวทัศน์สวยงาม พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่เงียบสงบซึ่งประกอบด้วยโซฟาสำหรับการพักผ่อน โต๊ะทำงาน และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร เชื่อมต่อความสะดวกด้วยมินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มแช่เย็นไว้บริการ นอกจากนี้ ห้องพักยังมีบริการฟรีต่างๆ เช่น น้ำอัดลมเติมใหม่ทุกวัน น้ำแร่สปาร์คกลิ้ง และเมนูรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ประกอบด้วยเตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกลักษณ์จาก Oceania Cruises และผลิตภัณฑ์ Bulgari เพื่อการดูแลร่างกาย ควบคู่ไปกับบริการทำความสะอาดห้องพักสองครั้งต่อวัน และระบบโทรทัศน์ที่มีฟีเจอร์สั่งดูภาพยนตร์และข้อมูลสภาพอากาศ เชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ตไร้สาย และบริการโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ ยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมชุดเครื่องเขียน ผ้าขนหนูและเสื้อคลุมอาบน้ำที่นุ่มฟู รวมถึงเครื่องเป่าผม และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน พร้อมด้วยช็อกโกแลตเบลเยียมสำหรับบริการเตรียมเตียงก่อนนอน ห้องพักนี้เป็นที่พักที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายในทุกช่วงเวลาอย่างแท้จริง


ห้องพักเดี่ยวแบบวิวทะเลเป็นที่พักที่มอบประสบการณ์ที่หรูหราและสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพัก ภายในห้องจะได้รับการจัดเตรียมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งที่เติมให้ฟรีทุกวันในมินิบาร์ที่ติดตั้ง การบริการที่ยอดเยี่ยมยังรวมถึงน้ำ Vero ที่มีทั้งแบบธรรมดาและมีฟองฟรี นอกจากนี้ยังสามารถสั่งบริการห้องพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง ห้องพักได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เริ่มต้นจากเตียง Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises ที่มอบความสบายสุดฟิน พร้อมด้วยของใช้จาก Bulgari ที่เสริมความหรูหรา บริการแม่บ้านจะมีการทำความสะอาดห้องพักถึงสองครั้งต่อวัน พร้อมด้วยระบบโทรทัศน์ที่มีการใช้งานที่ง่าย สื่อสารกับอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีโต๊ะเขียนและเครื่องเขียนให้พร้อม ที่นอนจะมีผ้าขนหนู, เสื้อคลุม, และรองเท้าแตะที่นุ่มสบายให้ในห้องพัก พร้อมด้วยเครื่องเป่าผมและตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย ที่พักยังมีกล่องช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงเวลาที่ทำการเตรียมห้องคืนอีกด้วย การสูบบุหรี่ในห้องชุด, ห้องพัก และระเบียงนั้นถูกห้ามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ในบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์.


ห้องพักภายในได้รับการออกแบบใหม่อย่างสวยงาม พร้อมกลิ่นอายความทันสมัย ในพื้นที่ 160 ตารางฟุตเต็มไปด้วยความหรูหรา ห้องพักนี้มาพร้อมกับพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย, โต๊ะเครื่องแป้ง, มินิบาร์ที่มีการแช่เย็น และพื้นที่จัดเก็บที่เพียงพอ การใช้พื้นที่อย่างชาญฉลาดถูกเสริมด้วยการตกแต่งใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจ ห้องพักนี้ยังมีเตียง Ultra Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเรือสำราญ Oceania Cruises ที่จะช่วยให้คุณตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมงที่หลากหลาย มีผ้าขนหนูผ้าฝ้ายคุณภาพสูง เสื้อคลุมอาบน้ำหนานุ่มและรองเท้าแตะ รวมถึงอุปกรณ์จาก Bulgari ไดร์เป่าผมแบบมือถือ โทรทัศน์จอแบนที่มีข่าวสารและรายการถ่ายทอดสดจากดาวเทียม รวมถึงเครื่องเล่น DVD พร้อมห้องสมุดมีเดียที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้จะมอบความสะดวกสบายให้แก่คุณอย่างสูงสุด ห้องพักทุกห้องไม่มีการสูบบุหรี่ เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับความหรูหราและความสะดวกสบายที่ยอดเยี่ยมในห้องพักภายในห้องนี้