
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชเนีย นอโตกระ
โอเชียเนีย ครูซส์


เวนิส แคลิฟอร์เนีย คือหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่รักการผจญภัยและความสวยงามของธรรมชาติ ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองเวนิสเป็นที่รู้จักในฐานะ "Venice of America" ด้วยทิวทัศน์ของคลองที่สวยงามและชายหาดที่น่าตื่นตาตื่นใจ ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งชมวิวที่งดงาม ยังมีกิจกรรมหลากหลายที่ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำ เมื่อมาถึงท่าเรือเวนิส คุณสามารถเริ่มต้นการเดินทางของคุณด้วยการสัมผัสบรรยากาศที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะการเดินเล่นริมน้ำ ผ่านสะพานที่สวยงามและชมการกระทำของนักเล่นเซิร์ฟ ที่คลื่นทะเล บริเวณชายหาดคุณยังสามารถสนุกสนานไปกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือแม้แต่เล่นวอลเลย์บอลริมชายหาด นอกจากชายหาดแล้ว เวนิสยังเต็มไปด้วยศิลปวัฒนธรรมที่โดดเด่น เช่น งานศิลปะข้างถนน และตลาดสุดชิค ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้สูดลมแห่งความสร้างสรรค์ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและคาเฟ่ที่น่าสนใจรอให้คุณได้สัมผัสความอร่อยและบรรยากาศที่แสนอบอุ่น ดังนั้น หากคุณต้องการหนีจากความวุ่นวายในเมืองใหญ่ จงมุ่งหน้าสู่เวนิส แคลิฟอร์เนีย ท่าเรือสุดหรูแห่งนี้จะทำให้คุณหลงไหลและพร้อมกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน

เมื่อพูดถึงความงดงามของประเทศโครเอเชีย ท่าเรือพูล่า (Pula) กลายเป็นจุดหมายที่หรูหราและน่าสนใจอย่างยิ่ง ตั้งอยู่ในภูมิภาคอิสเตรีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการปกครองและเมืองท่าสำคัญ ทั้งยังมีประชากรประมาณ 58,000 คน พูล่าเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สามารถย้อนกลับไปได้ถึงศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช สถานที่สำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวคือสนามแข่งขันโรมัน (Roman amphitheater) ที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงาม มองเห็นอยู่บริเวณชายหาดที่สวยงามและให้บรรยากาศของอารยธรรมโบราณ นอกจากโบราณสถานที่น่าประทับใจ พูล่ายังมีสถาปัตยกรรมที่หลากหลายรวมถึงอาคารในยุคฮับส์บูร์ก ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสความหลากหลายทางวัฒนธรรม เมืองยังมีร้านอาหารที่โดดเด่นและโรงแรมที่ให้บริการอย่างอบอุ่น พร้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวริมทะเลอย่างเวรูเดล่า (Verudela) ที่มีชื่อเสียงในด้านการพักผ่อนริมทะเล พูล่าเป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมโบราณกับการท่องเที่ยวสมัยใหม่ สร้างความตื่นเต้นและความทรงจำที่มีค่าในทุกการเดินทาง

ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน

ท่าเรือที่น่าหลงใหลในแอลเบเนีย เรียกได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่ในทะเลเอเดรียติก—ท่าเรือทิรานา (Tirana Port) เป็นจุดหมายปลายทางที่ทุกท่านไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสเดินทางมาสัมผัสบรรยากาศอันตระการตาของประเทศแห่งนี้ ท่าเรือทิรานาไม่เพียงแต่เป็นประตูสู่การเดินทาง แต่ยังมีชีวิตชีวาไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม เมื่อลงจากเรือสำราญ คุณจะได้พบกับตลาดท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมและรสชาติของอาหารแอลเบเนียที่คุณจะต้องหลงรัก เช่น ปลาแซลมอนย่าง หมูหมัก และเบียร์ท้องถิ่นที่ชื่นชอบ ตั้งอยู่ในเมืองทิรานา โดยมีบรรยากาศที่ผนวกกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และความทันสมัยเข้าด้วยกัน นอกจากนั้น เรายังแนะนำการเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติดูมาร์ท (Dajti Mountain National Park) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ นี่คือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินป่า ปั่นจักรยาน หรือสัมผัสประสบการณ์นั่งกระเช้าไฟฟ้าสำรวจความงามของวิวทิวทัศน์ที่ไม่มีที่ไหนเหมือน การมาเยือนท่าเรือทิรานาไม่เพียงแต่ทำให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของแอลเบเนีย แต่ยังเปิดประตูสู่การผจญภัยใหม่ ๆ พร้อมให้คุณสร้างความทรงจำอันล้ำนาน เมื่อเสียงคลื่นกระทบฝั่งและกลิ่นอาหารท้องถิ่นลอยไปในอากาศ คุณจะเข้าใจว่าทำไมแอลเบเนียถึงเป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในเส้นทางการเดินทางของคุณ

เมื่อคุณก้าวเท้าสู่เมืองโครฟู (Corfu) คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่มีมาช้านานที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของหลายวัฒนธรรม เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวานี้ตั้งอยู่บริเวณกลางชายฝั่งตะวันออกของเกาะโครฟู เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและมีใจกลางเมืองที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2007 ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาทางเรือเฟอร์รี่จากแผ่นดินใหญ่หรืออิตาลี หรือบินตรงมายังสนามบิน ณ โครฟู เมืองนี้คือจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยความงาม ทางเดินเล็ก ๆ ในเขตคนเดินยกระดับให้คุณเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมือง โดยคุณสามารถผ่อนคลายด้วยการจิบกาแฟหรือไอศกรีมที่ Liston Arcade ที่มีร่มเงา ควรใช้เวลาสำรวจพระราชวังมอน เรโปส (Mon Repos) โดยขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ให้บริการในช่วงฤดูร้อน และเมื่อถึงเวลาค่ำคืน เมืองนี้จะมีบรรยากาศที่แตกต่างด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารชั้นเลิศของเกาะ การเดินทางในเมืองโครฟูเป็นไปอย่างสะดวกสบาย คุณสามารถเดินเท้าสำรวจได้ทั่วถึง เมืองมีความเล็กพอที่คุณจึงไม่ต้องพึ่งพารถบัสที่ไม่สามารถเข้าถึงในเขตประวัติศาสตร์ หากคุณเดินทางมาทางเฟอร์รี่หรือเครื่องบิน แนะนำให้ใช้แท็กซี่ซึ่งจะพาคุณไปยังโรงแรมได้ในราคาเพียง 10 ยูโร ห้ามพลาด!

คาทาเนีย (Catania) คือเมืองท่าสำคัญที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของซิซิลี บริเวณเชิงเขาไฟเอตนา (Mt. Etna) ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความงามและสภาพแวดล้อมที่น่าตื่นตาตื่นใจ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปตามเส้นทางขึ้นเขาเพื่อสัมผัสประสบการณ์การปีนเขาที่จะพาไปสู่ยอดเขาที่เต็มไปด้วยมุมมองอันงดงาม ใจกลางเมืองคือจัตุรัสกัวโด ดูโอโม่ (Piazza del Duomo) ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยมีฟอนตาน่า เดลเลฟานเต้ (Fontana dell'Elefante) ที่ตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง และโบสถ์คาทานียาที่มีการตกแต่งอย่างหรูหรา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบวัฒนธรรมท้องถิ่น ตลาดปลา "ลาปิเชอเรีย" (La Pescheria) ในมุมตะวันตกเฉียงใต้ของจัตุรัสเป็นแหล่งสนุกสนานที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา คุณจะได้สัมผัสกลิ่นอายของอาหารทะเลสดใหม่ ทั้งยังมีร้านอาหารมากมายที่บริการอาหารอันแสนอร่อย การเยือนคาทาเนียจึงไม่เพียงแค่การสัมผัสความรักในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังเป็นโอกาสในการดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติและลิ้มรสอาหารที่มีเอกลักษณ์ของซิซิลี เตรียมพร้อมให้คุณเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการเดินทางครั้งนี้!

ซอร์เรนโต (Sorrento) เป็นจุดหมายที่ไม่เพียงแต่เป็นทางผ่านไปยังปอมเปอี (Pompeii), เกาะคาปรี (Capri) และชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi) แต่ยังเป็นเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง เมืองที่ตั้งอยู่บนหน้าผาหินปูนนี้ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน ขณะที่ต้นส้มและต้นมะนาวส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซอร์เรนโตร่ำรวยไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในย่านประวัติศาสตร์ที่มีถนนเล็ก ๆ ที่ปูด้วยหินแบบโบราณ และอาคารที่มีระเบียงสวยงาม ลมเย็น ๆ ที่พัดมาตลอดระยะทางทำให้คุณรู้สึกสดชื่นเมื่อเดินผ่าน พื้นที่กลางเมืองถูกตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่กวีชื่อดังทอร์ควาโต ทัสโซ (Torquato Tasso) ที่เกิดที่นี่ในปี ค.ศ. 1544 นอกจากภูมิทัศน์ที่สวยงามแล้ว ซอร์เรนโตยังมีงานฝีมือที่น่าสนใจให้ชม โดยช่างฝีมือที่ทำงานในร้านค้าต่าง ๆ มักยินดีให้คุณได้เห็นการทำงานของพวกเขา พร้อมกับบาร์และร้านดนตรีมากมายในตรอกซอกซอยใกล้กับเพียซซ่า ทัสโซ (Piazza Tasso) ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน ซอร์เรนโตเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางไปยังอิตาลี เติมเต็มความฝันด้วยการสำรวจความสวยงามและเสน่ห์ของเมืองนี้ อีกหนึ่งจุดหมายที่อัดแน่นไปด้วยประสบการณ์อันไร้รอยต่อที่คอยต้อนรับคุณออกไปค้นหาโลกใบใหม่!

เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

ท่าเรือซาเลร์โน (Salerno) ตั้งอยู่บนอ่าวซาเลร์โนในประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลไม่เพียงแต่ด้วยทิวทัศน์ทะเลที่งดงาม แต่ยังอัดแน่นด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง ซาเลร์โนมีชื่อเสียงเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งแรกของโลก ส่งผลให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางด้านความรู้และการศึกษาในสมัยโบราณ นักท่องเที่ยวที่แวะมาที่นี่จะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์และแสงแดดอ่อนๆ พร้อมกับการเดินเล่นตามชายหาดที่มีทรายละเอียดทำให้รู้สึกผ่อนคลายใจกลางทัศนียภาพที่สวยงาม ชิมอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ ที่หลากหลาย ทั้งพาสต้า วุ้นเส้น และอาหารทะเลสดใหม่ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันจากฝีมือเชฟในท้องถิ่น ทำให้ทุกมื้อเป็นประสบการณ์พิเศษ นอกจากนี้ ซาเลร์โนยังเป็นประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ อาทิเช่น ชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi Coast) ที่โด่งดังในเรื่องความสวยงามของธรรมชาติและหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ รวมทั้งเมืองอามาลฟีและโพสิตาโนที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และวัฒนธรรม, ท่าเรือซาเลร์โนคือไม่เพียงแค่จุดแวะที่ครบครัน แต่ยังเป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนใฝ่ฝันถึงการเดินทางในอิตาลีที่น่าตื่นเต้นนี้อย่างแท้จริง

ท่าเรือทาออร์มินา (Taormina) ตั้งอยู่บนชายฝั่งของซิซิลี ประเทศอิตาลี เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของยุคกลาง อีกทั้งยังเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ความงดงามของทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นทะเลและภูเขาเอทนา (Mt. Etna) ที่มีปีกหิมะปกคลุม ทำให้ทาออร์มินากลายเป็นภาพมุมกว้างที่น่าทึ่ง ซึ่งดีที่สุดในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่ชาวกรีกจากนาคซอส (Naxos) ตั้งรกรากเมื่อศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช ยิ่งไปกว่านั้น วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงอย่างของโกเธ่และดี. เอช. ลอเรนซ์ ก็ได้เขียนถึงความงามของที่นี่ ทำให้เมืองนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน นอกจากถนนที่มีร้านค้าแบรนด์เนมเรียงรายแล้ว ทาออร์มินายังมีเส้นทางเดินเขาที่สวยงามที่เลาะเลียบไปตามเนินเขารอบๆ ซึ่งนำคุณไปสู่วิวที่หาที่เปรียบไม่ได้ โดยเฉพาะการไต่ขึ้นไปยังคาสเตลโมล่า (Castelmola) เพื่อสัมผัสความเป็นอมตะของทัศนียภาพที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางครั้งนี้ เชิญสัมผัสประสบการณ์อันน่าประทับใจในทาออร์มินาและค้นพบความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่รอให้คุณมาเยือน!

วัลเลตตา เมืองหลวงสุดหรูของประเทศมอลตา นับเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักการเดินทาง สถาปัตยกรรมที่ประณีตของพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่ล้อมรอบด้วยป้อมปราการสีครีมอันงดงาม จะทำให้คุณรู้สึกย้อนเวลาไปยังอดีตเมื่อก้าวเข้าสู่อาณาเขตแห่งนี้ การสำรวจเมืองวัลเลตตานั้นไม่จำเป็นต้องใช้รถ ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเดินสำรวจถนนสายหลักอย่าง Triq Repubblika ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคัก พร้อมด้วย Triq Mercante ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดท้องถิ่น ที่เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบในบรรยากาศที่เป็นกันเอง จุดเริ่มต้นการเดินทางในวัลเลตตาคือ City Gate ซึ่งเป็นประตูเข้าสู่เมือง ใช้เวลาพักผ่อนที่ออฟฟิศข้อมูลนักท่องเที่ยวบน Triq Mercante เพื่อรับแผนที่และข้อมูลสำคัญก่อนการเดินทาง ต่อด้วยการเลือกสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และสถานที่จัดแสดงศิลปะกลางแจ้ง วัลเลตตาไม่เพียงแต่ยังมีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่รอคอยให้คุณเดินทางมาสัมผัสและสร้างความทรงจำใหม่ในทุกย่างก้าว


อิบิซา (Ibiza) เกาะสุดหรูแห่งประเทศสเปน โดดเด่นด้วยเอกลักษณ์ที่ผสมผสานทั้งความหรูหราของโลกสมัยใหม่กับประวัติศาสตร์อันล้ำค่า อกเหนือท่าเรือคือเมือง Dalt Vila ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกในปี 1999 แวดล้อมไปด้วยกำแพงหินขนาดใหญ่ที่บ่งบอกถึงอารยธรรมโบราณ ภายในยังมีวิหารโกธิคที่สวยงามสะดุดตา การเดินเล่นใน Sa Penya คือประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด ถนนหินปูนที่แสดงถึงความมีชีวิตชีวาของเมือง เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งสินค้าแนวสร้างสรรค์ ลิ้มลองขนมหวานท้องถิ่น และค้นพบรายละเอียดที่ซ่อนอยู่ ไม่ว่าคุณจะเลือกนั่งชิลล์ในคาเฟ่ริมทะเล หรือเพลิดเพลินกับคืนเร้าใจในคลับชื่อดัง ความหลากหลายนี้สร้างเสน่ห์ให้กับอิบิซา การเยือนอิบิซาไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสกับความบันเทิง นอกจากนี้ยังเป็นการเดินทางสู่อดีตที่ทำให้คุณค้นพบความงามและวัฒนธรรมของเกาะแห่งนี้ในทุกมุมมอง เตรียมตัวให้พร้อมเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในหัวใจของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน!

มาทำความรู้จักกับเมืองวาเลนเซีย ประเทศสเปน ซึ่งเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลายที่น่าหลงไหล วาเลนเซียเป็นเมืองที่มีขนาดเป็นอันดับสามของสเปน มีชีวิตชีวาด้วยกิจกรรมยามค่ำคืน ร้านอาหารรสเลิศ และพิพิธภัณฑ์ที่มีคุณภาพ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวหลายคนมุ่งหมายไปเยี่ยมชมตลอดทั้งปี ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน วาเลนเซียเคยเป็นที่ตั้งของรัฐบาลผู้ภักดีต่อสาธารณรัฐในช่วงสงครามกลางเมืองสเปน และในปัจจุบันเมืองนี้แสดงถึงความทันสมัยของสเปน ด้วยสถาปัตยกรรมที่แปลกใหม่และการทำอาหารที่มีความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังคงรักษาประเพณีที่สำคัญไว้อย่างเกียรติ แม้ว่าวาเลนเซียจะอยู่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ถูกหล่อหลอมจากแม่น้ำทูเรียที่สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่รอบๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ เช่น Ciutat de les Arts i les Ciències ที่ออกแบบโดยสถาปนิกมีชื่อ ซานติอาโก คาลาตราวา รวมถึงสวนธรรมชาติอัลบูเฟร่าที่เหมาะสำหรับการเยี่ยมชม การเดินทางมาที่วาเลนเซียจึงเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ที่ผสมผสานทั้งศิลปะ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมอย่างลงตัว มาเริ่มต้นการเดินทางสุดหรูด้วยตัวคุณเองในเมืองนี้กันเถอะ!

บาร์เซโลนา สเปน เมืองที่ไม่เคยหลับใหล เต็มไปด้วยสีสันและชีวิตที่คึกคัก เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยเสน่ห์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมโบราณและทันสมัย บาร์เซโลนาพร้อมให้คุณลิ้มรสประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ทิวทัศน์งดงามของย่านบาร์รี โกธิค (Barri Gòtic) ที่เต็มไปด้วยซอกมุมแห่งประวัติศาสตร์ ไปจนถึงความสวยงามของงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบนูโวที่ไม่ซ้ำใคร การเดินเล่นเลียบเลาะเลนด์ลาฟลามบลา (La Rambla) และชายหาดบาร์เซโลเนต้า (Barceloneta) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศริมทะเลที่อบอุ่น และการชมโบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย (Sagrada Família) ผลงานชิ้นเอกของอันโตนี เกาดี ที่สะท้อนถึงความละเอียดอ่อนทางศิลปะอย่างแท้จริง ไม่เพียงเท่านี้ บาร์เซโลนายังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่และร้านค้าที่โดดเด่นที่จะทำให้คุณหลงใหลตลอดทั้งวัน สัมผัสวัฒนธรรมและความตื่นเต้นในยามค่ำคืนด้วยการเพลิดเพลินกับไวน์และอาหารท้องถิ่นในบาร์ทาปาสที่มีชีวิตชีวา ขอเชิญคุณมาสำรวจบาร์เซโลนา เมืองที่ดูแลคุณด้วยประสบการณ์ด้านรสชาติและความงามในทุกแง่มุม!

ท่าเรือมาร์เซย์ (Marseille) เมืองที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองหลวงวัฒนธรรมแห่งยุโรปในปี 2013 ได้รับการปรับเปลี่ยนอย่างมหาศาล ด้วยการลงทุนกว่า 660 ล้านยูโร เพื่อสร้างศูนย์ศิลป์ใหม่ ๆ มากมาย ท่าเรือได้รับการปรับปรุงอย่างงดงาม ถนนหนทางและย่านต่าง ๆ กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีชีวิตชีวา คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวสุดสัปดาห์ มาร์เซย์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของฝรั่งเศส ซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา มีประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยวัฒนธรรม ตั้งแต่คราวที่ชาวฟินีเชียนและกรีกมายังท่าเรือในปี 600 ปีก่อนคริสต์ศักราช จนกระทั่งสงครามและการเปลี่ยนแปลงมากมายได้สร้างรูปแบบใหม่ให้กับเมือง วันนี้ มาเยือนที่ท่าเรือเก่า (Vieux Port) คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองที่มีเสน่ห์และความหลากหลาย ทั้งร้านค้า หอศิลป์และร้านอาหารที่ลงทุนสร้างใหม่อย่างทันสมัย มาร์เซย์จึงไม่ใช่แค่ท่าเรือ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวของวัฒนธรรมที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารท้องถิ่น หรือการแสดงศิลปะที่หลั่งไหลไม่ขาดสาย หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่น่าตื่นเต้นและมีเสน่ห์ ต้องไม่พลาดที่จะเยือนมาร์เซย์ซึ่งเต็มไปด้วย charm และ history ที่คุณจะไม่มีวันลืม.

คานส์ (Cannes) เมืองชายทะเลสุดหรูของฝรั่งเศส ที่มีสภาพอากาศอันเอื้ออำนวยตลอดทั้งปี ทำให้เป็นหนึ่งในรีสอร์ตยอดนิยมของยุโรป ในอดีต คานส์เคยเป็นจุดเฝ้าระวังของนักบวชที่อาศัยอยู่บนเกาะเซนต์ฮอนอเรตในยุคกลาง ท่าเรือที่นี่เดิมเป็นเพียงท่าเรือประมง จนกระทั่งในปี 1834 ขุนนางอังกฤษอย่างลอร์ดบรูแฮมได้หลงรักสถานที่นี้ในระหว่างการแวะพักไม่คาดคิดและตั้งใจสร้างบ้านพักที่นี่ และนี่ก็ทำให้คานส์กลายเป็นจุดหมายปลายทางสุดหรูสำหรับชนชั้นสูง คานส์ได้รับการยกระดับความน่าสนใจด้วยเทศกาลภาพยนตร์ประจำปีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ใครหลายคนมักจะรู้สึกเหมือนดาราภาพยนตร์เมื่อได้เดินเล่นบนเลอ ครัวเซ็ต (La Croisette) ทางเดินริมหาดที่สวยงาม ซึ่งรายล้อมไปด้วยร้านอาหารสุดหรูและชายหาดส่วนตัวที่มีชื่อเสียง ที่นี่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นปาล์มและบุคคลสำคัญ ร้านบูติกสุดเก๋และโรงแรมหรู เช่น โรงแรมคาร์ลตัน ที่เป็นฉากของภาพยนตร์ชื่อดัง “To Catch a Thief” คานส์จึงเป็นดินแดนแห่งความฝัน และเสน่ห์ของโคตแดนดาอาซูร์ (Côte d'Azur) ที่จะทำให้คุณหลงใหลและอยากกลับมาเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน

มอนาโก ดินแดนอันเล็กแต่เปี่ยมไปด้วยความหรูหรา เป็นสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์ระหว่างฝรั่งเศสและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ดินแดนแห่งนี้ที่มีขนาดเพียง 202 เฮกตาร์ เป็นที่รู้จักในฐานะฐานที่มั่งคั่งของเหล่าขุนนางและนักพนัน ด้วยคาสิโนชื่อดังก้องโลกและสนามแข่งม้าอันเลื่องชื่อ เหมาะแก่การสัมผัสบรรยากาศสุดพิเศษที่หาได้จากที่นี่ เมื่อเดินทางมาเพื่อเยี่ยมชมมอนาโก คุณจะพบกับพระราชวังแห่งมอนาโกที่ตั้งอยู่โดดเด่น บรรยากาศที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อยู่ท่ามกลางวิวทะเลอันงดงาม นอกจากนี้ บริเวณท่าเรือที่ลาดตระเวนด้วยเรือยอชต์หรูยังเป็นจุดที่ยอดเยี่ยมในการเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารหรูหราหรือชื่นชมกับความงามของเมือง มอนาโกยังสามารถเข้าถึงได้ง่ายจากสนามบินนีซ โคต ดาเซอร์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากดินแดนแห่งนี้เพียง 16 ไมล์ ระเบียงท้องฟ้าอันสดใส รอคอยที่จะเปิดกว้างให้คุณได้สัมผัสกับอารมณ์ของการเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่การเดินทางครั้งนี้ ทำให้มอนาโกเป็นปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ความงามและความหรูหราที่ดีที่สุดในยุโรป











เจ้าของสวีทที่หรูหราของเรานั้นมาพร้อมกับฟานส์ซึ่งออกแบบอย่างดีและวัสดุที่มีคุณภาพสูง ภายในพื้นที่ขนาดเกือบ 1,000 ตารางฟุตนี้คุณจะพบกับความกว้างขวางและความหรูหราอย่างแท้จริง โดยห้องนี้ถูกออกแบบเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับความสงบและการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกสิ่งที่คุณต้องการมีไว้ครบครัน พร้อมทั้งห้องน้ำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งมีฝักบัวขนาดใหญ่ ระเบียงไม้ทีคส่วนตัว และโทรทัศน์จอแบนสองเครื่อง นอกจากนี้ เจ้าของสวีทยังมีสิทธิประโยชน์ที่เหนือระดับ รวมถึงบริการซักรีดฟรีถึง 3 ถุงต่อห้องและการขึ้นเรือในเวลา 11 โมงเช้าพร้อมบริการขนสัมภาระที่มีลำดับความสำคัญ คุณจะได้เพลิดเพลินกับบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงอาหารกลางวันภายในห้องในวันขึ้นเรือแบบส่วนตัวที่สามารถเลือกได้ระหว่างเที่ยงถึงบ่าย 2 นอกจากนี้ยังมีบริการบาร์ภายในห้องฟรีที่มีสุราหรือไวน์ระดับพรีเมียม 6 ขวด รวมถึงขนมปังข้าวสาลีต้อนรับขวดแชมเปญสดใหม่และผลไม้ที่เติมให้ทุกวัน คุณจะได้รับสิทธิในการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด และสินค้านวดที่หรูหรา คุณยังมีทางเลือกในการเลือกผ้านวมจากผ้าขนสัตว์ชนิดหนึ่งที่หรูหรารวมถึงบริการขัดรองเท้าฟรีและการรีดเสื้อผ้าในวันขึ้นเรือ ทั้งหมดนี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหรูหราที่สุดในเจ้าของสวีท





วิสตา สวีทที่มีมุมมองอันงดงามเหนือด้านหน้าของเรือมีพื้นที่กว้างขวางถึง 786 ตารางฟุต ให้ความสะดวกสบายที่คุณสามารถจินตนาการได้อย่างแท้จริง รวมถึงห้องน้ำที่สองสำหรับแขก และห้องน้ำหลักที่ออกแบบใหม่ด้วยหินออนิกซ์และหินแกรนิต พร้อมด้วยฝักบัวอาบน้ำที่หรูหรา คุณสามารถผ่อนคลายบนระเบียงส่วนตัวที่ทำจากไม้สัก ฟังเพลงผ่านระบบเสียงที่ยอดเยี่ยม หรือชมภาพยนตร์บนโทรทัศน์จอแบนสองเครื่อง พร้อมอินเทอร์เน็ตไร้สายที่มีให้ใช้งานฟรีผ่าน iPad® ที่จัดเตรียมไว้ให้ นอกจากนี้ วิสตา สวีทยังมอบสิทธิประโยชน์พิเศษ ซึ่งรวมถึงบริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องที่พัก การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. ด้วยความสำคัญพร้อมการจัดส่งสัมภาระลำดับความสำคัญ บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง บาร์ในห้องพักที่มีเครื่องดื่มพรีเมียม 6 ขวดจากเมนูเครื่องดื่มสำหรับสวีท ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี以及ผลไม้สดที่เติมให้ใหม่ทุกวัน การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ที่มีความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด และของใช้ในห้องน้ำหรูหรา นอกจากนี้ยังมีหนังสือพิมพ์รายวันเลือกอ่านได้ และกระเป๋าทรงโอตต์ Oceania Cruises พร้อมอุปกรณ์ stationery ส่วนตัว ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และเลือกหมอนจากคอลเล็กชั่นหรูหรา รวมถึงบริการขัดรองเท้าฟรี และบริการรีดเสื้อผ้าฟรีในวันขึ้นเรือ โปรดทราบว่าการสูบบุหรี่ในสวีท ห้องพัก และบนระเบียงนั้นห้ามอย่างเคร่งครัด


ห้องเพนท์เฮาส์สวีท ขนาด 322 ตารางฟุต ถูกออกแบบอย่างหรูหราและมีสไตล์ด้วยการตกแต่งสุดประณีตที่มีโทนสีอันเงียบสงบสื่อความงดงามของทะเลและแสงแดด ห้องนี้กว้างขวางเพียงพอสำหรับการรับประทานอาหารในห้องส่วนตัว โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่รวมถึงมินิบาร์พร้อมตู้เย็น และโต๊ะแต่งตัว ในห้องน้ำหุ้มด้วยหินแกรนิต ที่กว้างขวางทำให้คุณสามารถผ่อนคลายในอ่างอาบน้ำขนาดเต็มหรือฝักบัวได้อย่างหรูหรา นอกจากนี้ยังมีกระดานไม้เท็กซ์ที่ตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อให้คุณได้นั่งพักผ่อนอย่างสบายใจในระเบียงส่วนตัวของคุณ เพนท์เฮาส์สวีทยังมอบสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก, บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, แชมเปญต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้าที่มีลำดับความสำคัญ, การเข้าถึงเทอเรซสปา Aquamar ไม่จำกัด, ถุงผ้าสำหรับเดินทางของ Oceania Cruises ฟรี, ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการนั่งพักผ่อนในระเบียง, บริการเงางามรองเท้าฟรี และบริการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ ห้องนี้ไม่มีการอนุญาตให้สูบบุหรี่ในสวีท ห้องพัก และระเบียงเพื่อความสะดวกสบายของผู้เข้าพักทุกท่าน


ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียง (Concierge Level Veranda Stateroom) ถูกตั้งอยู่ในทำเลที่ต้องการสูงสุดบนเรือสำราญ เชิญคุณสัมผัสความหรูหราในห้องพักขนาด 216 ตารางฟุต ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและสิทธิพิเศษที่ทำให้การเดินทางของคุณเพิ่มความสบายใจ เช่น บริการซักรีดฟรีถึง 3 ถุงต่อห้องพัก ภายในห้องพักคุณจะพบการตกแต่งใหม่ที่สดใส พร้อมเตียง Tranquility ที่นุ่มสบายและระเบียงที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ทันสมัย สัมผัสประสบการณ์คอนเซียร์จที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการบริการที่ครอบคลุม เช่น เมนูบริการอาหารกลางวันและเย็นที่ขยายจากห้องรับประทานอาหาร Grand Dining Room รับ Champagne ต้อนรับฟรี และการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์แบบมีลำดับความสำคัญ รวมถึงการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี ห้องพักนี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคุณ โดยปราศจากการสูบบุหรี่ในห้องพักและบนระเบียง


ระเบียง客艙 ขนาด 216 ตารางฟุตนี้มีการออกแบบที่หรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับแต่งพิเศษและการตกแต่งด้วยหินที่แปลกใหม่ พร้อมกับหัวเตียงบุผ้านุ่มและไฟสวยงาม คือที่พักที่โดดเด่นที่สุดในเรือสำราญของเรา ความสะดวกสบายในห้องพักประกอบไปด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์ที่มีห้องเย็นสำหรับเครื่องดื่มต่างๆ โต๊ะอาหารเช้า และพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง มีระเบียงไม้ที่ทำจากไม้เทคส่วนตัว เพื่อให้คุณได้ชมวิวเปลี่ยนแปลงตลอดการเดินทาง ห้องพักนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises พร้อมชุดเครื่องนอน 1,000 เส้นใย และน้ำดื่ม Vero Water ที่เปล่าหมายของคุณ พร้อมด้วยบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง และบริการทำความสะอาดห้องพักวันละสองครั้ง รวมถึงช็อกโกแลตเบลเยียมในตอนเย็น ระบบทีวีที่มีฟังก์ชันสั่งได้ รวมถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการมือถือ อีกทั้งยังมีตู้นิรภัยและชุดเสื้อคลุมฝ้ายหนา พร้อมรองเท้าแตะ เพื่อให้คุณได้สัมผัสความสะดวกสบายในขณะที่พักผ่อนบนเรือสำราญ หมายเหตุ: ห้ามสูบบุหรี่ในห้องชุด ห้องพัก และระเบียงโดยเด็ดขาด

ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลมีพื้นที่กว้างขวางถึง 165 ตารางฟุต ถูกออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ด้วยตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และเฟอร์นิเจอร์ที่ลงตัว ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งสบายให้แก่ผู้เข้าพัก โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์ที่เย็นเฉียบ และมุมสำหรับรับประทานอาหารเช้าที่ตกแต่งด้วยสีอ่อนและผ้าหรูที่ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ห้องพักนี้ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น น้ำอัดลมที่เติมใหม่ทุกวันในมินิบาร์ น้ำ Vero น้ำสะอาดและน้ำมีฟอง พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ภายในห้องมีเตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises พร้อมอุปกรณ์ Bulgari และบริการทำความสะอาดห้องแบบสองครั้งต่อวัน นอกจากนี้ยังมีระบบโทรทัศน์อินเตอร์แอกทีฟที่มีภาพยนตร์ตามคำขอ บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายและโทรศัพท์มือถือ รวมถึงโต๊ะเขียนหนังสือและเครื่องเขียน พร้อมผ้าเช็ดตัวของใช้ในห้องน้ำที่นุ่มฟู ผ้าโรเบอร์และรองเท้าอาบน้ำ รวมถึงการบริการจัดเตรียมช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงเปลี่ยนผ้าห่ม ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลยังมีฟีเจอร์สำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการการเข้าถึงที่สะดวกสบาย เช่น เตียงที่มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ช่วยเหลือ ประตูห้องน้ำขนาดใหญ่ ราวจับที่ห้องน้ำ และห้องน้ำที่ออกแบบมาเพื่อให้สะดวกในการเข้าออกโดยไม่มีขอบสูง รวมถึงอ่างอาบน้ำในห้องน้ำด้วย โปรดทราบว่าห้ามสูบบุหรี่ในห้องพัก สวีท และระเบียงโดยเด็ดขาด

ห้องพักแบบมองเห็นทะเล ขนาด 165 ตารางฟุต มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัยและการตกแต่งที่มีระดับ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพัก ด้วยพอร์ตโฮลคลาสสิกที่เปิดมุมมองสู่ทิวทัศน์สวยงาม พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่เงียบสงบซึ่งประกอบด้วยโซฟาสำหรับการพักผ่อน โต๊ะทำงาน และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร เชื่อมต่อความสะดวกด้วยมินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มแช่เย็นไว้บริการ นอกจากนี้ ห้องพักยังมีบริการฟรีต่างๆ เช่น น้ำอัดลมเติมใหม่ทุกวัน น้ำแร่สปาร์คกลิ้ง และเมนูรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ประกอบด้วยเตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกลักษณ์จาก Oceania Cruises และผลิตภัณฑ์ Bulgari เพื่อการดูแลร่างกาย ควบคู่ไปกับบริการทำความสะอาดห้องพักสองครั้งต่อวัน และระบบโทรทัศน์ที่มีฟีเจอร์สั่งดูภาพยนตร์และข้อมูลสภาพอากาศ เชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ตไร้สาย และบริการโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ ยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมชุดเครื่องเขียน ผ้าขนหนูและเสื้อคลุมอาบน้ำที่นุ่มฟู รวมถึงเครื่องเป่าผม และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน พร้อมด้วยช็อกโกแลตเบลเยียมสำหรับบริการเตรียมเตียงก่อนนอน ห้องพักนี้เป็นที่พักที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายในทุกช่วงเวลาอย่างแท้จริง


ห้องพักเดี่ยวแบบวิวทะเลเป็นที่พักที่มอบประสบการณ์ที่หรูหราและสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพัก ภายในห้องจะได้รับการจัดเตรียมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งที่เติมให้ฟรีทุกวันในมินิบาร์ที่ติดตั้ง การบริการที่ยอดเยี่ยมยังรวมถึงน้ำ Vero ที่มีทั้งแบบธรรมดาและมีฟองฟรี นอกจากนี้ยังสามารถสั่งบริการห้องพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง ห้องพักได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เริ่มต้นจากเตียง Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises ที่มอบความสบายสุดฟิน พร้อมด้วยของใช้จาก Bulgari ที่เสริมความหรูหรา บริการแม่บ้านจะมีการทำความสะอาดห้องพักถึงสองครั้งต่อวัน พร้อมด้วยระบบโทรทัศน์ที่มีการใช้งานที่ง่าย สื่อสารกับอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีโต๊ะเขียนและเครื่องเขียนให้พร้อม ที่นอนจะมีผ้าขนหนู, เสื้อคลุม, และรองเท้าแตะที่นุ่มสบายให้ในห้องพัก พร้อมด้วยเครื่องเป่าผมและตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย ที่พักยังมีกล่องช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงเวลาที่ทำการเตรียมห้องคืนอีกด้วย การสูบบุหรี่ในห้องชุด, ห้องพัก และระเบียงนั้นถูกห้ามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ในบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์.


ห้องพักภายในได้รับการออกแบบใหม่อย่างสวยงาม พร้อมกลิ่นอายความทันสมัย ในพื้นที่ 160 ตารางฟุตเต็มไปด้วยความหรูหรา ห้องพักนี้มาพร้อมกับพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย, โต๊ะเครื่องแป้ง, มินิบาร์ที่มีการแช่เย็น และพื้นที่จัดเก็บที่เพียงพอ การใช้พื้นที่อย่างชาญฉลาดถูกเสริมด้วยการตกแต่งใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจ ห้องพักนี้ยังมีเตียง Ultra Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเรือสำราญ Oceania Cruises ที่จะช่วยให้คุณตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมงที่หลากหลาย มีผ้าขนหนูผ้าฝ้ายคุณภาพสูง เสื้อคลุมอาบน้ำหนานุ่มและรองเท้าแตะ รวมถึงอุปกรณ์จาก Bulgari ไดร์เป่าผมแบบมือถือ โทรทัศน์จอแบนที่มีข่าวสารและรายการถ่ายทอดสดจากดาวเทียม รวมถึงเครื่องเล่น DVD พร้อมห้องสมุดมีเดียที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้จะมอบความสะดวกสบายให้แก่คุณอย่างสูงสุด ห้องพักทุกห้องไม่มีการสูบบุหรี่ เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับความหรูหราและความสะดวกสบายที่ยอดเยี่ยมในห้องพักภายในห้องนี้