
02-27217300
02-27217179
service@siloahtravel.com
Monday ~ Friday 09:00-18:00
14F.-3, No.137, Sec. 1, Fuxing S. Rd., Da’an Dist., Taipei City 106, Taiwan
Representative: Tung-Hua Tai
VAT: 43871553
交觀甲793500 品保北2260 隱私權條款
IATA: 96137764
Copyright © 2025 Siloah Travel Co., Ltd.. All rights reserved.

Oceania Riviera
โอเชียเนีย ครูซส์


เมื่อพูดถึงการเดินทางยามว่าง ขอนำเสนอท่าเรือที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างท่าเรือสิงคโปร์ หนึ่งในจุดแวะที่สำคัญสำหรับเรือสำราญ ท่าเรือแห่งนี้เป็นประตูสู่ประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าหลงใหลในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นเกาะที่มีรูปร่างคล้ายเพชรแบน โดยมีการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและประวัติศาสตร์อย่างลงตัว ที่ท่าเรือคุณจะได้พบกับอาคารสูงโดดเด่นในย่านธุรกิจใจกลางเมือง (CBD) ทั้งอาคารสำนักงานและโรงแรมสุดหรู รวมถึงโรงแรม Raffles สุดคลาสสิกที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา นอกจากนี้ยังมีสวนแนวตั้ง "Supertrees" ที่ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเป็นสวนพลังงานแสงอาทิตย์ที่ช่วยเพิ่มความเขียวให้กับเมือง สำหรับผู้ที่ต้องการหนีจากความวุ่นวาย ท่านยังสามารถไปเยือนเกาะเซนโตซ่า ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความสนุก ไม่ว่าจะเป็นชายหาดสวยงาม หรือกิจกรรมทางน้ำที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และหากคุณต้องการสัมผัสธรรมชาติ ภูมิประเทศอันหลากหลายของสิงคโปร์ก็รอคอยคุณอยู่ เช่น ป่าเขียวชอุ่มและพื้นที่เกษตรกรรม สัมผัสความหรูหราและความหลากหลายแห่งนี้ที่ท่าเรือสิงคโปร์ และปล่อยให้การเดินทางของคุณเริ่มต้นจากที่นี่!



[LLM] error. Reason: Failure when receiving data from the peer



ท่าเรือเกาสง (Keelung) เป็นประตูสู่ไต้หวันที่มีเสน่ห์และน่าค้นหา ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงไทเป เมืองที่เปล่งประกายด้วยความสดใสและทันสมัย ซึ่งมีทั้งวัฒนธรรมและไอเดียสุดล้ำ ท่าเรือแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักของเรือสำราญ แต่ยังเป็นฐานที่ดีในการเริ่มต้นการสำรวจความงามของไต้หวัน อย่าปล่อยให้ความเร้าใจของไทเปขับเคลื่อนคุณออกจากเกาสงเกินไป เพราะที่นี่มีตลาดกลางคืนที่มีชื่อเสียงซึ่งเต็มไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ตลาดนี้เป็นที่รู้จักในเรื่องของอาหารทะเลสดใหม่ และคุณจะได้สัมผัสประสบการณ์การชิมอาหารชั้นเลิศที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของท้องถิ่น นอกจากนี้ เกาสงยังเป็นฐานที่ดีในการเดินทางไปสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค เช่น วัดหลงซาน (Longshan Temple) ที่มีความงดงามและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ทำให้ท่าเรือเกาสงเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการสร้างความทรงจำและแรงบันดาลใจในการเดินทางที่ไม่รู้ลืมในไต้หวัน.

นาอาฮะ (Naha) เป็นเมืองหลวงของจังหวัดโอกินาว่า ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลในญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้ขึ้นชื่อในเรื่องวัฒนธรรมที่แตกต่างและชวนตื่นตาตื่นใจ รอคอยนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสความงดงามอย่างแท้จริง เมื่อเรือสำราญของคุณจอดที่ท่าเรือนาอาฮะ คุณจะมีโอกาสสำรวจเมืองที่มีเสน่ห์นี้ในทุกมุมมอง อันดับแรกที่ต้องเยี่ยมชมคือปราสาทชูริ (Shuri Castle) ซึ่งเป็นมรดกโลกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน สถาปัตยกรรมที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปยังยุครุ่งเรืองของอาณาจักรริวกิว หลังจากนั้น ให้เดินเข้าไปในตลาดถนนโบริ (Kokusai Dori) ที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านอาหารท้องถิ่น คุณสามารถลิ้มลองอาหารพื้นเมืองที่มีรสชาติอันประณีต เช่น ราเมนโอกินาวะ และมิซุรุบะ (Mizutaki) ที่เรียกความชื่นชมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก อย่าลืมไปเยี่ยมชมสวน Okinawa World ซึ่งมีการจัดแสดงวัฒนธรรมท้องถิ่นและการแสดงพื้นบ้านที่น่าตื่นตาตื่นใจ สำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ อย่าพลาดที่จะไปย่าว่าหาดอาการะ (Agara Beach) ซึ่งเป็นที่รู้จักในเรื่องน้ำทะเลใสและทรายขาวละเอียด นาอาฮะไม่ใช่เพียงท่าเรือ แต่เป็นประตูสู่การค้นพบวัฒนธรรมและความงามของโอกินาว่า รอคอยคุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลือน!


ท่าเรือโคจิ (Kochi Port) ในประเทศญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในท่าเรือที่มีเสน่ห์และประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งอยู่ในภูมิภาคชิโกะกุ ท่าเรือนี้เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญสำหรับการเดินเรือสำราญ โดยมีการให้บริการที่สะดวกสบายและบริการต่าง ๆ ที่ครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ เมื่อมาถึงโคจิ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวเด่น เช่น ปราสาทโคจิที่สวยงามซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยยังคงความงดงามในสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณ อีกทั้งยังมีสวนปราสาทที่ร่มรื่นเหมาะแก่การเดินเล่นและสัมผัสบรรยากาศ นอกจากนี้ ตลาดสดโคจิ (Kochi Sunday Market) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ที่นี่คุณจะได้สัมผัสชีวิตประจำวันของคนท้องถิ่น พร้อมซื้อของฝากที่มีชื่อเสียง เช่น ผลไม้สดและของทำมือที่สร้างจากวัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่เพียงแค่ท่าสำหรับการหยุดพักของเรือสำราญ โคจิยังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมและธรรมชาติที่น่าหลงใหล นับเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับการค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางที่หรูหราและน่าจดจำในประเทศญี่ปุ่น ด้วยเสน่ห์อันยิ่งใหญ่และเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ทำให้โคจิเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องไปเยือนสักครั้งในชีวิต




ท่าเรืออาโอโมริในประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรมและเทศกาลท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลเนบุตะ มัตสึริ ที่จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 7 สิงหาคมของทุกปี เทศกาลนี้เป็นหนึ่งในงานเฉลิมฉลองที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น กับขบวนแห่ลอยประดับไฟที่มีขนาดใหญ่ แสดงถึงรูปปั้นซามูไรที่น่าประทับใจ พรั่งพร้อมไปด้วยการเต้นรำที่รื่นเริงจากนักเต้น "เฮเนโต" ที่วิ่งเคียงข้างขบวนลอย คุณจะได้สัมผัสถึงความมหัศจรรย์และพลังแห่งชัยชนะหลังจากการต่อสู้ นอกจากนี้ อาโอโมริยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดๆ จากอ่าวอาโอโมริ โดยเฉพาะ "โอมา โน มะกุโร" (ทูน่าจากโอมา) และผลไม้ผักสดใหม่ เช่น กระเทียมที่มีชื่อเสียง ซึ่งนับว่าเป็นความใส่ใจต่อรสชาติและคุณภาพของอาหารท้องถิ่น ไม่ว่าคุณจะเลือกเยี่ยมชมในช่วงฤดูร้อนหรือมาในช่วงเวลาที่แตกต่าง คุณจะต้องการที่จะสัมผัสประสบการณ์ที่เย้ายวนใจในเมืองนี้ และในขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินไปกับการเดินทางอันหรูหราที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นตามคาบสมุทรที่มีเสน่ห์นี้

ฮาโกดาเตะ (Hakodate) เป็นท่าเรือที่มีเสน่ห์ในญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสองอ่าว ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่งดงามและบรรยากาศที่เงียบสงบของเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 19 ด้วยอาคารไม้ที่เรียงรายอยู่ริมถนนลาดชัน พื้นที่ริมท่าเรือเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมที่เดินได้สะดวก พร้อมทั้งรถรางที่ให้บริการบริเวณใจกลางเมือง เมื่อมาถึงฮาโกดาเตะ นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดการเยี่ยมชมยอดเขาฮาโกดาเตะที่สูง 1,100 ฟุต ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเห็นวิวรอบเมืองอย่างสวยงาม โดยเฉพาะในยามเย็นเมื่อเมืองถูกประดับประดาด้วยแสงไฟ ปลาทูน่านับเป็นดาวเด่นที่ไม่ควรพลาดในตลาดปลา ซึ่งเปิดให้บริการแต่เช้า นั่นคือจุดเริ่มต้นของมื้อเช้าที่สดใหม่และอร่อย เมืองนี้เคยเป็นหนึ่งในท่าเรือแรกที่รัฐบาลเมจิเปิดให้การค้าอย่างเป็นทางการในปี 1859 ที่นี่คุณจะพบกับร่องรอยทางวัฒนธรรมที่หลากหลายจากหลายชาติ ทั้งรัสเซีย อเมริกา จีน และยุโรป การเดินทางในเมืองนั้นง่ายและสามารถเข้าถึงข้อมูลภาษาอังกฤษได้อย่างสะดวก ฮาโกดาเตะคือจุดหมายที่เต็มไปด้วยแรงดลใจสำหรับนักเดินทางที่แสวงหาความประทับใจในประวัติศาสตร์และรุงเรือง เริ่มต้นแผนการเดินทางของคุณวันนี้!

เมืองคุชิโระ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะฮอกไกโด ได้รับสมญานามว่า "เมืองหมอก" เนื่องจากบรรยากาศที่น่าหลงใหลและลึกลับ ด้วยประชากรประมาณ 200,000 คน คุชิโระคือเมืองที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ และเป็นศูนย์กลางการประมงนานาชาติที่สำคัญ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทางทะเลของที่นี่เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 โดยมีย่านเมืองที่ยังคงอนุรักษ์เสน่ห์จากยุคนั้นไว้ คุชิโระมีท่าเรือที่เป็นน้ำลึกที่ไม่มีน้ำแข็ง ซึ่งส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม โดยมีบรรยากาศศิลปะที่ได้แรงบันดาลใจจาก Takuboku Ishikawa กวีระดับตำนานที่เคยอาศัยอยู่ที่นี่ เหนือของเมือง เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในคุชิโระ นั่นคือ คุชิโระ ชิตซูเก็น (Kushiro Shitsugen) พื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยพื้นที่มากกว่า 60% ของพื้นที่ชุ่มน้ำทั้งหมดของประเทศ คุชิโระ ชิตซูเก็นยังเป็นบ้านของนกเงือกญี่ปุ่น (Tancho) ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยก่อนหน้านี้จำนวนของมันเคยลดลงอย่างมาก แต่ปัจจุบันได้มีการฟื้นฟูอย่างสำเร็จ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเดินทางและสำรวจธรรมชาติอันสวยงามที่รอคอยคุณอยู่ในคุชิโระ ต้องไม่พลาดที่จะมาชมความมหัศจรรย์นี้ด้วยตัวคุณเอง!




คอเดียค (Kodiak) ในรัฐอลาสก้าเป็นหนึ่งในท่าเรือที่สวยงามและคึกคักที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการประมงเชิงพาณิชย์ แม้ว่าจะมีประชากรเพียงประมาณ 6,475 คน กระจายอยู่ในหลายเกาะ แต่ท่าเรือนี้ยังคงเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับการจัดหาสินค้าให้กับชุมชนเล็กๆ บนเกาะอะเลอูเตียนและคาบสมุทรอลาสก้า เมื่อเยือนคอเดียค นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเพลิดเพลินกับการตกปลา, พายเรือคายัค หรือชมนกหมีในสถานที่ห่างไกล โดยมีบริการเครื่องบินลอยน้ำและเรือเช่าที่พร้อมสรรพ หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวนอกเมือง ควรลองขับรถยนต์ไปตามระบบถนนที่มีอยู่และสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ก่อนที่จะเพิ่มประสบการณ์อีกระดับด้วยการเดินทางไปยังรีสอร์ทห่างไกลหรือจุดเข้าถึงป่า หากคุณชื่นชอบธรรมชาติ คอเดียคยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นอย่าง Kodiak National Wildlife Refuge ซึ่งประกอบด้วยสี่เกาะในอ่าวอลาสก้า ได้แก่ คอเดียค, อาฟ็อคแนค, แบน และอูกานิค สถานที่นี้เป็นสวรรค์ของผู้รักการดูสัตว์และภาพถ่าย ถือเป็นการผสมผสานระหว่างผจญภัยและความสงบในธรรมชาติอย่างแท้จริง รอคอยให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครได้แล้ววันนี้!

เมืองเล็กๆ อย่างวิทเทียร์ (Whittier) ที่ตั้งอยู่ในรัฐอลาสก้า เป็นจุดหมายปลายทางที่หลบซ่อนตัวและเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งความสงบสุข ที่นี่มีประชากรเพียงกว่า 200 คน และตั้งอยู่ห่างจากเมืองแองเคอเรจประมาณ 58 ไมล์ทางตะวันออกเฉียงใต้ วิทเทียร์เป็นท่าเรือที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม รายล้อมไปด้วยภูเขาและทะเล เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ด้วยการเดินทางโดยเรือสำราญ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสบรรยากาศที่แสนพิเศษ ขณะเทียบท่าสู่วิถีชีวิตของชุมชนที่เงียบสงบ นอกเหนือจากชีวิตในเมืองที่มีเสน่ห์ วิทเทียร์ยังเป็นประตูสู่การสำรวจอุทยานแห่งชาติและพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติที่มีทิวทัศน์ประทับใจ อันมีทั้งภูเขาน้ำแข็งและระบบนิเวศน์ที่หลากหลาย ความตื่นเต้นยังรอคอยนักผจญภัยที่รักการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเดินป่า พายเรือคายัค หรือการชมวาฬในฤดูร้อน การเยือนวิทเทียร์จะเป็นการเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางอันหรูหรา ในบรรยากาศที่มอบความสงบ ทั้งจากธรรมชาติและวัฒนธรรมในท้องถิ่น ทำให้ที่นี่ก้าวข้ามคำว่าท่าเรือไปสู่การเป็นสถานที่แห่งความทรงจำอันล้ำค่าในใจนักท่องเที่ยวทุกคน


ซิตกา (Sitka) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจที่สุดในอลาสก้า ด้วยบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมชนเผ่าอัลลาสก้า รัสเซีย และอเมริกัน อย่างลงตัว โดยมีสถานที่เด่นในการสำรวจคือ วิหารเซนต์ไมเคิล (St. Michael's Cathedral) และพิพิธภัณฑ์เชลดอน แจ็คสัน (Sheldon Jackson Museum) ที่จะพาคุณย้อนเวลาสู่วิถีชีวิตของชาวท้องถิ่น การเดินเล่นที่สวนสาธารณะประวัติศาสตร์ซิตกา (Sitka National Historical Park) จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ซิตกามีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ เริ่มต้นจากการตั้งถิ่นฐานของชนเผ่าคิกซาดี (Kiksádi) ผู้มีบทบาทในภูมิภาคนี้มาก่อนการมาถึงของชาวรัสเซียในศตวรรษที่ 18 การพัฒนาของเมืองในช่วงเวลานั้นได้สร้างความเจริญรุ่งเรือง โดยในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ซิตกาได้กลายเป็นฐานการทหารสำคัญ ทำให้เมืองฟื้นตัวอีกครั้ง ปัจจุบัน ซิตกาเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ที่นี่มีอุตสาหกรรมการตกปลา รัฐบาล และการท่องเที่ยว ทำให้ซิตกายังคงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์และน่าค้นหาในภูมิภาคอลาสก้าอย่างไม่เปลี่ยนแปลง

เมืองแวรังเกล (Wrangell) ตั้งอยู่ที่ปลายสุดเหนือของเกาะแวรังเกลในรัฐอลาสก้า เป็นชุมชนที่มีบรรยากาศสงบเงียบ เรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ของการทำไม้และการประมง ที่สำคัญคือ เป็นที่ตั้งของแม่น้ำสติคีน (Stikine River) ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือที่ยังไม่ถูกสร้างเขื่อน แม่น้ำแห่งนี้ไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังเป็นส่วนสำคัญในวิถีชีวิตของชาวเมืองแวรังเกล รวมถึงการเดินทางล่องเรือโดยมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ซึ่งแนะนำประสบการณ์อันเป็นเอกลักษณ์ของการใช้ชีวิตแบบอลาสกัน แม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจฐานทรัพยากรจะลดน้อยลง แต่ชาวบ้านที่รักแวรังเกลกำลังพัฒนาการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเทศกาล Bearfest ที่เริ่มจัดขึ้นในปี 2010 เพื่อฉลองความใกล้ชิดกับ Anan Creek ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่ผู้มาเยือนจะได้เห็นหมีสีน้ำตาลและหมีดำอย่างใกล้ชิด ด้วยความที่แวรังเกลตั้งอยู่นอกเส้นทางเรือสำราญใหญ่ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย ไม่มีร้านขายของที่ระลึกมากมาย แต่ที่นี่มีร้านของขวัญและแกลเลอรีศิลปะที่จำหน่ายงานฝีมือท้องถิ่น ช่วยให้ผู้เดินทางได้สัมผัสกับกลิ่นอายของวัฒนธรรมและความอบอุ่นจากชาวเมืองที่ยินดีต้อนรับทุกคนอย่างใจดี ควรเพิ่มแวรังเกลลงในแผนการเดินทางของคุณเมื่อสำรวจภาคตะวันออกเฉียงใต้ของอลาสก้า เพื่อหลีกหนีจากฝูงชนและค้นพบเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองนี้ค่ะ
ท่าเรือที่ทรงเสน่ห์แห่งเมือง Prince Rupert ตั้งอยู่บนเกาะ Kaien ริมฝั่งแม่น้ำ Skeena ในบริติชโคลัมเบีย ห่างจากชายแดนอัลลาสกาประมาณ 66 กิโลเมตร เป็นชุมชนที่ใหญ่ที่สุดบนชายฝั่งเหนือของแคนาดา ที่นี้โดดเด่นด้วยธรรมชาติอันงดงามที่ล้อมรอบไปด้วยฟยอร์ดและป่าไม้ฝนเขตร้อน ซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของชาว Tsimshian ที่มีวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปี Prince Rupert เคยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางการค้ามหาสมุทรแปซิฟิก เนื่องจากเป็นจุดสิ้นสุดของระบบรถไฟข้ามทวีปแห่งที่สองของแคนาดา แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดทำให้แผนการนี้ต้องหยุดชะงักลง โดยในช่วงระยะเวลาหลังจากการก่อตั้งในปี 1910 เมืองนี้ได้เปลี่ยนมาเน้นด้านการประมงและป่าไม้แทน ในปัจจุบัน Prince Rupert เป็นท่าเรือที่นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือข้ามฟากไปยังบริติชโคลัมเบียและอัลลาสกา และเป็นจุดแวะที่สะดวกสำหรับเรือสำราญผู้มาเยือน ด้วยเสน่ห์ของชีวิตแบบชนบทและการต้อนรับอันอบอุ่น ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความสงบและเป็นกันเองในบรรยากาศที่ไม่เร่งรีบ ช่วยเติมเต็มแรงบันดาลใจในการเดินทางที่ไม่เหมือนใครในทุกฤดูกาล


ซีแอตเทิล เป็นเมืองท่าทางทะเลที่สวยงามในรัฐวอชิงตัน ตั้งอยู่บนแหลมระหว่างอ่าวปูเจตและทะเลสาบวอชิงตัน ถือเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐนี้ เริ่มต้นจากการตั้งถิ่นฐานของครอบครัวนักบุกเบิก 5 ครอบครัวจากรัฐอิลลินอยส์ในปี 1851 เมืองนี้ตั้งชื่อตามหัวหน้าเผ่า Suquamish ที่เป็นมิตร และได้รับการรับรองเป็นเมืองในปี 1869 ซีแอตเทิลเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากการมาถึงของรถไฟ Great Northern ในปี 1893 โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาของการขุดทองอลาสกาในปี 1897 เมื่อคลองปานามาเปิดให้บริการในปี 1914 ซีแอตเทิลกลายเป็นท่าเรือที่สำคัญทางแปซิฟิก ทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการค้าและการขนส่งที่สำคัญในภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติ Mount Rainier ที่มีภูเขาสูงตระหง่านและธรรมชาติที่งดงาม เรือสำราญที่แวะจอดที่นี่จะได้สัมผัสบรรยากาศที่น่าหลงใหล พร้อมกับกิจกรรมสนุกๆ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการชิมอาหารทะเลชื่อดังกระหึ่ม หรือช้อปปิ้งสินค้าพิเศษที่ Pike Place Market ห้ามพลาดที่จะเข้ามาสัมผัสเสน่ห์ของซีแอตเทิล เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความเจริญรุ่งเรืองแห่งนี้!









เจ้าของสวีทเหมือนกับวิลล่าชายฝั่งที่มีเสน่ห์และมีความหรูหรา โดยมีพื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางฟุต ซึ่งประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องนอนหลัก และห้องน้ำสองห้อง ห้องสวีทนี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์หรูหราและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ละเอียดประณีต สร้างเป็นโลกส่วนตัวที่มีความสุขบนท้องทะเล ที่นี่มีเฉลียงแยกสำหรับห้องนั่งเล่นและห้องนอน โดยมีหน้าต่างจากพื้นจรดเพดานที่เปิดโลกทัศน์ที่น่าหลงใหลพร้อมทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลรอบด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุกห้องสวีทยังรวมบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมงและขนาดที่กว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ประสบการณ์พักผ่อนในห้องสวีทนี้ไม่มีใครเทียบเคียงได้ นอกจากนี้ เจ้าของสวีทยังมีสิทธิพิเศษเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงบริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้อง, การขึ้นเรือก่อนเวลา 11 โมงเช้าพร้อมการจัดส่งสัมภาระที่รวดเร็ว, การเข้าใช้เลานจ์ Executive แบบพิเศษที่มีการดูแลจากคอนเซียร์จ, บาร์ในห้องที่มีเครื่องดื่มและไวน์ระดับพรีเมียม, ชาเปญต้อนรับ, และผลไม้สดที่เติมทุกวัน รวมถึงการจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ก่อนใคร และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด นอกจากนี้ยังมีบริการพิเศษต่าง ๆ เพื่อความสะดวกสบายของคุณให้ได้อย่างเต็มที่










วิสตา สวีท เป็นห้องสวีทที่มีการออกแบบภายในที่หรูหราราวกับอพาร์ตเมนต์สุดหรูในย่านปาร์ค อเวนิว แถมยังตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเยี่ยม โดยสามารถมองเห็นด้านหน้าเรือ ห้องสวีททั้งแปดห้องนี้มีขนาดตั้งแต่ 1,200 ถึง 1,500 ตารางฟุต โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ตู้เสื้อผ้าเดินเข้าใหญ่ เตียงขนาดคิงไซส์ ห้องน้ำสำหรับแขก ห้องสปาภายในและภายนอก และห้องฟิตเนสส่วนตัว นอกจากนี้ วิสตา สวีท ยังมอบสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้อง, การขึ้นเรือโดยมีลำดับสิทธิ์ในเวลา 11 โมงเช้า พร้อมการส่งสัมภาระอย่างรวดเร็ว, การเข้าถึงห้องรับรองส่วนบุคคลที่มีคอนเซียร์จดูแลตลอด, บริการบัตเลอร์ 24 ชั่วโมง, การตั้งบาร์ในห้องพักฟรีมีเครื่องดื่มระดับพรีเมียม, แชมเปญต้อนรับ, ผลไม้สดที่เติมใหม่ทุกวัน, การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ลำดับสิทธิ์, การเข้าถึงสปาที่ยินดีต้อนรับไม่จำกัด, พร้อมทั้ง iPad สำหรับความบันเทิงบนเรือ และชุดของขวัญจากบูลการี เข้ามาใช้ประสบการณ์การล่องเรือที่หลากหลายและน่าตื่นเต้นที่วิสตา สวีท ที่คุณจะได้สัมผัสถึงความหรูหราที่ไม่เหมือนใคร





โอเชียนเนียสวีทเป็นห้องสวีทสุดหรูที่มีการออกแบบและตกแต่งอย่างมีสไตล์ มีขนาดพื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางฟุต สร้างสรรค์ขึ้นจากความสะดวกสบายแบบที่พักอาศัย ห้องสวีท 12 ห้องนี้ประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องสื่อที่มีอุปกรณ์ครบครัน ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ เตียงคิงไซส์ และอ่างจากุซซี่ พร้อมระเบียงส่วนตัวขนาดกว้างและห้องน้ำเพิ่มเติมสำหรับแขกอีกหนึ่งห้อง นอกจากนี้ยังมีการเข้าถึงเลานจ์พิเศษที่ให้บริการหนังสือพิมพ์รายวัน เครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยวตลอดทั้งวันโดยเฉพาะสำหรับผู้เข้าพักในสวีท ห้องสวีทโอเชียนเนียยังมาพร้อมกับสิทธิพิเศษที่มากมาย เช่น บริการซักรีดฟรีสูงสุดถึง 3 กระเป๋าต่อห้อง พื้นที่เข้ายูสเซอร์เฉพาะในเลานจ์ที่มีพนักงานคอยดูแลตลอดวัน รวมถึงการบริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง บาร์ในสวีทที่ตั้งเตรียมเครื่องดื่มพรีเมียม 6 ขวด และไวน์จากเมนูเครื่องดื่มสวีท นอกจากนี้ยังมีการต้อนรับด้วยแชมเปญ และผลไม้สดที่เติมใหม่ทุกวัน การจองร้านอาหารพิเศษออนไลน์และการเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด สำหรับการบริการเพิ่มเติมยังรวมถึงการเลือกหมอนจากคอลเลคชันสุดหรู และบริการทำความสะอาดรองเท้าฟรี โดยทั้งหมดนี้เติมเต็มประสบการณ์การพักผ่อนของท่านให้น่าจดจำในทุกๆ การเดินทาง





เพนท์เฮาส์สวีทคือความงดงามที่บ่งบอกถึงการตกแต่งที่กลมกลืนและฟินิชที่หรูหรา ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางถึง 440 ตารางฟุต ภายในห้องมีฟีเจอร์ที่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ เช่น ระบบไฟที่ออกแบบเฉพาะ โต๊ะรับประทานอาหาร มุมนั่งเล่นที่แยกต่างหาก ห้องเก็บเสื้อผ้าแบบวอล์คอิน ระเบียงไม้เทียมส่วนตัว และห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนซึ่งมีพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมและฝักบัวขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาดเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังจะได้เพลิดเพลินกับการบริการของคอนเซียสที่ทุ่มเทและการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในเลานจ์ระดับเอกสิทธิ์ เมื่อพักในเพนท์เฮาส์สวีทนี้ นอกจากสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักและห้องสวีทแล้ว ยังมีสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ เช่น บริการซักรีดฟรีสำหรับกระเป๋าซักถึง 3 ใบ การเข้าเลานจ์เอกสิทธิ์ที่มีเจ้าหน้าที่บริการที่คอยดูแลตลอดวันให้เสิร์ฟเครื่องดื่ม น้ำอัดลม และของว่าง บริการบัตเลอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี การจองร้านอาหารเฉพาะกิจออนไลน์ล่วงหน้า การเข้าถึง Aquamar Spa Terrace อย่างไม่จำกัด ผ้าห่มแคชเมียร์ บริการขัดรองเท้าฟรี และบริการรีดเสื้อผ้าฟรีเมื่อเริ่มต้นการเดินทาง หมายเหตุ: ห้ามสูบบุหรี่ภายในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด




ห้องสวีทระเบียงระดับคอนเซียร์จที่ได้รับการปรับปรุงใหม่นี้ สะท้อนความหรูหราสไตล์คอนติเนนทัลอย่างแท้จริง โดยมีพื้นที่ขนาด 291 ตารางฟุต พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงระเบียงไม้ทีคส่วนตัว พื้นที่นั่งเล่นที่กว้างขวาง มินิบาร์ที่มีความเย็นสบาย และห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่จัดเก็บใหม่และฝักบัวแบบ Walk-in ขนาดใหญ่ ท่านจะได้สัมผัสบริการจากคอนเซียร์จที่มีความตั้งใจ ร่วมเพลิดเพลินกับเครื่องดื่ม อาหารว่างรายวัน และนิตยสารจากทั่วโลกในเลานจ์คอนเซียร์จส่วนตัว ทั้งนี้ ห้องสวีทนี้ยังมอบสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น เมนูบริการห้องอาหารกลางวันและเย็นที่ขยายออกจากห้องอาหารหลัก, บริการซักรีดฟรีสูงสุด 3 ถุงต่อห้องพัก, การเข้าถึงเลานจ์คอนเซียร์จที่ให้บริการเครื่องดื่มฟรีตลอดวัน, ขวดแชมเปญต้อนรับฟรี, สิทธิ์จองร้านอาหารพิเศษออนไลน์ล่วงหน้า รวมถึงการเข้าถึงไร่สปา Aquamar อย่างไม่จำกัด พร้อมทั้งกระเป๋าใบเล็กจาก Oceania Cruises ห้องนี้ยังมีผ้าห่มผ้าขนสัตว์แคชเมียร์สำหรับใช้พักผ่อนบนระเบียงของท่าน และบริการรีดผ้าเมื่อขึ้นเรืออีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการเช็ดรองเท้า และการสูบบุหรี่ในห้องพักและระเบียงนั้นเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด



ระเบียง客艙ขนาด 291 ตารางฟุต ถือเป็นหนึ่งในห้องพักที่กว้างขวางที่สุดในทะเล ได้รับการออกแบบใหม่อย่างหรูหราโดยใช้สีที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เพื่อสร้างเป็นสถานที่หลบภัยที่สมบูรณ์แบบ มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพักผ่อนอย่างสบายใจ รวมถึงระเบียงไม้สักส่วนตัวที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ สิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศมีให้เลือกมากมาย ส่องสว่างด้วยไฟที่ทันสมัย มีมุมพักผ่อนที่น่าสบาย มินิบาร์ที่มีความเย็น ช่องเก็บของขนาดใหญ่ และห้องน้ำที่ปูด้วยหินอ่อนและหินแกรนิตพร้อมพื้นที่เก็บของเพิ่มเติมและฝักบัวที่กว้างขวาง ห้องระเบียง客艙 นำเสนอที่นอน Tranquility Bed ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Oceania Cruises พร้อมผ้าปูที่นอน 1,000 เส้นด้าย และน้ำดื่มอัดลมฟรีเติมทุกวันในมินิบาร์ เครื่องดื่มน้ำดื่ม Vero Water ที่มีทั้งแบบมีและไม่มีฟอง บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง การทำความสะอาดห้องพักวันละสองครั้ง และช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงบริการเตรียมเตียง นอกจากนี้ยังมีระบบโทรทัศน์แบบโต้ตอบที่มีภาพยนตร์ตามสั่ง บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย และบริการโทรศัพท์มือถือ โต๊ะเขียนหนังสือและเครื่องเขียน ผ้าขนหนูฝ้ายเนื้อนุ่ม เสื้อคลุมและรองเท้าแตะจากฝ้ายหนา เครื่องเป่าผมแบบพกพา และตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัย ห้ามสูบบุหรี่ในห้องสวีท ห้องพัก และบนระเบียงโดยเด็ดขาด

ห้องพักวิวทะเลเดลักซ์ได้รับการปรับปรุงใหม่อย่างละเอียด พร้อมด้วยหน้าต่างพาโนรามาขนาดใหญ่จากพื้นจรดเพดาน ซึ่งให้ความรู้สึกหรูหราขนาด 240 ตารางฟุต แสงธรรมชาติจะส่องสว่างภายในห้องพัก โดยเฉพาะบริเวณเตียง Tranquility Bed ที่นุ่มสบาย พื้นที่นั่งเล่น โต๊ะทำงาน โต๊ะอาหารเช้า และมินิบาร์ที่มีตู้เย็น แสงสว่างจากภายนอกจะสามารถสร้างบรรยากาศที่สดชื่นและเป็นกันเองในทุกครั้งที่พักผ่อน ในห้องน้ำที่ตกแต่งด้วยหินอ่อนและหินแกรนิต คุณจะพบกับฝักบัวที่ขยายตัวเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ห้องพักนี้มาพร้อมกับบริการที่ครบครัน เช่น น้ำอัดลมฟรีที่เติมใหม่ทุกวันในมินิบาร์ของคุณ ระบบทีวีที่ให้บริการภาพยนตร์ตามต้องการ การเข้าถึงอินเตอร์เน็ตไร้สายและสัญญาณโทรศัพท์ รวมถึงบริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง และชุดอุปกรณ์จากแบรนด์ Bulgari นอกจากนี้ยังมีบริการทำความสะอาดห้องพักสองครั้งต่อวัน เพื่อมอบความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ให้กับคุณ ห้องพักวิวทะเลเดลักซ์ยังมีฟีเจอร์สำหรับผู้มีความต้องการพิเศษ เช่น เตียงที่มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์ที่จำเป็นประจำ และห้องน้ำที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อความสะดวกในการเข้าถึง ทั้งหมดนี้จะทำให้การพักผ่อนของคุณในห้องพักนี้เป็นไปอย่างราบรื่นและหรูหรา นอกจากนี้ยังมอบขนมช็อกโกแลตเบลเยียมในช่วงค่ำคืนเพื่อให้การพักผ่อนมีความพิเศษยิ่งขึ้น ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ในห้องและระเบียงของห้องพักนี้

ห้องพักภายในของเรามีขนาด 174 ตารางฟุต พร้อมความสงบและความงดงามที่มีเสน่ห์ ห้องที่ถูกออกแบบใหม่อย่างมีสไตล์นี้ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยและโทนสีที่สร้างความผ่อนคลาย ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทานอาหาร มินิบาร์ที่มีความเย็น และห้องน้ำที่หรูหราหุ้มด้วยหินจากยุโรปพร้อมฝักบัว ห้องพักยังมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มอบความสะดวกสบาย ได้แก่ น้ำอัดลมที่เติมทุกวันในมินิบาร์ เครื่องดื่มน้ำบริสุทธิ์และน้ำแร่ บริการรูมเซอร์วิสตลอด 24 ชั่วโมง เตียง Tranquility Bed ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Oceania Cruises อุปกรณ์จาก Bulgari บริการทำความสะอาดห้องสองครั้งต่อวัน ระบบโทรทัศน์อินเทอร์แอคทีฟที่มีภาพยนตร์ตามความต้องการ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไร้สายและการบริการโทรศัพท์มือถือ โต๊ะเขียนหนังสือและเครื่องเขียน ผ้าขนหนู นวม และรองเท้าอาบน้ำผ้าฝ้ายคุณภาพสูง เครื่องเป่าผมแบบมือถือตู้เซฟรักษาความปลอดภัย และช็อกโกแลตเบลเยียมในบริการการจัดเตียง *การสูบยาสูบในห้องสวีท, ห้องพักและระเบียง ถือเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด*