
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

โอเชเนีย นอโตกระ
โอเชียเนีย ครูซส์


เมื่อคุณเดินทางมาถึงท่าเรือซิวิต้เวคเคียในอิตาลี บรรยากาศสไตล์อิตาเลียนกำลังรอคอยการค้นพบของคุณอยู่ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมซึ่งมีอายุกว่า 2,500 ปี ที่ซึ่งมีอาณาจักรจักรพรรดิ พระสันตะปาปา ศิลปิน และผู้คนธรรมดา ได้สร้างมรดกที่ไม่อาจลืมเลือน ตั้งแต่ซากโบราณของกรุงโรมไปจนถึงศิลปะในโบสถ์ที่เต็มไปด้วยความงดงาม และสมบัติอันล้ำค่าของนครวาติกัน ไม่ว่าคุณจะตั้งใจเดินเที่ยวชม Colosseum ที่เป็นสัญลักษณ์ วัด Pantheon อันยิ่งใหญ่ หรือจะใช้เวลาเพลิดเพลินที่ Campo de' Fiori ด้วยกาแฟสักถ้วยในยามสาย การเดินทางนี้จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน และสัมผัสบรรยากาศแห่งความมีชีวิตชีวาในทุก ๆ มุมมอง ที่นี่คุณยังสามารถเลือกที่จะผ่อนคลายท่ามกลางความสงบในจัตุรัสที่มีเสน่ห์ ใช้เวลาชมผู้คนและดื่มด่ำกับชัยชนะของการใช้ชีวิตอย่างช้าๆ การสำรวจซิวิต้เวคเคียและกรุงโรมจะเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยจะเชื่อมโยงคุณกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของอิตาลีในทุกย่างก้าวที่คุณเดิน ทุกๆ สนามหญ้าและจุดหมาย เป็นข้อเสนอที่อัดแน่นไปด้วยความงดงามและแรงบันดาลใจที่คิดไม่ถึง

ซอร์เรนโต (Sorrento) เป็นจุดหมายที่ไม่เพียงแต่เป็นทางผ่านไปยังปอมเปอี (Pompeii), เกาะคาปรี (Capri) และชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi) แต่ยังเป็นเมืองที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความเป็นเอกลักษณ์ในตัวเอง เมืองที่ตั้งอยู่บนหน้าผาหินปูนนี้ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน ขณะที่ต้นส้มและต้นมะนาวส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซอร์เรนโตร่ำรวยไปด้วยวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในย่านประวัติศาสตร์ที่มีถนนเล็ก ๆ ที่ปูด้วยหินแบบโบราณ และอาคารที่มีระเบียงสวยงาม ลมเย็น ๆ ที่พัดมาตลอดระยะทางทำให้คุณรู้สึกสดชื่นเมื่อเดินผ่าน พื้นที่กลางเมืองถูกตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่กวีชื่อดังทอร์ควาโต ทัสโซ (Torquato Tasso) ที่เกิดที่นี่ในปี ค.ศ. 1544 นอกจากภูมิทัศน์ที่สวยงามแล้ว ซอร์เรนโตยังมีงานฝีมือที่น่าสนใจให้ชม โดยช่างฝีมือที่ทำงานในร้านค้าต่าง ๆ มักยินดีให้คุณได้เห็นการทำงานของพวกเขา พร้อมกับบาร์และร้านดนตรีมากมายในตรอกซอกซอยใกล้กับเพียซซ่า ทัสโซ (Piazza Tasso) ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน ซอร์เรนโตเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางไปยังอิตาลี เติมเต็มความฝันด้วยการสำรวจความสวยงามและเสน่ห์ของเมืองนี้ อีกหนึ่งจุดหมายที่อัดแน่นไปด้วยประสบการณ์อันไร้รอยต่อที่คอยต้อนรับคุณออกไปค้นหาโลกใบใหม่!

เมืองเมสซินา ตั้งอยู่ในซิซิลี ประเทศอิตาลี เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาประสบการณ์อันน่าทึ่ง เมืองนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ แต่ยังเป็นแหล่งรวมศิลปะและประวัติศาสตร์อันล้ำค่าอีกด้วย ที่นี่มี Museo Regionale di Messina ซึ่งจัดแสดงผลงานสองชิ้นอันมีชื่อเสียงของศิลปินระดับโลกอย่าง Caravaggio ซึ่งจะทำให้ทุกคนประทับใจในความสวยงามและความลึกซึ้งของศิลปะสมัยบาโรก นอกจากนี้ เมสซินายังมีเสน่ห์ที่น่าสนใจจากสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะโบสถ์คาทอลิกที่งดงามซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งของเมือง อีกทั้งยังมีวิวทะเลที่งดงาม ชายหาดที่สวยงามและขั้นบันไดจากภูเขานำเสนอทัศนียภาพที่น่าประทับใจ สำหรับผู้ที่มีใจรักในการสำรวจ เมสซินาเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมในการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ของซิซิลี พร้อมทั้งสัมผัสถึงอาหารพื้นเมืองอันเลิศรสที่จะทำให้คุณลืมไม่ลง เพลิดเพลินไปกับเสน่ห์และความอัศจรรย์ของเมสซินาในทุก ๆ การเดินทางที่คุณมาที่นี่!

วัลเลตตา เมืองหลวงสุดหรูของประเทศมอลตา นับเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้รักการเดินทาง สถาปัตยกรรมที่ประณีตของพระราชวังและพิพิธภัณฑ์ที่ล้อมรอบด้วยป้อมปราการสีครีมอันงดงาม จะทำให้คุณรู้สึกย้อนเวลาไปยังอดีตเมื่อก้าวเข้าสู่อาณาเขตแห่งนี้ การสำรวจเมืองวัลเลตตานั้นไม่จำเป็นต้องใช้รถ ใช้เวลาเพียงไม่นานในการเดินสำรวจถนนสายหลักอย่าง Triq Repubblika ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คึกคัก พร้อมด้วย Triq Mercante ที่ซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของตลาดท้องถิ่น ที่เต็มไปด้วยร้านค้าหลากหลายรูปแบบในบรรยากาศที่เป็นกันเอง จุดเริ่มต้นการเดินทางในวัลเลตตาคือ City Gate ซึ่งเป็นประตูเข้าสู่เมือง ใช้เวลาพักผ่อนที่ออฟฟิศข้อมูลนักท่องเที่ยวบน Triq Mercante เพื่อรับแผนที่และข้อมูลสำคัญก่อนการเดินทาง ต่อด้วยการเลือกสำรวจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงอาคารรัฐสภาแห่งใหม่และสถานที่จัดแสดงศิลปะกลางแจ้ง วัลเลตตาไม่เพียงแต่ยังมีเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่รอคอยให้คุณเดินทางมาสัมผัสและสร้างความทรงจำใหม่ในทุกย่างก้าว


ดุกรมดาติก (Dubrovnik) เมืองแห่งความงามที่ตั้งอยู่ในประเทศโครเอเชีย เป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่มีเขตป้อมปราการที่งดงามที่สุดในโลก ด้วยทำเลที่ตั้งติดชายฝั่งอย่างน่าทึ่ง ที่ซึ่งคุณจะพบกับกำแพงหินขนาดใหญ่และหอคอยที่งดงามที่โอบล้อมท่าเรือเล็ก ๆ สถาปัตยกรรมของเมืองที่มีหลังคากระเบื้องสีส้มเปล่งประกายใต้แสงแดด เซมมีโดมทองแดง และหอระฆังที่หรูหรา เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเริ่มต้นจากการอพยพของประชาชนจากเมืองโรมัน เอปิดาอูรัมในศตวรรษที่ 7 โดยพวกเขาได้ตั้งถิ่นฐานบนเกาะหินขนาดเล็กที่เรียกว่า รากูซา (Ragusa) และสร้างเมืองที่รู้จักกันในชื่อ ดูบรอฟนิก (Dubrovnik) ในศตวรรษที่ 12 เมืองนี้เปลี่ยนแปลงเป็นสาธารณรัฐอิสระที่เจริญรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 16 ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม อาคารสุขภาพ และภัตตาคารที่มีเอกลักษณ์ ทำให้ดูบรอฟนิกกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก หากคุณได้เยี่ยมชมเมืองนี้ จะได้สัมผัสถึงความเป็นอัญมณีทางวัฒนธรรมที่ประวัติศาสตร์เกือบสูญเสียไป และเผชิญหน้ากับธรรมชาติที่หยั่งลึกลงไปในใจของทุกคนที่ได้มาเยือน

ท่าเรือโคเตอร์ (Kotor) ในมอนเตเนโกร ตั้งอยู่ในอ่าวโบโค (Bokor Kotorska) ซึ่งเป็นฟยอร์ดที่อยู่ทางใต้ที่สุดในยุโรป ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาที่งดงามและมีความลับซึ่งทำให้เมืองนี้มีความมีเสน่ห์อย่างยิ่ง โคเตอร์เป็นเมืองที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน แตกต่างจากเมืองดูบรอฟนิกที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น เมืองเก่าที่มีรูปลักษณ์อันสวยงามถูกล้อมรอบด้วยกำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-18 และมีป้อมปราการบนเขาที่เฝ้ามองด้านล่าง ภายในเมืองมีตรอกซอกซอยที่สร้างจากหินเป็นลำดับ ซึ่งนำพาไปสู่จัตุรัสที่เต็มไปด้วยร้านบูติกร้านกาแฟที่ทันสมัย แต่ยังคงมีเสน่ห์จากโครงสร้างโบราณที่สร้างขึ้นจากยุคกลาง โคเตอร์เคยเป็นท่าเรือที่สำคัญในเศรษฐกิจและวัฒนธรรมของเซอร์เบีย โดยมีทั้งศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับงานปูนและไอคอนนิก นอกจากนี้ ท่าเรือปอร์โต้มอนเตเนโกรซึ่งเปิดในปี 2011 ยังออกแบบมาเพื่อต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอชต์ชั้นนำของโลก อีกทั้งยังมีหมู่บ้านชายหาดที่งดงามรอบอ่าว เช่น เมืองเล็กๆ อย่างมูโอ (Muo) และเพอราสต์ (Perast) ที่คุณไม่ควรพลาด แวะชมวิวเบื้องหน้าที่งดงามของอ่าวนี้ทำให้การเดินทางของคุณเติมเต็มด้วยประสบการณ์ที่น่าลุ่มหลงและไม่รู้ลืม

เมื่อคุณก้าวเท้าสู่เมืองโครฟู (Corfu) คุณจะได้สัมผัสกับเสน่ห์ที่มีมาช้านานที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของหลายวัฒนธรรม เมืองหลวงที่มีชีวิตชีวานี้ตั้งอยู่บริเวณกลางชายฝั่งตะวันออกของเกาะโครฟู เป็นจุดศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและมีใจกลางเมืองที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกในปี 2007 ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาทางเรือเฟอร์รี่จากแผ่นดินใหญ่หรืออิตาลี หรือบินตรงมายังสนามบิน ณ โครฟู เมืองนี้คือจุดแวะพักที่เต็มไปด้วยความงาม ทางเดินเล็ก ๆ ในเขตคนเดินยกระดับให้คุณเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของเมือง โดยคุณสามารถผ่อนคลายด้วยการจิบกาแฟหรือไอศกรีมที่ Liston Arcade ที่มีร่มเงา ควรใช้เวลาสำรวจพระราชวังมอน เรโปส (Mon Repos) โดยขึ้นรถไฟท่องเที่ยวที่ให้บริการในช่วงฤดูร้อน และเมื่อถึงเวลาค่ำคืน เมืองนี้จะมีบรรยากาศที่แตกต่างด้วยร้านอาหารท้องถิ่นที่เสิร์ฟอาหารชั้นเลิศของเกาะ การเดินทางในเมืองโครฟูเป็นไปอย่างสะดวกสบาย คุณสามารถเดินเท้าสำรวจได้ทั่วถึง เมืองมีความเล็กพอที่คุณจึงไม่ต้องพึ่งพารถบัสที่ไม่สามารถเข้าถึงในเขตประวัติศาสตร์ หากคุณเดินทางมาทางเฟอร์รี่หรือเครื่องบิน แนะนำให้ใช้แท็กซี่ซึ่งจะพาคุณไปยังโรงแรมได้ในราคาเพียง 10 ยูโร ห้ามพลาด!

ท่าเรือคาทากอลอน ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเพโลพอเนซ ทำหน้าที่เป็นประตูสู่ความมหัศจรรย์แห่งประวัติศาสตร์ที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ด้วยความใกล้ชิดกับโอลิมเปีย เมืองโบราณที่เคยเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการแข่งขันกีฬาโอlympic ครานั้น นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่เมื่อเรือสำราญจอดที่นี่ สถานที่นี้จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา โอลิมเปียซึ่งตั้งอยู่ห่างจากคาทากอลอนไม่ไกลนัก เป็นที่ตั้งของอัฒจันทร์กีฬาแห่งแรกของโลก เต็มไปด้วยเรื่องราวและตำนานที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของกรีซโบราณ นักท่องเที่ยวสามารถเดินตามรอยเท้าของนักกีฬาโบราณ และชื่นชมซากปรักหักพังของวิหารซุสที่เคยดึงดูดผู้แสวงบุญจากทั่วทุกมุมเมดิเตอร์เรเนียน หากคุณไม่ต้องการเดินทางไปโอลิมเปีย คาทากอลอนก็เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการนั่งพักผ่อนและรับประทานอาหารกลางวันสไตล์กรีก ขณะชมชาวประมงที่ก้าวข้ามมาทำงานในทะเล เหมาะสำหรับการพักผ่อนในบรรยากาศที่งดงามและไม่รีบร้อน คาทากอลอน พร้อมมอบทั้งความสงบและประสบการณ์ที่แสนน่าหลงใหล ในการสำรวจวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของกรีซ โดยไม่ต้องมีอะไรให้ต้องรีบเร่ง

ซานโตรีนี (Santorini) เป็นเกาะที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ในภูมิภาคเอเจียน รูปร่างของเกาะเป็นเสี้ยวพระจันทร์ซึ่งถูกตั้งอยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวของหมู่เกาะไซคลาดิค ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับพระอาทิตย์ตกที่น่าตื่นตาตื่นใจจากหมู่บ้านอียา (Ia) และสำรวจซากโบราณคดีอันน่าสนใจ ทั้งยังมีบ้านเรือนสีขาวสะอาดที่กลมกลืนกับท้องฟ้าอันสดใส ชื่อเดิมของซานโตรีนีคือ `คัลลิสติ` (Kállisti) ซึ่งแปลว่า "สวยที่สุด" แต่ต่อมาถูกปรับเป็น `ธีร่า` (Thira) ตามชื่อของผู้ตั้งถิ่นฐานในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นชื่อที่เราเรียกในปัจจุบันคือ ซานโตรีนี ซึ่งได้ชื่อมาจากนักบุญไอรีน (St. Irene) แห่งเทสซาโลนิกิ การเดินทางโดยเรือมาถึงเกาะซานโตรีนีนั้นน่าตื่นเต้นมาก เมื่อคุณล่องเรือผ่านเกาะซิกิโนส (Sikinos) และไอโอส (Ios) โดยมีกลุ่มเกาะตัวเล็กๆ ตั้งอยู่สองด้าน การแล่นเรือเข้าสู่แคลเดอรีนั้นทำให้คุณได้สัมผัสความสวยงามของหน้าผาที่สูง 1,100 ฟุต และเมื่อเรือถึงท่าเรืออาธินิออส (Athinios) คุณจะได้พบกับบรรยากาศอันพิเศษที่สร้างความประทับใจ โดยภายในอ่าวนี้คือหลักฐานที่แสดงถึงอารยธรรมเก่าแก่และความงามที่ซ่อนอยู่จากพลังแห่งภูเขาไฟ ซานโตรีนี ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ยังมีเกาะเพื่อนบ้านที่น่าสนใจอีกมากมาย จึงไม่แปลกใจที่ที่นี่จะเป็นหนึ่งในสุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวในยุโรปที่ทุกคนไม่ควรพลาด!

ท่าเรือพิราอีอัส (Piraeus) ตั้งอยู่ใกล้กับกรุงเอเธนส์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสำรวจความงามและประวัติศาสตร์ของกรีซ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นท่าเรือที่วุ่นวาย แต่ยังเป็นประตูสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น สัมผัสเสน่ห์ของพิราอีอัสกับภาพวิวทะเลสวยและร้านอาหารทะเลที่มีชื่อเสียง ลองชิมอาหารซีฟู้ดสดๆ ริมน้ำในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังกรุงเอเธนส์ เพื่อชมมนต์ขลังของอะโครโพลิส แหล่งมรดกโลกที่มีเสาหินอ่อนสีทองเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามแบบศิลปะกรีกโบราณ ในขณะที่สำรวจเมือง คุณจะได้พบกับย่านต่างๆ เช่น พลาคา ที่มีถนนแคบๆ และบ้านเรือนสีสันสดใส นอกจากนี้ คุณยังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่รวบรวมวัตถุโบราณต่างๆ เพื่อรู้จักกับประวัติศาสตร์หลายพันปีของกรีซได้อีกด้วย การเดินเที่ยวในพิราอีอัสและเอเธนส์จะเป็นการสัมผัสถึงเสน่ห์ที่เน้นความหลากหลายของวัฒนธรรม ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คู่ควรแก่การสำรวจ ความคลาสสิกพบกับความทันสมัยในวิถีชีวิตประจำวันของชาวกรีก รอให้คุณได้มาเปิดประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครในดินแดนแห่งนี้.

เอเฟซัส (Ephesus) เมืองโบราณที่ตั้งอยู่ในประเทศตุรกี เป็นหนึ่งในหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่แสนมหัศจรรย์ของการเดินทางที่ทุกคนควรเห็นสักครั้งในชีวิต เมืองนี้เป็นที่ตั้งของซากปรักหักพังที่มีชื่อเสียงระดับโลก รวมถึงวิหารอาร์เทมิส ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ นอกจากนี้ยังมีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ที่รองรับผู้ชมได้มากถึง 25,000 คน และถนนเซลซุสที่มีเสาเรียงรายอย่างสวยงาม สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมโรมัน การเดินทางมายังเอเฟซัส นอกจากการสัมผัสกับประวัติศาสตร์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นในเมืองเก่าที่มีกลิ่นอายของความรุ่งเรืองจากวันวาน ร้านค้าและคาเฟ่ที่เปิดบริการอยู่ตลอดเส้นทาง เตรียมให้คุณได้พักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบ หากคุณมีเวลามากขึ้น ควรไปเยือนชายหาดปามูคาเล่ ที่มีน้ำพุร้อนธรรมชาติให้คุณได้แช่ตัวหรือไปยังเมืองซูคู เมืองท่าที่สวยงาม ด้วยความหลากหลายทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่งดงาม เอเฟซัสจึงไม่ใช่เพียงแค่ท่าเรือที่เรือสำราญแวะจอด แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่ไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่ตุรกี!

ท่าเรือโบดรั่ม (Bodrum) ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเดรียติกของตุรกี เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่หรูหราและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงามของทะเลอีเจียน โดยเฉพาะการเดินทางด้วยเรือสำราญที่แวะจอดที่นี่ โบดรั่มมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมกรีกและออตโตมัน นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจความงามของเมืองที่มีบ้านสีขาวและหลังคาสีฟ้า หรือเพลิดเพลินไปกับหาดทรายที่สะอาดและน้ำทะเลใสสะอาด อีกทั้งยังมีทัศนียภาพที่งดงามของภูเขาล้อมรอบ สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ ไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมปราสาทโบดรั่ม (Bodrum Castle) สถานที่ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 เพื่อป้องกันการรุกรานจากโจรสลัด ซึ่งตอนนี้มีพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับโบราณคดีทางทะเล โบดรั่มยังมีชีวิตชีวาไปด้วยตลาดนัดที่เต็มไปด้วยของฝากและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่ที่เสิร์ฟอาหารตุรกีต้นตำรับ ให้คุณได้สัมผัสกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้ การเดินทางที่โบดรั่มจึงไม่เพียงแต่เป็นการพักผ่อน แต่ยังเป็นการสัมผัสประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าจดจำ ที่ทำให้ทุกนาทีประกอบไปด้วยความสุขและความตื่นเต้นในการค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ในชีวิต

เฮอราคลิออน (Iraklion) เป็นท่าเรือหลักของเกาะครีต ประเทศกรีซ ที่โดดเด่นด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานและวัฒนธรรมที่หลากหลาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เฮอราคลิออนเคยอยู่ใต้การปกครองของหลายอาณาจักร ทั้งอาหรับ เวนิส และออตโตมัน ซึ่งทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่น่าค้นหา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังซากปรักหักพังของเมืองมิโนอันที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ค้นพบความงดงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สื่อถึงอารยธรรมโบราณ รวมถึงพิพิธภัณฑ์เฮอราคลิออนที่มีการจัดแสดงงานศิลป์ที่มีค่า เช่น ผลงานของเอล เกรโก ศิลปินชาวสเปนที่เกิดในดินแดนแห่งนี้ นอกจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว เฮอราคลิออนยังเป็นศูนย์กลางที่คึกคักด้วยร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหารท้องถิ่นที่เชิญชวนให้ลิ้มลองรสชาติอาหารกรีกอันเลื่องชื่อ ในทุกมุมของเมืองสามารถพบเห็นเสน่ห์ที่ลงตัวระหว่างอดีตและปัจจุบัน ทั้งมนต์เสน่ห์ของท่าเรือที่แปลกใหม่และประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น ทำให้เฮอราคลิออนเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อันสุดพิเศษในเกาะครีต.

เกาะโรดส์ ประเทศกรีซ เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ทำให้ผู้เดินทางรู้สึกอบอุ่นใจและเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ ด้วยความงดงามของเมืองหลวงที่แบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างลงตัว มีทั้งเมืองเก่าสไตล์โบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก และเมืองใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา เมืองเก่าแห่งโรดส์มีซอยแคบๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ซึ่งปิดประตูแก่รถยนต์ ทำให้สามารถเดินชมโบสถ์นิกายออร์โธดอกซ์และคาทอลิก รวมถึงบ้านเรือนในสไตล์ตุรกีที่น่าตื่นตาตื่นใจ การเดินทางในเมืองเก่า โรดส์คือการเดินย้อนกลับไปในอดีต ทั้งยังมีอาคารสาธารณะในยุคกลางที่กลมกลืนด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงามด้วยหินปูนจากลินโดส การบูรณะที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้เสริมหรือสร้างบรรยากาศอันงดงามนี้ให้เข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและภัยผจญภัยที่ลึกลับ โรดส์คือที่ที่คุณไม่ควรพลาด มาสัมผัสความมหัศจรรย์ของโรดส์และให้มันกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ทรงคุณค่าในบทชีวิตการเดินทางของคุณเถอะ!

ลิมาสซอล (Limassol) เมืองท่าที่มีชื่อเสียงเป็นทั้งท่าเรือพาณิชย์และท่าเรือสำราญที่มีชีวิตชีวา ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของไซปรัส ห่างจากนิโคเซียเพียง 75 กิโลเมตร เมืองแห่งนี้มีความเป็นสากลสูง และเป็นสถานที่ที่โด่งดังในเรื่องของชีวิตกลางคืนที่คึกคักที่สุดบนเกาะ ริมชายหาดที่งดงามกว่า 12 กิโลเมตรเต็มไปด้วยโรงแรมหรูหรา อพาร์ตเมนต์ และเกสต์เฮ้าส์ที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์สุดพิเศษ ในใจกลางเมืองถนนมาเคริออส (Makarios Avenue) เต็มไปด้วยร้านค้าทันสมัยสุดหรู ในขณะที่ริมถนนเก่าอย่างอากีโอ แอนเดรอ (Agiou Andreou) จะมีผลิตภัณฑ์ช่างฝีมือท้องถิ่น เช่น กาบและงานเย็บปักลาย ที่จะทำให้คุณมีของฝากที่ไม่เหมือนใคร ควรระวังเวลาในการช็อปปิ้ง โดยเฉพาะในช่วงบ่ายวันพุธและวันเสาร์ เนื่องจากร้านค้ามักจะปิดทำการในชั่วโมงนี้ นอกจากนี้ ลิมาสซอลยังได้พัฒนาเป็นท่าเรืออยู่อย่างมีชีวิตชีวา เพื่อรองรับเรือยอชต์มากถึง 650 ลำ ที่จะมีทั้งอพาร์ตเมนต์ ร้านค้า และร้านอาหาร สนับสนุนให้เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจตลอดทั้งปี และพร้อมมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครเฉพาะสำหรับคุณ!



เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าเรืออควาบา (Aqaba) ซึ่งตั้งอยู่ที่ปลายสุดใต้ของจอร์แดน คุณจะได้สัมผัสกับความหรูหราและเสน่ห์ของเมืองตากอากาศที่งดงามแห่งนี้ จัดว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก ด้วยแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และน้ำทะเลใสแจ๋ว นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการดำน้ำตื้นและกีฬาทางน้ำต่าง ๆ โดยง่าย ๆ แค่เช่าเรือเพื่อออกไปสำรวจความงามใต้ทะเลในช่วงวันหนึ่งหรือครึ่งวัน พร้อมบริการอาหารกลางวันเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง อควาบายังเป็นที่รู้จักกันในฐานะจุดหมายปลายทางที่คึกคัก มีโรงแรมหรูหลายแห่งที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยวและแหล่งช็อปปิ้งที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งจะต้องไม่พลาดที่จะเยี่ยมชมร้านเครื่องประดับที่เต็มไปด้วยมุก, อัญมณี และเครื่องประดับทองและเงิน คุณจะได้เลือกสรรของที่ระลึกที่สวยงามและมีเอกลักษณ์กลับบ้าน แม้อควาบาจะเป็นรีสอร์ทที่เปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก แต่ก็ยังคงรักษาความเป็นวัฒนธรรมที่เคร่งครัด ทำให้สถานที่นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหาความสงบและได้ใช้ชีวิตในแบบสบาย ๆ ที่ชายหาดส่วนตัวของโรงแรม ทำให้การเยือนอควาบาเป็นความฝันที่คุณไม่ควรพลาด!

ชาร์มเอลชีค ท่าเรือที่ตั้งอยู่ที่จุดใต้สุดของคาบสมุทรซีนาย เป็นจุดหมายปลายทางที่งดงามและเต็มไปด้วยเสน่ห์ริมอ่าวอาเคบา เชื่อมโยงกับทะเลแดงที่ใสสะอาดและประวัติศาสตร์อันน่าหลงใหล ชาร์มเอลชีคเคยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญตลอดระยะเวลาหลายศตวรรษ โดยในช่วงปลายศตวรรษที่ 20, ท่าเรือแห่งนี้ค่อยๆ มีการพัฒนาเป็นรีสอร์ทหรูที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก นอกจากจะมีชายหาดที่งดงามและน้ำทะเลที่ใสสะอาด ชาร์มเอลชีคยังเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก นักท่องเที่ยวสามารถชมชีวิตใต้น้ำที่อุดมสมบูรณ์ได้อย่างใกล้ชิด ในขณะที่เรือท้องกระจกพร้อมให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความสวยงามของโลกใต้ทะเลโดยไม่ต้องจมน้ำ ใกล้เคียงกับท่าเรือคือหาดนาอาม่าที่เคยเป็นที่รกร้าง กลับกลายเป็นรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงตั้งแต่ปี 1980 มีโรงแรมและบาร์ที่ติดทะเลให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่หรูหรา หากคุณต้องการสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ หรือทำความรู้จักกับวัฒนธรรมเบดูอิน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ชาร์มเอลชีคคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติที่งดงามและประวัติศาสตร์อันยาวนาน รอคอยให้ทุกคนได้มาเยือนในวันอันแสนพิเศษนี้

ท่าเรือซาฟากา (Safaga) ในอียิปต์ เป็นจุดหมายปลายทางที่สวยงามและสงบเงียบ ที่กำลังพัฒนาจากเมืองพาณิชย์เป็นรีสอร์ทสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด แวดล้อมไปด้วยชายหาดที่สวยงามและสถานที่ดำน้ำที่น่าหลงใหลในทะเลแดง ท่าเรือซาฟากาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของการท่องเที่ยวมวลชนในเมืองฮูร์การ์ดา (Hurghada) ซาฟากาไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของชายหาดที่เหมาะแก่การพักผ่อน แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สะดวกในการไปสำรวจนครลักซอร์ (Luxor) และหุบเขากษัตริย์ (Valley of the Kings) ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปประมาณ 200 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวที่มาที่ซาฟากามักจะมีโอกาสทองในการเข้าร่วมทัวร์ที่นำไปยังสถานที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงเหล่านี้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำน้ำ ซาฟากายังมีจุดดำน้ำที่สวยงาม ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับนักดำน้ำที่ต้องการสัมผัสความงามใต้ทะเล ด้วยบรรยากาศที่สงบและมีเสน่ห์ ซาฟากาจึงเป็นจุดหมายที่ลงตัวสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติและประวัติศาสตร์ของอียิปต์


เมื่อพูดถึงการเดินทางเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมที่หลากหลายและมนต์เสน่ห์แห่งตะวันออกกลาง “เจดดาห์” คือหนึ่งในจุดหมายที่ไม่ควรพลาด เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศซาอุดีอาระเบีย เป็นท่าเรือที่สำคัญและมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางด้วยเรือสำราญ เมื่อเรือสำราญของคุณจอดถึงที่เจดดาห์ คุณจะได้ค้นพบความงดงามของชายหาดที่ทอดยาวและวิวทะเลแดง ที่นี่เต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านค้าในบรรยากาศสบาย ๆ ซึ่งทำให้คุณสามารถผ่อนคลายและสัมผัสกลิ่นอายของวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างลึกซึ้ง ส่วนหนึ่งที่น่าไปเยือนคือ “ทะเลแดง” แหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก คุณจะได้สำรวจความงามใต้น้ำที่เต็มไปด้วยประการังและปลาอันหลากหลาย นอกจากนี้ ผู้เดินทางสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น “มัสยิดคิงฟาฮ์” ที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรมและเป็นจุดรวมความคิดสร้างสรรค์ทางศาสนา ด้วยการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและความทันสมัย เจดดาห์จึงไม่ใช่แค่ท่าเรือที่จอดเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่คุณจะจดจำไปตลอดชีวิต ยิ่งไปกว่านั้น การเดินทางของคุณในครั้งนี้จะเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่แสนพิเศษที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว!


ซะลาล่าห์ (Salalah) คือเพชรพลอยแห่งชายฝั่งดอฮาร์ (Dhofar) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ตามธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงมรสุมขยี้ใจ, หรือที่เรียกว่า "คารีฟ" (Khareef) ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกันยายน ท่ามกลางสายฝนและหมอกหนา ตัวเมืองจะกลายเป็นประตูสู่จุดหมายที่เขียวขจีและอุดมสมบูรณ์ นอกจากน้ำตกที่สวยงามและทุ่งหญ้าที่กว้างใหญ่แล้วยังมีลำธารภูเขาที่ไหลชัดเจน ซึ่งสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้มาเยือน ซะลาล่าห์ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักระหว่างการค้าโบราณที่เชื่อมต่อระหว่างเลแวนต์ (Levant) กับอินเดียและจีน แต่ยังมีประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ย้อนกลับไปหลายศตวรรษ โดยเป็นศูนย์กลางการค้าไม้กฤษณาที่มีค่ากับผู้ค้าในวัฒนธรรมต่างๆ เช่น เมโสโปเทเมีย และจักรวรรดิเปอร์เซีย นอกจากความงดงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่ลึกลับแล้ว ซะลาล่าห์ยังมีสุสานและสถานที่สำคัญที่มีอายุเกือบ 2,000 ปี ตั้งอยู่บนภูเขารอบๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจวัฒนธรรมและประสบการณ์ที่แตกต่างจากที่อื่นในภูมิภาค อุดมไปด้วยสีเขียวและเสน่ห์ทางธรรมชาติ ซะลาล่าห์เป็นจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางสู่โลกแห่งความงามที่ยังคงเป็นปริศนารอการค้นพบอยู่เสมอ

ดูไบ เมืองแห่งความหรูหราที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลอาหรับนี้คือสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสนุกสนานและพักผ่อนในบรรยากาศทันสมัย ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนต้องหลงรัก ท่ามกลางทรายทองอันอบอุ่นและทะเลฟ้าคราม ดูไบมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครด้วยอาคารสูงเสียดฟ้าและสถานที่ท่องเที่ยวที่ออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์ เมืองแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัยในทะเลทรายหรือกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น รวมถึงสนามกอล์ฟระดับโลก ที่พักหรูหราหลากหลายระดับตั้งแต่ 5 จนถึง 7 ดาว ทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการพักผ่อน ในขณะเดียวกัน ศูนย์การค้าขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ที่ให้คุณเลือกช้อปปิ้งสินค้าชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากการใช้ชีวิตที่รวดเร็วและทันสมัย ดูไบยังเป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้วยโอกาสในการสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ การสูบชิชา (Shisha) ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมในการสังสรรค์ของคนท้องถิ่น ที่ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายเต็มไปด้วยกลิ่นหอม ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ คุณจะไม่มีวันลืมเมืองนี้ ดูไบจึงเป็นปลายทางที่คุณต้องไปสัมผัสอย่างแท้จริง!

อาบูดาบี เมืองหลวงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เคยเป็นเพียงหมู่บ้านประมงขนาดเล็ก ด้วยบ้านดินและใบปาล์ม เมื่อไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา แต่วันนี้อาบูดาบีเปลี่ยนโฉมเป็นหนึ่งในเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ด้วยถนนกว้างขวางที่มีต้นไม้เรียงราย สวนสวยที่เขียวขจี น้ำพุที่พลุ่งพล่าน และตึกระฟ้าที่งดงาม อาบูดาบีเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัยที่ผสมกลมกลืนกับมนต์เสน่ห์แบบอาหรับ ผู้คนที่เป็นมิตรพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยอัธยาศัยดี โบราณสถานสำคัญเช่น ป้อมอัลฮูสน (Al Husn) ซึ่งมีอายุมากกว่า 25 ปี เป็นที่ตั้งของมูลนิธิทางวัฒนธรรมและศูนย์เอกสาร เป็นหนึ่งในสถานที่สุดคลาสสิคที่ควรเยี่ยมชมความงดงามของผนังสีขาวที่ตัดกับตึกสูงระฟ้า การค้นพบแหล่งน้ำมันขนาดใหญ่ในทศวรรษ 1950 และ 1960 ทำให้อาบูดาบีเร่งพัฒนาทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐาน เปลี่ยนแปลงเมืองนี้ให้เจริญรุ่งเรืองและเปล่งประกายในวันนี้ สนุกสนานไปกับการสำรวจความงามของเมือง และหลงใหลในวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าหลงใหลได้ที่นี่ เตรียมพบประสบการณ์ใหม่ในอาบูดาบี ที่จะทำให้คุณประทับใจไปอีกนานแสนนาน!

โดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ มีประชากรประมาณ 700,000 คน ตั้งอยู่บนคาบสมุทรกาตาร์ ซึ่งมีชายแดนติดกับซาอุดีอาระเบียจากทางใต้ และล้อมรอบด้วยอ่าวเปอร์เซียที่สวยงาม ประวัติศาสตร์ของกาตาร์ยาวนานถึง 5,000 ปี และด้วยทำเลที่ตั้งที่เป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ ทำให้โดฮามีความสำคัญต่อการค้าในอดีต ในยุคสมัยใหม่ โดฮาได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 1971 เมื่อได้รับเอกราช โดยมีเงินทุนจากการส่งออกน้ำมันทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมืองนี้ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างลงตัว ตั้งแต่สถาปัตยกรรมสุดล้ำไปจนถึงตลาดโบราณและอาคารประวัติศาสตร์ นักท่องเที่ยวที่แวะมาที่ท่าเรือโดฮาจะได้สัมผัสกับความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์กาตาร์ที่มีการปรับปรุงจนคาดว่าจะเปิดใหม่ในอนาคต รวมถึงมหาวิทยาลัยที่เปี่ยมไปด้วยสีสันแห่งวัฒนธรรมท้องถิ่น อย่าลืมปฏิบัติตามกฎระเบียบการแต่งกายที่เหมาะสม และให้เกียรติต่อวัฒนธรรมท้องถิ่นเมื่อคุณมาที่นี่ ด้วยประสบการณ์ที่รออยู่ในโดฮา คุณจะได้ค้นพบประวัติศาสตร์และอนาคตอันสดใสของกาตาร์อย่างแท้จริง

ดูไบ เมืองแห่งความหรูหราที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลอาหรับนี้คือสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสนุกสนานและพักผ่อนในบรรยากาศทันสมัย ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่หลายคนต้องหลงรัก ท่ามกลางทรายทองอันอบอุ่นและทะเลฟ้าคราม ดูไบมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครด้วยอาคารสูงเสียดฟ้าและสถานที่ท่องเที่ยวที่ออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์ เมืองแห่งนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัยในทะเลทรายหรือกิจกรรมทางน้ำที่น่าตื่นเต้น รวมถึงสนามกอล์ฟระดับโลก ที่พักหรูหราหลากหลายระดับตั้งแต่ 5 จนถึง 7 ดาว ทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการพักผ่อน ในขณะเดียวกัน ศูนย์การค้าขนาดใหญ่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ ที่ให้คุณเลือกช้อปปิ้งสินค้าชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากการใช้ชีวิตที่รวดเร็วและทันสมัย ดูไบยังเป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้วยโอกาสในการสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่ยังคงหลงเหลืออยู่ การสูบชิชา (Shisha) ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมในการสังสรรค์ของคนท้องถิ่น ที่ช่วยสร้างบรรยากาศผ่อนคลายเต็มไปด้วยกลิ่นหอม ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ คุณจะไม่มีวันลืมเมืองนี้ ดูไบจึงเป็นปลายทางที่คุณต้องไปสัมผัสอย่างแท้จริง!





กัลล์ (Galle) คือเมืองหลวงของจังหวัดใต้ในศรีลังกา ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่สวยงามรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่เขียวขจีและชายทะเลอันงดงาม เมืองนี้เป็นที่รู้จักด้วยสถาปัตยกรรมแบบดัตช์ที่มีเสน่ห์ ซึ่งหลายแห่งยังคงรักษาความงดงามไว้ได้อย่างดีในขณะที่ชีวิตของผู้คนในเมืองยังคงตื่นตาตื่นใจด้วยวัฒนธรรมท้องถิ่นที่หลากหลาย เมื่อคุณแวะถึงกัลล์ ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่มีเอกลักษณ์ ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทางทะเลที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์การเดินเรือและประเพณีการทำประมง นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอายของอาหารท้องถิ่นที่คุณไม่ควรพลาด เช่น กุ้งมังกรย่างและข้าวสาตู ที่จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจในรสชาติ ไม่เพียงแค่นั้น กัลล์ยังเต็มไปด้วยร้านค้าและตลาดที่คุณสามารถเลือกซื้องานฝีมือท้องถิ่นเป็นของที่ระลึก เพื่อสร้างความทรงจำที่หอมหวานจากการเดินทางของคุณ ในทุกมุมของเมืองจะมีสิ่งที่น่าสนใจรอคอยให้คุณได้ค้นพบ รวมถึงชายหาดที่งดงาม และโบราณสถานที่สวยงาม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางที่ไม่มีวันลืมในทุกครั้งที่คุณมาเยือนที่นี่


ภูเก็ต จังหวัดที่สวยงามและเป็นที่รู้จักทั่วโลก เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการค้นพบวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ ในบรรดาวิถีชีวิตและสถาปัตยกรรมที่หลากหลาย Phuket Town สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและหลากหลายทางวัฒนธรรมที่น่าค้นหา สาย Talang ซึ่งเป็นย่านเก่าของเมืองเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Sino-Portuguese ที่สวยงาม เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์จากประวัติศาสตร์ โดยมีร้านค้านานาชนิดให้ท่านได้เลือกซื้อของที่ระลึกอยู่ตลอดแนว การเดินเล่นในย่านถนน Talang จะนำท่านไปพบกับร้านขายของโบราณ แกลเลอรีศิลปะ และคาเฟ่สุดชิค ซึ่งทำให้ทุกช่วงเวลาในทริปของคุณนั้นมีสีสันและน่าจดจำ นอกจากนี้ ถ้าท่านมีโอกาสได้สำรวจถนนหลักอย่าง Ratsada และ Phuket ยังมีตลาดท้องถิ่นที่มีรสชาติของผลไม้และเครื่องเทศที่หอมกรุ่นรอให้ท่านได้ลิ้มลอง ไม่เพียงแต่เป็นการรับประทานอาหาร แต่ยังเป็นการเข้าถึงวิถีชีวิตของชาวภูเก็ตอย่างแท้จริง ดังนั้น ถ้าท่านวางแผนจะมาเยือนภูเก็ต อย่าลืมใช้เวลาในการสำรวจและสัมผัสกลิ่นอายของจังหวัดนี้อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่คุณจะไม่มีวันลืม!

ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของมาเลเซีย หมู่เกาะลังกาวีประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ถึง 99 แห่ง โดยเกาะหลักคือเกาะปูเลา ลังกาวี ถือเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการพักผ่อนที่นักท่องเที่ยวทุกคนใฝ่ฝันถึง ที่นี่มีชื่อเสียงในด้านน้ำทะเลที่ใสสะอาดและความงดงามของชายหาด ผสมผสานกับกิจกรรมดำน้ำที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างแสวงหา อีกทั้งลังกาวียังได้ถูกประกาศให้เป็นเขตปลอดภาษีในช่วงปี 1980 ส่งผลให้ที่นี่เป็นสวรรค์แห่งการช้อปปิ้งสำหรับผู้ที่ต้องการแสวงหาของถูกใจ โดยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่น่าสนใจ อาทิเช่น อุทยานแห่งชาติ ที่มีกิจกรรมเดินทางสำรวจธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ และการนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่จะพานักท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์อันงดงามจากที่สูง สำหรับผู้ที่รักการผจญภัยไม่ควรพลาดการเข้าชมอควาเรียมขนาดใหญ่ ซึ่งจะพานักท่องเที่ยวไปพบกับโลกใต้ทะเลอันมหัศจรรย์ ลังกาวีไม่ใช่แค่เกาะที่มีหาดทรายขาว แต่ยังเป็นประตูสู่ประสบการณ์ในธรรมชาติและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเสน่ห์อย่างแท้จริง ที่จะทำให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความทรงจำอันงดงามและน่าประทับใจ

เกาะปีนัง ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศมาเลเซีย เป็นจุดหมายปลายทางที่หลงใหลและโดดเด่นในด้านประวัติศาสตร์วัฒนธรรมที่หลากหลาย สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัว เมืองจอร์จทาวน์ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเกาะ ถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก ด้วยสถาปัตยกรรมโคโลเนียลที่งดงาม วัดวาอารามที่เก่าแก่ และพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจ เมื่อคุณเดินทางมายังท่าเรือของจอร์จทาวน์ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เพียงแต่เมืองจะเป็นหัวใจของประวัติศาสตร์ แต่ยังมีธรรมชาติที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ชายฝั่งสวยสดงดงาม และหมู่บ้านประมงที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมแท้ๆ ไว้เป็นอย่างดี สำหรับผู้ที่หลงใหลในศาสนา ปีนังก็ยังมีวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ซึ่งเป็นเวทีให้คุณได้ศึกษาและเข้าใจวัฒนธรรมแบบจีนได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ความหลากหลายนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร มาผจญภัยกับเราและค้นพบความมหัศจรรย์ของปีนังในครั้งถัดไป!











เจ้าของสวีทที่หรูหราของเรานั้นมาพร้อมกับฟานส์ซึ่งออกแบบอย่างดีและวัสดุที่มีคุณภาพสูง ภายในพื้นที่ขนาดเกือบ 1,000 ตารางฟุตนี้คุณจะพบกับความกว้างขวางและความหรูหราอย่างแท้จริง โดยห้องนี้ถูกออกแบบเพื่อให้คุณได้สัมผัสกับความสงบและการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ทุกสิ่งที่คุณต้องการมีไว้ครบครัน พร้อมทั้งห้องน้ำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งมีฝักบัวขนาดใหญ่ ระเบียงไม้ทีคส่วนตัว และโทรทัศน์จอแบนสองเครื่อง นอกจากนี้ เจ้าของสวีทยังมีสิทธิประโยชน์ที่เหนือระดับ รวมถึงบริการซักรีดฟรีถึง 3 ถุงต่อห้องและการขึ้นเรือในเวลา 11 โมงเช้าพร้อมบริการขนสัมภาระที่มีลำดับความสำคัญ คุณจะได้เพลิดเพลินกับบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงอาหารกลางวันภายในห้องในวันขึ้นเรือแบบส่วนตัวที่สามารถเลือกได้ระหว่างเที่ยงถึงบ่าย 2 นอกจากนี้ยังมีบริการบาร์ภายในห้องฟรีที่มีสุราหรือไวน์ระดับพรีเมียม 6 ขวด รวมถึงขนมปังข้าวสาลีต้อนรับขวดแชมเปญสดใหม่และผลไม้ที่เติมให้ทุกวัน คุณจะได้รับสิทธิในการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด และสินค้านวดที่หรูหรา คุณยังมีทางเลือกในการเลือกผ้านวมจากผ้าขนสัตว์ชนิดหนึ่งที่หรูหรารวมถึงบริการขัดรองเท้าฟรีและการรีดเสื้อผ้าในวันขึ้นเรือ ทั้งหมดนี้เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและเต็มเปี่ยมไปด้วยความหรูหราที่สุดในเจ้าของสวีท





วิสตา สวีทที่มีมุมมองอันงดงามเหนือด้านหน้าของเรือมีพื้นที่กว้างขวางถึง 786 ตารางฟุต ให้ความสะดวกสบายที่คุณสามารถจินตนาการได้อย่างแท้จริง รวมถึงห้องน้ำที่สองสำหรับแขก และห้องน้ำหลักที่ออกแบบใหม่ด้วยหินออนิกซ์และหินแกรนิต พร้อมด้วยฝักบัวอาบน้ำที่หรูหรา คุณสามารถผ่อนคลายบนระเบียงส่วนตัวที่ทำจากไม้สัก ฟังเพลงผ่านระบบเสียงที่ยอดเยี่ยม หรือชมภาพยนตร์บนโทรทัศน์จอแบนสองเครื่อง พร้อมอินเทอร์เน็ตไร้สายที่มีให้ใช้งานฟรีผ่าน iPad® ที่จัดเตรียมไว้ให้ นอกจากนี้ วิสตา สวีทยังมอบสิทธิประโยชน์พิเศษ ซึ่งรวมถึงบริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องที่พัก การขึ้นเรือในเวลา 11.00 น. ด้วยความสำคัญพร้อมการจัดส่งสัมภาระลำดับความสำคัญ บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง บาร์ในห้องพักที่มีเครื่องดื่มพรีเมียม 6 ขวดจากเมนูเครื่องดื่มสำหรับสวีท ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี以及ผลไม้สดที่เติมให้ใหม่ทุกวัน การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ที่มีความสำคัญ การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace แบบไม่จำกัด และของใช้ในห้องน้ำหรูหรา นอกจากนี้ยังมีหนังสือพิมพ์รายวันเลือกอ่านได้ และกระเป๋าทรงโอตต์ Oceania Cruises พร้อมอุปกรณ์ stationery ส่วนตัว ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และเลือกหมอนจากคอลเล็กชั่นหรูหรา รวมถึงบริการขัดรองเท้าฟรี และบริการรีดเสื้อผ้าฟรีในวันขึ้นเรือ โปรดทราบว่าการสูบบุหรี่ในสวีท ห้องพัก และบนระเบียงนั้นห้ามอย่างเคร่งครัด


ห้องเพนท์เฮาส์สวีท ขนาด 322 ตารางฟุต ถูกออกแบบอย่างหรูหราและมีสไตล์ด้วยการตกแต่งสุดประณีตที่มีโทนสีอันเงียบสงบสื่อความงดงามของทะเลและแสงแดด ห้องนี้กว้างขวางเพียงพอสำหรับการรับประทานอาหารในห้องส่วนตัว โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่รวมถึงมินิบาร์พร้อมตู้เย็น และโต๊ะแต่งตัว ในห้องน้ำหุ้มด้วยหินแกรนิต ที่กว้างขวางทำให้คุณสามารถผ่อนคลายในอ่างอาบน้ำขนาดเต็มหรือฝักบัวได้อย่างหรูหรา นอกจากนี้ยังมีกระดานไม้เท็กซ์ที่ตกแต่งอย่างสวยงามเพื่อให้คุณได้นั่งพักผ่อนอย่างสบายใจในระเบียงส่วนตัวของคุณ เพนท์เฮาส์สวีทยังมอบสิทธิพิเศษมากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก, บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง, แชมเปญต้อนรับฟรี, การจองร้านอาหารพิเศษล่วงหน้าที่มีลำดับความสำคัญ, การเข้าถึงเทอเรซสปา Aquamar ไม่จำกัด, ถุงผ้าสำหรับเดินทางของ Oceania Cruises ฟรี, ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการนั่งพักผ่อนในระเบียง, บริการเงางามรองเท้าฟรี และบริการรีดผ้าฟรีเมื่อขึ้นเรือ ห้องนี้ไม่มีการอนุญาตให้สูบบุหรี่ในสวีท ห้องพัก และระเบียงเพื่อความสะดวกสบายของผู้เข้าพักทุกท่าน


ระดับห้องพักคอนเซียร์จพร้อมระเบียง (Concierge Level Veranda Stateroom) ถูกตั้งอยู่ในทำเลที่ต้องการสูงสุดบนเรือสำราญ เชิญคุณสัมผัสความหรูหราในห้องพักขนาด 216 ตารางฟุต ที่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและสิทธิพิเศษที่ทำให้การเดินทางของคุณเพิ่มความสบายใจ เช่น บริการซักรีดฟรีถึง 3 ถุงต่อห้องพัก ภายในห้องพักคุณจะพบการตกแต่งใหม่ที่สดใส พร้อมเตียง Tranquility ที่นุ่มสบายและระเบียงที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมเฟอร์นิเจอร์ทันสมัย สัมผัสประสบการณ์คอนเซียร์จที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการบริการที่ครอบคลุม เช่น เมนูบริการอาหารกลางวันและเย็นที่ขยายจากห้องรับประทานอาหาร Grand Dining Room รับ Champagne ต้อนรับฟรี และการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์แบบมีลำดับความสำคัญ รวมถึงการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด ผ้าห่มแคชเมียร์สำหรับการพักผ่อนบนระเบียง และบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี ห้องพักนี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคุณ โดยปราศจากการสูบบุหรี่ในห้องพักและบนระเบียง


ระเบียง客艙 ขนาด 216 ตารางฟุตนี้มีการออกแบบที่หรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ปรับแต่งพิเศษและการตกแต่งด้วยหินที่แปลกใหม่ พร้อมกับหัวเตียงบุผ้านุ่มและไฟสวยงาม คือที่พักที่โดดเด่นที่สุดในเรือสำราญของเรา ความสะดวกสบายในห้องพักประกอบไปด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์ที่มีห้องเย็นสำหรับเครื่องดื่มต่างๆ โต๊ะอาหารเช้า และพื้นที่นั่งเล่นกว้างขวาง มีระเบียงไม้ที่ทำจากไม้เทคส่วนตัว เพื่อให้คุณได้ชมวิวเปลี่ยนแปลงตลอดการเดินทาง ห้องพักนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises พร้อมชุดเครื่องนอน 1,000 เส้นใย และน้ำดื่ม Vero Water ที่เปล่าหมายของคุณ พร้อมด้วยบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง และบริการทำความสะอาดห้องพักวันละสองครั้ง รวมถึงช็อกโกแลตเบลเยียมในตอนเย็น ระบบทีวีที่มีฟังก์ชันสั่งได้ รวมถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการมือถือ อีกทั้งยังมีตู้นิรภัยและชุดเสื้อคลุมฝ้ายหนา พร้อมรองเท้าแตะ เพื่อให้คุณได้สัมผัสความสะดวกสบายในขณะที่พักผ่อนบนเรือสำราญ หมายเหตุ: ห้ามสูบบุหรี่ในห้องชุด ห้องพัก และระเบียงโดยเด็ดขาด

ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลมีพื้นที่กว้างขวางถึง 165 ตารางฟุต ถูกออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ด้วยตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และเฟอร์นิเจอร์ที่ลงตัว ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งสบายให้แก่ผู้เข้าพัก โดยมีพื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง โต๊ะเครื่องแป้ง มินิบาร์ที่เย็นเฉียบ และมุมสำหรับรับประทานอาหารเช้าที่ตกแต่งด้วยสีอ่อนและผ้าหรูที่ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ห้องพักนี้ยังมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น น้ำอัดลมที่เติมใหม่ทุกวันในมินิบาร์ น้ำ Vero น้ำสะอาดและน้ำมีฟอง พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ภายในห้องมีเตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises พร้อมอุปกรณ์ Bulgari และบริการทำความสะอาดห้องแบบสองครั้งต่อวัน นอกจากนี้ยังมีระบบโทรทัศน์อินเตอร์แอกทีฟที่มีภาพยนตร์ตามคำขอ บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายและโทรศัพท์มือถือ รวมถึงโต๊ะเขียนหนังสือและเครื่องเขียน พร้อมผ้าเช็ดตัวของใช้ในห้องน้ำที่นุ่มฟู ผ้าโรเบอร์และรองเท้าอาบน้ำ รวมถึงการบริการจัดเตรียมช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงเปลี่ยนผ้าห่ม ห้องพักเดลักซ์วิวทะเลยังมีฟีเจอร์สำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการการเข้าถึงที่สะดวกสบาย เช่น เตียงที่มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ช่วยเหลือ ประตูห้องน้ำขนาดใหญ่ ราวจับที่ห้องน้ำ และห้องน้ำที่ออกแบบมาเพื่อให้สะดวกในการเข้าออกโดยไม่มีขอบสูง รวมถึงอ่างอาบน้ำในห้องน้ำด้วย โปรดทราบว่าห้ามสูบบุหรี่ในห้องพัก สวีท และระเบียงโดยเด็ดขาด

ห้องพักแบบมองเห็นทะเล ขนาด 165 ตารางฟุต มาพร้อมกับดีไซน์ที่ทันสมัยและการตกแต่งที่มีระดับ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพัก ด้วยพอร์ตโฮลคลาสสิกที่เปิดมุมมองสู่ทิวทัศน์สวยงาม พร้อมพื้นที่นั่งเล่นที่เงียบสงบซึ่งประกอบด้วยโซฟาสำหรับการพักผ่อน โต๊ะทำงาน และโต๊ะสำหรับรับประทานอาหาร เชื่อมต่อความสะดวกด้วยมินิบาร์ที่มีเครื่องดื่มแช่เย็นไว้บริการ นอกจากนี้ ห้องพักยังมีบริการฟรีต่างๆ เช่น น้ำอัดลมเติมใหม่ทุกวัน น้ำแร่สปาร์คกลิ้ง และเมนูรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง ประกอบด้วยเตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกลักษณ์จาก Oceania Cruises และผลิตภัณฑ์ Bulgari เพื่อการดูแลร่างกาย ควบคู่ไปกับบริการทำความสะอาดห้องพักสองครั้งต่อวัน และระบบโทรทัศน์ที่มีฟีเจอร์สั่งดูภาพยนตร์และข้อมูลสภาพอากาศ เชื่อมต่อด้วยอินเทอร์เน็ตไร้สาย และบริการโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ ยังมีโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมชุดเครื่องเขียน ผ้าขนหนูและเสื้อคลุมอาบน้ำที่นุ่มฟู รวมถึงเครื่องเป่าผม และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สิน พร้อมด้วยช็อกโกแลตเบลเยียมสำหรับบริการเตรียมเตียงก่อนนอน ห้องพักนี้เป็นที่พักที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายในทุกช่วงเวลาอย่างแท้จริง


ห้องพักเดี่ยวแบบวิวทะเลเป็นที่พักที่มอบประสบการณ์ที่หรูหราและสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพัก ภายในห้องจะได้รับการจัดเตรียมเครื่องดื่มซอฟท์ดริ้งที่เติมให้ฟรีทุกวันในมินิบาร์ที่ติดตั้ง การบริการที่ยอดเยี่ยมยังรวมถึงน้ำ Vero ที่มีทั้งแบบธรรมดาและมีฟองฟรี นอกจากนี้ยังสามารถสั่งบริการห้องพักได้ตลอด 24 ชั่วโมง ห้องพักได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เริ่มต้นจากเตียง Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ของ Oceania Cruises ที่มอบความสบายสุดฟิน พร้อมด้วยของใช้จาก Bulgari ที่เสริมความหรูหรา บริการแม่บ้านจะมีการทำความสะอาดห้องพักถึงสองครั้งต่อวัน พร้อมด้วยระบบโทรทัศน์ที่มีการใช้งานที่ง่าย สื่อสารกับอินเทอร์เน็ตไร้สายและบริการโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีโต๊ะเขียนและเครื่องเขียนให้พร้อม ที่นอนจะมีผ้าขนหนู, เสื้อคลุม, และรองเท้าแตะที่นุ่มสบายให้ในห้องพัก พร้อมด้วยเครื่องเป่าผมและตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย ที่พักยังมีกล่องช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงเวลาที่ทำการเตรียมห้องคืนอีกด้วย การสูบบุหรี่ในห้องชุด, ห้องพัก และระเบียงนั้นถูกห้ามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้เข้าพักสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ในบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์.


ห้องพักภายในได้รับการออกแบบใหม่อย่างสวยงาม พร้อมกลิ่นอายความทันสมัย ในพื้นที่ 160 ตารางฟุตเต็มไปด้วยความหรูหรา ห้องพักนี้มาพร้อมกับพื้นที่นั่งเล่นที่สะดวกสบาย, โต๊ะเครื่องแป้ง, มินิบาร์ที่มีการแช่เย็น และพื้นที่จัดเก็บที่เพียงพอ การใช้พื้นที่อย่างชาญฉลาดถูกเสริมด้วยการตกแต่งใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจ ห้องพักนี้ยังมีเตียง Ultra Tranquility Bed ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเรือสำราญ Oceania Cruises ที่จะช่วยให้คุณตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น พร้อมบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมงที่หลากหลาย มีผ้าขนหนูผ้าฝ้ายคุณภาพสูง เสื้อคลุมอาบน้ำหนานุ่มและรองเท้าแตะ รวมถึงอุปกรณ์จาก Bulgari ไดร์เป่าผมแบบมือถือ โทรทัศน์จอแบนที่มีข่าวสารและรายการถ่ายทอดสดจากดาวเทียม รวมถึงเครื่องเล่น DVD พร้อมห้องสมุดมีเดียที่หลากหลาย สิ่งเหล่านี้จะมอบความสะดวกสบายให้แก่คุณอย่างสูงสุด ห้องพักทุกห้องไม่มีการสูบบุหรี่ เพื่อให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง รับรองว่าคุณจะได้สัมผัสกับความหรูหราและความสะดวกสบายที่ยอดเยี่ยมในห้องพักภายในห้องนี้